จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,378



“ฉันคิดว่านายกำลังหลบหน้า… จู่ๆ ก็หายไประหว่างกำลังคุย”


ปัจจุบัน โพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตที่ผลิตจากโรงแปรธาตุเรย์ดันมักถูกเรียกว่า ‘ยาสูตรลับ’ เพราะมีจำนวนน้อยกว่าโพชั่นตามท้องตลาด แต่ให้ผลลัพธ์ดีกว่าหลายเท่า


กริดกลืนเข้าไปในอึกเดียว


แม้ปากจะทักทายครอเกล แต่สายตายังไม่ละออกจากมีร์


มีร์ที่เพิ่งโค่นกริดอย่างง่ายดาย ถอยกลับไปยืนพิงดวงจันทร์อีกครั้ง ประกายเทพอสนีรอบตัวกำลังแผดเผาเกล็ดหิมะ


“ฉันเพิ่งกินข้าวเสร็จ”


ครอเกลตอบ


“แล้วอิ่มหรือยัง”


“แน่นอน”


“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องยืดเส้นยืดสายย่อยอาหาร”


คราวนี้กริดเป็นฝ่ายเปิดฉากบ้าง


ชายหนุ่มประสบความสำเร็จในการใช้งาน ‘เทพธรณี’ ที่มีโอกาสติดแบบสุ่ม


พื้นดินในจุดที่มีร์ยืนพลันถูกยกสูง ร่างมีร์พลันลอยเหนือดวงจันทร์จากเดิมที่อยู่ใต้ดวงจันทร์


กริดและครอเกลมิได้พูดคุยกันเพื่อนัดแนะ ทั้งสองตัดสินใจตามสัญชาตญาณส่วนตัว


ผลลัพธ์ออกมาดีเกินคาด


กริดใช้ชุนโปไปโผล่ข้างหลังมีร์และฟันด้วยดาบมังกรไฟ


มีร์ตวัดดาบหนักมังกรครามไปด้านหลังเพื่อปัดป้อง ในเวลาเดียวกัน ครอเกลใช้มังกรปฐพีผงาดจู่โจม


มีร์หลบมังกรปฐพีผงาดได้ง่ายดาย แต่นั่นก็อยู่ในการคำนวณของครอเกล


อริยดาบอาศัยแรงส่งจากมังกรปฐพีผงาด กระโดดขึ้นไปเหนือศีรษะมีร์และคอมโบด้วยดาบอุกกาบาต


ระหว่างนั้น กริดใช้วิชาดาบผสานสองชนิด – ร่ายรำสังหาร เล็งโจมตีใส่จุดอ่อนที่มีร์เผยขณะหลบมังกรปฐพีผงาด


ขณะมีร์หันไปรับดาบของกริด ดาบอุกกาบาตของครอเกลที่กำลังพุ่งใส่ลำคอ แผ่คลื่นกระแทกจนแผ่นดินสั่นสะเทือน


กริดและครอเกลตัดสินใจลงมือพร้อมกันด้วยคิดที่ว่า พวกตนอาจกดดันมีร์สำเร็จ


แต่นั่นเป็นเพียงมโนภาพ


ขณะใช้ดาบหนักมังกรครามรับมือดาบมังกรไฟ มีร์หันไปคว้าข้อมือครอเกลและจับทุ่มลงพื้น ดาบอุกกาบาตสลายตัวในพริบตา


นี่คือความยอดเยี่ยมของเหนือมนุษย์


ช่องว่าง 0.2 ที่ครอเกลคิดว่าเป็นโอกาสของตน แท้จริงแล้วมีร์หลอกให้เชื่อ


“…”


ครอเกลที่นอนอยู่บนพื้น พูดอะไรไม่ออกไปสักพัก


เสี้ยววินาทีที่กำลังจะฟันโดนต้นคอมีร์ ไปจนถึงช่วงที่ถูกจับทุ่มลงพื้นอย่างหมดสภาพ ครอเกลทำได้เพียงคร่ำครวญเรื่องที่ค่าสถานะ ‘อ่านใจขั้นสูง’ ของตนยังไม่ถึงระดับเดียวกับเหนือมนุษย์สักที


‘…เราถูกทิ้งห่างมากไปแล้ว’


ไม่สิ ตรงกันข้าม กริดต่างห่างที่นำหน้าไปไกลเกิน


ครอเกลมั่นใจตั้งแต่แรกว่าตนยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมีร์


“…”


อริยดาบเงยหน้าขึ้น


ตรงข้ามกับมันที่กำลังทึ่งในความยอดเยี่ยมของโลกแห่งเหนือมนุษย์ กริดยังคงรับมือกับมีร์บนพื้นดินที่สั่นสะเทือนต่อเนื่อง


ครอเกลพยายามเฝ้ามองและคาดเดาเหตุผลที่ซ่อนอยู่ในพฤติกรรมของแต่ละคน ทว่า ทุกครั้งที่เข้าใกล้ความจริง ครอเกลกลับพบว่าตนอ่านเจตนาใครไม่ออกเลย


อริยดาบยังจดจ้องการต่อสู้อย่างเงียบงันโดยไม่เข้าไปช่วย


จนกระทั่งกริดล้มลงและกลิ้งหลายหลบ ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นยืนพลางตะโกนถาม


“มัวทำอะไรอยู่? จะไม่ย่อยอาหารจริงหรือ”


“…นายควรทำอะไรกับรูปลักษณ์ประหลาดๆ นั่นก่อน”


“กล้าพูดได้ยังไงว่าภรรยาของคนอื่นหน้าตาประหลาด… นายไม่ใช่ฮิวรอยสักหน่อย น้ำเสียงแบบนั้นหมายความว่ายังไง”


กริดบ่นอุบอิบ


ปัจจุบัน ชายหนุ่มกำลังสวมหน้ากากหนังมนุษย์


ที่นี่เป็นทวีปตะวันออก กริดจึงต้องการเสริมสร้างค่าบารมีเทพให้ไอรีน


“ฉันไม่ได้บอกว่าไอรีนหน้าตาประหลาด นายที่สวมหน้ากากไอรีนต่างหากที่ประหลาด… น่าขยะแขยง”


“ฮิวรอยอาจจะปากเสีย แต่หมอนั่นไม่เคยเรียกคนอื่นว่าน่าขยะแขยง…”


“ตอนนี้นายสวมเสื้อผ้าที่ไม่พอดีกับร่างกาย… คิดว่าจะแสดงฝีมือได้เต็มที่ด้วยแขนขาสั้นๆ นั่นจริงหรือ? ความไม่คุ้นเคยเพียงเล็กน้อย มากพอจะทำให้ประสิทธิภาพของทักษะเปลี่ยนไป”


“…”


ไม่ได้อยากจะแก้ตัว แต่กริดรู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งที่แลกดาบกับมีร์


การเคลื่อนไหวซึ่งเคยกระทำนับพันนับหมื่นหน กลับเกิดความรู้สึกไม่คุ้นเคยเมื่ออยู่ในร่างที่ไม่ใช่ของตัวเอง


สิ่งนี้ไม่เป็นปัญหาในยามที่เผชิญหน้ากับศัตรูอ่อนแอ


‘ท่วงท่าของเราไม่เหมาะกับคนตัวเล็กสินะ…’


ท่วงท่าขณะต่อสู้จะเกิดจากความเคยชินของร่างกาย


เมื่อตระหนักได้ กริดตัดสินใจถอดหน้ากากหนังมนุษย์


ในวินาทีแรกที่ได้เผชิญหน้ามีร์ อีกฝ่ายระบุถึงกลิ่นอายของเทพได้ตั้งแต่ต้น


ไม่มีประโยชน์ที่จะดันทุรังใช้ใบหน้าไอรีนต่อไป


“เฮ่อ…”


หลังจากกลับร่างเดิม ชายหนุ่มถอนหายใจยาว


อากาศเย็นๆ แต่สดชื่นไหลซึมเข้าปอดทั้งสองข้าง ช่วยกระตุ้นให้จิตใจสงบนิ่ง


เมื่อเห็นมีร์ไม่แยแสกับสิ่งที่เกิดขึ้น คำกล่าวหนึ่งผุดขึ้นในใจกริดทันที


เป็นคำพูดของแกรนมาสเตอร์ที่ระบุว่า เทพจะไม่ยึดติดกับรูปกายภายนอก


‘หมอนี่… แตกต่างจากยังบันคนอื่นมาก’


ปราศจากความหยิ่งทะนงและโอหัง ทุกคำพูดและการกระทำล้วนมีความหมาย


ในภาพจำแรกของกริด มีร์จะมอบบรรยากาศของคนอ่อนแอ แตกต่างจากการัมที่แข็งกร้าวและรุนแรง


ทว่า กริดทราบได้โดยสัญชาตญาณ มีร์จงใจทำเช่นนี้เพื่อให้ศัตรูประมาท


ทั้งที่ในความเป็นจริง มันแข็งแกร่งและแทบจะไร้จุดบอด


‘บอสระดับกลางของทวีปตะวันออก… จะมองแบบนั้นก็ได้สินะ’


ชายคนนี้เป็นรองเพียงเทพบนอาณาจักรฮวาน


แตกต่างจากยังบันคนอื่น มีร์ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของครึ่งเทพเต็มตัว


อย่างน้อยก็ระดับผู้นำอัครเทวทูต…


“เทพโอเวอร์เกียร์เอ๋ย”


“…”


ครอเกลกำลังคิดไม่ต่างจากกริด ชื่นชมในความสุดยอดของมีร์


แต่บรรยากาศพลันผ่อนคลายทันที เมื่อมีร์กล่าวคำหนึ่งออกมา


มีร์เรียกกริดว่า ‘เทพโอเวอร์เกียร์’ ด้วยสีหน้าขึงขัง


‘ทำไมถึงเป็นต้องเทพโอเวอร์เกียร์…’


ครอเกลไม่ชอบวลีโอเวอร์เกียร์มาแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะชื่อกิลด์ ชื่ออาณาจักร ชื่อราชา


นี่ยังลามมาถึงชื่อของเทพ


ครอเกลส่ายหน้าพลางขนลุกกับเซนส์การตั้งชื่อสุดเห่ยของกริด


ด้ามจับเป็นหางมังกร ปลายดาบถูกตีให้บานออกเล็กน้อย คล้ายกับกรงเล็บมังกรที่ทำลูกแก้ววิเศษหาย


ส่วนใบมีดของ ‘ดาบหนักมังกรคราม’ กำลังสั่นไหวคล้ายกับขยับอยู่ตลอดเวลา แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่ขยับมิใช่ดาบ แต่เป็นพลังปราณอันบริสุทธิ์และเข้มข้นซึ่งทำให้ครอเกลรู้สึกหวาดหวั่น


สายฟ้าทรงพลังกำลังฉาบใบดาบอย่างท่วมท้น


มิใช่โวหารเปรียบเปรยว่าพลังปราณของมีร์บริสุทธิ์และงดงามเหมือนสายฟ้า แต่นั่นคือสายฟ้าของจริง


ครอเกลเองก็คิดค้นวิชาดาบ ‘อสนีบาต’ ด้วยหลักการเดียวกัน แต่ของมีร์สมบูรณ์แบบและเรียบง่ายกว่ามาก


“เจ้าเกิดจากความปรารถนาอย่างแรงกล้าของผู้คน จึงรู้สึกว่าตัวเองควรทำอะไรสักอย่างเพื่อตอบแทนพวกเขา… แต่เจ้าย่อมทราบดีกว่าใครว่าเทพมิได้แข็งแกร่งไร้เทียมทาน เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง สงครามแห่งเทพจะไม่มีวันเกิดขึ้น ฮานึลจะไม่ถูกขับไล่มาที่นี่ และเทพผู้พิทักษ์สี่ทิศก็จะไม่ถูกผนึกอย่างน่าอับอาย… ข้าไม่อยากทำให้เทพต้องอับอายไปมากกว่านี้ จงล้มเลิกความคิดที่จะปลดผนึกเทพผู้พิทักษ์เสีย”


กล่าวจบ มีร์เหวี่ยงดาบหนักมังกรครามที่ฉาบไปด้วยสายฟ้า


การเคลื่อนไหวอาจดูเรียบง่าย แต่ก็รุนแรงพอจะสร้างคลื่นกระแทกเป็นวงกว้าง


ประกายสายฟ้าจำนวนมากพุ่งเข้าหากริดและครอเกลด้วยความเร็วสูง


[ไม่มีการโจมตีใดที่ท่านไม่รู้จัก]


กริดคาดเดาวิถีสายฟ้าและตอบสนองทันที


ทว่า สายฟ้าของจริงนั้นรวดเร็วจนยากจะหลบพ้น แขนข้างหนึ่งถูกเผาในพริบตา


[ท่านได้รับความเสียหาย 28,900 หน่วย]


ครอเกลไม่มีพลังสำหรับเดาทิศทางแบบกริด ต้องอาศัยการอ่านหัวไหล่เพื่อวิเคราะห์


แต่มันก็ต้องเผชิญปัญหาแบบเดียวกับกริด สายฟ้าของจริงรวดเร็วเกินไป ครอเกลผู้พยายามหลบหลีกอย่างเต็มกลืน ร่างกายท่อนบนถูกเผาครึ่งซีกในพริบตา


“…”


สีหน้าอริยดาบพลันดำมืดหลังจากได้รับความเสียหายเกินกว่าสามหมื่นหน่วยเพียงเพราะศัตรูแกว่งดาบใส่อากาศ


โชคยังดีที่มีค่าต้านทานอาการช็อกไฟฟ้า ไม่อย่างนั้นคงตายคาที่


แต่นั่นไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมากนัก


มีร์ยังคงทำแบบเดิม แกว่งดาบในจุดเดิม


ในทางกลับกัน กริดกับครอเกลต้องคอยหลบหลีกด้วยทุกสิ่งที่ทุกอย่างพวกเขามี


นับเป็นการสิ้นเปลืองพลังใจอย่างมากเมื่อต้องคาดเดาทิศทางและหลบหลีกสายฟ้าของมีร์ให้พ้น


“แฮ่ก… แฮ่ก…”


กริดไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเปิดใช้งาน ‘โลกแห่งเหนือมนุษย์ที่แท้จริง’ ทุกครั้งเมื่อมีร์ตวัดดาบ นั่นส่งผลให้ร่างกายเริ่มอ่อนล้าถึงขีดจำกัด


ค่าเรี่ยวแรงลดลงอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวทื่อลงจนเห็นได้ชัด


ทางด้านครอเกลสูญเสียพลังชีวิตไปพอสมควร แต่ยังเหลือค่าเรี่ยวแรง


‘หลังจากนี้… บทบาทของเราคือสิ่งสำคัญ’


เป้าหมายของกริดและครอเกลไม่ใช่การล้มมีร์


ทั้งสองเผื่อใจไว้แล้วว่าตนคงเอาชนะมีร์ไม่ได้


ในกรณีของกริด มันอยากลองท้าทายมีร์เพื่อวิเคราะห์พลังของอีกฝ่าย จะได้มีหนทางรับมือในอนาคต


ส่วนครอเกลกระโดดเข้าร่วมศึกเพียงเพราะไม่อยากปล่อยให้กริดตายตามลำพัง


ถูกต้อง อย่าฝืนเกินตัว แค่รอดกลับไปแบบมีชีวิตก็ถือว่าเป็นกำไรแล้ว


ขณะมีร์เหวี่ยงดาบหนักมังกรคราม ครอเกลใช้วิชาดาบอสนีบาตและพุ่งไปข้างหน้า


สายฟ้าของมีร์พุ่งเฉือนแก้มครอเกลเส้นแล้วเส้นเล่าจนเกิดความเจ็บปวด แต่มันก็กัดฟันทน


เพียงพริบตา ครอเกลประชิดตัวมีร์สำเร็จ


มีร์หันมาชำเลืองด้วยสายตาเย็นชา


“อริยดาบครอเกล วิชาดาบของเจ้านับว่าไม่เลว แต่ไม่มีผลกับข้าผู้สามารถดูดซับลมหายใจมังกรฟ้า”


[ค่าสถานะ ‘อ่านใจขั้นสูง’ เพิ่มขึ้น 1 หน่วย]


เป็นพัฒนาการที่รวดเร็วจนน่าตกตะลึง


มีร์ผู้โจมตีด้วยดาบหนักมังกรครามขณะใช้พลังเทพอสนี ช่วยเร่งความเร็วในการเติบโตให้ครอเกล


ถึงจะยังด้อยกว่าโลกแห่งเหนือมนุษย์ของกริด แต่ก็มากพอจะช่วยให้ครอเกลมีความหวัง


ดาบหนักมังกรครามเฉือนผ่านสีข้างครอเกลหนึ่งแผล จากนั้นก็แทงซ้ำใส่กลางแผ่นหลัง


ครอเกลมิอาจทนต่อแรงกระแทกและความเจ็บปวด ร่างกายเซล้มไปข้างหน้า


ระหว่างที่กำลังมองเห็นเพียงพื้นหิมะ ปลายดาบมังกรครามทะลวงออกจากหน้าอกชายหนุ่ม


ขณะโลหิตสาดกระเซ็น มีร์เดินมายืนด้านข้างอริยดาบ


ด้วยหางตา ครอเกลชำเลืองเห็นรอยแผลเป็นบนต้นคอขาวผ่องของมีร์


น่าจะเป็นแผลที่เกิดขึ้นมานานแล้ว


“ทำไมเจ้าถึงไม่ศึกษาเทคนิคลับของมุลเลอร์? คิดว่าตัวเองมีพรสวรรค์มากกว่าเขา? หากคิดเช่นนั้นจริง เจ้าคือคนที่หยิ่งผยองเกินตัวไปมาก”


คำวิจารณ์อันเสียดแทงจิตใจ แฝงไว้ด้วยอารมณ์อย่างเต็มเปี่ยม


ครอเกลทราบทันทีว่าใครเป็นคนฝากรอยแผลไว้บนต้นคอมีร์


‘หรือว่าเรา… ควรเลิกดื้อรั้น?’


แล้วสักวัน เราจะแข็งแกร่งจนสูสีกับมีร์ได้เหมือนมุลเลอร์?


ขณะครอเกลเริ่มลังเล เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง


“แกกำลังพล่ามอะไรอยู่…”


เป็นเสียงกริด


ชายหนุ่มพุ่งมาจากฝั่งซ้ายมือครอเกลพร้อมกับปลดปล่อยวิชาดาบผสานห้าชนิด


มีร์ที่ยืนอยู่ฝั่งขวามือครอเกลหันไปมอง


เมื่อสายตาคนทั้งสองประสานกัน


“ครอเกลคือคนที่จะก้าวข้ามมุลเลอร์!”


“…!”


ถ้อยคำดังกล่าวปราศจากความสั่นคลอน แฝงไว้ด้วยความมั่นใจจากก้นบึ้ง


คลื่นแห่งความกังวลและสับสนที่กำลังถาโถมครอเกล เริ่มละลายไปราวกับหิมะโดนแสงแดด


“…!”


มีร์ที่เคยรับมือกับกริดในช่วงแรก มิได้ให้ค่าวิชาดาบกริดมากนัก


แต่ในวินาทีนี้ มันกำลังตกตะลึง


ทั้งมีร์และครอเกลต่างสัมผัสได้


วิชาดาบของกริดทั้งเฉียบคมและทรงพลังกว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนอย่างชัดเจน


“มายาร่ายรำคลื่นทำลายล้างสังหาร”


โลกจินตภาพพลันฉาบบรรยากาศให้ท่วมท้นไปด้วยจิตสังหาร


จิตคุกคามรุนแรงพอจะทำให้มีร์ในร่างเทพอสนีหวาดหวั่น


ครอเกลอ่านออก จึงใช้ดาบ ‘ดาบวงกต’ ใส่มีร์ที่กำลังเร่งความเร็วหนี


อริยดาบต้องจ่ายค่าของการกระทำครั้งนี้ด้วยประกันชีวิตอมตะ


ส่วนมีร์ที่ถูกขัดขวางการหลบหนี ก็ต้องจ่ายหนักไม่แพ้กัน


‘มายาร่ายรำคลื่นทำลายล้างสังหาร’ ถูกปลดปล่อยจากดาบมังกรเพลิง


ความเจ็บปวดที่เกินกว่าจะพรรณนากำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างมีร์จนดวงตาเบิกโพลง


แต่กระนั้น มุมปากของมีร์ยกขึ้น


“แล้วข้าจะรอ…”


จากนั้น มีร์อัญเชิญเปลวเพลิงของตนออกมาทาบรัศมีเขตแดนพายุเพลิงเทพ


เป็นไฟที่ผสมผสานกับพิษและสายฟ้า


ผลลัพธ์ก็คือ เพลิงดังกล่าวสร้างระเบิดลูกโซ่อย่างต่อเนื่องและหนักหน่วงจนกริดกับครอเกลบาดเจ็บสาหัส


ถัดจากนั้นเป็นการบุกอยู่ฝั่งเดียวของมีร์ กริดและครอเกลที่พยายามต้านทาน ถูกดับลมหายใจในเวลาต่อมา


“…หากคิดจะท้าทายเทพบนอาณาจักรฮวาน เราต้องแข็งแกร่งกว่านี้สินะ”


กริดรำพัน


เดิมที ชายหนุ่มมีเป้าหมายจะมอบอิสระให้เสือขาวและมังกรคราม จึงตัดสินใจมุ่งหน้ามายังทวีปตะวันออก


แต่ปัจจุบัน หลังจากค้นพบเป้าหมายใหม่ กริดเริ่มวางแผนอนาคตอย่างใจเย็นและมีเหตุมีผล


ในทางกลับกัน ครอเกลประทับใจมีร์เป็นอย่างมาก


‘สู้กันไม่ถึงสามสิบนาที แต่เรากลับได้รับค่าอ่านใจขั้นสูงถึงสองแต้ม… ไวมาก… ถึงจะสูญเสียค่าประสบการณ์และเลเวล แต่ก็คุ้มค่าที่จะแลกกับการพัฒนาค่าสถานะ’


ถึงจะเป็นวิถีที่มุทะลุ แต่ครอเกลไม่เคลือบแคลงเลยว่า การสู้กับมีร์จะช่วยให้ตนเติบโตได้รวดเร็วที่สุด


คนหนุ่มทั้งสองอาจมีเป้าหมายแตกต่างกัน แต่ผลลัพธ์นั้นเหมือนกัน


พวกเขาจะพัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดด


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,861
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00