จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,414



การล่าแฮกักในคราวนี้ทำกำไรมหาศาล


มูลค่าของเคล็ดวิชาลับยี่สิบสามม้วน สูงกว่าเงินจำนวนยี่สิบห้าล้านเหรียญทองที่ใช้ซ่อมแซมปราสาทและเติมยุทธปัจจัยมาก


มันควรเป็นบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง แต่สีหน้าท่าทางของกริดกลับบึ้งตึงประหนึ่งเอามือไปจับขี้จนผื่นขึ้น


“ไม่ว่าจะมองมุมไหน… นี่มันก็ผื่นที่เกิดจากขี้”


ถึงจะเป็นแค่การเปรียบเปรย แต่นั่นก็ออกจะเกินไปหน่อย…


กริดถอนหายใจขณะมองไปทางแวนเนอร์ที่กำลังพล่ามถ้อยคำเหลวไหล


‘ดูเหมือนว่าอัตราสุ่มจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ’


กริดมีค่าสถานะลับที่ชื่อว่า ‘ความโชคดี’


ปัจจุบัน ค่าดังกล่าวสูงกว่า 850 แต้ม สามารถสร้างอิทธิพลในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ


แต่ชายหนุ่มกลับเผชิญความล้มเหลวบ่อยครั้งเมื่อต้อง ‘สุ่ม’ อะไรสักอย่าง


ไม่สิ เรียกว่าล้มเหลวคงไม่ถูกนัก เพราะเคล็ดวิชาลับที่สุ่มได้มีประสิทธิภาพไม่เลว เพียงแต่ต่ำกว่ามาตรฐานของกริดไปมาก


ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นยากจะทำใจยอมรับ


กริดไม่ได้คาดหวังว่าตนจะสุ่มได้แจ็คพอตทุกม้วน แต่ขอสักม้วนไม่ได้เลยหรือ?


ค่าสถานะความโชคดีไม่มีความหมายเลยหรือ?


แน่นอน เรื่องนี้อาจตีความได้ว่า ค่าโชคดีช่วยให้หลีกเลี่ยงผลลัพธ์เลวร้ายที่สุด


แต่ถ้าจะให้แสดงผลเช่นนี้ก็ดูจะใจร้ายไปสักนิด เพราะนั่นจะหมายความว่า กริดจะมิอาจหลีกหนีจากคำสาปคืออัปมงคล


‘มือของเราไม่ได้อัปมงคลสักหน่อย… นี่ต้องเป็นการกลั่นแกล้งจากทีมงานแน่’


จนกระทั่งปัจจุบัน กริดสร้างไอเท็มเกรดมิธและเลเจนดารีได้มากมาย รวมถึงหัตถ์เทวะบรรจุอีโก้


นอกจากนั้น การดวลกับเลอราเฆ่ได้แสดงให้เห็นว่า ‘บัญชาเทพ’ สามารถแสดงผลติดๆ กันหลายครั้งในช่วงเวลาสำคัญ


กล่าวอีกนัยหนึ่ง… เราไม่ใช่คนดวงซวย… เราไม่ใช่คนมืออัปมงคล…


ในความทรงจำกริดมีเพียงเหตุการณ์ดีๆ แต่ความทรงจำที่เคยสร้างไอเท็มเกรด ‘ทั่วไป’ หลายพันหลายหมื่นชิ้นกลับเลือนหาย เช่นเดียวกันกับช่วงเวลาเฉียดตายเนื่องจากบัญชาเทพไม่ยอมแสดงผลแม้แต่ครั้งเดียว


คำตัดพ้อของกริดมิได้เลื่อนลอยเสียทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นซีบาลสุ่มได้แจ็คพอตหลายครั้งซึ่งๆ หน้า


‘โอกาสสุ่มได้ของดีจะลดลงถ้าเราเป็นคนเปิด แต่จะเพิ่มขึ้นถ้าซีบาลเป็นคนเปิด’


ดูเหมือนว่าจะไม่เกี่ยวกับโชคร้าย แต่บัญชีของแต่ละคนจะมีโอกาสสุ่มได้ไม่เท่ากัน


‘ไอพวก SA กรุปสารเลว… จะคอยกดเราไปถึงไหน?’


ขณะกริดดื่มน้ำเย็นเพื่อดับโทสะที่ร้อนรุ่มในอก ลอเอลหันมาถาม


“ฝ่าบาทจะไม่เอาจริงหรือ?”


ซีบาลได้รับโอกาสให้เปิดเคล็ดวิชาจำนวนสี่ม้วน เลเจนดารีหนึ่ง ยูนีคหนึ่ง และอีปิกสอง


ผลลัพธ์น่าทึ่งมาก ทุกทักษะล้วนยอดเยี่ยมในแบบของตัวเอง โดยเฉพาะเกรดตำนานอย่าง ‘ข่ายเวทแรงโน้มถ่วง’ ที่มีประสิทธิภาพสูงจนน่าทึ่ง


ผู้ร่ายสามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงในรัศมีห้าเมตรรอบตัวได้อย่างอิสระ แต่ช่วงเวลาแสดงผลค่อนข้างสั้น และแรงโน้มถ่วงดังกล่าวจะส่งผลกับตัวผู้ร่ายด้วย (ขึ้นอยู่กับระดับทักษะ ปัจจุบันเลเวลหนึ่ง)


เรียกได้ว่าเป็นทักษะที่ต้องพึ่งพาไหวพริบและฝีมือควบคุมพอสมควร


ทั้งที่ได้สิทธิ์ตัดสินใจเป็นคนแรก แต่ซีบาลซึ่งถูกขนานนามให้เป็นอัจฉริยะก็ยังไม่เลือกข่ายเวทแรงโน้มถ่วง


ลอเอลอยากให้กริดเลือกข่ายเวทแรงโน้มถ่วง แต่อีกฝ่ายกลับไม่แม้แต่จะชายตามอง


ถึงปากจะบอกว่าขอยกสิทธิ์เลือกให้ผู้ส่งสารก่อน แต่ความจริงเป็นเพราะกริดไม่มั่นใจว่าจนจะควบคุมทักษะได้อย่างชำนาญ


ในที่สุด ผู้ที่กลายเป็นเจ้าของข่ายเวทแรงโน้มถ่วงคือเมอร์เซเดส


บราฮัมสามารถใช้เวทแรงโน้มถ่วงได้อย่างอิสระ ของแบบนี้จึงไม่จำเป็น


ส่วนปิอาโร่และซาลิเอลต่างก็เห็นตรงกันว่า เมอร์เซเดสคือผู้ที่เหมาะกับข่ายเวทแรงโน้มถ่วงมากที่สุด


เพียงจินตนาการว่าเมอร์เซเดสมองเห็นการเคลื่อนไหวของศัตรูล่วงหน้าและใช้ข่ายเวทแรงโน้มถ่วงดักไว้ ทุกคนเชื่อสนิทใจทันที ไม่มีใครเหมาะจะครอบครองมากไปกว่าเจ้าของเนตรมองทะลุอีกแล้ว


เมอร์เซเดสจะควบคุมข่ายเวทแรงโน้มถ่วงได้ดีแค่ไหน?


และเหล่าผู้ส่งสารคนอื่น รวมถึงซีบาล จะนำพลังใหม่มาปรับใช้กับการต่อสู้อย่างไร?


ทุกคนอยากเห็นกับตา จึงพากันเดินไปยังลานฝึกของกองทัพ


มีเพียงกริดเท่านั้นที่นั่งเงียบโดยไม่คุยกับใคร


ขอยืมคำพูดแวนเนอร์มาใช้ สีหน้าของกริดตอนนี้เหมือนกับผื่นที่เกิดจากการสัมผัสขี้


“กริด?”


ลอเอลถามด้วยความกังวล


มันเข้าใจความรู้สึกอีกฝ่าย เพราะถ้าตนเป็นกริดก็คงแอบคิดเหมือนกันว่าถูกทีมงานกลั่นแกล้ง


ผลลัพธ์การสุ่มของกริดแตกต่างจากซีบาลราวฟ้ากับเหว ไม่อย่างนั้น กริดคงไม่ยอมให้ซีบาลเป็นคนเปิดของสำคัญอย่างม้วนเคล็ดวิชาเกรดเลเจนดารีที่มีเพียงชิ้นเดียว


‘แวะไปที่สำนักงานใหญ่ของ SA กรุปดีไหม’


กริดสามารถประณามบริษัทเกมอย่างเปิดเผยเนื่องจากมีหลักฐานในมือครบครัน รวมไปถึงการฟ้องศาลและต่อสู้ทางคดีความ


จริงอยู่ที่เรื่องนี้ต้องใช้เวลาและเงินทุนพอสมควร แต่กริดก็ไม่บกพร่องทั้งสองสิ่ง


หากมีคนอื่นที่ถูกกลั่นแกล้งเช่นเดียวกันกริด พวกเขาสามารถรวมตัวฟ้องร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง


กริดหันไปพูดกับลอเอลที่เตรียมตั้งทีมทนาย


“ฉันไม่ไปสนามฝึก มีบางสิ่งที่สำคัญต้องทำ… ไม่ว่าจะมองมุมไหน ตอนนี้คือช่วงเวลาที่ควรทำมากที่สุด”


“…นายจะเริ่มเลยหรือ?”


คิดจะต่อกรกับ SA กรุปที่ไม่มีใครกล้าเผชิญหน้าแล้วสินะ?


‘หรือว่าเขาคิดจะครองโลกภายนอกด้วย?’


ลอเอลมองภาพเหตุการณ์ในปัจจุบันซ้อนทับกับ ‘อนิเม’ ที่เคยดู นั่นทำให้ดวงตาของมันส่องประกาย


กริดลุกขึ้นยืนพร้อมกับพยักหน้า


“อา… การสังเวยเกิดขึ้นอย่างเพียงพอแล้ว”


“หือ…?”


“ฉันจะไปโรงตีเหล็ก”


“…?”


เขาคิดจะสังเวยความโชคร้ายจากการเปิดม้วนเคล็ดวิชา… เพื่อนำโชคดีที่เหลือมาสร้างเป็นไอเท็มเกรดมิธ?


นี่มัน… การสังเวยโชคชะตาของสุนัข*… ไม่สิ… ของผู้เล่น…


(*น่าจะเป็นสำนวนของเกาหลี)


***


“คัท! สมบูรณ์แบบ! สุดยอด~มาก! ทุกครั้งที่คุณเซฮียิ้ม ภาพทั้งหมดจะสดใสขึ้นทันตาเห็น! ผมเริ่มกังวลแล้วว่าจะถ่ายทอดความยอดเยี่ยมระดับนี้ให้ผู้ชมได้ดีแค่ไหน”


คิมจางชอลกำลังตื่นเต้น


มันคือหนึ่งในผู้กำกับ CF (โฆษณา) มือทองของเกาหลีใต้ เคยถ่ายดาราที่มีชื่อเสียงหลายต่อหลายคน


แต่นี่เป็นครั้งแรกที่คิมจางชอลรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ


ชินเซฮี น้องสาวแท้ๆ ของชินยองวู ผู้เล่นซาทิสฟายอันดับหนึ่งของโลก ฝีมือการแสดงของเด็กคนนี้โดดเด่นพอๆ กับความงาม


เซฮีกำลังเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไปของยูร่าผู้ไม่ค่อยออกสื่อในระยะหลัง


คิมจางชอลมั่นใจมาก หากสปอตโฆษณาตัวนี้ถูกฉายออกอากาศ บรรดาบริษัทชั้นนำที่เลือกใช้เฉพาะดาราดังจะต้องชายตามามองชินเซฮี


เป็นโอกาสดีที่ยูร่าจะได้ลดการออกสื่อลง


“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ… ถ้าอย่างนั้นขอตัวก่อน ขอบคุณที่เหน็ดเหนื่อย”


“จะไปแล้วหรือ? นายจ้างบอกว่าพวกเขาต้องการเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ…”


“ดิฉันต้องไปทำงานอาสาสมัครต่อค่ะ”


“โอ้… นั่นสินะครับ เข้าใจแล้ว! หวังว่าจะได้ร่วมงานกันอีกนะครับ”


งานอาสาสมัครการกุศลของเซฮีถูกพูดถึงอย่างมากในระยะหลัง


เมื่อพิจารณาว่าเธออุทิศตัวให้กับสังคมมาสักพักใหญ่ ดูเหมือนว่าการได้เป็นนักบุญหญิงในซาทิสฟายจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ


มูลนิธิที่เซฮีทำงานให้มียอดบริจาคเพิ่มขึ้นทุกปี และงานอาสาสมัครก็มีเข้ามาเรื่อยๆ


ในระยะหลัง มีการเปิดเผยว่าเซฮีทำงานการกุศลมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นแล้ว หนึ่งในนั้นคือการช่วยเหลือบ้านเด็กกำพร้า


หลายฝ่ายต่างชื่นชมครอบครัวที่ปลูกฝังเธอเป็นอย่างดี


“ยอดเยี่ยมจริงๆ …”


ความงดงาม ฝีมือ การวางตัว และอุปนิสัย


ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ดาวดวงใหม่ของวงการบันเทิงที่เป็นเลิศในทุกด้านกำลังจะถือกำเนิด


ผู้กำกับคิมจางชอลเกิดความภาคภูมิใจอย่างเหนือพรรณนาที่ตนจะได้ถ่ายทอดช่วงเวลาอันงดงามของเด็กคนนี้ให้โลกได้เห็น


***


“เซฮี!”


เยริม เพื่อนเก่าของเซฮีกำลังยืนรออยู่นอกสตูดิโอ


รถหรูของเธอที่จอดอยู่ในลานกว้างโดดเด่นเตะตาเป็นพิเศษ


ความมั่งคั่งเกือบทั้งหมดที่ได้รับจากการเป็น ‘อัศวินนักบุญหญิง’ ถูกประเคนให้กับรถคันนี้


ทุกครั้งที่เซฮีเห็นเพื่อนสนิทปรากฏตัว ภาพของพี่ชายในอดีตจะย้อนกลับมา


“คิดไม่ถึงว่าวันนี้ก็ด้วย”


เซฮีเข้าไปนั่งในรถด้วยท่าทีผ่อนคลาย


เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่วันนี้เป็นอีกครั้งที่เยริมเสนอตัวทำงานอาสาสมัคร เป็นเช่นนี้สามสัปดาห์ติดต่อกันแล้ว นับเป็นสถิติใหม่อย่างเป็นทางการ


อุกกาบาตที่ผลุบๆ โผล่ๆ นอกโลกเป็นระยะทำให้เซฮีเริ่มกังวลว่า ดวงอาทิตย์อาจขึ้นทางทิศตะวันตกในเช้าวันพรุ่งนี้


เยริมยิ้มอย่างมีเลศนัย


“โฮยุนโอปป้า”


“โฮยุน…?”


ใครกัน?


เมื่อเห็นเซฮีเอียงคอสงสัย เยริมเสริม


“พี่ชายคนที่เป็นอาสาสมัครร่วมกับเธอในบ้านเด็กกำพร้าไง”


“อ๋อ…”


อาสาสมัคร…


ว่ากันตามตรง ทุกครั้งที่เซฮีทำงานอาสาสมัคร จะมีคนจำนวนไม่น้อยร่วมงานในกลุ่มเดียวกัน


แน่นอน ส่วนใหญ่ไม่ใช่เด็กผู้หญิง เซฮีมักถูกอาสาสมัครชายตามติดไม่เลิก


ในพักหลัง ข้อมูลตารางงานของเธอรั่วไหลง่ายเกินไป และคงเป็นสาเหตุที่ทูนเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น


แม้กระทั่งตอนนี้ ทูนก็ยังขี่บิ๊กไบค์ตามหลังรถเยริม


ไอ้ที่ตุงๆ ออกมาจากกระเป๋าหนัง… คงไม่ใช่ปืนใช่ไหม?


“ถ้าโอปป้าคนนั้นออกกำลังกายเพื่อลดไขมันสักสามเดือนและถอดแว่นออก เขาจะหล่อมาก เครื่องตรวจจับหนุ่มหล่อของฉันแจ้งมาแบบนี้”


“นี่คือเหตุผลที่เธอมาทำงานอาสาสมัครถี่ๆ ?”


“ใช่ ฉันจะทำให้เขาตกหลุมรัก จากนั้นก็จะเริ่มออกกำลังกายเพื่อให้ตัวเองดูดี”


“ฉันก็พอเข้าใจอยู่… แต่กระโปรงของเธอไม่สั้นไปหน่อยหรือ แบบนี้จะลำบากเวลาทำความสะอาดหรือเล่นกับเด็กๆ”


“ปิ๊งป่อง~ นั่นคือเหตุผลที่มันต้องสั้น” “จริงเหรอ ~ นี่คือเหตุผลว่าทำไมมันถึงสั้นจัง”


“…”


“ไม่ต้องห่วง ทั้งหมดทำไปเพื่อฝึกฝนตัวเองให้ดีพอที่จะเป็นเจ้าสาวของพี่ยองวู… ฉันเป็นดอกแดนดิไลออนรักเดียวใจเดียวอยู่แล้ว”


“เลิกอ่อยผู้ชายไปทั่วได้แล้ว”


“แล้วถ้า~ ฉันไม่เลิก?”


เยริมเติมลิปสติกปากอีกครั้ง


เมื่อพิจารณาจากสี ดูเหมือนว่าเธอเตรียมเผด็จศึกในวันนี้


แต่เขาจะมองต้นขามากกว่าปากของเธอ… และผู้กำกับก็คงสั่งให้สวมกางเกงพละ…


เซฮีส่ายหน้าขณะจินตนาการภาพแผนของเยริมพังครืนไม่เป็นท่า


เมื่อสัญญาณไฟจราจรกลายเป็นสีเขียว เยริมเหยียบคันเร่งจนมิด


เธออยากจะอวดเสียงท่อของซูเปอร์คาร์อิตาลีราคาแพงในย่านกังนัม และนั่นทำให้ร่างกายท่อนบนของเซฮีแนบติดกับเบาะพร้อมกับแรงกดทับ


เซฮีกำลังอ่อนเพลียสุดขีด ตารางงานที่เบียดเสียดส่งผลให้ต้องตื่นเช้าและพักผ่อนน้อย เกิดเป็นความเหนื่อยล้าสะสม


อย่างไรก็ตาม เซฮีมิได้แสดงออกมา


เธอต้องการสร้างภาพลักษณ์ดีๆ แทนพี่ชายที่ต้องทุ่มเวลาให้กับซาทิสฟาย


ทั้งหมดทำไปเพื่อชื่อเสียงด้านบวกของพี่ชายและครอบครัว


***


‘ถึงเวลาต้องใช้เจ้านี่แล้วสินะ’


เหล็กแสงจันทร์ แร่ธาตุที่มีอยู่เฉพาะในดินแดนคนยักษ์โบราณ มีความสามารถในการผนึกระดับตัวตนของอีกฝ่ายชั่วคราว


ไม่มีสิ่งใดเหมาะแก่การสร้างดาบเล่มใหม่ของกริดไปมากกว่านี้แล้ว


‘เราใช้ดาบโลหิตเป็นอาวุธหลักไม่ได้…’


ชายหนุ่มตระหนักได้ในตอนที่สู้กับแฮกัก


แม้เครื่องยิงพลังเวทจะช่วยให้ดาบโลหิตกลายเป็นอีกหนึ่งไพ่ตาย แต่ก็ยังห่างไกลจากการเป็นอาวุธหลัก


กริดต้องการเพิ่มอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นทางเลือกในอนาคต


แน่นอน ถึงจะเป็นเรื่องยาก แต่หากหวังผลลัพธ์ที่ดีที่สุด กริดไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเคลียร์สองเงื่อนไขให้สำเร็จ


เงื่อนไขแรก ‘การอบคืนตัว’ โลหะ


ถึงแม้จะอบคืนตัวด้วยเทคนิคเดียวกัน แต่ก็อาจได้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง


โดยทั่วไป การอบคืนตัวจะทำให้ผิวโลหะแข็งขึ้น แต่การอบคืนตัวด้วยเทคนิคสูงสุดจะช่วยดึงศักยภาพโลหะ


ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการอบคืนตัว ‘ลมหายใจสี่เทพผู้พิทักษ์’ เพื่อยกระดับ


หากปรารถนาผลลัพธ์เกรดมิธ กริดต้องแปรสภาพเหล็กแสงจันทร์ให้อยู่ในร่างที่ดีที่สุด


ยังไม่จบเพียงเท่านี้ อีกหนึ่งเงื่อนไขคือขั้นตอนการสร้างไอเท็ม


ต่อให้มีวัสดุที่ดีที่สุด แต่ผลลัพธ์อาจไม่ดีที่สุดเสมอไป


หากโชคร้าย ดาบเล่มใหม่ของกริดจะออกมาเป็นเพียงเกรดเลเจนดารี


นั่นคือสองเงื่อนไขที่กริดต้องเคลียร์ให้ได้


“การสังเวยเกิดขึ้นมากพอแล้ว…”


กริดพูดเสียงดัง ประหนึ่งคุยกับทีมงานเกมที่กำลังจับตามอง


“ถ้าพวกนายยังกลั่นแกล้งฉันอีก… คอยกดฉันไว้… ฉันสาบานว่าจะประจานเรื่องนี้ให้ทั่วโลกรับรู้”


นี่คือคำขู่ที่เอาจริงเอาจัง


แน่นอน ทางฝั่ง SA ย่อมเสียใจที่กริดคิดเช่นนี้


กลั่นแกล้งให้สุ่มได้ไอเท็มห่วย?


แต่ละบัญชีของผู้เล่นมีโอกาสได้รับของไม่เท่ากัน?


พวกตนไม่ใช่บริษัทเกมขยะในช่วงต้นศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดสักหน่อย


กลุ่มทุนใหญ่ระดับโลกอย่าง SA กรุปไม่มีวันทำเรื่องน่ารังเกียจและชวนให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเช่นนี้


ทีมงานที่เคยจับตามองกริดได้แต่ภาวนาให้ชายหนุ่มประสบความสำเร็จ


พวกมันไม่ต้องการถูกกล่าวหาเลื่อนลอยด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง


อย่างไรก็ตาม ทีมงานกำลังสัมผัสได้ถึงลางร้าย


จริงอยู่ กริดอาจเป็นผู้เล่นประเภทที่มักโชคดีหลังจากโชคร้ายติดต่อกันหลายครั้ง และสิ่งนี้น่าจะเป็นชะตากรรมของตัวกริดมากกว่าระบบของเกม


ทว่า


‘เท่าที่เห็น… เขายังสังเวยไม่มากพอ...’


ขณะที่ทีมงานเกมกำลังคิดเช่นนี้


เคร้ง!


กริดเริ่มลงมือทุบค้อน


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,908
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

  1. น่ารักเสียเปล่าจริงเยริม ทำตัวหมดราคาอ่อยผู้ชายไปทั่วแบบนี้

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00