จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 721



    ‘สมกับเป็นแวมไพร์ทายาท...’

    กริดพลันนึกถึงใบหน้าของชายผู้หนึ่งขณะกำลังดวลกับเครย์ 
    เอลฟิน·สโตน  อดีตเจ้านายของยารุกต์
    เอิร์ลเครย์เก่งกาจขนาดทำให้กริดย้อนนึกถึงเอลฟิน·สโตนเลยทีเดียว
    
    เป็นระดับที่ทีราเม็ทและลาทีน่าเทียบไม่ติดเลยสักนิด
    ทุกคนครั้งที่นึกถึงหน้าเอลฟิน·สโตน  กริดจะเกิดคำถามหนึ่งผุดขึ้นในใจเสมอ

    ‘จะเกิดอะไรขึ้นหากเอลฟิน·สโตนยังมีชีวิตอยู่...’

    ทักษะ ‘ชำระล้าง’ ของนักบุญหญิงที่มีผลเพียงหนึ่งครั้ง  จะมิอาจลบล้าง ‘เขตแดนโลหิต’ จากเอลฟิน·สโตนได้  สมาชิกปาร์ตี้เกือบทั้งหมดจะถูกสะกดการเคลื่อนไหวจนแทบไม่เป็นอันทำสิ่งใด
    แถมทักษะ ‘สั่งตาย’ หนึ่งเป้าหมายของเอลฟิน·สโตนจะทำให้กริดสูญเสียประกันชีวิตอมตะทันที

    ‘และหมอนั่นอาจอัญเชิญยารุกต์...’

    กริดเผชิญหน้ากับความยากลำบากนานาชนิดระหว่างล่าเอลฟิน·สโตน  และถึงจะเอาชนะได้ในที่สุด  กริดก็ยังต้องลงเอยด้วยความตายอยู่ดี
    ความตายที่เกิดขึ้นเพียงน้อยครั้งหลังจากกลายเป็นผู้สืบทอดแพ็กม่า

    จากมุมมองกริด  เอลฟิน·สโตนคือหนึ่งในการล่าบอสที่ยากที่สุดในชีวิต    
    เขาดีใจเสมอที่มีโอกาสสังหารเอลฟิน·สโตนในช่วงแรกของเกม

    ปัจจุบัน  ชายหนุ่มกำลังพุ่งตัวผ่านพายุโลหิตอันเกรี้ยวกราด
    พายุโลหิตคือการนำหางโลหิตขยายตัวออกและซ้อนทัพกันหลายชั้น
    ถึงแม้พายุโลหิตของเครย์จะโจมตีโดนกริดในขณะ ‘เคลื่อนที่อิสระ’  แต่กริดในปัจจุบันนั้นอยู่สถานะแตกต่างออกไป

    ด้วยผลของโหมด ‘ภวังค์ปรารถนาอันแรงกล้า’  กริดกำลังมีอัตราหลบหลีก 99%
    ชายหนุ่มสามารถหลบหลีกแทบทุกการโจมตีโดยไม่ต้องใช้สมองขยับร่างกาย

    ทว่า...

[ ท่านได้รับความเสียหาย 8,700 หน่วย ]

    “แค่ก”

    99% มิใช่ 100
    และยิ่งเอิร์ลเครย์มีค่าแม่นยำสูง  ตัวเลข 99% ตรงนี้ก็จะยิ่งแสดงผลน้อยลง
    ผิวหนังของกริดเริ่มเกิดบาดแผลในยามพุ่งตัวผ่านพายุโลหิตขนาดมหึมา
    
    เสี้ยววินาทีก่อนจะหลุดพ้นจากพายุโลหิตอันเกรี้ยวกราด  ระยะหน่วงโพชั่นพลังชีวิตได้วนกลับมาถึงอีกครั้งอย่างฉิวเฉียด  ไม่อย่างนั้น  กริดคงเสียชีวิตเรียบร้อยแล้ว

    “มายา!”

    พลังชีวิตของกริดกำลังอยู่ในระดับวิกฤติ  ไม่ใช่เรื่องฉลาดนักหากจะพุุ่งเข้าไปต่อสู้ในระยะประชิด

    ชายหนุ่มตัดสินเปิดโหมดระยะไกลอย่าง ‘มายา’
    ทักษะที่จะเปลี่ยนการโจมตีธรรมดาให้เป็นระยะไกล  แถมยังเพิ่งพลังโจมตีสองเท่าในเวลาเดียวกัน

    บึ้มบึ้มบึ้ม—

    กริดที่อยู่ในโหมดสุดแกร่งกระหน่ำฟาดฟันรัศมีดาบใส่เครย์จากระยะไกล  

    “แกนะแก!!!!”

    ฟ้าวววววว!

    พายุโลหิตตอบสนองความเดือดดาลของเครย์  พวกมันเริ่มหมุนวนด้วยความเกรี้ยวกราดมากขึ้นกว่าเก่าหลายเท่า
    
    แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น

    เป็นเพราะ ‘ดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรม’ ในมือกริด  การโจมตีธรรมดาจากชายหนุ่มจึงเป็นราวกับฝันร้ายสำหรับศัตรู
    
    ร่างเอิร์ลเครย์ถูกเพลิงหลากสีอาบจนท่วม  แถมยังมีสายฟ้าฟาดผ่าลงมาจากด้านบนคอยซ้ำเติมให้ชะงัก  
    เพียงพริบตา  พลังชีวิตของมันลดต่ำลงกลับสู่จุดวิกฤติอีกครั้ง

    “แค่ก…!”

    ด้านบนเหนือพายุโลหิตที่กำลังฉีกกระชากทุกสิ่ง  เอิร์ลเครย์กำลังมีสีหน้าขาวซีดประหนึ่งแผ่นกระดาษ
    ในชั่วขณะที่ลมพายุอ่อนแรงลง  กริดย่อมไม่พลาดโอกาสทองหนนี้

    ผลการต่อสู้ลงเอยด้วย  เขาอาศัยบัฟ ‘ภวังปรารถนาอันแรงกล้า’ ต้อนให้เครย์เข้าตาจนได้สำเร็จ
    ชายหนุ่มรีบกระหน่ำทักษะใส่เครย์เพื่อหวังปิดฉากโดยเร็ว

    คราวนี้เป็นคิวของ ‘ทำลายล้าง’ 
    และปิดท้ายด้วย ‘สังหาร’

    ฟ้าววว...

    —!!

    ลมพายุที่เคยกลืนกินเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ด  ปัจจุบันพลันมลายหายไปในพริบตาราวกับเป็นเรื่องโกหก  
    บาดแผลบนแผ่นอกเอิร์ลเครย์ที่ถูก ‘สังหาร’ แทงใส่  บัดนี้พลันเกิดโหลิตพวยพุ่ง  ฝอยละอองเลือดสีแดงฉานล้นทะลักราวน้ำพุ

    “แค่ก…! ค...แค่ก!  นี่ฉัน...พ่ายแพ้...ให้มนุษย์...งั้นหรือ”

    “...”

    กริดเริ่มแสดงสีหน้าเห็นใจเมื่อร่างเอิร์ลเครย์กำลังกลายเป็นละอองแสงสีเทาต่อหน้าตน
        
    ในวินาทีที่เอิร์ลเครย์ตัดสินใจใช้หางโลหิตมากถึงหกเส้น  มันคงไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว  มิได้หวั่นกรงเลยสักนิดว่าแค็ทซ์อาจช่วงชิงไปเล่นงาน
    เป็นการกระทำของสุนัขจนตรอกอย่างแท้จริง
    
    สีหน้าเอิร์ลเครย์บ่งบอกชัดเจนว่าต้องรีบสังหารกริดเพื่อทำลายภัยคุกคามใหญ่หลวงเผ่าพันธุ์แวมไพร์
    
    เอิร์ลเครย์เริ่มหวาดกลัวกริดมาตั้งแต่ตอนนั้น
    ทว่า  แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากเพียงใด  มันกลับมิได้ออกปากร้องขอความช่วยเหลือจากเหล่าพี่น้องแม้แต่ครั้งเดียว
    
    เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีงั้นหรือ?
    ไม่ใช่แน่...
    อาจเป็นเพราะมันรู้จักนิสัยพี่น้องในสายเลือดเป็นอย่างดี  คงไม่มีใครคิดยื่นมือเข้าช่วยเหลือตั้งแต่ต้น

    “ช่างน่าเศร้า...”

    ไม่ว่าใครก็ตาม  การต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกตามลำพังล้วนเป็นสิ่งที่น่าเศร้า
    กริดเคยผ่านมาแล้ว
    เขาทราบถึงความขมขื่นที่เครย์ได้รับ

    “ไม่ใช่เพราะนายอ่อนแอกว่า”
    กริดจ้องมองเครย์ด้วยสายตาเห็นใจ
    “แต่ฉันมีพวกพ้อง...ส่วนนายไม่”

    เขากำลังเห็นภาพตัวเองในอดีตงั้นหรือ?
    ชายหนุ่มกล่าวถ้อยคำปลอบประโลมเครย์ที่กำลังล่วงลับ

    หากใครได้ยินเข้าคงหาว่ากริดเสียสติ
    ต้องเป็นผู้เล่นแบบใดกันถึงรู้สึกเห็นอกเห็นใจมอนสเตอร์ในวาระสุดท้าย?
    
    “...นี่มนุษย์กำลังสมเพชฉันอยู่หรือ  ฮะฮะ...ขอเตือนไว้อย่าง  มาร์ควิสเฟนเรียร์กับดยุคแมรี่·โรสไม่ใช่ตัวตนที่แกจะรับมือไหว”

    เอิร์ลเครย์จ้องมองกริดด้วยดวงตาที่พร่ามั่ว

    “ท่านพี่เฟนเรียร์สืบทอดพลังจากท่านแม่ถึงสองชนิด  ส่วนแมรี่·โรสเปรียบดั่งท่านแม่ในร่างที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม...”

    แม้กริดจะเป็นมนุษย์ที่มันรังเกียจ  แต่เครย์กลับยอมเปล่งวาจาเพื่อตักเตือนในวาระสุดท้ายของชีวิต

    บราฮัมและเอลฟิน·สโตน  ถึงทั้งสองจะเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดเครย์  แต่พวกเขากลับไม่เคยพูดจาดีกับเครย์เลยสักครั้ง  มีเพียงถ้อยคำถากถางดูแคลนออกจากปาก
    สำหรับเครย์ที่กำลังใกล้ตาย  ตัวตนของกริดย่อมยิ่งใหญ่กว่าพี่น้องแสนเย็นชาเหล่านั้น

    นี่คือผลพวงจากสมญานาม ‘ผู้มีสิิทธิ์กลายเป็นราชาโลหิต’ และสมญานาม ‘ดยุคแห่งคุณธรรมของแพงเจีย’
    ในวาระสุดท้ายของชีวิต  เอิร์ลเครย์เกิดรู้สึกชื่นชอบกริดขึ้นมาเล็กน้อย
    
    ซ่าาา—

    ท้ายที่สุด...ร่างเครย์กระจัดกระจายกลายเป็นละอองสีเทาโดยสมบูรณ์

    “...นายเหมือนกับหมอนั่นไม่มีผิด”

    กริดอมยิ้มอย่างขมขื่น
    เขากำลังคิดถึงบราฮัมที่จากไป...

[ ผู้ปกครองเมืองแวมไพร์ใต้ดินลำดับเก้า  แวมไพร์เอิร์ล ‘เครย์’ ถูกทำให้หลับไหลตลอดกาลเนื่องจากสูญสิ้นพลังชีวิต ]
[ หัวหน้าปาร์ตี้ ‘กริด’ เลเวลอัพ ]
[ สมาชิกปาร์ตี้ ‘รูบี้’ เลเวลอัพ 3 ระดับ]


[ หัวหน้าปาร์ตี้ ‘กริด’ ได้รับไอเท็ม ‘กำไลข้อมือเครย์’ ]
[ หัวหน้าปาร์ตี้ ‘กริด’ ได้รับไอเท็ม ‘โอปอลล์คุณภาพสูง’ ]
[ หัวหน้าปาร์ตี้ ‘กริด’ ได้รับไอเท็ม ‘หินเสริมแกร่งอาวุธที่ถูกอวยพร’ 12 ก้อน ]
[ หัวหน้าปาร์ตี้ ‘กริด’ ได้รับไอเท็ม  ‘หินเสริมแกร่งเครื่องป้องกันที่ถูกอวยพร’ 16 ก้อน ]


[ หัวหน้าปาร์ตี้ ‘กริด’ ได้สลัก ‘พลังเครย์’ ลงในอักขระความมืด ]
[ สมาชิกปาร์ตี้ ‘คริส’ ได้สลักคุณสมบัติ ‘ต้านทานแวมไพร์ทายาท’ ‘ต้านทานเวทมนตร์โลหิต’ และ ‘พลังดูดเลือด’ ลงในอักขระกลบจุดอ่อน ]

    “...”

    การล่าบอสที่แสนยากลำบากจบลงด้วยรางวัลตอบแทนมหาศาล
    ทันทีที่เห็นของรางวัล  กริดทั้งดีใจและภาคภูมิใจในเวลาเดียวกัน  โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นพลังที่ถูกสลักลงในอักขระของคริส

    ‘ตามชื่อของมันสินะ...อักขระที่สามารถกลบจุดอ่อนให้แก่ผู้ใช้งาน’

    เป็นอักขระที่เมื่อเวลาผ่านไป  จะยิ่งมีประสิทธิภาพสูงส่งเป็นเงาตามตัว

    กริดยิ้มอย่างมีความสุข
    เขาดีใจที่ผนึกกำลังกับพวกพ้องล้มบอสสุดแกร่งลงได้ในที่สุด

    แต่ความรู้สึกนี้กลับคงอยู่เพียงชั่วครู่

    “เดี๋ยวนะ...เครย์ไม่ใช่ผู้ปกครองเมืองลำดับเจ็ด?”

    ไม่ผิดแน่...
    เขาอ่านซ้ำอีกครั้ง

    เอิร์ลเครย์คือผู้ปกครองเมืองแวมไพร์ลำดับเก้า...มิใช่เมืองลำดับเจ็ดที่ทุกคนกำลังอยู่

    “บ้าน่า...”

    สมาชิกโอเวอร์เกียร์รวมถึงกริดต่างพากันหน้าถอดสี
    ทุกคนล้วนหวังให้ประตูทางออกเปิดหลังจากสังหารเครย์สำเร็จ  

    เมื่อเหตุการณ์ไม่ดำเนินไปตามที่คาด  ความสับสนและตื่นตระหนกจึงเข้าแทรกแซง

    “ทุกคนใจเย็นลงก่อน!!”
    ลอเอลรีบโพล่งขึ้นเพื่อสงบสติ

    “แวมไพร์ทายาทอีกสามตนกลับไปหมดแล้ว  พวกเรายังมีโอกาสฟื้นฟูทรัพยากร  และมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่แวมไพร์ทายาทตนอื่นจะต่อสู้ตามลำพังโดยไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน”

    ใช่แล้ว  ทุกคนยังมีหวัง
    แวมไพร์ทายาทแล้วมันยังไง?  
    สถานการณ์จะไม่น่ากลัวอย่างที่คิดหากพวกมันแยกกันสู้
    
    แต่น่าเสียดายที่…
    การคาดเดาของลอเอล ‘เคย’ ถูกต้อง

    ปัจจุบัน  มันถูกเปลี่ยนแปลงไปแล้วเพราะการมีตัวตนของกริด

[ ท่านทำการผนึกทายาทของชิโซ·เบริอาเช่ไปมากถึงสี่ตน  สมญานาม ‘ผู้มีสิทธิ์กลายเป็นราชาโลหิต’ ถูกเพิ่มระดับเป็น ‘ว่าที่ราชาโลหิต’]

[ ว่าที่ราชาโลหิต Lv.1 ]
    ท่านกลายเป็นว่าที่ราชาโลหิต  
    ตัวตนของท่านจะสร้างแรงคุกคามใหญ่หลวงต่อแวมไพร์ทั่วไป  
    แวมไพร์ทั่วไปที่เป็นศัตรูของท่านจะมีค่าสถานะทุกชนิดลดลง 15%
    ตัวตนของท่านเป็นภัยอันตรายต่อแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์
    แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ที่เป็นศัตรูของท่านจะมีค่าสถานะทุกชนิดลดลง 8%
    แวมไพร์ทายาทสนใจในตัวท่านมากขึ้น
    แวมไพร์ทายาททุกตนที่เผชิญหน้ากับท่านจะเป็นอิสระจากคำสาปเกียจคร้านชั่วคราว

    “เห…?”

    สมญานามเดิมอย่าง ‘ผู้มีสิทธิ์กลายเป็นราชาโลหิต’ จะลดค่าสถานะแวมไพร์ทั่วไป 10% แต่เพิ่มค่าสถานะแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ 10%
    แถมยังมีเอฟเฟคช่วยให้แวมไพร์ทายาทสนใจในตัวกริดมากขึ้น
    สิ่งนี้คือปัจจัยที่ทำให้เครย์ชื่นชอบกริดในวาระสุดท้าย

    แต่กับสมญานามใหม่อย่าง ‘ว่าที่ราชาโลหิต’ นั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง  
    เอฟเฟคใหม่จะทำให้แวมไพร์ทายาทเกิดความระแวงในตัวกริดมากขึ้น  พวกมันจะเอาชนะ ‘คำสาปเกียจคร้าน’ ได้ชั่วคราวหากต้องเผชิญหน้ากับกริด

    “ให้ตายสิ...”

    ขณะกริดกำลังตัดพ้อ

    “หืม...เครย์แพ้ได้ยังไง?”

    เอิร์ลเยติม่า
    มันคือหนึ่งในสามแวมไพร์ทายาทที่เฝ้ามองการต่อสู้จากด้านนอกเมื่อครู่ 
    มันมิได้อาลัยอาวรณ์การจากไปของเครย์เลยสักนิด

    “บ้าจริง!”

    สมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนกำลังอยู่ในสภาพอ่อนล้าสุดขีด
    ทักษะนานาชนิดติดระยะหน่วง  ค่าเรี่ยวแรงแทบไม่หลงเหลือ
    
    หากเยติม่าแข็งแกร่งระดับเดียวกับเครย์  โอกาสรอดชีวิตทุกคนจะกลายเป็น0% ทันที
    
    ฮิวรอยก้าวเท้าออกมาด้านหน้า

    “ฝ่าบาท!  กระหม่อมจะยื้อเวลาให้เอง!  รีบพาคนอื่นหนีไป!”

    อีกครั้ง…

    ไม่สิ  ทุกครั้ง...

    ฮิวรอยเสียสละตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อให้กริดหนีรอดปลอดภัย
    กริดหันไปมองฮิวรอยพร้อมย้อนนึกถึงคำสาบานที่ตนเคยลั่นวาจาเสมอมา

    จะไม่สละชีวิตพวกพ้องเพื่อให้ตัวเองรอดอีกเด็ดขาด
    
    ตลอดมา  กริดขวนขวายหาพลังอันยิ่งใหญ่ที่มากพอจะปกป้องทุกคน

    “ฮิวรอย...ถึงตาฉันต้องปกป้องนายบ้างแล้ว”

    สวบ...
    กริดก้าวมายืนด้านหน้าฮิวรอย

    ปัจจุบัน  ปราณต่อสู้ยังคงค้างอยู่ที่ 100 หน่วย  และกริดยังเหลืออีกหนึ่งไม้ตายที่ไม่ได้งัดออกมาใช้

    พรึ่บ—

    กายากริดลุกโชนด้วยเปลวเพลิงอันร้อนแรงตั้งแต่หัวจรดเท้า
    เพลิงสีแดงสดสว่างวูบวาบไม่เว้นแม้กระทั่งเส้นผมและขนคิ้ว
    
    พลังบีเลียล
    พลังราชินีแห่งไฟถูกสำแดงโดยมนุษย์
    
    “ฉันมั่นใจว่าแกอ่อนแอกว่าเครย์...”

    เครย์เคยพูดบ่อยครั้ง
    ว่ามันคือ ‘ว่าที่’ มาร์ควิส  
    ก่อนตาย  คำแนะนำจากก้นบึ้งหัวของเครย์ได้กล่าวตักเตือนให้กริดระวัง ‘เฟนเรียร์’ และ ‘แมรี่·โรส’
    เครย์มิได้กล่าวถึงแวมไพร์ทายาทอีกสามตนแม้แต่น้อย

    เป็นที่แน่ชัดแล้ว  เยติม่าแข็งแกร่งไม่เท่าเครย์
    
    “คุคุ...มนุษย์อย่างแกจะไปรู้อะไร?  ต่อให้ฉันอ่อนแอกว่าเครย์จริง  แต่มนุษย์โสโครกจะทำอะไรได้ในสภาพเช่นนี้?”

    เยติม่าย่อมเห็นถึงอาการบาดเจ็บบนร่างกายกริดและสมาชิกปาร์ตี้ทุกคน
    พวกเขาโรยราประหนึ่งแสงเทียนสุดท้ายที่พร้อมดับมอดเมื่อปะทะแรงลม

    ทันใดนั้น

    ฟุ่บ!

    กริดพุ่งใส่สเยติม่าด้วยความเร็วสูง
    ประหนึ่งอุกกาบาตไฟก็มิปาน

    “เปลี่ยนรูปไอเท็ม!”

    ซู่วว—

    สี่ฝ่ามือทองด้านหลังกริดล้วนแปรเปลี่ยนเป็นหอกไลฟาเอลในพริบตา

    “ไอ้มนุษย์โสโครก!!”

    ด้านบนเหนือศีรษะทุกคน  แวมไพร์เอิร์ลเยติม่ารีบชักดาบใหญ่ออกมา
    จากนั้นก็ฟันเฉือนเป็นแนวนอนใส่กริดที่กำลังพุ่งเข้าหา
    
    เยติม่าเชื่อมั่นมาก  มนุษย์เพศชายตรงหน้าคงอยู่ในสภาพร่อแร่ไร้กำลัง  มันตัดสินใจโจมตีแลกกับกริดโดยไม่คิดปัดป้อง
    
    หวังบดขยี้กริดให้ราบคาบในดาบเดียว
    
    และนี่คือความผิดพลาดแรก

    “ร่ายรำสังหาร!”

    พลังราชินีแห่งไฟของบีเลียลจะช่วยเพิ่มความถึกทนให้แก่ผู้ใช้งาน  หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญคือช่วยเร่งอัตราฟื้นฟูพลังชีวิตตามธรรมชาติ  
    ปัจจุบัน  หลอดเลือดของกริดฟื้นฟูกลับมาแล้วหลายส่วน

    ฉึก!

    ฉึกฉึกฉึก!

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 539,000 หน่วย ]
[ ‘พลังเครย์’ ที่สลักอยู่ในอักขระความมืดจะส่งผลให้ท่านสามารถฟื้นฟูพลังชีวิต 100% ของความเสียหายที่สร้างขึ้น ]

[ พลังเครย์ ]
ทักษะติดตัว
ระยะหน่วงหลังใช้ : 5 นาที
    นำค่าความเสียหายที่สร้างมาฟื้นฟูพลังชีวิตตนเอง
    หากพลังชีวิตที่ดูดกลืนมีค่ามากกว่าพลังชีวิตสูงสุดของท่าน  ระบบจะทำการสร้าง ‘หางโลหิต’   ระยะเวลาและจำนวนของหางโลหิตจะคำนวนตามปริมาณพลังชีวิตที่เกินมา
    ท่านจะมีหางโลหิตได้มากที่สุดสองเส้นและไม่สามารถควบคุมพวกมันได้

    กริดได้รับพลังใหม่
    สุดยอดพลังที่เยติม่าซึ่งอ่อนแอกว่าเครย์มิอาจรับมือ

    “อั่ก…!  อะไรกัน?”

    ในวินาทีที่มันถูกกริดแทง ‘ร่ายรำสังหาร’ ใส่เข้าอย่างจัง  
    เอิร์ลเยติม่าได้ฟาดฟันดาบใหญ่แลกสวนกลับไปเพื่อหวังดับลมหายใจกริด
    แต่ผลที่เกิดขึ้นกลับตรงข้ามสิ่งที่มันคาดเดาโดยสิ้นเชิง

    กริดยังไม่ตาย
    ไม่ใกล้เลยสักนิด
    
    และเมื่อได้เห็นหางโลหิตสองเส้นด้านหลังศัตรู  สีหน้าเยติม่าก็ยิ่งบิดเบี้ยวหนักข้อ
    
    ‘เจ้าบ้าเครย์!  พลังของนายถูกมนุษย์โสโครกช่วงชิงไปแล้ว!’

    ฟุ่บฟุ่บ!

    พลังหางโลหิตของเครย์ช่างน่าทึ่ง        
    เยติม่าพยายามปัดป้องแส้หางด้วยดาบใหญ่ในมือ  แต่ก็มิอาจหลบหอกไลฟาเอลสี่เล่มที่จู่โจมจากทุกทิศทาง
    
    นี่คือความผิดพลาดที่สอง    

    ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก!

    "แค่ก!"
    
    พลังศักดิ์สิทธิ์จากหนึ่งในสามศาสตราเทพที่เป็นพิษร้ายต่อเผ่าอสูร
    เยติม่าพลันสะดุ้งเมื่อถูกหอกสี่เล่มล้อมแทงอย่างพร้อมเพรียง
    
    กริดส่งเสียงกระซิบกระซาบ
    "แกมันก็แค่มดปลวก..."

    พรึ่บ—!


    บอลเปลวเพลิงขนาดยักษ์ก่อตัวขึ้นเบื้องหน้าเยติม่า
    สิ่งนี้คือ 'เพลิงโลกันตร์แห่งราชินี' ซึ่งจะสร้างความเสียหายตามเปอร์เซนต์พลังชีวิตศัตรู    

    บึ้มมมมมม— 
    
    แรงระเบิดได้ทำให้เมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ดสั่นสะเทือนรุนแรง

    ตามติดด้วยวิชาดาบแพ็กม่านานาชนิด    
    พลังราชินีแห่งไฟได้สร้างเปลวเพลิงอันร้อนแรงออกจากปลายดาบกริดทุกครั้งที่ฟาดฟัน
    เยติม่าถูกเปลวเพลิงปริมาณมหาศาลเผาไหม้ร่างกายอย่างโหดเหี้ยม
    
    กริดยังได้รับความช่วยเหลือจากจิสึกะเป็นระยะ  ผู้ถือครองคันศรฟินิกซ์แดงที่มีค่าเรี่ยวแรงเป็นอนันต์    
    เหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่ยังสู่ไหวต่างร่วมแจมศึกเต็มกำลัง

    กลับกัน  เยติม่าต้องสู้อย่างเดียวดาย
    
    นี่คือสาเหตุที่สามซึ่งนำพามันไปสู่ความพ่ายแพ้        

    หลังจากเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง...
    
[ ผู้ปกครองเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ด  แวมไพร์เอิร์ล 'เยติม่า' ถูกทำให้หลับไหลตลอดกาลเนื่องจากสูญสิ้นพลังชีวิต ]

    ประตูมิติทางออกของเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ดที่กักขังเหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์ไว้เป็นเวลานาน  บัดนี้ถูกเปิดออกโดยสมบูรณ์

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,164
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. โกงอะ ดูดเลือด100%

    ReplyDelete
  2. โอ้ โห ได้ผลประโยชน์เพียบ และสมยานามที่มากมาย และยังได้พลังของแวมไพร์มาควิสเครย์มาครอบครองอีก ใครจะสู้ไว้ อนาคตยังต้องมีสมยานามอีกมากรอกริดอยู่แน่นอน

    ReplyDelete
    Replies
    1. แม่งตอนนี้ยังสู้ของพวกจีนไม่ได้ เช่น
      1.Reincarnation of the Strongest Sword God
      2.Super God Gene
      3.Against the God
      4.Reverend Insanity

      Delete
  3. ก็บอกแล้วนี้มัน GodGrid นา

    ReplyDelete
  4. ทำไมแอดอัพผิดปกติ ปกติต้องหยุดวันอาทิตย์แล้วลงวันอังคาร แต่ทำไมแอดลงวันอาทิตย์ แต่จนถึงวันพุธยังไม่ลงอะ หรือว่าแอดอยู่ต่างประเทศแล้ววันมันไม่ตรงกัน หรืออาจจะเป็นที่เครื่องผมก็ได้ แต่ผมก็กดรีเฟรชแล้วนะ ยังไงก็ช่วยดูให้หน่อยนะครับ

    ReplyDelete
  5. ทำไมยิ่งอ่าน ยิ่งดราม่าขึ้น

    ReplyDelete
  6. โกงอะ ดูดได้ทุก 5 นาที แปลกๆนะ

    ReplyDelete
  7. จิซึกะไม่โชว์พลังธนูเลย

    ReplyDelete
    Replies
    1. จิซึกะโชว์ไปนานแล้วไม่ใช่หรอครับ"โบยบิน"อ่ะตอนสู้แรกๆระยะหน่วยมันตั้ง12ชั่วโมง

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00