จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 665

    >>  ฉันจะเปิดโอกาสให้เธอแน่  แต่ตอนนี้ขอดวลกับมันก่อน

    เป็นข้อความส่วนตัวจากกริดถึงยูเฟอมิน่าหลังจากแอ็กนัสอัญเชิญลิชมูมัด
    กริดไม่อยากให้ยูเฟอมิน่าแทรกแซงในการดวลกับแอ็กนัส  เขาต้องการเอาชนะแอ็กนัสอย่างสมเกียรติต่อหน้าสายตาผู้คนหลายล้านทั่วโลก
    แอ็กนัส  ชายที่ทุกคนต่างหวาดกลัวและยำเกรง  กริดต้องการโค่นพร้อมพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าตนคือที่หนึ่ง
    ยูเฟอมิน่าได้ยินดังนั้นก็ไม่ขัดข้อง  เธอไม่คิดโกรธเคืองในศักดิ์ศรีไม่เข้าท่าของกริด

    หลังจากนั้น  ยูเฟอมิน่าก็เงียบงันมาตลอด
    เธอรู้ผิดต่อเรกัสมาก  แต่ตนจำเป็นต้องเก็บงำพลังที่แท้จริงไว้สำหรับโค่นมูมัด 
    ยูเฟอมิน่ามองหาโอกาสปลีกตัวจากไวท์อยู่เสมอ  เธอรอจังหวะที่กริดให้สัญญาณหลังจากแสดงฝีมือกับแอ็กนัสจนหนำใจ
    
    แต่แผนดังกล่าวกลับต้องเป็นหมัน...

    "ความตายที่ถูกลิขิต!"

    ปิอาโร่ปรากฏตัวขึ้นตามคำอัญเชิญกริด  
    ชาวนาในตำนานใช้ท่าบดข้าวเปลือกสังหารไวท์จนตายคาที่  จากนั้นก็ใช้ทักษะที่ไม่ควรใช้มากที่สุดออกมา
    และเป้าหมายดันเป็นแอ็กนัส...

    ฉึก!

    "ด--เดี๋ยว...!"

    ความตายของผู้อัญเชิญย่อมหมายถึงการหายไปของบริวาร
    เมื่อแอ็กนัสกลายเป็นแสงสีเทาจากการถูกแทงด้วยคราดเล็กกลางหน้าผาก  ยูเฟอมิน่าและกริดต่างหน้าขาวซีดพร้อมเพรียง
    
    ยามนี้  ร่างของมูมัดได้หายไปพร้อมกับความตายแอ็กนัส
    ใช่แล้ว  เพราะปิอาโร่  ภารกิจของทั้งกริดและยูเฟอมิน่าล้วนล้มเหลวในพริบตา

    "จ--เจ้าบ้าปิอาโร่..."
    
    หมอนี่ก็เป็นโทรลล์เหมือนบราฮัมรึไง

    "จบสิ้นแล้ว...---เอ๋!"

    กริดแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น  
    จู่ๆ แสงสีเทาที่อาบร่างแอ็กนัสพลันมลายหายไปอย่างน่าฉงน

    'ทำไมความตายถึงถูกยกเลิกกลางคัน...'

    ผลที่เกิดขึ้นกับแอ็กนัส  แตกต่างจากบัฟอมตะของตำนานเล็กน้อย
    บัฟอมตะของตำนานจะ 'ป้องกันไม่ให้ตาย' และอมตะห้าวินาที  ด้วยบัฟนี้  แสงสีเทาจะไม่เกิดขึ้นบนร่างผู้เล่น
    ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับแอ็กนัสตรงหน้า  มันได้ตายไปแล้วอย่างแน่นอน  แต่ก็กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งอย่างน่าประหลาด

    'ทักษะอะไรกัน...'

    ขณะกริดกำลังสับสน  น้ำเสียงอันเย็นชาของแอ็กนัสได้ดังกังวาล

    "คิคิ...คิคิคิก!  คิดไม่ถึงว่าชาวนาปีศาจจะปรากฏตัวที่นี่"

    "..."

    ร่างกายแอ็กนัสถูกดึงกลับมาจากโลกแห่งความตาย  แต่เนื้อหนังตามลำตัวล้วนฉีกขาดเหวอะหวะจนหมดสภาพ  เผยให้เห็นกระดูกอยู่ทุกส่วนบนเรือนร่าง  ราวกับแอ็กนัสกลายเป็นมอนสเตอร์โครงกระดูกเสียเอง
    ใครก็ตามที่ได้เห็นต่างต้องเย็นสันหลังวาบอย่างขนลุก

    "อัญเชิญอัศวินสินะ...ไม่ต้องคอยควบคุมอัศวินที่อัศเชิญออกมา  นับเป็นทักษะอัญเชิญในฝัน"

    แอ็กนัสใช้แขนปาดเส้นผมสีเขียวที่ชุ่มด้วยเลือดและเหงื่อ  
    การจะอัญเชิญอัศวินได้  เงื่อนไขขั้นต่ำคือผู้เล่นต้องมียศขุนนาง 
    แอ็กนัสเองก็เป็นขุนนางและมีอัศวิน  แต่มันกลับไม่เคยคิดเรื่องอัญเชิญอัศวินในการต่อสู้มาก่อน
    พวกพ้องผู้เล่นที่สนิทสนมมักร่วมเป็นร่วมตายในสงครามอยู่แล้ว  ส่วน NPC นั้นก็มีเพียงหนึ่งชีวิต  อันตรายเกินกว่าจะอัญเชิญออกมาสู้กับผู้เล่นที่ 'แข็งแกร่ง' อย่างกริด
    
    "สิ่งที่ต่างกันระหว่างฉันกับแกก็คือ...อัศวินของแกสุดยอดเกินไป"
    
    แอ็กนัสจ้องมองปิอาโร่ไม่กระพริบ
    NPC ในตำนานคือสิ่งที่ผู้เล่นยังมิอาจรับมือได้ในตอนนี้  
    
    มันไม่โกงเกินไปหน่อยหรือ  ที่ใครสักคนสามารถครอบครอง NPC ในตำนานเป็นของส่วนตัว...
    ไม่เลย  แอ็กนัสมิได้คิดเช่นนั้น

    'ผู้คนคงมองเราด้วยความรู้สึกแบบนี้มาตลอด...'

    แอ็กนัสแสยะยิ้มเมื่อหวนนึกถึงทักษะ <ปกครองโดยสมบูรณ์>
    ปกครองโดยสมบูรณ์คือทักษะเฉพาะตัวของ <ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล>  ตลอดชีวิตจะใช้งานได้เพียงสามครั้งเท่านั้น  สามารถทำให้ตัวตนที่ 'ไร้ชีวิต' ตกอยู่ในความควบคุมได้ตลอดกาล  
    แต่ไหนแต่ไรมา  แอ็กนัสใช้มันเพียงหนเดียวเท่านั้น  คือเมื่อครั้งช่วงชิงลิชมูมัดจากบราฮัม

    'เราจะใช้ทักษะนี้กับ...'
    มุมปากแอ็กนัสเริ่มกระตุก  ดวงตาของมันจ้องมองปิอาโร่อย่างละโมภ
    
    กลับกัน  ปิอาโร่กำลังจ้องมองแอ็กนัสที่ฟื้นจากความตายด้วยสีหน้าตึงเครียด

    "พลังที่อยู่เหนือความตาย...ฝ่าบาท  ชายคนนี้อันตรายมาก"

    ความแข็งแกร่งของแอ็กนัสอยู่ในระดับสูงจนปิอาโร่ตื่นตัวเป็นพิเศษ
    เขามองว่า  หากปล่อยชายคนนี้ไว้  ในอนาคตจะกลายเป็นเสี้ยนหนามของกริดแน่

    "ฉันต้องฆ่าแกให้ได้"

    หมับ!

    มือที่ถือคราดเล็กและเคียวเล็กพลันกำแน่น

    "คิคิก...วันนี้ฉันคงต้องขอตัวก่อน"

    แอ็กนัสก้าวถอยหลัง
    ทันใดนั้น  สมาชิกอิมมอทัลเกือบทั้งหมดได้รายล้อมแอ็กนัสไว้ทุกทิศ

    แกร่ก แกร่ก แกร่ก!

    แกร่ก แกร่ก แกร่ก!

    โครงกระดูกนับพันกลายเป็นแนวป้องกันกีดขวางมิให้ปิอาโร่เข้าถึงแอ็กนัส
    เวอราดินตะโกนขึ้นเสียงดังเมื่อมันสามารถทะลวงผ่านและเปิดทางวงล้อมทัพอาเรสสำเร็จ

    "แอ็กนัส!  ทางนี้!"

    "เดี๋ยว!"
    กริดตะโกนไล่หลังแอ็กนัสที่กำลังคิดหนี
    "แกมันปอดแหก!  คิดหนีหางจุกก้นเช่นนี้  ไม่รู้สึกละอายใจเลยรึไง!"

    "ปอดแหกสินะ...คิคิก"

    แอ็กนัสชะงักไปครู่หนึ่ง
    กริดพลันคิดว่าคำยั่วยุของตนได้ผล
    
    แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น  
    แอ็กนัสชาชินกับคำดูแคลนทุกชนิดนานแล้ว  มันมิได้แยแสการยั่วยุอันตื้นเขินของกริดเลยสักนิด

    "ถ้าใช่...แล้วแกจะทำไม  คิฮ่าฮ่า!"

    พรึ่บ

    แอ็กนัสสะบัดผ้าคลุมจนเผยให้เห็นร่างกายส่วนล่าง
    เป็นร่างโครงกระดูกที่ยังมีเศษเนื้อหนังหลงเหลือเพียงเล็กน้อย  ไม่ใช่สิ่งที่น่ามองสักเท่าใด  
    กริดและอีกหลายคนที่ได้เห็นต่างพากันสะดุ้งเฮือก  บางคนอยากอาเจียนเสียเดี๋ยวนั้น

    "การต่อสู้ของเราคงต้องเลื่อนออกไปก่อน  ภารกิจของพวกเราไม่มีระยะเวลาจำกัดอยู่แล้วนี่...คิคิคิก!"

    แอ็กนัสพยายามหนี  แต่สมาชิกโอเวอร์เกียร์และทัพอาเรสย่อมไม่ปล่อยไป

    "โบยบิน!"
    
    ฟินิกซ์แดงตัวใหญ่ถูกอัญเชิญจากคันศรเกรดมิธ  นี่คือสัญญาณให้กองทัพอาเรสเริ่มเปิดศึก
    ทว่า...

    "เสื้อกันฝน  บาเรียซากศพ"

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม...---

    โบยบินของจึสึกะมิอาจสร้างรอยขีดข่วนให้แอ็กนัสได้  บาเรียป้องกันอากาศหลายสิบชั้นของแอ็กนัสทรงพลังเกินไป  
    ส่วนทักษะที่เหลือล้วนถูกขัดขวางด้วยบาเรียซากศพ  
    ลำพังแอ็กนัสไม่อาจหยุดยั้งทักษะจำนวนมากได้ก็จริง  แต่มันก็มีพวกพ้องหมอผีข้างกายจำนวนหลายสิบ
    ทัพโครงกระดูกของอิมมอทัลรวมกันแล้วหลายพันตน
    ในทางทฤษฏี  เป็นไปไม่ได้เลยที่จะแหวกฝ่าแนวป้องกันของกลุ่มแร้งเกอร์คลาสหมอผีระดับท็อปของโลกเข้าไปทำร้ายแอ็กนัสได้
    
    ด้านปิอาโร่และยูเฟอมิน่ากำลังถูกโครงกระดูกมหาศาลพันแข้งขาไม่ต่างกัน

    "การพบกันครั้งหน้า...อย่าลืมเรียกชาวนาเสียสตินั่นออกมาด้วยก็แล้วกัน  แล้วฝ่ายที่เสียใจต้องเป็นแก"

    แอ็กนัสได้ทิ้งท้ายก่อนจะอัญเชิญลิชมูมัดออกมาอีกครั้งเพื่อยิงเวทมนตร์เปิดทาง  
    ด้านฝ่ายอิมมอทัลเป็นกำลังหลักในการตรึงทัพอาเรสและสมาชิกโอเวอร์เกียร์จนอยู่หมัด

    เพียงไม่นานแอ็กนัสและอิมมอทัลก็หายไปจากสนามรบเมืองหลวงเบลโต้อย่างไร้ร่องรอย

[ ท่านล้มเหลวในการเอาชนะมูมัด ]
[ ดวงวิญญาณบราฮัมจะรอคอยโอกาสในครั้งต่อไป ]

    ***

    ความล้มเหลวในการสังหารแอ็กนัส  สิ่งนี้จะเรียกว่าพ่ายแพ้ก็ไม่เต็มปาก
    อันที่จริง  จุดประสงค์หลักของกริดและโอเวอร์เกียร์คือการช่วยให้อาเรสครองบัลลังก์
    การเผชิญหน้าแอ็กนัสคือเรื่องบังเอิญที่ไม่คาดฝัน

    『 ทันทีที่แอ็กนัสและกิลด์อิมมอทัลหนีไป  อาณาจักรเบลโต้ได้ยกธงขาวแล้วครับ! 』
    
    『 เทพสงครามอาเรสยึดบัลลังก์อาณาจักรเบลโต้และกลายเป็นผู้เล่นราชาคนที่สอง! 』

    『 น่าตกใจมากที่ผู้เล่นซึ่งครอบครองกองทัพมหาศาล  กลับซุ่มซ่อนเป็นตัวตนลึกลับอยู่แสนนาน  เป็นอีกครั้งที่ทำให้ผมรับรู้ว่า  โลกของซาทิสฟายนั้นกว้างใหญ่แค่ไหน 』

    『 ในกรณีเดียวกัน  ความแข็งแกร่งของแอ็กนัสเองก็สุดยอดไม่แพ้กันครับ  แม้อาจทำไม่ได้อย่างที่พูด  ไม่สามารถดับลมหายใจของราชาโอเวอร์เกียร์และเทพสงครามได้  แต่พลังที่แสดงให้เห็นก็น่าตกตะลึงอย่างมาก 』

    『 กองทัพสุดแกร่งของอาเรสและขุนพลหัวกะทิของโอเวอร์เกียร์...พวกเขาถูกพลังอำนาจแอ็กนัสตรึงไว้จนอยู่หมัด  ด้วยความสัตย์จริง  ผมตกตะลึงยิ่งกว่าเมื่อครั้งได้เห็นครอเกลหนแรกเสียอีก  ยังขนลุกไม่หายจนถึงตอนนี้ 』

    『 แต่ผลของสงครามถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของฝ่ายกริด  กษัตริย์คนแรกยื่นมือช่วยเหลือให้กษัตริย์คนที่สองถือกำเนิดขึ้น  สิ่งนี้น่ายกย่องมากครับ 』

    『 ชาวนาคนนั้น... 』
    
    แรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นหลังสงครามนับว่ามหาศาล
    อาณาจักรที่สองของผู้เล่นถัดจากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์  ดูเหมือนกองทัพอาเรสจะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกริดอย่างมาก
    สิ่งนี้ส่งผลให้อิทธิพลและอำนาจของกริดแผ่ขยายออกไป  
    ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกริดเริ่มเกิดความหวาดผวาในเงามืด

    ชื่อเสียงของกองทัพอาเรสก็โด่งดังเป็นพลุแตกไม่แพ้กัน 
    เป็นเรื่องน่าตกใจมาก  เมื่อรู้ว่ามีผู้เล่นที่ครอบครองกองทัพเทียบเท่าอาณาจักรหลบซ่อนอย่างเงียบงันมาตลอด
    ผู้ชมทั่วโลกต่างวิเคราะห์กันไปต่างๆ นาๆ  ว่าบางทีอาจมีกองทัพคล้ายคลึงกับอาเรสกำลังซุ่มซ่อนอีกมาก

    แลัวก็...

    "หากแอ็กนัสไม่เสียเวลาจัดการกับอาเรสในช่วงแรก  สงครามคงจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของกริดนานแล้ว"

    "โดยเฉพาะรูปลักษณ์อันเดดในยามใกล้ตาย  ฉันชื่นชอบมันมาก  แอ็กนัสไม่ด้อยไปกว่าครอเกลเลยสักนิด"

    "ฉันชอบเสียงหัวเราะสุดพิลึกนั่น  เสียงหัวเราะที่แม้แต่ฝ่ายเดียวกันยังขนลุก"

    "ใช่แล้ว...แอ็กนัสคือคำตอบ  พวกเราติดตามแอ็กนัสกันเถอะ"
    
    อดีตผู้เล่นชั่วร้ายของบลัดคาร์นิวัลกำลังหลงไหลในพลังและความบ้าคลั่งของแอ็กนัส
    เหล่าคนชั่วเริ่มรวมตัวอีกครั้งรอบกายชายเสียสติ

    ***

    "ฉันขอโทษ"

    กริดกล่าวขอโทษยูเฟอมิน่าด้วยสีหน้าเจ็บแปลบ
    การเปลี่ยนคลาสของยูเฟอมิน่าต้องเลื่อนออกไปเพราะความเห็นแก่ตัวของตน  กริดคิดเช่นนั้น

    ยูเฟอมิน่ารีบส่ายศีรษะ
    "ไม่ต้องขอโทษหรอก  พวกเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผลจะออกมาเป็นยังไงหากร่วมมือกันแต่แรก  อาจไม่เพียงพอเอาชนะลิชมูมัดเหมือนเดิม"    

    การเผชิญหน้ากับแอ็กนัสถือเป็นเหตุการณ์เกินคาดฝันของกริดและยูเฟอมิน่า
    ค่อนข้างเป็นที่เคลือบแคลงว่า  ยูเฟอมิน่าผู้สูญเสียเวทมนตร์เกรดสูงไปมากกับหน่วยเกราะหนักเจนศึก  จะมีพลังรบสมบูรณ์พร้อมต่อกรกับลิชมูมัดเลเวล 400 ได้จริงหรือ

    "หมอนั่นแข็งแกร่ง"    

    พลังอำนาจของแอ็กนัสอยู่เหนือว่าที่ทุกคนคาดเดา  แต่ถึงกระนั้น  สีหน้าของสมาชิกโอเวอร์เกียร์และยูเฟอมิน่าก็มิได้หม่นหมอง  
    แอ็กนัสอาจยอดเยี่ยมก็จริง  แต่ท้ายที่สุดแล้ว  กริดคือผู้ชนะสงครามครั้งนี้  พวกเขารู้สึกดีใจที่เลือกอยู่ฝ่ายกริดมาตั้งแต่ต้น

    ทว่า  สีหน้าของกริดกลับดำมืด

    'คนส่วนใหญ่พูดถูก  ถ้าแอ็กนัสดวลกับเราด้วยลิชและอัศวินความตายทั้งหมดตั้งแต่เริ่ม  คงเป็นการยากที่เราจะเอาชนะได้'

    หากภารกิจบราฮัมและมูมัดไม่อุบัติขวางไว้  ผลการต่อสู้คงกลับตาลปัดโดยสิ้นเชิง
    กริดยังคงรักษาชื่อเสียงไว้ได้เพราะเนื้อหาภารกิจได้แก้ไขค่าสถานะสองฝ่ายให้เท่าเทียม  

    'เรายังอ่อนแอกว่าแอ็กนัส...ถ้าไม่มีปิอาโร่ล่ะก็'

    ทว่า...

    'คราวหน้าไม่เหมือนเดิมแน่!'

    เงาดำมืดบนใบหน้ากริดเริ่มจางหาย  เขาหวนนึงถึงความยืดหยุ่นของพลังแห่งไอเท็มที่ตนครอบครอง

    'นี่คือข้อดีของผู้สืบทอดแพ็กม่า'

    กริดสามารถสร้างไอเท็มใหม่สำหรับแก้ทางคู่ต่อสู้ได้ตลอดเวลา
    ชายหนุ่มไม่เคลือบแคลงเลยว่า  ตนจะรับมือกับแอ็กนัสได้ง่ายขึ้นกว่านี้หลายเท่า  หากสร้างไอเท็มไว้ปราบอันเดดโดยเฉพาะ

    'แอ็กนัสไม่เหมือนกับครอเกล'

    ครอเกลคือตัวตนสมบูรณ์แบบที่สามารถรับมือได้ทุกสถานการณ์
    มันสมองอัจฉริยะที่ประมวลผลได้รวดเร็ว  รวมถึงฝีมือควบคุมที่สามารถเนรมิตรปาฏิหาริย์ให้เป็นจริงขึ้นได้
    ทว่า  ครอเกลยังมีข้อบกพร่องในด้านไอเท็ม

    กลับกัน  ความแข็งแกร่งของแอ็กนัสมีพื้นฐานมาจากทักษะสุดโกงนานาชนิด  แต่นั่นก็มาพร้อมจุดบอดไม่น้อยเช่นกัน
    ไอเท็มคือทางแก้ที่สมบูรณ์แบบสำหรับต่อกรกับแอ็กนัส

    "คราวหน้า..."

    ชัยชนะจะตกเป็นของตน!
    กริดลั่นวาจาพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง 
    ซาทิสฟายสามารถสร้างความตื่นเต้นให้เขาได้เสมอ

    ***

    นอกเขตอาณาจักรเบลโต้

    ชี่...

    ชี่~~

    แอ็กนัสที่ยืนอยู่ตามลำพัง  บัดนี้ร่างกายมันเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีเทา
    ระยะเวลาของทักษะ <กลายเป็นครึ่งลิช> หมดลงแล้ว

[ ท่านเสียชีวิต ]
[ ท่านสูญเสียค่าประสบการณ์จำนวนมาก ]

    "คิคิก...คิคิคิคิก!  กริด..."

    แอ็กนัสมิได้คลุ้มคลั่งแม้จะเปิดตัวต่อหน้าคนทั้งโลกด้วยความล้มเหลว
    มันพ่ายแพ้ต่อกริดจนต้องหนีหางจุกก้น
    โลกใบนี้  นอกจากครอเกลแล้ว  เคยมีใครทำให้มันต้องตกที่นั่งลำบากถึงเพียงนี้รึเปล่า...
    คำตอบคือไม่

    "กริด!!  คิฮ่าฮ่า!  คิคิคิก!  คิฮ่าฮ่าฮ่า!"

    แอ็กนัสกำลังมีความสุข  มันชื่นชอบกริดอย่างมาก  
    กริด  ชายอีกคนที่สามารถทำให้มันหลงลืมความเจ็บปวดในโลกจริงได้
    อย่างน้อย  คืนนี้ก็เป็นคืนที่มันได้หลับไหลฝันดี

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,125
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous