จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 677


    “สามารถเอาชนะอเล็กซ์ได้อย่างที่กระผมคิดไว้  ฝ่าบาทยอดเยี่ยมมาก”

    สติกส์กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม  ด้านกริดเองก็เช่นกัน  คนทั้งสองมีจุดมุ่งหมายคล้ายคลึงกันมาก  คือหวังข้ามผ่านอุปสรรคลูกใหญ่ตรงหน้าให้ได้  
    อุปสรรคของกริดคือการท้าทายตนเองเพื่อแข็งแกร่งขึ้น  ส่วนอุปสรรคของสติกส์คือการชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นให้กลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง  ซึ่งสติกส์เฝ้ารอเวลานี้มานานหลายสิบปีแล้ว  กริดเปรียบดังแสงสว่างที่กำลังส่องเจิดจรัสปลายอุโมงค์

    ขณะเดียวกัน  ความตื่นเต้นบนสีหน้ากริดเริ่มจางหายทีละนิด

    “สติกส์  ฉันเข้าใจแล้ว  ถึงสาเหตุที่นายคิดว่าฉันสามารถชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นทั้งหมดได้ด้วยพลังปัจจุบัน”  

    ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่น  
    “นักล่าอสูรอเล็กซ์ไม่สามารถใช้ทักษะส่วนใหญ่สมัยยังมีชีวิตอยู่ได้สินะ”

    “...”

    จากสิ่งที่ยูร่าแสดงให้เห็นเมื่อครั้งเผชิญหน้าจอมอสูรบีเลียล  ทักษะโจมตีของนักล่าอสูรทั้งหลากหลายและรุนแรง  โดยเฉพาะความสามารถในการสะกดเผ่าอสูร  หากอเล็กซ์ยังหลงเหลือพลังเหล่านั้น  กริดในร่ายมืดคงไม่อาจสำแดงเดชแน่

    แต่อเล็กซ์เมื่อครู่กลับใช้เพียงกระสุนระเบิดและการซุ่มโจมตี  ถึงแม้จะพลิกแพลงกลยุทธ์ด้วยการสลับโหมดปืนก็ตาม  แต่อเล็กซ์ก็ไม่ได้ใช้ทักษะสำหรับสะกดเผ่าอสูรให้เห็นเลยสักชนิด
    เช่นเดียวกันกับลันเทียร์ที่กริดพ่ายแพ้  ในหนแรก  เขาลืมคิดเรื่องนี้ไปสนิท  เพราะตนเสียชีวิตในพริบตาโดยไม่เป็นอันทำสิ่งใด  
    แต่หากมองย้อนกลับไป  ลันเทียร์ใช้เพียงทักษะล่องหนเท่านั้น  มิได้ใช้ท่าโจมตีอื่นใดที่ทรงพลังสักอย่างเดียว

    “...พวกเขาแทบไม่เหลือทักษะโจมตีเลยหลังจากกลายเป็นอัศวินความตาย”

    ทั้งค่าสถานะและเลเวลก็ดูเหมือนจะลดลงจากเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่มาก  แถมยังใช้ทักษะไม่ได้อีก  
    แม้อัศวินความตายอเล็กซ์จะอ่อนแอกว่าตัวจริงสมัยยังมีชีวิตราวสิบถึงร้อยเท่า  แต่ตัวตนที่อ่อนแอเช่นนั้นกลับบีบให้กริดต้องใช้งานประกันชีวิตอมตะออกมา

    ‘นี่คือเหตุผลที่สติกส์บอกว่าเราสามารถชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็น...’

    หมับ!

    กริดพลันกำหมั่นแน่น  กำปั้นของเขากำลังสั่นระริก  ศักดิ์ศรีของชายหนุ่มถูกระคายเคืองอย่างหนัก

    ‘เราไม่ได้แข็งแกร่งเทียบเท่าตำนานคนก่อน...เพียงแค่พวกเขาอ่อนแอลงต่างหาก’

    สติกส์จ้องมองร่างกายที่สั่นเทาของกริด  
    จากนั้นก็กล่าวต่อไปโดยไม่ปฏิเสธ

    “ถูกต้อง  อัศวินความตายของเหล่าตำนานจะอ่อนแอกว่าสมัยยังมีชีวิตอยู่มาก  แถมยิ่งอ่อนแอลงเมื่อแพ็กม่าผู้เป็นนายหายไป ด้วยความสัตย์จริง  อัศวินความตายของคนเหล่านี้ไม่ควรค่ากับคำว่าตำนาน  นั่นคือสาเหตุที่ผมคิดว่าฝ่าบาทสามารถเอาชนะได้”
    
    “...เฮ่อ”

    กริดได้แต่ถอนหายใจยาว  ความกระตือรือต้นก่อนหน้าได้ดับมอดลงอย่างสมบูรณ์ 
    ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น  ชายหนุ่มสูญเสียประกันชีวิตอมตะไปกับตัวตนที่ไม่ใช่ตำนาน  เขาเสียไพ่ตายไปกับศัตรูที่ไม่จำเป็นต้องเสีย  
    ถ้าไม่มีประกันชีวิตอมตะ  เขาจะพ่ายแพ้โครงกระดูกที่แทบไร้ทักษะโจมตี
    มีสิ่งใดน่าอับอายยิ่งกว่านี้อีกหรือ

    ‘ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้...’

    กริดเริ่มตระหนักแล้วว่า  เขาพึ่งพาการมีอยู่ของประกันชีวิตอมตะมากเกินไป

    ‘นี่ไม่ใช่พลังแห่งไอเท็มแล้ว  แต่เป็นพลังแห่งความอมตะ...เราไม่ควรเรียกตัวเองว่าราชาโอเวอร์เกียร์ด้วยซ้ำ  นี่เราเป็นราชาอมตะรึไง’

    กริดอาจไม่รู้ตัวว่า…ราชาอมตะฟังดูเท่กว่าราชาโอเวอร์เกียร์ตั้งเยอะ  
    ช่างน่าเศร้า
    ขณะเดียวกัน  ชายหนุ่มย้อนนึกกลับไปเมื่อครั้งสู้กับแอ็กนัส

    ‘ตอนนั้นก็เหมือนกัน  ถ้าเราไม่มีประกันชีวิตอมตะ  ป่านนี้คงพ่ายแพ้แอ็กนัสต่อหน้าคนทั้งโลกไปแล้ว’

    ในวินาทีนี้  กริดพลันตระหนักได้

    ‘ไม่ใช่แค่แอ็กนัส...แต่ศัตรูที่เราดวลชนะมาตลอดตั้งแต่อดีต  เกือบทั้งหมดเพราะได้ประกันชีวิตอมตะช่วยไว้  ไม่ใช่เพราะเราแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่าย’

    ประกันชีวิตอมตะถือเป็นสิทธิพิเศษของผู้เล่นคลาสเลเจนดารีทุกคน  ไม่มีใครกล่าวโทษกริดที่พึ่งพามันในการต่อสู้  ในเมื่อเป็นทักษะที่สามารถใช้ได้อย่างถูกต้องตามกฏของซาทิสฟาย  การใช้งานทุกทักษะที่มีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนับเป็นฝีมือชนิดหนึ่ง
    แต่กริดกลับมองต่าง
    
    ‘การพึงพาอมตะมีแต่จะเป็นพิษร้าย’

    ความคิดที่ว่า ‘ยังไงเราก็ไม่ตาย  เพราะเรายังมีประกันชีวิตอมตะ’ ได้ฝังรากลึกลงในจิตสำนึกกริดมาแสนนาน  เขาได้ตั้งกฏกับตัวเองไว้ว่า ‘ถ้าไม่มีอมตะ  ห้ามสู้เด็ดขาด’  
    หากตนไม่รีบแก้นิสัยนี้โดยเร็ว  สักวันมันกลายเป็นพิษร้ายที่กัดกินพัฒนาการ

    เป็นการตีความที่ถูกต้องอย่างน่าเหลือเชื่อ  กริดอาจไม่รู้ตัวว่า  เขาเป็นหนึ่งในน้อยคนที่สามารถตระหนักถึงจิตใต้สำนึกบกพร่องและพยายามแก้ไข  จะมีสักกี่คนบนโลกที่ยอมรับข้อเสียซึ่งฝังรากในก้นบึ้งจิตใจและคิดแก้ไขอย่างจริงจัง
    ยกตัวอย่างเช่นนักเขียน  นักเขียนหลายคนชอบอ้างว่า ‘ถ้าไม่สูบบุหรี่จะคิดงานไม่ออก’ สิ่งนี้คือข้ออ้างในจิตใต้สำนึกที่ผิด  ส่งผลให้บุคคลเหล่านั้นมิอาจเลิกบุหรี่ได้ตลอดชีวิต  หรือว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว  
    ด้วยเหตุนี้  กริดจึงถือเป็นกรณีพิเศษอย่างแท้จริง
    
    “แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น...”

    ขณะกริดกำลังดำดิ่งในภวังค์ความคิด  เสียงพูดของสติกส์ได้ดังเล็ดลอดเข้ามายังโสตประสาท  ก่อนหน้านี้  สติกส์คือผู้บอกความจริงที่น่าเจ็บใจแก่กริด  แต่ปัจจุบัน  เขากำลังปลอบโยนด้วยรอยยิ้มแสนสดใส

    “อัศวินความตายจะอ่อนแอกว่าสมัยเป็นตำนานก็จริง  แต่ตำนานทุกคนล้วนเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่เคยสร้างคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่กับโลกเมื่อครั้งยังมีชีวิต  ต่อให้อัศวินความตายของพวกเขาอ่อนแอลง  แต่ในปัจจุบัน  มีเพียงน้อยคนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะอัศวินความตายบนเกาะได้”
    นี่คือสิ่งที่สติกส์ต้องการสื่อ
    “อย่าได้เข้าใจผิดไป  เหตุผลที่กระผมคิดว่าฝ่าบาทสามารถชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นสำเร็จ  มิใช่เพราะอัศวินความตายเหล่านี้อ่อนแอ  แต่เป็นเพราะฝ่าบาทคือผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงต่างหาก  จงยืดอกภูมิใจได้เลย”

    “...”

    “อย่าลืมสิ  แม้แต่ชายที่ชื่อแอ็กนัสคนนั้นก็ยังมิอาจเอาชนะอเล็กซ์ได้”

    เมื่อครู่คือคำเยินยอจากจอมปราชญ์  หากเป็นกริดคนเก่า  เขาคงมีความสุขจนฉีกยิ้มกว้างถึงใบหูพร้อมกับเกาแก้มอย่างเคอะเขิน
    แต่กริดปัจจุบันมิใช่ผู้ที่ยอมรับคำชมพื้นฐานเช่นนี้  เขาต้องการพัฒนาตนเองไปให้ไกลที่สุด

    ชายหนุ่มกล่าวอย่างไม่ยินดียินร้ายกับคำชม
    “ฉันอาจดูดีหากนำไปเทียบกับคนธรรมดา  แต่ฉันมีโชคชะตาที่ต้องรับมือกับอสูรกายอีกนับไม่ถ้วนในอนาคต”

    จอมอสูร  ผู้มาพร้อมพลังที่สามารถทำลายโลกมนุษย์ได้ทุกเมื่อ
    แอ็กนัส  ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล  
    จักรวรรดิซาฮารัน  ผู้ปกครองอันดับหนึ่งแห่งทวีปตะวันตก  
    อาเรส  ผู้สามารถขยายพลังอำนาจได้อย่างไร้ขีดจำกัด
    อริยดาบครอเกล  ผู้สืบทอดพลังของตำนานอันดับหนึ่งในอดีต
    และยังบันแห่งทวีปตะวันออก...

    ยังมีเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์  พวกเขามิได้ด้อยพรสวรรค์  ทุกคนเป็นทั้งพวกพ้องและคู่แข่งที่ดี  หากเมื่อใดตนหยุดอยู่กับที่  เกรงว่าอาจถูกทิ้งไว้ด้านหลังตามลำพัง

    ‘ไม่ได้เด็ดขาด...’

    กริดมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะกลายเป็นอันดับหนึ่ง  เขาเชื่อว่าสิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ 
    นี่คือความมั่นใจในตัวเองอย่างแรงกล้าครั้งแรกนับแต่เกิดมา 
    
    “เฮ่อ...”  ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก  ดวงตากำลังสงบนิ่งไม่สั่นไหว
    “ตั้งแต่เกาะถัดไป  ฉันจะเอาชนะโดยไม่พึ่งพาประกันชีวิตอมตะ”

    “…!”

    ร่างกายสติกส์พลันกระตุก  เขารู้ดีว่า  บัฟอมตะของตำนานจะมีระยะหน่วงหนึ่งวัน

    “นี่ฝ่าบาทคิดจะลุยเกาะหมายเลข 63 ต่อเลยงั้นหรือ”

    โดยไม่มีประกันชีวิตอมตะเนี่ยนะ...
    สติกส์รู้สึกทึ่งในความตั้งใจของกริด

    “นายคิดว่าฉันบ้ารึไง” กริดขมวดคิ้ว
    “ใครจะโง่ถึงขนาดท้าทายบอสสุดหินโดยที่ทักษะของตัวเองไม่พร้อมบ้าง...ไว้ค่อยเริ่มพรุ่งนี้ก็แล้วกัน”

    กริดลั่นวาจาว่า  ‘เขาจะเลิกพึ่งพาประกันชีวิตอมตะ’  แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสู้โดยที่ไม่มีมัน

    “ตายฟรีมันไม่มีประโยขน์หรอกนะ...”

    “...”

    สมกับเป็นกริด  ชายคนนี้ไม่คิดเอาชีวิตไปเสี่ยงแม้เพิ่งจะประกาศกร้าวหนักแน่นเมื่อครู่  ศักดิ์ศรีที่แสนโอหังสามารถแปรเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์อย่างเหมาะสม 
    ไม่หัวรั้นและทรนงถึงขั้นยอมทำลายอนาคตตัวเอง  แม้ไม่ใช่สิ่งที่น่าอวด  แต่หากมองจากหลักความจริง  ความคิดและการกระทำของกริดล้วนเปี่ยมด้วยความสมเหตุสมผล

    ‘สมกับเป็นกษัตริย์ของอาณาจักร’

    ทันใดนั้น  ชายหนุ่มได้นำชุดเย็บปักออกมาถือพร้อมนั่งลงเตรียมสร้างกางเกงใน

    ***

    “...”

    อีกหนึ่งระบบที่น่าตื่นเต้นในเกมออนไลน์คือ ‘ไอเท็มดรอป’ 
    ชายหนุ่มจะรีบตรวจสอบไอเท็มดรอปทุกครั้งหลังจากปราบบอสแข็งแกร่งสำเร็จ  รวมถึงทุกครั้งที่สร้างไอเท็มด้วยวัสดุชั้นเลิศ  
    ก่อนตรวจสอบก็มักสวดภาวนาให้มันมีออปชั่นเริศหรูอลังการอยู่เสมอ
    แต่สำหรับไอเท็มดรอปจากอเล็กซ์  เขากลับไม่รีบเช็คมันในทันที  
    สาเหตุมาจากความหวาดกลัว...

    ‘อัศวินความตายอเล็กซ์ค่อนข้างอ่อนแอ’

    แม้อดีตอาจยังเป็นปริศนา  แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ  อัศวินความตายอเล็กซ์อ่อนแอเกินกว่าจะถูกยกย่องให้เป็นตำนาน  
    แน่นอนว่านี่เป็นความแข็งแกร่งเมื่อนำไปเทียบกับตำนานคนก่อนสมัยยังมีชีวิตอยู่  ในบรรดาผู้เล่นปัจจุบัน  คนที่สามารถเอาชนะอัศวินความตายอเล็กซ์ได้คงมีเพียงครอเกลและกริด  เขานับเป็นมอนสเตอร์บอสที่แข็งแกร่งมากตนหนึ่ง
    แต่คำพูดของสติกส์ได้ตอกย้ำความคิดในใจกริดว่า  อัศวินความตายอเล็กซ์คือตัวตนที่ ‘อ่อนแอ’  และไอเท็มดรอปจากบอสอ่อนแอก็คงไม่ยอดเยี่ยมเท่าไรนัก
    ลงเอ้ยด้วย…

    “...”

    กริดยังไม่ตรวจสอบรายละเอียดไอเท็มแม้จะผ่านมาแล้วสี่ชั่วโมง  เวลาที่ล่วงเลยหมดไปการเย็บปักกางเกงในอย่างต่อเนื่อง  
    เขาไม่มีความกล้ามากพอจะตรวจสอบ  กริดยังไม่พร้อมเผชิญหน้าความผิดหวังในตอนนี้

    สติกส์เริ่มแสดงท่าทีกระวนกระวายใจ

    “ลองตรวจสอบคุณสมบัติปืนกับถุงมือของอเล็กซ์ก่อนไหม  กระผมมั่นใจว่ามันต้องเป็นไอเท็มคุณภาพสูงแน่”

    “รอก่อน...ขอสร้างกางเกงในอีกตัว”

    “...”

    เพื่ออะไร…
    สติกส์ไม่เข้าใจกริดเลยสักนิดเดียว  
    แต่ถ้าผู้เล่นเกมออนไลน์  แทบทุกคนต้องเข้าใจความรู้สึกกริดแน่

    ‘ถ้ากางเกงในตัวนี้ออกมาเป็นเกรดแรร์  เราจะตรวจสอบรายละเอียดไอเท็มทันที!’

    กางเกงในสี่ตัวที่ผ่านมาล้วนเป็นเกรดทั่วไปทั้งหมด  สาเหตุเกิดจากเลเวลตัดเย็บที่ยังต่ำติดดิน  แต่ชายหนุ่มกลับคิดว่าสิ่งนี้เป็นเพราะตนโชคร้าย

    ‘ทักษะตัดเย็บขั้นกลางจะผลิตกางเกงในได้สูงสุดเกรดแรร์...หากกางเกงในชิ้นต่อไปออกมาเป็นเกรดแรร์  หมายความว่าเทพแห่งโชคได้สถิตย์อยู่กับเรา!’

    จะเกิดอะไรขึ้นหากตรวจสอบไอเท็มในขณะที่เทพแห่งโชคกำลังสถิตย์…

    ‘เกรดของไอเท็มจะเพิ่มขึ้น!  แถมยังมีออปชั่นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชนิด!’

    แน่นอนว่า  นี่คือทฤษฏีบ้าบอคอแตกที่ไม่มีเหตุผลใดในโลกรองรับ  เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่พยายามหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ
    เฉกเช่นการเสริมแกร่งในช่วงเวลาและสถานที่เฉพาะเจาะจง  การทำเช่นนี้จะให้ผลเสริมแกร่งที่ดีกว่า  นั่นคือความเชื่อของกลุ่มผู้เล่นบางส่วน
    แต่ในบางครั้ง  มนุษย์ก็ต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ  โดยเฉพาะยามเผชิญหน้ากับระบบ ‘เสี่ยงดวง’ ที่ต้องวิงวอนพระเจ้า 

[ ท่านสำเร็จการสร้างกางเกงใน ]
[ ด้วยผลของทักษะตัดเย็บขั้นกลาง  ท่านสร้างกางเกงในเกรดแรร์สำเร็จ!  มีโอกาสเล็กน้อยที่จะเพิ่มออปชั่นในไอเท็ม ]

    ชิ้ง—

[ กางเกงในสะอาด ]
เกรด : แรร์
ความคงทน : อนันต์
พลังป้องกัน : 5
* ความว่องไว +1
    ไม่มีคุณสมบัติใดโดดเด่นเป็นพิเศษ  แต่กางเกงในตัวนี้เบาสบายอย่างมาก  ส่งผลให้ผู้สวมใส่รู้สึกร่างกายเบาขึ้นเล็กน้อย
น้ำหนัก : 1

[ ไอเท็มเกรดแรร์ถูกสร้างขึ้น  ค่าสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น 2 แต้มเป็นการถาวร  ค่าชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 30 แต้ม ]

    การพัฒนาของทักษะตีเหล็กส่งผลให้กริดได้รับผลข้างเคียงร้ายแรง  เขาจะไม่ได้รับโบนัสแต้มสถานะจากการผลิตไอเท็ม  ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเกรดแรร์หรืออีปิกมากมายสักเพียงใด  
    แต่นั่นเป็นเรื่องของการตีเหล็ก  ทักษะด้านตัดเย็บที่ยังมีระดับเพียงขั้นกลาง  จะมอบโบนัสแต้มสถานะทุกครั้งที่สร้างไอเท็มเกรดแรร์ขึ้นไป

    “จังหวะแหละ!”

    ชายหนุ่มเป็นปลื้มสุดขีดเมื่อได้รับแต้มสถานะทุกชนิดฟรีเป็นจำนวนสอง  เขามั่นใจว่าในวินาทีนี้  เทพแห่งโชคกำลังสถิตย์อย่างแนบแน่นอยู่ในร่างกาย  ชายหนุ่มตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงดังกังวาล

    “ช่างตีเหล็ก! ในตำนาน! ตรวจสอบ!”

    “...”

    หลากหลายท่าของผู้สืบทอดแพ็กม่าต้องเปล่งเสียงเอ่ยชื่ออย่างน่าอับอาย  แต่กริดก็ไม่แยแสอีกต่อไป  จุดแห่งความชินชาได้เกิดขึ้นนับตั้งแต่เขาต้องตะโกน ‘ผสานไอเท็ม’ ต่อหน้าผู้คนมากมายในอดีต  ใบหน้ากริดตอนนี้ถึงทนไม่ต่างจากฉาบด้วยเหล็กกล้า
    แต่ผู้ที่ต้องแบกรับความอับอายแทนคือคนใกล้ตัว  สติกส์กำลังหน้าแดงก่ำอย่างปวดจิต  เขาใช้มือทั้งสองข้างกุมศีรษะด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ

[ ท่านตรวจสอบไอเท็มด้วยดวงตาแห่งช่างตีเหล็ก  หากมีคุณสมบัติลับซ่อนอยู่  มันจะไม่มีวันหลุดรอดสายตาไปได้ ]

    ชิ้ง—

[ ถุงมือว่องไวของอเล็กซ์ (สร้างโดยแพ็กม่า)]
เกรด : เลเจนดารี
ความคงทน : 60/340  
พลังป้องกัน : 130
* ความเร็วโจมตีปรกติเพิ่มขึ้น 3 เท่า
    ถุงมือที่สร้างโดยแพ็กม่า  ช่างตีเหล็กในตำนานและผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล
    สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชยจุดอ่อนของอัศวินความตายอเล็กซ์  ผู้พิทักษ์หมู่เกาะเบเฮ็นหมายเลข 62
น้ำหนัก : 66
    
    “สองเท่า...”

    ไม่สิ

    “ไม่ใช่สอง...แต่เป็นสามเท่า”

    หัวใจกริดแทบหยุดเต้น

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,135
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. มหกรรมระเบิดแน่นอน

    ReplyDelete
  2. ฟัน4ครั้งต่อวินาที โหดเกินปุ้ยมุ้ย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00