จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,497



มนุษยชาติเคยตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติภายใต้การรุกรานจากจอมอสูรหลักสามสิบและยี่สิบ


อาศัยสามัญสำนึกดังกล่าว ทุกคนรู้ว่าจอมอสูรลำดับเดียวแข็งแกร่ง


แต่หลายคนยังเข้าใจผิดว่า ช่องว่างระหว่างจอมอสูรลำดับเก้ากับสิบนั้นมีไม่มาก


มีเพียงไม่กี่คนที่ตระหนักว่า ช่องว่างดังกล่าวกว้างใหญ่ราวท้องฟ้ากับหุบเหว


นั่นเป็นเรื่องช่วยไม่ได้


ผู้เล่นที่เข้าถึงเรื่องราวของโลกยังคงเป็นส่วนน้อย และจากบรรดาทั้งหมด มีเพียงหยิบมือเดียวที่เคยลิ้มลองประสบการณ์ในนรกจนถึงแก่น


แม้แต่ยูร่าก็ยังไม่เข้าใจนรกอย่างถ่องแท้


เธอยังเข้าไม่ถึงเนื้อหาส่วนลึกของนรก กระแสเหตุการณ์พัฒนาไปเร็วกว่าอัตราการเติบโตของผู้เล่น


กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่มีใครรู้ว่าจอมอสูรลำดับสี่แข็งแกร่งเพียงใด


จอมอสูรลำดับสูงสุดหากไม่นับ ‘สามอสูรต้นกำเนิด’ ซึ่งไม่มีวันถูกทดแทน


ต่อให้คำนิยามดังกล่าวถูกแนบมากับข้อความระบบขณะปรากฏกาย ผู้เล่นทั่วไปคงจะไม่รู้สึกอะไรนัก


เพราะคนทั่วไปไม่ทราบเกี่ยวกับ ‘สามอสูรต้นกำเนิด’ อันประกอบไปด้วย บาเอล อาโมแรค และเบริอาเช่


เป็นธรรมดาที่จะไม่ทราบ


แม้แต่กริดเองก็เพิ่งได้เรียนรู้จากจิตรกรรมฝาผนัง


> สุดยอด! บราฮัมมาแล้ว


> สถานการณ์คลี่คลาย!


มหาจอมเวทในตำนาน บราฮัม·เฮชวาล


ชื่อเสียงของมันโด่งดังตั้งแต่ตอนยังไม่คืนชีพ


หลังจากยึดครองร่างกริด มันปราบข้ารับใช้ลำดับหนึ่งของยาธานด้วยเพียงหนึ่งนิ้ว นอกจากนั้นยังเคยเอาชนะครอเกลในการแข่งนานาชาติ


แต่แน่นอน ตัวตนในเวลานั้นยังเป็นปริศนา ความจริงเพิ่งถูกเปิดเผยในภายหลัง


แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผู้คนอดไม่ได้ที่จะคิดว่าบราฮัมนั้นไร้เทียมทาน


มันโด่งดังเพราะหน้าตาหล่อเหลา


ในขณะที่ไคล์เป็นขาประจำในการจัดอันดับท็อปสิบ NPC ยอดนิยมจากผู้เล่นหญิง บราฮัมคือขาประจำ ‘อันดับหนึ่ง’ NPC ยอดนิยมจากทั้งผู้เล่นหญิงและชาย


เมื่อผสานเข้ากับเรื่องแต่งเติมมากมาย บราฮัมกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่สุดในสายตาคนทั่วโลก


ไม่มีใครจินตนาการความพ่ายแพ้ของมันได้


“เฮ—!!”


แม้ว่าเมืองบางส่วนจะถูกถล่มด้วยอุกกาบาต แม้ว่าใครหลายคนจะโดนลูกหลงจนปางตาย


แต่ผู้คนยังพากันส่งเสียงเชียร์อย่างสุดลมหายใจ


เซปาร์ซึ่งเคยถล่มกองทัพจักรวรรดิตามลำพัง ไม่เพียงมันจะถูกบราฮัมฆ่าในพริบตา แม้แต่จอมอสูรลำดับสี่ก็ยังถูกอุกกาบาตถล่มใส่


แต่แน่นอน ผู้คนจำนวนมากยังแอบกังวล


กรุงไททันคือมหานครอันดับหนึ่งของทวีป


ปัจจุบัน บราฮัมได้ทำลายไปถึงหนึ่งในห้า


ไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีผู้บริสุทธิ์ล้มตายไปหลายหมื่นหรือหลายแสนชีวิตท่ามกลางดงระเบิดและเวทมนตร์


จริงอยู่ การปล่อยให้จอมอสูรอาละวาดอาจเกิดความเสียหายเป็นวงกว้างมากกว่านี้ แต่การลงมือเมื่อครู่ก็ดูเหมือนจะทำเกินไปสักหน่อย


ผู้ชมต่างจดจ่อบราฮัมบนจอภาพด้วยสายตากังวล


‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน…’


เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มแผ่นหลังบราฮัม


แน่นอนว่าท่าทีภายนอกยังดูผ่อนคลายและเชิดคางด้วยความโอหัง


แต่ภายในใจ บราฮัมค่อนข้าง ไม่สิ กำลังสับสนพอสมควร


มันใช้เวทอุกกาบาตสามครั้งรวด


หนึ่งคือเวทที่เพิ่งร่าย และอีกสองเกิดจากเวทตั้งเวลา


นับตั้งแต่ขอบเขตห้วงนรกถูกทำลาย มันคาดคะเนสถานที่และเวลาที่ศัตรูทรงพลังจะปรากฏ โดยอาศัยเส้นทางของเซปาร์เป็นเกณฑ์


นี่คือเหตุผลที่คามิคินโดนอุกกาบาตจังๆ เพียงหนึ่งในสาม


แต่แน่นอน อุกกาบาตอีกสองชุดก็ยังสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างพอจะกระทบกระเทือนคามิคิน


ทั้งหมดเป็นเพราะการคาดคะเนที่แม่นยำ


การจะทำเช่นนี้ได้ต้องเข้าใจสถานการณ์อย่างท้องแท้และคำนวณได้แม่นยำอย่างมาก


อย่างไรก็ดี


บราฮัมดึงอุกกาบาตจากอวกาศทั้งสิ้นสามลูก


แต่ในความเป็นจริง มีอุกกาบาตตกลงมามากถึงยี่สิบเจ็ดลูก


แน่นอนว่า ทุกลูกมิได้มีพลังทำลายเท่ากัน


สมมติให้อุกกาบาตหลักสามลูกที่บราฮัมดึงลงมามีพลังทำลายหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ อีกยี่สิบสี่ลูกที่เหลือจะมีพลังทำลายราวสามถึงสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น


แต่นั่นก็เพียงพอ


เมืองถูกทำลายไปหนึ่งในห้า


‘…พลังของไม้เท้า?’


สายตาอันเย็นชาของบราฮัมก้มมองไม้เท้าในมือ


ไม้เท้าบีเลียลที่ถูกกริดปรับแต่งด้วยวัสดุจากการสำรวจนรกครั้งล่าสุด


บราฮัมที่เป็นเพียงจอมเวท (?) ย่อมไม่ทราบความจริง แต่ขั้นตอนการปรับแต่งของกริดนั้นไม่ธรรมดา


การปรับแต่งใหม่ช่วยชดเชยข้อบกพร่องเดิม แถมยังเสริมพลังด้วยวัสดุคุณภาพสูงขึ้น รวมไปถึงการบรรจุพลังเทพ เป็นมากกว่าการเสริมประสิทธิภาพในแง่การตีบวก


พลานุภาพแห่งเทพโอเวอร์เกียร์


<นวัตกรรม>


อาวุธของบราฮัมทรงพลังเหนือจินตนาการ


‘เวทมนตร์สร้างภาพตกค้าง… เป็นภาพตกค้างที่เลียนแบบเวทมนตร์?’


บราฮัมเข้าใจคุณสมบัติใหม่ของไม้เท้าทันที


มันอาศัยความฉลาดวิเคราะห์ว่าเหตุใดอุกกาบาตถึงตกลงมายี่สิบเจ็ดลูก


‘ไม่ใช่แค่พลังทำลายที่เพิ่มขึ้น แต่ยังรวมถึงขอบเขตการแสดงผล’


เป็นพลังระดับปาฏิหาริย์


กริดสร้างสิ่งของที่เหนือจินตนาการออกมาอีกครั้ง


‘ต้องรีบทำความเคยชิน’


บราฮัมสัมผัสได้


ไม้เท้าอันนี้ไม่ใช่อาวุธสำหรับจอมเวท แต่เป็นสัตว์ประหลาดที่จะกลืนกินจอมเวทเข้าไป


ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากจอมเวทธรรมดาใช้งานไม้เท้าอันนี้ ชะตากรรมเดียวคือการถูกมันกลืนกินเนื่องด้วยพลังทำลายที่มากเกินไป


แต่ไม่ใช่กับบราฮัม


มันตระหนักถึงแก่นแท้และควบคุมได้ในทันที


แม้จะยังฟื้นคืนพลังสมัยแวมไพร์ทายาทไม่ได้ แต่พลังในยุครุ่งเรืองของ ‘มหาจอมเวท’ นั้นกลับคืนมาแล้ว


กล่าวอีกนัยหนึ่ง บราฮัม·เฮชวาลกลับไปเป็นคนเดิมโดยสมบูรณ์


ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าไฮดร้า สำรวจนรก ล่าเฮลกาโอ ทั้งหมดมีส่วนช่วยอย่างมาก


ลำพังค่า EXP ที่ได้รับก็มหาศาลคนจนทั่วไปจินตนาการไม่ออก


ทันใดนั้น มันได้ยินเสียงที่ชวนให้โล่งใจ


“ท่านบราฮัม! ประชาชนถูกอพยพเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องห่วงทางนี้!”


เป็นเสียงของดยุคเกล็นฮาล


คำพูดมันปราศจากคำโกหก


กรุงไททันคือสถานที่ตั้งห้วงคุกนรก มีหรือที่จักรวรรดิจะไม่อพยพประชาชนออกไปหลังจากทราบข่าวการรุกรานของจอมอสูร?


คนส่วนใหญ่ที่ยังเหลืออยู่ในจักรวรรดิโดยมากเป็นนักรบ ประกอบด้วยผู้เล่นและบุคลากรที่สังกัดกิลด์ มีฝีมือและความสามารถในการต่อสู้


แน่นอน นั่นอาจไม่ใช่ทั้งหมด


แต่ชาวบ้านทั่วไปก็ถูกพาอพยพล่วงหน้าโดยฝีมือดยุคเกล็นฮาลไปแล้วเมื่อครู่


นอกจากนั้นยังมีความช่วยเหลือจากอัศวินสีชาดและดยุคมอริส


บราฮัมตอบเสียงแผ่ว


“เฮ่อะ! คิดว่าข้าสนใจผู้คนนักหรือ”


เป็นความรู้สึกที่แท้จริงภายในใจ


แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ข่าวดังกล่าวทำให้บราฮัมค่อนข้างโล่งอก เหงื่อเย็นเยียบบนแผ่นหลังถูกเป่าจนแห้งสนิทด้วยผลของเวทมนตร์ ‘ชะล้าง’


“ต้องขอโทษที่พยายามคิดแทนผู้อาวุโส”


ดยุคเกล็นฮาลขออภัยอย่างนอบน้อม


มันเริ่มประหม่าหลังจากได้ยินคำพูดของบราฮัม


ถึงจะเป็นดยุคผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิ แต่มันก็มิได้เก่งกาจที่สุด


มหาจอมเวทในตำนานผู้แข็งแกร่งที่สุดตลอดกาล


ชื่อของบราฮัมมีน้ำหนักมากในสายตามนุษย์ทุกคน


“ฮะ… ฮะฮะ! เยี่ยมมาก… ยอดเยี่ยมจริงๆ …”


เป็นเสียงที่สากแหลมคล้ายเหล็กขูดกัน เกิดจากการพูดด้วยเส้นเสียงที่ไหม้เกรียมจนผิดรูป ฟังดูน่าสยดสยองเหนือคำบรรยาย


“…”


ผู้คนต่างหันไปทางใจกลางหลุมลึก


ที่นั่นมีเซนทอร์ตนหนึ่งกำลังยืนตระหง่าน


ท่อนล่างไร้รอยขีดข่วน แต่ส่วนหน้าอกขึ้นไปมีไฟลุกท่วม


สภาพของเนื้อหนังด้านหลังเปลวไฟ พินาศจนไม่เหลือเค้าเดิม


กระดูกและเนื้อละลายกลายเป็นเนื้อเดียว ปะปนกันมั่วประหนึ่งดินน้ำมันที่ปั้นโดยฝีมือเด็กเล็ก


ร่างกายท่อนบนของคามิคินซึ่งเคยเป็นสตรีเลอโฉม มีสภาพเละเทะจนยากจะบรรยาย เหตุเพราะมิอาจทนรับความเสียหายตามหลังที่เกิดจากเวทอุกกาบาตของบราฮัม


“อา… สายเลือดของเบริอาเช่… เยี่ยมไปเลย…”


ลำตัวท่อนบนของคามิคินที่ยังมีเปลวไฟลุกท่วม เริ่มฟื้นฟูกลับสู่สภาพปรกติ


กระดูกคอที่หักห้อย รวมถึงกระดูกสันหลังที่โก้งโค้งเหมือนเถาวัลย์ กลับมาเหยียดตรงตามเดิมอีกครั้ง


หัวใจที่เคยแหลกละเอียด กลับมาสมบูรณ์และเริ่มยุบพอง


กะโหลกศีรษะที่เคยแตก กลับมาเข้ารูปทรงปรกติ ผิวหนังที่ไหม้เกรียมถูกคลุมทับด้วยผิวใหม่ สีหน้าเผยความปีติยินดี


“ข้าอยากได้… ใช่แล้ว! ข้าอยากได้เจ้า!”


แขนที่ร่วงหล่นถูกต่อกลับเข้าไปใหม่ เส้นเสียงสมานเข้าด้วยกัน น้ำเสียงกลับเป็นปรกติราวกับไม่เคยชำรุด


ดวงตาคามิคินที่ปราศจากรูม่านตา มีเพียงสีขาวโพลน หันมาจ้องบราฮัมโดยไม่กะพริบ


วงเวทจำนวนมหาศาลปรากฏขึ้นรอบตัวบราฮัม


เป็นเวทที่ถูกร่ายเตรียมไว้ขณะที่คามิคินกำลังฟื้นฟู


“สกปรกและต่ำทราม”


บึม! บึม! บึม! ครืนนน!!


เวทมนตร์หลายสิบชนิดซึ่งมีพลังทำลายและคุณสมบัติแตกต่างกัน ถูกปลดปล่อยออกมาจนท่วมท้นฟ้าดิน


เป็นคลื่นการโจมตีที่ถาโถมจนหมดสิทธิ์จะตอบโต้


มีเหตุผลที่เวทมนตร์ของบราฮัมแข็งแกร่งกว่าเวทมนตร์ปรกติ


ความแตกต่างไม่กำจัดเฉพาะคุณภาพและปริมาณของมานาที่ใช้ แต่ยังรวมถึงความเหนือชั้นในเชิงเทคนิค


บราฮัมจะคาดเดาคู่ต่อสู้และตอบสนองอย่างเหมาะสมที่สุด


หลังจากวิเคราะห์ปัจจัยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนิสัยของเป้าหมาย ความเคยชิน จุดประสงค์ สภาพแวดล้อม สถานการณ์สนามรบ หรือแม้กระทั่งทิศทางลม บราฮัมจะปรับแต่งเวทมนตร์ของตนให้พุ่งไปหาเป้าหมายได้เร็วขึ้น รุนแรงขึ้น และดึงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างเต็มที่


“…!!”


รอยยิ้มเลือนหายไปจากใบหน้าคามิคินขณะหล่อนวิ่งซิกแซกในแนวโค้งและแนวเฉียง จุดประสงค์เพื่อหลบหลีกเวทมนตร์ของบราฮัม


ไม่ใช่เพราะบาดแผลที่เธอได้รับรุนแรงจนหมดทางตอบโต้


แต่เป็นเพราะเธอหวาดระแวงเวทมนตร์บางชนิดที่เป็นภัยคุกคาม


คามิคินทราบดี การเข้าประชิดตัวบราฮัมไม่ใช่เรื่องง่าย


‘เบริอาเช่ดันให้กำเนิดสัตว์ประหลาดขึ้นมาเสียได้… ไม่สิ เธอให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตที่น่าสมเพชซึ่งกลายเป็นสัตว์ประหลาดในภายหลัง’


เบริอาเช่มิได้ใช้เวทมนตร์


ระบุให้ชัดเจนก็คือ เธอไม่จำเป็นต้องเรียนของแบบนั้น


เบริอาเช่คือสิ่งมีชีวิตที่สามารถสร้างหายนะได้ด้วยเลือดเพียงหยดเดียว


กล่าวคือ หากบราฮัมสืบทอดพลังจากเบริอาเช่ไปสักหนึ่งในสาม มันก็ไม่มีความจำเป็นต้องเรียนเวทมนตร์


‘เด็กน้อยที่น่าสงสาร… เจ้าต้องเป็นแบบนี้เพราะแม่ไม่รัก’


ดูเจ้าตอนนี้สิ


จะให้เรียกว่าสายเลือดของหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร?


เป็นได้แค่จอมเวทมนุษย์ที่ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องฝึกฝนเวทมนตร์ไปตลอดชีวิต เหตุเพราะปราศจากพรสวรรค์


คามิคินเริ่มเห็นอกเห็นใจ


ในฐานะราชาผู้คอยดูแลวิญญาณหลงทาง เธอมักมีความรักในแบบฉบับมารดา


เธออยากโอบกอดบราฮัม


เป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่อย่างการนำดวงวิญญาณอันสูงส่งมาเก็บไว้ดูแลข้างกายไม่ห่าง


“อ๊ะ…! บราฮัม!!”


คามิคินตื่นจากภวังค์เมื่อตระหนักว่าตนตกหลุมพรางเข้าอย่างจัง


บนพื้นในจุดที่เธอยืนหลังจากหลบหลีกเวทมนตร์ของบราฮัม


พลังเวทปริมาณมหาศาลของคามิคินถูกดูดซับลงไปยังพื้นดินเบื้องล่าง


“เยี่ยมมาก! เมื่อคิดว่าเจ้าเคยถูกมารดาทอดทิ้งและต้องดิ้นรนเหมือนกับแมลงที่ติดอยู่กับใยแมงมุม… ข้าจะเป็นมารดาให้เจ้าเอง!”


คามิคินแผดเสียงร้องพร้อมกับระเบิดกับดักเวทมนตร์ของบราฮัมจนฝุ่นควันคละคลุ้งประหนึ่งภูเขาไฟปะทุ


ผู้คนต่างพากันฉงน


เพราะไม่ว่าจะฟังอย่างไร คำพูดของคามิคินก็หาแก่นสารไม่ได้


บราฮัมไร้พรสวรรค์?


จะมาเป็นแม่ให้บราฮัม?


จนถึงจุดที่ผู้คนคิดว่า คามิคินคงเลอะเลือนไปแล้ว


คามิคินมีนิสัยประหลาดเพราะเอาแต่ปกครองนรกมาเป็นเวลานาน สามัญสำนึกจึงผิดเพี้ยนแตกต่างจากมนุษย์โดยสิ้นเชิง


เมื่อใดที่เธอผุดความคิดในหัว สามัญสำนึกจะไม่ถูกนำมาคำนวณร่วมกัน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง เธอจะเชื่อทันทีว่าความคิดและรสนิยมของตนเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และบังคับให้ทุกคนเชื่อในแบบเดียวกัน


คามิคินมีพลังอำนาจมากพอที่จะทำเช่นนั้น


ต่อให้ต้องเปลี่ยนแปลงทั้งโลก แต่เธอก็จะไม่สนผลลัพธ์ที่ตามมา


“หืม…”


บราฮัมดำดิ่งในภวังค์การตรึกตรอง


เป็นอีกครั้งที่มันได้เห็นร่างกายท่อนบนของอีกฝ่ายกำลังฟื้นฟูตัวเอง โดยที่ร่างกายท่อนล่างปราศจากรอยขีดข่วน


มันกำลังสนใจร่างกายท่อนร่างที่สามารถทนต่อการบดขยี้ทางกายภาพของอุกกาบาต ทนของเปลวไฟแผดเผา ทนต่อเวทเยือกแข็ง และทนต่อเวทแรงโน้มถ่วง แถมยังไม่ได้รับความเสียหายจากเวทมนตร์เสริม


ความคิดมากมายกำลังพลุ่งพล่านราวกับกระแสน้ำที่ถาโถม


แน่นอน คำพูดไร้สาระของคามิคินไม่มีผลแม้แต่น้อย


บราฮัมสนใจเพียงความคิดของตน ไม่ใช่ของคนอื่น


และเหนือสิ่งอื่นใด คามิคินเข้าใจผิดตั้งแต่ต้น


ไม่ใช่ว่าเบริอาเช่ไม่รักบราฮัม แต่พรสวรรค์และพลังแวมไพร์ของมันถูกพรากไปเพราะนิสัยของตัวมันเอง


“บราฮัม!!”


หลังจากร่างกายฟื้นฟูกลับเป็นปรกติ คามิคินรีบปรี่ข้าหาบราฮัมซึ่งอยู่ห่างออกไป


จากการคำนวณของเธอ เวทมนตร์ของบราฮัมไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องหลีกเลี่ยงการปะทะ

______________

ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,039

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00