จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 660



    "เสียงเย้ยหยันของเบนทาโอ"

    "...!!"

    กริดต้องเผชิญกับเหตุการณ์ประหลาดเมื่อแอ็กนัสใช้ทักษะพิสดาร

    ฮิฮิฮิฮิฮิฮิฮิ!

    ชายหนุ่มเห็นภาพหลอนของตัวตลกอ้วน

[ ท่านได้ยินเสียงหัวเราะอันชั่วร้ายของเบนทาโอ  ท่านมิอาจสงบใจอยู่ได้ ]
[ ท่านสูญเสียความเยือกเย็น  ทักษะที่กำลังแสดงผลจะถูกยกเลิกทั้งหมด ]
[ ราชาตัวตลกคลั่ง <เบนทาโอ> กำลังอาละวาด  ท่านมิอาจต้านทาน ]
[ ท่านจะตกอยู่ในอาการ <คลุ้มคลั่ง> เป็นเวลา 1 นาที ]
[ ขณะคลุ้มคลั่ง  พลังโจมตีของท่านจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย  แต่พลังป้องกันจะลดลงเล็กน้อย  ยิ่งไปกว่านั้น  ความเร็วในการร่ายทักษะและทรัพยากรที่ใช้จะเพิ่มขึ้นหลายเท่า  ]
[ ขณะท่านกำลังสูญเสียความเยือกเย็น  เบนทาโอใช้ฝ่ามือสัมผัสตัวท่าน  พลังชีวิตของท่านจะสลับกับพลังชีวิตของผู้ใช้งานเบนทาโอ ]

[ พลังชีวิต 49,300 หน่วย  กลายเป็น 819 หน่วย ]    

    'อะไรกัน...'

    สลับพลังชีวิตเนี่ยนะ...ทักษะขี้โกงอะไรขนาดนี้!
    ชายหนุ่มได้แต่ยืนอึ้ง  
    เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  พลังชีวิตของกริดถูก 'สลับ'  มิใช่ได้รับความเสียดาย
    ส่งผลให้พลังทีราเม็ทและสมญานามกษัตริย์คนแรกไม่ทำงาน

    ฉึก!

[ ท่านได้รับความเสียหาย 1,930 หน่วย ]
[ ผู้เป็นตำนานย่อมไม่ตายโดยง่าย  ท่านจะเข้าสู่ภาวะอมตะเป็นเวลา 5 วินาทีด้วยพลังชีวิต 1 หน่วย ]

    "...!!"

    ด้วยช่องว่างเสี้ยววินาทีระหว่างที่กริดสูญเสียความเยือกเย็น  แอ็กนัสเสียบดาบใส่หลังกริดอย่างแม่นยำรุนแรง  
    ผู้สืบทอดแพ็กม่าได้สูญเสียประกันชีวิตแสนสำคัญไปเรียบร้อยแล้ว

    'บัดซบ!'

    ระยะเวลาอมตะคือห้าวินาที
    ชายหนุ่มกวัดแกว่งอาวุธอย่างมั่วซั่ว  แต่แน่นอนว่าไม่ได้มั่วซั่วขนาดนั้น
    กริดผ่านประสบการณ์ต่อสู้มากมายนับไม่ถ้วน  ต่อให้สมองสูญเสียความเยือกเย็นและไม่คิดคำนวน  แต่ร่างกายย่อมรู้จังหวะการโจมตีตามธรรมชาติ

    กริดโจมตีแอ็กนัสด้วยท่าทางแสนพื้นฐาน
    เป็นการผสานระหว่างโจมตีธรรมดาและทักษะ  โดยเน้นไปที่ความแม่นยำให้โดนตัวแอ็กนัส
    แต่ปัญหาคือดีบัฟ <คลุ้มคลั่ง> ที่ได้รับ  
    สิ่งนี้ทำให้วิชาดาบแพ็กม่าใช้งานได้ช้าลงมาก  กลายเป็นหนึ่งถึงสองวินาทีในแต่ละการรำดาบ
    กริดทำสิ่งใดก็เชื่องช้าไปเสียหมด  ไม่มีทางสร้างรอยขีดข่วนให้แอ็กนัสได้เลย
    
    "ฮะฮะ!  พอไม่ได้เอาเปรียบคนอื่นแล้วกระจอกขนาดนี้เชียว..."

    กริดเริ่มลนลานเมื่อถูกแอ็กนัสขัดขวางการรำดาบทุกครั้ง
    รอยยิ้มบนใบหน้าแอ็กนัสเริ่มจางหาย  
    ศัตรูของมันพยามหลบหลีกการโจมตีอย่างทุลักทุเล
    แอ็กนัสหมดความสนใจในตัวกริดโดยสิ้นเชิง  

    ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น...
    
    แอ็กนัสมีดีบัฟอยู่สามชนิด
    อาการผิดปรกติที่ส่งผลให้ศัตรูขยับร่างกายไม่ได้
    อาการใบ้ที่ส่งผลให้ศัตรูไม่สามารถใช้ทักษะใดได้
    และอาการสับสนที่ส่งผลให้ร่างกายของศัตรูเคลื่อนไหวไปเอง
    
    ไม่มีใครไม่เคยถูกดีบัฟของแอ็กนัสเล่นงาน

    แล้วกริดล่ะ...
    ชายคนนี้คือผู้ที่พึ่งพาทักษะติดตัวสุดโกงอย่าง <ไม่ตกอยู่ในอาการผิดปรกติทั้งหมด> มานานแรมปี
    กริดไม่เคยต้องหาวิธีรับมือเมื่อถูกอาการผิดปรกติเล่นงาน  
    ไม่เคยเลยสักครั้ง...
    ส่งผลให้เมื่อเขาตกอยู่ภายใต้ดีบัฟของแอ็กนัส  การเคลื่อนไหวที่แสดงออกมาจึงเลวร้ายยิ่งกว่าใครทั้งหมด
    
    "...แกชนะครอเกลได้จริงหรือ"

    บึ้ม!

    แอ็กนัสหลบการโจมตีสุดกระจอกของกริด  
    จากนั้นมันเหยียดปลายนิ้วออกไปเพื่อยิงระเบิด
    แต่กริดหลบได้ฉิวเฉียด

    "ฮึ่ม!"

    ในขณะที่เวลาเหลือน้อยเต็มที  
    ยิ่งแอ็กนัสสร้างระยะห่างหนี  กริดก็ยิ่งหงุดหงิด

    แอ็กนัสขมวดคิ้วอย่างผิดหวัง

    "แกมันกระจอกขนานแท้   ถึงกับไปไม่เป็นขนาดนี้เชียวหรือ...ฉันไม่น่าใช้เสียงเย้ยหยันของเบนทาโอตั้งแต่แรก"

    ใช่แล้ว  ผลที่น่ากลัวที่สุดของเสียงเย้ยหยันเบนทาโอคือการสลับพลังชีวิต
    ดีบัฟคลุ้งคลั่งไม่ใช่สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อผู้เล่นคนอื่นมากนัก
    แอ็กนัสต่อสู้กับแร้งเกอร์แข็งแกร่งทั่วโลกมากมาย  และมันก็สังหารจนเรียบทั้งหมด
    แร้งเกอร์เหล่านั้นต่อกรกับเสียงเย้ยหยันเบนทาโอได้ดีกว่ากริดมาก
    
    ชายคนนี้ก็แค่ขยะที่ไม่สมควรนำไปเทียบชั้นครอเกลหรืออาเรส

    "แกมันของปลอม"

    ผู้เล่นคนแรกที่ได้เป็นกษัตริย์งั้นหรือ...ช่างน่าขัน
    นั่นเพราะผลของคลาสต่างหาก

    ลำพังตัวกริดไม่มีค่าอันใดเลย
    แอ็กนัสรู้สึกผิดหวังอย่างหนัก  
    มันเหยียดแขนออกไปหากริดที่กำลังปรี่เข้ามาใกล้

    ทันใดนั้น...

    บึ้มบึ้มบึ้ม!

    หนึ่งในสมญานามของบาเอล...<ราชานักทำลาย>
    การโจมตีปรกติของแอ็กนัสจะกลายเป็นการโจมตีระยะไกลที่แฝงผลระเบิด
    แม้สิ่งนี้จะเป็นเพียงชั่วคราว  แต่ก็มากพอทำให้กริดมิอาจประชิดตัวแอ็กนัสได้ในช่วงเวลาที่ประกันชีวิตใกล้หมดลง
    
    บัฟอัมตะเหลือเพียง 1 วินาทีเท่านั้น
    ในเสี้ยววินาทีสุดท้าย  กริดเล็งบางสิ่งไว้

    บึ้ม!

[ ท่านได้รับความเสียหาย 1,400 หน่วย ]
[ พลังชีวิตของท่านต่ำกว่า 10%  พลังทีราเม็ทแสดงผล  ท่านฟื้นฟูพลังชีวิต 30% ในทันที ]
[ บัฟอมตะหมดลง ]

    กริดหลบหลีกการโจมตีของแอ็กนัสได้ตลอดห้าวินาที  และจงใจปล่อยให้ถูกโจมตีในหนึ่งวินาทีสุดท้าย  
    เขาให้พลังทีราเม็ททำงานได้เกิดประสิทธิภาพคุ้มค่าที่สุด

    ซู่ว!

    พลังชีวิตมิดหลอดของกริดถูกฟื้นฟูกลับมาหนึ่งในสาม
    ไม่เพียงเท่านั้น  นับตั้งแต่ได้เป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า  กริดสร้างไอเท็มขึ้นมากมายนับไม่ถ้วน  ส่งผลให้ค่าสถานะ 'ความเยือกเย็น' อยู่ในระดับสูงลิบลับ  
    
    ค่าความเยือกเย็นจะส่งผลให้ผู้เล่นพื้นฟูจากอาการผิดปรกติเร็วขึ้น  
    แต่ก่อนหน้านี้มันไม่เคยมีประโยชน์ต่อกริดเลยสักครั้ง  
    เพราะชายหนุ่มแทบไม่เคยตกอยู่ในอาการผิดปรกติมาก่อน

    แต่ในเสี้ยวจังหวะนี้

[ ท่านกลับมาสุขุมเยือกเย็นดังเดิม ]
[ ท่านหลุดพ้นจากอาการคลุ้มคลั่ง ]

    "วิชาดาบแพ็กม่า...มายาร่ายรำ!"

    ฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!

    กริดกระหน่ำโจมตีแอ็กนัสด้วยทักษะระยะกลางที่มีพลังทำลายสูง
    
    "...!"

    แอ็กนัสประหลาดใจเล็กน้อย  เมื่อจู่ๆ รัศมีดาบหลายสิบเส้นได้พุ่งล้อมร่างกายตน
    แม้เหล่าแร้งเกอร์ระดับท็อปจะมีหลุดจากอาการผิดปรกติได้ไว  
    แต่กริดกลับพิเศษกว่าคนทั่วไปมาก

    'เพราะเป็นคลาสสายผลิตอย่างนั้นหรือ...'

    กริดสามารถเร่งเพิ่มค่าความเยือกเย็นได้มากกว่าคนอื่นหลายเท่าเพราะเป็นคลาสสายผลิต
    คลาสสายต่อสู้ทั่วไปต้องดินรนอย่างยากลำบากในการจะเพิ่มค่าความเยือกเย็นแต่ละแต้ม

    "แล้วมันยังไงล่ะ..."

    แอ็กนัสยังคงมีสีหน้าเฉยชาไร้รอยยิ้ม
    มันผิดหวังในตัวกริดไปแล้ว  
    มันมิอาจสัมผัสถึงความน่าตื่นเต้นจากกริดได้อีก

    ซู่ววววว!

    คลื่นเวทมนตร์อันทรงพลังจากลิชของแอ็กนัส  ได้พุ่งกระหน่ำปะทะกับรัศมีดาบของกริดจนเกิดพายุหมุนวนเกรี้ยวกราดไปทั่วบริเวณ
    สนามรบพังพินาศเละเทะ

    ***

    "กริด!"

    จิสึกะพลันหน้าซีดเมื่อเห็นพลังชีวิตของกริดในหน้าต่างปาร์ตี้ลดวูบลงกระทันหัน
    เธอต้องการไปช่วยกริดเสียประเดี๋ยวนี้  แต่นั่นย่อมเป็นไปไม่ได้
    อุปสรรคของเธอคือผู้เล่นที่ชื่อแบล็ค

    "มองไปทางไหนกัน..."

    เปรี้ยงงง!

    แบล็คสร้างร่างลวงตาจอมเวทขึ้น  เป็นจอมเวทอัสนี
    มันโหมกระหน่ำปล่อยพายุสายฟ้าใส่จิสึกะโดยไม่ปล่อยให้เธอพักหายใจ
    สิ่งนี้ถือเป็นของแสลงสำหรับคลาสนักนูที่มีร่างกายเปราะบาง

    "อึก!"

    จิสึกะเปิดช่องว่างหลังจากถูกไฟฟ้าช็อตจนชะงัก
    ในเสี้ยววินาทีนี้  แบล็คได้บังคับร่างลวงตานักรบพุ่งโจมตีใส่  
    แต่การโจมตีของมันก็ไม่สัมฤทธิ์ผล  
    ป็อนเข้ามาปัดป้องไว้ได้ทัน

    "ฝนหอกกระหน่ำ!"

    เป๊ง! เป๊ง! เป๊ง! เป๊ง! เป๊ง!

    แบล็คสั่งให้ร่างลวงตานักรบควงหอกปัดป้องฝนหอกจากป็อน  
    
    ปัจจุบันป็อนกำลังควบอาชาสีขาวเด่นสง่า  
    เขาจ้องมองแบล็คด้วยสีหน้าเย็นชาและไม่แยแส

    "พวกผู้ชายล้วนเลวทรามเหมือนกันหมด...!  เอาอกเอาใจแต่ผู้หญิงหน้าตาดี!"

    เป๊งเป๊ง!

    หลังจากเข้าร่วมกับอิมมอทัล  แบล็คได้มุ่งเน้นการเก็บเลเวลพร้อมกับกลุ่มหมอผี
    เธอได้รับเทคนิคการบังคับร่างลวงตาจากหมอผีมาไม่น้อย  
    ฝนหอกกระหน่ำของป็อนไม่ใช่ภัยร้ายแรงสำหรับแบล็คแต่อย่างใด

    ป็อนส่ายศีรษะให้กับคำป้ายสีจากแบล็ค

    "ฉันไม่เคยเอาอกเอาใจผู้หญิงหน้าตาดีเป็นพิเศษ...ขอเพียงเป็นผู้หญิง  ฉันชื่นชอบทุกคน"

    "โกหก!  หุบปากไปซะ!  พฤติกรรมเมื่อครู่ของแกมันฟ้องอยู่ทนโท่!"

    "ไม่ใช่แบบนั้นสักนิด  ฉันกับเธอเป็นศัตรูกัน  แล้วจิสึกะก็เป็นพวกพ้องฉัน--เฮ้ย!"

    แบล็คใช้พลังลวงตาแปรเปลี่ยนสนามรบ
    จากเมืองหลวงที่นองเลือดและเต็มไปด้วยซากศพ  กลับกลายเป็นหุบเหวลึกที่มีแม่น้ำไหลเชี่ยว
    ม้าของป็อนไม่มีทางแสดงผลได้เต็มประสิทธิภาพบนพื้นผิวแม่น้ำ  
    ทั้งจิสึกะและป็อนกำลังตกที่นั่งลำบาก

    ทางด้านยูเฟอมิน่าและเรกัสก็ไม่สู้ดีเช่นกัน

    "ผู้หญิงหน้าตาดีต้องตายไปให้หมด!"

    "อั่ก!"

    นักศิลปการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเรกัส
    ไวท์...
    เธอสามารถเปลี่ยนขนาดร่างกายได้อิสระ  เมื่อสอดผสานกับฝีมือที่เก่งฉกาจ  ทำให้ไวท์กลายหนึ่งในตัวตนผู้เล่นระดับดวงอาทิตย์ที่มีอยู่น้อยนิด 
    แม้จะถูกยูเฟอมิน่าและเรกัสรุมโจมตี  แต่ไวท์ก็มิได้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแม้แต่น้อย

    'ทำไมนังหมูตอนนี่ถึงเล็งแต่เรา...'

    ยูเฟอมิน่ารอดพ้นจากการกระหน่ำโจมตีของไวท์ได้ฉิวเฉียด
    เรกัสเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน  
    ในที่สุดเธอได้พักหายใจหายคอ
    ยูเฟอมิน่าไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว...
    เธอเพิ่งพบกับไวท์เป็นครั้งแรก  แล้วเหตุใดอีกฝ่ายถึงจงเกลียดจงชังเธอนัก  
    ราวกับเธอเคยก่อเรื่องอะไรไว้ก่อนหน้า

    ไวท์ยังคงตามราวียูเฟอมิน่าไม่เลิก

    "ฉันเกลียดผิวขาวและผมหยักโศกของแก!!"

    "อั่กก!"

    ยูเฟอมิน่ารีบถอยร่น
    ในศึกครั้งนี้  เธอยังไม่ได้แสดงฝีมือมากเท่าที่ควร  ทักษะควรใหญ่ยังถูกเก็บงำไว้
    เธอถอดใจในการสู้กับไวท์แล้วงั้นหรือ...
    เปล่าเลย  หากยูเฟอมิน่าเอาจริง  มีโอกาสสูงที่เธอจะร่วมมือกับเรกัสเอาชนะไวท์ได้
    
    แต่สาเหตุที่เธอกำลังกระวนกระวายใจในตอนนี้...
    ลิชมูมัด
    ยูเฟอมิน่ารอให้แอ็กนัสอัญเชิญลิชมูมัดออกมา
    เธอมีภารกิจ <ปลดปล่อยดวงวิญญาณมูมัด> ซึ่งจะนำพาไปสู่คลาสเกรดเลเจนดารีชนิดเติบโต
    ยูเฟอมิน่ากำลังรอจังหวะที่แอ็กนัสอัญเชิญลิชมูมัด  
    และการต่อสู้ที่แท้จริงจะเริ่มขึ้นหลังจากนั้น

    แต่ปัจจุบัน  แอ็กนัสกลับอัญเชิญลิชออกมาเพียงสองตัว  และทั้งสองก็ไม่ใช่มูมัด
    สำหรับยูเฟอมิน่า  สถานการณ์เช่นนี้ชวนให้หงุดหงิดใจอย่างมาก

    'นี่เป็นโอกาสทองที่จะหาไม่ได้อีกแล้ว...'

    ยูเฟอมิน่าคอยชำเลืองมองกริดและแอ็กนัสอยู่เป็นระยะ

    ไวท์เห็นดังนั้นจึงพ่นลมหายใจอย่างเหยียดหยัน

    "นังจิ้งจอกตัวเมีย  เอาแต่จ้องมองกริดอยู่ได้  คิดว่าหมอนั่นจะมาช่วยเธองั้นหรือ  ทำไมผู้หญิงหน้าตาดีถึงไม่รู้จักช่วยเหลือตัวเองบ้าง  เอาแต่พึ่งพาผู้ชายอย่างน่าไม่อาย"

    "อะไรนะ..."
    
    ดวงตากลมโตของเธอพลันกระตุก 
    ยูเฟอมิน่าเริ่มขมวดคิ้ว
    เป็นดวงตาเพชฆาตอย่างแท้จริง  แบบเดียวกับที่เคยจ้องมองปาร์ตี้เฟคเกอร์ในอดีต

    "ค--คุณยูเฟอมิน่า..."

    เรกัสขานชื่อยูเฟอมิน่าด้วยเสียงสั่นเครือ  เขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันรุนแรงจากเธอ  
    เรกัสคงไม่รู้ว่า  สาเหตุหลักที่กริดหวาดกลัวยูเฟอมิน่ายิ่งกว่าใครก็คือ...
    เธอคนนี้มีจุดเดือดต่ำมาก

    "ฉันควรเชือดนังหมูตอนนี่ทิ้งก่อนทำภารกิจสินะ"

    "ห--หมูตอน...!"

    "หุบปาก...ฉันไม่มีเวลาเล่นกับแกแล้ว"

    "...!!"

    ***

    "คุ้มกันกริด!"

    กริดคือสัญลักษณ์ของสงครามนี้
    หากแอ็กนัสเอาชนะกริดได้  กระแสสงครามจะลุกฮือจนยากจะควบคุมอยู่
    อาเรสไม่ต้องการให้กองทัพแอ็กนัสได้ใจไปมากกว่านี้

    ทว่า...

    "พวกเราเข้าไปไม่ได้!"

    ทุกคนอยากทำตามคำสั่งอาเรส  แต่ไม่มีใครเลยที่ทำสำเร็จ
    แร้งเกอร์ของอิมมอทัลล้วนไม่ใช่หมอผีระดับกระจอก  พวกมันแข็งแกร่ง
    โดยเฉพาะเวอราดิน  ชายคนนี้เป็นเสี้ยนหนามของทัพอาเรสอย่างแท้จริง
    แม้พลังทำลายของอัศวินความตายเวอราดินจะเทียบเท่าของแอ็กนัสไม่ได้  แต่อัศวินความตายของเวอราดินกลับคล่องแคล่วและเฉลียวฉลาดกว่ามาก
    ความต่างอยู่ที่  แอ็กนัสต้องควบคุมอัศวินความตายและลิชหลายตน
    ส่วนเวอราดินมุ่งเน้นไปที่อัศวินความตายเพียงตัวเดียว

    "เวอราดิน!"

    สก็อตต์ไม่อาจปล่อยให้กระแสสงครามเป็นเช่นนี้ต่อไป
    มันสมองแห่งทัพอาเรสตัดสินใจประจัญบานกับเวอราดินด้วยพลังทั้งหมดที่มี
    
    เวอราดินขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับปัดป้องการโจมตีจากสก็อตต์

    "ชื่อตัวละครสุดเห่ย...เกะกะลูกตาจริง"

    "ไว้มีตั๋วเปลี่ยนชื่อตัวละครก่อนเฟ้ย!"

    เคร้ง!

    เคร้ง!

    อัศวินความตายของเวอราดินปะทะสก็อตต์
    การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดเนื่องจากทั้งสองฝ่ายใส่ทุกอย่างที่มี
    
    แต่เมื่อเวลาผ่านไป  ความเสียเปรียบของสก็อตต์ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น
    อัศวินความตายเวอราดินสามารถฟื้นฟูทรัพยากรได้จากเวทมนตร์ผู้ควบคุม
    แต่บาดแผนของสก็อตมีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกขณะ
    แถมค่าเรี่ยวแรงกลับยิ่งดำดิ่งสวนทาง

    ราชาโอเวอร์เกียร์และเทพสงครามกำลังตกที่นั่งลำบาก
    กองทัพอันเดดของแอ็กนัสมีพลังอำนาจมหาศาลจนน่าสะพรึงกลัว
    ผู้ชมทั่วโลกต่างพากันขนลุกซู่

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00