จ้าวแห่งยุทธ์ภัณฑ์ 735



    “ตาแก่นั่นเลอะเลือนแล้วรึไง?”

    องค์ชายลำดับสี่  เอธาน
    บุตรชายของจักรพรรดินีแมรี่  
    เดิมที  มันเป็นเพียงน้องชายคนเล็กที่หมดสิทธิ์สืบบัลลังก์โดยสิ้นเชิง
    
    ด้วยลำดับของทายาท  
    ลำดับสี่ถือว่าห่างไกลจากการได้สืบทอดอำนาจพอสมควร
    
    แต่เหตุการณ์พลันพลิกผันเมื่ออดีตจักรพรรดิอาเรียสิ้นพระชมน์
    แมรี่ขึ้นครองตำแหน่งจักรพรรดินีแทน

    ขั้วอำนาจฝ่ายแมรี่ให้การสนับสนุนอีธานเต็มตัว 
    จนเมื่อไม่นานมานี้  อีธานมีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่าองค์ชายลำดับหนึ่งอย่างโรแลนด์
    
    อีธานกำลังผยองเสียเต็มประดา
    มันคิดว่าตนยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลก    

    ยีนทนไม่ไหว  
    มันออกปากเตือนอีธานที่ใช้ชีวิตโดยไม่รักตัวกลัวตาย

    “อย่าได้กล่าวเช่นนั้นอีก  หากมีใครได้ยินเข้า  ไม่เพียงองค์ชายเท่านั้นที่เดือดร้อน  แต่ยังรวมถึงผู้คนอีกมากมายที่ติดตามรับใช้ท่าน”

    “ฉันผิดตรงไหนที่เรียกคนแก่ว่าแก่?  นี่อาจารย์ยีน…ท่านคิดว่าฝ่าบาทเลอะเลือนไปแล้วหรือไม่?”

    “…”

    “ช่วยตอบมาตามตรงด้วย…ใช่หรือไม่?  หากฝ่าบาทยังไม่เลอะเลือน  คงไม่มีทางยอมเป็นมิตรกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์แน่  ท่านคิดเช่นนั้นไหม?”

    “ฝ่าบาทคงทำลงไปอย่างมีเหตุผล”

    “ก็แค่อาณาจักรเล็ก  เหตุใดถึงหวาดกลัวอาณาจักรที่ไม่มีประวัติศาสตร์เช่นนั้น?  ต้องเลอะเลือนไปแล้วแน่”

    “…”

    กำแพงมีหูประตูมีช่อง
    ยีนไม่กล้ากล่าวสิ่งใด
    
    ยีนมิกล้าสอนสั่งสิ่งใดแก่อีธานนับตั้งแต่สองปีก่อน
    นี่คือเหตุผลที่ยีนยังไม่ถูกอีธานเชือดทิ้ง

    เพล้ง!

    อีธานขว้างแก้วเปล่าใส่กำแพงจนแตกละเอียด
    เหล่าอัศวินรีบเข้ามาในห้องพร้อมกับสาวใช้เพื่อเก็บกวาดเศษแก้วไวน์
    
    อีธานส่ายศีรษะ    
    “เป็นเพราะตาแก่นั่นเลอะเลือนจนทำสัญญาสงบศึกกับวัลฮัลล่า  การปรากฏตัวครั้งแรกของจักรกลเวทมนตร์จึงต้องถูกเลื่อนออกไป”

    จักรกลเวทมนตร์
    หุ่นยักษ์ที่ขับเคลื่อนโดยมีเวทมนตร์เป็นแหล่งพลังงาน
    ถูกสร้างขึ้นจากโรงแปรธาตุ
    มีแก่นเวทมนตร์เป็นแกนหลัก

    หุ่นยนต์ที่มีมนุษย์บังคับอยู่ภายใน
    แม้ความคล่องตัวอาจลดลงมาก  แต่ทดแทนด้วยพลังทำลายมหาศาลชนิดที่มนุษย์ไม่มีวันเอื้อมถึง

    จักรกลเวทมนตร์สามารถป่นภูเขาหรือเมืองขนาดเล็กได้ในพริบตา
    พลังทำลายอยู่ระดับใกล้เคียงจอมอสูรเลยทีเดียว

    ปัญหาคือ  มีเพียงน้อยคนนักที่สามารถบังคับจักกลเวทมนตร์ได้
    แถมข้อบกพร่องด้านแหล่งพลังงานก็ยังไม่ถูกแก้ไขอย่างสมบูรณ์
    
    เดิมที  จักรกลเวทมนตร์เป็นเพียงซากมรดกเก่าแก่จากสมัยบรรพกาล    
    มิสามารถขยับเขยื้อนได้เหมือนทุกวันนี้
    
    แต่อีธานกลับเล็งเห็นถึงโอกาสและความเป็นไปได้
    มันทุ่มเทเงินจำนวนมากจนสามารถชุบชีวิตจักรกลเวทมนตร์ขึ้นมาได้ใหม่

    ในการจะยืดครองบัลลังก์อย่างชอบธรรม  
    จักรวลเวทมนตร์จะเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวตนและพลังอำนาจของอีธาน

    มันถอนหายใจอย่างหงุดหงิดพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้
    
    “จงไปบอกกับเหล่านักบินทุกคน…พวกเขาได้พักร้อนยาวไปอีกพักใหญ่”

    “ขอรับ”

    ***

    ในช่วงแรกเริ่ม
    ซาทิสฟายจะมีเพียงตำนานเพียงสอง
    
    เทพสงคราม ‘อาเรส’
    ราชาโอเวอร์เกียร์ ‘กริด’
    อันดับหนึ่งของโลก ‘คริส’
    เทพีคันศร ‘จิสึกะ’
    เทพสังหาร ‘เฟคเกอร์’
    
    ไม่เลย… 
    คนเหล่านี้มิได้โด่งดังในช่วงต้นของซาทิสฟาย

    ตำนานตั้งแต่เริ่มแรกมีเพียงครอเกลและซีบาล
    สองคนนี้ก้าวขึ้นมาครองอันดับหนึ่งและสองของโลกด้วยความเร็วที่น่าทึ่งกว่าใครทั้งหมด
    แต่มีเพียงครอเกลที่ยังรักษามาตรฐาน ‘ฟ้าเหนือฟ้า’ ได้จวบจนทุกวันนี้

    “อากาศดีจัง”

    ณ มหานครไททัน  เมืองหลวงแห่งจักรวรรดิซาฮารัน
    ชายคนหนึ่งกำลังนั่งบนกำแพงเมืองพร้อมกับผ่อนคลายตนเองอย่างมีความสุข

    ซีบาล… 
    นับตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัว  จนถึงงานแข่งนานาชาติหนที่สอง
    ซีบาลคือผู้เล่นซาทิสฟายที่เป็นดาราดังของโลกมาโดยตลอด
    
    ซีบาลเคยเป็นวีรบุรุษแห่งอเมริกา  และเป็นเป้าหมายยึดเหนี่ยวของใครอีกหลายคน

    “ทำอะไรอยู่ซีบาล!  คิดจะอู้รึไง?  ใช่เวลาพักงั้นหรือ?”

    “ขอโทษครับ!”

    ปัจจุบัน  ซีบาลเป็นเพียงพลทหารภายในสถานที่ห่างไกลซึ่งไม่มีใครรู้จัก
    
    คู่แข่งเพียงคนเดียวของครอเกล
    ผู้กุมบังเหียนเจ็ดกิลใหญ่
    เทพล่าบอส
    …และอีกมากมาย  
    
    ทั้งหมดล้วนเป็นฉายาที่ซีบาลเคยถูกเรียกขาน
    แต่ความโด่งดังเหล่านั้นกลับไม่หลงเหลืออยู่ในซีบาลคนปัจจุบัน

    ผู้คนช่างลืมง่าย
    กาลเวลาได้กัดกร่อนตัวตนของซีบาลภายในจิตใจคนทั่งโลกอย่างรวดเร็ว
    
    “นายมั่นใจรึเปล่าว่า ‘ไรเดอร์’ อยู่ในสภาพสมบูรณ์?”

    “ครับผม!  แน่นอนครับ!”

    “งั้นหรือ?  ตรวจเช็คครั้งสุดท้ายเมื่อไร?”

    “ทันทีที่จบการฝึกภาคเช้าครับ!”

    “เตรียมอาหารมารึยัง?”

    “มีขนมปังทานระหว่างฝึกแล้วครับ!”

    “เฮ่อ…เจ้าบ้านี่  อย่าอู้อีกก็แล้วกัน”

    กองทัพหลวงแห่งจักรวรรดิซาฮารัน
    กองพลที่ 14
    หน่วยที่ 21 

    หน่วยลับที่ถูกฝึกอยู่แถบชานเมืองไททัน 
    เป็นหน่วยที่ไม่ถูกบรรจุไว้ในสารระบบกองทัพ

    จำนวนคนภายในหน่วยมีเพียงหยิบมือ
    รวมทั้งสิ้น 80 ชีวิตเท่านั้น

    และสิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่า
    จากทั้งหมด 80 คน  จะมีบุคลากรสายต่อสู้อยู่เพียงสี่คน
    และหนึ่งในนั้นคือซีบาล
    
    ซีบาลมีระดับต่ำสุดจากบรรดาบุคลากรสายต่อสู้ทั้งสี่
    ยศของมันคือพลทหาร 
    แต่ชื่อของตำแหน่งที่ถูกสลักไว้บนเครื่องแบบคือ...
    
    ‘ปีกสีคราม’
    
    ซีบาลได้รับสิทธิ์พิเศษ
    นอกจากครูฝึกโดยตรงแล้ว  มันมีสิทธิ์ปฏิเสธคำสั่งจากทหารที่มีชั้นยศสูงกว่าด้วยประการทั้งปวง
    ไม่เว้นแม้แต่คนของราชวงศ์
    
    เหตุใดขุนนางจากอาณาจักรฮาเค่นและหัวหน้ากิลด์สเน็กต้องหมกตัวเป็นพลทหารภายในกองทัพจักรวรรดิ?
    
    ซีบาลได้รับคลาสใหม่
    คลาสลับสุดยอดที่มีนามว่า

    ‘นักขับฟ้าคราม’

[ นักขับฟ้าคราม ]
* ท่านสามารถขับขี่ ‘ยานพาหนะ’ ได้ทุกชนิดอย่างชำนาญ
* หากอยู่บน ‘ยานพาหนะ’  แต้มสถานะโดยรวมของท่านจะเพิ่มขึ้นหลายระดับ

    คลาสลับเกรดยูนีค
    ข้อเสียเดียวของคลาสคือ  
    จะแข็งแกร่งบนพาหนะเท่านั้น
    
    ในตอนแรก  ซีบาลรู้สึกผิดหวังอย่างมากเมื่อเห็นคำว่า ‘ขับขี่’
    มันจะนึกถึงเพียงม้าหรือมอนสเตอร์ชนิดอื่นเท่านั้น

    การเปลี่ยนคลาสเป็นเรื่องผิดพลาด  
    ซีบาลเคยคิดเช่นนี้
    แต่เพียงไม่นาน  อารมณ์ผิดหวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นยินดี

    เมื่ออ่านรายละเอียดภารกิจคลาสนักขับอย่างถี่ถ้วน 
    ร่างกายซีบาลพลันขนลุกซู่ทุกรูขุมขน
    
    มันบังเกิดความหวังที่จะได้ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับกริดและครอเกลอีกครั้ง

[ นักขับฟ้าคราม ]
* ภารกิจประจำคลาส
    จงไปหา ‘อีธาน’ องค์ชายลำดับสี่แห่งจักรวรรดิ
    หากท่านแสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์และลั่นสัตย์สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเขา
    ท่านจะได้รับสุดยอดยานพาหนะเป็นสิ่งตอบแทน

    จักรวลเวทมนตร์…
    ในมุมมองของผู้เล่นที่อาศัยอยู่ในโลกยุคใหม่
    จักรกลเวทมนตร์คือศาสตราวุธบรรพกาลที่พบเห็นได้เพียงในเทพนิยาย

    ‘ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสได้ขับมัน…’

    จักรกลเวทมนตร์เครื่องที่สี่ 
    ‘ไรเดอร์’
    มันสามารถโบยบินบนท้องฟ้า

    “อีกปีเดียวเท่านั้น”

    ซีบาลทราบดี  คงไม่มีประโยชน์หากฝืนลงแข่งปีนี้โดยที่ยังไม่พร้อม
    เลเวลของไรเดอร์ยังน้อย  และมีเงื่อนไขยุ่งยากมากมาย
    
    มันจึงมิอาจเปิดเผยตัวตัวของ‘ไรเดอร์’ ในงานแข่งนานาชาติที่กำลังจะมาถึง
    หากเข้าร่วมตอนนี้  รังแต่จะถูกบดขยี้อย่างน่าอับอายโดยฝีมือกริดหรือครอเกล
    
    แต่หากเป็นปีหน้า…
    ซีบาลมั่นใจว่าทุกสิ่งจะต่างออกไป 

    “กริด…นายคงต้องทบทวนนิยามของพลังไอเท็มใหม่แล้ว”

    ปัจจุบัน  ซีบาลยอมรับในพลังของกริด
    รวมถึงฝีมือและพรสวรรค์ของกริดด้วย

    แต่กริดคือต้นตอของฉายา ‘กระสอบทราย’ อันน่าอับอายที่มันได้รับ
    ซีบาลต้องการใช้กริดเป็นบันไดสำหรับก้าวข้ามอดีตอันเลวร้าย

    และเมื่อจัดการความคับแค้นใจสำเร็จ

    “เป้าหมายต่อไป…”

    ฟ้าเหนือฟ้า
    ซีบาลก็จะก้าวข้ามให้ได้เช่นกัน
    ความมุ่งมันของมันอยู่เหนือระดับคนปรกติเสมอ

    ***

หัวข้อ : แจ้งข่าวผู้เข้าร่วมการแข่งนานาชาติปีที่สามทุกท่าน
ผู้ส่ง : SA กรุ๊ป
เนื้อหา : 
    ทางเราทราบดี  ว่ามีผู้เข้าแข่งหลายท่านไม่พอใจที่ถูกจำกัดการแข่งลงเหลือเพียงสองรายการ 
    ด้วยเหตุนี้  ทางเราจึงจัดแข่งพิเศษเพื่อเป็นการขอโทษนักกีฬาทุกท่าน
    หากท่านต้องการเข้าร่วม  กรุณาอนุญาตให้พวกเรารวมรวบข้อมูลส่วนตัวของท่าน
    คำเตือน - ทางเราจะไม่แจ้งกำหนดการและรายละเอียดของการแข่งรอบพิเศษ
* การแข่งรอบพิเศษจะถูกฉายออกไปให้ผู้คนทั่วโลกได้รับชม
สิ่งนี้อาจขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนของนักกีฬาในบางข้อ
* พวกเราขอรับประกันความปลอดภัยของนักกีฬาทุกคน
* รางวัลการแข่งคือไอเท็มภายในซาทิสฟาย
* ไม่มีบทลงโทษกับนักกีฬาที่ปฏิเสธลงแข่งรายการพิเศษ

    “หมายความว่ายังไง?”

    หลังจากออกกำลังกายเสร็จ
    ชินยองวูเข้าห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกาย
    เขาพลันขมวดคิ้วเมื่อได้อ่านเนื้อหาของอีเมลฉลับล่าสุด
    
    “ทำไมถึงต้องปกปิดเป็นความลับ?”
    
    เหตุใดถึงมีลับลมคมในนัก… 

    “ไม่เข้าร่วมดีกว่า”

    หากตนยอมให้ข้อมูลส่วนตัวถูกเก็บรวบรวม
    เกรงว่าโทรศัพท์มือถืออาจถูกกระหน่ำโทรแกล้งจนสายไหม้
    ชินยองวูปิดกล่องข้อความโดยปราศจากท่าทีลังเล

    จากนั้นก็มีสายเรียกเข้า
    เป็นยูร่า

    เมื่อได้ยินชื่อของเธอ  หัวใจยองวูพลันเต้นโครมคราม    
    จังหวะการระรัวเพิ่มจำนวนเป็นทวีคูณ

    ‘ไม่ได้คุยกับเธอนานแล้วสินะ’

    ราวสามเดือนในชีวิตจริงที่คนทั้งสองมิได้ติดต่อกันเลย
    เขาประหม่าไม่น้อยเมื่อกำลังจะได้ฟังน้ำเสียงอันไพเราะของยูร่าอีกครั้ง

    อะแฮ่ม!
    ยองวูกระแอมให้ลำคอโล่ง  
    จากนั้นก็รับสาย

    “มีอะไร?”

    ให้ตายสิ…
    นี่คงเป็นเหตุผลที่ยองวูยังไม่มีแฟนสักที
    ปราศจากความอ่อนหวานและมารยาทโดยสิ้นเชิง

    หากยูร่าเป็นหญิงสาวละเอียดอ่อน
    เธอคงไม่คิดโทรหายองวูอีกเป็นหนที่สองแน่    

    ( อ่านเมลรึยัง? )

    “…” 

    น้ำเสียงของยูร่าช่างอ่อนหวาน… 
    ทำเอาหัวใจกริดพลันระทวยไร้เรี่ยวแรง
    เขาตอบกลับเสียงสั่น
    
    “อ—อื้อ”

    ( นายจะเข้าร่วมไหม? )

    “คงไม่มั้ง”

    ( กะแล้วเชียว…แต่ฉันแนะนำให้เข้าร่วมแข่งจะดีกว่านะ )

    “ทำไมล่ะ?  เธอรู้รายละเอียดงั้นหรือ?”

    ( ไม่เลย…แต่หากวิเคราะห์ข้อความอย่างละเอียด  ของรางวัลรายการพิเศษอาจเทียบเท่าเหรียญทองในรายการปรกติ )

    ( ดังนั้น…ได้โปรดเข้าร่วมด้วย )

    “ถ—ถ้าเธอพูดถึงขนาดนั้นล่ะก็…”

    ยองวูอาจไม่รู้ตัว  แต่เขากำลังฉีกยิ้มกว่างอย่างมีความสุข
    ชายหนุ่มปลื้มใจที่หนึ่งในสาวงามของโลกเป็นห่วงเป็นใยตนขนาดนี้
    ยองวูอยากจะอัดเสียงบทสนทนาและนำไปเผยแพร่ในโลกอินเทอร์เน็ต    

    ‘ฉันกับยูร่าคุยกันแบบนี้เฟ่ย!  เจ้าพวกกระจอกทั้งหลาย!’

    เขาเกิดความรู้สึกอยากโอ้อวด

    ( งั้นแค่นี้นะ )
    
    “อ๊ะ…เดี๋ยวก่อน”

    ( …? )

    “เธอจะเข้าแข่งนานาชาติปีนี้ไหม?”

    ยูร่าเข้าร่วมทั้งสองปีก่อนหน้า
    และยังเป็นความหวังเดียวของเกาหลีใต้ในการแข่งปีแรก

    เพื่อจะสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ
    ยองวูคาดหวังให้ยูร่าเข้าร่วมในปีนี้ด้วย

    ( แน่นอน…ที่ฉันได้รับเมลก็เพราะเป็นผู้เข้าแข่งเหมือนนายไม่ใช่หรือ?  )

    น้ำเสียงของยูร่าอ่อนหวานขึ้นเล็กน้อย
    แต่น่าเสียดายที่ยองวูผู้ตายด้านมิอาจสัมผัสถึง
    
    หรือต่อให้รู้สึก  
    แต่ก็คงไม่เข้าใจสาเหตุอยู่ดี

    “เข้าใจแล้ว  ไว้เจอกันนะ”

    น้ำเสียงยองวูกำลังเปี่ยมด้วยความตื่นเต้น
    เขาจะได้เจอหน้ายูร่าสุดสวยอีกครั้งหลังจากไม่ได้พบกันแสนนาน

    ***

    “อาจมีนักกีฬาบางคนไม่พอใจที่ทางเราปกปิดเนื้อหาการแข่งพิเศษ”

    “ก่อนหน้านี้  ทางเราเคยถูกวิจารณ์และตั้งข้อสงสัยอย่างหนัก  เรื่องที่แก้ไขกฏใหม่เพราะผู้เล่นเพียงคนเดียว”

    ณ สำนักงานใหญ่ SA กรุ๊ป

    กลุ่มผู้บริหารต่างแสดงความกังวลเกี่ยวกับงานแข่งพิเศษ

    ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น

[ สนามต่อสู้ ]
    ท่ามกลางเกาะโดดเดี่ยว  ผู้เข้าแข่งขันทุกคนต้องต่อสู้ห่ำหั่นกันเอง  โดยมีจุดหมายคือการรอดชีวิตเป็นคนสุดท้าย
    ก่อนจะเริ่มการแข่ง  ทั้งเลเวล  ทักษะ  ไอเท็ม  และสมญานามของผู้เล่นุทกคนล้วนถูกปรับให้เท่าเทียม
    แนวคิดของการแข่งพิเศษนี้  มีต้นแบบมาจากเกมแนวเอาตัวรอดที่เคยโด่งดังในสมัยอดีต
    
    งานแข่งพิเศษเรียกได้ว่า  เป็นเวทีที่ทุกคนต้องใช้ฝีมือและความชำนาญเข้าห้ำหั่น
    ไม่มีพลังของไอเท็มเกื้อกูลแม้แต่เศษเสี้ยว

    ยุนซังมินหัวเราะร่วนเมื่อเห็นผู้บริหารคนอื่นเริ่มมีสีหน้าหวั่นวิตก

    “นั่นสินะ…คนทั่วโลกคงวิจารณ์พวกเราอย่างหนักอีกหน  แต่เชื่อผมเถอะ  หนึ่งในนั้นไม่ใช่กริดแน่นอน”  

    ยุนซังมินอมยิ้ม
    เขากล่าวต่อไป

    “กริดต้องการเข้าแข่งในรายการนี้ยิ่งกว่าใครทั้งหมด  นี่คือโอกาสทองที่จะลบคำครหาและพิสูจน์ฝีมือตัวเอง  เป็นเวทีอันแสนมีค่าซึ่งกริดจะหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว”

    “อะไรนะ...?”

    กริดต้องการจะพิสูจน์อะไร?
    คำพูดแฝงเลศนัยของยุนซังมินได้ทำให้เหล่าผู้บริหารต่างพากันฉงน

    “ในวินาทีที่กริดพิสูจน์ตัวเองสำเร็จ…ถ้อยคำถากถางและเย้ยหยันจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงเชียร์”

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,176
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. จะไหวมั้ยน่อกริด

    ReplyDelete
  2. แน่ใจว่ากริดจะชอบ? และมีด่า SA กรุ๊ป แน่นอน จะไหวไหมพระเอกเรา

    ReplyDelete
  3. กิจกรรมพิเศษหมายถึงผู้เล่นทุกคนจะมีเวลเท่ากันอาวุธเท่ากันแล้วสู้กันด้วยทักษะหรอ

    ReplyDelete
    Replies
    1. สู้ด้วยฝีมือควบคุมตัวละคร

      Delete
  4. จะสร้างไอเท็มใหม่ในการแข็งไหมเนี่ย

    ReplyDelete
    Replies
    1. มันสร้างแน่ อย่างน้อยก็ผสานอ่ะ 555+

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00