จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,411



แฮกักเชื่อว่าตัวเองไร้ขีดจำกัด


มันฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาทั้งชีวิตเพื่อให้ความเชื่อนี้กลายเป็นจริง


แฮกักมุ่งมั่นอุทิศตัวเองจนกว่าจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ไม่สนว่าตัวเองจะถูกหลอกใช้


นี่คือทัศนคติส่วนใหญ่ของสาวกเทพสงคราม


อวัยวะทุกส่วนของแฮกักสามารถใช้เป็นอาวุธ


ข้อศอกแหลมราวกับหอก ฝ่ามือคมราวกับดาบ ศีรษะแข็งประหนึ่งลูกตุ้ม ขาทั้งสองข้างฟาดได้เหมือนแส้ กำปั้นมีพลังทำลายหนักหน่วงประดุจค้อนศึก


ทว่า เฟคเกอร์และคาซิมเองก็ใช้เงาเป็นอาวุธและกองทัพ ถึงมนุษย์สักคนจะใช้ร่างกายทุกส่วนเป็นอาวุธได้อย่างชำนาญ แต่ก็มิอาจรอดพ้นจากการถูกสึนามิเงากลืนกิน


“ไอ้พวกขี้ขลาดและไร้เกียรติ!”


แฮกักหลบการโจมตีของกองทัพเงาด้วยการซ่อนตัวในรอยแยกเพดานที่พังถล่ม


ในฐานะนักสู้ มันไม่ยอมรับพวกนักลอบสังหารที่เอาแต่ซ่อนตัวในเงาและพยายามเก็บเสียงอย่างมิดชิด ว่าเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของการต่อสู้


เทคนิคการย่ำเท้าแบบย่องของแฮกักช่วยให้ภูมิประเทศไม่เป็นอุปสรรค แถมยังช่วยเร่งความเร็วในพริบตา


มันบิดเอวและหลังพร้อมกับปล่อยกำปั้นใส่กองทัพเงาโดยไม่ต้องง้าง


จนกระทั่งมีดสั้นของเฟคเกอร์พุ่งออกจากเงามืด เฉือนใส่หัวไหล่แข็งๆ ของแฮกักจนเลือดกระเซ็น


อย่างไรก็ตาม บาดแผลค่อนข้างตื้น แถมฝ่ามือเฟคเกอร์ข้างที่ถือมีดก็เริ่มสั่นเทา


‘แข็งแกร่ง’


คำชมเชยของเฟคเกอร์ไม่เกินจริง แฮกักแข็งแกร่งมาก


คำกล่าวอ้างที่ว่าลีจองอ่อนแอที่สุดจากบรรดาสามยอดนักรบ ดูเหมือนจะเป็นความจริง


กริดก็รู้สึกแบบเดียวกัน


‘แค่เลเวลก็สูงลิบแล้ว…’


กริดยืนชมการต่อสู้ในท่ากอดอก


สาเหตุที่มันอัญเชิญอัศวิน มิใช่เพราะกลัวฝีมือแฮกักและสาวกที่เหลือ มิใช่เพราะกังวลว่าตนอาจปกป้องซิกเฟรคเตอร์ไม่ได้ แต่เป็นเพราะมันอยากเห็นพัฒนาการของเหล่าอัศวิน


แฮกักพยายามไล่ล่าเฟคเกอร์ที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด แต่ก็ต้องถูกมีดของคาซิมแทงมาจากด้านหลัง


คาซิมแทงใส่กระดูกสันหลังส่วนบนอย่างแม่นยำ แต่ถึงมีดจะปักลงไป แฮกักก็ยังสบายดี


พลังทำลายของมีดลดลงไปกว่าครึ่งเพื่อแลกกับการทะลวงผ่านผิวหนังและกล้ามเนื้อ ยากจะผ่านชั้นมัดกล้ามเนื้อที่เรียงตัวหนาของอีกฝ่าย


แฮกักศอกกลับใส่คาซิมด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายอันน่าทึ่ง


เมื่อเห็นอีกฝ่ายเลือดกระเซ็น แฮกักเตรียมจับคาซิมกระแทกพื้น แต่ทันใดนั้น มันตระหนักถึงเมล็ดพันธุ์ที่ปิอาโร่หว่านเอาไว้ จึงยิงคลื่นปะทะออกจากฝ่ามือ


ความดุดันของแฮกักเปรียบดังสัตว์ร้าย แม้แต่กริดก็ยังสั่นสะท้านเบาๆ


แต่เพียงไม่นานก็ดับมอดเหมือนเปลวไฟ


แขนขวาแฮกักถูกอักขระเวทมนตร์ของซิกเฟรคเตอร์ตรึงไว้ ก่อนที่เมอร์เซเดสจะฟันด้วยดาบฉาบปราณอัศวินสีเงิน


เนื่องจากเธอมีเนตรมองทะลุ จึงเห็นจุดอ่อนของศัตรูได้ดีกว่าใคร


การโจมตีของเมอร์เซเดสทำให้แฮกักอ่อนกำลังลงทันที


แขนของแฮกักที่ถูกตัดขาด หล่นลงพื้นพร้อมกับเสียงทื่อๆ ที่น่าหวาดหวั่น


คาซิมฉวยโอกาสดังกล่าวสลัดหลุดจากการจับกุม รีบหนีเข้าไปซ่อนตัวในเงามืด


ขณะคาซิมกำลังหายตัว และเมอร์เซเดสกำลังดึงดาบกลับ


แฮกักกระหน่ำยิงกำปั้นที่ไม่ต้องง้างราวกับปืนกล


เมอร์เซเดสรีบยกโล่ขึ้นมาป้องกันพลางก้าวถอยหลังเพื่อลดแรงปะทะ


ภาพของโล่ที่กริดสร้างค่อยๆ งอและบุบ สร้างความเย็นยะเยียบให้กับทุกฝ่าย


ไม่มีใครกังขาความแข็งแกร่งของแฮกักอีกแล้ว


ทว่า กริดเริ่มมองแฮกักต่างออกไป


‘ดูเหมือนจะมีดีแค่เลเวล…’


ไม่ว่าจะพลังโจมตี ความเร็ว ความถึกทน เรี่ยวแรง ชั้นเชิงและความหลากหลายของทักษะ แฮกักล้วนเป็นเลิศในทุกด้าน


แต่สำหรับกริด อีกฝ่ายบกพร่องอยู่หนึ่งเรื่อง


ประสาทสัมผัส


ประสาทสัมผัสของลีจองที่ฝึกโดยการผนึกดวงตา ช่วยให้มันหลบหลีกได้เก่งกาจ ศัตรูแทบจะพลาดเป้าเกือบทั้งหมด


ในทางกลับกัน การหลบหลีกของแฮกักมิได้สมบูรณ์แบบขนาดนั้น


จริงอยู่ มันอาจมีเทคนิคที่ดีในการสวนกลับ แต่นั่นก็เป็นคนละสิ่งกับท่าหลบหลีก


หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง แฮกักมีดีที่ปฏิกิริยาตอบสนอง ส่งผลให้ประสาทสัมผัสขาดความเฉียบแหลม


‘ความกดดันที่เราได้รับเมื่อศัตรูถอดผ้าปิดตา… ลีจองยังมีมากกว่าแฮกัก’


กริดตื่นตัวและหวาดระแวงทันทีที่ลีจองถอดผ้าปิดตา


แต่ในทางกลับกัน เมื่อแฮกักถอดผ้าปิดตา กริดเชื่อว่าตนยังรับมือได้ไม่ยาก


ด้วยเหตุผลหลายๆ ข้อ ชายหนุ่มมองว่าลีจองจะแข็งแกร่งกว่าแฮกักในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า


แน่นอน นั่นคือในกรณีที่ลีจองยังมีชีวิตอยู่


เป็นความโชคดีอย่างมาก สามยอดนักรบคนแรกที่เกิดเผชิญหน้าคือลีจองในร่างยังไม่สมบูรณ์


หลังจากจับตามองแฮกักสักพัก กริดยกดาบขึ้นมาตวัดสองสามหน


ปราณดาบที่ยิ่งออกไป ปะทะเข้ากับร่างสาวกเทพสงครามซึ่งกำลังเข้ามาในเขตปราสาท


สิ่งนี้คือการผนวกระหว่าง ‘เนตรบาร์บาทอส’ และ ‘วิชาดาบราชาไร้พ่าย’


เป็นพลังในระดับใกล้ทัดเทียมเทพแท้จริง


ชายหนุ่มตัดขาดการสนับสนุนที่แฮกักกำลังรอคอย ไปพร้อมกับเก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์มหาศาล


กริดยังคงรักษามาขรึม พลางส่งข้อความไปยังหน้าต่างกิลด์อย่างรวดเร็ว


> ทุกคนที่ประจำการอยู่ในไบรัน รีบเดินทางไปยังเขตตลาดทิศเหนือทันที! ด่วนที่สุด! รวบรวมเคล็ดวิชาลับทั้งหมดที่พบกลับมา!


“…คึ่ก!”


ขณะกริดวางมาด แฮกักส่งเสียงครวญครางอย่างน่าสมเพช


โดยเฉพาะขณะได้เห็นเทวทูตอันน่าสะอิดสะเอียนซึ่งมีวงแหวนอยู่กลางศีรษะ


เทวทูตโง่งมรายนี้ริอ่านทรยศเทพที่สร้างตนขึ้นมา และกลายเป็นสุนัขรับใช้กริดอย่างไร้ยางอาย


แฮกักแหกปากตะโกนขณะอีกฝ่ายปรี่เข้ามาพร้อมกับหอก


“เทวทูตตกสวรรค์! เจ้ามันน่ารังเกียจยิ่งกว่าอสูร! ทรยศสวรรค์ยังไม่พอ แต่กลับกำลังกีดขวางข้ารับใช้ของเทพสงคราม!”


มันสัมผัสได้ถึงความตายของแฮกัก?


ซาลิเอลทำหน้าเศร้าเล็กๆ ขณะแฮกักพุ่งใส่ตนอย่างบ้าคลั่งและสูญเสียความเยือกเย็น


“ข้ารับใช้ของเทพมีเพียงเทวทูตเท่านั้น เจ้าก็แค่ถูกหลอกใช้จากความปรารถนาส่วนลึก”


“เฮ่อะ!”


แฮกักพ่นลมหายใจเหยียดหยันด้วยความโกรธเมื่อเห็นซาลิเอลทำหน้าเศร้า


ถูกหลอกใช้จากความปรารถนา? คิดว่ามันไม่รู้เรื่องนี้หรือ?


สาเหตุเดียวที่แฮกักจงรักภักดีต่อเทพสงคราม ก็เพราะมันต้องการความแข็งแกร่ง ไม่เคยสนใจว่าจะถูกหลอกใช้หรือไม่


เซราทุล เทพสงครามที่ชำนาญศิลปะการต่อสู้ทุกชนิดบนโลก


ทุกครั้งที่แฮกักเรียนเคล็ดวิชาลับจากอีกฝ่าย ความแข็งแกร่งของมันจะเพิ่มอย่างก้าวกระโดด


มันจึงก้มหน้ารับใช้เซราทุลโดยไม่ปริปากบ่นเรื่อยมา จนกระทั่งได้รับสมญานามสามยอดนักรบ


“สาเหตุที่เทพสงครามเลือกใช้งานข้า ก็เพราะพระองค์ต้องการพึ่งพาความแข็งแกร่ง ข้าจึงเปรียบเสมือนตัวแทนเทพสงคราม… ถ้านี่ไม่ใช่ข้ารับใช้แล้วเรียกว่าอะไร? ข้าคือเทวทูตบนโลกกึ่งกลาง แข็งแกร่งกว่าเทวทูตตกสวรรค์แบบเจ้าหลายเท่า!”


แผ่นหลังของแฮกักเริ่มยุบพอง


ผิวหนังที่บวมขึ้นเผยให้เห็นเส้นเลือดอย่างคมชัด ก่อนจะปะทุออกและกลายเป็นปีกสองคู่


ดูเหมือนว่าจะใช้ปีกนี้บินไม่ได้ เพราะขนนกราวกับเพิ่งฟักออกจากไข่


แต่เพียงเท่านี้ก็มากพอจะทำให้คนของกริดหวาดระแวง


หลังจากปีกทั้งสี่งอกเงย ดวงตาข้างซ้ายของแฮกักมีรูม่านตาถึงสามวง


มันห่างไกลจากมนุษย์ออกไปทุกที สีหน้าแววตาปราศจากอารมณ์โดยสิ้นเชิง


“ปีกนั่น…”


ปีกที่ยืนออกจากแผ่นหลังแฮกัก อาจดูคล้ายกับอวัยวะส่วนหนึ่งก็จริง แต่กริดเชื่อว่าไม่ใช่


อาศัยประสบการณ์และความรู้ในศาสตร์ด้านตีเหล็ก ชายหนุ่มยืนยันได้ว่า วัสดุที่เป็นแกนกลางของปีก ‘มิใช่สิ่งที่มีอยู่บนโลกมนุษย์’


ใบหน้าอันสง่างามของซาลิเอลทวีความเศร้า


“ชีวิตมนุษย์ช่างสั้นและไร้ค่า เทพจึงไม่เคยเห็นอกเห็นใจมนุษย์ สำหรับพวกท่าน มนุษย์มิใช่อื่นใดนอกจากสิ่งที่ใช้แล้วทิ้ง”


แฮกักดีดตัวเองขึ้นจากพื้น


ด้วยตาข้างซ้ายที่คล้ายกับมีสามดวงอยู่ในหนึ่ง แฮกักตรวจจับเวทมนตร์ของบราฮัมและซิกเฟรคเตอร์ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่ซาลิเอล


ซาลิเอลที่ลอยกลางอากาศ ใช้หอกรับลูกเตะของแฮกักซึ่งหน้า


ร่างของเทวทูตกระเด็นทะลุเพดานขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะสยายปีกกว้างเพื่อประคองไม่ให้ร่างกายร่วงหล่น


จากนั้น ซาลิเอลแผดเผาเงามืดทั้งหมดภายในปราสาท


ปีกบนแผ่นหลังแผ่แสงสว่างทุกซอกมุม ไม่เหลือที่ว่างสำหรับความมืดมิด


สภาวะล่องหนของเฟคเกอร์และคาซิมถูกลบล้างทันที


บราฮัมเห็นดังขึ้นจึงรีบใส่บาเรียคุ้มกายให้ทั้งสอง


แทบจะในวินาทีเดียวกัน แฮกักยิงคลื่นกระแทกออกจากกำปั้น


แรงลมปะทะใส่บาเรียจนทั้งเฟคเกอร์และคาซิมกระเด็นทะลุออกนอกกำแพงบราฮัม


แฮกักไม่ไล่ตามไป แต่ยกแขกข้างที่เพิ่งงอกปัดป้องจอบเล็กของปิอาโร่ พร้อมกับสวนกลับด้วยท่าเตะแมงป่องฉก


ปลายเท้าแฮกักที่พุ่งเลยศีรษะตัวเองเข้าหาปิอาโร่ ถือเป็นการโจมตีใส่มุมอับที่สมบูรณ์แบบ


ร่างปิอาโร่ถูกกระแทกจนกลิ้งไปบนพื้นหลายตลบ แต่ขณะเดียวกัน บดข้าวเปลือกของชาวนาในตำนานก็พุ่งลงมากระแทกร่างเป้าหมายอย่างจัง


ทว่า แฮกักฟื้นตัวได้รวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ


“เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นเทวทูต? ช่างเน่าเหม็น…”


คุณสมบัติเด่นของเทวทูตคือการต้านทานเวทมนตร์


เมื่อเวทมนตร์กลายเป็นสิ่งไร้ความหมาย บราฮัมเปลี่ยนไปเสริมพลังให้ดาบและโล่เมอร์เซเดสแทน


นี่มิใช่เวทเสริมแกร่งที่เคยสอนกริด แต่เป็นเวทธาตุที่จะดึงศักยภาพของวัตถุออกมาตามธาตุ


เทคนิคนี้ใช้ได้ผลกับเทวทูต ข้อเสียเดียวก็คือ ความคงทนของไอเท็มจะลดลงอย่างมาก


แต่มันจะทำอะไรได้?


ในเมื่อกริดสามารถซ่อมแซมหรือสร้างใหม่ การกังวลเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี


เมอร์เซเดสแสดงฝีมือดาบอันชดช้อยฟันใส่ร่างแฮกักดาบแล้วดาบเล่า


ท่าโจมตีที่กระหน่ำฟันแทงหกครั้งในหนึ่งลมหายใจ ส่งผลให้ยากจะมองทันด้วยตาเปล่า


ทว่า ความเร็วของแฮกักก็ไม่ด้อยไปกว่านั้น มันจู่โจมเมอร์เซเดสด้วยการโจมตีที่มองแทบไม่เห็น


‘บ้าน่า…’


โลกแห่งเหนือมนุษย์ที่แท้จริงคือทักษะติดตัวซึ่งจะแสดงผลเมื่อกริดอยู่ในอันตราย


กริดที่มองตามการโจมตีของแฮกักกับเมอร์เซเดสด้วยตาเปล่า เริ่มกระวนกระวายเมื่อมิอาจกระตุ้นโลกของเหนือมนุษย์ที่แท้จริงได้ตามใจชอบ


บาดแผลบนร่างกายเมอร์เซเดสเพิ่มขึ้นทุกขณะ ส่วนบาดแผลของแฮกักสมานตัวอย่างรวดเร็ว


เรียกได้ว่า สถานการณ์กำลังเลวร้ายสุดขีด


ตนควรเข้าไปแทรกแซงหรือไม่?


กริดที่เริ่มเครียด ตัดสินใจเปิดเนตรบาร์บาทอสเพื่อตรวจสอบว่ามีกำลังเสริมจากสาวกเทพสงครามหรือไม่


“…?”


กริดพลันผงะ


จากสาวกเทพสงครามกลุ่มใหม่ที่กำลังผ่านเข้ามาในเขตเมืองไบรัน มีคนหนึ่งสยายปีกบนแผ่นหลัง แต่ดวงตาและจมูกของมันกำลังท่วมเลือด เป็นสภาพที่มองแวบเดียวก็รู้ว่ามีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน


ความทรงจำเก่าแล่นผ่านสมองกริด


เพื่อให้เทวทูตสำแดงตรีเอกานุภาพบนโลกมนุษย์ พวกมันจำเป็นต้องมีสามตน


เทวทูตสองตนคือแฮกักและสาวกเทพสงครามที่ใกล้ตาย


ส่วนอีกหนึ่งคน…


เสาลำแสงถูกยิงลงมายังพื้นดินเบื้องล่าง ปกคลุมร่างแฮกักและเมอร์เซเดสอย่างพร้อมเพรียง


บาดแผลของหญิงสาวถูกเยียวยาโดยสมบูรณ์ ส่วนแฮกักกลายเป็นเศษผ้าขี้ริ้ว


แฮกักเลื่อนมือขึ้นมาจับไหปลาร้าที่หักพลางเงยหน้ามองตัวตนที่ร่อนลงมาพร้อมกับเสาลำแสง


ซาลิเอล


หนึ่งในเจ็ดอัครเทวทูตที่เคยบัญชาการกองทัพเทวทูต


แฮกักมองข้ามซาลิเอลมาตลอด


แต่ไหนแต่ไร เทวทูตคือตัวตนที่มิอาจแตะต้อง มันจึงไม่เคยมีข้อมูลของอัครเทวทูต


เมื่อไม่มีข้อมูล ย่อมไม่ทราบว่าอีกฝ่ายทำอะไรได้บ้าง


ราคาค่าครูครั้งนี้แสนแพง


หอกส่องแสงของซาลิเอลทะลวงหน้าอกแฮกักอย่างง่ายดาย


ห้ามประมาทเทวทูตบนโลกมนุษย์ในร่างตรีเอกานุภาพเด็ดขาด


ในวินาทีนี้ ซาลิเอลแข็งแกร่งกว่าใครทั้งหมดในสมรภูมิ


[สามยอดนักรบ ‘แฮกัก’ ถูกสังหาร!]


[เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 2 ระดับ]


[เลเวลอัศวินของท่าน ‘คาซิม’ เพิ่มขึ้น 1ระดับ]


[เลเวลผู้ส่งสารของท่าน ‘ปิอาโร่’ เพิ่มขึ้น 1ระดับ]


[เลเวลผู้ส่งสารของท่าน ‘บราฮัม’ เพิ่มขึ้น 1 ระดับ]


[เลเวลผู้ส่งสารของท่าน ‘ซิกเฟรคเตอร์’ เพิ่มขึ้น 2 ระดับ]


[เลเวลผู้ส่งสารของท่าน ‘เมอร์เซเดส’ เพิ่มขึ้น 4 ระดับ]


[เลเวลผู้ส่งสารของท่าน ‘ซาลิเอล’ เพิ่มขึ้น 10 ระดับ]


[ท่านได้รับไอเท็ม <ชิ้นส่วนปีกเทียม>]


[ท่านได้รับไอเท็ม <กล่องเคล็ดวิชาลับเทพสงคราม (เลเจนดารี) >]


[ท่านได้รับไอเท็ม <กล่องเคล็ดวิชาลับเทพสงคราม (ยูนีค) >]


“…”


แต่ละคนจะได้รับค่าประสบการณ์แตกต่างกันไปตามผลงาน


กริดรีบหันไปมองค้อนบราฮัมและปิอาโร่


ปิอาโร่รีบแก้ต่าง


“กระหม่อมมอบโอกาสให้เมอร์เซเดสเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง”


บราฮัมตอบเสียงเย่อหยิ่ง


“จะให้ฉันทำอะไรกับเทวทูต? ใช้ไม้เท้าเคาะหัว?”


“…”


กริดเริ่มกังวลว่าบราฮัมจะมีประโยชน์ในสงครามศักดิ์สิทธิ์เพื่อปลดปล่อยเฮ็กเซเทียจริงหรือ


แต่เพียงไม่นานก็คลายกังวล


ในวินาทีที่บราฮัมได้รับพลังแวมไพร์กลับคืน มันสามารถดับลมหายใจเทวทูตได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเวทมนตร์


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,904
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00