จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,415
ฝึกฝนร่างกาย ฝึกดาบ และวัดความก้าวหน้าของฝีมืออย่างต่อเนื่อง
พวกมันภาคภูมิใจในความแข็งแกร่งของตนจนกระทั่งถูกส่งไปฝึกในทุ่งนา
ที่นั่นไม่ต่างอะไรกับนรก การฝึกหนักที่เหนือจินตนาการได้เปลี่ยนสามัญสำนึกของทุกคนโดยสิ้นเชิง
แต่กระนั้น ทุกคนก็กัดฟันทน
พวกมันยึดถือความแน่วแน่ของ ‘ดิน’ เป็นแบบอย่าง ดินที่คอยโอบอุ้มพืชผลซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงทุกฤดู
ทันทีที่จิตใจเปิดรับธรรมชาติ เปิดรับการออกกำลังกายร่วมกับชาวนา และยึดถือกฎเหล็กของอัศวินอย่างเคร่งครัด พวกมันพบว่าพรสวรรค์ของตนพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
จนกระทั่งฝีมือดาบก้าวไปถึงที่คู่ควร จนกระทั่งเปี่ยมด้วยศรัทธาอันแน่วแน่ พวกมันจึงจะมีสิทธิ์แสดงความจงรักภักดี
ด้วยเหตุผลข้างต้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เป็นอัศวินของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ทุกคนต้องผ่านการฝึกที่เป็นราวกับขุมนรกในฐานะชาวนาภายใต้การกำกับดูแลของปิอาโร่ และในฐานะอัศวินภายใต้ความดูแลของอัสโมเฟล ไม่อย่างนั้นก็เลิกฝันไปได้เลย
“อึก…”
กองอัศวินโอเวอร์เกียร์ กลุ่มอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุด
สำหรับปัจจุบัน อัศวินสีชาดต้องข้ามกำแพงสูงถึงสองชั้นจึงจะมีฝีมือทัดเทียมกองอัศวินโอเวอร์เกียร์
พวกมันที่เปี่ยมด้วยความทระนงตนและองอาจ ต่างพากันกลืนน้ำลายอึกใหญ่
เป็นความกดดันที่ท่วมท้นยิ่งกว่าสมัยทำสงครามกับอาณาจักรเก๊าส์หรือล่าจอมอสูรเสียอีก
อัศวินอาวุโส รอยแมน กล่าวเน้นย้ำอีกครั้ง
“รักษาความตึงเครียดเอาไว้ แต่อย่าหวาดกลัว ความกลัวจะทำให้พวกนายหดตัวต่อหน้าเปลวไฟ”
“ครับ!”
อัศวินต่างขานรับอย่างแข็งขันพร้อมกับตั้งโล่
ปัจจุบัน พวกมันกำลังยืนล้อมโรงตีเหล็ก
เพียงเพราะกริดกำลังสร้างดาบเล่มใหม่
อัศวินยังจำได้ขึ้นใจ เมื่อนานมาแล้ว ในวันที่ดาบมังกรเพลิงถือกำเนิดด้วยฝีมือกริด โรงตีเหล็กเกิดระเบิดจนทุกสิ่งในรัศมีป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดี
กล่าวกันว่า แม้แต่เตาหลอมที่ทนความร้อนได้มหาศาลก็ยังมิอาจรับมือกับเปลวไฟจากดาบมังกรเพลิง
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว นายกเทศมนตรีแรบบิทลงทุกสร้างโรงตีเหล็กใหม่ให้หรูหราและทนทานมากขึ้น
‘แค่นี้อาจจะยังไม่พอ’
แรบบิทมิได้วางใจ
มันรับใช้กริดมากว่ายี่สิบปี มองเห็นพัฒนาการของชายคนนี้มาตลอด
แรบบิทเชื่อว่าฝีมือของกริดไม่มีวันหยุดนิ่ง
‘เทคนิคการตีเหล็กของฝ่าบาทยังไปได้อีกไกล… คราวนี้ แรงระเบิดจะพังไปทั้งย่าน ไม่ใช่แค่โรงตีเหล็ก’
แต่หากถามว่าเทคนิคการตีเหล็กเกี่ยวข้องยังไงกับความรุนแรงของระเบิด แรบบิทกลับไม่ยอมตอบ
มันเรียกระดมพลอัศวินเมืองหลวงกว่าครึ่งและจอมเวทกว่าแปดในสิบ ถูกเกณฑ์ให้มาร่วมภารกิจรับมือกับแรงระเบิดโดยไม่สนใจฟังเสียงคัดค้านจากบรรดาขุนพล
ถึงจะมีหลายฝ่ายโต้แย้งว่าแรบบิทกังวลเกินเหตุ แต่มันมองว่าต่อให้มีโอกาสระเบิดเพียง 1% ก็ห้ามละเลยโดยเด็ดขาด หน้าที่ของนายกเทศมนตรีไรน์ฮาร์ทคือการปกป้องทรัพย์สินและชีวิตของพลเมือง
เคร้ง!
ท่ามกลางสภาวะตึงเครียดของทุกฝ่าย เสียงค้อนดังบางๆ ออกมาจากโรงตีเหล็กสุดทันสมัย
เป็นเสียงที่ดังอย่างต่อเนื่องตลอดสามวันสามคืนเต็ม
“ใกล้จะจบแล้ว”
ผู้ปกครองหอคอยเวทมนตร์ ลาเอลล่า
เธอเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่โน้มน้าวแรบบิทไม่สำเร็จ จึงต้องส่งจอมเวทมาประจำการ รวมถึงต้องคอยกำกับด้วยตัวเอง
หญิงสาวพึมพำเสียงแผ่วขณะนั่งจิบกาแฟบนระเบียงคาเฟ่ใกล้เคียง
อีกไม่นาน ชั่วโมงออนไลน์ของกริดจะถึงขีดจำกัด นั่นหมายถึงการบังคับล็อกเอาต์จากระบบ
ตามอุปนิสัยของกริด ดาบเล่มใหม่จะถือกำเนิดในอีกไม่ช้า เพราะเวลาเฉลี่ยที่กริดใช้สร้างดาบคือสามวัน
“จะได้เห็นผลลัพธ์สักกันที”
พีคซอร์ดที่นั่งฝั่งตรงข้ามลาเอลล่าหัวเราะพลางดื่มน้ำผลไม้รวมรสลูกพลับ
ดาบเล่มใหม่ของกริดจะออกมาเป็นแบบไหน มีพลังชนิดใด?
ทั้งสองต่างคาดหวังอย่างตื่นเต้น
แตกต่างจากแรบบิท พีคซอร์ดและลาเอลล่าเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย
พวกมันไม่ต้องกังวลเหตุระเบิด เนื่องจากการระเบิดครั้งก่อนเป็นพลมาจากความร้อนมหาศาลที่อัดแน่นในดาบมังกรเพลิง และกริดไม่มีทางสร้างอาวุธธาตุไฟที่รุนแรงยิ่งกว่าดาบมังกรเพลิงได้อีก
หมายความว่า จะไม่มีระเบิดที่รุนแรงกว่าเดิมอีกแล้ว
‘อาวุธที่กริดสร้างในคราวนี้น่าจะเป็นธาตุลมหรือไม่ก็น้ำแข็ง’
ใจพีคซอร์ดอยากให้กริดสร้างอาวุธธาตุลม
ธาตุลมจะช่วยส่งเสริมการต่อสู้ได้มาก ทั้งท่าโจมตีระยะไกลและการเพิ่มความเร็วให้ผู้ถือ
ธาตุลมมีบทบาทสำคัญมากในการแข่งซาทิสฟายนานาชาติที่เพิ่งจบลงไป หลายฝ่ายต่างประทับใจฝีมือของแรงเกอร์นามว่าโอเอซิสซึ่งสังกัดกองทัพอาเรส
โอเอซิสใช้พลังธาตุลมได้เก่งกาจและโดดเด่น จึงถูกยกย่องให้เป็นรุคกี้ดีเด่นประจำปีล่าสุด
‘เขาไม่ได้แสดงวิชาดาบไร้พ่ายออกมา… ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องการให้โลกเห็นตัวตนที่แท้จริง… นั่นสินะ หากไม่นับกิลด์โอเวอร์เกียร์ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าโอเอซิสเกี่ยวข้องกับราชาไร้พ่าย… แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคว้าได้สองเหรียญเงินและท็อปสามสิบสองในการแข่งสังเวียน PVP’
ฝีมือควบคุมของโอเอซิสอยู่ในระดับยอดเยี่ยม แถมยังใช้ดาบที่สามารถควบคุมลมได้อย่างชำนาญ ถึงขั้นที่สื่อของสหรัฐขนานนามให้ชายคนนี้เป็น ‘ความหวังใหม่’
‘มีฝีมือสูงทีเดียว… เป็นรองโค้กแค่เล็กน้อยเท่านั้น’
แม้โอเอซิสจะใช้วิชาดาบไร้พ่าย แต่ก็ยังด้อยกว่าโค้กเล็กน้อย นี่คือสิ่งที่พีคซอร์ดประเมิน
อย่างไรก็ตาม มันมิได้วางใจ
จากรายงานของหน่วยโอเวอร์เกียร์เงา โอเอซิสในปัจจุบันได้ครอบครองวิชาดาบทัพเจ็ดหมื่นแล้ว
แน่นอน สิ่งนี้ฟังดูน่าสมเพชเมื่อเทียบกับกริดที่ใช้วิชาดาบทัพสามแสน
แต่นั่นคือการเทียบกับกริด
ผู้เล่นทุกคนมีค่าเท่ากันเมื่ออยู่ต่อหน้ากริด
เป็นได้แค่มดปลวกอ่อนแอ
“หือ…”
ลาเอลล่าอุทานเสียงแผ่วขณะพีคซอร์ดใช้ความคิด
“มีอะไร?”
“กริดล็อกเอาต์”
“อะไรนะ?”
พีคซอร์ดขมวดคิ้วพลางเปิดรายชื่อเพื่อน
ถูกต้อง กริดมิได้ออนไลน์ตามที่ลาเอลล่าบอก
“ผลลัพธ์ออกมาห่วยรึเปล่า…”
“น่าจะใช่…”
ผ่านมาแล้วสามวันเต็ม ถึงเวลาที่กริดควรสร้างดาบเสร็จ
แต่การที่ไม่ทดสอบประสิทธิภาพอาวุธก่อนล็อกเอาต์ อาจหมายความว่าผลลัพธ์ออกมาย่ำแย่สุดขีด
ใครหลายคนต่างตีความว่าล้มเหลว ส่งผลให้ช่องสนทนากิลด์เกิดความปั่นป่วน
> กริดล็อกเอาต์?
> อย่าบอกนะว่า… เราจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง?
กริดยังคงหงุดหงิดกับม้วนเคล็ดวิชาลับไม่หาย ถ้าผลลัพธ์ของดาบเล่มใหม่ยังออกมาอับเฉา เหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างไม่อยากจินตนาการผลที่จะตามมา
บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้าและหม่นหมอง
***
[โซจูสักแก้วกับตีนไก่ไหม?]
“เราหิวก็จริง แต่คงดื่มไม่ไหว…”
ชินยองวูที่ล็อกเอาต์พลันขมวดคิ้วเมื่อเห็นข้อความถูกส่งมาจากพีคซอร์ดโดยปราศจากอีโมติคอน
ชายหนุ่มหมกตัวอยู่ในโรงตีเหล็กทั้งวันโดยไม่ได้ล็อกเอาต์ ความอ่อนเพลียกำลังกัดกินร่างกายและจิตใจ
จริงอยู่ที่ตอนนี้หิวมาก แต่ว่า
การนอนสำคัญกว่า ยองวูทิ้งร่างลงบนเตียงและหลับไป
อันดับแรกเขาต้องนอน ยองวูทิ้งร่างลงบนเตียงแล้วนอน
***
วันถัดมา
“ระวังคำพูดของพวกนายให้ดี”
ลอเอลเตือนสติสมาชิกทุกคนเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อใกล้เวลาที่กริดจะออนไลน์
“ใครที่พูดเรื่องดาบเล่มใหม่ต่อหน้าฝ่าบาท… ฉันจะจับโยนเข้าไปในดันเจี้ยนเกาะคอร์กโดยไม่สนใจเหตุผล”
ปัจจุบัน เฮลกาโอคืนชีพพร้อมกับศิลาอัคคีเจ็ดก้อน
หากต้องการล่าให้สำเร็จ ต้องมีกริดเข้าร่วมทีมล่า หรือไม่ก็ต้องใช้ทีมล่าบอสที่ดีที่สุดของกิลด์แบบครบมือ
ดังนั้น การโยนใครเข้าไปก็ไม่ต่างจากโทษประหาร
สมาชิกทุกคนอ่านความจริงใจของลอเอลออก จึงขานตอบอย่างขึงขังในหน้าต่างสนทนากิลด์
ขณะทุกคนตั้งใจแน่วแน่ที่จะไม่ซักถามรายละเอียดของดาบเล่มใหม่
[หัวหน้ากิลด์ ‘กริด’ เชื่อมต่อกับระบบ]
เมื่อหน้าต่างข้อความระบบแสดงขึ้นต่อหน้าสมาชิกทุกคน เรกัสเริ่มทักทายด้วยความสดใส
> ยินดีต้อนรับ! วันนี้มาสนุกกันเถอะ!
ลอเอลแผ่จิตสังหารในแววตาทันที
“เฟคเกอร์ ส่งแขก”
อะไรกัน? สดใสไง! ทำตัวสดใสร่าเริง… ทำไมถึงได้กลายเป็นอาชญากรไปได้…
เฟคเกอร์ที่กำลังสั่นเทาส่งข้อความเสียงกลับมา
> ส่งเรกัสไปที่เกาะคอร์กแล้ว เขาทำหน้ารู้สึกผิด แต่ก็เดินเข้าไปในวาร์ปเกตโดยไม่ขัดขืน
“เห็นตอนที่เขาเข้าไปในดันเจี้ยนไหม?”
> เห็น
“ขอบคุณมาก แล้วก็บอกให้ลูกน้องของนายช่วยจับตามองไว้”
ขณะความหงุดหงิดของลอเอลเริ่มบรรเทา ข้อความจากแวนเนอร์แสดงขึ้น
> โฮ่ย? กริดมาแล้วหรือ? เคยแวะไปที่รังจิ้งจอกเก้าหางของทวีปตะวันออกหรือยัง? เมื่อวานฉันไปเที่ยวมา ที่นั่นเจ๋งมาก..
“เฟคเกอร์”
> จับแวนเนอร์ได้แล้ว กำลังจะพาไปที่ดันเจี้ยน
> แอ๊พ! หมายความว่ายังไง? นายจะทำบ้าอะไรเฟคเกอร์? เฮ้! เสียสติไปแล้วหรือ…
“เฮ่อ…”
กล้าพูดคำว่า ‘เจ๋ง’ ต่อหน้ากริดได้ยังไง ไม่มีสมองเอาเสียเลย…
ขณะลอเอลถอนหายใจ ข้อมูลใหม่ถูกส่งมาถึง
“ฝ่าบาทยังไม่ออกจากโรงตีเหล็กขอรับ”
“…”
สำหรับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ โรงเหล็กของกริดเปรียบดังแดนศักดิ์สิทธิ์
นับตั้งแต่ข่านจากไป ไม่มีใครสามารถเข้าไปในโรงเหล็กของกริดได้เว้นเสียแต่จะได้รับอนุญาตล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม การสอดส่องและให้กำลังใจยังคงทำได้ ทุกคนสามารถมองเข้าไปและเห็นกริดทำงาน มีบ่อยครั้งที่สมาชิกกิลด์และบุคคลสำคัญของอาณาจักรมายืนรวมกันด้านนอกเพื่อให้กำลังใจ
***
กริดหกตัวในโรงตีเหล็กมานานหกวันเต็ม และวันนี้ก็ยังไม่ออกมา
ภารกิจของอัศวินและจอมเวทหลวงถูกเปลี่ยนจาก ‘เฝ้าระวังเหตุระเบิด’ กลายเป็น ‘คุ้มกันกริด’
ท่ามกลางความวิตกกังวลของทุกฝ่าย
เคร้ง…
เสียงค้อนแผ่วเบาดังมาจากโรงตีเหล็ก ตามด้วยหน้าต่างแจ้งเตือนที่ไม่มีใครคาดคิด
[หัวหน้ากิลด์ ‘กริด’ ออกจากระบบ]
ความกังวลของสมาชิกโอเวอร์เกียร์เริ่มดำดิ่ง
“ล้มเหลวอีกแล้ว…”
“เป็นเรื่องใหญ่แน่”
ช่างตีเหล็กสามารถแยกชิ้นส่วนไอเท็มได้ และหลังจากแยกส่วนก็ยังสามารถสกัดวัสดุออกมา
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่วัสดุถูกสกัดออกจากไอเท็ม ปริมาณและคุณภาพของมันจะลดลง
ความล้มเหลวของกริดสองครั้งซ้อนย่อมหมายถึง การผลิตอาวุธครั้งถัดไปจะมีคุณภาพต่ำลง
หากวัสดุหลักคือลมหายใจเทพผู้พิทักษ์ พวกมันคงไม่ต้องกังวล เพราะสมาชิกโอเวอร์เกียร์จำนวนไม่น้อยยินดีมอบลมหายใจซึ่งเป็นรางวัลจากการแข่งนานาชาติให้กริด
แต่นี่วัสดุหลักเป็นอย่างอื่น สถานการณ์ปัจจุบันจึงกำลังวิกฤติ
“พวกเราช่วยอะไรไม่ได้เลยหรือ?”
ทุกคนมารวมตัวกันในห้องทำงานลอเอล
หากมีสิ่งใดที่พอจะหาให้กริดได้ พวกมันยินดีข้ามน้ำข้ามทะเลไปล่ามา
แต่วัสดุหลักในครั้งนี้คือเหล็กแสงจันทร์
เหล็กที่แม้แต่กริดเองก็จนปัญญาจะหา
[หัวหน้ากิลด์ ‘กริด’ ออกจากระบบ]
ผ่านไปอีกสามวัน
เฉกเช่นหลายวันก่อน กริดที่หมกตัวอยู่ในโรงตีเหล็กล็อกเอาต์โดยไม่บอกกล่าว
ขวัญกำลังใจของชาวโอเวอร์เกียร์กำลังดำดิ่งสุดขีด
ปฏิเสธไม่ได้ว่ากริดคือศูนย์กลางของอาณาจักร หากข่าวลือด้านลบแพร่กระจายออกไป เกรงว่าอาจส่งผลกระทบไปถึงประชาชนพลเมือง
เวลาผ่านไปด้วยบรรยากาศหม่นหมอง
สิบวันกลายเป็นสองสัปดาห์ จนกระทั่งถึงช่วงเวลาผลัดเปลี่ยนฤดูกาล
[เทวภัณฑ์ของเทพโอเวอร์เกียร์ปรากฏ!]
ข้อความโลก
[เทวตำนานใหม่ของเทพโอเวอร์เกียร์กริดถูกบันทึกเพิ่มเติม!]
[ค่าสถานะทุกชนิดของสาวกโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์จะเพิ่มขึ้น 10 หน่วยเป็นการถาวร และผลข้างเคียงขณะสวมใส่ไอเท็มไม่ตรงเงื่อนไขลดลงเล็กน้อย]
“…เหนื่อยฉิบ”
แสงสว่างที่ทำให้โรงเหล็กยามค่ำคืนเจิดจ้ากำลังส่องออกจากใบดาบ
ดาบเล่มนี้ถูกสร้างโดยเหล็กแสงจันทร์ที่ผ่านการหลอมและอบคืนตัวซ้ำไปซ้ำมาตลอดครึ่งเดือน
ไม่มีสิ่งใดที่มันตัดไม่ขาด
ชื่อของดาบคือ ‘จันทราดับ’ สื่อความหมายว่าสามารถฟันดวงจันทร์ให้ขาดสองซีก
ไอเท็มเกรดมิธส่วนมากจะถูกระบบตั้งชื่อให้อัตโนมัติ ซึ่งนั่นทำให้กริดค่อนข้างหงุดหงิด
“เราอยากตั้งชื่อว่าดาบธรณีโลกันตร์มากกว่า…”
[ไอเท็มเกรดมิธถูกสร้างขึ้น ค่าสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น 30 หน่วยเป็นการถาวร!]
[ชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 1,000 หน่วย]
[สาวกของโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์และช่างตีเหล็กทั่วโลกจะยิ่งทวีความศรัทธาในตัวท่าน]
[อำนาจแห่งเทพบางข้อที่ถูกผนึกไว้ถูกคลายออกเนื่องจากได้รับความศรัทธาจากผู้คน]
[ระบบร้านค้าชื่อเสียงถูกยกระดับ]
[ท่านสามารถใช้งานราชรถสุริยันได้พร้อมกับราชรถทองคำ ราชรถสุริยันคือร้านค้าเคลื่อนที่ซึ่ง ‘เวนิช’ เทพแห่งเงินตราเป็นเจ้าของ]
“ฮุฮุ…”
สำหรับร้านค้าชื่อเสียงซึ่งเป็นราชรถทองคำ ผู้เล่นทั่วไปส่วนใหญ่จะใช้แต้มแลกไอเท็มคุณภาพสูงหรือไอเท็มสิ้นเปลืองบางชนิด
แต่สำหรับกริดที่สามารถสร้างไอเท็มได้เองและพึ่งพาโพชันจากโรงแปรธาตุเรย์ดัน ราชรถสีทองจึงกลายเป็นสิ่งไร้ค่า
ในปัจจุบัน สินค้าชนิดเดียวที่กริดจะซื้อจากราชรถสีทองคือ ‘ลูกกวาด’ ซึ่งสามารถซื้อได้ไอดีละห้าครั้ง
กล่าวอีกนัยหนึ่ง กริดมีค่าชื่อเสียง 230,000 หน่วยให้ผลาญเล่นกับร้านค้าใหม่
กริดฉีกยิ้มกว้างหลังจากอัญเชิญราชรถสุริยันและตรวจสอบไอเท็มที่วางขาย
ความเหนื่อยล้าและทุกข์ระทมที่สั่งสมจากการสร้างไอเท็มและตัดพ้อเกี่ยวกับชื่อดาบตลอดยี่สิบสามวันที่ผ่านมา ยามนี้ถูกปัดเป่าจนหายเป็นปลิดทิ้ง
เอ้าแล้วค่าชื่อเสียงที่ได้มา1ล้านกริดเอาไปทำอะไรอะไม่เห็นมีบอก หรือคนแต่งจะลืมว่ากริดเคยได้รางวัล1ล้านแต้มชื่อเสียง ตอนนั้นกริดยังคิดเล่นๆอยู่เลยว่าตนสามารถเอาแต้มที่ได้มาใหม่ไปสุ่มของในร้านชื่อเสียง แต่ก็เปลี่ยนใจเพราะคิดว่าดวงของตนบัดซบหลังจากนั้นก็ไม่มีกล่าวถึงว่าได้เอาแต้มชื่อเสียงไปทำอะไรอีกมั้ย
ReplyDelete