จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,377
ก่อนไปหา ‘มังกรจอมเขมือบ’ ไรเดอร์ส กริดพยายามติดต่อกับซิกเฟรคเตอร์
จุดประสงค์เพื่อขอให้อีกฝ่ายมาเป็นผู้ส่งสาร
ชายหนุ่มเชื่อว่าตนจะได้รับการตอบสนองในเชิงบวก เมื่อคำนึงจากเป้าหมายสูงสุดที่อีกฝ่ายปรารถนา
แต่น่าเสียดาย เป็นเพราะซิกเฟรคเตอร์เข้าสู่ห้วงนิทราอันยาวนานนับตั้งแต่กลับจากการเยือนอาณาจักรฮวาน กริดจึงไม่สามารถติดต่อได้
> ฉันคิดว่าพวกอาณาจักรฮวานเล่นตุกติก
ซีบาล ผู้เล่นที่คอยประสานงานให้กริด คลางแคลงเจตนาของเทพฝั่งตะวันออก
> พวกมันพยายามเกลี้ยกล่อมให้ท่านแกรนมาสเตอร์เป็นพวก แต่เมื่อถูกปฏิเสธ อาจมีการใช้แผนชั่ว สาปให้ท่านอาจารย์ได้รับคำสาปเกียจคร้านรุนแรงขึ้น! ถ้าเป็นพวกมันต้องทำได้แน่ โดยเฉพาะฮานึล!
สมเหตุสมผล
กริดค่อนข้างเห็นใจและประหลาดใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของซีบาล
เดิมที ซีบาลไม่เคยเอ่ยถึงแกรนมาสเตอร์ว่า ‘ท่าน’ มาก่อน จะเรียกเพียงซิกเฟรคเตอร์ห้วนๆ
แต่ปัจจุบันเริ่มเติมคำแสดงความเคารพลงไป คล้ายกับนับถืออีกฝ่ายมากขึ้นหลังจากได้ใช้เวลาร่วมกัน
แบบเดียวกับกริดและข่าน ครอเกลและคิรินัส
> …เดี๋ยวก่อน นายจะสนใจทำไมว่าฉันเรียกใครแบบไหน? อะแฮ่ม! กลับเข้าเรื่อง พักหลังมานี้แกรนมาสเตอร์ตื่นน้อยลงมาก แถมช่วงเวลาก็ยังไม่แน่นอน ในกรณีที่แย่ที่สุด เขาเคยหลับไปนานถึงหนึ่งเดือนเต็ม แม้แต่ฉันที่เฝ้าทั้งวันก็ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับเขาแม้แต่คำเดียว… อะไรนะ? จะให้พาไปยังอาณาจักรโอเวอร์เกียร์? ทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าเขาออกจากที่ซ่อนตัวซึ่งสร้างมาเพื่ออำพรางสายตาเทพ เซราทุลจะตามล่าเขา ทั้งนายและฉันก็จะบรรลัยกันหมด
กองกำลังฝั่งซิกเฟรคเตอร์เองก็กำลังแย่สินะ…
นับตั้งแต่ออกจากจักรวรรดิ พวกมันถูกสาวกของ ‘เทพสงคราม’ เซราทุลไล่ล่าสุดขอบโลก
ในอดีต ‘ซาฮารัน’ ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิเคยมอบ ‘ผนึก’ ที่ช่วยปกปิดตัวตนจากเซราทุลให้ซิกเฟรคเตอร์ แต่ผนึกดังกล่าวหยุดทำงานหลังจากซิกเฟรคเตอร์ทรยศจักรวรรดิ
ไม่มีใครทราบว่ากลไกเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรก หรือคนของจักรวรรดิทำลายผนึกภายหลัง
แต่กริดเดาว่าน่าจะเป็นอย่างแรก เพราะบาซาร่าคงไม่อยากเป็นศัตรูกับซิกเฟรคเตอร์สักเท่าไร
> ไม่ต้องห่วง นายรอไปก่อน ฉันจะคอยเฝ้าแกรนมาสเตอร์ให้ ถ้าเขาตื่นจะติดต่อไปหาทันที… อะไรนะ? ทำไมฉันถึงใจดีกับนายขนาดนี้? เหลวไหล! ฉันเป็นคนดีมาตั้งนานแล้ว! นอกจากนั้น หลังจากได้เห็นฉากของเทวทูตนั่นในทีวี… ฉันโกรธมาก และเริ่มเข้าใจว่าทำไมท่านแกรนมาสเตอร์ถึงอยากทำสงครามกับสวรรค์… ดังนั้น ฉันจะสนับสนุนนาย พวกเราจะไปถล่มแอสการ์ดด้วยกัน
ซีบาล อัศวินจักรกลเวทมนตร์คนเดียวที่ยังหลงเหลือ
เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นพรสวรรค์ที่ขาดไม่ได้สำหรับแผนการของกริด
แผนสร้างจักรกลเวทมนตร์ไว้ทำสงคราม
กริดเล็งเห็นว่า ซีบาลเองก็ต้องการตน มากพอๆ กับที่ตนต้องการเขา
> นอกจากนั้น ท่านแกรนมาสเตอร์เคยบอกให้ฉันเตือนนายเรื่องหนึ่ง จงฟังให้ดี… หากต้องการปลดผนึกของมังกรครามและเสือขาว นายควรเริ่มที่มังกรครามก่อน
> แน่ใจนะว่าฟังไม่ผิด? ผู้พิทักษ์ดาบหนักมังกรครามคือยังบันที่เก่งที่สุด ฉันต้องไปสู้กับเจ้านั่นก่อน? มีเหตุผลรองรับไหม?
> ท่านแกรนมาสเตอร์พูดแบบนี้ไม่ผิดแน่ ฉันไม่ได้ยินอะไรมากกว่านี้แล้ว… ฟังเขาดีกว่านะ
> อืม…
กริดมิอาจเพิกเฉยต่อคำแนะนำของซิกเฟรคเตอร์
ชายหนุ่มค่อนข้างมั่นใจว่าซิกเฟรคเตอร์คือมิตรแท้ และอีกฝ่ายไม่เคยพูดผิด
ถัดมาไม่กี่วัน กริดพบสาเหตุที่ซิกเฟรคเตอร์กล่าวเช่นนั้น
“ประตูสู่อาณาจักรปาเปิดออกแล้ว”
ย้อนกลับไปในอดีต เมื่อครั้งกริดเดินทางมาเยี่ยมกษัตริย์ชิงและโชเพื่อเฟ้นหาภัตตาคารเลิศรส กษัตริย์ชิงและโชต่างกล่าวในสิ่งหนึ่งตรงกัน
“ประตูอะไร?”
“เมื่อไม่กี่วันก่อน แสงสวรรค์สาดส่องลงมาจากฟากฟ้า อีกาและนกกางเขนรวมตัวกันสร้างสะพานนกกางเขน”
“สะพานนกกางเขนทอดยาวไปตามแสงสวรรค์ พาดผ่านจากคายาไปถึงปา หมายความว่าประตูที่เชื่อมต่อระหว่างคายาและปาถูกเปิดออกแล้ว… นี่คือเรื่องเล่าจากตำนาน แต่ว่า…”
กษัตริย์ชิงและโชเคยประจักษ์ตำนานด้วยตาตัวเอง ไม่มีทางที่พวกมันจะลบหลู่
กริดก็เช่นกัน ชายหนุ่มคือตำนานและเทวตำนานเดินได้ มีหรือที่จะไม่เชื่อเรื่องตำนาน
‘หมายถึง… วาร์ปเกตที่เชื่อมต่อระหว่างสองอาณาจักร?’
การที่สะพานนกกางเขนทอดยาวจากอาณาจักรคายาไปถึงปา สามารถตีความได้ว่า วาร์ปเกตจากอาณาจักรคายาไปหาปาถูกเปิดใช้งานแล้ว
ได้ยินเช่นนั้น กริดทราบทันทีว่าทำไมซิกเฟรคเตอร์ถึงแนะนำให้ตนไปที่อาณาจักรคายาก่อน
‘ถ้าเราเล็งโจมตีอาณาจักรปาก่อนเพราะมองว่าอ่อนแอกว่า มีร์จะวาร์ปมาจากคายาและจัดการเรา’
ปัจจุบัน อาณาจักรฮวานสูญเสียเทพผู้พิทักษ์ไปแล้วสองจากสี่ตน พวกมันย่อมไม่ปล่อยให้อีกสองตนถูกคลายผนึกได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อทราบข่าวว่ากริดกลายเป็นเทพ
การเปิดวาร์ปเกตระหว่างสองอาณาจักรคือหนึ่งในมาตรการป้องกัน
“ยังบันจากอาณาจักรปา วาร์ปมาคายาผ่านเกตได้ไหม?”
“ไม่ได้ เว้นเสียแต่สะพานนกกางเขนจะยื่นออกมาจากทั้งสองฝั่ง แต่ในความเป็นจริง สะพานนกกางเขนทอดจากคายาไปหาปาเท่านั้น”
‘เรากำลังถูกท้าทายสินะ…’
กองกำลังฝั่งอาณาจักรปาจะได้รับการสนับสนุนจากคายา แต่ฝั่งคายาจะไม่ได้รับจากปา คล้ายกับกำลังท้าทายให้ตนบุกไปทางอาณาจักรคายาก่อน
หรือไม่ก็ พวกมันมั่นใจว่าเราไม่กล้าบุกไปตั้งแต่แรก?
‘…น่าจะอย่างแรก’
ยังบันที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์
ชายหนุ่มทราบดีว่าอีกฝ่ายทะนงตนมากเพียงใด แม้จะไม่เคยพบหน้าก็ตาม
มีร์
ยังบันผู้โด่งดังคนนี้แข็งแกร่งขนาดไหน?
เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์สูงสุดในหมู่ยังบันและมิได้เกียจคร้านแบบการัม
สอบซือโหยวได้คะแนนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ศึกษาศิลปะการต่อสู้ทุกแขนงอย่างลึกซึ้ง
เหนือสิ่งอื่นใด มีร์สามารถใช้พลังของสี่เทพผู้พิทักษ์ได้พร้อมกัน
นั้นคือทั้งหมดที่กริดทราบ
ลำพังข้อมูลเท่านี้ ชายหนุ่มเดาได้ไม่ยากว่ามีร์แข็งแกร่งกว่าการัมหลายเท่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมั่นใจในตัวเอง
‘เราจะไม่มีโอกาสชนะเลยหรือ…’
กริดลองนึกภาพการดวลกับการัมแบบตัวต่อตัว
มันอยากทราบว่า หากต่อสู้กับอีกฝ่ายโดยไม่มีปัจจัยภายนอกมาเกี่ยวข้อง ตนจะเอาชนะการัมได้ไหม
กริดที่เคยดวลกับการัมหลายครั้ง สามารถจำลองสถานการณ์ได้รวดเร็ว
‘ยังมีบางครั้งที่เราแพ้…’
หากสู้กับสิบครั้ง ชายหนุ่มไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้ทั้งหมด
การต่อสู้มักมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอ และเหนือสิ่งอื่นใด การัมมีค่าสถานะสูงเข้าขั้นสัตว์ประหลาด
กริดเชื่อว่าตนจะชนะได้ราวๆ แปดถึงเก้าครั้ง
มันยังไม่แน่ใจว่ามีร์แข็งแกร่งกว่าการัมกี่เท่า แต่ก็ไม่อยากปักใจเชื่อว่าตนจะพ่ายแพ้แบบหมดทางสู้
และต้องไม่ลืมว่า กริดแข็งแกร่งมาก ไม่สิ เรียกว่าแข็งแกร่งขึ้นจากตอนที่สู้กับการัมในอดีตมาก
‘คุ้มค่าที่จะลองเสี่ยง…’
ความมั่นใจแปรผันตรงกับการกระทำ
หลังจากเสร็จสิ้นวัฏจักรนักชิมและการเยือนหอแห่งปัญญา กริดหมกตัวเก็บเลเวลอย่างบ้าคลั่งอยู่พักหนึ่ง สามารถยกระดับตัวเองและสัตว์เลี้ยงขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด จึงค่อยคิดเรื่องการเดินทางมายังทวีปตะวันออก
นอกจากนั้น เป็นเพราะครอเกลกำลังออกอาละวาด กริดจึงตัดสินใจลงมือในช่วงเวลานี้
‘…คงต้องสำรวจลาดเลาจนกว่าครอเกลจะกลับมา’
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ข้อความโลกเพิ่งแจ้งเตือนว่าครอเกลสังหารยังบันไปสองตน ป่านนี้คายาคงกำลังวุ่นวายโกลาหล
‘ที่นี่คือคายาสินะ…’
ณ ค่ำคืนที่กริดมาถึงคายา เส้นทางค่อนข้างทุลักทุเล ทุกจุดสำคัญมีการตั้งด่านตรวจคนเข้าออก ภูเขาและแม่น้ำเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ดุร้าย คนธรรมดาไม่มีทางเข้ามาได้ เรียกว่าถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
ขณะข้ามกำแพง เส้นผมสีเงินของกริดสะท้อนแสงยามราตรีจนส่องประกายระยิบระยับราวกับทางช้างเผือก
แม้จะถูกรายล้อมด้วยทะเลทราย แต่กลางคืนของคายาค่อนข้างสว่าง ภายในเมืองมีหิมะตกตลอดทั้งวัน
ดวงจันทร์มีขนาดใหญ่และอยู่ใกล้เส้นขอบฟ้ามาก ส่วนดวงดาวก็สว่างกว่าที่อื่น
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศยังไม่สว่างพอจะมองเห็นได้ไกลนัก กริดอาศัยความคล่องตัวลอบเข้าเมืองอย่างลับๆ
ชายหนุ่มกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับเงามืดใต้กำแพงหิมะ เร่งฝีเท้ามุ่งหน้าไปทางปราสาทใจกลางเมือง
มีร์และดาบหนักมังกรครามอยู่ที่นั่น
หากโชคดี กริดอาจขโมยศาสตราเทพได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว
แต่ขณะกำลังเร่งฝีเท้า ชายหนุ่มชะงักร่างกายกะทันหัน
บุคคลผู้หนึ่งกำลังยืนขวางทาง ฉากหลังเป็นดวงจันทร์ขนาดมหึมาที่แตะเส้นขอบฟ้าพอดิบพอดี
ร่างดังกล่าวหันหน้าเข้าหากริด หันหลังให้ดวงจันทร์
เนื่องจากบรรยากาศค่อนข้างมืด ใบหน้าจึงถูกเงาดำปกคลุมจนมองไม่เห็นชื่อตัวละคร
แต่กระนั้น กริดสามารถรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณ
นี่คือมีร์
ยังบันที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ บุคคลที่แม้แต่การัมยังอิจฉาในพรสวรรค์
“ข้าอยากพบเจ้ามานานแล้ว… กริด”
“…!”
เป็นเสียงแผ่วเบาที่กระจ่างใส
กริดตกตะลึงกับคำทักทายแสนสุภาพจนผงะไปครู่หนึ่ง
“พลังเทพของเจ้าค่อนข้างพิเศษ เกิดจากความปรารถนาอย่างแรงกล้าของผู้คนจำนวนมาก… ถึงเผ่าพันธุ์จะยังเป็นมนุษย์ แต่กลิ่นอายของเจ้าไม่ต่างจากฮานึลหรือเทพทั้งสี่มากนัก ข้าจึงตรวจพบได้ง่าย… หากต้องการอำพรางตัวตนให้มิดชิด เจ้าต้องมีทักษะทางด้านนี้โดยเฉพาะ”
“…มาทักทายด้วยตัวเองเลยหรือ เป็นมิตรจังนะ”
กริดมิอาจสัมผัสถึงจิตสังหารจากมีร์ นั่นยิ่งทำให้กังวล
เมื่อไม่ทราบเจตนาของอีกฝ่าย สถานการณ์ก็ยิ่งรับมือได้ยาก
“ข้าขอทดสอบว่าเจ้ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะนำดาบหนักมังกรครามไปหรือไม่”
นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป มีร์ไม่หลงเหลือความอ่อนโยน
ยังบันที่แข็งแกร่งที่สุดเริ่มก้าวมาข้างหน้า ส่วนกริดส่งตัวเองเข้าสู่โลกแห่งเหนือมนุษย์ที่แท้จริง
ทุกครั้งที่สองคมดาบปะทะกัน กำแพงเมืองพลันสั่นสะเทือนหนักหน่วง หิมะที่กองสุมด้านบนแปรสภาพเป็นพายุหิมะพัดกระจัดกระจาย
ท่ามกลางแสงจันทร์ สีหน้าของกริดทวีความหม่นหมอง
ดวงตามีร์ลุกวาวเล็กๆ ขณะโยกตัวหลบเวทมนตร์ที่กริดแอบใช้งาน
การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้น แต่กริดกลับรู้สึกยาวนานราวกับชั่วนิรันดร์
“แฮ่ก… แฮ่ก…”
หลังจากดวลกันสิบกว่ากระบวนดาบ มีร์กล่าวกับกริดที่กำลังหายใจหอบ
“เจ้าแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ยังไม่พอ”
พื้นดินในจุดที่กริดยืนพลันสั่นสะเทือนและแปรสภาพ
ชายหนุ่มทราบทันทีว่าที่คือพลังใด
เทพธรณี
จากนั้น ร่างกายมีร์ถูกสายฟ้าห่อหุ้มและย้ายมาโผล่ตรงหน้ากริดในพริบตา
เทพอสนี
ชายหนุ่มกระอักเลือดคำใหญ่พร้อมกับเกลือกกลิ้งไปพื้นหิมะอย่างสิ้นท่า
‘พ่ายแพ้ตั้งแต่เริ่ม…?’
แข็งแกร่งเกินไป
เป็นระดับที่กริดไม่เคยจินตนาการถึงมาก่อน
ขณะชายหนุ่มผู้ยังไม่หยุดไอเป็นเลือด ฝืนพยุงร่างกายขึ้น
“นายใจร้อนเกินไป”
ในวินาทีนั้น อริยดาบครอเกลปรากฏกายที่ด้านข้าง
Comments
Post a Comment