จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,422


    *ตอน 1421 ผมลงผิด กลายเป็นข้ามมา 1 ตอน ย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าก่อน


“ “…?!” ”


ศีรษะทั้งแปดของดันทาเลี่ยนถูกหั่นออกจากกัน


ดวงตาสิบหกคู่ตกลงในแต่ละจุด แต่ละดวงมองเห็นภาพที่แตกต่าง


เทพโอเวอร์เกียร์ แฮชลิ่ง มหาจอมเวท ร่างจุติของเจ็ดมาร อัครเทวทูต เจ้าแห่งเนตรมองทะลุ นักล่าอสูร


บรรดากลุ่มคนที่มีพลังในการปกครองโลกหรือยุคสมัย กำลังปรี่เข้าหามันอย่างหิวกระหายราวกับเห็นเหยื่อ


‘นี่มัน… ขัดแย้งกับสิ่งที่เราคิดไว้’


ดันทาเลี่ยนฉลาดมาก


มันพิจารณาจากเหล่าผู้ส่งสารและคาดการณ์ว่า จุดมุ่งหมายของเทพโอเวอร์เกียร์น่าจะประกอบไปด้วยการแก้แค้นให้เบริอาเช่ การกำราบมังกรมาร และการเปิดศึกกับแอสการ์ด


เฉกเช่นเทพต้นกำเนิด เทพโอเวอร์เกียร์แบกรับภาระมากมายไว้บนบ่า


เพื่อที่จะให้เหล่าผู้ส่งสารจงรักภักดีอย่างสุดหัวใจ อย่างน้อยๆ ก็ต้องเติมเต็มความปรารถนาให้แต่ละคน


‘เทพโอเวอร์เกียร์หลีกเลี่ยงการปะทะกับกองทัพนรกไม่ได้ และเพื่อการนั้น ความรู้ของข้าคือสิ่งที่จำเป็น’


เช่นนั้นแล้ว สถานการณ์ตรงหน้าคืออะไร?


เทพโอเวอร์เกียร์ทำในสิ่งที่ขาดสามัญสำนึกโดยสิ้นเชิง คล้ายกับเสียสติไปแล้ว


แปดศีรษะที่ร่วงหล่นลงพื้นเปิดปากพูดพร้อมกัน


“ “เทพโอเวอร์เกียร์ เหตุใดเจ้าถึงต้องสังหารข้า? บั่นศีรษะทั้งแปดของข้า? การร่วมมือกันจะสร้างประโยชน์ให้เจ้าได้มากกว่าไม่ใช่หรือ?” ”


กริดซักถามอย่างคลางแคลง


“ทำไมถึงคิดแบบนั้น?”


“ “จำเป็นต้องอธิบายด้วยหรือ? ความรู้และพลังของข้าจะเป็นประโยชน์กับเจ้ามาก” ”


“ไม่จริงมั้ง”


“ “เจ้าไม่ไว้ใจเพราะข้าเป็นจอมอสูร? ถ้าอย่างนั้นก็จงทำให้ข้าเป็นผู้ส่งสาร เจ้าจะได้เชื่อใจข้า” ”


“เจ้าไม่ได้สำคัญขนาดนั้น”


ถึงจะเหมือนการคุยกับศพ แต่กริดก็มิได้สั่นกลัว


ชายหนุ่มทราบอยู่ก่อนแล้วว่า จอมอสูรจะไม่เสียชีวิตเพียงเพราะถูกตัดหัว


ดาบมังกรเพลิงถูกประเคนฟันใส่ร่างดันทาเลี่ยนพร้อมกับเปลวไฟที่ลุกโชน


ศีรษะทั้งแปดถอนหายใจเหนื่อยหน่ายขณะเฝ้ามองร่างตัวเองลุกไหม้


“ “ช่างโง่เขลา… เพียงเพราะเป็นเทพ ไม่ได้แปลว่าเจ้าจะฉลาดที่สุด มีเทพพื้นเมืองจำนวนไม่น้อยที่เอาแต่เห่าหอนเหมือนหมู” ”


‘พูดมากชะมัด’


เมื่อถูกอีกฝ่ายด่าว่าโง่ กริดที่เริ่มหงุดหงิดตัดสินใจปลดปล่อยวิชาดาบผสานห้าชนิด


หัวใจและอวัยวะภายในของดันทาเลี่ยนถูกทำลายจนสิ้นซาก


คลื่นพลังที่ยิงจากปากเนเฟลิน่า รวมถึงเวทมนตร์จากบราฮัม ป่นกระดูกและเนื้อหนังของดันทาเลี่ยนจนแหลกละเอียด


อักขระของซิกเฟรคเตอร์ระงับการฟื้นฟูของร่างกาย ซาลิเอลและเมอร์เซเดสคอยตัดแขนขาทิ้ง


ยูร่าปืนขึ้นไปบนต้นถั่วของปิอาโร่และยิงถล่มลงมาจากด้านบน เล็งทำลายศีรษะทั้งแปดของดันทาเลี่ยนเพื่อยับยั้งมิให้เกิดการงอกใหม่


ดันทาเลี่ยนโดดเดี่ยวโดยสิ้นเชิง ปราศจากความช่วยเหลือจากอสูรหรือเผ่าอสูร พวกมันเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ภายในปราสาทอย่างขลาดเขลา


‘ในนรกไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความจงรักภักดีเลยหรือ?’


อสูรและเผ่าอสูรจะถูกบังคับให้จงรักภักดีด้วยพันธสัญญา และนั่นคือสิ่งที่น่ารำคาญ


จอมอสูรและอสูรที่เป็นบริวารพันธสัญญาจะมีชะตากรรมร่วมกัน หากจอมอสูรตายไป ดวงวิญญาณของเหล่าอสูรก็จะได้รับความเสียหาย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกมันไม่ควรทำเพียงยืนดูดันทาเลี่ยนตายไปต่อหน้าต่อตา


‘แปลกมาก’


กริดและพรรคพวกสัมผัสถึงความไม่ชอบมาพากล แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่จะหยุดสู้


การรุมโจมตีจากทุกทิศทางยังคงดำเนินต่อไป ส่วนดันทาเลี่ยนทำได้เพียงขัดขืนอย่างสิ้นหวัง


ดันทาเลี่ยนทดแทนดวงตาที่ถูกทำลายด้วยพลังเวท คอยอ่านการโจมตีของศัตรูและสร้างวงเวทยิงตอบโต้


แตกต่างจากกริดและบราฮัมที่มีถอดรหัสเวทมนตร์ รวมถึงเนเฟลิน่าที่สามารถต้านทานจากความแตกต่างของเผ่าพันธุ์ สมาชิกที่เหลือของปาร์ตี้เริ่มได้รับบาดเจ็บจากเวทมนตร์และสูญเสียพลังชีวิต ทว่า อัตราการบาดเจ็บของดันทาเลี่ยนสูงกว่าหลายเท่า


ดันทาเลี่ยนซึ่งตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบตั้งแต่เริ่มเนื่องจากศีรษะถูกตัดทีเผลอ ค่อยๆ สูญเสียพลังเวทไปพร้อมกับพลังชีวิตจนกระทั่งทรัพยากรทั้งสองหลอดเหือดแห้ง


บุคคลที่สร้างความเสียหายได้มากกว่าใครคือยูร่าซึ่งสามารถยิงปืนของเธอได้โดยไม่ต้องกังวลจะถูกสวนกลับ


ขณะร่างกายดันทาเลี่ยนเริ่มกลายเป็นขี้เถ้า


[กระแสเวลากำลังถอยหลังกลับเนื่องจากพลังของดันทาเลี่ยน]


“…?!”


กริดและยูร่าเผยสีหน้าตกตะลึงหลังจากได้อ่านข้อความระบบ


เหล่าผู้ส่งสารเริ่มเข้าใจสถานการณ์ในวินาทีถัดมา


ซากเถ้าถ่านของดันทาเลี่ยนค่อยๆ กลับมารวมตัวกลายเป็นร่างเนื้อ แขนขาที่ถูกตัดขาดฟื้นฟูกลับเป็นปรกติ บาดแผลตามร่างกายสมานตัวโดยสมบูรณ์


ศีรษะที่เคยถูกปืนของยูร่ายิงทำลายจนแหลกละเอียด ฟื้นฟูตัวเองและลอยกลับไปต่อกับลำคอของจอมอสูร


คล้ายกับกำลังดูวิดีโอที่เล่นย้อนกลับ


เพียงไม่นาน ดันทาเลี่ยนที่ฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ ก้าวถอยหลังจนกระทั่งกลับไปยังจุดที่กริดและพรรคพวกสังเกตเห็นเป็นครั้งแรก


นอกจากนั้น ตำแหน่งของทุกคนก็ยังถูกย้อนกลับไปในจุดก่อนหน้า


‘ย้อนเวลา?’


ลองทดสอบอาวุธดีไหม?


เมื่อกระแสเวลากลับเป็นปรกติ กริดเริ่มผุดคำถาม


“ “สำหรับข้า อนาคตคืออดีต” ”


บางคนอาจเรียกว่า ‘หนังสือดันทาเลี่ยน’


แต่ดันทาเลี่ยนเรียกมันว่า ‘หนังสือแห่งอนาคต’


หนังสือที่ดันทาเลี่ยนถือในมือสามารถเผยให้เห็นอนาคตโดยต้องสังเวยบางสิ่งแลกเปลี่ยน


แน่นอน พลังนี้มิได้ครอบจักรวาลหรือขี้โกงอะไรนัก เพราะผู้ใช้งานไม่สามารถระบุอนาคตที่อยากเห็น


อย่างไรก็ตาม หนังสือเล่มเดียวกันยังมีอีกหนึ่งการใช้งานที่อาจเข้าข่าย ‘ขี้โกง’ ในสายตากริด


นั่นคือการทำให้ ‘ปัจจุบัน’ กลายเป็น ‘สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต’ ส่งผลให้สามารถย้อนเวลากลับไปได้


แน่นอน พลังนี้มีข้อจำกัด


ผู้ใช้งานมิอาจเลือกช่วงเวลาที่จะย้อนกลับ


ดันทาเลี่ยนนับว่าโชคดีมากที่สามารถย้อนเวลากลับไปในจุดที่ร่างกายยังครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะหากจุดที่ย้อนกลับไปเป็นเหตุการณ์หลังจากศีรษะถูกตัดขาด เกรงว่าผลลัพธ์การต่อสู้คงจะไม่แปรเปลี่ยน


‘นอกจากนั้น สิ่งที่ต้องสังเวยก็ยังใหญ่หลวง’


ดันทาเลี่ยนรู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัส


จากบรรดาศีรษะทั้งแปด ศีรษะของชายหนุ่มและหญิงสาวค่อยๆ กลายเป็นสีดำก่อนจะสลายตัว ส่งผลให้ความรู้บางส่วนสูญหายไปตลอดกาล


ชิ! ดันทาเลี่ยนส่ายหน้าพลางหลังหันกลับเพื่อเตรียมหนีเข้าปราสาท


ทันใดนั้น ดาบแสงสีเงินพุ่งเข้าหาลำคอของมันอย่างแม่นยำ


“อนาคตคืออดีต… หมายถึงอะไร?”


กริดเข้าประชิดตัวพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์


ดันทาเลี่ยนเม้มปากแน่น


‘ชุนโปสินะ’


นี่คือหนึ่งในอำนาจของเทพที่เดินบนเส้นทางเหนือมนุษย์


‘เจ้านี่ไม่ใช่เทพธรรมดา… หากผ่านบททดสอบทั้งหมดเมื่อใด… มันจะกลายเป็นราชาแห่งเทพ’


ดันทาเลี่ยนเปิดใช้งานหนังสือแห่งอนาคตอีกครั้ง


เห็นดังนั้น กริดรีบดึงหินเสริมแกร่งอาวุธที่ถูกอวยพรออกมาถือ


ไม่ใช่ม้วนคาถาเสริมแกร่งดึกดำบรรพ์ แต่เป็นหินเสริมแกร่งธรรมดา


[ท่านทำการเสริมแกร่ง <+4 ดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรมฯ >]


[การเสริมแกร่งล้มเหลว ระดับการตีบวกลดลง]


กระแสเวลาไหลย้อนกลับอีกครั้ง


‘บัดซบ!’


ดันทาเลี่ยนที่เหลือแค่สี่หัวเผยสีหน้าบิดเบี้ยวสุดขีด


กระแสเวลาถูกย้อนกลับไปในจุดที่มันอยู่นอกปราสาท แถมยังเป็นช่วงก่อนที่จะถูกตัดหัวแค่ไม่กี่วินาที


เมื่อหันกลับไปมอง กริดกำลังยืนห่างออกไปไม่ถึงสิบเมตร


แต่ทำไมสีหน้าของกริดถึงกำลังบิดเบี้ยวยิ่งกว่ามัน?


ดันทาเลี่ยนแหกปาก


“ “หัดคิดถึงข้อดีของการมีข้าเป็นผู้ส่งสารบ้าง!” ”


“หุบปาก… ฉันกำลังหงุดหงิด”


กริดถอนหายใจพลางตรวจสอบอาวุธ


มันกลับไปเป็น +4 ตามเดิม แต่ชายหนุ่มกลับไม่รู้สึกดีนัก


‘โอกาสล้มเหลวต้องมากกว่าสำเร็จอยู่แล้ว… แสดงให้เห็นว่าพลังในการย้อนเวลาของดันทาเลี่ยนนั้นยอดเยี่ยมเพียงใด’


กระแสเวลามิได้ถูกย้อนเฉพาะตัวผู้ใช้งาน แต่จะส่งผลต่อทั้งโลก


กริดมั่นใจว่าผู้เล่นทุกคนที่กำลังออนไลน์ ล้วนเผชิญเหตุการณ์กระแสเวลาถอยกลับ


‘สาเหตุที่มันไม่ได้ใช้พลังนี้ในตอนที่รุกรานโลก เพราะผลข้างเคียงรุนแรงเกินไป’


สำหรับจอมอสูร กิจกรรมรุกรานโลกมนุษย์คงเป็นเพียง ‘เกม’ ประเภทหนึ่ง


แน่นอน ไม่มีใครอยากเผชิญความสูญเสียในขณะเล่นเกม


ด้วยเหตุผลข้างต้น จอมอสูรที่ขึ้นไปเล่นเกมและถูกทำลายดวงวิญญาณโดยฝีมือรูบี้ ล้วนเป็นไอ้พวกงั่งโดยแท้จริง


‘การย้อนเวลาแต่ละครั้งต้องสังเวยไปสองหัว… มันคงไม่มีชีวิตอยู่ถ้าหัวทั้งหมดถูกทำลาย… สรุปก็คือ มันเหลือโอกาสย้อนเวลาอีกแค่ครั้งเดียว….’


ชุนโป!


ในมือกริดกลายเป็นดาบจันทราดับอีกครั้ง เนื่องจากเวลาถูกย้อนกลับไปในจุดที่ชายหนุ่มเตรียมใช้ดาบจันทราดับสะบั้นของมันจนขาด


ใช่แล้ว การย้อนกลับของกระแสเวลาไม่ได้มีผลเฉพาะกับตัวดันทาเลี่ยนเท่านั้น หากต้องการให้ย้อนเวลาให้ได้เปรียบ จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยแวดล้อมมากมาย หนึ่งในนั้นคือโชค


“ “บัดซบ!” ”


ดันทาเลี่ยนสูญเสียความเยือกเย็นโดยสมบูรณ์


ใจจริง มันอยากใช้เทเลพอร์ตหนีกลับเข้าไปในปราสาท แต่เมื่อสัมผัสถึงสายตาของบราฮัม มันเลือกชักดาบออกมาแทน


ดันทาเลี่ยนทราบดี มหาจอมเวทชำนาญรายนี้การใช้วงเวทมากเพียงใด และนั้นถือเป็นก้างขวางคอชิ้นใหญ่ในการคำนวณ


“…!”


ดวงตากริดพลันเบิกโพลงขณะเตรียมฟันดาบจันทราดับใส่เป้าหมาย


ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงลางร้ายจากท่าถือดาบของดันทาเลี่ยน


ปัจจุบัน ดันทาเลี่ยนกำลังโน้มตัวไปด้านหลังเล็กน้อยพร้อมกับทำเสียงโลหะเสียดสี


ข้อมูลหนึ่งผุดขึ้นในใจกริดทันที ข้อมูลที่ว่า ดันทาเลี่ยนเคยใช้ทักษะของอริยดาบบนโลกมนุษย์


ทันใดนั้น ภาพการสอนสั่งของบีบันพลันแล่นเข้ามาในสมอง รวมถึงความทรงจำสมัยดวลกับครอเกล – ผู้เป็นทั้งมิตรและคู่แข่ง


ร่างกายกริดขยับไปตามสัญชาตญาณ


ชายหนุ่มฝืนบิดกล้ามเนื้อเพื่อดึงดาบจันทราดับกลับ ตามด้วยเปิดใช้งานทักษะ ‘จิตวิญญาณเสือขาว’


ขณะเดียวกัน ดาบของดันทาเลี่ยนโผล่ขึ้นตรงหน้าอย่างว่องไวปานสายฟ้าแลบ เล็งฟันเข้าที่ร่างกายท่อนบนของกริด


นี่คืออีกหนึ่งทักษะสุดโกงของอริยดาบ เป็นทักษะที่ชนะการดวลดาบทุกชนิดบนโลกอย่างไม่มีเงื่อนไข สามารถฟันผ่านดาบของศัตรูและสร้างความเสียหายมหาศาลแก่เป้าหมาย


แรงปะทะอันหนักหน่วงทำให้ชุดเกราะของกริดถึงกับเกิดประกายไฟ


[ท่านได้รับความเสียหาย 43,508 หน่วย]


[แหวนโดรันแสดงผล]


ดันทาเลี่ยนเก่งกาจสมกับเป็นจอมอสูร


แม้ชุดเกราะจะไม่ถูกทำลายเนื่องจากสร้างด้วยละโมบ แต่กริดที่เปิดใช้งานจิตวิญญาณเสือขาวซึ่งช่วยเพิ่มค่าพลังป้องกันมหาศาล ก็ยังได้รับความเสียหายหนักหน่วงเป็นของแถม


ได้เห็นดังนั้น ดันทาเลี่ยนไม่ปล่อยโอกาสทองหลุดลอย รีบใช้ ‘พลังจิตไร้เทียมทาน’ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอริยดาบจู่โจมใส่โดยไม่เปิดช่องว่าง


ใจจริง กริดต้องการต้อนให้ดันทาเลี่ยนจนมุมและสูญเสียความเยือกเย็น เพราะนั่นจะทำให้รับมือได้ง่ายขึ้น


อย่างไรก็ตาม จิตใจดันทาเลี่ยนแข็งแกร่งกว่าที่ชายหนุ่มคำนวณ


ดันทาเลี่ยนสามารถสยบความอาฆาตต่อกริดที่เอาแต่ไล่ต้อนตน แถมยังครองสติและรักษาความเป็นเหตุเป็นผลเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น การโจมตีและตั้งรับเป็นไปอย่างสุขุมเยือกเย็น ไม่เปิดช่องว่างให้ตอบโต้


ขณะเดียวกัน บราฮัมและซิกเฟรคเตอร์คอยยิงเวทมนตร์สนับสนุนกริด ส่วนยูร่าคอยยิงกระสุนเวทมนตร์ดักทางหนี


ทว่า ดันทาเลี่ยนงัด ‘อ่านใจ’ ของอริยดาบออกมาใช้


มันหลบกระสุนได้ด้วยการขยับตัวเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็ใช้ม่านดาบเพื่อสกัดคลื่นพลังของเนเฟลิน่า


อย่างไรก็ตาม การโจมตีทั้งหมดรุนแรงเกินกว่าที่ดันทาเลี่ยนจะสลายทิ้งโดยสมบูรณ์


ร่างกายของมันสั่นระริกอย่างมิอาจหักห้าม


‘เสร็จฉัน!’


เมื่อสบช่องว่าง กริดปลดสถานะจิตวิญญาณเสือขาวพร้อมกับลงมือตอบโต้


แต่ในวินาทีถัดมา เลือดอุ่นๆ กลับไหลซึมออกจากลำคอตัวเองอย่างน่าฉงน


เหตุเพราะดันทาเลี่ยนฉากหลบได้อย่างฉิวเฉียดพร้อมกับแทงดาบใส่ช่องว่างระหว่างหมวกเหล็กและชุดเกราะชายหนุ่ม


‘เจ้าบ้านี่เป็นอริยดาบรึไง’


กริดขมวดคิ้วหน้าเครียด


ชายหนุ่มตระหนักเป็นอย่างดี การโจมตีถัดไปของดันทาเลี่ยนสามารถทำให้ตนได้รับบาดเจ็บสาหัส


ทว่า ดันทาเลี่ยนควบคุมสติได้ยอดเยี่ยม มันเลือกจะถอยหลังเพื่อคุมเชิงและเพิ่มระยะการมองเห็น


และเป็นไปตามคาด โล่ของเมอร์เซเดสพุ่งมาจากด้านหลังกริดเพื่อคอยสนับสนุน


ดันทาเลี่ยนใช้ดาบในมือฟันโล่บินจนกระเด็นขึ้นไปกระแทกกับหัตถ์เทวะกลางอากาศ


“…”


“…”


ทุกคนจำต้องยอมรับว่า ในวินาทีนี้ ดันทาเลี่ยนไม่ต่างอะไรกับอริยดาบ


“ “เจ้าที่ไม่ยอมรับข้อเสนอของข้า… จงสำนึกเสียใจความโง่เขลาในวันนี้ไปชั่วชีวิต!” ”


มันคิดจะปิดฉาก?


ดันทาเลี่ยนเสียบดาบกลับเข้าไปในฝัก จากนั้นก็โน้มลำตัวท่อนบนลงเล็กน้อย


ทุกคนที่เห็นต่างเดาได้ทันที นี่คือวิชา ‘ชักดาบฟัน’


“ฝ่าบาท!”


ปิอาโร่ที่สัมผัสถึงวิกฤติรีบตะโกนพร้อมกับปรี่เข้ามาหา


บราฮัมและซิกเฟรคเตอร์ต่างพร้อมใจกางบาเรียคุ้มกายบนร่างกริด


เนเฟลิน่าเตรียมพ่นลมหายใจ ส่วนยูร่าทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเตรียมเปิด ‘สยบขุมนรก’ เนื่องจากซาลิเอลด้านข้างเริ่มแสดงสัญญาณของอาการคลุ้มคลั่ง


มีเพียงสองคนที่ตอบสนองต่างออกไป


คนแรกคือกริด ชายผู้ตกเป็นเป้าการโจมตี


ส่วนอีกหนึ่งคนคือเมอร์เซเดส อัศวินในตำนานที่คอยอารักขาข้างกาย


สิ่งที่ทั้งคู่มีเหมือนกันก็คือ พวกมันรู้จักเคล็ดวิชา ‘พลังจิตไร้เทียมทาน’ เป็นอย่างดี


แถมยังถูกถ่ายทอดมาจากอริยดาบบีบันผู้เป็นเจ้าของโดยตรง!


หลังจากดาบในมือดันทาเลี่ยนถูกชักออกจากฝัก ปราณดาบอันคมกริบพุ่งเข้าหาลำคอกริดด้วยความเร็วสูงสุด


ทว่า ปราณดาบชะงักกลางอากาศเล็กน้อยก่อนจะสลายตัวกลายเป็นเพียงละอองแสง


ขณะเดียวกัน ดันทาเลี่ยนหันหลังบินหนีด้วยความเร็วสูงสุดไปทางปราสาท


มันใช้ปราณดาบเมื่อครู่เพียงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ


ระหว่างที่ดันทาเลี่ยนกำลังหลบหนีและยิ้มเยาะอย่างพึงพอใจ ดวงตาของมันพลันเบิกกว้างกะทันหัน


เหตุเพราะกริดพุ่งตัวแซงหน้าไปด้วยความเร็วที่สูงกว่า ประหนึ่งเดาได้แต่แรกว่ามันจะใช้วิชาดาบเมื่อครู่ในการหลบหนี


‘ได้ยังไง?’


คอของดันทาเลี่ยนถูกสะบั้นอีกครั้ง


หลังจากโจมตีเสร็จ กริดทิ้งดาบจันทราดับพร้อมกับผสานดาบอัสนีฯ และดาบมังกรเพลิงเข้าด้วยกัน


“แกอ่อนแอเกินกว่าจะเป็นผู้ส่งสารของฉัน”


เป็นเพราะกำลังหวังให้แมรีโรสหรือไม่ก็เลอราเฆ่มาเป็นผู้ส่งสาร กริดจึงไม่เคยสนใจข้อเสนอดันทาเลี่ยน


มีความรู้มหาศาลแล้วยังไง?


บราฮัม สติกส์ เนเฟลิน่า และซิกเฟรคเตอร์เองก็มีความรู้มากมายตามแบบฉบับของแต่ละคน


ถึงแม้คนเหล่านี้จะมองไม่เห็นอนาคต แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะสำหรับกริด อนาคตคือสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้


ด้วยเหตุนี้ การฆ่าดันทาเลี่ยนและช่วงชิงพลัง จึงมีประโยชน์กว่าการยอมรับดันทาเลี่ยนเป็นบริวาร


พิจารณาจากเหล่าผู้ส่งสาร ณ ปัจจุบัน กริดไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งพาดันทาเลี่ยนไม่ว่าจะด้านใด


“ “อวดดีนักนะ!” ”


ดันทาเลี่ยนระเบิดโทสะพร้อมกับย้อนเวลาอีกครั้ง


ในคราวนี้ อสูรและเผ่าอสูรจำนวนมากเริ่มกรูกันออกมานอกปราสาท


ผลลัพธ์เข้าขั้นเลวร้ายสำหรับดันทาเลี่ยนที่ต้องการย้อนเวลากลับไปในตอนที่ตัวเองอยู่ในปราสาท


ปัจจุบันคือช่วงเวลาที่ดันทาเลี่ยนเพิ่งออกจากปราสาทไม่ได้นาน โดยมีเหล่าอสูรและเผ่าอสูรตามมาส่ง


จำนวนที่มากกว่าหลายเท่าของบรรดาอสูรและเผ่าอสูรนั้นต้องไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ส่งสาร


มอนสเตอร์เลเวลสี่ร้อยกว่าถูกทำลายในพริบตาด้วยเวทมนตร์วงกว้างของผู้ส่งสาร


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลังทำลายของซาลิเอลนั้นน่าตื่นตาตื่นใจ เธอที่เคยเกือบคลุ้มคลั่งเพราะกริดตกอยู่ในอันตราย กลับมามีสติมั่นคงอีกครั้งด้วยผลจากการย้อนเวลา


ดันทาเลี่ยนนั่งลงในสภาพเหลือเพียงสองหัว


ปากขยับพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา


“ “โชค… ถ้าข้ามีบ้างสักครั้ง…” ”


“เป็นคำสั่งเสียที่น่าสมเพชชะมัด”


กริดเย้ยหยันราวกับเหนือกว่าเสียเต็มประดา


ทั้งที่หากมันตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับดันทาเลี่ยน สารพัดคำสาปแช่งคงพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย


[ท่านได้รับไอเท็ม <แก่นแท้ความรู้ของดันทาเลี่ยน>]


[จอมอสูรลำดับ 25 ดันทาเลี่ยน ถูกกำจัดแล้ว]


[ท่านได้รับไอเท็ม <แก่นแท้ความรู้ของดันทาเลี่ยน> x4]


[ท่านได้รับไอเท็ม <หนังสือของดันทาเลี่ยนที่ชำรุด>]


[ท่านได้รับไอเท็ม <ดาบของดันทาเลี่ยน>]


[ท่านได้รับไอเท็ม <ไม้เท้าของดันทาเลี่ยน>]


[เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 3 ระดับ]


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,921
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

  1. ช่วงนี้น่าเบื่อไปมากจริงๆ อะไรๆก็เป็นใจให้กริดไปซะหมดถึงจะชอบความ OP แต่อันนี้ไร้เหตุผลมากไปไหม จอมอสูรอันดับ 25 ออกมาโดนกระทืบตายโง่ๆ ไม่มีพลังอะไรรองรับ จะบอกว่าย้อนเวลาได้แล้วไง มันเจียรให้ดูกระจอกไป

    ReplyDelete
    Replies
    1. มันเปนทรงข้ามช็อตด้วยแหล่ แต่ก็นั่นแหล่ พอพลังโจมตีมากๆ ศึกก็จะไม่ค่อยยืดยาว แล้วสนุก แต่แอบเสียใดความสามารถปราชญ์ของมันมาก เหมือนอีกฝ่ายไม่ได้ทำอะไรเลย

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00