จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,420



ปากสุนัข - ชื่อที่ใครบางคนใช้เรียกนรกขุมยี่สิบ


ภาพของกำแพงหินหลอมละลายกลายเป็นกำแพงไฟ ราวกับหลุดออกมาจากตำนานเทพนิยาย


เป็นภาพที่ใครต่อใครมักจินตนาการเมื่อพูดถึง ‘ปากทางเข้านรก’ ซึ่งมีสุนัขสามหัวเซอร์เบอรัสเฝ้าอยู่


“โรนอฟพ่ายแพ้อีกแล้ว?”


น้ำเสียงอันเย็นเยียบดังกังวานไปทั่วท้องพระโรงของปราสาทจอมอสูรลำดับยี่สิบ


เอลิกอส จอมอสูรลำดับยี่สิบ มันรู้สึกราวกับฤดูหนาวกำลังมาเยือน


แต่นรกไม่มีฤดูหนาว


“อา… เจ้านั่นสูญเสียร่างเนื้อ ปราสาทถูกยึดครอง”


“ไหนบอกว่าคราวนี้ผลลัพธ์จะไม่เหมือนเดิม?”


ในชุดเกราะสีเข้ม เอลิกอสกำลังนั่งบนบัลลังก์ใหญ่


จิตสังหารของมันเกรี้ยวกราดประหนึ่งเปลวไฟ แหลมคมประหนึ่งใบมีด


บรรยากาศเย็นเยียบรอบตัวทำให้บรรดาอสูรต่างพากันสั่นสะท้าน


มันคือสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความมืด อัดแน่นด้วยความชั่วร้ายและเลวทราม


อัศวินดำเอลิกอส อสูรผู้ปฏิเสธชีวิต


อีกหนึ่งตัวตนที่แข็งแกร่งของขุมนรก เส้นทางแห่งความตายคือสิ่งที่มันเลือกเดิน และนั่นเป็นเหตุผลที่เอลิกอสสามารถปกครอง ‘ปากสุนัข’ ได้เป็นเวลานาน แม้จะมีอสูรมากมายหมายปองขุมนรกแห่งนี้


ศัตรูทั้งหมดล้วนเสียชีวิตโดยไม่มีใครพรากปากสุนัขไปจากเอลิกอสสำเร็จ


“เจ้านั่นทำให้ข้าผิดหวังถึงสองครั้งสองครา”


จอมอสูรลำดับยี่สิบเจ็ด โรนอฟ


มันเคยต้องอับอายขายขี้หน้าเมื่อหลายปีก่อนจากการรุกรานโลกมนุษย์ล้มเหลว


โรนอฟเคยป่าวประกาศอย่างโอหังว่า ตนจะปลดปล่อยหมอกสีแดงเพื่อร้างโรคระบาดรุนแรงบนโลกมนุษย์ แต่ในความเป็นจริง มันซมซานกลับมาในสภาพน่าสมเพช


โรนอฟบอกกับเหล่าอสูรที่ล้อเลียนรูปลักษณ์อันแสนยับเยินว่า แผนการของมันล้มเหลวเพราะถูกเทพปลายแถวแทรกแซง


เทพปลายแถว


เทพปลายแถวหมายถึงเทพท้องถิ่นในขอบเขตเล็กๆ เทียบไม่ได้เลยกับเทพของแอสการ์ด


แต่เมื่อพิจารณาว่าจอมอสูรเองก็อ่อนแอลงมากบนโลกมนุษย์ เอลิกอสจึงไม่ถือสาความพ่ายแพ้ในคราวก่อนของโรนอฟ ขอเพียงอีกฝ่ายสาบานว่าจะเป็นมือขวาที่จงรักภักดี


นั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเอลิกอส มันควรฆ่าโรนอฟทิ้งตั้งแต่คราวก่อน


ภายในนรก ไม่ใช่โลกมนุษย์ โรนอฟเผชิญความพ่ายแพ้อีกครั้งและถูกช่วงชิงปราสาท


“อย่าให้โรนอฟคืนชีพเด็ดขาด”


“เจ้านั่นทำให้เกียรติยศของนายท่านมัวหมอง!”


เหล่าบริวารของเอลิกอสต่างตะโกนกึกก้อง


กรรร!


แม้แต่เซอร์เบอรัสก็ยังคำรามต่ำราวกับเห็นด้วย


เอลิกอสพยักหน้า


“ตามหาดวงวิญญาณของโรนอฟให้พบ จากนั้นก็ผนึกประตูทั้งหมดที่นำไปสู่แม่น้ำ ดวงวิญญาณของมันจะต้องทุกข์ทรมานไปตลอดกาล”


“ขอรับ!”


สาเหตุที่ ‘ปากสุนัข’ ถูกขนานนามให้เป็นนรกที่แท้จริง เพราะที่นี่คือประตูสำหรับผ่านเข้าออกของวิญญาณคนตาย


การมีภาพลักษณ์เหมือนคำบอกเล่าในตำนานไม่ใช่เรื่องบังเอิญ


ไม่เกินจริงไปนักหากจะกล่าวว่า อำนาจของเอลิกอสเป็นรองเพียงบาเอลเท่านั้น


ขณะอสูรและเผ่าอสูรแยกย้ายออกไปตามหาดวงวิญญาณของโรนอฟ เอลิกอสขมวดคิ้ว


“มาร์บาสกำลังจะมาที่นี่…”


มาร์บอส อสูรผู้อ้างตัวว่าเป็นข้ารับใช้แสนจงรักภักดีของยาธาน


ในนามยาธาน มันตระเวนไปมารอบนรกเพื่อขยายพันธุ์อสูรและสัตว์อสูร


ใครบางคนอาจมองว่ามาร์บาสเป็นผู้พิทักษ์แห่งนรก แต่เอลิกอสไม่เชื่อเช่นนั้น


มันไม่ชอบหน้ามาร์บาสเลยสักนิด และยังคาใจว่ามาร์บาสทำคุณประโยชน์ให้นรกจริงหรือ


เอลิกอสยังจำได้แม่นยำ เมื่อครั้งอดีต มาร์บาสเคยใช้พลังขยายพันธุ์อสูรในจุดที่ ‘นักล่าอสูร’ อเล็กซ์ปรากฏตัว โดยอ้างว่าทำไปเพื่อกำจัดอเล็กซ์


แต่ผลลัพธ์คืออะไร?


ยิ่งอสูรขยายพันธุ์ อเล็กซ์ก็ยิ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดด


จากมนุษย์ที่ไม่กล้าแม้แต่จะเข้ามาในเขต ‘ปากสุนัข’ ท้ายที่สุดกลับแข็งแกร่งจนสามารถท้าทายบาเอล เป็นเรื่องราวที่ไม่ว่าได้ยินกี่ครั้งก็ชวนให้ขมวดคิ้วเสมอ


‘ไม่ว่าจะมองมุมใด… มาร์บาสก็ไม่ควรมาที่นี่’


***


ข้อความโลกจะประกาศทุกครั้งเมื่อจอมอสูรถูกสังหารในนรก


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น การที่จอมอสูรถูกฆ่าในถิ่นของตัวเอง ถือเป็นเหตุการณ์ใหญ่สำหรับโลกซาทิสฟาย


ผู้คนต่างพากันอลหม่านอีกครั้ง


“คุณยองวูพอจะทราบรายละเอียดเรื่องที่นรกถูกชำระล้างตลอดสามวันที่ผ่านมาไหมครับ?”


“กิลด์โอเวอร์เกียร์เริ่มปฏิบัติการบุกถล่มนรกแล้วหรือ?”


นักข่าวหลายร้อยคนมาดักรอหน้าบ้านชินยองวูในเวลาที่เขาต้องวิ่งออกกำลังกาย


สังเกตจากหน้าตาและสีผิว ผู้สื่อข่าวเหล่านี้มาจากหลายชนชาติ


จริงอยู่ ปัจจุบันคือโลกยุคใหม่ แต่การที่มีชาวต่างชาติมารวมตัวในเมืองเล็กๆ ยังคงเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับเกาหลีใต้


‘ต้องยอมรับตามตรงว่า นักข่าวพวกนี้ขยันชะมัด’


นักข่าวกว่าร้อยคนที่เอาแต่ยิงคำถามเดิมๆ พวกมันมีสิ่งหนึ่งเหมือนกัน


ทุกคนล้วนตั้งคำถามเป็นภาษาเกาหลี ไม่มีใครใช้เครื่องแปล


ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือ บางคนชำนาญ ส่วนบางคนยังมือใหม่


นักข่าวเหล่านี้พยายามเรียกร้องความสนใจจากชินยองวูอย่างสุดความสามารถ


‘…ทั้งที่เราพูดภาษาอังกฤษได้แล้ว’


เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากจิสึกะย้ายมาอาศัยในเกาหลีใต้


เฉกเช่นที่เธอพยายามเรียนภาษาเกาหลี ยองวูเองก็พยายามเรียนภาษาโปรตุเกสและอังกฤษ


ชายหนุ่มอาจไม่ว่างสมัครเรียนที่สถาบันสอนภาษา แต่ก็หาโอกาสเรียนด้วยตัวเองบ่อยครั้งในยามออกกำลังกายหรือกินข้าว เพียงไม่นานก็สามารถสื่อสารด้วยบทสนทนาง่ายๆ


ยิ่งเล่นซาทิสฟายนานเท่าไร ทักษะการ ‘เรียนด้วยตัวเอง’ ของยองวูก็ยิ่งเพิ่มพูน


เมื่อชายหนุ่มลองนำหลักการในเกมมาปรับใช้กับการเรียนภาษา เรื่องที่เคยทำได้ยากอย่างการอ่านหนังสือ ปัจจุบันง่ายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า


‘ฉันขอโทษ…’


ยองวูหันไปมองตึกข้างๆ


ชั้นบนสุดเป็นเพนต์เฮาส์ของจิสึกะ


นานแล้วที่มันไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ และว่ากันตามตรง ยองวูคิดถึงอีกฝ่ายไม่น้อย


เดิมที นาฬิกาชีวิตของจิสึกะจะตรงกับยองวูทุกกระเบียดนิ้ว ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งกินอาหารเช้าร่วมกัน


จิสึกะตั้งเวลานอนในแคปซูลให้เท่ากับยองวู แม้กระทั่งช่วงเวลาเข้านอนก็ใกล้เคียงกันมาก ชายหนุ่มเคยได้รับข้อความ ‘ราตรีสวัสดิ์’ ก่อนนอนบ่อยครั้ง


แปล๊บ


หัวใจของยองวูรู้สึกเจ็บปวด


ยองวูชอบจิสึกะ แต่ก็ชอบยูร่าด้วยเช่นกัน


กับรายหลัง มันออกเดททุกวันหยุดสุดสัปดาห์จนความสัมพันธ์ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง


ยองวูไม่กล้าปฏิเสธยูร่าผู้สารภาพรักกับตนต่อหน้าคนทั้งโลก


ด้วยความสัตย์จริง หัวใจของมันอยากแบ่งปันความรักกับหญิงสาวทั้งสอง


แต่แน่นอน เรื่องนั้นไม่มีวันเกิดขึ้นได้ อย่างน้อยก็คงต้องรอจนกว่าดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก


สำหรับปัจจุบัน หากจับปลาสองมือ มันจะถูกคนทั้งโลกรุมประณาม และฝ่ายที่เจ็บปวดกว่าก็คือพวกเธอทั้งสอง


‘บ้าจริง…’


“คุณยองวูคะ?”


“เอ่อ… ใช่แล้ว กิลด์โอเวอร์เกียร์กำลังบุกรุกนรก พวกเราตั้งเป้าว่าจะยึดครองขุมนรกหลักยี่สิบให้ได้ทั้งหมดก่อน”


“ขุมนรกหลักยี่สิบทั้งหมด…! ถ้าทำสำเร็จ ขนาดนรกจะลดลงไปหลายเท่าใช่ไหมคะ?”


ยองวูตอบ


“นั่นยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ พวกเราไม่มีพลังในการยึดครองนรกโดยสมบูรณ์ อีกไม่นานก็จะถูกจอมอสูรตนใหม่ทวงคืน”


“ไม่ถ่อมตัวไปหน่อยหรือคะที่จะบอกว่ากิลด์โอเวอร์เกียร์ไม่มีพลัง? เมื่อไม่นานมานี้ ดิฉันได้ยินว่าซีบาลและผู้เล่นชาวสหรัฐจำนวนมากตัดสินใจเข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์ ตอนนี้กิลด์ของคุณน่าจะมีพลังอำนาจล้นมือ”


“สำหรับปัจจุบัน แรงเกอร์ทั่วไปยังไม่สามารถแสดงฝีมือในนรกได้ ทีมงานของผมจึงมีไม่ถึงสิบคน”


“เห…? ระดับความยากของนรกสูงกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญคาดคะเนมากเลยสินะคะ?”


“มีบ่อยครั้งที่ผู้เชี่ยวชาญคาดคะเนผิดไปจากความจริง”


“ฮะฮะฮะ!”


นักข่าวรอบๆ ระเบิดเสียงหัวเราะพร้อมกัน


ตลอดสองสามปีที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกต่างพยายามวิเคราะห์กริด และเกือบทั้งหมดประสบความล้มเหลว


การถามตอบเป็นไปด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย


ยองวูมิได้ปิดบังข้อมูลของนรกมากนัก ไม่กังวลว่าส่วนที่ตนเปิดเผยจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง


กลับกัน มันอยากให้ผู้เล่นได้รับประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้


ชายหนุ่มคาดหวังพัฒนาการโดยรวมของผู้เล่น และกำลังพิจารณาอย่างจริงจังว่า จะเริ่มนำไอเท็มของตนออกมาขายให้คนภายนอกได้ใช้งาน จากเดิมที่ขายเฉพาะสมาชิกกิลด์เพียงอย่างเดียว


ศัตรูของมนุษยชาติแข็งแกร่งเกินกว่าจะเอาชนะได้ด้วยการผูกขาดสิ่งเหล่านี้ไว้กับตัว


***


“สิบคน…”


บทสัมภาษณ์ของกริดที่เล่าว่า กิลด์โอเวอร์เกียร์สามารถชำระล้างนรกขุมยี่สิบแปด ยี่สิบเจ็ด และยี่สิบหกได้โดยใช้กำลังคนไม่ถึงสิบ ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกภายในไม่กี่ชั่วโมงถัดมา


ความท้าทายกำลังผุดขึ้นในใจเหล่าแรงเกอร์ชั้นนำ แต่แน่นอน ไม่มีใครคิดว่านรกเป็นเรื่องง่าย


จากบรรดาสิบคน สามจากสิบประกอบด้วยปิอาโร่ เมอร์เซเดส และบราฮัม


ทุกคนต่างเคยได้ยินวีรกรรมของปิอาโร่ ชาวนาในตำนานผู้คอยปกป้องอาณาจักรโอเวอร์เกียร์มาช้านาน


เคยได้ยินวีรกรรมของเมอร์เซเดส อัศวินในตำนานที่คอยปกป้องเมืองหลวงข้างกายกริด


เคยได้ยินตำนานของบราฮัม มหาจอมเวทในตำนานที่ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณมากนัก


“พวกเขาต่างเป็นสัตว์ประหลาดที่มีฝีมือเทียบเท่าแรงเกอร์แถวหน้าสิบคนรวมกัน”


“ฉันคิดว่ายี่สิบ… ลืมสี่ราชันสวรรค์ของกริดไปแล้วหรือ?”


“เมื่อเทียบกับตอนนั้น ปัจจุบันแรงเกอร์แถวหน้าพัฒนาฝีมือขึ้นมากแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มที่มีคลาสเกรดยูนีค”


สองปีในชีวิตจริง หกปีในซาทิสฟาย


สำหรับแรงเกอร์แถวหน้าที่เบียดตัวเองขึ้นมาเป็นคนดังของโลก หกปีในเกมคือช่วงเวลาที่พวกมันกอบโกยได้มหาศาล


“ถ้าเป็นแบบนั้น… จากการคำนวณ จะต้องใช้แรงเกอร์หัวแถวประมาณหกสิบคนในการรับมือกองทัพกริด… สามสิบสำหรับเมอร์เซเดส ปิอาโร่และบราฮัม อีกสามสิบสำหรับกริดและขุนพล”


ในอดีต ผู้เล่นเคยตระหนักว่าคุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ


คนอ่อนแอจำนวนมากไม่มีวันต่อกรกับผู้แข็งแกร่งเพียงหนึ่งไหว ตัวอย่างที่ชัดเจนคือมนุษย์กับจอมอสูร


แต่กลับจากผ่านมาหลายปี แรงเกอร์หัวแถวเองก็พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ความพยายามอย่างหนักช่วยให้พวกมันเกิดใหม่ในฝั่ง ‘คุณภาพ’ จากแต่เดิมที่เคยอยู่ฝั่ง ‘ปริมาณ’


จนถึงจุดที่หลายคนเริ่มมั่นใจว่า หากจอมอสูรรุกรานโลกมนุษย์ตอนนี้ ถึงแม้จะไม่มีกิลด์โอเวอร์เกียร์ แต่ลำพังพวกตนก็สามารถรับมือกับปัญหาได้สบาย


“อา… ฉันคิดว่าหกสิบคนคงพอแล้ว”


“ไประดมคนมา… พวกเราจะบุกนรก”


แรงเกอร์ระดับแถวหน้าเริ่มรวบรวมคนเพื่อตั้งทีมบุกนรก


แน่นอน มีผู้เล่นที่แข็งแกร่งต่อแถวสมัครเป็นจำนวนมาก


ใครบ้างจะไม่สนการล่าจอมอสูรที่ดรอปไอเท็มล้ำค่า?


บทสัมภาษณ์ของกริดที่ระบุว่ากิลด์โอเวอร์เกียร์สามารถกวาดล้างนรกได้ด้วยจำนวนคนเพียงไม่ถึงสิบ ได้กระตุ้นให้เกิดความเคลื่อนไหวไปทั่วโลก


แต่ปัญหาคือ ไม่มีใครทราบวิธีเข้าไปในนรก


ทาโรต์ซึ่งเคยเป็นลูกน้องพ่อค้าเคียร์ออกมาเฉลยว่า ผู้เล่นสามารถลงนรกได้หากเสียชีวิตขณะอยู่ใน ‘ร่างมืด’


แน่นอน ความเห็นของมันถูกเพิกเฉย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีร่างมืด และการต้องตายเพื่อลงไปในนรก นับเป็นค่าผ่านทางที่แพงเกินไป


***


“แฮ่ก… แฮ่ก… จะบ้าตาย”


หัวดื้อ หมกมุ่น และวิบากกรรม วลีเหล่านี้คือคำพูดติดปากกริด


กริดคือชายผู้ไม่ย่อท้อ ช่วงชีวิตอันยากลำบากที่เคยเต็มไปด้วยความทุกข์ สามารถเอาชนะได้ด้วยการทำงานหนัก


ทว่า เหตุการณ์ตรงหน้าคือข้อยกเว้น


นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเอาชนะได้ด้วยความพยายามเพียงอย่างเดียว


“ถอยก่อนไหม?”


ปราสาทของนรกขุมที่ยี่สิบห้านั้นค่อนข้างพิเศษ


ขนาดใหญ่กว่าภูเขา สร้างจากผลึกสีดำทั้งหลัง หากมองจากระยะไกลจะงดงามมาก


แต่เป็นคนละเรื่องเมื่อเข้ามาใกล้


ผิวผลึกสีดำที่ไม่เป็นระเบียบ ทำหน้าที่ทั้งสะท้อนและหักเหแสง ส่งผลให้กริดเกิดอาการวิงเวียนศีรษะรุนแรง


สมดุลร่างกายถูกทำลาย รู้สึกคลื่นไส้เป็นพักๆ


เป็นอุปสรรคทางกายภาพที่มิอาจเอาชนะได้ด้วยค่าต้านทานอาการผิดปรกติ


ด้วยเหตุนี้ ปาร์ตี้ของกริดจึงประสบความยากลำบากแสนสาหัส


ไม่มีใครสามารถแสดงฝีมือได้เต็มที่เนื่องจากสายตาและจิตใจเกิดความปั่นป่วน กระทั่งซาลิเอลก็เกือบอาละวาดหลายครั้ง


“อึก… ถอยก่อน!”


อุปนิสัยไม่ประมาทของดันทาเลี่ยน จอมอสูรลำดับยี่สิบห้า ยิ่งทำให้ปาร์ตี้กริดประสบความยากลำบาก


ดันทาเลี่ยนมิได้เปิดศึกเผชิญหน้ากับกริดและพวกพ้องตรงๆ แต่อาศัยการหักเหของแสงจากผลึก ลอบโจมตีในมุมอับสายตาครั้งแล้วครั้งเล่า ค่อยๆ บั่นทอนพลังชีวิตของปาร์ตี้กริดลงเรื่อยๆ


มันงัดกลยุทธ์อันแพรวพราวออกมาใช้อย่างต่อเนื่อง ราวกับต้องการพิสูจน์ว่า ข่าวลือที่ตนครอบครองภูมิปัญญาทั้งหมดบนโลกมิใช่การโอ้อวด


สำหรับกริด สถานการณ์กำลังเลวร้ายสุดขีด


“แค่ก!”


“ปิอาโร่! อุแหวะ!”


“ยองวู!”


ยิ่งการต่อสู้ยืดเยื้อ จุดอ่อนของพวกมันก็ยิ่งเล่นงานตัวเองหนักข้อ


ไม่ว่าจะแฮชลิ่ง ร่างจุติของหนึ่งในเจ็ดนักบุญภัยพิบัติ มหาจอมเวทในตำนานผู้เป็นแวมไพร์ทายาท และตำนานจากสาขาต่างๆ ทุกคนล้วนเท่าเทียมในสถานการณ์ปัจจุบัน


พลพรรคของกริดล้วนมีร่างกายสะบักสะบอม คนเดียวที่ยังไร้รอยขีดข่วนคือเนเฟลิน่า


ถึงจะถูกหอกแหลมพุ่งตรงเข้าที่หัวใจ แต่คมหอกก็มิผ่านทะลวงผ่านผิวหนังหนาๆ


“นี่มิใช่ผนึกดำทั่วไป… มันทำให้พลังเวทของข้ากระจัดกระจายจนมิอาจตอบโต้”


เนเฟลิน่าใช้มือสัมผัสกำแพงผลึกสีดำที่กำลังสะท้อนภาพตัวเอง ก่อนจะสรุปว่าไม่มีความหมายที่จะดันทุรังต่อไป


“พวกเราควรถอยตามที่กริดบอก”


ทันใดนั้น


“ “พวกเจ้าไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” ”


เด็กหนุ่ม ชายชรา หญิงสาว ชายวัยรุ่นที่มีดวงตากลมโตและเปล่งประกาย


สัตว์ประหลาดที่จะมีรูปลักษณ์เปลี่ยนไปตามแต่มุมมองปรากฏตัว


ผลึกสีดำรอบๆ กำลังสะท้อนให้เห็นร่างกายทุกส่วนของสิ่งมีชีวิตสุดพิสดาร


“ “ไม่เคยมีใครที่มาเยือนปราสาทของข้าและรอดกลับไปได้… ชีวิตของพวกเจ้าจบลงแล้ว ข้าจะนำแฮชลิ่งไปชำแหละเพื่อวิจัย” ”


เสียงของคนแก่ คนหนุ่มสาว และเด็กดังซ้อนทับ แต่ละเสียงมีเอกลักษณ์จนยากจะจับใจความ


“สังหาร!”


กริดลงมือรำดาบ


กำแพงชั้นในของปราสาทที่สร้างจากผลึกสีดำทำให้ทุกคนที่นี่เกิดอาการวิงเวียน ชายหนุ่มจึงคิดจะทำลายมันและพาทุกคนหนี


ทว่า เป็นอีกครั้งที่ทักษะไม่ถูกปลดปล่อย


[มานาของท่านกระจัดกระจาย]


[ปราณดาบของท่านกระจัดกระจาย]


[การปลดปล่อยทักษะถูกยกเลิก]


‘โธ่เว้ย!’


ท่าไม่ดีแล้ว…


สถานการณ์ตรงหน้าวิกฤติอย่างแท้จริง กริดไม่มีทางเลือกนอกจากงัดไพ่ตายออกมาใช้


ชายหนุ่มที่ตัดสินใจหนักแน่น หันไปมองยูร่า


ยูร่าพยักหน้าพร้อมกับปลดปล่อยทักษะ


“สยบขุมนรก”


แสงสีเขียวหยกสว่างออกจากร่างกายหญิงสาวพร้อมกับขจัดปัดเป่าปราณอสูร ลำพังความรู้ของดันทาเลี่ยนและผลึกสีดำนั้นมิอาจต้านทานเวทมนตร์ของนักล่าอสูรในนรก


เมื่อกริดและพวกพ้องสามารถใช้เวทมนตร์และทักษะได้อีกครั้ง ทุกคนลงมือโจมตีใส่กำแพงชั้นในเพื่อเปิดทางหนี


เกิดแรงระเบิดมหาศาลจนปราสาทสั่นสะเทือนรุนแรง ทว่า กลับไม่มีกำแพงผลึกดำฝั่งใดเลยที่พังลงมา


ความเสียหายไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่ารุนแรง และสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือ การโจมตีของแต่ละคนล้วนถูกสะท้อนกลับ


ใบหน้าดันทาเลี่ยนที่สะท้อนในผลึกดำเริ่มหัวเราะ


“ “พวกเจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ? ปราสาทแห่งนี้เป็นป้อมปราการที่แน่นหนาที่สุดในนรก สร้างจากภูมิความรู้และการสั่งสมพลังอย่างยาวนานตลอดหลายพันปี เป็นดินแดนที่ไม่มีวันถูกรุกรานด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าจะพลังแบบใด สถานะแบบใด หรือแม้กระทั่งโลกจินตภาพ… ชะตากรรมเดียวของพวกเจ้าคือการจบชีวิตลงที่นี่” ”


“ “…?!” ”


ใบหน้าดันทาเลี่ยนที่กำลังเล่าอย่างตื่นเต้นพลันแข็งข้าง


เหตุเพราะกำแพงผลึกดำที่สร้างจากศาสตร์เวทมนตร์กว่าพันปีเริ่มส่งเสียงประหลาด


ภาพของดาบส่องแสงพระจันทร์สีเย็นเยียบ กำลังถูกสะท้อนหลายทบท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหิมะ


แต่ดูเหมือนว่าผลึกดำจะมิอาจสะท้อนแสงจันทร์จากใบดาบ


ด้วยเหตุผลบางประการ กำแพงผลึกดำถูกฟันขาดด้วยรอยตัดคมกริบ ราวกับไม่สนใจกฎเกณฑ์ทั้งหมดของโลกใบนี้


“เปิดทางให้พวกเราหนี… ไม่อย่างนั้นฉันจะทำลายทิ้งทั้งหลัง”


แน่นอน นี่เป็นการบลัฟ


ดาบจันทราดับเป็นอาวุธที่สามารถใช้ฟันได้เพียงหนึ่งครั้งในทุกสิบนาที


แต่นอกจากกริด ก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้อีก


“ “เชิญ” ”


การบลัฟได้ผล


ผลึกดำพลันกลายสภาพเป็นวัตถุทึบแสง หยุดการสะท้อนและบิดเบือนแสงรอบข้างโดยสิ้นเชิง


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,917
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00