จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,416
<ดาบจันทราดับ>
เกรด: มิธ
ความคงทน: อนันต์
พลังโจมตี: 1
?เป้าหมายจะถูกตัดขาดอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่สนใจค่าพลังป้องกัน การหลบหลีก การสวนกลับ ผลสะท้อน ผลยกเลิกความเสียหาย ผลมองข้ามความเสียหาย และผลอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน ค่าความเสียหายจะเท่ากับการนำแต้มสถานะทั้งหมดของผู้ใช้คูณด้วยเลเวลของเป้าหมาย การโจมตีจะการันตีคริติคอลโดยไม่สนใจเงื่อนไข และบัฟทั้งหมดของเป้าหมายจะถูกลบล้าง นอกจากนั้นยังไม่สามารถได้รับบัฟเป็นเวลาสามนาที
? เหวี่ยงได้เพียงหนึ่งครั้งในทุกสิบนาที
นี่คือผลงานชิ้นใหม่ของเทพโอเวอร์เกียร์กริด เกิดจากการอบคืนตัวเหล็กแสงจันทร์นานยี่สิบสามวันเต็ม
ใบมีดที่แผ่แสงสีเย็นเยียบสามารถตัดขาดทุกกฎที่โลกนี้เคยมี
น้ำหนัก: 500
เงื่อนไขการสวมใส่: กริด
ค่าสถานะรวมของกริดสูงเกือบ 58,000 หน่วย
แน่นอน นี่คือค่าที่นับรวมค่าสถานะนอกเหนือจากการต่อสู้เข้ามาด้วย จำพวกค่าความชำนาญ ความน่าเกรงขาม และอำนาจทางการเมือง
แต่ในทางปฏิบัติจริง ค่าสถานะที่สูงกว่าแรงเกอร์คนอื่นเกือบสามเท่าเช่นนี้มีประโยชน์จริงหรือ?
ค่าสถานะที่เกี่ยวกับการต่อสู้นั้นมีจำกัด และค่าสถานะที่ไม่เกี่ยวกับการต่อสู้ก็ถูกแยกย่อยมากเกินไป
ยกตัวอย่างเช่นค่าอำนาจทางการเมือง
กริดมีอำนาจทางการเมือง 800 หน่วย ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับผู้เล่นสายการเมืองโดยแท้จริง
800 หน่วยของกริดแทบไม่ส่งอิทธิพลใดเลยหากมันไม่ได้เป็นราชา
แม้การตีเหล็กจะมีโบนัสที่ช่วยเพิ่ม ‘ค่าสถานะทุกชนิด’ และช่วยหล่อหลอมให้กริดมีค่าสถานะรวมระดับสัตว์ประหลาด
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มค่อนข้างผิดหวังกับโบนัส โดยมองว่าคงจะดีกว่านี้ถ้าเปลี่ยนแต้มไปเน้นเพิ่มค่าสถานะสำคัญมากกว่ากระจายไปลงกับค่าสถานะไร้ประโยชน์หลายชนิด
แน่นอน นี่เป็นความโลภที่ขาดสามัญสำนึก และกริดก็รู้ดีว่าไม่มีทางเกิดขึ้นได้
จนกระทั่งดาบจันทราดับถือกำเนิดขึ้น
อาวุธชนิดนี้จะนำค่าสถานะส่วนเกินมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งนับว่าเหมาะกับกริดมาก
แต่ครั้นจะดีใจก็ทำได้ไม่สุดเท่าไร เพราะระยะหน่วงของดาบนานถึงสิบนาที แถมชื่อก็ยังฟังดู ‘เฉิ่ม’ เกินไป
พิจารณาจากรูปลักษณ์อันงดงาม กริดเชื่อว่ามันควรมีชื่อ ‘ดาบธรณีโลกันตร์’ มากกว่า ‘ดาบจันทราดับ’
‘ตั้งชื่อได้ไร้รสนิยมสิ้นดี… ชิ!’
ไอ้พวก SA กรุป… พวกมันไม่ทำอะไรเลยนอกจากสร้างความหงุดหงิดให้ผู้เล่น… สิ่งดีๆ เพียงเรื่องเดียวคือการสร้างโลกเสมือนจริงที่คล้ายกับโลกจริงมาก แต่กว้างกว่าหลายเท่า สามารถรองรับผู้เล่นได้กว่าสองพันล้าน และมอบอิสระให้อย่างเต็มที่…
‘…ก็ไม่เลวนี่หว่า… ถือว่าทำดีแล้ว’
บ้าจริง… ทั้งที่เราอยากจะสบถอย่างสาดเสียเทเสีย…
ปฏิเสธไม่ได้ว่าใครหลายคน รวมถึงตัวกริด ได้รับความสุขอย่างมากบนโลกเสมือนจริงที่เต็มไปด้วยอิสรภาพ
กริดไม่ได้คิดเช่นนี้เพราะตนเพิ่งได้รับดาบเกรดมิธ แต่บริษัท SA กรุปดูแลระบบเกมได้อย่างน่าทึ่งโดยไม่ขาดตกบกพร่องมานานหลายปี คู่ควรกับการเป็นกลุ่มทุนที่มั่งคั่งและมีทรัพยากรระดับประเทศ
“อา...”
กริดสงบจิตใจพลางมองเข้าไปในราชรถสุริยันซึ่งดูราวกับดวงอาทิตย์ขนาดย่อส่วน
ตามปรกติแล้ว คงธรรมดาคงไม่สามารถจ้องมองเข้าไปเนื่องด้วยแสงอันเจิดจ้า
แต่กับกริดแล้วไม่มีปัญหา สายตามองมันสามารถสอดส่องได้โดยปราศจากความอึดอัด
[ขอขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมราชรถสุริยัน - ตลาดเปิดสำหรับเทพทุกตนบนโลก (* ???? *) เจ้าของตลาดที่น่ารัก ?เวนิช? จะไม่มีการเลือกลูกค้า จึงไม่จำกัดเฉพาะเทพของแอสการ์ด แต่เทพทั่วโลกสามารถใช้บริการได้! ???]
[จงใช้ชื่อเสียงและความศรัทธาที่รวบรวมจากมนุษย์เป็นสื่อกลางในการซื้อสินค้าที่ขายโดยเทพตนอื่น หรือจะวางขายสินค้าของตัวเองก็ทำได้เช่นกัน ("???" ?) ]
“เฮ่อ…”
คำแนะนำตัวสุดพิลึกพิลั่นอีกแล้ว
เวนิช – หนึ่งในเทพบนแอสการ์ดซึ่งอาจเป็นศัตรูกับกริดในอนาคต
แต่สำหรับกริด เธอมอบความรู้สึกแตกต่างจากเทพตนอื่น
ประเด็นนี้มิได้หมายถึงน้ำเสียงหรือลีลาท่าทางการพูด
ตลาดเปิดสำหรับเทพทั่วโลก…
แตกต่างจากเทพตนอื่นที่มักผูกขาดกิจกรรมไว้เฉพาะดินแดนที่ตนอยู่ ไม่ว่าจะแอสการ์ดหรืออาณาจักรฮวานแห่งทวีปตะวันออก
เป็นความใจกว้างที่แม้แต่กริดยังต้องทึ่ง
แน่นอน กริดยังไม่วางใจเต็มร้อย
‘เธอคงไม่ได้พยายามผูกมิตรกับเทพทั่วโลกแน่’
ข้อความระบบแจ้งไว้อย่างชัดเจนว่า ‘ชื่อเสียงและความศรัทธาที่รวบรวมจากมนุษย์’ สามารถนำมาใช้เป็นทรัพยากรสำหรับแลกเปลี่ยน
ในทำนองเดียวกัน ความศรัทธาของมนุษย์จะแปรผันตรงกับความแข็งแกร่งของเทพ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือเทพสงคราม
แน่นอน เทพทั้งหมดบนโลกล้วนปรารถนาความศรัทธา และเวนิชเองก็คงไม่มีข้อยกเว้น
บางที ตลาดแห่งนี้ถูกเปิดขึ้นก็เพื่อหวังผลในเรื่องดังกล่าว
‘ค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการค้าขายผ่านราชรถสุริยัน จะเข้ากระเป๋าเวนิชโดยตรง?’
หลังจากผุดสมมติฐาน กริดเริ่มขมวดคิ้วพลางเชื่อว่า เวนิชไม่ใช่เทพธรรมดาที่ทำตัวง่ายๆ เหมือนภายนอก
จากนั้นไม่นาน สีหน้ายิ่งทวีความบิดเบี้ยวเมื่อเริ่มตรวจสอบรายการสินค้าที่ถูกลงทะเบียนไว้
<พลังนิรนาม>
อัญเชิญเมฆดำจำนวนหนึ่งขึ้นมายังบริเวณที่กำหนด เมฆจะคงอยู่ได้นานสิบวันและสามารถลบออกได้ตามต้องการ กลุ่มเมฆดำจะสร้างสายฝนโปรยปรายอย่างต่อเนื่อง เหมาะแก่การใช้งานในพื้นหินแห้งแล้ง! การใช้งานพลังนี้อาจทำให้ท่านได้รับศรัทธากลับคืนมาในปริมาณเท่ากับที่เสียไป!
ใช้งานได้หนึ่งครั้ง
ผู้ขาย: นิรนาม
ราคา: 8,000 ไม่รวมค่าธรรมเนียม
<พลังนิรนาม>
สร้างแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในจุดที่กำหนด! เหมาะสมแก่การลงทัณฑ์มนุษย์เป็นอย่างมาก!
แน่นอน คาริออนคือผู้ที่จะถูกสาปส่ง! เวนิชไม่ขอรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น (???)
ใช้งานได้หนึ่งครั้ง
ผู้ขาย: นิรนาม
ราคา: 8,000 ไม่รวมค่าธรรมเนียม
<พลังนิรนาม>
สามารถส่งวิวรณ์ศักดิ์สิทธิ์ไปยังมนุษย์บางคนได้โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นผู้ศรัทธาของท่าน! ฟังดูน่าอัศจรรย์ไปเลยไม่ใช่หรือ?
แต่ค่าบริการจะขึ้นอยู่กับความยากและความซับซ้อนของเนื้อหา! คำนวณให้รอบคอบก่อนใช้บริการ! (????`) ??
ใช้งานได้หนึ่งครั้ง
ผู้ขาย: นิรนาม
ราคา: 45,000 ไม่รวมค่าธรรมเนียม
<กล่องเคล็ดวิชาลับของเซราทุล>
กล่องที่บรรจุเคล็ดวิชาลับของเซราทุล~ เซราทุลอ้างว่าบรรจุหนึ่งในเคล็ดวิชาเกรดสูงที่สุดเท่าที่ตนเคยสร้างขึ้น… ? (???) ? เหมาะสำหรับเทพที่ไม่ถนัดการต่อสู้อย่างมาก คิดเหมือนกันใช่ไหม? ??? ผู้ขายเป็นผู้กำหนดราคา! ห้ามว่าร้ายเวนิชเด็ดขาด!
ผู้ขาย: เซราทุล
ราคา: 150,000 ไม่รวมค่าธรรมเนียม
<ไอเท็มนิรนาม>
ยาสูบที่มีกลิ่นหอมเย้ายวนชวนให้หลงใหล มนุษย์ที่สูดดมเข้าไปนานกว่าห้านาทีจะกลายเป็นหุ่นเชิดของท่าน! ฟังดูเหมือนเป็นสิ่งของที่จอมอสูรสร้างขึ้นใช่ไหม? ขอยืนยันว่าไม่ใช่! ราชรถสุริยันจะไม่ขายสินค้าของจอมอสูรเด็ดขาด! (???)
ระยะเวลาการสะกดจิต: 20 นาที
ใช้งานได้หนึ่งครั้ง
ผู้ขาย: นิรนาม
ราคา: 30,000 ไม่รวมค่าธรรมเนียม
เหล่าทวยเทพต่างนำสิ่งของและพลังของตนมาวางขาย มีเพียงเซราทุลที่เปิดเผยชื่อจริง
‘ทำไมเซราทุลถึงต้องใช้ตลาด?’
อาจเป็นแค่ร่างโคลน แต่เทพสงครามก็ยังเป็นเทพสงคราม เซราทุลสามารถสร้างศรัทธาจากมนุษย์ได้ง่ายกว่าเทพตนอื่นมาก เหตุไฉนถึงต้องสร้างเคล็ดวิชามาขายในตลาด?
‘หรือว่า… แค่อยากโอ้อวด?’
แม้แต่เวนิชยังบอกว่า ถ้าคิดว่าราคาแพงก็ไปด่าเซราทุลเอาเอง
มีความเป็นไปได้มากที่เทพสงครามจะ ‘อวดโอ่’ เทพตนอื่นว่าตนไม่จำเป็นต้องขายของแลกศรัทธา
‘ดีล่ะ… อย่าไปสนใจสิ่งที่เซราทุลขาย’
เคล็ดวิชาลับเทพสงครามสามารถหาได้จากแหล่งอื่น ไม่คุ้มค่าที่จะแลกกับแต้มศรัทธาซึ่งรวบรวมได้ยาก
เหนือสิ่งอื่นใด ทักษะภายในเป็นแบบสุ่ม
“…!”
สายตากริดพลันสะดุดเมื่อเลื่อนไปเห็นสินค้าชนิดหนึ่ง
<ค้อนและทั่งของเฮ็กเซเทีย>
สิ่งของเหล่านี้ถูกขายทอดตลาดหลังจากเฮ็กเซเทียคนทรยศถูกจองจำ ข้าซื้อมันมาในราคาถูกเนื่องจากไม่มีคนแย่งประมูล แต่สุดท้ายก็หาโอกาสใช้งานไม่ได้ จึงนำมาขายต่อ (• ? ?• ?)
ผู้ขาย: เวนิช
ราคา: 35,000 ไม่รวมค่าธรรมเนียม
“เฮ็กเซเทีย…”
เทพตีเหล็กที่ถูกจองจำเพื่อช่วยกริด
สมบัติที่อีกฝ่ายหวงแหนกลับถูกนำมาขายทิ้งในราคาน่าอดสู
35,000 แต้มนับว่าถูกมากเมื่อเทียบกับความเป็นสัญลักษณ์ของเฮ็กเซเทีย
นับว่าถูกมากเมื่อเทียบกับพลังหรือสิ่งของที่ใช้ได้ครั้งเดียวจากเทพตนอื่น
แน่นอน มันไม่ถูกสักเท่าไรในสายตากริด
บางที ในอนาคตอาจแตกต่างออกไปถ้าศาสนาเทพโอเวอร์เกียร์มีผู้ศรัทธามากกว่านี้ มีพลังแห่งความเชื่อแรงกล้ากว่านี้
สำหรับปัจจุบัน สิ่งที่กริดสามารถใช้แลกเปลี่ยนในตลาดราชรถสุริยันมีเพียงชื่อเสียงที่ได้มาจากการผลิตไอเท็มหรือไม่ก็ล่าบอส
แต่กริดไม่ลังเลเลยที่จะซื้อพวกมัน
ชายหนุ่มเตรียมใช้แต้มชื่อเสียงแสนยากหากไปกับทั่งและค้อนของเฮ็กเซเทียโดยเชื่อว่า ไอเท็มศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จะช่วยยกระดับการตีเหล็กของตนได้ไม่มากก็น้อย
หรือต่อให้ไม่มีผลเลย แต่ก็สิ่งเหล่านี้ก็ยังเป็นสมบัติส่วนตัวของเฮ็กเซเทียที่ต้องนำไปคืนในสักวัน
‘ฉันจะดูแลพวกมันไว้เอง… แล้วจะส่งคืนให้หลังจากช่วยเหลือออกมาได้’
[ท่านใช้ค่าชื่อเสียง 35,000 หน่วยเพื่อซื้อ <ค้อนและทั่งของเฮ็กเซเทีย>]
ไอเท็มทั้งสองชิ้นถูกส่งเข้าช่องสัมภาระของกริดพร้อมกับหน้าต่างข้อความระบบ
ขณะชายหนุ่มเตรียมตรวจสอบ เสียงของใครบางคนดังขึ้นในโสตประสาท
> ให้ตายสิ… ข้ากำลังคิดว่าลูกค้าที่น่ารักในคราวนี้เป็นใครกัน… ที่แท้ก็เจ้าเองหรือ?
เดาไม่ได้ยากว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร
‘เวนิช…’
เทพแห่งเงินตรา เทพที่พ่อค้าแม่ค้าทั่วโลกนับถือ
บัฟที่ได้จากการกราบไหว้บูชานั้นยอดเยี่ยม ช่วยให้ผู้เล่นเกิดความได้เปรียบขณะซื้อขายไอเท็มกับ NPC โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดค่าธรรมเนียม
“รู้จักฉันด้วย?”
> แน่นอนอยู่แล้ว! เทพที่เกิดจากความศรัทธาของมนุษย์! กริด เจ้าค่อนข้างโด่งดังในหมู่พวกเรา ฮุฮุ… ไม่ต้องประหม่าไป ถึงจะเป็นศัตรูกับแอสการ์ด แต่ราชรถสุริยันยินดีให้บริการเทพทุกตนอย่างเท่าเทียม ตราบใดที่เจ้ายังเป็นลูกค้าที่น่ารัก จะไม่มีการแอบวางยาพิษหรือแพร่งพรายข้อมูลออกไป
“ผมเชื่อใจคุณ”
> จงใช้งานราชรถสุริยันให้บ่อย… ที่นี่เหมาะแก่การค้าขายที่สุด เจ้าไม่คิดเช่นนั้นหรือ?
“ตกลง”
กริดไม่อยากสานต่อบทสนทนาสักเท่าไร
เทพของแอสการ์ดเก่งในด้านการสวมหน้ากาก ยิ่งคุยกันนาน ฝ่ายที่เผยความลับคงเป็นตน
เมื่อเวนิชสังเกตเห็นว่ากริดไม่อยากคุยกับเธอ
> แล้วพบกันใหม่น้า~
“…”
เวนิชจากไปเมื่อสิ้นเสียง
กริดก้มหน้าตรวจสอบไอเท็มใหม่ทั้งสองชิ้นด้วยความคาดหวัง
แล้วก็ไม่ผิดหวัง ประสิทธิภาพของมันสูงกว่าค้อนและทั่งปัจจุบันของกริดมาก
ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น สองสิ่งนี้เป็นถึงของใช้ส่วนตัวของเทพตีเหล็ก
‘หืม… แต่เป็นคนละอันกับค้อนที่เราเคยเห็นไม่ใช่หรือ?’
อย่างไรก็ดี ค้อนและทั่งของเฮ็กเซเทียมีประสิทธิภาพสูงจนกริดพึงพอใจ โดยเฉพาะการเพิ่มความเร็วในการผลิตไอเท็มขึ้นจากเดิมสองเท่า
หากมีค้อนอันนี้ ชายหนุ่มคงไม่ต้องใช้เวลานานถึงยี่สิบสามวันในการสร้างดาบจันทราดับ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ระดับที่เกมเสียสมดุล เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ไอเท็มสายผลิตมักมีขีดจำกัด และการเพิ่มอัตราได้รับไอเท็มเกรดสูงก็ไม่ได้รับประกันผลแต่อย่างใด
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
กริดเริ่มสร้างไอเท็มอีกครั้ง
คราวนี้เป็นเข็มขัดที่จะช่วยให้ใช้ ‘เครื่องยิงพลังเวท’ ได้เร็วขึ้น
ต้องขอบคุณค้อนและทั่งของเฮ็กเซเทีย ผลงานจึงเกิดขึ้นอย่างราบรื่นและรวดเร็ว
‘ลุยเลยดีไหม?’
หลังจากสร้างไอเท็มเสร็จ กริดเรียกประชุมเหล่าผู้ส่งสาร
จุดประสงค์ในคราวนี้คือการบุกถล่มนรกซึ่งอาจแอบจับมือกับสวรรค์อย่างลับๆ
เป้าหมายเบื้องต้นคือการยึดครองนรกตั้งแต่ขุมที่ยี่สิบลงไป
ชายหนุ่มเชื่อว่าโอกาสสำเร็จค่อนข้างมาก เพราะต้องไม่ลืมว่าฝ่ายตนมีทั้งแกรนมาสเตอร์และเนเฟลิน่า
แถมเลอราเฆ่ก็ยังให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
Comments
Post a Comment