จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 724



    หากกล่าวถึงผู้เล่นนักลอบสังหาร  คนทั่วไปจะนึกถึงใครมากที่สุด?
    ตั้งแต่เด็กสามขวมไปจนถึงคนเฒ่าคนแก่วัย 80   
    ทั้งหมดจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า...

    เทพสังหาร  เฟคเกอร์

    เงามืดผู้เร้นกายปกป้องอาณาจักรโอเวอร์เกียร์อยู่เบื้องหลัง

    แม้จะเป็นผู้เล่นคลาสธรรมดา  แต่ทักษะการดวลถูกจัดให้อยู่ในระดับสูงสุด
    ฝีมือของชายคนนี้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องยิ่งเวลาผ่านไป

    ไม่แปลกที่ชื่อของเฟคเกอร์จะโดดเด่นที่สุดในบรรดานักลอบสังหาร

    แต่เรื่องราวจะแตกต่างออกไปหากถามถึง 'นักลอบสังหารที่โดดเด่นที่สุดในงานแข่งนานาชาติ'
    ในเมื่อเฟคเกอร์ไม่เคยปรากฏตัวออกสื่อเลยสักครั้ง  อย่าว่าแต่งานแข่งนานาชาติที่ได้เห็นหน้าและตัวจริงผู้เล่น  แม้แต่การปรากฏตัวในเกมก็แทบไม่เคยมีมาก่อน

    หนสุดท้ายคือเมื่อครั้งพิธีก่อตั้งอาณาจักร  
    เฟคเกอร์สละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องให้พวกพ้องรอดปลอยภัยจากบีเลียล
    
    จึงไม่แปลกที่คนจำนวนมากจะรู้จักและคุ้นเคยกับ ‘ทาร์ม่า’ มากกว่า
    นักลอบสังหารทาร์ม่า  อดีตสมาชิกกลุ่มผู้เล่นชั่วร้าย  บลัดคาร์นิวัล

    ในการแข่งนานาชาติหนที่สอง  ทาร์ม่าปรากฏตัวเพราะใบสั่งสังหารครอเกลด้วยจำนวนเงินก้อนโต
    จนกระทั่งมันได้พบกับกริดเข้า    

    'ฉันจะล้างอายงานแข่งปีที่แล้วให้ได้!'

    นับตั้งแต่บลัดคาร์วินัลถูกทำลายโดยฝีมือกริด  ทาร์ม่าต้องหลบหนีไปแอบซ่อนที่อาณาจักรทะเลทรายบนทวีปตะวันออกอยู่นาน
    
    หลังจากผ่านไปหลายเดือน  มันสามารถบรรลุบททดสอบและภารกิจของทวีปตะวันออกมากมาย  เรียนรู้วิธีต่อสู้ในสนามรบหลายรูปแบบ  เช่นท่ามกลางพายุทรายหรือบนผืนทะเลทรายแห้งแล้ง

    ทาร์ม่าสัมผัสได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้น

    กริด
    ศัตรูคู่อาฆาตที่มันหวาดกลัวทุกครั้งเมื่อได้พบหน้า  
    ปัจจุบัน  ตัวตนของกริดลีบเล็กลงมากในสายตาทาร์ม่า

    'ถ้าฉันมีพลังนี้ล่ะก็…แม้แต่กริดก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกต่อไป!'
     
    'ดาบจิ้งจอก' ในมือทาร์ม่าถูกแปรเปลี่ยนเป็นเม็ดทรายอย่างฉับพลัน

    นี่คือพลัง 'กัดกร่อน' ที่มันเพิ่งได้ครอบครองเมื่อไม่นาน
    เป็นทักษะที่สามารถ 'แยกส่วนประกอบ' ของ 'วัตถุ' ได้ทุกชนิด
    และไอเท็มที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ใช้งานล้วนถูกจัดให้เป็น 'วัตถุ' 
    ดังนั้น  นี่คือพลังที่สามารถก่อกรกับ 'พลังแห่งไอเท็ม' ของกริดได้เป็นอย่างดี

    'ผลของกัดกร่อนจะคงอยู่ห้าวินาที'

    หลังจากจัดการกับมอนสเตอร์ในหุบเขาจนราบคาบ  ทาร์ม่าหลับตาลงพร้อมกับเพ่งสมาธิ

    มันเริ่มจำลองการต่อสู้ในหัว
    เป็นการต่อสู้ระหว่างทาร์ม่ากับกริดร่างพัฒนา  โดยทาร์ม่าอาศัยข้อมูลของกริดที่มันคนคว้าในระยะหลัง
    และผลลัพธ์ก็คือ...

    'เราชนะ!'

    ทาร์ม่าเห็นเต็มสองตา
    สภาพอันน่าอดสูของกริดเมื่อไอเท็มสวมใส่ทุกชิ้นถูกกัดกร่อนและเปลี่ยนเป็นเม็ดทรายหยาบ

    "ดีล่ะ..."

    ทาร์ม่าแสยะยิ้มชั่ว
    อีกไม่นาน  มันจะได้ล้างอายความแค้นในใจที่สั่งสมมานานหนึ่งปีเต็ม
    และชื่อเสียงของมันก็จะก้าวกระโดดในพริบตา

    'ต้องหาสปอนเซอร์'

    ใครกันที่จะได้ประโยชน์หากกริดถูกบดขยี้?
    หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย  ทาร์ม่าเริ่มนึกถึงสงครามเบลโต้

    'แอ็กนัสเป็นอริกับกริดสินะ'

    แอ็กนัส
    ผู้นำกองทัพ 'อิมมอทัล' ที่เรียกตัวเองว่า 'ราชาแห่งความเป็นความตาย' 
    แต่มันกลับถอยหนีกลางคันเพราะมิอาจต้านทานพลังของกริดและอาเรสไหว

    แอ็กนัสจะต้องมองกริดเป็นขวากหนามสำคัญในชีวิตแน่

    'ถ้าเราทำให้กริดพ่ายแพ้และพลาดเหรียญทอง…มันจะต้องเจ็บใจจนหน้าอกแทบระเบิดแน่นอน'

    เฉกเช่นงานแข่งในปีก่อน
    SA กรุ๊ปจะมอบรางวัลตอบแทนสำหรับผู้เล่นทุกคนที่คว้าเหรียญ
    หากกริดต้องพลาดไปหนึ่งเหรียญทอง  รับรองได้เลยว่าเป็นความเสียหายใหญ่หลวงที่มิอาจประเมินค่าได้  
    ฝ่ายที่เป็นอริของกริดคงชื่นชอบและมีความสุขสุดเหวี่ยง

    ทาร์ม่ามั่นใจ  มันรีบติดต่อและเดินทางไปหาแอ็กนัสทันที
    
    และแล้วทาร์ม่าก็ได้ตระหนัก…
    ถึงสาเหตุที่ผู้คนเรียกขานแอ็กนัสว่า 'ชายเสียสติ' 

    "ถ้าแกฆ่ากริดได้…ฉันต้องจ่ายเงินก้อนโตให้แกงั้นหรือ?  ฉันไม่เข้าใจว่าแกกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่  หือ?"

    "ตรงไหนที่เข้าใจยาก?  หากกริดพ่ายแพ้และพลาดเหรียญทอง  นายจะได้ผลประโยชน์มหาศาลไม่ใช่รึไง?"

    "คิคิคิก?  กริดเป็นศัตรูของฉัน  รู้อย่างนี้แล้ว…ยังจะยื่นมือเข้ามาสอดอีกหรือ?"

    "เป็นศัตรูกับนายแล้วมันยังไง?  ทำไมฉันถึงฆ่ากริดไม่ได้?"

    "ใครก็ตามที่บังอาจแตะต้องเหยื่อของฉัน…มันผู้นั้นจะถูกเชือดทิ้งอย่างน่าสมเพช"

    "…??"

    หมอนี่เสียสติไปแล้วรึไง?
    บทสนทนากำลังออกนอกลู่นอกทางไปไกล  ราวกับทาร์ม่ากำลังพูดคุยอยู่กับสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ไม่เข้าใจภาษามนุษย์

    ทาร์ม่าได้แต่ส่ายศีรษะ

    'แอ็กนัสคงพูดเช่นนี้เพราะไม่ต้องการจ่ายเงินเรามากกว่า…เป็นคนแบบนี้เองสินะ'

    ไม่สิ…หากพิจารณาให้ดี  
    สิ่งที่แอ็กนัสกระทำคือพฤติกรรมของคนฉลาดมากกว่าคนเสียสติ 

    'มันคงรู้ดีว่า  ถึงจะไม่จ้างเรา  แต่เราก็ต้องลงแข่งเพื่อแก้แค้นกริดอยู่ดี  ก็เลยไม่อยากเสียเงินจ้างในสิ่งยังไงก็ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว'

    ข่าวลือที่ทาร์ม่าแค้นเคืองกริด  มีใครบ้างในโลกที่ไม่รู้?
    แอ็กนัสก็คงเช่นกัน
    
    ทาร์ม่าครุ่นคิดพร้อมพยักหน้า
    "เข้าใจแล้ว...ฉันจะไปหาลูกค้ารายใหม่"
    
    ซู่วว— 

    ร่างทาร์ม่าเลือนหายไปในความมืดมิด

    แอ็กนัสยังยืนอยู่ที่เดิม      
    มันหันไปถามเวอราดิน
    "หมอนั่นใคร?"

    "ฮะฮะ!  หมอนั่นเป็นมดปลวกที่นายไม่เคยคิดจำชื่อสินะ  แต่ในความคิดฉัน  เจ้านั่นไม่ใช่มดปลวกหรอกนะ..."

    เวอราดินแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ
    สีหน้าของมันเปี่ยมด้วยความคาดหวัง

    'ทาร์ม่าเคยสู้กับกริดมาแล้วหลายหน  มันต้องมั่นใจในระดับหนึ่งถึงกล้าโอ้อวดเช่นนี้'

    บางที  ทาร์ม่าอาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญในงานแข่งปีที่สามก็ได้
    
    'ปีนี้น่าสนใจมาก  น่าเสียดายที่แอ็กนัสมิอาจเข้าร่วมแข่ง'

    แอ็กนัสเปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อหน้าคนทั้งโลกในศึกเบลโต้ที่ผ่านมา
    แต่กระนั้น  แอ็กนัสก็ยังไม่พร้อมสำหรับงานแข่งนานาชาติ
    ชายคนนี้ควบคุมตัวเองไม่ได้  ไม่รู้ว่าจะก่อเรื่องใดบ้างหากต้องลงแข่งในงานที่มีกฏและกติกาเคร่งครัด

    ***

    ท้องฟ้าไม่มีวันถูกโค่น
    เฮ่าไม่เคยเคลือบแคลงในวลีนี้
    เขาติดตามรับใช้ครอเกลด้วยศรัทธาแรงกล้ามาตลอด

    "ขอแสดงความยินดีกับเลเวล 260"    
    เฮ่ากล่าวด้วยสีหน้าชื่นชมเจือความท้อแท้
    
    วิธีเก็บเลเวลของครอเกลน่าทึ่งเกินไปสำหรับเฮ่า
    ครอเกลไม่ปล่อยให้มีการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่า
    ครอเกลจัดระเบียบและวางแผนจุดเก็บเลเวลอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
    จากนั้นก็สังหารมอนสเตอร์ด้วยฝีมือและความเร็วที่น่าตกตะลึง
    
    มันสมบูรณ์แบบจนปราศจากจุดบกพร่องให้ตำหนิ
    สมบูรณ์แบบจนเฮ่าทำได้เพียงจ้องมองพร้อมกับอ้าปากค้าง
    
    เขาไม่มีวันคิดได้แบบนี้  และไม่มีวันทำได้แบบนี้… 
    เฮ่าตัดพ้ออย่างท้อแท้

    จากการเฝ้ามองครอเกลและนำไปปรับใช้กับตนเอง  แม้แต่อัจฉริยะอย่างเฮ่าก็ยังเพิ่มความเร็วการเก็บเลเวลได้มากถึง 1.4 เท่า
    
    ทว่า  ครอเกลกลับมองว่าตนยังบกพร่องอยู่มาก
    "ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา  เลเวลของกริดอัพไปสิบกว่าระดับ…ฉันยังด้อยกว่าเขา"

    อเล็กซานเดอร์รีบปฏิเสธเสียงแข็ง
    "กริดทำแบบนั้นได้เพราะเขาเคลียร์หมู่เกาะเบเฮ็น  แถมหลังจากนั้นคงฆ่าบอสพิเศษไปอีกหลายตัว"

    ใช่แล้ว  ความเร็วในการเก็บเลเวลของกริดหลังจากเคลียร์หมู่เกาะเบเฮ็นนั้นสุดน่าทึ่ง
    นอกจากล่าบอสพิเศษจำนวนมาก  ก็ไม่มีสิ่งใดที่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ของกริดได้อีก
    แต่บอสพิเศษก็ไม่ได้มีให้ล่ามากมายเหมือนผักปลาขนาดนั้น
    
    ครอเกลชื่นชมกริดมาก  ความสามารถในการผูกขาดบอสพิเศษ  ถือเป็นพรสวรรค์ประเภทหนึ่งซึ่งน้อยคนนักจะทำได้
    "คนธรรมดาไม่มีทางล่าบอสพิเศษได้ตามใจชอบเหมือนกริดหรอกนะ"    

    แน่นอน  ในอดีตครอเกลเคยครอบครองสิทธิ์การล่าบอสพิเศษแต่เพียงผู้เดียวมายาวนาน
    สถานที่ลึกลับและคาดไม่ถึง  เขาจะเดินทางไปดับลมหายใจบอสพิเศษเหล่านั้นด้วยฝีมืออันน่าทึ่ง
    
    แต่ปัญหาคือ  ครอเกลมิอาจทำเช่นนั้นได้ตลอดไป
    เขาไม่ได้ผูกขาดเมืองแวมไพร์ทั้ง 15 แห่งเหมือนกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
    
    บอสพิเศษที่ครอเกลล่ามักอาศัยอยู่ในป่ารกร้างที่ผู้คนยากเข้าถึง
    
    'นี่คือสาเหตุที่เรายังตามหลังกริด'

    ครอเกลแสยะยิ้ม
    ความกระหายชัยชนะคือแรงกระตุ้นด้านบวกชั้นเลิศ    
    
    ตัวตนที่นำหน้าผู้อื่นมาตลอด  บัดนี้มีโอกาสลิ้มรสความรู้สึกที่ต้องตามหลังบ้างแล้ว
    ทั้งน่าสนุกและตื่นเต้นจนหัวใจสั่นระรัว
    นับเป็นสวรรค์ของนักเล่นเกมโดยแท้จริง

    'เราอยากเลเวล 300 ก่อนงานแข่งจะเริ่มขึ้น  แต่หากคำนวณจากความเร็วปัจจุบัน  ด้วยระยะเวลาเพียงสองเดือน  เลเวลของเราจะเพิ่มได้สูงสุดเพียง 272 เท่านั้น'    

    ราวกับเฮ่าอ่านสีหน้าครอเกลออก
    เขาเอ่ยปากถาม
    "นายจะเข้าร่วมศึกประลองรึเปล่า?"

    ปัจจุบัน  กริดและครอเกลมีส่วนต่างของเลเวลอยู่ที่ 80 ระดับ
    และที่แย่กว่านั้น  ครอเกลยังมีเลเวลไม่ถึง 300  หมายความว่าเขาจะไม่ได้รับโบนัสการตื่นของค่าสถานะระดับสาม

    ส่วนฝั่งกริดคือปีศาจตัวจริงเสียงจริง

    ครอเกลจะเข้าร่วม PVP ที่เต็มไปด้วยแรงเกอร์คลาสระดับสามมากมายรวมถึงกริดงั้นหรือ? 
    แบบนั้นคงเกิดผลลัพธ์ไม่ดีแน่
    
    ไม่ยุติธรรมกับครอเกลเลยสักนิด
    เฮ่าได้แต่ภาวนา  เขาไม่ต้องการให้ครอเกลเข้าร่วม PVP ในปีนี้
    การเฝ้ามองไอดอลตัวเองพ่ายแพ้ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีนัก
    
    ครอเกลพยักหน้าโดยไม่ลังเล
    "แน่นอน  ฉันจะเข้าร่วม"

    แม้แต่อเล็กซานเดอร์ยังตะลึง
    "อะไรนะ…นายยังสติดีรึเปล่า?  ต่อให้ไม่นับกริด  ตัวตนอย่างนายก็ไม่ควรพ่ายแพ้ดาเมี่ยนหรือคริสต่อหน้าคนทั้งโลก  อย่าทำให้ชื่อเสียงตัวเองตกต่ำดีกว่าน่า"

    "ฉันเห็นด้วยกับอเล็กซานเดอร์…โดยเฉพาะกริด  มันจะเป็นการต่อสู้ที่ยากแน่"
    
    เฮ่ายกย่องกริดไม่แพ้ครอเกล
    และเฮ่าทราบดี  คนทั้งสองต่างมองอีกฝ่ายเป็นคู่ต่อสู้ของกันและกัน
    การต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรมรังแต่จะสร้างผลลัพธ์ที่น่าเศร้าและความเจ็บปวดให้ทั้งคู่

    ไม่สิ…ให้คนทั้งโลก 
    
    เฮ่าสาธยายความรู้สึกในใจ
    "ฉันคิดว่าพวกนายควรสู้กันอีกครั้งหลังจากทั้งสองฝ่ายอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม…คนทั่วโลกก็คงคิดแบบเดียวกัน"

    มันคือการดวลที่จะกลายเป็นตำนานให้เล่าขานไปอีกสิบปี
    ทุกฝ่ายย่อมต้องการให้ปัจจัยของทั้งสองเท่าเทียม
    
    จะให้การดวลเกิดขึ้นอย่างสูญเปล่าและไร้ความหมายไม่ได้
    เฮ่ามั่นใจ  และอเล็กซานเดอร์ก็เห็นพ้องด้วย

    ทันใดนั้น
    "พวกนายคิดว่าฉันจะแพ้รึไง?"

    นัยน์ตาครอเกลพลันกระตุก
    มันกำลังส่องประกายแวววาว  ลุ่มลึกไร้กันบึ้ง  เหมือนกับสมัยที่เคยอยู่ตามลำพัง    
    เป็นแววตาที่ไม่มีผู้ใดอ่านความคิดได้

    "ถ้าฉันคิดจะสู้…หมายความว่าฉันจะเป็นฝ่ายชนะ"

    เฮ่าและอเล็กซานเดอร์ไม่ควรลืม
    ครอเกลคือฟ้าเหนือฟ้า
    ปัจจุบัน  ท้องฟ้าผืนนั้นได้ครอบครองสุดยอดคลาสเกรดเลเจนดารี  คลาสสายต่อสู้ทรงพลังอันดับหนึ่งของซาทิสฟาย
    อริยดาบ

    "ปีนี้มีโอกาสชนะมากที่สุดแล้ว…"

    "...?"

    เฮ่าและอเล็กซานเดอร์ถูกความตั้งใจอันแน่วแน่ของครอเกลอุดปากจนมิกล้าแสดงความเห็นใด

    แต่ทั้งสองก็อดประหลาดใจไม่ได้
    เหตุใดโอกาสชนะในปีนี้ถึงที่สุด?    

    ครอเกลยักไหล่
    "พวกนายเป็นคนบอกเองไม่ใช่หรือ?  กริดจะยิ่งเก่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป  เขาคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดหากปัจจัยรอบข้างสมบูรณ์พร้อม  หากปล่อยให้กริดพัฒนาไปมากกว่านี้…”  

    ครอเกลยิ่มชืด

    “หากมัวรอให้เลเวลใกล้เคียงกัน  บางทีชัยชนะของฉันคงไม่มีวันมาถึงอีกแล้ว"

    "..."    

    เป็นความจริงที่ทุกคนหลงลืม
    ทั้งเฮ่าและอเล็กซานเดอร์พลันตระหนักได้ถึงศักยภาพในตัวกริด
    
    ครอเกลแสดงสีหน้าครุ่นคิด
    'กริดไม่เหมือนกับเรา…ผู้ที่พึ่งพาแค่วิชาดาบ'    

    กริดสามารถใช้ได้ทั้งดาบ  ของวิเศษ  และเวทมนตร์
    
    ปัจจุบัน  ครอเกลยังไม่มีคลาสรอง  เขาประเมินให้กริดมีศักยภาพในการพัฒนาสูงกว่าตน
    แน่นอน  นี่คือการคำนวณโดยคำนึงถึงพรสวรรค์ของกริดแล้ว

    'จิตใจที่ไม่ยอมแพ้คือแรงผลักดันที่ดีที่สุด'

    ไม่ว่าจะเป็นการดวลหนแรกหรือหนที่สอง
    ครอเกลไม่มีวันลืมสายตากริดในยามจ้องมองมายังตน

    ยิ่งตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง  ดวงตาคู่นั้นกลับยิ่งสงบนิ่งไม่สั่นคลอน

    ตึกตัก  ตึกตัก!

    เฉกเช่นกริดที่ปรารถนาจะดวลกับครอเกลทุกลมหายใจ
    ครอเกลต้องการวัดฝีมือกับกริดเช่นกัน


 ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,167
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. กริดมีพรสวรรค์เรื่องความพยายาม แต่ถ้ามีการจัดการได้ดีกว่านี้...คงไปได้ไกลกว่านี้เยอะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00