จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 733



กริดประเมินคุณค่าโนลล์ไว้สูงมาก
อย่างน้อยในเชิงการต่อสู้  โนลล์ก็มีระดับไม่ห่างจากปิอาโร่นัก
ไม่เพียงแต้มสถานะจะสูงส่งใกล้เคียงปิอาโร่  โนลล์ยังมีทักษะฟื้นฟูพลังชีวิตที่ยอดเยี่ยม  แถมยังมีทักษะลดความเสียหายอีกหลายชนิด

แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด
จุดที่กริดชื่นชอบโนลล์มากที่สุด

‘หมอนี่รักตัวกลัวตาย’

สาเหตุหลักที่กริดใช้งาน NPC พิเศษอย่างปิอาโร่และอัสโมเฟลน้อยครั้ง
ส่วนหนึ่งเพราะ NPC เหล่านี้มีชีวิตกำจัด  มิได้อนันต์เฉกเช่นผู้เล่น

กริดไม่ต้องการสูญเสียบุคคลอันมีค่า
แต่ทั้งอัสโมเฟลและปิอาโร่ล้วนมีจิตวิญญาณของอัศวินล้นทะลักสุดโต่ง
พวกเขายอมสละชีวิตเพื่อผู้เป็นนายโดยไม่ลังเล

ไม่รักชีวิตตัวเองเลยสักนิดเดียว… 

กริดหวาดกลัว
กลัวจนไม่กล้าส่งทั้งสองเข้าร่วมสงครามใด

แต่โนลล์นั้นแตกต่าง
โนลล์มีสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด
หากตกอยู่ในอันตราย  โนลล์จะหลงลืมภารกิจและคิดเพียงรักษาชีวิตตัวเอง

ใครบางคนอาจเหยียดหยันว่าเป็นการกระทำที่ขลาดเขลา
แต่กริดมองมุมต่าง
สิ่งสำคัญของ NPC พิเศษคือ ‘ชีวิต’ 
มิใช่ศักดิ์ศรี

‘เราสามารถใช้งานโนลล์ได้อย่างอิสระ…แม้กระทั่งยามสงคราม’

กริดวาดฝันภาพโนลล์เป็นแม่ทัพใหญ่คอยบงการกองทัพโอเวอร์เกียร์ในอนาคต

หัวใจกริดเริ่มสูบฉีดอย่างตื่นเต้น
แค่คิดก็ขนลุกแล้ว…
NPC พิเศษ  แถมยังเป็นแวมไพร์ทายาท

โลกคงสั่นสะเทือนอีกระลอก  หากข่าวที่ตนครอบครองแวมไพร์ทายาทหลุดออกไป

‘คนพวกนั้นคงเอะอะโวยวายเหมือนเดิม’

กริดแสยะยิ้ม
เขากำลังยืดอกอย่างพึ่งผาย  
ไหล่ตั้งชัน  ปลายจมูกโด่งชี้ขึ้นฟ้า
กริดภูมิใจกับความสำเร็จครั้งใหม่อย่างมาก

‘แต่ว่า…’

รอยยิ้มพลันจางหาย
เขาครุ่นคิดถึงปัญหาใหญ่ของโนลล์ที่กำลังจะเกิดตามมา
ปัญหาด้านอาหาร

‘...คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามที่ปิอาโร่บอก’

ปิอาโร่มั่นใจมาก  เขาสามารถปลูกพืชชนิดใหม่ภายในเมืองแวมไพร์ได้
และพืชชนิดนี้จะกลายเป็นอาหารของโนลล์ในอนาคต
กริดไม่มีทางเลือก  เขาต้องฝากอนาคตไว้กับหนทางนี้เท่านั้น

ชายหนุ่มหันไปกล่าวกันโนลล์ที่ยังคงโต้เถียงกับปิอาโร่

“โนลล์…ในช่วงแรก  นายต้องอยู่กับปิอาโร่ไปก่อน”

“อะไรนะ?”

สีหน้าของโนลล์พลันซีดขาว

แวมไพร์
แถมยังเป็นแวมไพร์เอิร์ล
ตนต้องทำงานกรรมกรเยี่ยงมนุษย์งั้นหรือ?
โนลล์จินตนาการภาพไม่ออก  
กริดต้องล้อเล่นแน่…โนลล์คิด

“เฮ่อะ!  ไม่ขำด้วยหรอกนะ  ผมไม่ค่อยเข้าใจมุกตลกของมนุษย์สักเท่าไร”

กริดกำลังล้อเล่นแน่นอน… 

ชายหนุ่มเริ่มอธิบาย
“ขอโทษ  แต่ฉันพูดจริง  คงปล่อยให้นายเพ่นพ่านในเมืองด้วยสภาพนี้ไม่ได้”

“ชิ…ท่านห่วงเรื่องศีลธรรมนั่นหรือ?  เช่นนั้นก็ไม่ต้องกังวล  ผมจะไม่ทำร้ายชาวเมืองของท่านเด็ดขาด  ผมจะออกล่ามนุษย์อาณาจักรอื่นเป็นอาหารแทน”

“นั่นก็ไม่ได้  สิ่งนี้เป็นปัญหาระหว่างอาณาจักร  และในระยะยาว  การแก้ปัญหาอาหารของนายตั้งแต่ต้นตอ  ถือเป็นทางออกที่สมเหตุสมผลที่สุด”

“กรอด…”
โนลล์ขบกรามแน่น
มันกำลังโมโห

“ท่านจะไล่คนเช่นผมไปทำฟาร์ม  เพียงเพราะเสียดายชีวิตมนุษย์เพียงหยิบมือเนี่ยนะ?  ท่านไม่รู้จักคุณค่าของผมงั้นหรือ?  พลังของผมคือที่สุด!!  ด้วยพลังนี้…ท่านสามารถปกครองโลกกึ่งกลางได้ในพริบตา!  แล้วเหตุไฉนถึงผลักไสผมไปทำฟาร์ม?”

“…” 

กริดเข้าใจ
ชายหนุ่มเข้าใจหัวอกโนลล์  
เข้าใจว่าทำไมโนลล์ต้องโกรธ
หากกริดเป็นโนลล์  เขาก็คงขุ่นเคืองใจไม่แพ้กัน

แต่ตนมีทางเลือกอื่นด้วยหรือ?

“มนุษย์อาศัยอยู่ในสังคมที่มีกฏเกณฑ์ร่วมกัน  นายต้องเข้าใจหลักพื้นฐานข้อนี้ให้ดี  ก่อนจะใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ในภายภาคหน้า”

“ผมเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อ!  แต่การไล่ไปทำฟาร์มมันมากเกินไป!!”

“…”

หางตากริดพลันกระตุก
คำพูดของโนลล์ไม่มีสิ่งใดผิด
ชายหนุ่มหันไปกระซิบถามปิอาโร่

“ฉันเองก็คิดแบบเดียวกัน  จะให้แวมไพร์ทายาทไปทำฟาร์ม  สิ่งนี้ออกจะล้ำเส้นไปสักหน่อย…พลังของโนลล์คือสิ่งจำเป็นในการทำฟาร์มจริงหรือ?”

“ถูกต้องขอรับ”
ปิอาโร่ตอบกลับโดยพลัน

“เลือดแวมไพร์จำเป็นอย่างมากสำหรับพืชชนิดใหม่  แถมการทำฟาร์มจะช่วยให้โนลล์เข้าใจโลกมนุษย์มากขึ้น  และยังช่วยทำให้จิตใจสงบนิ่งมากขึ้น”

“ง—งั้นหรือ…”

กริดไม่เคยเคลือบแคลงในตัวปิอาโร่
เขาพยักหน้าโดยไม่คิดหาข้อโต้แย้ง
  
จากนั้นก็ไต่ถามถึงสิ่งที่คาใจมานาน
“การปลูกวอลนัทสีทองเป็นยังไงบ้าง?”

“ยังให้คำตอบไม่ได้”

“นั่นสินะ…คงไม่ง่ายแน่”

วอลนัทสีทอง
สรรพคุณเทียบเท่าครึ่งโอสถ
การปลูกโอสถย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
บางทีอาจถึงขั้นเป็นไปไม่ได้…

หากมีผู้เล่นคนใดปลูกวอลนัทสีทองสำเร็จ
สมดุลของซาทิสฟายจะพังครืนลงทันที

มีความเป็นไปได้สูง  ที่ SA กรุ๊ปจะไม่อนุญาตให้ไอเท็มนี้ถูกปลูก

“ช่างเถอะ…เอาล่ะ  ถึงเวลายกทัพกลับแล้ว  ยกเว้นปิอาโร่และโนลล์”

“นายท่าน!!  อ—เอาจริงหรือ?”
โนลล์โพล่งขึ้นด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว
เสียงคำรามของแวมไพร์ทายาทย่อมดังกึกก้อง  ขัดกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูคล้ายเด็กประถม

เป็นเวลาเดียวกับที่ลอเอลเดินเข้ามาหากริด
“ทำไมฝ่าบาทถึงไม่คิดยึดครองเมืองแวมไพร์ลำดับถัดไป?  ด้วยพลังอำนาจของกองทัพในปัจจุบัน  ฝ่าบาทสามารถเคลียร์เมืองแวมไพร์ทุกแห่งยกเว้นหนึ่งและสองได้ไม่ยาก”

“ได้ไม่คุ้มเสีย”

กริดมั่นใจ
ในปัจจุบัน  ไม่มีทางที่ตนจะล่ามาร์ควิสเฟนเรียร์และดัชเชสแมรี่·โรสไหว 
ทั้งสองแข็งแกร่งกว่าแวมไพร์ระดับเอิร์ลมาก  เก่งกาจถึงขนาดเครย์ต้องตักเตือนในวาระสุดท้าย

ทว่า  จากการต่อสู้ที่ผ่านมา
แวมไพร์ที่ไม่เคยอยู่ในสายตาเครย์อย่างโนลล์และลูซอน
ทั่งสองกลับมีพลังอำนาจที่น่าทึ่ง
จนปาร์ตี้หลักของโอเวอร์เกียร์ยากจะรับมือ

เช่นนั้นแล้ว  ตัวตนที่เครย์หวาดกลัวจะเป็นปีศาจระดับใด?

กริดประเมินว่า  คงต้องรอให้สมาชิกโอเวอร์เกียร์ส่วนใหญ่กลายเป็นคลาสระดับสี่เสียก่อน
หากฝืนท้าทายโดยเอาจำนวนกองทัพเข้าแลก  เกรงว่าสิ่งที่ได้รับจะไม่คุ้มเสีย

ส่วนทางเลือกของลอเอล… 
การท้าทายเมืองแวมไพร์ที่ไม่ใช่ลำดับหนึ่งและสอง
เมืองแวมไพร์ที่ปราศจากทายาทปกครอง

“เมืองแวมไพร์ที่ไม่มีทายาท  สถานที่แห่งนั้นไม่เหมาะแก่การเสียเวลา  ปัจจุบัน  เหลือเวลาอีกไม่มาก  ก่อนงานแข่งนานาชาติจะเริ่มขึ้น  พวกเราควรแยกย้ายไปพัฒนาตัวเอง  สิ่งนี้จะเหมาะสมมากกว่า”

“เข้าใจแล้ว…กระหม่อมไม่มีข้อโต้แย้ง”
ลอเอลพยักหน้ารับ

“ยกทัพกลับเมืองหลวง!”

“ขอรับ!”

บัญชาจากกษัตริย์ถือเป็นสิ่งสิ้นสุด
ทหารหลายหมื่นนายเริ่มเคลื่อนทัพทันทีเมื่อสิ้นเสียงกริด

พลังอำนาจที่สามารถบงการทหารนับหมื่นด้วยถ้อยคำเพียงประโยคเดียว… 

กริดรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก

‘ราชา…ใช่แล้ว  เราคือราชา’

ชีวิตของประชาชนจำนวนมากกำลังอยู่ในกำมือตน
เกียรติยศของตนหมายถึงเกียรติยศของพวกเขา

และหากคิดเช่นนั้น… 

‘เราจะทุ่มสุดฝีมือในงานแข่งที่กำลังจะมาถึง’

กริดต้องไม่แพ้…แม้คู่ต่อสู้จะเป็นครอเกลก็ตาม

‘คราวนี้…ฉันจะเอาชนะนายให้ได้’

กริดหมายยัดเยียดความปราชัยในปีก่อนกลับคืนให้ครอเกล
แววตาของเขากำลังลุกโชน

***

“ทีมญี่ปุ่นในปีนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ?”

แชะ!

แชะแชะ!

แฟลชกล้องถ่ายภาพกำลังส่องสว่างจากหลายจุด
ดาเมี่ยนถูกรายล้อมด้วยกองทัพผู้สื่อข่าวนับร้อย
สมกับเป็นแรงเกอร์ระดับท็อปของญี่ปุ่น  รวมถึงผู้เล่นคนแรกที่ได้เป็นสันตะปาปา

แม้จะได้ชื่อว่าเป็นนักเทิดทูนบูชากริด  แต่ชาวญี่ปุ่นส่วนมากก็ยังชื่นชอบในตัวดาเมี่ยน
หากตัดนิสัยส่วนตัวออกไป  ฝีมือต่อสู้ของดาเมี่ยนจะกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ให้ทีมชาติญี่ปุ่น
ชาวญี่ปุ่นจึงคาดหวังกับดาเมี่ยนไว้มาก

ยิ่งไปกว่านั้น  การแข่งนานาชาติในปีที่สามยังถูกจัดขึ้นที่ญี่ปุ่น
ในฐานะเจ้าภาพ  ความคาดหวังย่อมเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกหลายระดับ

“ราวร้อยปีก่อน  ญี่ปุ่นถูกมองว่าเป็นชาติที่อ่อนแอในด้านอีสปอร์ต…มิใช่เพราะชาวญี่ปุ่นไร้พรสวรรค์  แต่ด้วยวัฒนธรรมในช่วงนั้น  ชาวญี่ปุ่นจึงมองเกมออนไลน์เป็นเพียงอบายมุขที่ควรเลี่ยงให้ห่าง”  

“อันที่จริง  ชาวญี่ปุ่นมีพรสวรรค์ในด้านเกมสูงมาก  เนื่องด้วยเครื่องเกมแบบพกพาที่เด็กเล็กเข้าถึงได้ง่าย  แต่เมื่อเป็นเกมออนไลน์  พวกเขาล้วนถูกคนแก่เฒ่าตำหนิว่าเป็นสิ่งไร้สาระ  ไม่มีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง”

คำพูดดังกล่าวกำลังถูกพิสูจน์ให้เห็นด้วยสภาพปัจจุบันของซาทิสฟาย
แรงเกอร์ชาวญี่ปุ่นมีจำนวนน้อยนิดเพียงหยิบมือเดียว

แต่ดาเมี่ยนก็เชื่อมั่นในตัวทุกคน
“ในปีนี้  ญี่ปุ่นของพวกเราจะจบท็อปห้า  นั่นถือเป็นตำแหน่งที่สูงแล้ว  แม้จะเป็นเจ้าภาพก็ตาม”

นักข่าวส่วนใหญ่พยักหน้ารับอย่างเงียบงัน  พวกเขาต่างเห็นด้วย
ดาเมี่ยนกล่าวโดยมีพื้นฐานตามหลักเหตุและผล

แต่ทันใดนั้น  นักข่าวบางคนเริ่มยิงคำถามใหม่แทรก

“คุณจะไม่ประเมินชาวญี่ปุ่นต่ำไปหน่อยหรือ?  หากมองจากสัดส่วนประชากร  จำนวนของแรงเกอร์ชาวญี่ปุ่นจัดว่ามีไม่น้อย  รวมถึงคุณและแค็ทซ์  เทียบกับจีนและอินเดียที่มีประชากรมาก  พวกเขามีอัตราส่วนแรงเกอร์ต่อประชากรน้อยกว่าญี่ปุ่นหลายเท่า  บางทีญี่ปุ่นอาจมีจำนวนแรงเกอร์ต่อประชากรสูงที่สุดในโลกแล้ว”

“อย่างน้อยญี่ปุ่นก็ควรติดท็อปสามมิใช่หรือ?  โดยเฉพาะกฏใหม่ของปีนี้  แรงเกอร์ที่โดดเด่นเป็นพิเศษจะไม่สามารถโกยเหรียญได้เป็นกอบเป็นกำ  พวกเราอาจไม่มีแรงเกอร์ที่โดดเด่นเหมือนกับสหรัฐ  แคนาดา  จีน  บราซิล  หรือเกาหลีใต้  แต่หากวัดพลังทีมโดยรวม  พวกเราสมควรได้ตำแหน่งท็อปสามขึ้นไป”

‘เริ่มแล้วสินะ’
ดาเมี่ยนขมวดคิ้ว

เขาสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้บ่อยครั้งจนเริ่มชาชิน
ผู้สื่อข่าวมักขุดคุ้ยในสิ่งไม่จำเป็นอยู่เสมอ

“หรือคุณกำลังจะบอกว่า  เกาหลีใต้จะได้อันดับสามในการแข่งขันคราวนี้?”

นั่นปะไร… 
พวกนักข่าวชาตินิยมเริ่มตั้งคำถามโจมตีดาเมี่ยนอีกครั้ง
ไม่พ้นการนำเกาหลีใต้มาเกี่ยวโยงให้เป็นประเด็น

“เฮ่อ…”

ดาเมี่ยนหันไปมองทางอื่นพร้อมกับถอนหายใจเสียงดัง

นี่คืองานแถลงข่าวใหญ่อย่างเป็นทางการ  
พฤติกรรมถอนหายใจเช่นนี้  สำหรับญี่ปุ่นที่เคร่งครัดเรื่องมารยาท  นับเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับได้

ดาเมี่ยนยักไหล่โดยไม่แยแส
“ทั้งที่ปีนี้กฏใหม่ของ SA กรุ๊ปได้ทำลายทีมเกาหลีใต้โดยตรง  แต่ทำไมพวกคุณถึงยังหวาดกลัวเกาหลีใต้อยู่อีก?  ช่างน่าสมเพช…ทุกวันนี้พวกคุณยังนอนละเมอฝันร้ายถึงเกาหลีใต้อยู่ใช่ไหม?”

“อะไรนะ...?”

“หยาบคายมาก!”

เหล่านักข่าวที่ถูกกระทบกระทั่งพลันหน้าแดงก่ำด้วยความเดือดดาล
อากัปกริยาของชาวญี่ปุ่นชาตินิยมที่ดูถ่ายทอดงานแถลงอยู่ทางบ้านก็ไม่ต่างกัน

เว็บไซต์ภายในประเทศญี่ปุ่นต่างผุดกระทู้โจมตีดาเมี่ยนมากมาย

แน่นอน  ดาเมี่ยนมิได้แยแส

แรงศรัทธาของชายคนนี้หนักแน่นดั่งขุนเขา  ไม่อย่างนั้นจะเป็นโอตาคุได้อย่างไร
เรื่องเล็กน้อยไม่มีทางระคายเคืองผิวหนังแน่นอน

“หรือสิ่งที่พวกคุณอยากฟัง…แท้จริงแล้วจะเป็นคำเยินยอกริดที่ออกจากปากผม?  เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหา  หากเป็นเรื่องกริด  จะให้ผมพูดทั้งวันก็ยังได้”

“...”

ดาเมี่ยนหรี่ตาลงพร้อมกับจ้องมองอย่างเย็นชา
นักข่าวต่างพากันนิ่งเงียบ  ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากถามสิ่งใด

จนกระทั่งดาเมี่ยนกล่าวต่อไป

“สองเหรียญทอง”

“…?”

"ด้วยกฏใหม่ของ SA กรุ๊ป  ผู้เล่นแต่ละคนสามารถลงแข่งได้เพียงสองรายการ  ส่งผลให้กริดคว้าได้เพียงสองเหรียญทองเท่านั้น”

แรงเกอร์แถวหน้าทั่วไปแทบไม่มีโอกาสได้สัมผัสแม้แต่หนึ่งเหรียญทอง
แต่ดาเมี่ยนกลับประกาศกร้าวว่ากริดจะคว้าได้ ‘เพียงแค่’ สองเหรียญทอง

คำถามมากมายซัดโถมเข้าหาทันที

“แต่ไหนแต่ไรมา  กริดมักลงแข่งในรายการ PVP ทุกปี  โดยเขาสามารถคว้าแชมป์ได้ในปีแรก  แต่ปีถัดมากลับต้องพ่ายให้ครอเกลจนพลาดเหรียญทอง”

“ในปีนี้  มีเพียงน้อยคนนักที่คิดว่ากริดสามารถเอาชนะครอเกลได้  แต่ดาเมี่ยนครับ…คุณกลับบอกว่ากริดจะคว้าสองเหรียญทอง”

“หรือคุณจะหมายความว่า…”

“กริดเลี่ยงที่จะลงแข่งรายการเดียวกับครอเกลใช่ไหม?”

นี่คือประเด็นสำคัญ
กริดต้องเลี่ยงเผชิญหน้าครอเกลแน่

ดาเมี่ยนผู้มีมาดเงียดขรึม  บัดนี้เริ่มฉีกยิ้มกว้าง

“แน่นอนว่า…”

“…?”

“กริดจะลงแข่งรายการเดียวกับครอเกลทั้งหมด!!”

“…???”

“กริดจะลงแข่งทั้งสองรายการที่ครอเกลเข้าร่วม  และเอาชนะได้ทั้งสองรายการ  นี่คือเป้าหมายของกริดในปีนี้  เขาคือคนแบบนั้น”

“…!!” 

ไม่กลัวแพ้เหมือนปีที่แล้วงั้นหรือ?
เหล่านักข่าวต่างพากันบันทึกข้อมูลอันน่าตกตะลึงนี้

[ กริดจะเอาชนะฟ้าเหนือฟ้าได้ในปีนี้หรือไม่? ]
[ เป้าหมายของกริดคือครอเกล! ]

และอีกมากมาย

พาดหัวข่าวที่อ่านแล้วโลหิตสูบฉีดถูกตีพิมพ์เป็นบทความไปทั่วโลก
ด้วยเหตุนี้  คนที่ซวยจึงไม่ใช่ใครอื่น
แต่เป็นตัวกริดเอง

“เจ้าบ้าดาเมี่ยน…”

หากไม่ใช่รายการแข่ง PVP  
กริดมีแผนจะเลี่ยงปะทะครอเกล
อย่างน้อยตนควรคว้าไว้สักหนึ่งเหรียญทอง  กริดคิดเช่นนี้

เขาเล็งเข้าร่วมการแข่งตีเหล็กไว้
แต่บรรยากาศปัจจุบันกลับเริ่มไม่เป็นใจ

หากเขาเลี่ยงครอเกลในรายการรอง
กริดคงถูกตราหน้าว่าเป็นไอ้ขี้ขลาดไปอีกนาน

“เฮ่อ…นี่คือวิธีปฏิบัติต่อผู้มีพระคุณของนายหรือไงฟะ”

สีหน้าของกริดพลันหม่นหมอง

ระยะหลังมานี้  เขามีเรื่องให้ต้องปวดหัวมากมาย

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,174
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ฟาร์มผลไม้โลหิต จะออกมาแบบมะเขือเทศให้แวมไพร์กินแบบในการ์ตูนรึเปล่าหว่า

    ReplyDelete
  2. สนุกครับ ขอบคุณ

    ReplyDelete
  3. ผลไม้ปีศาจ??!!

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00