จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 657



    "นี่มันไม่แปลกไปหน่อยรึไง..."

    อันที่จริง  กองทัพอาเรสต้องฝ่าด่าน 13 ป้อมปราการก่อนจะถึงเมืองหลวง  
    เป็นมหาสงครามขนาดใหญ่อย่างแท้จริง 
    ความยากในการยึดครองป้อมปราการ  สิ่งนี้ส่งผลให้ทั้งกองทัพอาเรสและสมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างมีสีหน้าตึงเครียดไม่น้อย
    ศึกนี้คงไม่ง่ายแน่
    แต่ด้วยเหตุผลบางประการ  ป้อมปราการทั้งหมดกลับว่างเปล่า  ประตูเปิดโล่ง 
    ไม่มีแม้แต่หนูตายสักตัว

    "ทำไมถึงปล่อยรกร้างเช่นนี้"
    
    "พวกมันถอดใจแล้วรึไง"

    ป้อมปราการถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ  
    ไม่มีสิ่งใดจะหยุดการเคลื่อนทัพของศัตรูได้ดีกว่าป้อมอีกแล้ว  
    จึงเป็นการยากที่กริดจะเข้าใจว่า  เหตุใดฝ่ายศัตรูถึงละทิ้งป้อมปราการไปจนหมด
    ราวกับพวกมันไม่อยากสู้อีก

    กลับกัน  กองทัพอาเรสมีสมมติฐานที่ต่างออกไป

    "พวกราชวงศ์คงคิดว่า  หน่วยเกราะหนักเจนศึกล้วนถูกทำลายโดยทหารหน่วยใหม่ของอาเรส"

    ใช่แล้ว  ราชวงศ์เบลโต้ไม่รู้ถึงการยื่นมือเข้าช่วยเหลือจากโอเวอร์เกียร์ 
    แต่พวกมันรู้ถึงการมีอยู่ของทักษะ <เสริมแกร่งทหารกล้า> 
    ด้วยมุมนี้  จึงไม่แปลกที่ราชวงศ์เบลโต้จะคิดว่า  ทหารชุดใหม่ของอาเรสถูกสร้างขึ้นเพื่อเอาชนะหน่วยเกราะหนักเจนศึกโดยเฉพาะ

    "ราชวงศ์ต่างหวาดกลัวในพลังของหน่วยเกราะหนักเจนศึก  ทหารชุดนี้เพิ่มเลเวลได้เร็วมาก  และแข็งแกร่งขึ้นเป็นเท่าตัวในการศึกกับจักรวรรดิ"

    "ป้อมปราการสามารถยื้อสงครามได้ก็จริง  แต่นั่นเป็นกรณีของการที่ทั้งสองทัพสูสี  หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแข็งแกร่งกว่าหลายเท่า  ป้อมปราการจะกลายเป็นสิ่งไร้ความหมาย"

    "ราชวงศ์เบลโต้คงหวาดกลัวว่า  ทหารชุดใหม่ของอาเรสจะฆ่าทหารของพวกมันและเก็บเลเวลไปเรื่อยๆ จนแข็งแกร่งขึ้น  ดังนั้น  พวกมันจึงไม่เปิดโอกาสให้ทหารใหม่อาเรสได้เก็บเลเวล"

    "กษัตริย์คงสั่งให้ทหารทั้งหมดรวมอยู่กระจุกเดียวและโจมตีพร้อมกัน"

    "อืม..."

    อาเรสพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ฟังข้อสันนิษฐานจากพวกพ้อง
    เป็นนัยว่าไม่ปฏิเสธ
    
    "พวกมันก็ฉลาดในแบบพวกมันล่ะนะ"

    ทหารหน่วยใหม่ที่อาเรสสร้างขึ้น  <กงล้อเหล็ก>  ยังมีเลเวลเพียง 200 เท่านั้น
    แม้อาจมีระดับสูงกว่าเลเวลเฉลี่ยของทหารเบลโต้  แต่จำนวนก็มีเพียงหนึ่งหมื่น
    อาเรสต้องการเก็บเลเวลทหารหน่วยนี้ด้วยการตีป้อมทั้ง 13 แห่งระหว่างทาง  
    แต่แผนดังกล่าวกลับกลายเป็นหมันเรียบร้อย
    หน่วยกงล้อเหล็กเลเวล 200 ทั้งหมื่นคนต้องเผชิญหน้ากับทัพ 130,000 ของราชวงศ์เบลโต้ในคราวเดียว

    'หืม...น่าหงุดหงิดเหมือนกันแฮะ  ที่แผนดันไม่เป็นไปตามคาด'

    แต่สถานการณ์ก็ไม่ได้เลวร้ายจนต้องท้อแท้
    อาเรสยังมีกองทัพอื่นอีกสามหมื่นนาย  จำนวนนี้ไม่รวมหน่วยกงล้อเหล็ก 
    เขามั่นใจว่า  ตนสามารถบัญชากองทัพไปสู่ชัยชนะได้  หน่วยกงล้อเหล็กเองก็มีทักษะติดตัว <ฟื้นฟูทรัพยากรทั้งหมดเมื่อเลเวลอัพ> เช่นกัน   ย่อมหมายความว่า  หากไม่ถูกการโจมตีระดับปีศาจถึงแก่ความตายในหนเดียว  กองทัพอาเรสจะกลายเป็นทัพอมตะที่สู้ในศึกได้อย่างต่อเนื่องไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
    
    'และในเบลโต้ก็ไม่มีคนแบบนั้น'

    ปีศาจที่กล่าวมา  ปัจจุบันอยู่ฝ่ายเดียวกับตนหมดแล้ว  อาเรสจึงโล่งใจมาก  
    ไม่ว่าจะมองมุมไหน  อาเรสก็ไม่มีทางแพ้ในสงครามนี้เลย  
    ถึงกระนั้น  เขาก็มิได้ประมาท
    สีหน้าของลุงแก่ใจดี  แปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าของเทพสงครามผู้เกรียงไกร

    "เคลื่อนทัพบดขยี้พวกเดรัจฉานที่เอาแต่เห่าหอนโดยไม่รู้ว่าไส้พุงของมันกำลังจะถูกกระซวก!!"

    "โอ๊สสส!!"

    กองทัพอาเรสไม่กังวลอีกแล้วว่าป้อมปราการจะโล่งหรือไม่  พวกเขาเร่งฝีเท้าขึ้น
    เป้าหมายในตอนนี้คือไปให้ถึงเมืองหลวงโดยเร็ว

    ***

    "ข่าวด่วน!  ข่าวด่วนมาก!" 

    สำนักข่าวทั่วโลก  รวมถึงเกาหลีใต้และสหรัฐ  ต่างกำลังวุ่นวายโกลาหล

    อิมมอทัล  
    พวกมันอ้างว่าเป็นผู้ติดตามแอ็กนัส  ได้ส่งข้อความถึงทุกสำนักข่าว

    ===  ณ วันนี้  แอ็กนัสจะกุดหัวราชาโอเวอร์เกียร์และเทพสงครามพร้อมกัน  แอ็กนัสคือผู้ที่จะกลายเป็นราชาแห่งความเป็นและความตายในอนาคต

    แอ็กนัส
    หนึ่งในสามคลาสอีปิกชุดแรกของโลก  ผู้ที่ตัวตนเป็นปริศนามาโดยตลอด
    แอ็กนัสไม่เคยปรากฏสู่สาธารณะ  นี่คือหนแรกอย่างแท้จริง
    แต่ถึงกระนั้น  คนส่วนใหญ่มักตระหนักถึงความแข็งแกร่งของแอ็กนัสเป็นอย่างดี  เพราะมีแร้งเกอร์ระดับสูงหลายคนเคยออกมายอมรับว่า  พวกตนเคยถูกแอ็กนัสไล่ล่าสังหาร

    'ต้องเสียสติไปแล้วแน่!'

    แอ็กนัสคือผู้ที่ฆ่าคนแปลกหน้าได้ง่ายดาย  เพียงเพราะอีกฝ่ายยืนขวางทางเดินบนถนน
    ชายเสียสติคนนี้  เมื่อประกาศตัวครั้งแรกว่าจะออกสื่อ  แน่นอนว่าสำนักข่าวทั่วโลกย่อมให้ความสนใจเป็นพิเศษ
    ยิ่งไปกว่านั้น...

    'เป้าหมายคือกริด...ราชาโอเวอร์เกียร์คนนั้น!'

    คนส่วนใหญ่อาจไม่รู้ว่า 'เทพสงคราม' คือใคร
    ทว่าหากเป็น 'ราชาโอเวอร์เกียร์'...แม้แต่เด็กห้าขวบก็ยังรู้จัก
    
    กริด  กษัตริย์แห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
    บุคคลทรงอิทธิพลที่โด่งดังอันดับหนึ่งของโลกในเวลานี้

    "กล้าประกาศว่าจะสังหารคนใหญ่คนโตขนาดนั้นเชียว..."

    "แอ็กนัส...หมอนี่เสียสติเหมือนข่าวลือไม่มีผิด!"

    "รีบส่งคนไปอาณาจักรเบลโต้!  ห้ามพลาดข่าวนี้เด็ดขาด!  เตรียมเขียนข่าวให้เด็ดที่สุด!"

    ***

    『 ในเวลา 10:24 ของเกาหลีใต้  มีจดหมายฉบับหนึ่งถูกส่งมายังสำนักข่าวทั่วโลก  ใจความว่า 'ณ วันนี้  แอ็กนัสจะกุดหัวราชาโอเวอร์เกียร์และเทพสงครามพร้อมกัน  แอ็กนัสคือผู้ที่จะกลายเป็นราชาแห่งความเป็นและความตายในอนาคต'  อย่างที่ทุกท่านทราบดีอยู่แล้ว  แอ็กนัสคือหนึ่งในสามผู้เล่นคลาสอีปิกชุดแรก  และปัจจุบันเป็นแร้งเกอร์ที่รั้งอันดับห้าของโลก...』

    『 พวกเราขอมุ่งประเด็นไปที่คำกล่าว 'ราชาแห่งความเป็นและความตาย'  ในอดีต  เคยมีหลายคนคาดเดาว่า  คลาสของแอ็กนัสต้องเป็นสิ่งมีชีวิตจำrวกลิช  หรืออีกความหมายหนึ่ง  เขาอาจเป็นอมตะ...』

    『 เวอราดิน  ผู้ประกาศตนว่าเป็นผู้ติดตามแอ็กนัส  ชายคนนี้คือหนึ่งในสิบรุคกี้รุ่นแรกเคียงคู่มากับลอเอล  และปัจจุบันคือแร้งเกอร์อันดับหนึ่งของคลาสหมอผี  การที่เวอราดินยอมติดตามแอ็กนัส  สิ่งนี้สามารถบ่งบอกถึงความยอดเยี่ยมของแอ็กนัสได้... 』

    『 อิมมอทัล  คงเป็นชื่อกิลด์ของผู้เล่นหมอผีที่นำโดยลิชแอ็กนัสและหมอผีเวอราดิน  อาจเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งรองเพียงแค่กิลด์โอเวอร์เกียร์เท่านั้น  พวกเขาหวังใช้โอกาสนี้เพื่อพิสูนจ์ฝีมือและความแข็งแกร่งของตน 』

    『 แต่เขาจะโค่นกริดได้จริงหรือ  ผมไม่คิดเช่นนั้น  ก่อนหน้าที่ครอเกลและยูร่าจะหายไปจากตารางอันดับโลก  แอ็กนัสคือแร้งเกอร์อันดับเจ็ดของโลกอย่างยาวนาน  แม้จะมีคลาสเกรดอีปิกไว้ครอบครองแล้วก็ตาม  อันดับเจ็ดของโลกนั้นไม่น้อยก็จริง  แต่ก็ไม่ใช่ระดับท้องฟ้าเฉกเช่นครอเกล  แอ็กนัสยังห่างไกลจากตัวตนระดับอัจฉริยะอยู่มาก 』

    『 เห็นด้วยครับ  หากแอ็กนัสครอบครองคลาสลิชจริง  หมายความว่าเขาจะมีพลังเวทมนตร์ในระดับมหาศาล  แต่แอ็กนัสกลับไม่สามารถข้ามขีดกำจัดของครอเกลที่เป็นคลาสธรรมดาได้  หากแอ็กนัสและครอเกลมีคลาสเดียวกัน  เขาน่าจะอ่อนแอกว่าครอเกลอยู่หลายระดับ  การประกาศว่าจะโค่นกริด  คงเป็นสิ่งเกินตัวแอ็กนัสไปสักหน่อย  คนเดียวในโลกที่สามารถเอาชีวิตกริดได้คือครอเกล 』

    สื่อหลักส่วนใหญ่ต่างพูดถึงกริดและแอ็กนัส  มีเพียงส่วนน้อยที่จะเอ่ยถึงเทพสงคราม

    แต่ก็มีบางฝ่ายที่ให้ความสนใจเทพสงครามเป็นพิเศษ
    หนึ่งในนั้นคือผู้อำนวยการของสถานีข่าว OGC   ลีกุกแร

    'เทพสงคราม...คนผู้นี้ไม่มีทางเป็นมดปลวกแน่  หากถูกเรียกด้วยคำนำหน้าว่าเทพ'

    ผู้อำนวยการลีกุกแรให้ความสนใจกับเทพสงครามมาก
    ขณะสำนักข่าวอื่นต่างพากันวิเคราะห์การต่อสู้ระหว่างกริดและแอ็กนัส
    ลีกุกแรได้ส่งคนไปสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับเทพสงครามให้มากที่สุด  เพื่อจะได้เผยแพร่ข้อมูลที่น่าสนใจนี้แต่เพียงผู้เดียว

    ***

    "เป็นไปไม่ได้!"

    ณ เมืองหลวงแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์  กรุงไรน์ฮาร์ท
    ลอเอลได้รับข่าวช้ากว่าปรกติเพราะต้องเชื่อมต่อซาทิสฟายเกือบตลอดเวลา  
    ชายคนนี้พลันเย็นสันหลังวาบเมื่อรับรู้สถานการณ์
    แอ็กนัส...
    เหตุใดปีศาจตนนั้นถึงรอคอยกองทัพอาเรสอยู่ที่เมืองหลวงอาณาจักรเบลโต้

    'ท่าไม่ดีล่ะสิ...'

    กริดและพรรคพวกคงถูกลูกหลงของสงครามนี้กลืนกิน  
    กริดจะเสียเปรียบอย่างหนักหากต้องเผชิญหน้าแอ็กนัสโดยไม่เตรียมการล่วงหน้า

    'ทำไมเหตุการณ์ถึงกลับตาลปัดเช่นนี้...ไม่สิ  บางทีเราอาจถูกปั่นหัวมาตั้งแต่ต้น'

    เดี๋ยวก่อน...เวอราดินแห่งกิลด์อิมมอทัล
    ลอเอลเพิ่งจะรู้ตัวเมื่อสาย

    "เวอราดิน...เป็นฝีมือนายเองสินะ  นายคงมองออกว่าฉันจะจับมือเป็นพันธมิตรกับอาเรส"

    เวอราดินคือบุคคลที่ลอเอลคอยหวาดระแวงมาตั้งแต่สมัยสิบรุคกี้ 
    แม้ลอเอลจะคิดว่าตนคืออัจฉริยะอันดับหนึ่งของโลก  แต่เขาก็ยอมรับในสติปัญญาและความเลือดเย็นของเวอราดิน

    'ศัตรูคู่อาฆาตจากชาติปางก่อนของเรา...'

    ลอเอลมั่นใจมาก  เวอราดินต้องคำนวนไว้แล้วว่า  กิลด์โอเวอร์เกียร์และอาเรสจะจับมือเป็นพันธมิตรกัน  
    มันจึงให้แอ็กนัสบดขยี้ทั้งคู่ในคราวเดียว

    'อาณาจักรเบลโต้จะมีกับดักแบบไหนรออยู่นะ'

    ลอเอลรีบส่งข้อความหากริด

    >>  ฝ่าบาท...รีบกลับอาณาจักร---

    ยังไม่ทันที่จะพูดจบ

    >>  ทำไม...จะให้ฉันหนีแอ็กนัสรึไง

    >> ...!!

    ***

    ขอย้อนกลับไปสักเล็กน้อย 
    ช่วงก่อนที่ข้อความจากอิมมอทัลจะถูกส่งถึงสำนักข่าวทั่วโลก

    "หืม...พวกมันคิดจะทำอะไรกันแน่"

    กองทัพอาเรสและกริดเดินทางมาถึงเมืองหลวงอาณาจักรเบลโต้
    พวกเขาครุ่นคิดมาตลอดว่าจะรับมือกับทหาร 130,000 อย่างไรดี  
    แต่กลศึกทั้งหมดกลับไร้ค่า...  
    ปัจจุบัน  ประตูเมืองหลวงเปิดโล่ง  ปราศจากทหารเฝ้ายามบนกำแพง  
    ราวกับเชื้อเชิญให้อาเรสเข้าไปด้านใน
    
    "กับดักงั้นหรือ..."

    "ถ้านี่เป็นกับดัก  มันคือกับดักที่โง่เง่าที่สุดในโลก"

    ศัตรูเปิดประตูเมืองเช่นนี้  ไม่มีทางเป็นกับดักแน่  พวกมันคงยอมแพ้แต่โดยดี
    อาเรสมีนิสัยมุทะลุ  ในสถานการณ์เช่นนี้  เขาไม่คิดให้มากความ

    "ทุกคนเข้าไปด้านใน!  ฉันอยากจะเห็นว่าพวกมันโง่เขลาขนาดรอซุ่มโจมตีในเมือง  หรือว่าเผ่นหนีหากจุกก้นไปแล้วกันแน่"

    ตึง! ตึง! ตึง!    

    กองทัพอาเรสเดินจากหน้าประตูเมืองเข้าไป
    อาเรสเป็นผู้นำทัพด้วยตนเองด้านหน้าสุด
    แล้วก็เป็นไปตามคาด  ทหารกว่า 130,000 กำลังยืนกระจัดกระจายตามท้องถนน  ตรอกซอกซอย
    แต่มิได้อยู่ในระเบียบแถวพร้อมรบ

    "อ--อึ๋ย...!"

    "ศ--ศัตรู!  กองทัพกบฏอาเรสมาถึงเมืองหลวงแล้ว!"

    "อ--อย่าไปกลัว!"

    "..."

    สถานการณ์ค่อนข้างผิดแผก
    ทหารทั้ง 130,000 ปราศจากผู้นำโดยสิ้นเชิง  
    กลุ่มทหารเพียงวิ่งโจมตีใส่ทัพอาเรสอย่างมั่วซั่ว  ไร้แบบแผน
    อาเรสประหลาดใจอย่างมาก

    'เกิดอะไรขึ้นกับอาณาจักรนี้...'

    ระบบบัญชาทัพล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
    ถึงอาเรสจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่ต้องมีสิ่งผิดปรกติในวังหลวงแน่นอน

    'ช่างเถอะ...นับว่าเราโชคดีแล้ว'

    อาเรสออกคำสั่งเพื่อนำหน่วยกงล้อเหล็กเลเวล 200 ออกมาเป็นทัพหน้าเพื่อเก็บเลเวล
    
    ***

    ยิ่งสงครามดำเนินไป  ทหารของอาเรสยิ่งแข็งแกร่งขึ้นในทุกวินาที

    "หืม..."

    หลังจากฆ่าฟันศัตรูนานหลายชั่วโมง  ทัพของอาเรสได้เคลื่อนเข้าประชิดวังหลวง
    สก็อตต์จ้องมองสภาพวังหลวงพร้อมขมวดคิ้ว  
    สถานที่แห่งนี้เงียบสงบเกินกว่าจะอยู่ในภาวะสงคราม

    "น่าแปลกมาก...มีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล"

    "ใช่...แต่ถึงจะน่าสงสัย  พวกเราก็ถอยหลังไม่ได้อยู่ดี"

    เหลือเพียงสังหารกษัตริย์ให้สิ้นซาก  ตนก็จะยึดครองอาณาจักรเบลโต้โดยสมบูรณ์  
    ตอนนี้ไม่เหลือกองทัพศัตรูสำหรับต่อต้านอีกแล้ว  
    อาเรสไม่มีเหตุผลให้ต้องลังเล

    กริ๊ก!

    ในวินาทีที่อาเรสเปิดประตูวังหลวง

    ซู่วว!

    ออร่าสีม่วง...
    อัศวินความตายตนหนึ่งปรากฏกายจากความมืด

    "ฮึบ!"

    ปัจจุบันอาเรสกำลังนำทัพ 40,000 นาย  ส่งผลให้ได้รับบัฟค่าสถานะเพิ่มขึ้นหลายเท่า
    การลอบโจมตีจากอัศวินความตายอาจยอดเยี่ยม  แต่อาเรสก็หลบหลีกได้ง่ายดาย
    ออร่าสีม่วงโจมตีโดนเพียงความว่างเปล่า
    แต่กลับมีเวทมนตร์ลึกลับยิงมาจากจุดบอด
    เปลวเพลิงพุ่งใส่ในจุดที่อาเรสหลบไป

    บึ้มมม!

    "อาเรส!"

    กองทัพอาเรสต่างร้องเสียงหลง  เมื่อร่ายกายอาเรสถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงร้อนแรง

    "คิคิคิคิก!  คุฮ่าฮ่าฮ่า!"

    เสียงหัวเราะอันชวนขนหัวลุกได้ดังมาจากจุดที่แสงสว่างส่องไม่ถึง
    ทันใดนั้น...ชายคนหนึ่งปรากฏตัว

    'อะไรกัน...'

    กริดไม่รู้จักเจ้าของเสียงหัวเราะอันน่าสยดสยอง 
    เขาไม่คุ้นหน้าเลยสักนิด
    แต่ตรงกันข้าม  สมาชิกกองทัพอาเรสทุกคน  รวมถึงจิสึกะ  ยูเฟอมิน่า  ป็อน  และเรกัส  ทั้งหมดต่างมีสีหน้าขาวซีดราวกระดาษ

    "แอ็กนัส!"

    ขณะเดียวกัน

    ครืนนนนน!

    แกร่ก! แกร่ก! แกร่ก! แกร่ก! แกร่ก!!

    ภายในวังหลวง  โครงกระดูกจำนวนมหาศาลได้กรูออกมาด้านนอกราวกับคลื่นทะเลซัดโถม  ยิ่งไปกว่านั้น  ซากศพกองทัพเบลโต้นับแสนด้านนอกวัง  บัดนี้เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นโครงกระดูกเดินได้   
    กองทัพอาเรสและโอเวอร์เกียร์พลันถูกโจมตีขนาบสองด้าน

    เคร้ง! เคร้ง!

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
    
    "แอ็กนัส!"

    เสียงตะโกนและหวีดร้องดังระงมไม่หยุด  
    เกิดระเบิดดังต่อเนื่องจนทุกคนแทบหูอื้อ
    
    ทุกสิ่งกำลังโกลาหลวุ่นวาย...
    
    ปาร์ตี้กริดและกองทัพอาเรสต่างพากันสับสนเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
    แต่สิ่งนี้มิได้เกิดกับทุกคน  โดยเฉพาะกริด  เขายังสบายดี
    ชายหนุ่มระเบิดซากโครงกระดูกจนแหลกละเอียดก่อนชำเลืองสายตามองใครบางคน

    "แกคือแอ็กนัสสินะ"

    "เห...ราชาโอเวอร์เกียร์นี่นา~  ใช่แล้ว...ฉันเอง  คิคิคิคิก!"

    สายตาอันคมกริบของกริด  สอดประสานกับดวงตาสีทองแอ็กนัส
    ทันใดนั้น...

    โครมมมม!

    อัศวินความตายตนหนึ่งพุ่งแหวกแนวป้องกันของหน่วยกงล้อเหล็กเข้ามา  
    มันเหวี่ยงดาบใส่กริดอย่างดุดัน
    แตกต่างจากอัศวินความตายตัวที่โจมตีอาเรสโดยสิ้นเชิง

    เคร้ง!

    กริดรับดาบไว้ได้

    บึ้มมมม!

    แต่เวทมนตร์ของลิชกลับระเบิดใส่ชายหนุ่มอย่างจัง

[ ท่านได้รับความเสียหาย 11,900 หน่วย ] 

    ขณะเดียวกัน

    >>  ฝ่าบาท...รีบกลับอาณาจักร---

    เป็นเสียงข้อความส่วนตัวจากลอเอล  
    คำพูดลอเอลได้ระคายเคืองศักดิ์ศรีของกริดอย่างหนัก  
    ปัจจุบัน  ชายหนุ่มกำลังถูกกล้องถ่ายภาพนับร้อยตัวรายล้อมด้วย
    
    >>  ทำไม...จะให้ฉันหนีแอ็กนัสรึไง

    >> ....!!    

    >>  นายคิดจริงหรือว่าคนอย่างฉันจะยอมถอย...ที่ต้องการพูดมีแค่นี้ใช่ไหม

    สวบ

    กริดสวมหน้ากากเพชฆาต

    ซู่ว!  ซู่ว!  ซู่ว!  ซู่ว!

    หัตถ์เทวะทั้งสี่พลันแปรเปลี่ยนเป็นหอกไลฟาเอล

    "ไม่ยักรู้มาก่อนว่าวันนี้เป็นวันหมาบ้าโลก"

    "คิคิก..."

    บึ้มมมมมมม!

    เกิดเป็นแสงสว่างจ้าสีขาวโพลนท่ามกลางสนามรบอันดุเดือด

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. แม่งเหี้ยแยากอ่านต่อ

    ReplyDelete
  2. ถ้าเซฮีมาบัพให้พรเอกกับกลุ่ทพระเอก5คน ทัพแอคนัสจะยังยิ้มได้ไหมนะ ตีทีระเบิด5เมตรงี้😂

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00