จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,389



ปัจจุบัน ไม่มีใครมองว่าซาทิสฟายเป็นเพียงสื่อสร้างความบันเทิงทั่วไป


หากมีคนเช่นนี้อยู่จริง พวกเขาจะถือว่าเป็นคนเขลาที่ล้าหลัง


“ไม่มีโอกาสให้แก้ตัวแล้ว… เราต้องใช้โอกาสนี้เพื่อคว้าผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่”


อุตสาหกรรมกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก นักแข่งสามารถเพลิดเพลินไปกับความมั่งคั่งและชื่อเสียงมหาศาล


เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลจีนตัดสินใจลงทุนในซาทิสฟายเป็นครั้งแรก


เริ่มจากการสนับสนุนให้ผู้เล่นชาวจีนจำนวนหนึ่งเปลี่ยนเป็นเผ่าพันธุ์ออร์ค จากนั้นก็พยายามเข้าหาผู้นำเผ่าออร์คอย่างลับๆ และใช้เงินกับอำนาจเพื่อตีสนิท


ไม่เพียงเท่านั้น นักวิชาการที่เก่งกาจจากแต่ละสาขายังถูกคัดเลือกมาให้ช่วยออกแบบแผนการอย่างละเอียดและรัดกุม


ถ้าหากออร์คลอร์ดเทรูชานมิได้สร้างอาณาจักร


ไม่สิ ถึงจะสร้างอาณาจักร แต่ถ้าหละหลวมแม้เพียงนิดเดียว คงไม่เกินจริงไปนักที่จะกล่าวว่า เผ่าพันธุ์ออร์คทั้งหมดจะตกอยู่ภายใต้ความควบคุมของรัฐบาลจีน


ด้วยการบริหารจัดการของรัฐบาลจีน ออร์คซึ่งมีอัตราการขยายพันธุ์สูง จะให้กำเนิดกองทัพหลักร้อยล้านได้ภายในเวลาอันสั้น และมหาอำนาจจีนแผ่นดินใหญ่ก็จะถือกำเนิดขึ้นภายในเกมซาทิสฟาย


ทว่า อาณาจักรออร์คกลับกลายเป็นชาติบริวารของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์และถูกปกครองด้วยกฎระเบียบเข้มงวด


นอกจากนั้น ความแข็งแกร่งและเสน่ห์ของ ‘ออร์คลอร์ด’ เทรูชานก็ยังสยบเผ่าพันธุ์ออร์คทั้งหมดให้อยู่ใต้อาณัติอย่างเป็นปึกแผ่น การแทรกแซงของรัฐบาลจีนจึงกลายเป็นเรื่องสูญเปล่า


ตราบใดที่เทรูชานผู้ภักดีต่อกริดยังมีชีวิตอยู่ ความทะเยอทะยานของรัฐบาลจีนที่จะเปลี่ยนอาณาจักรออร์คให้เป็นจีนที่สองก็ยากจะประสบผลสำเร็จ


นี่คือเหตุผลว่าทำไม โอกาสตรงหน้าถึงสำคัญมาก


ในช่วงเวลาที่การแข่งซาทิสฟายนานาชาติและพิธีฉลองบรรลุนิติภาวะขององค์ชายลอร์ดซ้อนทับกัน ขุมกำลังหลังของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ต้องหายไปชั่วคราวหรือไม่ก็ถูกตรึงกำลังไว้ในเมืองหลวง ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะจัดการกับเทรูชานและฮุบกลืนอาณาจักรออร์ค


> ทางเราไม่สามารถใช้งานแรงเกอร์ทุกคนได้ การที่พวกเขาตัดสินใจย้ายเป็นเผ่าออร์ค ส่วนหนึ่งก็เพราะอยากจะทำผลงานได้ดีในงานแข่งนานาชาติ ดังนั้น พวกเราไม่มีสิทธิ์ไปห้ามไม่ให้ใครเข้าแข่ง


“…นอกจากนั้น หากนักแข่งจากจีนหายไป นานาชาติจะพบความผิดปรกติของรัฐบาลจีนสินะครับ”


> ถูกต้อง แต่คุณก็ไม่ควรประมาทเพียงเพราะกองทัพโอเวอร์เกียร์ที่ถูกระดมมาปราบกบฏมีคุณภาพต่ำ


“ฮะฮะ! แน่นอนอยู่แล้ว คุณมั่นใจได้เลยว่า ความมั่นใจของผมมีรากฐานมาจากความไม่ประมาท… ถึงเวลาแล้ว ผมขอตัวก่อน”


กริ๊ก!


ชายคนหนึ่งจบการสนทนาผ่านโฮโลแกรมพร้อมกับขยับแว่น


ใบหน้าของมันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาราวกับรอยยิ้มเมื่อครู่เป็นเพียงเรื่องโกหก


“ประมาทกับพ่อเอ็งสิวะ… คิดว่าตัวเองเป็นใคร? กล้าดียังไงถึงเตือนให้คนที่อุทิศตัวเป็นศัตรูกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ไม่ประมาท?”


มันไม่มีวันประมาท แม้อีกฝ่ายจะบังคับให้ประมาท


ไม่เกิดจริงไปนักหากจะกล่าวว่า คนที่คิดจะเป็นศัตรูกับโอเวอร์เกียร์ อันดับแรกคือการเผื่อใจว่าตัวเองอาจต้องเลิกเล่นซาทิสฟายไปตลอดชีวิต


ชายคนดังกล่าวกัดฟันกรอดพลางทิ้งตัวนอนลงในแคปซูล


เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง มันกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่ได้ครอบครองคลาส ‘ผู้บัญชาการสงคราม’


ผู้บัญชาการสงคราม ฮาวิส


เป็นคลาสที่มีบัฟวงกว้าง และจะเพิ่มความคล่องตัวของกองทัพในบัญชาหลังจากการ ‘ออกคำสั่ง’


คลาสนี้มีอิทธิพลอย่างมากในสงคราม แต่เกรดของคลาสกลับเป็นเพียง ‘ทั่วไป’ อย่างน่าประหลาด


นอกจากนั้น เห็นได้ชัดว่าคลาสผู้บัญชาการสงครามมีเงื่อนไขในการได้รับค่อนข้างเข้มงวด อันดับแรกต้องเลือกเส้นทางอาชีพเป็นทหาร ได้รับการเลื่อนยศเป็นหัวหน้าหมู่ เลื่อนยศเป็นหัวหน้าหมวด เลื่อนยศเป็นหัวหน้ากองร้อย เลื่อนยศเป็นหัวหน้ากองพัน จนกระทั่งกลายเป็นแม่ทัพ ดังนั้น ระดับความยากในการเลื่อนคลาสจึงสูงกว่าคลาสลับทั่วไปมาก


เหนือสิ่งอื่นใด ยศทางทหารจะไม่เปลี่ยนแปลงตามค่าสถานะและความสามารถเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงผลงานและอายุการทำงาน หมายความว่าตำแหน่งระดับแม่ทัพจะมีได้เพียงไม่กี่คน


สรุปโดยสั้น ฮาวิสถือเป็นทรัพยากรบุคคลชั้นเลิศ


รัฐบาลจีนยอมอัดฉีดเงินก้อนโตเพื่อจ้างมันก่อกบฏ


เป็นจำนวนตัวเลขที่ฮาวิสปฏิเสธไม่ลง


ชนิดที่ว่า คุ้มค่ากับการยอมละทิ้งทุกสิ่งในชีวิตเพื่อเป็นศัตรูกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


‘และถ้าเราก่อกบฏสำเร็จ ค่าตอบแทนจะเพิ่มเป็นสองเท่า’


ต้องทำให้สำเร็จ ถึงแม้จะยากไปสักนิด


ทว่า


“…มากกว่าที่คิดอีกไม่ใช่หรือ?”


ดวงตาของฮาวิสพลันลุกวาวขณะเดินเข้าไปในค่ายบัญชาการด้วยสีหน้ามุ่งมั่น


ภายในนั้นมีผู้เล่นระดับบัญชาการมากถึงสามสิบคนรวมตัวมันเอง


แตกต่างกันไปตามค่าสถานะ ‘ผู้นำ’ และเลเวล แต่ค่าเฉลี่ยของจำนวนทหารในบังคับบัญชาคือคนละสี่พันนาย


สามสิบคนก็หมายถึงทหารหนึ่งแสนสองหมื่นนาย


กล่าวอีกนัยหนึ่ง ฝ่ายกบฏสามารถระดมออร์คได้กว่าหนึ่งแสนตนในเมืองหลวง นับเป็นชัยชนะที่ง่ายดายก่อนที่ทหารฝ่ายเทรูชานจะได้ลงมือทำอะไร


‘นี่คือศักยภาพของชาวจีน?’


ฮาวิสเคยคิดว่า ผู้เล่นระดับบัญชาการที่เข้าร่วมภารกิจนี้ไม่น่าจะมีเกินเจ็ดคน


จริงอยู่ อาจจะมีคนจำนวนหนึ่งที่หิวเงินแบบตน แต่คนที่กล้าเสียสละทุกสิ่งและเตรียมใจเลิกเล่นซาทิสฟายไม่น่าจะมีเยอะนัก


อันที่จริงก็เป็นแบบนั้น เพราะจากบรรดาสามสิบคน ผู้บัญชาการกองทัพส่วนมากเป็นชาวจีนที่ถูกรัฐบาลจีนสนับสนุน


‘ถ้าพวกเขาสามารถเพิ่มจำนวนบุคลากรระดับแม่ทัพได้มากขนาดนี้… ไม่อยากจะคิดว่าคลาสอื่นๆ จะทำได้ดีแค่ไหน… สมกับเป็นประเทศมหาอำนาจ’


จีนเพียบพร้อมทั้งเงินทุนและแผนการอันรัดกุม สมกับที่เป็นหนึ่งสองในชาติมหาอำนาจของโลกยุคปัจจุบัน


ฮาวิสเผยรอยยิ้มขณะกล่าวชื่นชม


ในตอนแรก มันเคยคาดการณ์ไว้ว่า โอกาสก่อกบฏสำเร็จจะอยู่ที่ราวๆ หกสิบเปอร์เซ็นต์


กองทัพออร์คจำนวนสามล้านจะลุกฮือขึ้นรอบๆ อาณาจักรเพื่อดึงดูดความสนใจ โดยในขณะเดียวกัน กองกำลังสามหมื่นนายที่ถูกสั่งการโดยผู้บัญชาการเจ็ดคน จะแยกตัวลอบแทรกซึมเข้าไปในเมืองหลวงอย่างรวดเร็วด้วยทางน้ำใต้ดิน


เมื่อเข้าไปในวังหลวง พวกมันต้องรีบโค่นเทรูชานภายในสองชั่วโมง หากทำได้ก็จะถือว่าประสบความสำเร็จ


แต่ถ้าทำไม่ได้ ทันทีที่กำลังเสริมมาถึง พวกมันก็จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้


จะเรียกว่าเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ก็ไม่ผิดนัก เพราะพวกมันไม่มีทางชนะในการเปิดหน้าแลกตรงๆ เทรูชานมีกองทัพห้าแสนนายประจำการในเมืองหลวง นอกจากนั้นยังมีประชาชนในเมืองอีกกว่าหนึ่งล้านตน


หากกองทัพ 1.5 ล้านตนมีเวลาเตรียมตัวป้องกันเมืองเต็มรูปแบบ ฝ่ายกบฏไม่มีทางฝ่าเข้าไปได้แม้จะระดมพลได้มากถึงสามล้าน


ปัญหาใหญ่ที่สุดคือความแข็งแกร่งของ ‘ออร์คลอร์ด’ เทรูชาน


ผู้เล่นชาวจีนยังไม่มีอำนาจมากพอจะต่อกรกับสัตว์ประหลาดที่สามารถเดินออกจากประตูเมือง ทำลายกองทัพเล่นๆ และเดินกลับเข้าไปพักผ่อนที่วังอย่างสบายใจ


ยิ่งสูญเสียพันธมิตรไปมากเท่าไร ขวัญกำลังใจทหารก็จะยิ่งตกต่ำ


เพื่อชัยชนะในสงคราม กุญแจสำคัญคือการแยกตัวเทรูชานเข้าไปอยู่ในที่แคบๆ โดยปราศจากการกองทัพอารักขา จากนั้นก็พยายามฆ่าให้ได้ด้วยกำลังทหารที่มากกว่าหลายเท่า


‘เรานึกสงสัยมาตลอดว่า ทหารแค่สามหมื่นจะทำสำเร็จได้จริงหรือ…’


ฝ่าแนวป้องกันของทางน้ำใต้ดิน จัดการกับองครักษ์ของเทรูชาน และตัดคอเทรูชาน


ทั้งหมดนี้ต้องทำให้สำเร็จด้วยทหารเพียงสามหมื่นนาย แถมยังมีเส้นตายอยู่ที่สองชั่วโมง


แม้จะมีบัฟจากผู้บัญชาการ แต่โอกาสสำเร็จก็คงไม่มากไปกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์


ทว่า ตรงข้ามกับสิ่งที่คาดหวัง ฮาวิสพบว่ากองทัพฝ่ายตนมีมากถึงหนึ่งแสนสองหมื่นนาย ไม่ใช่แค่สามหมื่น


หากเป็นเช่นนี้ โอกาสสำเร็จจะไม่ต่างอะไรกับหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์


‘เรายังสามารถแบ่งคนไปจัดการกับส่วนอื่นได้ด้วย’


หากไม่มีงานแข่งนานาชาติ เหล่าขุนพลของโอเวอร์เกียร์จะถูกส่งมาสนับสนุนแน่นอน


หรือก็คือ ต่อให้มีกองทัพแสนสอง โอกาสสำเร็จก็ยังต่ำมากอยู่ดี


แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีทางเกิดขึ้น รายชื่อนักกีฬาได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้ว


และมีโอกาสน้อยมากที่กริดจะเคลื่อนไหว


กริดเคยสูญเสียข่านในงานแข่งนานาชาติเพราะดันปล่อยให้กรุงไรน์ฮาร์ทหละหลวม ดังนั้น ท่ามกลางพิธีเฉลิมฉลองการบรรลุนิติภาวะขององค์ชายลอร์ด แทบไม่มีทางที่ราชาโอเวอร์เกียร์จะย่างกรายออกจากเมือง


‘แต่ก็ไม่สำคัญว่ากริดจะลงมือหรือไม่’


รัฐบาลจีนเตรียมแผนรับมือกริดไว้อย่างรัดกุมแล้ว


สายลับจำนวนมากถูกแฝงตัวเข้าไปกับขบวนสินค้าต่างๆ สำหรับจัดงานพิธี หากเมื่อใดที่กริดปรากฏตัวในอาณาจักรออร์ค สายลับจำนวนมากจะเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นกลุ่มก่อการร้ายทันที


พวกมันไม่คาดหวังว่าจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงแก่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ แค่ทำให้กริดกระวนกระวายและถอนตัวกลับได้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว


ราชาโอเวอร์เกียร์จะเพิกเฉยต่อความวุ่นวายในเมืองหลวงได้จริงหรือ?


ไม่มีทาง


‘เขาจะรีบกลับไรน์ฮาร์ททันที’


ความเจ็บปวดเมื่อครั้งสูญเสียข่าน กริดคงไม่อยากสัมผัสมันซ้ำสอง


ใช่แล้ว ศึกนี้จะมีแต่ชัยชนะของฝ่ายเรา…


ฮาวิสที่กำลังมั่นใจ หันหน้าไปมองหน้าผู้บัญชาการคนอื่น


“อย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้เลย เริ่มกันเถอะ”


เป็นไปไม่ได้ที่จะก่อกบฏอย่างลับๆ ด้วยกองทัพขนาดใหญ่เช่นนี้ พวกมันจึงเปลี่ยนแผนไปใช้ประโยชน์จากกองทัพที่มากขึ้นแทน


ปัจจุบัน ทั้งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์และอาณาจักรออร์คคงกำลังเพ่งความสนใจไปยังกองทัพหลักของกบฏที่เริ่มเคลื่อนพลตั้งแต่เมื่อวาน


อาศัยช่องว่างดังกล่าว พวกมันจะลอบเคลื่อนย้ายหน่วยพิเศษบางส่วนเข้าไปทำภารกิจลอบสังหาร อีกส่วนคอยก่อความวุ่นวาย


หวังเหว่ย หัวหน้าผู้บัญชาการในปฏิบัติการครั้งนี้ เริ่มอธิบายภาพรวมให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน


“ไม่ว่ากองทัพหลักของกบฏจะดึงดูดความสนใจได้มากน้อยแค่ไหน แต่กองทัพกว่าหนึ่งแสนนายของเราต้องประสบความสำเร็จในการแทรกซึมเข้าไปทำงานใหญ่… พวกเราจะแบ่งออกเป็นสี่กลุ่ม กลุ่มละสามหมื่น ตามที่พวกนายเห็นบนแผนที่ บางจุดของป้อมปราการจะเป็นมุมอับเพราะถูกอาคารบัง…”


เหล่าผู้บัญชาการค่อนข้างมั่นใจว่าฝ่ายตนจะได้รับชัยชนะ จึงกำลังฮึกเหิมและตั้งใจฟังแผนการอย่างกระตือรือร้น


แต่น่าเสียดาย ความพยายามของพวกมันล้วนไร้ความหมาย


มีอยู่สามสิ่งที่กองทัพกบฏมองข้ามไป


ประการแรก อาณาจักรโอเวอร์เกียร์พัฒนา ‘วาร์ปเกต’ สำเร็จมาสักระยะแล้ว


ประการที่สอง หูตาของหน่วยเงาโอเวอร์เกียร์ที่นำโดย ‘ลันเทียร์’ เฟคเกอร์ กำลังปกคลุมไปทั่วอาณาจักรออร์คอันกว้างใหญ่ไพศาล


ประการที่สาม กริดสามารถถล่มพวกมันได้จากระยะไกล


“ทุกกองพัน รวมพล!”


เมื่อเสร็จสิ้นการประชุม เหล่าผู้บัญชาการเริ่มระดมพลทหารกว่าหนึ่งแสนนาย


ภาพการตั้งแถวของกองทัพออร์คที่เรียงรายประหนึ่งคลื่นทะเลสีเขียวครามบนทุ่งกว้าง ช่างดูยิ่งใหญ่อลังการ


ใช่แล้ว มันเด่นสะดุดตาเกินไปมาก


“เตรียมเคลื่อนทัพ—”


“…?”


“…?”


เหล่าผู้บัญชาการและทหารต่างเอียงคอสงสัย เพราะจู่ๆ เสียงคำสั่งของหวังเหว่ยก็ขาดห้วง


ทันใดนั้น เมื่อเห็นหวังเหว่ยยืนสั่นเทาขณะแหงนมองฟ้า ดวงตากลมโตกว่า 240,000 ดวงพลันหันไปมองในทิศทางเดียวกัน


“…!”


“…!”


ทุกตนอุทานพร้อมกับโดยมิได้นัดหมาย


สืบเนื่องจาก สายฝนยุทธภัณฑ์จำนวนมหาศาลกำลังโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า


ใช่แล้ว สายฝนยุทธภัณฑ์


ไม่ต้องเสียเวลาขบคิดให้วุ่นวายว่าเป็นฝีมือของใคร


ราชาโอเวอร์เกียร์


กองทัพออร์คกว่าแสนนายกำลังถูกถล่มอย่างราบคาบด้วยผู้เล่นเพียงคนเดียว


***


“ดาเมี่ยนแปลกๆ ไปนะว่าไหม? ผมว่าผมเอาชนะเขาได้แน่”


เซลอสเข้าแข่งซาทิสฟายนานาชาติในฐานะตัวแทนประเทศญี่ปุ่น


ปัจจุบัน มันรั้งอันดับ 98 ของโลกและเป็นคนที่กระตุ้นวงการซาทิสฟายของญี่ปุ่นให้ลุกฮือขึ้นอีกครั้ง


ชาวญี่ปุ่นต่างส่งแรงใจเชียร์แรงเกอร์หนุ่มหล่อและแต่งตัวดีรายนี้อย่างล้นหลาม


เซลอสได้รับความนิยมมากแค่ไหน?


ตำแหน่งผู้ชนะเลิศในรายการทีวี ‘ผู้เล่น 55’ ที่ได้รับเรตติ้งสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ คือเครื่องพิสูจน์เป็นอย่างดี


โปรดิวเซอร์รายการ ‘ผู้เล่น 55’ เซย์อิจิ ฉีกยิ้มและให้กำลังใจเซลอส


“แน่นอน นายจะชนะในรายการนี้และได้รับไอเท็มเกรดเลเจนดารีเป็นรางวัล! เพราะตอนนี้ ดาเมี่ยนไม่เหลืออะไรอีกแล้ว หากไม่มีตำแหน่งสันตะปาปา หมอนั่นก็เป็นได้แค่คนที่น่าสมเพช เป็นฮิคิโคโมริแก่ๆ ไร้ฝีมือ… การได้เป็นสันตะปาปาก็เพราะมีกริดคอยสนับสนุน”


ดาเมี่ยนเข้าสังคมไม่เก่ง จึงไม่คิดจะออกรายการทีวี


และถึงจะไปออกรายการไหน ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวสรรเสริญกริดต่อหน้าชาวญี่ปุ่น


นั่นคือเหตุผลที่ทำให้โปรดิวเซอร์เซย์อิจิเกลียดดาเมี่ยน ถึงขั้นตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติ


มันมีความสุขเป็นล้นพ้นเมื่อทราบว่าดาเมี่ยน ‘ถูกปลด’ จากการเป็นสันตะปาปาของโบสถ์รีเบคก้า


“ผมรู้ว่าคุณเกลียดดาเมี่ยน แต่การเรียกราชาอสูรซอมบี้ว่าคนน่าสมเพช ผมว่าออกจะเกินไปหน่อย…”


“ไม่เลย นั่นเป็นความจริง ดาเมี่ยนกลายเป็นคนที่น่าสมเพชไปแล้ว หมอนั่นถูกไล่ออกจากโบสถ์รีเบคก้า จึงไม่มีทางเลือกนอกจากไปเป็นผู้นำโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์”


แน่นอน ไม่มีใครกล้าประเมินศักยภาพของศาสนาเทพโอเวอร์เกียร์ไว้ต่ำ แต่กับดาเมี่ยนนั้นเป็นคนละเรื่อง นับตั้งแต่วันที่ได้รับตำแหน่งจนถึงวันแข่งนานาชาติ ดาเมี่ยนแทบไม่มีเวลาให้เติบโตและพัฒนาตัวเอง


เห็นได้ชัดว่ายังรำดาบได้เพียงไม่กี่ท่า แถมยังมีข้อจำกัดมากมาย


‘ปีหน้าจะเป็นยังไม่ทราบ… แต่ตอนนี้ เซลอสแข็งแกร่งกว่าแน่นอน’


นี่คือเหตุผลที่มันแนะนำให้เซลอสลงแข่ง PVP


ราวกับโชคชะตาเล่นตลก เซลอสและดาเมี่ยนได้โคจรมาพบกัน


ในอีกสามวัน ชาวญี่ปุ่นจะได้รับชมงานแข่ง PVP ที่เป็นศึกแจ้งเกิดของดาวดวงใหม่แห่งประเทศญี่ปุ่น


‘ดาราที่เซย์อิจิคนนี้ปลุกปั้นมากับมือ จะต้องกลายเป็นหน้าเป็นตาของประเทศญี่ปุ่น!’


มันจินตนาการถึงรายการทีวีที่จะสร้างโดยใช้แกนหลักเป็นเซลอส – ดาวดวงใหม่แห่งวงการซาทิสฟายของญี่ปุ่นผู้สามารถโค่นดาเมี่ยนได้ในการแข่ง PVP


‘และในปีถัดไป เราจะขึ้นเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบันเทิง’


รอยยิ้มกำลังเผยบนใบหน้าเซย์อิจิขณะมันวาดฝันอนาคตแสนสดใส


“นี่มัน…”


ขณะเดียวกัน ในซาทิสฟาย ดาเมี่ยนกำลังตกตะลึงสุดขีดเมื่อได้เห็นพัสดุที่เพิ่งถูกส่งมาถึง


______________

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,875

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ




Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00