จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,421



หลังจากส่งผู้บุกรุกออกจากปราสาท


“ “เมื่อครู่คืออริยดาบงั้น? ไม่ใช่… เราเคยเห็นอริยดาบครอเกลบนโลกมนุษย์มาแล้ว… ถ้าอย่างนั้นเจ้านั่น…” ”


ดันทาเลี่ยนพึมพำหน้าเครียด


ปราสาทที่ถูกสร้างโดย ‘สมองทั้งแปด’ ซึ่งสั่งสมความรู้มายาวนานนับพันปี


‘ปราสาทที่ไร้เทียมทาน’ ซึ่งถูกกางทับด้วยม่านบาเรียระดับสูงนับร้อยชั้น ถูกมนุษย์คนหนึ่งหั่นอย่างง่ายดายราวกับเต้าหู้


แน่นอน ปราสาทยังคงอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ การฟันของกริดสร้างความเสียหายไม่ถึงหนึ่งในพันด้วยซ้ำ


ทว่า ภาพดังกล่าวสามารถทำให้ดันทาเลี่ยนจินตนาการถึงวินาทีที่ปราสาทพังครืน


“ “บุคคลที่ทำลายปราสาทได้มีเพียงมังกร เทพดั้งเดิม และอริยดาบ… แฮชลิ่งตัวนั้นแสดงให้เห็นแล้ว แม้แต่มังกรที่ยังไม่โตเต็มวัยก็มิอาจสร้างรอยขีดข่วนให้ปราสาท… ข้าคำนวณพลาดไป? ไร้สาระ… ไม่มีข้อพลาดอย่างแน่นอน ข้ามองเห็นทุกสิ่งทะลุปรุโปร่ง” ”


ดันทาเลี่ยนรู้จักกริด เพราะพวกมันเคยปะทะกันหลายครั้งทั้งทางตรงและทางอ้อม


และถึงจะไม่เคยปะทะกัน แต่กริดเป็นคนดังบนโลกมนุษย์ ชื่อเสียงย่อมเคยผ่านหูมัน


นอกจากนั้น หนังสือในมือดันทาเลี่ยนยังสามารถแสดงภาพอนาคต แต่แน่นอน นี่มิใช่ไอเท็มขี้โกง เพราะมันไม่สามารถกำหนดอนาคตในจุดที่ต้องการเห็นได้ดั่งใจ


“ “เจ้าพวกนั้นรวมตัวอยู่นอกปราสาท… ทั้งที่ข้ายอมปล่อยไป แต่กลับยังไม่ยอมถอนตัว? อันตราย… สถานการณ์แบบนี้อันตรายมาก ต้องขึ้นไปบนโลกมนุษย์และฆ่าคน 666 คนเพื่อเปิดหนังสือแห่งอนาคต… ไม่ได้… ถ้าข้าออกไป ปราสาทหลังนี้จะถูกยึดครอง” ”


ดันทาเลี่ยนเริ่มกระวนกระวาย


มันคือสิ่งมีชีวิตที่ครอบครองพลังของตำนานในอดีตเกือบทั้งหมด แต่กลับไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะกลุ่มที่กำลังรวมตัวอยู่ด้านนอกปราสาทได้


ดันทาเลี่ยนเชื่อว่า โอกาสเดียวในการเอาชนะก็คือ อาศัยปราสาทไร้เทียมทานเป็นกำบังและคอยลอบโจมตีด้วยความรู้ที่สั่งสมมากว่าพันปี


ทว่า ความคิดดังกล่าวต้องเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเมื่อกริดใช้พลังที่คล้ายกับอริยดาบ


“ “ละทิ้งปราสาท? ไม่ได้เด็ดขาด ปราสาทหลังนี้เกิดจากการวิทยาการความรู้นับพันปีและเหยื่อสังเวยที่เป็นมนุษย์อีก 6.66 ล้านคน… ลองขอความช่วยเหลือจากอาโมแรคดีไหม? ไม่สิ นั่นเท่ากับฆ่าตัวตายชัดๆ” ”


ในความเป็นจริง ดันทาเลี่ยนอยู่ขั้วอำนาจอาโมแรค แต่มันไม่ไว้ใจอาโมแรคผู้หลับหูหลับตาบูชายาธาน


นอกจากนั้น อาโมแรคจะไม่มีวันให้อภัยใครก็ตามที่ตำหนิยาธาน แต่ดันทาเลี่ยนควบคุมปากทั้งแปดของตนไม่ได้ สิ่งนี้เกิดจากพลังแห่งความขัดแย้ง และนั่นจะทำให้มันต้องตายอย่างน่าสมเพชพร้อมกับถูกส่งเป็นเครื่องสังเวยให้ยาธาน


“ “ข้าควรพึ่งพาบาเอลไหม? อย่าเด็ดขาด! การต้องข้อความช่วยเหลือจากเจ้านั่น สู้ยอมตายเสียดีกว่า” ”


ดันทาเลี่ยนถอนหายใจยาวพลางมองไปนอกหน้าต่าง


กริด ผู้กลายเป็นเทพซึ่งยังมีกายาเป็นมนุษย์


แฮชลิ่งทายาทมังกรคลั่ง ลูกชายเบริอาเช่และผู้ใช้เวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุด เจ้าแห่งเนตรมองทะลุ อัครเทวทูตตกสวรรค์ ร่างจุติของหนึ่งในเจ็ดมาร นักล่าอสูร และชาวนา…


สถานะของพวกมันล้วนยอดเยี่ยม จึงจะมีหนึ่งคนไม่เข้าพวก…


ลำพังแต่ละคนก็สามารถจารึกเทวตำนานไว้ในประวัติศาสตร์ได้ไม่ยาก…


ใบหน้าทั้งแปดของดันทาเลี่ยนเผยความกังวลเป็นเวลานาน ก่อนจะพึมพำ


“ “การรวมตัวของพวกมันมีจุดประสงค์ใด? ต้องเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่มากแน่ ชนิดที่แต่ละคนไม่สามารถแยกกันทำให้สำเร็จ… เพื่อการนั้น พวกมันอาจจำเป็นต้องยืมมืออสูร… ความร่วมมือระหว่างเทพและอสูรไม่ใช่เรื่องใหม่ ในอดีตเคยมีตัวอย่างมากแล้ว” ”


ดันทาเลี่ยนเผยรอยยิ้มบนใบหน้าทั้งแปดขณะนึกทบทวนเหตุการณ์ ‘บุกถล่มหมู่เกาะเบเฮ็น’ ที่เทพเฮ็กเซเทียร่วมมือกับเหล่าจอมอสูร


***


‘คิดไม่ถึงว่าทักษะจะหยุดใช้งานกลางคัน…’


กริดที่หลบหนีออกจากปราสาทสำเร็จ กำลังเกิดความหงุดหงิด


ใจจริง มันวางแผนจะทำลายปราสาททั้งหลัง จึงได้ปลดปล่อยวิชาดาบผสานห้าชนิด


มายาร่ายรำคลื่นทำลายล้างสังหาร – ชายหนุ่มไม่สงสัยเลยว่า เมื่อหนึ่งในท่าไม้ตายของตนถูกปลดปล่อยด้วยดาบจันทราดับ ปราสาทผลึกดำจะต้องถล่มลงมาเหลือแต่ซาก


แต่ผลลัพธ์กลับออกมาผิดจากความคาดหมาย


ในวินาทีที่ตวัดฟันดาบแรกของ ‘มายาร่ายรำทำลายล้างสังหาร’ ดาบจันทราดับได้หลุดออกจากมือทันที เพราะนั่นถูกนับเป็นการ ‘ฟัน’ ครบหนึ่งครั้ง ตามเงื่อนไข ‘ฟันได้หนึ่งครั้งในทุกสิบนาที’


‘บัดซบ… บัดซบ!’


ตอนนี้มันเข้าใจแล้วว่าทำไมดาบถึงได้ชื่อ ‘จันทราดับ’


เพราะประสิทธิภาพมิได้ยอดเยี่ยมจนควรค่าที่จะถูกเรียกว่า ‘ธรณีโลกันตร์’


‘เราน่าจะคิดได้ตั้งแต่แรกแล้ว เหล็กแสงจันทร์เต็มไปด้วยเงื่อนไขมากมาย’


เป็นแร่ที่เรื่องมาก ต้องใช้เวลาเสริมแกร่งไม่ต่ำกว่าครึ่งเดือน


และในความเป็นจริง ใบดาบของจันทราดับไม่มี ‘ละโมบ’ เป็นส่วนผสมแม้แต่นิดเดียว จุดที่ละโมบถูกนำมาใช้คือดาบจับ


การที่ค่าความคงทนของดาบออกมาเป็น ‘อนันต์’ พิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเหล็กแสงจันทร์เองก็ไม่ธรรมดา


แต่เมื่อเทียบกับละโมบที่สามารถเข้ากันได้กับแร่ทุกชนิด เหล็กแสงจันทร์ยังด้อยกว่ามาก


‘ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า ละโมบคือแร่ที่ศักยภาพสูงที่สุดในโลก… เราอาจจะได้ดาบธรณีโลกันตร์หลังจากบราฮัมหลอมแร่เสร็จ’


กรีบราเนี่ยม… เมื่อไรจะเสร็จ?


กริดรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าเหลือเกินในตอนที่ตนอยากได้อะไรสักอย่าง


“…”


ผู้ส่งสารกำลังเฝ้ามองกริดอย่างเงียบงัน


ระบุให้ชัดคือ ทุกคนกำลังจ้องดาบจันทราดับในมือกริด


“ดาบเล่มนี้อันตราย”


กริดพยักหน้า


“อา… อันตรายมาก… อันตรายสุดๆ ไปเลย”


ดาบที่เกือบทำให้ผู้ถือต้องตาย จะไม่อันตรายได้อย่างไร?


หากตนเหวี่ยงดาบจันทราดับพร้อมกับใช้วิชาดาบผสาน ท่ารำดาบจะชะงักทันทีพร้อมกับเปิดช่องว่างให้สวนกลับ


ถ้าเป็นศัตรูที่ชำนาญศึก ช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีอาจทำให้ถึงตายได้


‘เราพลาดเองที่ไม่ทดสอบการใช้งานให้ชัดเจนก่อน’


แน่นอน กริดทดสอบหลายครั้ง แต่เป็นเพียงการทดสอบตัดสิ่งของ ดูว่าสิ่งใดถูกตัดได้และไม่ได้


ผลลัพธ์ก็คือ ดาบจันทราดับสามารถตัดได้ทุกสิ่ง


เหล็กแสงจันทร์ที่ถูกเสริมแกร่งนานครึ่งเดือนไม่ทำให้กริดผิดหวัง มันมีอำนาจในการฟาดฟันที่เหลือล้น มาพร้อมกับค่าความคงทนเป็นอนันต์


กลไกการทำงานก็คือ ดาบจันทราดับจะลดทอนค่าความคงทนของเป้าหมายก่อน จากนั้นค่อยตัดให้ขาด


โดยไม่สนใจกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ แม้แต่กายามังกรก็ถูกทะลวงผ่านได้


เนเฟลิน่ากำลังคิดในสิ่งเดียวกัน


“หวังว่าสักวัน เจ้าจะให้ข้ายืมใช้ดาบเล่มนี้”


“เพื่อแก้แค้นมังกรมาร?”


“ถูกต้อง”


“ฉันต้องให้เธอยืมอยู่แล้ว”


กริดพยักหน้ารับ


การแก้แค้นของเนเฟลิน่าคงเกิดขึ้นในอีกหลายร้อยปีข้างหน้าเป็นอย่างเร็ว


กว่าเนเฟลิน่าจะกลายเป็นมังกรเต็มวัย กริดคงไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้ว คำสัญญาจึงหลุดออกจากปากง่ายดาย


ทว่า เนเฟลิน่ามิได้คิดเช่นนั้น


เธอมองว่ากริดเป็นเทพ และน่าจะมีอายุยืนยาวจนกระทั่งเธอโตเต็มวัย


“ถ้าข้าแก้แค้นล้มเหลวและนำพาปัญหามาสู่เจ้า… ข้าจะตอบแทนในเรื่องที่เจ้าให้ยืมดาบ”


“ถึงฉันจะกลัว แต่มีทางเลือกอื่นด้วยหรือ? ฉันเห็นเธอมาตั้งแต่ยังเป็นไข่ และตอนนี้กลายมาเป็นผู้ส่งสาร ฉันไม่มีทางหันหลังให้เธออยู่แล้ว”


“…ขอบใจมาก”


[ค่าความสัมพันธ์กับผู้ส่งสาร ‘เนเฟลิน่า’ เพิ่มขึ้น 20 หน่วย]


เนเฟลิน่าซาบซึ้งจากก้นบึ้ง


ถึงกริดจะมองว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นตลกกับตน แต่ชายหนุ่มก็เปลี่ยนเรื่องอย่างใจเย็น


“กลับมามีสมาธิกับสถานการณ์ตรงหน้าก่อน… พวกเราจะฆ่าดันทาเลี่ยนยังไง?”


ดันทาเลี่ยนเปิด ‘เกต’ ให้กับปาร์ตี้กริด แถมยังเป็นเกตสำหรับเคลื่อนย้ายไปยังนรกขุมที่ยี่สิบสี่


อย่างไรก็ตาม กริดและพรรคพวกตัดสินใจเลี่ยงทางออกและย้อนกลับมายังทางเข้า ทำให้ตอนนี้กำลังยืนอยู่หน้าปราสาทผลึกดำ


การเดินทางครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาตัวละคร เช่นนั้นแล้วจะหลบให้หน้าศัตรู?


น่าขันสิ้นดี


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดันทาเลี่ยนเป็นจอมอสูรแห่งความรู้


องค์ความรู้ของมันครอบคลุมในทุกสาขา แถมยังถูกบันทึกลงบนกระดาษ


กริดยังจำได้แม่นยำ หลังจากสังหารหนึ่งในข้ารับใช้ยาธาน ไอเท็มที่ได้รับคือ ‘ชิ้นส่วนความรู้ของดันทาเลี่ยน’


‘ชิ้นส่วนความรู้ดังกล่าวเกี่ยวกับทักษะต่อสู้… เลเวลทักษะการต่อสู้ทั้งหมดของผู้ใช้งานจะเพิ่มหนึ่งระดับ แถมยังเพิ่มความเร็วในการโจมตีและอัตราการหลบหลีก’


ไม่ว่าจะมองมุมใด ไอเท็มดรอปชิ้นนั้นก็ถือเป็นสมบัติล้ำค่า


เมื่อพิจารณาจากจุดดังกล่าว หากการฆ่าดันทาเลี่ยนตรงๆ ดรอป ‘ความรู้ที่สมบูรณ์’ แทน ‘ชิ้นส่วนความรู้’ มูลค่าของการล่าครั้งนี้จะมหาศาลมากเพียงใด?


‘มีโอกาสสูงที่จะเพิ่มเลเวลให้กับทักษะทุกชนิดโดยไม่กำหนดขอบเขต’


นอกจากนั้นยังมีโอกาสดรอปทักษะของอดีตตำนาน


ดันทาเลี่ยนคือจอมอสูรที่ศึกษาพลังของตำนานในอดีตอย่างจริงจัง และสามารถเลียนแบบได้บางส่วน


‘ไม่ว่ายังไงก็ต้องล่าให้ได้’


กริดรู้สึกว่าสิ่งนี้คือภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ


ขณะมองไปยังปราสาทผลึกดำด้วยความโลภที่ห่างกายไปนาน ชายหนุ่มตระหนักถึงปัญหา


ปราสาทหลังดังกล่าวแข็งแกร่งเกินไป


‘แต่ใช่ว่าจะไม่มีทางถูกทำลาย’


หากทำให้ปราสาททั้งหลังอยู่ในการมองเห็นได้ การปลดปล่อยวิชาดาบราชาไร้พ่ายด้วยดาบจันทราดับ ก็มีโอกาสฟันปราสาทให้ขาดเป็นสองท่อน


‘ถ้าทีเดียวไม่สำเร็จ ก็คงต้องลองทำไปเรื่อยๆ’


แต่ปัญหาคือ ตนสามารถฟันได้เพียงหนึ่งครั้งทุกสิบนาที และอีกไม่นานดันทาเลี่ยนก็จะพบความจริงข้อนี้


‘ถ้ามันนำข้อมูลไปแบ่งปันกับจอมอสูรตนอื่น เราคงใช้ชีวิตได้ลำบาก’


จอมอสูรอาจดุร้ายและบ้าพลัง แต่ไม่โง่เขลา


หากไม่นับตัวพิเศษซึ่งเป็นส่วนน้อย จอมอสูรส่วนมากเฉลียวฉลาดในระดับมนุษย์ แถมยังมีสามัญสำนึก


‘เราต้องซ่อนไพ่ตายเพื่อเพิ่มโอกาสชนะ… และในปัจจุบัน ไม่มีไพ่ตายใดยอดเยี่ยมไปกว่าดาบจันทราดับ’


ไม่ว่ากริดและพรรคพวกจะแข็งแกร่งสักเพียงใด แต่ยิ่งมุ่งหน้าลึกลงไปในนรก ลำดับของจอมอสูรก็ยิ่งเพิ่ม แถมผลข้างเคียงจากนรกก็ยิ่งทวีความรุนแรง


แน่นอน กริด ยูร่า และซาลิเอลไม่ได้รับผลกระทบนี้ แต่ลำพังสามคนนั้นไม่เพียงพอ


ชายหนุ่มมองว่าคณะเดินทางใกล้มาถึงทางตันในภารกิจกวาดล้างขุมนรก และในตอนสุดท้าย สิ่งที่สำคัญคือไพ่ตายอย่างดาบจันทราดับ


‘มีเครื่องมือมากมายที่ช่วยบรรเทาผลข้างเคียงของนรก ปัญหาคือประสิทธิภาพที่ยังด้อยเกินไป… ถ้าเรานำพวกมันมาสร้างเป็นไอเท็มใหม่ ประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นจากเดิมบ้างไหม? แต่เหนือสิ่งอื่นใด พวกตนต้องหลอกล่อดันทาเลี่ยนออกนอกปราสาทให้ได้เสียก่อน…’


แล้วด้วยวิธีใด?


ขณะกริดกำลังเค้นสมอง ซิกเฟรคเตอร์เปิดปาก


“เมอร์เซเดส เจ้าวิเคราะห์ผลึกดำด้วยเนตรมองทะลุได้ไหม”


“มีการบิดเบือนเกิดขึ้นมากเกินไป ถ้าผลึกดำอยู่ในภาวะสงบนิ่ง ฉันสามารถวิเคราะห์มันได้ภายในสองชั่วโมง แต่ในความเป็นจริง ผลึกดำมีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างด้วยศาสตร์เวทตลอดเวลา…”


“ยูร่า เจ้าใช้พลังขับไล่ปราณอสูรออกจากปราสาทสักพักได้ไหม? หากที่นั่นไม่มีปราณอสูร ศาสตร์เวทก็จะหยุดทำงาน”


พลังต่อต้านเวทมนตร์


สิ่งนี้คือทรัพยากรพิเศษของนักล่าอสูร จุดประสงค์เพื่อขจัดปัดเป่าปราณอสูร


มองผิวเผินอาจฟังดูคล้ายพลังศักดิ์สิทธิ์ แต่กลไกการทำงานแตกต่างกันมาก


“ฉันเพิ่งปลดล็อกพลังต่อต้านเวทมนตร์ได้ไม่นาน… ยังไม่ชำนาญถึงขั้นที่ใช้ในการต่อสู้จริง”


ดวงตายูร่าเริ่มสั่นระริก เธอหงุดหงิดตัวเองที่ไม่สามารถทำตัวเป็นนักล่าอสูร ทั้งที่คลาสของตนคือนักล่าอสูร


กริดตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนาก่อนที่ความคิดด้านลบจะฝังรากลึก


“บราฮัม มีเวทมนตร์อะไรที่สามารถระบุเป้าหมายและบังคับให้เคลื่อนย้ายมิติไหม?”


“มีสิ… อาศัยการปรับแต่งวงจรเวทมนตร์ของเทเลพอร์ต ฉันสามารถเคลื่อนเป้าหมายที่ไม่เต็มใจได้ แต่การสร้างวงเวทและเรียกใช้นั้นกินเวลาค่อนข้างนาน… เหนือสิ่งอื่นใด ฉันไม่สามารถสร้างวงเวทภายในปราสาทหลังนั้นได้”


เราแค่พูดเล่นๆ แต่เขากลับทำได้จริง?


เป็นอีกครั้งที่กริดรู้สึกทึ่งกับความสามารถของบราฮัม


แต่เพียงไม่นาน สีหน้าชายหนุ่มบิดเบี้ยวราวกับกำลังอมขี้


‘อีกแล้ว… ครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่ แต่ไม่เคยมีประโยชน์ในเวลาสำคัญ’


“ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น”


ขณะบราฮัมตั้งคำถามหลังจากสัมผัสถึงกลิ่นไม่ชอบมาพากล


“ “ข้าขอสนทนากับเทพโอเวอร์เกียร์” ”


“…!”


“…!”


ประตูปราสาทที่ปิดสนิทมานาน ถูกเปิดออกพร้อมกับดันทาเลี่ยนที่เดินออกมา


“ “เทพ… ตัวตนที่ดูหมิ่นและเหยียดหยันนรก ตัดสินใจลงมาทำอะไรในนรก? หรือกำลังคิดการใหญ่เฉกเช่นเฮ็กเซเทียในอดีต? ไม่สิ ถ้าพิจารณาจากแฮชลิ่งของมังกรคลั่งข้างๆ เจ้า คงกำลังเตรียมตัวสู้กับมังกรมาร? ไม่กระมัง… การที่มีหนึ่งในเจ็ดมารและอัครเทวทูตซาลิเอลอยู่ด้วย ก็ชัดเจนแล้วว่าเจ้าต้องการเปิดศึกกับแอสการ์ดมากกว่ามังกรมาร… อา แต่ข้างกายเจ้ายังมีลูกชายแท้ๆ ของเบริอาเช่ ประเมินจากความหยิ่งผยองของบราฮัม เจ้าคงสัญญากับมันว่าจะฟื้นคืนพลังให้ใช่ไหม? หรือลงมาในนรกเพื่อตามรอยเท้าเบริอาเช่กันล่ะ? นั่นก็ไม่ใช่อีก… การมีอยู่ของนักล่าอสูร… เจ้าต้องการทำลายนรกสินะ…” ”


ใบหน้าทั้งแปดเอาแต่ถกเถียงกันเองก่อนที่กริดและพรรคพวกจะได้ตอบสนองอะไร


จากนั้น ศีรษะเจ้าของผมดำสลวยและใบหน้างดงาม หันมาพูดกับกริด


“ “เทพโอเวอร์เกียร์เอ๋ย… ถึงข้าจะยังไม่ทราบเจตนาของเจ้า แต่ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งใด ข้าเชื่อว่าตัวเองให้การสนับสนุนได้… อย่ามัวยืนอยู่ที่นี่เลย เข้าไปคุยกันข้างในปราสาทดีกว่า บอกความต้องการของเจ้ามา” ”


ดวงตากริดส่องประกายทันที


“แกอยากร่วมมือกับฉัน?”


“ “ถูกต้อง… ไม่ว่าจะมีจุดประสงค์แบบใด แต่ข้าก็จะอยู่ฝ่ายเจ้า” ”


กริดเพียบพร้อมไปด้วยผู้ส่งสารที่แข็งแกร่ง เป็นกำลังรบที่เทพส่วนใหญ่เทียบไม่ติด


อนาคตของกริดสดใสมาก ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ดันทาเลี่ยนต้องการสวามิภักดิ์


มันมองว่า หากคนคอยติดตามกริด ในอนาคตจะได้สั่งสมความรู้อีกนับไม่ถ้วนผ่านประสบการณ์ระดับสูงที่กริดเผชิญ


สำหรับดันทาเลี่ยน ความรู้คือพลัง คือทุกสิ่งทุกอย่างของมัน


และการได้โคจรมาพบกริดไม่ใช่โอกาสที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ


“งั้นก็ช่วยตายที”


“ “…?” ”


ใบหน้าทั้งแปดของดันทาเลี่ยนที่กำลังเผยความตื่นเต้น พลันกระจัดกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อยราวกับกลีบดอกไม้


เลือดสดๆ สะท้อนแสงจันทร์สีหม่นจนกลายเป็นของเหลวสีเข้ม สาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,921
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

  1. ดันทาเลียนผู้น่าสงสาร

    ReplyDelete
  2. ใครที่อยากเข้าพวกของกริดคือ ต้องเข้าก่อนที่กริดจะโหดกว่า เพราะไม่งั้น มันจะไม่มีสตอรี่แล้วกริดจะไม่เหนค่า 5555+ หยอกๆนะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00