จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 677
“สามารถเอาชนะอเล็กซ์ได้อย่างที่กระผมคิดไว้ ฝ่าบาทยอดเยี่ยมมาก”
สติกส์กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ด้านกริดเองก็เช่นกัน คนทั้งสองมีจุดมุ่งหมายคล้ายคลึงกันมาก คือหวังข้ามผ่านอุปสรรคลูกใหญ่ตรงหน้าให้ได้
อุปสรรคของกริดคือการท้าทายตนเองเพื่อแข็งแกร่งขึ้น ส่วนอุปสรรคของสติกส์คือการชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นให้กลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง ซึ่งสติกส์เฝ้ารอเวลานี้มานานหลายสิบปีแล้ว กริดเปรียบดังแสงสว่างที่กำลังส่องเจิดจรัสปลายอุโมงค์
ขณะเดียวกัน ความตื่นเต้นบนสีหน้ากริดเริ่มจางหายทีละนิด
“สติกส์ ฉันเข้าใจแล้ว ถึงสาเหตุที่นายคิดว่าฉันสามารถชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นทั้งหมดได้ด้วยพลังปัจจุบัน”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่น
“นักล่าอสูรอเล็กซ์ไม่สามารถใช้ทักษะส่วนใหญ่สมัยยังมีชีวิตอยู่ได้สินะ”
“...”
จากสิ่งที่ยูร่าแสดงให้เห็นเมื่อครั้งเผชิญหน้าจอมอสูรบีเลียล ทักษะโจมตีของนักล่าอสูรทั้งหลากหลายและรุนแรง โดยเฉพาะความสามารถในการสะกดเผ่าอสูร หากอเล็กซ์ยังหลงเหลือพลังเหล่านั้น กริดในร่ายมืดคงไม่อาจสำแดงเดชแน่
แต่อเล็กซ์เมื่อครู่กลับใช้เพียงกระสุนระเบิดและการซุ่มโจมตี ถึงแม้จะพลิกแพลงกลยุทธ์ด้วยการสลับโหมดปืนก็ตาม แต่อเล็กซ์ก็ไม่ได้ใช้ทักษะสำหรับสะกดเผ่าอสูรให้เห็นเลยสักชนิด
เช่นเดียวกันกับลันเทียร์ที่กริดพ่ายแพ้ ในหนแรก เขาลืมคิดเรื่องนี้ไปสนิท เพราะตนเสียชีวิตในพริบตาโดยไม่เป็นอันทำสิ่งใด
แต่หากมองย้อนกลับไป ลันเทียร์ใช้เพียงทักษะล่องหนเท่านั้น มิได้ใช้ท่าโจมตีอื่นใดที่ทรงพลังสักอย่างเดียว
“...พวกเขาแทบไม่เหลือทักษะโจมตีเลยหลังจากกลายเป็นอัศวินความตาย”
ทั้งค่าสถานะและเลเวลก็ดูเหมือนจะลดลงจากเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่มาก แถมยังใช้ทักษะไม่ได้อีก
แม้อัศวินความตายอเล็กซ์จะอ่อนแอกว่าตัวจริงสมัยยังมีชีวิตราวสิบถึงร้อยเท่า แต่ตัวตนที่อ่อนแอเช่นนั้นกลับบีบให้กริดต้องใช้งานประกันชีวิตอมตะออกมา
‘นี่คือเหตุผลที่สติกส์บอกว่าเราสามารถชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็น...’
หมับ!
กริดพลันกำหมั่นแน่น กำปั้นของเขากำลังสั่นระริก ศักดิ์ศรีของชายหนุ่มถูกระคายเคืองอย่างหนัก
‘เราไม่ได้แข็งแกร่งเทียบเท่าตำนานคนก่อน...เพียงแค่พวกเขาอ่อนแอลงต่างหาก’
สติกส์จ้องมองร่างกายที่สั่นเทาของกริด
จากนั้นก็กล่าวต่อไปโดยไม่ปฏิเสธ
“ถูกต้อง อัศวินความตายของเหล่าตำนานจะอ่อนแอกว่าสมัยยังมีชีวิตอยู่มาก แถมยิ่งอ่อนแอลงเมื่อแพ็กม่าผู้เป็นนายหายไป ด้วยความสัตย์จริง อัศวินความตายของคนเหล่านี้ไม่ควรค่ากับคำว่าตำนาน นั่นคือสาเหตุที่ผมคิดว่าฝ่าบาทสามารถเอาชนะได้”
“...เฮ่อ”
กริดได้แต่ถอนหายใจยาว ความกระตือรือต้นก่อนหน้าได้ดับมอดลงอย่างสมบูรณ์
ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น ชายหนุ่มสูญเสียประกันชีวิตอมตะไปกับตัวตนที่ไม่ใช่ตำนาน เขาเสียไพ่ตายไปกับศัตรูที่ไม่จำเป็นต้องเสีย
ถ้าไม่มีประกันชีวิตอมตะ เขาจะพ่ายแพ้โครงกระดูกที่แทบไร้ทักษะโจมตี
มีสิ่งใดน่าอับอายยิ่งกว่านี้อีกหรือ
‘ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้...’
กริดเริ่มตระหนักแล้วว่า เขาพึ่งพาการมีอยู่ของประกันชีวิตอมตะมากเกินไป
‘นี่ไม่ใช่พลังแห่งไอเท็มแล้ว แต่เป็นพลังแห่งความอมตะ...เราไม่ควรเรียกตัวเองว่าราชาโอเวอร์เกียร์ด้วยซ้ำ นี่เราเป็นราชาอมตะรึไง’
กริดอาจไม่รู้ตัวว่า…ราชาอมตะฟังดูเท่กว่าราชาโอเวอร์เกียร์ตั้งเยอะ
ช่างน่าเศร้า
ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มย้อนนึกกลับไปเมื่อครั้งสู้กับแอ็กนัส
‘ตอนนั้นก็เหมือนกัน ถ้าเราไม่มีประกันชีวิตอมตะ ป่านนี้คงพ่ายแพ้แอ็กนัสต่อหน้าคนทั้งโลกไปแล้ว’
ในวินาทีนี้ กริดพลันตระหนักได้
‘ไม่ใช่แค่แอ็กนัส...แต่ศัตรูที่เราดวลชนะมาตลอดตั้งแต่อดีต เกือบทั้งหมดเพราะได้ประกันชีวิตอมตะช่วยไว้ ไม่ใช่เพราะเราแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่าย’
ประกันชีวิตอมตะถือเป็นสิทธิพิเศษของผู้เล่นคลาสเลเจนดารีทุกคน ไม่มีใครกล่าวโทษกริดที่พึ่งพามันในการต่อสู้ ในเมื่อเป็นทักษะที่สามารถใช้ได้อย่างถูกต้องตามกฏของซาทิสฟาย การใช้งานทุกทักษะที่มีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนับเป็นฝีมือชนิดหนึ่ง
แต่กริดกลับมองต่าง
‘การพึงพาอมตะมีแต่จะเป็นพิษร้าย’
ความคิดที่ว่า ‘ยังไงเราก็ไม่ตาย เพราะเรายังมีประกันชีวิตอมตะ’ ได้ฝังรากลึกลงในจิตสำนึกกริดมาแสนนาน เขาได้ตั้งกฏกับตัวเองไว้ว่า ‘ถ้าไม่มีอมตะ ห้ามสู้เด็ดขาด’
หากตนไม่รีบแก้นิสัยนี้โดยเร็ว สักวันมันกลายเป็นพิษร้ายที่กัดกินพัฒนาการ
เป็นการตีความที่ถูกต้องอย่างน่าเหลือเชื่อ กริดอาจไม่รู้ตัวว่า เขาเป็นหนึ่งในน้อยคนที่สามารถตระหนักถึงจิตใต้สำนึกบกพร่องและพยายามแก้ไข จะมีสักกี่คนบนโลกที่ยอมรับข้อเสียซึ่งฝังรากในก้นบึ้งจิตใจและคิดแก้ไขอย่างจริงจัง
ยกตัวอย่างเช่นนักเขียน นักเขียนหลายคนชอบอ้างว่า ‘ถ้าไม่สูบบุหรี่จะคิดงานไม่ออก’ สิ่งนี้คือข้ออ้างในจิตใต้สำนึกที่ผิด ส่งผลให้บุคคลเหล่านั้นมิอาจเลิกบุหรี่ได้ตลอดชีวิต หรือว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว
ด้วยเหตุนี้ กริดจึงถือเป็นกรณีพิเศษอย่างแท้จริง
“แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น...”
ขณะกริดกำลังดำดิ่งในภวังค์ความคิด เสียงพูดของสติกส์ได้ดังเล็ดลอดเข้ามายังโสตประสาท ก่อนหน้านี้ สติกส์คือผู้บอกความจริงที่น่าเจ็บใจแก่กริด แต่ปัจจุบัน เขากำลังปลอบโยนด้วยรอยยิ้มแสนสดใส
“อัศวินความตายจะอ่อนแอกว่าสมัยเป็นตำนานก็จริง แต่ตำนานทุกคนล้วนเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่เคยสร้างคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่กับโลกเมื่อครั้งยังมีชีวิต ต่อให้อัศวินความตายของพวกเขาอ่อนแอลง แต่ในปัจจุบัน มีเพียงน้อยคนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะอัศวินความตายบนเกาะได้”
นี่คือสิ่งที่สติกส์ต้องการสื่อ
“อย่าได้เข้าใจผิดไป เหตุผลที่กระผมคิดว่าฝ่าบาทสามารถชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นสำเร็จ มิใช่เพราะอัศวินความตายเหล่านี้อ่อนแอ แต่เป็นเพราะฝ่าบาทคือผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงต่างหาก จงยืดอกภูมิใจได้เลย”
“...”
“อย่าลืมสิ แม้แต่ชายที่ชื่อแอ็กนัสคนนั้นก็ยังมิอาจเอาชนะอเล็กซ์ได้”
เมื่อครู่คือคำเยินยอจากจอมปราชญ์ หากเป็นกริดคนเก่า เขาคงมีความสุขจนฉีกยิ้มกว้างถึงใบหูพร้อมกับเกาแก้มอย่างเคอะเขิน
แต่กริดปัจจุบันมิใช่ผู้ที่ยอมรับคำชมพื้นฐานเช่นนี้ เขาต้องการพัฒนาตนเองไปให้ไกลที่สุด
ชายหนุ่มกล่าวอย่างไม่ยินดียินร้ายกับคำชม
“ฉันอาจดูดีหากนำไปเทียบกับคนธรรมดา แต่ฉันมีโชคชะตาที่ต้องรับมือกับอสูรกายอีกนับไม่ถ้วนในอนาคต”
จอมอสูร ผู้มาพร้อมพลังที่สามารถทำลายโลกมนุษย์ได้ทุกเมื่อ
แอ็กนัส ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล
จักรวรรดิซาฮารัน ผู้ปกครองอันดับหนึ่งแห่งทวีปตะวันตก
อาเรส ผู้สามารถขยายพลังอำนาจได้อย่างไร้ขีดจำกัด
อริยดาบครอเกล ผู้สืบทอดพลังของตำนานอันดับหนึ่งในอดีต
และยังบันแห่งทวีปตะวันออก...
ยังมีเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ พวกเขามิได้ด้อยพรสวรรค์ ทุกคนเป็นทั้งพวกพ้องและคู่แข่งที่ดี หากเมื่อใดตนหยุดอยู่กับที่ เกรงว่าอาจถูกทิ้งไว้ด้านหลังตามลำพัง
‘ไม่ได้เด็ดขาด...’
กริดมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะกลายเป็นอันดับหนึ่ง เขาเชื่อว่าสิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้
นี่คือความมั่นใจในตัวเองอย่างแรงกล้าครั้งแรกนับแต่เกิดมา
“เฮ่อ...” ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตากำลังสงบนิ่งไม่สั่นไหว
“ตั้งแต่เกาะถัดไป ฉันจะเอาชนะโดยไม่พึ่งพาประกันชีวิตอมตะ”
“…!”
ร่างกายสติกส์พลันกระตุก เขารู้ดีว่า บัฟอมตะของตำนานจะมีระยะหน่วงหนึ่งวัน
“นี่ฝ่าบาทคิดจะลุยเกาะหมายเลข 63 ต่อเลยงั้นหรือ”
โดยไม่มีประกันชีวิตอมตะเนี่ยนะ...
สติกส์รู้สึกทึ่งในความตั้งใจของกริด
“นายคิดว่าฉันบ้ารึไง” กริดขมวดคิ้ว
“ใครจะโง่ถึงขนาดท้าทายบอสสุดหินโดยที่ทักษะของตัวเองไม่พร้อมบ้าง...ไว้ค่อยเริ่มพรุ่งนี้ก็แล้วกัน”
กริดลั่นวาจาว่า ‘เขาจะเลิกพึ่งพาประกันชีวิตอมตะ’ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสู้โดยที่ไม่มีมัน
“ตายฟรีมันไม่มีประโยขน์หรอกนะ...”
“...”
สมกับเป็นกริด ชายคนนี้ไม่คิดเอาชีวิตไปเสี่ยงแม้เพิ่งจะประกาศกร้าวหนักแน่นเมื่อครู่ ศักดิ์ศรีที่แสนโอหังสามารถแปรเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์อย่างเหมาะสม
ไม่หัวรั้นและทรนงถึงขั้นยอมทำลายอนาคตตัวเอง แม้ไม่ใช่สิ่งที่น่าอวด แต่หากมองจากหลักความจริง ความคิดและการกระทำของกริดล้วนเปี่ยมด้วยความสมเหตุสมผล
‘สมกับเป็นกษัตริย์ของอาณาจักร’
ทันใดนั้น ชายหนุ่มได้นำชุดเย็บปักออกมาถือพร้อมนั่งลงเตรียมสร้างกางเกงใน
***
“...”
อีกหนึ่งระบบที่น่าตื่นเต้นในเกมออนไลน์คือ ‘ไอเท็มดรอป’
ชายหนุ่มจะรีบตรวจสอบไอเท็มดรอปทุกครั้งหลังจากปราบบอสแข็งแกร่งสำเร็จ รวมถึงทุกครั้งที่สร้างไอเท็มด้วยวัสดุชั้นเลิศ
ก่อนตรวจสอบก็มักสวดภาวนาให้มันมีออปชั่นเริศหรูอลังการอยู่เสมอ
แต่สำหรับไอเท็มดรอปจากอเล็กซ์ เขากลับไม่รีบเช็คมันในทันที
สาเหตุมาจากความหวาดกลัว...
‘อัศวินความตายอเล็กซ์ค่อนข้างอ่อนแอ’
แม้อดีตอาจยังเป็นปริศนา แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ อัศวินความตายอเล็กซ์อ่อนแอเกินกว่าจะถูกยกย่องให้เป็นตำนาน
แน่นอนว่านี่เป็นความแข็งแกร่งเมื่อนำไปเทียบกับตำนานคนก่อนสมัยยังมีชีวิตอยู่ ในบรรดาผู้เล่นปัจจุบัน คนที่สามารถเอาชนะอัศวินความตายอเล็กซ์ได้คงมีเพียงครอเกลและกริด เขานับเป็นมอนสเตอร์บอสที่แข็งแกร่งมากตนหนึ่ง
แต่คำพูดของสติกส์ได้ตอกย้ำความคิดในใจกริดว่า อัศวินความตายอเล็กซ์คือตัวตนที่ ‘อ่อนแอ’ และไอเท็มดรอปจากบอสอ่อนแอก็คงไม่ยอดเยี่ยมเท่าไรนัก
ลงเอ้ยด้วย…
“...”
กริดยังไม่ตรวจสอบรายละเอียดไอเท็มแม้จะผ่านมาแล้วสี่ชั่วโมง เวลาที่ล่วงเลยหมดไปการเย็บปักกางเกงในอย่างต่อเนื่อง
เขาไม่มีความกล้ามากพอจะตรวจสอบ กริดยังไม่พร้อมเผชิญหน้าความผิดหวังในตอนนี้
สติกส์เริ่มแสดงท่าทีกระวนกระวายใจ
“ลองตรวจสอบคุณสมบัติปืนกับถุงมือของอเล็กซ์ก่อนไหม กระผมมั่นใจว่ามันต้องเป็นไอเท็มคุณภาพสูงแน่”
“รอก่อน...ขอสร้างกางเกงในอีกตัว”
“...”
เพื่ออะไร…
สติกส์ไม่เข้าใจกริดเลยสักนิดเดียว
แต่ถ้าผู้เล่นเกมออนไลน์ แทบทุกคนต้องเข้าใจความรู้สึกกริดแน่
‘ถ้ากางเกงในตัวนี้ออกมาเป็นเกรดแรร์ เราจะตรวจสอบรายละเอียดไอเท็มทันที!’
กางเกงในสี่ตัวที่ผ่านมาล้วนเป็นเกรดทั่วไปทั้งหมด สาเหตุเกิดจากเลเวลตัดเย็บที่ยังต่ำติดดิน แต่ชายหนุ่มกลับคิดว่าสิ่งนี้เป็นเพราะตนโชคร้าย
‘ทักษะตัดเย็บขั้นกลางจะผลิตกางเกงในได้สูงสุดเกรดแรร์...หากกางเกงในชิ้นต่อไปออกมาเป็นเกรดแรร์ หมายความว่าเทพแห่งโชคได้สถิตย์อยู่กับเรา!’
จะเกิดอะไรขึ้นหากตรวจสอบไอเท็มในขณะที่เทพแห่งโชคกำลังสถิตย์…
‘เกรดของไอเท็มจะเพิ่มขึ้น! แถมยังมีออปชั่นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชนิด!’
แน่นอนว่า นี่คือทฤษฏีบ้าบอคอแตกที่ไม่มีเหตุผลใดในโลกรองรับ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่พยายามหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ
เฉกเช่นการเสริมแกร่งในช่วงเวลาและสถานที่เฉพาะเจาะจง การทำเช่นนี้จะให้ผลเสริมแกร่งที่ดีกว่า นั่นคือความเชื่อของกลุ่มผู้เล่นบางส่วน
แต่ในบางครั้ง มนุษย์ก็ต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยเฉพาะยามเผชิญหน้ากับระบบ ‘เสี่ยงดวง’ ที่ต้องวิงวอนพระเจ้า
[ ท่านสำเร็จการสร้างกางเกงใน ]
[ ด้วยผลของทักษะตัดเย็บขั้นกลาง ท่านสร้างกางเกงในเกรดแรร์สำเร็จ! มีโอกาสเล็กน้อยที่จะเพิ่มออปชั่นในไอเท็ม ]
ชิ้ง—
[ กางเกงในสะอาด ]
เกรด : แรร์
ความคงทน : อนันต์
พลังป้องกัน : 5
* ความว่องไว +1
ไม่มีคุณสมบัติใดโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่กางเกงในตัวนี้เบาสบายอย่างมาก ส่งผลให้ผู้สวมใส่รู้สึกร่างกายเบาขึ้นเล็กน้อย
น้ำหนัก : 1
[ ไอเท็มเกรดแรร์ถูกสร้างขึ้น ค่าสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น 2 แต้มเป็นการถาวร ค่าชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 30 แต้ม ]
การพัฒนาของทักษะตีเหล็กส่งผลให้กริดได้รับผลข้างเคียงร้ายแรง เขาจะไม่ได้รับโบนัสแต้มสถานะจากการผลิตไอเท็ม ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเกรดแรร์หรืออีปิกมากมายสักเพียงใด
แต่นั่นเป็นเรื่องของการตีเหล็ก ทักษะด้านตัดเย็บที่ยังมีระดับเพียงขั้นกลาง จะมอบโบนัสแต้มสถานะทุกครั้งที่สร้างไอเท็มเกรดแรร์ขึ้นไป
“จังหวะแหละ!”
ชายหนุ่มเป็นปลื้มสุดขีดเมื่อได้รับแต้มสถานะทุกชนิดฟรีเป็นจำนวนสอง เขามั่นใจว่าในวินาทีนี้ เทพแห่งโชคกำลังสถิตย์อย่างแนบแน่นอยู่ในร่างกาย ชายหนุ่มตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงดังกังวาล
“ช่างตีเหล็ก! ในตำนาน! ตรวจสอบ!”
“...”
หลากหลายท่าของผู้สืบทอดแพ็กม่าต้องเปล่งเสียงเอ่ยชื่ออย่างน่าอับอาย แต่กริดก็ไม่แยแสอีกต่อไป จุดแห่งความชินชาได้เกิดขึ้นนับตั้งแต่เขาต้องตะโกน ‘ผสานไอเท็ม’ ต่อหน้าผู้คนมากมายในอดีต ใบหน้ากริดตอนนี้ถึงทนไม่ต่างจากฉาบด้วยเหล็กกล้า
แต่ผู้ที่ต้องแบกรับความอับอายแทนคือคนใกล้ตัว สติกส์กำลังหน้าแดงก่ำอย่างปวดจิต เขาใช้มือทั้งสองข้างกุมศีรษะด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ
[ ท่านตรวจสอบไอเท็มด้วยดวงตาแห่งช่างตีเหล็ก หากมีคุณสมบัติลับซ่อนอยู่ มันจะไม่มีวันหลุดรอดสายตาไปได้ ]
ชิ้ง—
[ ถุงมือว่องไวของอเล็กซ์ (สร้างโดยแพ็กม่า)]
เกรด : เลเจนดารี
ความคงทน : 60/340
พลังป้องกัน : 130
* ความเร็วโจมตีปรกติเพิ่มขึ้น 3 เท่า
ถุงมือที่สร้างโดยแพ็กม่า ช่างตีเหล็กในตำนานและผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล
สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชยจุดอ่อนของอัศวินความตายอเล็กซ์ ผู้พิทักษ์หมู่เกาะเบเฮ็นหมายเลข 62
น้ำหนัก : 66
“สองเท่า...”
ไม่สิ
“ไม่ใช่สอง...แต่เป็นสามเท่า”
หัวใจกริดแทบหยุดเต้น
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,135
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
มหกรรมระเบิดแน่นอน
ReplyDeleteฟัน4ครั้งต่อวินาที โหดเกินปุ้ยมุ้ย
ReplyDelete