จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 664
ซาทิสฟายขึ้นชื่อในด้านความงดงามของกราฟฟิก
ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าภาพยนเรื่องใดทั้งหมด
เวทมนตร์และทักษะระดับสูงล้วนมีแสงสียิ่งใหญ่ตระการตา
ใครก็ตามที่ได้ครอบครองเวทมนตร์งดงามโดดเด่นสะดุดตา คนผู้นั้นมักตกเป็นเป้าอิจฉาของผู้อื่นเสมอ
"ป--ปีก...!"
ด้านซ้ายเป็นปีกเพลิงอัคคีสยายออกสว่างวูบวาบ
ด้านขวาเป็นปีกทมิฬสยายออกสง่างาม
กริดผมขาวกับปีกสองสี...
จะมีสิ่งใดสามารถสั่นคลอนหัวใจหญิงสาวทั่วโลกได้มากกว่านี้อีก
ไม่ใช่แค่สตรี แต่แม้บุรุษต่างก็รู้สึกหลงไหลในความสง่างามนี้
"คิคิก..."
แอ็กนัสยังคงสุขุมเยือกเย็น
มันมิได้สนใจในความอลังการของปีกแม้แต่น้อย
สมองพยายามประมวลผลและคาดคะเนสิ่งที่เกิดขึ้น
"เวทบินที่จะกระหน่ำโจมตีลงมาจากท้องฟ้าสินะ..."
แอ็กนัสคำนวณว่ากริดต้องบินขึ้นแน่นอน
สิ่งนี้เป็นการคาดเดาที่สมเหตุสมผล เพราะประโยชน์ของปีกนั้นมีไว้บิน...
"เสื้อกันฝน!"
ซู่วววว
แอ็กนัสใช้พลังที่ฝังอยู่ในอักขระความตายอีกครั้ง
ทักษะนี้จะสร้างบาเรียต่อต้านอากาศขึ้นเหนือศีรษะจำนวนหลายสิบแผ่น
บาเรียหลากสีถูกวางเรียงรายเป็นแนวนอนเพื่อรอรับการโหมกระหน่ำจากด้านบน
ยามนี้ ต่อให้มีอุกกาบาตพุ่งตกลงมา แอ็กนัสก็มิได้หวั่นเกรงเลยสักนิด
แต่นี่คือก้าวเดินที่ผิดพลาดของมัน
ซู่วซู่วซู่วซู่วซู่วซู่ว!...
"...!!"
กริดไม่ได้บินขึ้นแม้แต่เซนติเมตรเดียว
ขาทั้งสองขางยังคงเหยียบติดพื้นแน่น
ชายหนุ่มเริ่มสะบัดมือบางเบา
แสงเวทมนตร์ 20 เส้นได้พุ่งตรงเข้าหาลิชมูมัดด้วยความเร็วสูง
'ไฟบอลกับใบมีดทมิฬ...!'
มันไม่มีทางจินตนาการออกเลยว่า ปีกที่กำลังสยายอยู่ด้านหลังกริด แท้จริงแล้วจะเป็นไฟบอลและใบมีดทมิฬที่อยู่ในสภาพก่อนปลดปล่อย
เมื่อตระหนักได้ถึงความผิดพลาด แอ็กนัสรีบเก็บบาเรียต่อต้านอากาศ
จากนั้นก็รีบเสกศพขึ้นเบื้องหน้า หวังป้องกันมูมัดด้วยบาเรียซากศพ
ทว่า...
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
"ชิ...!"
ช้าเกินไป...
ช่องว่างระหว่างการเก็บบาเรียต่อต้านอากาศและเสกซากศพ สิ่งนี้กินเวลานานจนบาเรียซากศพแสดงผลไม่ทันการ
'บัดซบ!'
แอ็กนัสสถบเมื่อเห็นไฟบอลและใบมีดทมิฬทั้งสิบคู่พุ่งผ่านบาเรียซากศพไปได้
ร่างลิชมูมัดถูกปะทะอย่างจังด้วยแรงระเบิดจำนวนสิบระลอก
แอ็กนัสเริ่มสูญเสียความเยือกเย็นทีละนิด
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
[ ลิชมูมัดได้รับความเสียหาย 38,100 หน่วย ]
[ มานาลดลง 30,000 หน่วย ]
[ พลังชีวิตลด 8,100 หน่วย ]
[ ลิชมูมัดได้รับความเสียหาย 36,860 หน่วย ]
[ มานาลดลง 30,000 หน่วย ]
[ พลังชีวิตลด 6,860 หน่วย ]
[ ลิชมูมัดได้รับความเสียหาย 37,500 หน่วย ]
[ มานาลดลง 30,000 หน่วย ]
[ พลังชีวิตลด 7,500 หน่วย ]
[ ลิชมูมัดได้รับความ... ]
...
...
"..."
ลิชคือที่สุดของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อันเดด
แต่ความจริงข้อนี้ใช้ได้กับลิชที่เป็นมอนสเตอร์ตามเนื้อเรื่องเท่านั้น
หากลิชกลายเป็นส่วนหนึ่งของผู้เล่นเมื่อใด ความสามารถจะถูกลดทอนลงจากเดิมหลายส่วน
ปัญญาค่าสถานะที่ลดลงไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สิ่งที่ทำให้แอ็กนัสลำบากใจอย่างมาก คือความเชื่องช้าในการควบคุมลิชให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ระบบออกคำสั่งของคลาสหมอผีค่อนข้างยุ่งยากในรายละเอียด
ส่งผลให้อันเดดที่ถูกควบคุมจะตอบสนองได้ช้ากว่าปรกติ
ไม่เร็วเท่ากับที่ผู้เล่นบังคับร่ายกายตัวเองโดยตรง
ทุกเสี้ยววินาทีสำคัญในการดวลเสมอ
แน่นอนว่าผู้เล่นที่ชำชองสามารถคาดเดาเหตุการณ์และออกคำสั่งล่วงหน้าเพื่อกลบจุดนี้ แต่การจะไปถึงขั้นนั้นได้ ต้องรู้จักศัตรูให้ดีประมาณหนึ่งเสียก่อน แถมต้องคาดเดาการกระทำล่วงหน้าได้ไม่ผิดพลาด
น่าเสียดายที่การดวลกับกริดหนนี้ไม่อยู่ในเงื่อนไขดังกล่าว
แอ็กนัสไม่มีข้อมูลของเวทมนตร์ฝ่ายกริดเลย
ไม่ใช่เรื่องแปลก น้อยคนนักจะเคยเห็นพลังที่แท้จริงของบราฮัม-เฮชวาล
ทั้งกริดและแอ็กนัสต่างกำลังเล่นสงครามจิตวิทยา
โดยที่คราวนี้ แอ็กนัสเป็นฝ่ายเสียท่าบ้างแล้ว
'เราใจร้อนเกินไป...ควรสั่งให้มูมัดป้องกันตัวเองมากกว่า'
มันประมาทกริด คิดว่าชายหนุ่มจะบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและโจมตีลงมา
แอ็กนัสจึงใช้เวทมนตร์ของตนเองปกป้องมูมัด และสั่งให้มูมัดรายเวทมนตร์ขนาดใหญ่เพื่อเตรียมโจมตีปิดฉากกริด
แต่ความจริงดันกลับตาลปัด กริดเลือกโจมตีเป็นแนวราบ
เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วจนแอ็กนัสสลับการป้องกันไม่ทัน ทำให้ลิชมูมัดที่กำลังร่ายเวทถูกโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสถานหนัก
ไฟบอลและใบมีดทมิฬจำนวนสิบคู่...
แต่ละคู่จะลดมานาลิชมูมัด 30,000 หน่วย และลดพลังชีวิตราว 7,000 หน่วย
ปัจจุบัน มูมัดเหลือพลังชีวิต 50,000 และมานา 170,000
'เวทมนตร์เกรดต่ำรุนแรงได้ขนาดนี้เชียว...'
สิ่งที่น่าทึ่งไม่ได้มีเพียงพลังโจมตีที่รุนแรง
แต่การจะทำเช่นนี้ได้สมบูรณ์แบบ ผู้ใช้ต้องคำนวนเวลาปลดปล่อยเวทมนตร์ทั้ง 20 เส้นอย่างเที่ยงตรงแม่นยำ
ต่อให้เป็นเวทมนตร์เกรดต่ำก็เถอะ
'เป็นความสามารถเฉพาะตัวของบราฮัมสินะ...'
เฉกเช่นมูมัด บราฮัมเองก็มีจุดเด่นของตน
ไม่แปลกที่มหาจอมเวทในตำนานจะร่ายมนตร์ได้รวดเร็วและรุนแรง
แอ็กนัสได้ข้อสรุปให้ตัวเอง
'สถานการณ์ไม่เป็นใจกับเรา...'
เวทมนตร์เฉพาะตัวของมูมัดล้วนเป็นเวทมนตร์ระดับสูงที่ต้องร่ายนาน
มูมัดเป็นจอมเวทที่มุ่งเน้นพลังทำลายแบบกลุ่ม
แม้เวทมนตร์ส่วนใหญ่อาจใช้เวลาร่ายสูง แต่พลังทำลายและเอฟเฟคก็คุ้มค่ากับที่รอคอย
กลับกัน บราฮัมเป็นจอมเวทที่ชำนาญในทุกด้าน
ชายคนนี้ปราศจากจุดบอด
สำหรับมูมัดที่ต้องร่ายเวทนานเกินสองวินาที บราฮัมผู้สามารถปลดปล่อยเวทมนตร์ในพริบตาคือของสแลงอย่างแท้จริง
บราฮัมเกิดมาเพื่อดวลเวทมนตร์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ บราฮัมถือครองความได้เปรียบเหนือมูมัดอยู่มาก
'เราจะแพ้ไม่ได้...'
แอ็กนัสเริ่มกลับมามีสมาธิกับวัตถุประสงค์หลักอีกครั้ง
สงครามเบื้องหน้า ฝ่ายมันต้องกำชัยชนะเหนือกองทัพอาเรส
แสยะ...
ขณะที่แอ็กนัสเริ่มใจเย็นลง
"ห้ามประมาทเด็ดขาด!"
ชายผมดำผู้หนึ่งกำลังดู TV อยู่ที่บ้าน
เป็นครอเกล
เขากำลังตะโกนให้กำลังใจกริดอย่างออกรส ประหนึ่งว่ากริดสามารถได้ยินเสียงผ่านจอ TV
***
'หืม...'
แอ็กนัสเลิกบังคับมูมัดโจมตีกริด มันออกคำสั่งแค่ 'ป้องกัน' และ 'หลบหลีก'
ตัวมันเองก็กำลังหลบหลีกไฟบอล+ใบมีดทมิฬของกริดที่พุ่งกระหน่ำโจมตีเป็นสายฝน
ระหว่างนี้ มันชำเลืองสายตาไปยังบางแห่งบนสนามรบอยู่เป็นระยะ
ปลายทางที่สายตาแอ็กนัสจ้องมองไปคือ จุดที่ไวท์และเรกัสกำลังแลกหมัดอย่างออกรส โดยมียูเฟอมิน่าคอยสนับสนุนเป็นครั้งคราว
ทันใดนั้น...
บึ้มมม!
ร่ายกายแอ็กนัสพลันสั่นระริกเมื่อท่อนแขนถูกไฟบอลยิงใส่ทีเผลอ
'...น่ารำคาญฉิบ'
ไฟบอลและใบมีดทมิฬคือเวทมนตร์เกรดต่ำสุด ที่สามารถหลบหลีกได้ไม่ยากนักในยามปรกติ
แต่กริดกลับสามารถใช้เวทมนตร์สองชนิดนี้ได้พร้อมกันทีละสิบคู่
ไม่ว่าเก่งขนาดไหนก็ไม่มีทางหลบพ้นได้ตลอดรอดฝั่ง
โชคยังดีที่ลิชมูมัดเอาชีวิตรอดได้ด้วยบาเรียมานาและการหลบหลีก
แอ็กนัสถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นก็หันไปมองยังไวท์อีกครั้ง
ปัจจุบัน ไวท์กำลังถือครองความได้เปรียบเหนือเรกัสอย่างมาก แต่เธอก็ไม่อาจปิดบัญชีได้สักที
ทุกครั้งที่เรกัสกำลังเข้าตาจน ผู้หญิงที่ชื่อยูเฟอมิน่าจะขัดขวางในจังหวะสมบูรณ์แบบเสมอ
ลำพังไวท์ไม่แข็งแกร่งพอจะกำราบเรกัสและยูเฟอมิน่าได้เด็ดขาด
'หล่อนก็ไม่ไร้ประโยชน์ซะทีเดียว...'
แอ็กนัสนำดาบของตนออกมา จากนั้นก็ใช้ลิ้นเลียไปบนใบดาบ
ภาพที่น่าทึ่งได้ปรากฏสู่สายตากริด
ซ่า...!
ลิ้นของแอ็กนัสเริ่มกัดกร่อนใบดาบ
'นั่นมันอะไร...'
นัยน์ตากริดพลันกระตุกเล็กน้อยขณะกำลังร่ายเวทคู่ขนานใส่มูมัด
ชายหนุ่มทึ่งกับพิษในร่างกายแอ็กนัส
ขนาดใบดาบโลหะยังถึงกับละลายได้ง่ายดาย
ทันใดนั้น
ฟุ่บ!
แอ็กนัสฉวยโอกาสพุ่งตัวหนีไปด้านหลัง
มันทิ้งมูมัดให้รับมือกับกริดตามลำพัง
แอ็กนัสรีบวิ่งด้วยความเร็วสูง ไปยังจุดที่ไวท์กำลังดวลกับเรกัส
"อันตราย!!"
กริดโพล่งขึ้นอย่างลนลาน
เขาคิดว่าแอ็กนัสกำลังจะปองร้ายเรกัสและยูเฟอมิน่า
ทว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมิได้เป็นเช่นนั้น
ฉึก!
"อั่ก!"
ดาบผุกร่อนของแอ็กนัสแทงใส่ช่องท้องของหญิงสาวผู้หนึ่ง
เป็นไวท์
"เอ๋...!"
โจมตีพวกเดียวกันเนี่ยนะ...
ทุกคนพลันตกตะลึงเมื่อใบหน้าของไวท์เริ่มบิดเบี้ยว
เธอกำลังสับสนยิ่งกว่าใครทั้งหมด
"นายคิดจะทำอะไร!"
แอ็กนัสกระซิบกระซาบ
"จงยอมรับชะตากรรมซะ"
ชี่~
ออร่าสีม่วงได้ไหลซึมออกจากดาบผุกร่อนของแอ็กนัส มันกำลังไหลซึมเข้าไปในร่างไวท์
ทั้งเส้นเลือดและกล้ามเนื้อ ส่วนสำคัญของร่างกายถูกออร่าม่วงแทรกแซง
นี่คือสัญญาณของทักษะ <กลายเป็นอัศวินความตาย>
[ ท่านเปลี่ยนให้เป้าหมายกลายเป็นอัศวินความตายชั่วคราว ]
[ หากเป้าหมายยอมรับ คนผู้นั้นจะกลายเป็นอัศวินความตายชั่วคราว เผ่าพันธุ์จะกลายเป็นอันเดด ค่าสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น 23% ได้รับทักษะติดตัว <ออร่าความตาย> แต่ข้อเสียคือจะไม่ได้รับผลทักษะฮีลทุกชนิด และแพ้ทางธาตุศักดิ์สิทธิ์อย่างรุนแรง ]
กลายเป็นอัศวินความตาย...
นี่คือทักษะที่เปลี่ยนให้ 'คนเป็น' กลายเป็นอัศวินความตาย
เป้าหมายจะแข็งแกร่งขึ้นหลายระดับในพริบตา
แอ็กนัสได้รับทักษะสุดโกงนี้มาจากการทำภารกิจลับ
แม้อาจฟังดูขี้โกงเกินเหตุ แต่ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นก็ร้ายแรงจนกลับสู่สมดุลได้...
[ <แอ็กนัส> ต้องการเปลี่ยนท่านเป็นอัศวินความตาย เมื่อผลของทักษะนี้หมดลง ท่านจะเสียชีวิตและสูญเสียค่าประสบการณ์ กรุณายืนยัน ]
'บัดซบ!'
ผู้ที่กลายเป็นอัศวินความตาย ในภายหลังจะได้ตายสมชื่อ
บทลงโทษรุนแรงจนไม่แปลกที่หลายคนไม่เต็มใจยินยอม
คนที่ยอมเปลี่ยนเป็นอัศวินความตายให้ เกรงว่าคงจะมีแต่ผู้ที่จงรักภักดีในตัวแอ็กนัสอย่างแรงกล้าเท่านั้น
เมื่อเห็นไวท์ลังเล แอ็กนัสส่งกระซิบข้างหูอีกครั้ง
"หากปฏิเสธ...ฉันจะเชือดเธอทิ้งซะตรงนี้ ยอมรับมันซะ! คิคิคิก!"
อันที่จริง ทักษะกลายเป็นอัศวินความตายสามารถใช้ได้กับซากศพด้วย
แต่หากใช้งานกับซากศพ ประสิทธิภาพของอัศวินจะลดลง แถมแอ็กนัสต้องคอยบังคับอัศวินความตายดังกล่าวด้วยตนเอง
สิ่งนี้วุ่นวายเกินไปสำหรับมัน
"ระยำเอ้ย...แล้วอย่าลืมตอบแทนฉันให้เหมาะสมด้วย!"
ไวท์ไม่มีทางเลือกอื่นอีก
เธอยอมรับการชะตากรรมอัศวินความตาย
ทันใดนั้น...
เปรี้ยงงง!
กำปั้นที่อัดแน่นด้วยออร่าสีม่วงของไวท์ บัดนี้ชกใส่ใบหน้าเรกัสด้วยความรวดเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
เรกัสกระเด็นไปไกล เหลือเพียงยูเฟอมิน่า
"เรกัส! ยูเฟอมิน่า!"
จิสึกะและป็อนต่างตกตะลึง แต่พวกเขาก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้มากกว่านี้
ในสภาพพร้อมรบสุดขีด แบล็คเองก็เป็นอีกหนึ่งตัวตนที่แสนทรงพลังของโลก
ถึงจะต้องแลกมากับเลเวลที่ลดลงก็ตาม
เพียงพริบตาเดียว ไวท์ก็ชิงความได้เปรียบจากเรกัสและยูเฟอมิน่า
ไวท์เลิกสนใจทั้งสองคน เธอหันมารุมโจมตีกริดพร้อมแอ็กนัส
แอ็กนัสแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ
"คิคิคิก...นี่คือพลังของหมอผียังไงล่ะ"
แม้ทักษะ <กลายเป็นอัศวินความตาย> จะมีเวลาจำกัด แต่ข้อดีของมันก็คือ อัศวินความตายที่เกิดจาก 'คนเป็น' จะไม่ใช้ค่า 'พลังปกครอง' ในการเรียก เพราะแอ็กนัสไม่ต้องคอยควบคุมด้วยตนเอง
ลำพังมูมัดนั้นสิ้นเปลืองพลังปกครองย่างมาก เพียงอัญเชิญออกมา ก็ไม่เหลือค่าพลังปกครองมากพอให้อัญเชิญอัศวินความตายตัวใดออกมาได้อีก
แอ็กนัสมั่นใจมาก หากเหตุการณ์ยังคงดำเนินเช่นนี้ต่อไป
ไวท์กับมันจะคอยตรึงกริดไว้ ส่วนลิชมูมัดก็จะร่ายเวทมนตร์ขนาดใหญ่เพื่อปิดฉากสงคราม
ไม่เฉพาะแอ็กนัส แต่ผู้ชมทั่วโลกต่างมองแบบเดียวกัน
กริดมีเพียงความพ่ายแพ้รออยู่
"อีกเดี๋ยวคงจบแล้ว..."
เวอราดินแสยะยิ้มให้สก็อตต์
ปัจจุบัน กองทัพแร้งเกอร์หมอผีแนวหน้าของโลกทุกคน รวมถึงมัน กำลังรีดเร้นพลังทั้งหมดออกมาต่อต้านความทรงพลังของกองทัพอาเรส
กองทัพอาเรสแข็งแกร่งผิดคาดเวอราดินไปเล็กน้อย การจะจัดการให้สิ้นซาก มีแต่ต้องพึ่งพาพลังแอ็กนัสเท่านั้น
แค่ตรึงไว้ก็เต็มกลืนมากแล้ว เวอราดินต้องการให้สงครามนี้จบโดยเร็ว
'ไม่คิดว่าแอ็กนัสจะเสียเวลากับกริดมากขนาดนี้---...น---นั่นมันอะไร!'
สนามรบที่คงความสูสีสมดุลมาพักใหญ่ บัดนี้เริ่มปั่นป่วนโกลาหลอีกครั้ง
ดวงตาเวอราดินเบิกโพลงสุด นัยน์ตาดำหดลีบเล็ก
ท่ามกลางสนามรบที่ทหารหลายหมื่นรบพุ่งประจัญบาน...
บนท้องฟ้ากลับมีเงาของบางสิ่งบดบังดวงอาทิตย์ไว้อย่างฉับพลัน
"นั่นอะไร..."
เวอราดินและกองทัพหมอผี รวมถึงกองทัพฝ่ายอาเรส ทั้งหมดต่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เห็น
วัตถุแปลกประหลาดขนาดมหึมากำลังร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
"ทำฟาร์มอิสระรูปแบบสุดท้าย...บดข้าวเปลือก!"
"..."
เสียงประหลาดดังกังวาลไปทั่วสนามรบ
เป็นเสียงของบางสิ่งตกกระแทกพื้นดินอย่างแรง
โครมมมมมมมมมม!!!!
วัตถุขนาดมหึมาร่วงกระแทกใส่ร่างไวท์ที่กำลังพุ่งเข้าหากริด
"..."
อะไรตกลงมาจากท้องฟ้า...
อัศวินความตาย ไวท์ ถูกสังหารในการโจมตีเดียว...
แอ็กนัสทึ่งจนอ้าปากค้าง หัวสมองขาวโพลนเมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ไม่เข้าใจ
"แกเป็นฝ่ายเรียกเพื่อนมารุมก่อนสินะ...ฉันพูดถูกรึเปล่า"
"..."
กริดใช้เวทมนตร์อย่างต่อเนื่องจนสูญเสียมานาไปมาก สภาพของเขาเริ่มเหนื่อยล้า
ปัจจุบัน ชายวัยกลางคนปริศนากำลังยืนเคียงข้างกริดไม่ห่าง
เนื้อตัวมอมแมม ในมือถือเคียวสีดำสนิท
ชื่อเหนือศีรษะเขียนไว้ว่า <ปิอาโร่>
ชาวนาในตำนานผู้โด่งดัง
"พวกเจ้ากล้าดียังไง...! กล้าดียังไงหันคมดาบใส่ท่านราชาโอเวอร์เกียร์!!"
ซู่วววว!
ปิอาโร่ผู้เดือดดาล...
ราวกับธรรมชาติรอบตัวรับรู้ถึงโทสะภายในใจปิอาโร่
พลังธรรมชาติจำนวนมหาศาลอัดแน่นท่วมร่างจนออร่าสีเขียวฟุ้งกระจายรอบตัว
ปิอาโร่กลายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เขาพุ่งย่นระยะเข้าหาแอ็กนัสในพริบตา
"ความตายที่ถูกลิขิต!"
"...!!"
ฉึก!
เป็นเสียงคราดเล็กเสียบปักหน้าผากแอ็กนัส
สนามรบตกพลันอยู่ในความเงียบสงัด
"ด--เดี๋ยว...!"
"..."
ทั้งยูเฟอมิน่าและกริดต่างหน้าถอดสี
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,124
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
555 พีคว่ะ
ReplyDelete5555 เกมพลิก โดนตัดจบซะงั้น กริดและยูฟอมิน่า ทำภาระกิจยะไม่สำเร็จเลยอย่าพึงตายนะ แอ็คนัส
ReplyDeleteยูร่า นางเอกกก
ReplyDeleteแรงค์เกอร์แทบทุกคนต้องเคยโดนความตายที่ถูกลิขิต 5555
ReplyDelete