จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,427



“เจ้านั่น… ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าในข่าวลือ”


มาร์บาส


เป็นชื่อที่มักถูกเอ่ยถึงเมื่อมีการสนทนาในหัวข้อของนรก


กล่าวกันว่า มาร์บาสมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงลำดับของจอมอสูร ซึ่งกริดมองว่าไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย


ลำดับของจอมอสูรจะถูกกำหนดโดยฝีมือ พวกมันต่อสู้เพื่อแย่งชิงลำดับ จากนั้นก็ไต่ไปยังลำดับที่สูงขึ้น


ในมุมมองของกริด ลำดับไม่ใช่สิ่งที่ใครจะมากำหนดให้กัน


แต่ปัจจุบัน ความคิดดังกล่าวเริ่มสั่นคลอน


มาร์บาสไล่กริดและพรรคพวกออกจากนรกราวกับเป็นบ้านตัวเอง


พลังดังกล่าวเบ็ดเสร็จเด็ดขาดชนิดที่ไม่สนใจกระทั่งสถานะเทพของกริด


ไม่ใช่เกินจริงไปนักหากจะบอกว่า มาร์บาสคือหนึ่งในจุดสูงสุดของนรกทั้งมวล


“เจ้านั่นคือตัวแทนของยาธาน?”


เพราะหากไม่ใช่ มันคงไม่สมเหตุสมผลที่มาร์บาสจะทำราวกับนรกเป็นบ้านตัวเอง


ยูร่าเห็นพ้องกับข้อสันนิษฐานของกริด


“ตัวแทนยาธานอย่างเป็นทางการคืออาโมแรค แต่ว่า… หลังจากได้เห็นมาร์บาส ยาธานอาจมีตัวแทนหลายคน”


คนส่วนใหญ่เชื่อว่ามาร์บาสมีพลังหลักเป็นการผสมพันธุ์สัตว์อสูรและเผ่าอสูร แต่ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นการเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง


มาร์บาสมีรากฐานที่แข็งแกร่งกว่านั้นมาก


เนเฟลิน่ากัดอาหารหนึ่งคำก่อนจะเอ่ยปากชมมาร์บาส


“ไม่ว่าเจ้านั่นจะชำนาญพลังแบบใด แต่ฝีมือทางด้านเวทมนตร์เป็นของจริงแน่นอน ข้าไม่พบความผันผวนของกระแสเวทมนตร์จนกระทั่งมันโผล่ขึ้นตรงหน้าพวกเรา หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง มันร่ายเวทได้เร็วกว่าประสาทสัมผัสของข้า”


เธออาจเป็นแฮชลิ่งแรกเกิดที่มีความหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีของทายาทมังกรคลั่ง แต่เนเฟลิน่ามิได้ดูแคลนผู้อื่นส่งเดช


เธอเชื่อว่ายังมีตัวตนอีกมากมายที่แข็งแกร่งกว่าเธอ ขณะเดียวกันก็ขอบคุณกริดจากก้นบึ้งที่ช่วยปกป้องจากการตามล่าของสมาชิกสภาหอคอย


“แล้วทำไมมาร์บาสถึงช่วยเรา?”


“…”


ไม่มีใครตอบคำถามง่ายๆ นี้ได้


กริดเปลี่ยนคำถาม


“เซอร์เบอรัสและอัศวินดำมีเลเวลเท่าไร?”


มาร์บาสกล่าวว่า นรกขุมที่ยี่สิบยังเร็วเกินไปสำหรับพวกตน


กริดเองก็ตระหนักถึงความจริงข้อนี้ได้อย่างเลือนราง


ทุกครั้งที่เซอร์เบอรัสพ่นไฟ โลกแห่งเหนือมนุษย์ที่แท้จริงจะถูกเปิดใช้งาน และผู้ส่งสารก็ตอบสนองได้ยากลำบาก


ทว่า เซอร์เบอรัสเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงของจอมอสูรลำดับยี่สิบ


อัศวินเกราะดำดวงตาสีแดง มันน่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเซอร์เบอรัสเสียอีก


“เซอร์เบอรัสคือสัตว์ในตำนานที่เป็นสัญลักษณ์ของนรก อยู่ในระดับเดียวกับไฮดรา เป็นสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งจนแม้แต่เทพสวรรค์ก็ยังต้องยำเกรง ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะเอาชนะได้โดยง่าย ต่อให้ไม่มีผลข้างเคียงจากนรกคอยสะกดข่มก็ตาม”


นั่นคือคำตอบของซิกเฟรคเตอร์


กริดมิอาจปฏิเสธ


เซอร์เบอรัสในนรกขุมที่ยี่สิบ เก่งกาจกว่าเซอร์เบอรัสทุกตัวที่มันเคยพบมาทั้งชีวิต


“สำหรับอัศวินดำ… ข้าเองก็ไม่ทราบ พวกเราเจ็ดนักบุญแทบไม่เคยสัมผัสนรก จึงมีเพียงชิ้นส่วนความรู้เล็กๆ”


“ข้าทราบ”


ซาลิเอลยกมือขึ้นหลังจากได้ยินประเด็นดังกล่าว


ผมสีทองของเธอกำลังสองประกายเงางาม ผิวเนินอกถูกเผยให้เห็นอย่างเย้ายวนเนื่องจากกำลังสวมเสื้อผ้าบางๆ


ทุกครั้งที่ร่างกายขยับ ส่วนโค้งเว้าก็จะขยับตามอย่างมีเสน่ห์


แน่นอน กริดมิได้ใส่ใจนัก เพราะในสายตาชายหนุ่ม ซาลิเอลมีเพศเป็นกลาง


คงยากที่จะให้มองอีกฝ่ายเป็นเพศใดเพศหนึ่ง หลังจากได้เห็นซาลิเอลสลับเพศไปมาบ่อยครั้ง


“เนื่องจากสงครามระหว่างสวรรค์และนรกสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หนึ่งในเป้าหมายที่ข้ามักถูกสั่งให้จับตามองคืออัศวินดำเอลิกอส… ข้าได้ยินว่าเจ้านั่นเป็นหนึ่งในตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดของนรก ไม่คิดว่าจะเป็นเพียงผู้ปกครองนรกขุมยี่สิบ… สำหรับเรื่องนี้ ข้าเองก็ประหลาดใจไม่น้อย”


“หนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในนรก?”


กริดขมวดคิ้ว ทำหน้าคล้ายกับยังคลางแคลง


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เอลิกอสเป็นเพียงเจ้านรกขุมที่ยี่สิบ อาจเป็นอสูรพิเศษเหมือนกับดันทาเลี่ยน แต่นั่นก็มีขีดจำกัด


จะบอกว่ามีฝีมือทัดเทียมจอมอสูรหลักเดียวเชียวหรือ?


ซาลิเอลอธิบายเพิ่มเติม


“สีดำหมายถึงสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายและเลวทราม หากเอลิกอสแทนตัวเองด้วยสีดำ นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ามันคือตัวตนพิเศษในหมู่จอมอสูรด้วยกัน”


กริดพึมพำ


“อา… ถ้าเป็นแบบนั้น เป้าหมายในการยึดครองนรกขุมที่ยี่สิบคงต้องเลื่อนออกไปก่อน จนกว่าพวกเราทุกคนจะเอาชนะผลข้างเคียงจากนรกได้ทั้งหมด”


“มีวิธีแบบนั้นด้วยหรือ?”


บราฮัมเผยความสงสัยบนใบหน้า


ในฐานะแวมไพร์ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของเผ่าอสูร มันทราบดี สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่อสูรนั้นยากจะเป็นอิสระโดยสมบูรณ์จากแรงกดดันของสภาพแวดล้อมในนรก


จากมุมมองของบราฮัม ในหมู่ผู้ส่งสารของกริด บุคคลที่มีโอกาสขจัดผลข้างเคียงได้สมบูรณ์ มีเพียงตนและเนเฟลิน่าเท่านั้น


กริดหัวเราะท่ามกลางบรรยากาศที่กำลังตึงเครียด


“มีหนึ่งวิธี… แถมยังเป็นวิธีตามธรรมชาติ บนโลกนี้มีไอ้งั่งอยู่หนึ่งคน”


เฮลกาโอ


จอมอสูรลำดับเก้าที่ยังคงรุกรานโลกมนุษย์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเพราะต้องการฟื้นคืนร่างเนื้อที่ถูกมุลเลอร์ผนึก หรือเพราะต้องล้างอายที่ถูกมนุษย์รุมฆ่าหนแล้วหนเล่า


มันคือจอมอสูรลำดับเก้าที่ยังมีชื่อเสียงโด่งดังในนรก การถูกยอมรับจากเฮลกาโอช่วยให้กริดมีชื่อเสียงในนรกเพิ่มขึ้น รวมถึงการเป็นอิสระจากผลข้างเคียงด้านลบ


***


ภายใต้คำสั่งของกริด ทีมล่าเฮลกาโอที่จะเกิดมาพร้อมศิลาอัคคีเจ็ดก้อนมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย


ในความเป็นจริง กริดต้องเป็นผู้นำทีมนี้ด้วยตัวเอง แต่ชายหนุ่มกลับเลือกจะไม่เข้าร่วม


ตำแหน่งของกริดถูกแทนที่ด้วยบราฮัม เมอร์เซเดส เนเฟลิน่า ปิอาโร่ ซาลิเอล และซิกเฟรคเตอร์


นับเป็นคณะล่าบอสที่น่าทึ่งมากทีมหนึ่ง


“ทีมที่เจ๋งขนาดนี้… จำเป็นต้องมีพวกเราจริงหรือ?”


เมื่อศิลาอัคคีเพิ่มขึ้นหนึ่งก้อน วัฏจักรการเกิดของเฮลกาโอก็จะยิ่งนานขึ้น


สำหรับปัจจุบัน เฮลกาโอจะรุกรานโลกทุกๆ สี่สิบห้าวัน


เหล่าสิบวีรชนฯ ที่คอยสนับสนุนกริดในแทบจะทุกเรื่อง แต่ตอนนี้กำลังแสดงท่าทีไม่เห็นด้วย


ลำพังกริดและเมอร์เซเดส ความช่วยเหลือจากพวกมันก็แทบจะไม่จำเป็น จึงไม่ต้องพูดถึงทีมล่าชุดใหม่


หากเหล่าผู้ส่งสารตบเท้าเข้าร่วมอย่างพร้อมหน้า เฮลกาโอก็คงถูกกำราบอย่างง่ายดาย


เช่นนั้นแล้ว มีเหตุผลอะไรที่พวกตนจะต้องเข้าร่วมทีม?


ไม่ใช่แค่เรื่องสิ้นเปลืองกำลังพล แต่ปัญหาคือการ ‘หาร’ ของรางวัล


จริงอยู่ บรรดาไอเท็มดรอปสามารถส่งเข้าคลังสมบัติรวม แต่กับค่าประสบการณ์นั้นไม่ใช่


แน่นอนว่าคนที่มีผลงานมากก็จะได้รับส่วนแบ่งค่าประสบการณ์สูง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ค่าประสบการณ์จะถูกหารไปถึงสมาชิกทุกคนในปาร์ตี้


เหล่าสิบวีรชนฯ ไม่เชื่อว่า พวกมันมีประโยชน์พ่อจะเป็น ‘ตัวหาร’ ค่าประสบการณ์


กริดเข้าใจความคิดของพวกพ้อง


“ฉันรู้ว่าพวกนายเอาเวลาไปเก็บเลเวลยังจะได้ค่าประสบการณ์มากกว่าล่าเฮลกาโอ แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็หวังให้พวกนายเข้าร่วมทีมล่าเพื่อประโยชน์สูงสุดของกิลด์เรา… การล่าเฮลกาโอและจอมอสูรตนอื่นๆ จะช่วยให้พวกนายได้รับสมญานามที่สำคัญมากสำหรับอนาคต”


ทั้งที่สิบวีรชนฯ เสียสละเพราะไม่อยากเป็นตัวถ่วง ไม่อยาก ‘หาร’ รางวัลที่จะได้มาง่ายดายโดยแทบไม่ต้องออกแรง


แต่กริดกลับเลือกใช้คำพูดที่ฟังดูเหมือนกับว่า มันกำลังขอร้องให้เหล่าสิบวีรชนฯ ทำในสิ่งที่ยากลำบากเพื่อกิลด์


เพื่อนๆ ทุกคนจะได้เข้าร่วมทีมล่าอย่างสบายใจ เพราะสามารถอ้างได้ว่าทำไปเพื่อส่วนรวม มิใช่เพื่อตัวเอง


“กริด…”


คำพูดที่นุ่มนวลของกริดทำให้ทุกคนเริ่มใจอ่อน


แต่สำหรับจิสึกะ สิ่งนี้เป็นราวกับคมมีดกรีดเฉือน


เธออยากจะตัดขาดความรู้สึกที่มีต่อกริด แต่กลับต้องถูกทำให้หวั่นไหวหนแล้วหนเล่า


หญิงสาวเม้มปากก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมไปเป็นคนแรก


กริดมองตามหลังจิสึกะด้วยสีหน้าเจ็บปวด


ทางด้านยูร่าก็หดหู่ไม่ต่างกัน


เธออาจไม่ประสาด้านความรักเหมือนกับกริดและจิสึกะ แต่ก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดตาบอด


ยูร่าพอจะเห็นว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสอง


ในตอนแรก เธอมีความสุขที่กริดตัดสินใจเลือกเธออย่างเด็ดขาดและหนักแน่น ไม่ต้องเผชิญความคาราคาซังระหว่างสามคน


แต่ความสุขก็อยู่ไม่นาน ผ่านไปเพียงสองสามวัน ยูร่าเริ่มรู้สึกชื่นชมจิสึกะในฐานะผู้หญิงด้วยกัน


เธอรู้สึกผิดที่เห็นจิสึกะซึ่งทำตัวสดใสร่าเริงตลอดเวลา ต้องจมอยู่กับความเศร้าและหดหู่


เธอรู้สึกผิดที่ต้องเห็นกริดเจ็บปวดกับสิ่งที่เขาเลือก


และในความเป็นจริง กริดก็มิได้เด็ดขาดเหมือนภายนอก ภาษากายยังแสดงให้เห็นถึงความลังเล


แม้ในระยะหลัง ความถี่ของการเดทจะเพิ่มขึ้น แต่ความสัมพันธ์กลับแทบไม่คืบหน้าเลย


บางที คนที่กริดเลือกควรเป็นจิสึกะ ไม่ใช่ตน


จิสึกะตัดสินใจย้ายข้ามซีกโลกมายังเกาหลีใต้เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ๆ กริด


หากเปลี่ยนเป็นยูร่า เธอสามารถทำแบบนั้นได้ไหม?


ยูร่าสารภาพรักต่อหน้าคนทั้งโลกและทำให้กริดถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวน


คนขี้ขลาดอย่างเธอคงไม่มีทางกล้าหาญได้เหมือนจิสึกะ


‘คนที่ควรจะอยู่ข้างๆ เขา…’


ยูร่าย้อนนึกถึงช่วงเวลาที่กริดอมยิ้มขณะเห็นจิสึกะทำตัวบ้าๆ บอๆ


สำหรับกริดที่แสดงออกด้านความรักไม่เก่ง คนที่เหมาะจะอยู่เคียงข้างคือผู้หญิงเชิงรุกอย่างจิสึกะ ไม่ใช่เธอ


ยูร่ารู้เรื่องนี้มานานแล้ว


‘แต่ว่า…’


เธอยังไม่คิดจะไปไหน


ยูร่ายังอยากอยู่เคียงข้างกริด อย่างน้อยก็ในยามที่กริดต้องการพลังของนักล่าอสูรเพื่อกวาดล้างนรก


‘ได้โปรดเข้าใจความเห็นแก่ตัวครั้งสุดท้ายของฉันด้วย’


ยูร่ากล่าวคำขอโทษในใจขณะเฝ้ามองแผ่นหลังของจิสึกะที่เดินจากไป


***


วัสดุมูลค่าสูงมีมากกว่าสามสิบเอ็ดชิ้น ประกอบด้วยกระดูก แผ่นหนัง และเขาที่มีธาตุและรูปทรงแตกต่างกันไป


นอกจากนั้นยังมีอัญมณีระดับท็อปอีกสี่เม็ด และอัญมณีระดับสูงอีกสามสิบเก้าเม็ด รวมถึงศิลาโลหิตห้าก้อนและหินอ็อบซิเดียนยี่สิบสองก้อน


หนึ่งสัปดาห์ในชีวิตจริง


เพียงสัปดาห์เดียว กริดรวบรวมไอเท็มมูลค่าสูงได้นับไม่ถ้วน


ข้างต้นเป็นเพียงวัสดุสำหรับสร้างไอเท็ม ยังไม่รวมถึงไอเท็มสวมใส่เกรดเลเจนดารีอีกเก้าชิ้น นอกจากนั้นยังมีหินเสริมแกร่งอีกสี่สิบสามก้อน ทักษะของอดีตตำนานสี่ชนิด และหนังสือของดันทาเลี่ยนที่ช่วยเพิ่มเลเวลทุกทักษะอย่างละหนึ่ง


นรก


ดินแดนที่ไม่มีใครสามารถย่างกรายหรือบุกรุกได้อย่างอิสระนอกจากยูร่า


หนึ่งในเขตที่มีระดับความยากสูงสุดของโลกซาทิสฟาย สถานที่ซึ่งผู้เล่นทั่วไปยากเอื้อมถึงในเร็ววัน


ปัจจุบัน นรกกลายเป็นคลังขุมทรัพย์ของกริดไปโดยปริยาย


‘ได้ยินมาว่า จอมอสูรจะคืนชีพใหม่หลังจากผ่านไปหนึ่งถึงสามเดือน… น่าเสียดายชะมัด’


ปัญหาไม่ใช่ช่วงเวลาในการคืนชีพ แต่เป็นเรื่องที่จอมอสูรจะอ่อนแอลงหลังจากคืนชีพอีกครั้ง และนั่นหมายถึงไอเท็มที่ดรอปจะมีคุณภาพต่ำลงจากตอนแรกพอสมควร


ตัวอย่างเช่นดันทาเลี่ยน มันจะคืนชีพอีกครั้งในสภาพสองหัว และต้องสั่งสมความรู้อีกเป็นเวลานานกว่าจะมีหัวใหม่งอกเพิ่ม


กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากกริดฆ่าดันทาเลี่ยนที่คืนชีพ ผลประโยชน์ที่ได้รับก็จะไม่มากเท่าครั้งแรก


‘อย่างไรก็ตาม ถึงของดรอปจะแย่ลง แต่ก็ยังนับว่ามหาศาลอยู่ดี… มีวิธีย่นระยะเวลาการคืนชีพให้สั้นลงไหม?’


กริดอยากให้ดันทาเลี่ยนคืนชีพเร็วๆ และลงมือฆ่าอีกหลายครั้ง


ช่างเป็นความคิดที่ชั่วร้ายมาก กระทั่งในมุมมองของจอมอสูรเองก็ตาม


“นายอีกแล้วหรือ พักนี้มาเยี่ยมบ่อยจังนะ”


อลิซาเบธเผยสีหน้ายินดีทุกครั้งที่กริดมาเยี่ยมห้องทำงาน


เมื่อมองไปยังกองงานที่ยังคั่งค้างอยู่ ปัจจุบันเธอน่าจะร่ำรวยกว่าผู้เป็นลุงเรียบร้อยแล้ว


กริดยิ้มพลางยื่นถุงที่เต็มไปด้วยอัญมณีให้หญิงสาว


“นี่คือ?”


อลิซาเบธถามด้วยความสงสัย


“เปิดดูสิ”


“เห…!?”


อลิซาเบธอุทานด้วยสีหน้าตกตะลึง


อัญมณีด้านในมีคุณภาพสูงราวกับใช้สำหรับสร้างสมบัติแห่งชาติ


ทุกเม็ดล้วนงดงามและหายาก แถมบางก้อนยังมีคุณภาพไร้ที่ติ


กระทั่งช่างฝีมืออย่างอลิซาเบธก็ยังไม่เคยพบเจออะไรแบบนี้มาก่อน


“นี่มัน… เท่าที่ได้ยินมา ต่อให้เป็นโรงแปรธาตุเลเวลสูงสุด โอกาสผลิตสำเร็จก็ยังแค่ 0.5%...”


ในการจะผลิตอัญมณีเกรด ‘ไร้ที่ติ’ วัสดุที่ใช้คืออัญมณีเกรด ‘สูงสุด’


นอกจากนั้น หากผลิตล้มเหลว เกรดของอัญมณีก็จะลดลง จึงแทบไม่มีใครอยากเสี่ยงกับโอกาสสำเร็จที่มีเพียง 0.5%


และเหนือสิ่งอื่นใด การจะ ‘เริ่ม’ ผลิตได้ก็ต้องมีโรงแปรธาตุเลเวลสูงสุดเสียก่อน ต่ำกว่านั้นหมดสิทธิ์


กริดอธิบาย


“ดรอปมาจากจอมอสูร”


“สุดยอด…”


อลิซาเบธย่อมทราบข่าวการบุกกวาดล้างนรกของกริด


ทุกครั้งที่เปิดทีวีกินข้าว เธอจะได้ยินข่าวจอมอสูรถูกสังหารเสมอ และคำค้นหายอดนิยมบนอินเทอร์เน็ตก็เต็มไปด้วยชื่อของจอมอสูรที่ตกเป็นเหยื่อ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเคยได้ยินมาผ่านๆ


“อันดับแรงกิ้งของพี่ยูร่าเองก็เพิ่มขึ้นมาก… นรกคือแหล่งขุมทรัพย์อย่างแท้จริง”


“ถูกต้อง มันคือดินแดนแห่งความมั่งคั่ง”


หากใครได้ยินคำนี้เข้า เกรงว่าคงจะเกิดความเข้าใจผิดและคิดพาตัวเองลงไปเสี่ยงโชค


และสิ่งมีรออยู่คงจะมีเพียงความสิ้นหวัง…


อย่างไรก็ตาม กริดมิได้แยแส


“เป็นยังไงบ้าง? นำไปสร้างเครื่องประดับเจ๋งๆ ได้ไหม?”


“อา… นายสามารถคาดหวังได้จากอัญมณีเกรดไร้ที่ติ… ถึงจะไม่ใช่ระดับแหวนแห่งความไร้เหตุผล แต่ฉันมั่นใจว่าผลลัพธ์จะยอดเยี่ยมกว่าแหวนโดรัน”


มันมักถูกมองข้ามเนื่องจากกริดสวมติดตัวมาตั้งแต่เริ่ม แต่แหวนโดรันถือเป็นของวิเศษที่ดีมากหากเทียบกับเกรด


จะมีไอเท็มสักกี่ชิ้นบนโลกที่สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตเทียบเท่าความเสียหายครึ่งหนึ่งได้ทันที? แถมยังมีค่าต้านทานธาตุและคุณสมบัติบรรเทาผลของพิษและคำสาป


จุดอ่อนเดียวก็คือ พลังป้องกันของแหวนโดรันไม่สูงนัก เนื่องจากถูกจำกัดไว้ด้วยเกรดยูนีค


แต่ถึงอย่างนั้น กริดก็ชื่นชอบแหวนโดรันมาก


“ตกลง จัดการได้เลย”


“อยากได้รูปทรงหรือออปชันใดเป็นพิเศษไหม?”


“ฉันยกให้เธอตัดสินใจได้อย่างอิสระ… ได้โปรดสร้างสิ่งที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องคำนึงถึงระยะเวลา”


กริดมอบความไว้วางใจอย่างเต็มเปี่ยมขณะเดินออกจากห้องทำงาน


อาจฟังดูไม่สุภาพเมื่อพิจารณาว่าชายหนุ่มสะบัดก้นเดินออกมาทันทีหลังจากโพล่งคำขอกว้างๆ


แต่กริดเข้าใจนิสัยของอลิซาเบธได้ดีกว่าใคร


เธอก็เหมือนกับตน หากได้เห็นวัตถุดิบเลอค่าอยู่ตรงหน้า ใจคงลอยไปถึงขั้นตอนการสร้างแล้ว


“หัวหน้า!”


“หือ?”


กริดที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเขตโรงตีเหล็ก พลันชะงักฝีเท้า


เมื่อหันกลับไปมอง มันเห็นอลิซาเบธกำลังหายใจหอบ ประหนึ่งวิ่งไล่ตามมาอย่างสุดกำลัง


“ถ้ามีอะไรจะพูด แค่ส่งข้อความเสียงมาก็ได้นี่…”


“ฉันคิดว่าการพูดต่อหน้ามันคงจะดีกว่า”


“…”


เป็นทัศนคติที่ดี แสดงออกถึงความจริงใจ


กริดฉีกยิ้มกว้างเมื่อพบว่าอลิซาเบธกำลังเตรียมใจครั้งสำคัญ


“พูดมาได้เลย ไม่ต้องกังวล”


“ร…เรื่องนั้น…”


อลิซาเบธตะกุกตะกัก ยากจะกล่าวออกมาตรงๆ


กริดที่รอฟังอย่างเงียบงัน ด้วยความกังวลว่าเธอจะถูกรถม้าเฉี่ยว จึงช่วยเอาตัวมาบังให้


“ร…เรื่องนั้น…”


อลิซาเบธลังเลอยู่นาน ก่อนจะกลืนน้ำลายและโพล่งขึ้นอย่างกล้าหาญ


“ขอทุบอัญมณีทั้งหมดได้ไหม?”


“…หือ?”


เป็นคำขอที่ไม่คาดคิด


อลิซาเบธอธิบายกับกริดที่ยืนขมวดคิ้ว


“อันที่จริง ในช่วงก่อนหน้านี้ ฉันเคยเจอเหตุการณ์ประหลาด… ลูกค้าคนหนึ่งขอให้ฉันสร้างชิ้นส่วนสำคัญของกลไกเวทมนตร์… กลไกเวทมนตร์ที่เขาพยายามสร้าง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีประสิทธิภาพสูงที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาในชีวิต… ถ้านายอนุญาต… ฉันอยากจะสร้างมันขึ้นมาบ้าง…”


“มีพิมพ์เขียวหรือยัง?”


“ในขณะที่สร้างชิ้นส่วนดังกล่าว ฉันจินตนาการถึงกลไกของมันขึ้นมาอย่างคร่าวๆ … แน่นอน มีโอกาสที่ฉันจะทำให้อัญมณีทุกเม็ดของนายสูญเปล่า”


“รวมถึงเม็ดเกรดไร้ที่ติด้วย?”


“ใช่… ถึงจะใช้เกรดไร้ที่ติ ฉันก็ไม่รับประกันว่ามันจะสำเร็จ… อา ฉันรู้อยู่แล้วว่านายจะไม่อนุญาต… ขอโทษที่พูดจาเอาแต่ใจ”


“ลองทำดู”


“หือ?”


“ถ้าคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เธอทำตามใจชอบได้เลย… ถ้ามีเรื่องไหนให้ช่วยก็ติดต่อมาได้ ไม่ต้องกังวล”


หลังจากเข้าร่วมกิลด์เซดากาห์ นั่นคือเวลาที่กริดได้สยายปีกอย่างแท้จริง


เป็นเพราะพวกพ้องเชื่อใจและยินยอมให้นำวัตถุดิบราคาแพงมาสร้างไอเท็มได้อย่างอิสระ กริดจึงมีโอกาสได้ลิ้มรสทั้งความสำเร็จและล้มเหลวในระดับสูง


ประสบการณ์ในเวลานั้นได้หล่อหลอมให้กริดเป็นกริดในปัจจุบัน


ถึงเวลาแล้วที่จะสร้างกริดคนที่สองและสามขึ้นมาในกิลด์


“ขอบคุณมาก! หัวหน้า!”


อลิซาเบธดีใจจนกระโดดกอดกริดแนบแน่น


รากฐานของกิลด์โอเวอร์เกียร์กำลังเข้มแข็งขึ้นทีละนิด


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,927
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00