จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,424



[<+8 ดาบนักประพันธ์> กำลังส่องประกายระยิบระยับ]


[ท่านเสริมแกร่งไอเท็มสำเร็จและได้รับ <+9 ดาบนักประพันธ์>]


“…สำเร็จ!!”


เคจโพล่งเสียงดังหลังจากลืมตาและยืนยันผลลัพธ์


การเดิมพันที่ใช้ทรัพย์สินทั้งหมดของตนเข้าแลก ประสบความสำเร็จด้วยดี


เมื่อผ่านช่วงเวลาบีบคั้นหัวใจผ่านพ้น น้ำตาเริ่มไหลรินอาบสองแก้ม


‘ถ้ามันล้มเหลว เราคงได้เลิกเล่นจริงๆ …’


เคจเป็นคนอับโชค


ไม่ว่าจะพยายามอย่างหนักสักเพียงใด ผลลัพธ์จะออกมาเลวร้ายที่สุดเสมอ


เมื่อไม่นานมานี้ก็เช่นกัน เคจเข้าร่วมการล่าบอสในฐานะตัวดาเมจหลัก โดยหลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อยอันยาวนาน บอสใหญ่ได้ล้มลงและดรอปไอเท็มที่มันปรารถนามานาน


ทว่า ผลการทอยลูกเต๋ากลับออกมาเป็น ‘1’


หรือก็คือ มันหมดสิทธิ์แม้แต่จะประมูลแย่งกับคนอื่น


เคจโกรธจนไม่มีแรงจะตัดพ้อว่า นี่ตนโชคร้ายอีกแล้วหรือ?


ตามปรกติ ความซวยสองสามครั้งจะเรียกว่าโชคร้าย แต่กับคนที่ซวยทุกครั้งอย่างตน จะต้องเรียกว่าอย่างไร?


เคจถูกความโกรธครอบงำจนสติหลุด


มันใช้เงินทั้งหมดที่เก็บออมจากการอดทนดื่มโพชันราคาถูก นำไปกว้านซื้อหินเสริมแกร่งจากท้องตลาด


ไอเท็มเกรดแรร์ในคลังเริ่มทยอยถูกนำมาเสริมแกร่งทีละชิ้น


แต่ผลลัพธ์นั้นเลวร้ายเหนือจินตนาการ ไม่ต่างอะไรกับการโยนหินเสริมแกร่งลงน้ำอย่างเปล่าประโยชน์


ปัจจัยทั้งหมดผลักดันให้เคจขาดสติโดยสมบูรณ์


พอรู้สึกตัวอีกที อุปกรณ์สวมใส่ในตัวได้สูญเสียระดับเสริมแกร่งไปเกือบหมด กลายเป็นค่าพื้นฐานของไอเท็ม สิ่งเดียวที่ยังเหลือรอดคืออาวุธเกรดยูนีคที่ซื้อมาด้วยเงินกู้


มันกรีดร้องหลังจากเสริมแกร่งติดระดับ +8


ราคาของไอเท็มพุ่งขึ้นจาก +7 ถึงสี่เท่าในพริบตา


ตนควรพอแค่นี้ไหม?


หลังจากนึกทบทวนสักพัก เคจพบว่าตนมาไกลเกินกว่าจะหยุด ความเสียหายที่เกิดขึ้นยังไม่ถูกชดเชย


จากนั้น มันต้องกรีดร้องอีกครั้ง


ผลลัพธ์คือ +9


ราคาของไอเท็ม +9 นั้นสูงกว่าบวกแปดถึงแปดเท่า


ตัวมันที่เล่นซาทิสฟายมาห้าปี นี่คือครั้งแรกที่สามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ


“ฮะฮะ! ฮะฮ่าฮ่า!”


ในที่สุด ตนก็ได้เดินบนเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสักที!


ขณะเคจกำลังปาดน้ำตาแห่งความยินดี ข้อความระบบแจ้งเตือนขึ้นกลางหน้าจอ


[กระแสเวลากำลังไหลย้อนกลับ]


“…?”


เสียงหัวเราะของเคจหยุดลงทันที


+9 ดาบนักประพันธ์เริ่มสูญเสียความแวววาวและแสงระยิบระยับ


เพียงไม่นาน ค่าเสริมแกร่งของดาบก็ย้อนกลับไปที่ +7 อีกครั้ง


“ห…หมายความว่ายังไง? นี่มันเรื่องบ้าอะไร!! ว๊ากกก!!”


เสียงตะโกนสาปแช่งดังขึ้นจากทุกมุมเมือง คล้ายกับยังมีอีกหลายคนที่เผชิญชะตากรรมเดียวกับเคจ


***


“…พวกเราต้องการคำอธิบายและค่าชดเชย”


บุรุษหน้าซีดคนหนึ่งยืนอ่านแถลงการณ์ต่อหน้านักข่าวหลายร้อยคน


ตัวมันที่กำลังประกาศว่าจะฟ้องร้อง SA กรุป แข้งขากำลังสั่นระริกอย่างตื่นกลัว ศีรษะวิงเวียนและปวดแปลบ ผนวกกับอาการคล้ายกำลังคลื่นเหียน


อย่างไรก็ตาม ในฐานะตัวแทนกลุ่ม ‘เหยื่อของเหตุการณ์ย้อนเวลา’ มันห้ามหวั่นไหวในเวลาแบบนี้ จำเป็นต้องข่มสติให้แน่วแน่และมองตรงไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญ


เพื่อตอบสนองต่อความกล้าหาญของกลุ่มผู้เสียหาย ทาง SA กรุปได้ออกมาประกาศจุดยืนทันที:


เหตุการณ์กระแสเวลาไหลย้อนกลับเกิดจากปัจจัยภายในเกมตามปรกติ ทางเราจะไม่มีการชดเชยใดๆ ทั้งสิ้น


“ไอ้พวกนายทุนหน้าด้าน!”


เหยื่อของเหตุการณ์ย้อนเวลาต่างพากันประณามการเพิกเฉยของ SA กรุป


ผู้คนทั่วโลกต่างพากันเห็นใจ แต่ก็ไม่มากไปกว่านั้น ไม่มีใครคิดจะยื่นมือช่วยเหลือเหยื่อของเหตุการณ์


ดังที่ SA กรุปว่าไว้ การย้อนกลับของกระแสเวลาเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติภายในเกม เกิดจากการที่กริดและพรรคพวกพยายามล่าจอมอสูรดันทาเลี่ยน


ในทางข้อกฎหมาย SA กรุปไม่มีความจำเป็นต้องเยียวยาใคร


นอกจากนั้น ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ได้ประโยชน์


มีเพียงเหยื่อกลุ่มนี้เท่านั้นที่น่าสงสารกว่าใคร


***


‘รู้สึกผิดเหมือนกันแฮะ’


กริดที่ล็อกเอาต์ชั่วคราว หายใจติดขัดทันทีที่ได้เห็นข่าวคราวของผู้เสียหายจากเหตุการณ์กระแสเวลาย้อนกลับ มีทั้งคนที่เสียหายใหญ่หลวง ไปจนถึงคนที่ได้รับผลกระทบเล็กๆ น้อยๆ


‘ถึงจะรู้อยู่แล้ว แต่เหตุการณ์นี้ก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่า พวก SA กรุปไม่มีเลือดและน้ำตา’


ชายหนุ่มเข้าใจถึงเหตุผลที่ทาง SA กรุปตัดสินใจไม่ชดเชยให้กับเหยื่อ เพราะเหตุการณ์กระแสเวลาย้อนกลับของดันทาเลี่ยนเกิดจากเรื่องราวภายในเกมโดยไม่มีใครแทรกแซง


แต่จะออกแถลงการณ์ปลอบใจสักนิดไม่ได้เลยหรือ?


ถึงจะฟังดูปลอม แต่อย่างน้อยก็ช่วยบรรเทาความโศกเศร้าของผู้เสียหาย


กริดครุ่นคิดสักพักพลางส่ายหน้า


‘แต่เราเองก็เข้าใจจุดยืนของ SA กรุปเหมือนกัน’


หาก SA กรุปเผยความอ่อนแอให้เห็นเพียงเล็กน้อย จะมีหลายฝ่ายใช้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าวทันที


ยกตัวอย่างเช่น เมื่อ SA กรุปออกมาขอโทษและแสดงความห่วงใย หลายคนจะตีความว่านั่นเป็นความผิดพลาดที่ SA กรุปก่อขึ้น ส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องยืดเยื้อ


ไม่เพียงเท่านั้น ประกายไฟจากเหตุการณ์อาจลามมาถึงกริด


เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ท่าทีแข็งกร้าวและใจดำของ SA กรุปนับว่าค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อกริด


‘คิดไปก็ปวดหัว… โชคดีที่ไม่มีคนของกิลด์เราได้รับผลกระทบ’


กริดเดินเข้าไปในท้องพระโรงใหญ่


“บราฮัมยังไม่มาอีกหรือ?”


ที่นี่คือปราสาทที่สร้างจากผลึกใส งดงามราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย


ดูเหมือนว่า ปราสาทแห่งนรกขุมที่ยี่สิบห้าซึ่งมีชื่อว่า ‘ปราสาทไร้เทียมทาน’ จะเปลี่ยนเจ้าของจากดันทาเลี่ยนมาเป็นยูร่า


แต่คนที่นั่งบนบัลลังก์ใหญ่คือกริด ยูร่ายอมสละตำแหน่งสูงสุดให้ชายหนุ่ม


“ฉันมาแล้ว”


“นายควรมาให้เร็วกว่านี้”


กริดตำหนิบราฮัมที่มาสาย


มันค่อนข้างหัวเสียเมื่อการใช้งาน ‘แก่นแท้ความรู้’ ต้องถูกเลื่อนออกไปด้วยความล่าช้าจากคนคนเดียว


“ปราสาทหลังนี้ถูกฝังศาสตร์เวทมนตร์ไว้ทั้งสิ้น 193 ชนิด โดยทุกๆ สามชนิดจะจับตัวกันและสร้างศาสตร์เวทชนิดใหม่ตลอดเวลา การที่มีสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้อยู่ตรงหน้า จะไม่ให้ฉันตื่นเต้นได้อย่างไร?”


นี่คือสาเหตุที่บราฮัมหายตัวไปสองวันเต็ม


มันหลงใหลในความยอดเยี่ยมของปราสาทไร้เทียมทานเป็นอย่างมาก


แม้จะมีชีวิตอยู่มานานกว่าร้อยปี แต่บราฮัมก็ยังรู้สึกทึ่งกับความรู้กว่าพันปีที่ดันทาเลี่ยนรวบรวมไว้


“การจะสนใจในเรื่องใด อันดับแรกก็ต้องเข้าใจมันก่อน”


กริดตอบห้วนพลางหันไปทางเมอร์เซเดส ยูร่า และปิอาโร่


“พวกนายเตรียมใจไว้หรือ?”


“อื้อ”


แก่นแท้ความรู้ของดันทาเลี่ยนจะมอบทักษะของอดีตตำนานแบบสุ่ม และแน่นอน รวมถึงทักษะที่ไม่ใช่สายต่อสู้


จริงอยู่ ทักษะที่ไม่ใช่สายต่อสู้จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้ตัวละครได้มากมาย แต่ถ้าเลือกได้ เมอร์เซเดส ยูร่า และปิอาโร่ต่างปรารถนาทักษะสายต่อสู้มากกว่า


พวกมันไม่เหมือนกับกริดที่มีทักษะสายต่อสู้ให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิชาดาบไร้พ่ายหรือเวทมนตร์ยกระดับของบราฮัม


ทักษะการต่อสู้ของแต่ละคนมีจำนวนจำกัด


ว่ากันตามตรง พวกมันค่อนข้างประหม่า จึงนับเป็นเรื่องน่ายินดีเมื่อบราฮัมขอร้องอย่างเห็นแก่ตัวว่า อย่าเพิ่งเปิดใช้งานแก่นแท้ความรู้ของดันทาเลี่ยนจนกว่าตนจะสำรวจปราสาทเสร็จ


“เริ่มได้เลย”


บราฮัมส่งเสียงกระตุ้นทุกคน


มันกำลังแสดงความอยากรู้อยากเห็นอย่างออกนอกหน้า


กริดส่ายหัว


‘เพราะแบบนี้ไง นายถึงไม่มีเพื่อน’


บราฮัมใช้เวลาสองวันเต็มในการสำรวจปราสาทไร้เทียมทาน


เหตุผลที่มันขอร้องให้กริดและผู้ส่งสารอย่าเพิ่งเปิดสุ่มแก่นแท้ความรู้ของดันทาเลี่ยน ทั้งหมดทำไปเพื่อความเพลิดเพลินของตัวบราฮัมเอง ถึงขั้นลงทุนเตรียมของว่างมากินขณะเฝ้ามองท่าทีตอบสนองของทุกคน


อย่างไรก็ตาม กริดเกลียดบราฮัมไม่ลง


ตลอดสองวันที่ผ่านมา อีกฝ่ายมิได้เอาแต่เดินเที่ยวเล่นในปราสาท แต่ยังทำการวิเคราะห์ศาสตร์เวทในผลึกทุกก้อนอย่างละเอียด ส่งผลให้ค่าสติปัญญาเพิ่มขึ้นอย่างมาก


คราวนี้ถึงตาพวกตนแข็งแกร่งขึ้นบ้างแล้ว เพื่อมอบความพึงพอใจให้พวกพ้อง


“มัวรออะไรกันอยู่?”


เนเฟลิน่านั่งลงข้างบราฮัม ปากเคี้ยวเบคอนหงุบหงับ


เฉกเช่นบราฮัม แฮชลิ่งสาวกำลังเผยสีหน้าตื่นเต้นประหนึ่งกำลังรอรับชมภาพยนตร์


กริดจ้องหน้าพวกมันเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมายังพวกพ้องด้านข้าง


“เริ่มกันเลย”


“อื้อ”


ทั้งสี่คนนำ ‘แก่นแท้ความรู้ของดันทาเลี่ยน’ ออกมาถือ


ลักษณะคล้ายไข่มุกเม็ดใหญ่สีเงินน้ำเข้ม ราวกับด้านในมีจักรวาลอัดแน่น


ทุกคนนำมืออีกข้างวางลงบนไข่มุกอย่างพร้อมเพรียง ส่งผลให้พลังเวทอันท่วมท้นแผ่ออกมาปกคลุมร่างกาย


ขณะนี้ กริดกำลังทำใจให้ว่าง


‘เราอยากได้วิชาดาบราชาไร้พ่าย… แต่นั่นคงไม่มีทางเกิดขึ้น’


ราชาไร้พ่าย มาดรา คือตัวตนพิเศษในหมู่ตำนาน


มาดราเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ตลอดชีวิตแทบไม่เคยออกไปไหน แถมยังอายุสั้น


กริดค่อนข้างมั่นใจว่าในแก่นแท้ความรู้ของดันทาเลี่ยนคงมิได้บรรจุวิชาดาบไร้พ่ายเอาไว้


‘ในสถานการณ์แบบนี้ คงไม่มีอะไรดีไปกว่าวิชาดาบมุลเลอร์’


สุดยอดวิชาดาบของอริยดาบ สามารถสร้างปรากฏการณ์เหนือความคาดหมายได้ด้วยการฟันดาบ


นอกจากนั้น วิชาดาบมุลเลอร์ยังเป็นสาขาหนึ่งของวิชาดาบไร้เทียมทาน แต่ว่า


‘…อย่าไปคาดหวังมาก’


กริดเคยมีประสบการณ์มาก่อน


สำหรับตน โอกาสจะได้รับเทคนิคการตัดเย็บของครูเกอร์ หรือเทคนิคการขุดของกิสนั้นมีสูงมาก


ยิ่งปรารถนาสิ่งใด ผลลัพธ์ก็ยิ่งออกมาตรงกันข้าม


“…!”


กริดที่พยายามทำให้สมองโล่ง พลันตกตะลึงเมื่อกระแสความรู้หลั่งไหลเข้ามาในหัว


[ท่านได้รับ <วิชาดาบทัพหนึ่งแสน>]


เมื่อได้รับวิชาดาบราชาไร้พ่าย กริดออกอาการตื่นเต้นไปชั่วครู่ แต่เพียงไม่นานก็ต้องสงบลง


วิชาดาบทัพหนึ่งแสน ภายในนั้นจะประกอบไปด้วย ‘ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน’ และ ‘ดาบสกัดทัพหนึ่งแสน’


‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?’


รูม่านตากริดสั่นระริกอย่างมิอาจยับยั้ง


ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดได้ปรากฏขึ้น


ไม่ใช่เทคนิคการตัดเย็บของครูเกอร์ ไม่ใช่เทคนิคการขุดแร่ของกิส


แต่เป็นวิชาดาบทัพหนึ่งแสนที่ตนมีอยู่แล้ว


“…!”


ท่ามกลางความคิดที่สับสน กริดต้องประหลาดใจอีกครั้งเมื่อได้อ่านข้อความระบบที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง


[ความรู้ใหม่ที่หลั่งไหลเข้ามาในหัว ช่วยให้วิชาดาบทัพหนึ่งแสนของท่านสมบูรณ์ยิ่งขึ้น]


[<วิชาดาบทัพหนึ่งแสน (ลดระดับ) > ถูกอัปเกรดเป็น <วิชาดาบทัพหนึ่งแสน>]


เจ๋ง! เจ๋งเป้ง! ยอดเยี่ยม!


กริดอ้าปากค้างจนน้ำลายเกือบไหลออกมา


จากนั้น มันได้ยินเสียงตะโกนจากปิอาโร่


“ฝ…ฝ่าบาท…! วิชาดาบไร้เทียมทาน! กระหม่อมได้วิชาดาบไร้เทียมทาน!”


“อะไรนะ…”


กริดได้สติกลับมา


ปิอาโร่ผู้เคยใฝ่ฝันจะเป็นอริยดาบ แต่ก็ไม่มีโอกาสเดินไปบนเส้นทางดังกล่าว


ปัจจุบัน ชายคนนั้นได้รับวิชาดาบไร้เทียมทานของอริยดาบ?


ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้


กริดที่เริ่มตัวสั่น หันไปมองทางเมอร์เซเดสและยูร่าด้วยสายตากระสับกระส่าย


ชายหนุ่มกังวลว่าความโชคดีของตนและปิอาโร่จะทำให้สองสาวอารมณ์เสีย


แต่เพียงไม่นาน พวกเธอค่อยๆ เผยรอยยิ้มบนใบหน้า


นี่คือวันที่หาได้ยาก วันที่ทุกคนประสบความโชคดีพร้อมๆ กัน


กริดรู้สึกราวกับ เหยื่อของเหตุการณ์กระแสเวลาย้อนกลับ ได้แบกรับความโชคร้ายแทนพวกตนไปหมดแล้ว


“ฮะฮะฮะ!”


กริดระเบิดเสียงหัวเราะอย่างมิอาจอดกลั้น


ไหล่ของมันสั่นระริกราวกับกำลังเต้นรำ


ซาลิเอลเห็นดังนั้นจึงหยิบพิณออกมาบรรเลงเพลง


ทักษะทางด้านดนตรีและการขับร้องถือเป็นพื้นฐานของอัครเทวทูต


ท่วงทำนองอันไพเราะดังกังวานไปทั่วท้องพระโรงใหญ่ เปลี่ยนให้ที่นี่มีบรรยากาศเหมือนกับสวรรค์


และเรื่องบ้าๆ ก็เกิดขึ้น


[เหล่าผู้ปกครองของนรกต่างตรวจพบการมีอยู่ของเทวทูต]


[ผู้ปกครองของนรกขุมลึกลงไปเริ่มแสดงความสนใจ]


นรกขุมที่ลึกลงไป ตามปรกติแล้ว สิ่งนี้หมายถึงนรกหลักเดียว


“…”


สายตาของกริดและเหล่าผู้ส่งสารต่างหันไปมองซาลิเอลโดยพร้อมเพรียง


ซาลิเอลเผชิญสายตาทุกคู่ด้วยสีหน้าไร้เดียงสา


แต่ไม่นาน เหงื่อเย็นๆ เริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอ


การโจมตีอันหนักหน่วงพุ่งปะทะกับปราสาทไร้เทียมทานจนสั่นไหวไปทั้งหลัง


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,923
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00