จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,423



‘ต้องยิ่งใหญ่แค่ไหนถึงจะโรลล์แบ็ค*เซิร์ฟเวอร์ได้?’ (*Roll Back - ย้อนข้อมูลกลับไปในอดีต)


อันดับแรก กริดลงมือเพิ่มแต้มสถานะ


ชายหนุ่มละทิ้งนิสัยในการ ‘ดอง’ แต้มหลังจากได้ครอบครองดาบจันทราดับ


ค่าสถานะที่เคยดองไว้ 260 แต้มก็นำมาถูกแบ่งเพิ่มค่าพละกำลังและความว่องไวอย่างเท่าเทียม


‘เพิ่มค่าความว่องไว’


ในคราวนี้ ชายหนุ่มได้รับค่าสถานะ 54 แต้ม


6 จาก 54 ถูกนำไปเพิ่มค่าพละกำลังโดยอัตโนมัติจากผลของคลาสมหากาพย์จอมดาบเวท


24 จาก 54 ถูกนำไปเพิ่มค่าสติปัญญาโดยอัตโนมัติจากสมญานามดยุคแห่งปัญญา


และเนื่องจากต้องรักษาอัตราส่วนทองคำ กริดจึงให้ความสนใจกับค่าความว่องไวเป็นอันดับแรก ส่วนแต้มที่เหลือก็ถูกนำไปเพิ่มค่าความอดทน เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้กริดเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก


‘หืม… อยากรู้เหมือนกันว่าค่าสถานะอื่นมีสัดส่วนทองคำบ้างไหม?’


สัดส่วนทองคำที่โด่งดังที่สุดคืออัตราส่วน 1:1 ระหว่างค่าพละกำลังและความว่องไว โดยจะแสดงผลก็ต่อเมื่อค่าสถานะทั้งสองชนิดสูงกว่าสองพันแต้ม หรือไม่ก็ต้องมีค่าสติปัญญาและค่าความอดทนตั้งแต่แปดร้อยแต้มขึ้นไป


จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่กริดจะสงสัยว่า ยังมีสัดส่วนทองคำระหว่างค่าสถานะอื่นอีกหรือไม่


‘บางที ค่าสถานะสามถึงสี่ชนิดอาจรวมกันเป็นสัดส่วนทองคำได้’


แน่นอน เงื่อนไขการแสดงผลไม่จำเป็นต้อง 1:1 เสมอไป


ยกตัวอย่างเช่น ต้องมีสัดส่วนระหว่างค่าสถานะในอัตราที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็น 3:2:1 หรือ 2:1:1 ผลลัพธ์พิเศษจะแสดงออกมา


‘ถ้าเกมนี้มีระบบรีเซตแต้มสถานะก็คงดี’


กริดมีค่าสถานะพื้นฐานทั้งสี่ชนิดค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นพละกำลัง ความว่องไว สติปัญญา และความอดทน หากสามารถรีเซตเพื่อทำการทดสอบอัปได้อย่างอิสระ ก็คงมีโอกาสค้นหาสัดส่วนทองคำอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่


แต่สำหรับซาทิสฟายที่ไม่อนุญาตให้รีเซตค่าสถานะ คงมีแต่คนดวงดีเท่านั้นจึงจะหาพบ


‘อาจมีใครสักคนค้นพบสัดส่วนทองคำที่เราไม่รู้แล้วก็ได้… ทำไมทีมงานถึงไม่ขายไอเท็มรีเซตค่าสถานะแทนไอเท็มขยะ?’


กริดหงุดหงิดเมื่อนึกถึงไอเท็มที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินจริง แต่ต้องสังกัดเป็นสาวกของวิหารยาธานเท่านั้น


ในสายตาชายหนุ่ม SA กรุปคือพวกน่ารังเกียจที่อาศัยข้ออ้าง ‘ความสมดุล’ ในการเลือกปฏิบัติต่อศาสนาอย่างไม่เท่าเทียม


ทว่า เพียงไม่นาน กริดอารมณ์ดีขึ้นหลังจากเห็นรายชื่อไอเท็มดรอปจากดันทาเลี่ยนอีกครั้ง


‘อันดับแรก… ดาบและไม้เท้าของดันทาเลี่ยน’


ในตอนที่รุกรานโลกมนุษย์ ดันทาเลี่ยนเคยดรอปดาบและไม้เท้ามาแล้วครั้งหนึ่ง ประสิทธิภาพของพวกมันค่อนข้างดีจนกริดยกให้บราฮัมกับเมอร์เซเดสใช้งาน


‘ดาบกับไม้เท้าในตอนนั้น เรารู้สึกว่ายังบกพร่องอยู่เล็กน้อย’


หลังจากตรวจสอบรายละเอียดของดาบและไม้เท้าใหม่ ชายหนุ่มพบว่ามันเป็นไอเท็มที่ดี สามารถเข้ากันได้ดีกับดาบและไม้เท้าที่ดันทาเลี่ยนเคยดรอปบนโลกมนุษย์


‘…ไอเท็มระดับสูง’


เมื่อเทียบกับดาบเล่มใหม่ของกริด อรรถประโยชน์ของดาบและไม้เท้าดันทาเลี่ยนไม่ได้ด้อยไปกว่ากันมากนัก แถมค่าสถานะพื้นฐานก็ยังค่อนข้างสูง


จุดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นพลังในการเปลี่ยนรูปร่าง


ดาบสามารถเปลี่ยนร่างเป็นถุงมือเหล็ก และไม้เท้าสามารถเปลี่ยนเป็นรัดเกล้า


เมื่ออยู่ในสถานะเปลี่ยนร่าง คุณสมบัติการใช้งานก็จะเปลี่ยนแปลงไป


ถุงมือเหล็กจะเพิ่มพลังป้องกันตามสัดส่วนพลังโจมตี และสามารถยิงออกไปได้ ลักษณะคล้ายกับหมัดจรวด โดยหมัดจะวกกลับมาหาเจ้าของด้วยตัวเอง พร้อมกับสร้างความเสียหายตลอดทางที่พุ่งผ่าน ส่วนรัดเกล้าจะช่วยกางบาเรียมานาตลอดเวลาตามสัดส่วนค่าสติปัญญา นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มความเสียหายให้ทักษะ


‘นี่คือรัดเกล้าที่ดันทาเลี่ยนสวม? คงต้องให้ผู้ส่งสารสักคนสวมไปก่อน หลังจากกลับถึงไรน์ฮาร์ทค่อยลงมือชำแหละแยกส่วน’


การทำแบบนั้นจะช่วยเพิ่มค่าความเข้าใจให้กริด


จวบจนปัจจุบัน ความสามารถในการเปลี่ยนรูปทรงจะถูกผูกขาดอยู่กับโลหะ ‘ละโมบ’ เท่านั้น แต่ถ้ากริดศึกษาไอเท็มที่มีพลังเปลี่ยนรูปทรงอย่างทะลุปรุโปร่ง อาจมีสักวันที่ค้นพบหลักการและนำไปบรรจุเป็นความสามารถพื้นฐานของไอเท็มทั่วไป


ถ้าจับ ‘ขาดน้ำ’ มาแปลงโฉมคงน่าสนุกไม่น้อย…


ชักอยากเห็นสีหน้าของ ‘ขาดน้ำ’ ในตอนที่มันถูกจับเปลี่ยนรูปร่างแล้วสิ… พักหลัง เจ้านั่นเริ่มทำตัวนิสัยเสีย…


กริดยิ้มอย่างพึงพอใจพลางตรวจสอบไอเท็มดรอปถัดไป


[แก่นแท้ความรู้ของดันทาเลี่ยน]


เกรด : เลเจนดารี


แก่นความรู้ที่บรรจุทักษะหรือเวทมนตร์ของตำนานในอดีต


ท่านจะสุ่มได้รับทักษะหรือเวทมนตร์ของตำนานในอดีต


* ใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อหนึ่งคน


? จะไม่มีทางสุ่มได้ทักษะหรือเวทมนตร์ที่มีอยู่แล้ว


‘สุดยอดเกินไปแล้ว…’


ดวงตากริดสั่นระริกเล็กๆ เมื่ออ่านรายละเอียดจบ


ไอเท็มชิ้นนี้ยอดเยี่ยมเกินพรรณนา


หากใช้งาน แม้แต่ผู้เล่นธรรมดาก็มีสิทธิ์สุ่มได้ทักษะการผลิตของช่างตีเหล็กในตำนานของแพ็กม่า


กริดอาจคาดหวังให้ดันทาเลี่ยนดรอปสิ่งนี้ แต่มิได้คาดหวังว่าจะดรอปมากถึงสี่ชิ้น


‘เคยคิดว่าเป็นแค่ของห่วยๆ เพราะดันดรอปมาถึงสี่ชิ้น…’


ชายหนุ่มเคยเดาไว้ว่า ทักษะของอดีตตำนานคงรับได้จาก ‘หนังสือของดันทาเลี่ยนที่ชำรุด’ มากกว่า


ดังนั้น ผลลัพธ์ตรงหน้าคือสิ่งที่อยู่นอกเหนือจินตนาการอย่างแท้จริง


มุมปากกริดค่อยๆ ยกขึ้นอย่างมิอาจหักห้าม


สิ่งที่น่ายินดีที่สุดคงหนีไม่พ้นคำอธิบายที่ว่า ‘จะไม่มีทางสุ่มได้ทักษะหรือเวทมนตร์ที่มีอยู่แล้ว’


ด้วยความสัตย์จริง กริดเคยกังวลว่าตัวเองจะเปิดได้ทักษะของแพ็กม่า


หลังจากเผชิญความโชคร้ายมานับไม่ถ้วน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่สมองจะคิดถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดอยู่เสมอ


‘ในที่สุดพวก SA กรุปก็มีจิตสำนึกสักที’


กริดลงมือตรวจสอบไอเท็มชิ้นสุดท้าย


<หนังสือของดันทาเลี่ยนที่ชำรุด>

เกรด: เลเจนดารี (ยกระดับ)

หนังสือที่บรรยายเกี่ยวกับความรู้ซึ่งดันทาเลี่ยนสั่งสมมาตลอดหลายพันปี

เมื่อความรู้มากมายถูกประกอบเข้าด้วยกัน ในบางครั้งก็สามารถช่วยให้มองเห็นอนาคต

ณ ปัจจุบัน เนื้อหาของหนังสือสูญหายไปกว่า 80%

เลเวลของทักษะทั้งหมดในตัวละครจะเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ยกเว้นทักษะที่มีเลเวลสูงสุดอยู่แล้ว

* สามารถใช้ได้หนึ่งครั้งต่อตัวละคร

? สามารถใช้งานทักษะ ‘กระแสเวลาถอยกลับ’


“แฮ่ก…”


กริดหยุดหายไปชั่วขณะ


เลเวลของทุกทักษะเพิ่มขึ้น – รางวัลในฝันที่มันรอคอย โผล่ออกมาตามความคาดหมาย


กล้าพูดได้เต็มปากว่า นี่คือหนึ่งในสิบรางวัลที่ดีที่สุด เท่าที่กริดดรอปมาจากซาทิสฟาย


กระทั่งคำอธิบายยังเขียนกำกับไว้ว่า ‘ใช้ได้หนึ่งครั้งต่อหนึ่งตัวละคร’ ราวกับยังมีหนังสือประเภทนี้อีกหลายเล่ม และสามารถแบ่งปันให้ผู้อื่นใช้งานในอนาคต


‘อย่าบอกนะว่า… ดันทาเลี่ยนจะดรอปไอเท็มเดิมหลังจากคืนชีพกลับมาใหม่?’


น่าเหลือเชื่อมาก


แถมยังมีสิทธิ์ใช้งาน ‘กระแสเวลาถอยกลับ’


‘กระแสเวลาถอยกลับ… โรลล์แบ็ค… พลังระดับเดียวกับทีมงานเกม’


ทักษะ ‘กระแสเวลาถอยกลับ’ นั้นมีผลเหมือนกับการโรลล์แบ็คเซิร์ฟเวอร์ทุกประการ


และในเกมออนไลน์ส่วนใหญ่ ‘ทีมงาน’ หรือ ‘จีเอ็ม’ มักไม่มีอำนาจมากพอที่จะสั่ง ‘โรลล์แบ็ค’ เซิร์ฟเวอร์ แต่ต้องเป็นการตัดสินใจระดับทีมพัฒนาหรือคณะผู้บริหาร


หากกริดตีบวกล้มเหลว ก็แค่โรลล์แบ็คกลับไปและลองเสี่ยงดวงอีกครั้ง


ถ้าทำซ้ำไปเรื่อยๆ ในไม่ช้าระดับการตีบวกไอเท็มทุกชิ้นของกริดก็จะกลายเป็นค่าสูงสุด


ขณะกำลังตื่นเต้น กริดรีบตรวจสอบรายละเอียดทักษะ ‘กระแสเวลาถอยกลับ’


<กระแสเวลาถอยกลับ>

ใช้ได้เพียงครั้งเดียว

กระแสเวลาจะไหลย้อนกลับแบบสุ่ม สั้นที่สุดคือห้าวินาที นานที่สุดคือสามนาที ไม่สามารถกำหนดเวลาตายตัวได้

นอกจากนั้น ความรู้ของดันทาเลี่ยนที่ได้รับก่อนการย้อนเวลาจะหายไปทั้งหมด รวมถึงผล ‘เพิ่มเลเวลทักษะทั้งหมด’ ที่ได้รับจาก <หนังสือของดันทาเลี่ยนที่ชำรุด> ด้วย


“…”


นั่นปะไร


กลายเป็นทักษะขยะในพริบตา


ไม่เพียงแต่จะใช้ได้แค่หนึ่งครั้ง แต่การใช้งานยังจะทำให้สูญเสียสิทธิประโยชน์มากมายทันที


‘คนที่ออกแบบทักษะ… สมองยังปรกติอยู่รึเปล่า?’


กริดเชื่อว่านี่คงเป็นงานอดิเรกห่วยๆ ของใครสักคน


ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมสละเวลาอันมีค่าไปกับทักษะที่ไม่มีใครกดใช้


เฮ่อ…


กริดส่ายหน้าพลางมองกลับไปยังพวกพ้อง


ส่วนใหญ่ทำหน้าพึงพอใจ โดยเฉพาะยูร่าที่ออกท่าทางชัดเจนเป็นพิเศษ


เธอจะได้รับรางวัลใหญ่ทุกครั้งที่ชำระล้างขุมนรก หมายความว่ามีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น?


‘อย่างน้อยๆ เราก็สัมผัสได้ว่า ทรัพยากรต่อต้านเวทมนตร์ของเธอเข้มข้นกว่าเมื่อครู่’


วิสัยทัศน์อันเฉียบแหลมช่วยให้กริดค้นพบความเปลี่ยนแปลงในตัวหญิงสาว


พลังเวทของยูร่าที่มักถูกระบบบรรยายว่ามีสีเขียวหยก ปัจจุบันเข้มขึ้นเล็กน้อย


‘พลังต่อต้านเวทมนตร์เกิดมาเพื่อทำลายปราณอสูร’


ฟังดูคล้ายพลังศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะจุดประสงค์ในการใช้งาน แต่มีความแตกต่างในเชิงธาตุและผลลัพธ์ของพลัง


ความลับของพลังชนิดนี้ ในอนาคตคงมีข้อมูลเพิ่มเติมให้ศึกษา


กริดฉีกยิ้มขณะยืนยันลำดับการมีส่วนร่วมของแต่ละคน


ผลงานของสมาชิกในปาร์ตี้เรียงตามนี้:


อันดับหนึ่ง กริด อันดับสอง บราฮัม อันดับสาม เมอร์เซเดส อันดับสี่ เนเฟลิน่า อันดับห้า ซาลิเอล อันดับหก ยูร่า อันดับเจ็ดซิกเฟรคเตอร์ อันดับแปด ปิอาโร่


เหตุผลที่กริดได้อันดับหนึ่งนั้นไม่ซับซ้อน เพราะตัวกริดเองคือสาเหตุที่ดันทาเลี่ยนต้องออกจากปราสาท


ในกรณีของลำดับสองอย่างบราฮัม ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกัน หากไม่มีบราฮัมคอยสยบวงแหวนเวท ดันทาเลี่ยนจะแข็งแกร่งกว่านี้อีกราวสองเท่า แถมยังสามารถหลบหนีกลับเข้าปราสาทได้ง่ายดาย


‘ที่แปลกคือ… ทำไมเมอร์เซเดสถึงมีอันดับสูงกว่าเนเฟลิน่า’


บุคคลที่สร้างความเสียหายสูงสุดในการล่าเมื่อครู่ ย่อมต้องเป็นเนเฟลิน่าอย่างไร้ข้อกังขา


จริงอยู่ที่เธอเป็นเพียงแฮชลิ่งซึ่งยังพ่นลมหายใจได้ไม่เต็มที่ มีระยะหน่วงในการใช้งาน แต่ลำพังการพ่นคลื่นกระแทกก็มากพอจะสร้างความเสียหายมหาศาล เลือดเนื้อของดันทาเลี่ยนถูกสิ่งนี้บดขยี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า


แต่ในทางกลับกัน เมอร์เซเดสนั้นแทบไม่ได้สร้างความเสียหายกับดันทาเลี่ยน มีหลายครั้งที่ดาบของเธอเหยียดไปไม่ถึงเป้าหมาย บทบาทหลักของเมอร์เซเดสเรียกได้ว่าเป็นเพียงตัวสนับสนุนกริด คอยก่อกวนและปาโล่เพื่อเปิดทางให้คลื่นกระแทกของเนเฟลิน่า


‘อ๊ะ!’


หลังจากนึกทบทวนการต่อสู้ในหัว กริดเริ่มพบความผิดปรกติบางอย่าง


ทุกครั้งที่ดาบจันทราดับของตนสะบั้นคอดันทาเลี่ยน หรือเมื่อครั้งที่ตนปลดปล่อยวิชาดาบผสานห้าชนิด การเคลื่อนไหวของดันทาเลี่ยนดูเหมือนจะชะงักเล็กๆ ก่อนถูกโจมตีเสมอ


‘เมอร์เซเดสใช้ข่ายเวทแรงโน้มถ่วงช่วยเรา’


เมอร์เซเดสคือสมบัติล้ำค่าที่ตนต้องปกป้อง


เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้กริดเชื่อใจและชื่นชอบในตัวเมอร์เซเดสมากขึ้น


จากนั้น ชายหนุ่มมองไปทางปิอาโร่ที่กำลังทำสีหน้ามืดมน


แม้แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ทราบว่า เหตุใดอันดับของตนจึงรั้งท้าย พ่ายแพ้แม้กระทั่งซิกเฟรคเตอร์ที่ไม่ได้โจมตีแม้แต่ครั้งเดียว แต่คอยเพ่งสมาธิเพื่อผนึกพลังในการฟื้นฟูร่างกายของดันทาเลี่ยน รวมถึงเพ่งสมาธิเพื่อกางบาเรียคุ้มกายให้พวกพ้อง


‘ค่าสถานะของปิอาโร่ต่ำกว่าผู้ส่งสารคนอื่น…’


ปิอาโร่เป็นมนุษย์โดยกำเนิด และไม่มีพรสวรรค์ด้านพลังพิเศษเหมือนกับเมอร์เซเดส


นอกจากนั้นยังต้องไม่ลืมว่า คลาสของปิอาโร่คือชาวนา ถึงจะเป็นชาวนาในตำนาน แต่ก็ไม่ใช่คลาสสายต่อสู้โดยตรง เป็นเรื่องเข้าใจได้หากจะมีผลงานน้อยกว่าผู้ส่งสารคนอื่น


‘ไม่เพียงเท่านั้น… ศึกเมื่อครู่ยังเป็นสภาพแวดล้อมที่ปิอาโร่เสียเปรียบ’


นรกขุมที่ยี่สิบหานั้นมีลาวาไหลเวียนใต้พื้นดิน เมล็ดพันธุ์ส่วนใหญ่จึงถูกแผดเผาก่อนจะได้เติบโต แม้จะมีทักษะการเร่งโตก็ไม่ช่วยอะไรมากนัก


ขณะเดียวกัน ปิอาโร่ก็ยังเล็งเห็นว่าดันทาเลี่ยนเชี่ยวชาญการโจมตีระยะไกล และบุคคลที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือยูร่า มันจึงเน้นปลูกพืชสนับสนุนนักล่าอสูรเป็นหลัก แตกต่างจากเมอร์เซเดสที่ถวายตัวและชีวิตเพื่อความปลอดภัยของกริด ปิอาโร่คอยมองภาพรวมและสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


‘แต่เมื่อพิจารณาตามตรง ปิอาโร่ยังแข็งแกร่งไม่พอจริงๆ … เขาจำเป็นต้องถูกยกระดับ’


เดิมที กริดตั้งใจจะแบ่งรางวัลตามคะแนนผลงาน


แต่วินาทีนี้ ชายหนุ่มเปลี่ยนใจและหันไปสนับสนุนปิอาโร่มากเป็นพิเศษ


และเหตุผลที่ช่วยสนับสนุนความคิดนี้ก็คือ ผู้ส่งสารแต่ละคนล้วนมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน


อันดับแรก บราฮัม เนเฟลิน่า และซาลิเอล ทั้งสามคนไม่สนใจทักษะของอดีตตำนานแน่นอน


‘ถึงจะได้รับไป พวกเขาก็จะไม่เรียน’


เป็นเรื่องที่เข้าใจได้


บราฮัมคือจอมเวท คงไม่เกิดประโยชน์หากชายคนนี้ได้เรียนทักษะนอกเหนือจากเวทมนตร์


จะมีประโยชน์อะไรถ้าได้เรียนวิชาดาบของอริยดาบ?


ด้วยค่าพละกำลังและความว่องไวที่ต่ำติดดิน การเหวี่ยงดาบแทบไม่สร้างรอยขีดข่วน


และต้องไม่ลืมว่า บราฮัมไม่มีทักษะความชำนาญดาบ สวมใส่อาวุธประเภทดาบไม่ได้


ในส่วนของเนเฟลิน่า เผ่าพันธุ์ของเธอคือมังกร พลังของมนุษย์จึงเป็นสิ่งต่ำต้อยในสายตา


ยิ่งเธอเติบโต ก็ยิ่งได้เรียนเวทมังกรและทักษะมังกรตามธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้เหนือกว่าพลังของตำนานในอดีตชนิดเทียบกันไม่ได้


‘กับซาลิเอลก็คล้ายๆ กัน เธอมีพลังของอัครเทวทูตโดยกำเนิด ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังมนุษย์’


กริดครุ่นคิดสักพัก


“สำหรับแก่นแท้ความรู้ของดันทาเลี่ยน ฉันกับยูร่าจะแบ่งกันคนละหนึ่ง… ส่วนอีกสองชิ้น พวกนายต้องตกลงกันเองระหว่างซิกเฟรคเตอร์ เมอร์เซเดส และปิอาโร่”


ยูร่ารีบโบกไม้โบกมืออย่างลนลาน


“ของฉันไม่ต้อง… ยกให้ผู้ส่งสารคนอื่นจะมีประโยชน์กว่า และต้องไม่ลืมว่า ฉันมีอันดับสูงเพราะได้รับการสนับสนุนจากปิอาโร่”


ยังไม่ทันที่กริดจะตอบ ซิกเฟรคเตอร์ชิงพูดตัดหน้า


“เจ้าไม่จำเป็นต้องเสียสละ แก่นแท้ความรู้เหล่านี้ไม่จำเป็นกับข้า”


“เห? คุณไม่เอา?”


“ร่างนี้เป็นเพียงภาชนะของดวงวิญญาณ… เป็นเพียงซิกเฟรคเตอร์ ร่างจุติของหนึ่งในเจ็ดนักบุญ ซิก… ท้ายที่สุด ร่างนี้เป็นแค่สิ่งของที่ใช้แล้วทิ้ง คงหรูหราเกินไปกับการให้เรียนทักษะของอดีตตำนาน”


“อะ…”


กริดกระจ่างในเหตุผล ส่วนยูร่าไม่มีข้อคัดค้าน


ลงเอยด้วย กริด ยูร่า เมอร์เซเดส และปิอาโร่แบ่ง <แก่นแท้ความรู้ของดันทาเลี่ยน> คนละหนึ่ง


แน่นอน คนที่ได้รับ <หนังสือของดันทาเลี่ยนที่ชำรุด> คือกริด


ถึงปากจะบอกว่าแบ่งรางวัลกันอย่างเป็นธรรมตามคะแนนผลงาน แต่ต่อให้กริดมีอันดับรั้งท้าย ทุกคนก็คงยืนกรานที่จะเสียสละหนังสือเล่มนี้ให้อยู่ดี


“อันดับแรก พวกเราเข้าไปในปราสาทกันก่อน”


หากต้องการยึดครองโดยสมบูรณ์ ต้องมีการประกาศชัยชนะ และปราสาทผลึกดำคือหนึ่งในรางวัลของกริด


“…”


ภายใต้คำแนะนำของเมอร์เซเดส กริดเดินมาถึงหน้าปราสาทพร้อมกับขมวดคิ้ว


ประตูปราสาทปิดสนิทโดยที่สะพานไม่ทอดลงมา


เนเฟลิน่ายักไหล่


“ดูเหมือนว่าพวกเราจะยังไม่ถูกยอมรับให้เป็นเจ้านายใหม่”


ปิอาโร่เริ่มเดือดดาล


“กระหม่อมจะปลูกต้นถั่วเพื่อพาทุกคนข้ามกำแพงไปเอง”


“…”


ต้องทำถึงขนาดนั้นเลย?


ตนเป็นถึงราชา ก็ควรเข้าไปอย่างสง่างาม และการกางปีกมังกรบินคือตัวเลือกที่ดีที่สุด


ขณะกริดเริ่มกระอักกระอ่วน


กึก


ยูร่าก้าวนำไปข้างหน้าพร้อมกับแผ่แสงสีหยกเข้มออกไปรอบๆ ปราสาท จนกระทั่งปกคลุมนรกขุมที่ยี่สิบห้าโดยสมบูรณ์


นี่คือพิธีกรรมสำหรับชำระล้างของนักล่าอสูร ใช้ได้กับขุมนรกที่สูญเสียผู้ปกครองเท่านั้น


สะพานทอดลงมาด้านหน้า ประตูปราสาทถูกเปิดออก


ผลึกสีดำที่ก่อตัวเป็นกำแพงประตูพลันกระจ่างสดใส


ปราณอสูรที่ปกคลุมพวกมันล้วนถูกชำระล้างจนบริสุทธิ์ เหลือไว้เพียงเวทมนตร์แก่นแท้ที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง


กริดฉีกยิ้มกว้าง


“ที่นี่เหมาะจะเป็นสำนักงานสาขานรกแห่งใหม่”


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,922
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

  1. ขอสอบถาม munhwa ปัจจุบัน นิยายถึงตอนที่เท่าไรแล้วครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ตอบแทนนะครับ ตอนท้ายนิยายเขียนว่าปัจจุบันแปลถึงตอนที่ 1,922

      Delete
    2. แต่ตอนนี้เราสายฟรีรออ่านตลอด ตอนนี้ถึงตอนที่ 1,423 ครับ

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00