จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,388
ริ้วแสงหลากสีสันที่หักเหผ่านแผ่นกระจกสีฉูดฉาด กำลังฉาบลงบนผิวของเทวรูปรีเบคก้าจนดูงดงามอย่างน่าอัศจรรย์
เป็นภาพที่ทั้งศักดิ์สิทธิ์และวิจิตรตระการตา
แต่นักบวชที่กำลังคุกเข่าอยู่ด้านล่างมิได้เผยสีหน้าปลาบปลื้ม เพียงเงยศีรษะอย่างเย็นชาก่อนจะถอดมงกุฎและลุกขึ้นยืน
การสวดวิงวอนครั้งสุดท้ายเมื่อครู่ ถือเป็นจุดสิ้นสุดความศรัทธาของมัน
เมฆครื้มปรากฏบนท้องฟ้าที่กำลังสาดสายฝนโปรยปราย
เมฆบดบังแสงสว่าง ความมืดกำลังปกคลุมทุกซอกมุมของวิหาร
เมื่อสิ้นเสียงฟ้าร้อง สายฟ้าสีเงินสว่างวาบ
บนหน้าจอปรากฏภาพใบหน้ามุมใกล้ของเทวรูปเทพธิดารีเบคก้า
เงาที่เกิดจากความมืดช่วยลบเลือนรอยยิ้มของเธอ
กลิ่นอายความเมตตาเริ่มเลือนหาย เหลือเพียงความเย็นชาอันหนาวเหน็บ
คล้ายกับรีเบคก้ากำลังมองแผ่นหลังของนักบวชที่เดินจากไปพร้อมกับทิ้งมงกุฎและดาบ
ถึงกระนั้น นักบวชมิได้สั่นสลอนหรือลังเล ยังคงเดินต่อไปด้วยจิตใจมั่นคง
ทางเดินของมหาวิหารค่อนข้างยาว
ทุกย่างก้าวจะค่อยๆ ขจัดเมฆดำบนท้องฟ้าทีละนิด
เมื่อเดินมาถึงด้านนอก นักบวชมองเห็นดวงอาทิตย์ขนาดมหึมาที่คล้ายกับกำลังรอต้อนรับและมอบพรใหม่ให้ตน
“…”
นักบวชค่อยๆ ปลดกระดุมชุดคลุม
เมื่อถอดชุดคลุมยาวสีขาวโพลนที่เป็นสัญลักษณ์ของเทพธิดารีเบคก้าเสร็จ มันสวมชุดเกราะเข้าไปแทน
เป็นชุดเกราะที่สลักสัญลักษณ์ดาบและค้อน
‘กล้อง’ ด้านข้างหันมาและจับภาพรูปลักษณ์ใหม่ลงบนหน้าจอตั้งแต่หัวจรดเท้า
ขณะมองกล้อง คำบรรยายปรากฏอยู่ด้านล่างสุดของหน้าจอ
ดาเมี่ยน ผู้นำแห่งศาสนจักรเทพโอเวอร์เกียร์
***
วิดีโอเปิดตัวการแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่หกกลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลก
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงนักหากจะกล่าวว่า สันตะปาปาคือสัญลักษณ์ของมหาอำนาจที่ผู้เล่นทุกคนต่างอิจฉา
แต่ดาเมี่ยนกลับยอมละทิ้ง และเปลี่ยนไปเป็นผู้นำของโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์แทน
ใครหลายคนต่างพากันส่งเสียงโห่ร้องยินดีเมื่อดาเมี่ยน ผู้เล่นที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนี้ มีบทบาทเป็นตัวเอกในฉากปิดท้ายของวิดีโอโปรโมตงานแข่ง
ไม่เพียงเท่านั้น ท่ารำดาบอันสง่างามของดาเมี่ยนยังได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
หลังจากการแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่ห้าจบลง กริดยังคงยืนกรานจะไม่เข้าร่วมแข่งในครั้งที่หก
ใครหลายคนจึงอยากเห็นวิชาดาบของกริดอีกครั้ง
ท่วงท่าโจมตีซึ่งมาพร้อมทำลายอันหนักหน่วง และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการคว้าแชมป์รายการ PVP นับตั้งแต่ซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่หนึ่ง ไปจนถึงการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรที่จบลงอย่างยิ่งใหญ่
ดาเมี่ยนจะส่งต่อความรู้สึกนั้นได้มากน้อยแค่ไหน?
『เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ดาเมี่ยนยอมสละตำแหน่งสันตะปาปาของโบสถ์รีเบคก้าเพื่อมาเป็นผู้นำของโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์ ผมคิดว่าพวกเรากำลังจะได้ทราบคำตอบกันในอีกไม่ช้านี้ครับ』
『สถานะหรือคลาสของผู้นำโบสถ์โอเวอร์เกียร์มีจะพลังอำนาจมากแค่ไหนกันแน่ครับ? ผู้คนคาดหวังว่าดาเมี่ยนจะได้รับพรคุ้มครองอันยิ่งใหญ่จากอันดับหนึ่งของโลกอย่างกริด แต่นั่นจะเป็นความจริงแน่หรือ? 』
『แน่นอนครับ สำหรับปีนี้ ผมเชื่อว่าดาเมี่ยนจะแสดงศักยภาพสูงสุดเท่าที่เขาเคยทำได้… ก็อย่างที่ทุกคนทราบ ข้อดีของโบสถ์โอเวอร์เกียร์คือการยกระดับประสิทธิภาพไอเท็มที่กริดเป็นผู้ผลิต และตัวเขาที่เป็นถึงผู้นำของศาสนา ย่อมติดอาวุธหนักที่กริดเป็นคนสร้างตั้งแต่หัวจรดเท้า เป็นไอเท็มรุ่นใหม่ที่มีวิวัฒนาการสูงสุดในโลกซาทิสฟาย』
“…พรวด!”
ดาเมี่ยนที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและกำลังดื่มนม เผลอพ่นของเหลวสีขาวออกจากจมูก
ไม่ใช่เรื่องดีนัก หากคนทั่วไปจะประเมินค่าตนไว้สูงเกินความจริง
‘ตอนนี้เรายังไม่คู่ควร… ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด’
ไม่ใช่แค่ผู้นำของโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์ แต่ขุมกำลังโดยรวมของโบสถ์ล้วนมีศักยภาพสูง ขอเพียงทำความเคยชินกับวิชาดาบให้มากพอ
และสิ่งที่นักวิเคราะห์กล่าวได้ถูกต้องก็คือ พวกตนต้องการไอเท็มสวมใส่รุ่นใหม่ล่าสุดจากกริดตั้งแต่หัวจรดเท้า
ทว่า ดาเมี่ยนในปัจจุบันยังไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียว
มันมีแค่ท่ารำดาบผสานสองชนิด ส่วนไอเท็มที่มีก็เป็นดาบและชุดเกราะที่เคยซื้อจากกริดในอดีต และโล่ที่ได้รับเป็นของขวัญเมื่อปีที่แล้ว
ความคาดหวังของผู้คนที่อยากจะเห็นดาเมี่ยนเฉิดฉายในงานแข่ง นับว่ายังห่างไกลจากความเป็นจริง
“ในตอนแรก พวกเขาไม่ได้บอกว่ามันจะออกมายิ่งใหญ่ขนาดนี้…”
ดาเมี่ยนแค่รู้สึกว่าการถ่ายทำนานกว่าปรกติเล็กน้อย แต่ไม่คิดว่าจะเป็นฉากปิดสุดอลังการของวิดีโอโปรโมต
ไม่ใช่ว่านี่คือครั้งแรกหรอกหรือ ที่ตัวเอกในวิดีโอโปรโมตไม่ใช่ทั้งครอเกลและกริด?
‘ทำไมเขาถึงต้องทำให้เราโดดเด่นขนาดนี้? ยังมีจิสึกะกับคริสอยู่ไม่ใช่หรือ ทำไมต้องเป็นเรา…?’
คงเป็นผลพวงจากกริดกระมัง…
ผู้คนสนใจเทพโอเวอร์เกียร์มากกว่าที่เราจินตนาการไว้สินะ…
ดาเมี่ยนถอนหายใจพลางครุ่นคิด
แต่ในความเป็นจริง ดาเมี่ยนกำลังประเมินค่าตัวเองต่ำเกินไป
จริงอยู่ การปราบอดีตสันตะปาปาเดรวิโก้คือผลงานของกริด แต่การได้เป็นอัครทูตแห่งเทพธิดา ก็เพราะดาเมี่ยนคอยมอบความศรัทธาอย่างแรงกล้าให้รีเบคก้ามาโดยตลอด
และถึงกริดจะมีส่วนช่วยให้ดาเมี่ยนกลายเป็นสันตะปาปา แต่ดาเมี่ยนจะไม่มีวันเป็นได้ หากมันไม่คู่ควรแต่แรก
นอกจากนี้ เป็นเพราะดาเมี่ยนพยายามอย่างหนักกว่าใคร โบสถ์รีเบคก้าจึงยิ่งเจริญก้าวหน้าในช่วงหลัง ถึงขั้นเกือบทำให้วิหารยาธานล่มสลาย
ดาเมี่ยนอาจไม่ทราบ แต่คนทั่วโลกเห็นดาเมี่ยนเป็นหนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่รองจากกริด อาจสูสีหรือด้อยกว่าครอเกลเพียงเล็กน้อย
แถมยังมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะ ‘ราชาอสูรซอมบี้’ จากการแข่งซาทิสฟายนานาชาติเมื่อปีก่อน
ดังนั้น หากถามถึงคุณสมบัติ ดาเมี่ยนมีค่าพอจะเป็นตัวเอกของวิดีโอโปรโมต
“เฮ่อ…”
อย่างไรก็ตาม มันยังไม่หายหดหู่ และเอาแต่ถอนหายใจเหนื่อยหน่าย
ดาเมี่ยนเพิ่งกลายเป็นผู้นำของโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์ได้ไม่นาน จึงยังมีเงินไม่มากพอจะร้องขอให้กริดผลิตไอเท็ม ความแข็งแกร่งในปัจจุบันจึงถดถอยลงจากปีที่แล้วมาก
มีโอกาสสูงที่จะทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง
บางที ทุกการแข่งที่เราเข้าร่วม อาจเป็นการทำลายเกียรติและศักดิ์ศรีของศาสนจักรเทพโอเวอร์เกียร์จนป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดี…
‘ไม่ลงแข่งดีกว่าไหม?’
ขณะกำลังคิดไม่ตกว่าตนควรลงแข่งหรือไม่ ความลังเลของดาเมี่ยนยิ่งทวีความว้าวุ่นเมื่อได้พบกับเจ้าหน้าที่จากสถานีโทรทัศน์คนนั้น
‘จริงสิ… เรายังไม่ได้ขายบ้านเลย…’
ดาเมี่ยนถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จนกระทั่งถึงจุดหนึ่ง สีหน้าของมันเปลี่ยนไปกะทันหัน
‘…เรายังต้องกังวลอะไรอีก?’
มันอาจสูญเสียพลังที่เคยครอบครองในฐานะสันตะปาปา แต่ปัจจุบันก็เป็นถึงนักบวชของโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์ผู้สืบทอดท่ารำดาบมาจากกริด
ท่ารำดาบของกริดแข็งแกร่งที่สุดเสมอ!
ดาเมี่ยนยังจดจำได้แม่นยำ
ในการแข่งนานาชาติครั้งที่หนึ่ง กริดใช้ ‘สังหาร’ เพื่อโค่นฮูเร็นภายในห้าวินาที
จริงอยู่ สำหรับทุกวันนี้ ไม่มีแรงเกอร์คนใดเสียชีวิตภายใต้ท่ารำดาบเพียงหนึ่งชนิดอีกแล้ว
แต่ถ้าหนึ่งชนิดไม่ได้ผล แล้วสองชนิดล่ะ?
ถ้าสองชนิดยังไม่ได้ผล ก็ต้องโจมตีด้วยสาม ด้วยสี่
‘นั่นสินะ… กังวลไปก็เปล่าประโยชน์’
มันยังสามารถเอาชนะได้ทุกคน
โดยเฉพาะผู้เล่นที่มาจากรายการ 55 หรือ 56 อะไรนั่น
ดาเมี่ยนไม่มีทางด้อยกว่าผู้เล่นที่ได้เข้าแข่งเพราะถูกโหวตตามความนิยม
หากยังไม่เก่งเท่ากับผู้เล่นกลุ่มนั้น สิ่งที่บกพร่องไม่ใช่คลาส แต่เป็นฝีมือของตัวเขาเอง
เมื่อดาเมี่ยนปรับทัศนคติ มันก้มหน้าฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวลงแข่งรายการแรกๆ ของงานแข่งนานาชาติ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
“แฮ่ก… แฮ่ก…”
มันสูญเสียทักษะบัฟและเวทฟื้นฟูไปจนหมด
ดาเมี่ยนผู้ไม่หลงเหลือทักษะที่ตนเคยใช้งานราวกับแขนขา เริ่มตระหนักว่าการดวลกับผู้เล่นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก โดยเฉพาะการต้องพึ่งพาเพียงทักษะติดตัวและท่ารำดาบอีกไม่กี่ชนิด
‘…นี่คือเหตุผลที่กริดเคยถูกผู้คนหัวเราะเยาะสินะ’
เป็นเพราะหลายคนคิดว่าฝีมือควบคุมของกริดห่วยแตก กริดจึงถูกหัวเราะเยาะในงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่หนึ่ง
แต่เมื่อดาเมี่ยนได้อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน มันพบว่าการควบคุมท่ารำดาบไม่ใช่เรื่องยาก แต่ยากตรงที่ทำให้เกิดความสมบูรณ์แบบ
หากตัดความสามารถในการตีเหล็กออกไป ผู้สืบทอดแพ็กม่าคือคลาสที่จะถูกจำแนกให้เป็นสายโจมตีกายภาพระยะประชิด
แต่กลับไม่มีทักษะจำพวกป้องกัน หลบหลีก และพุ่งชน แม้แต่อย่างเดียว
ท่ารำดาบอาจใช้แทนการหลบหลีก แต่ประสิทธิภาพย่อมด้อยกว่าท่าหลบหลีกที่แท้จริง
‘อาจไม่ชัดเจนในการล่ามอนสเตอร์สติปัญญาต่ำ แต่จะเป็นจุดอ่อนใหญ่หลวงขณะสู้กับผู้เล่นด้วยกัน’
แน่นอน สิ่งนี้จะค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากพัฒนาวิชาดาบผสานชนิดใหม่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ท่ารำดาบพื้นฐานของกริดค่อนข้างไร้ประโยชน์เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่น ไม่มีข้อดีอื่นใดนอกจากพลังโจมตีที่สูงจนผิดธรรมชาติ
มองรวมๆ จะพบข้อเสียมากกว่าข้อดี เพราะไม่ว่าจะรุนแรงสักเพียงใด หากโจมตีโดนเพียงอากาศก็ไร้ค่า
ขณะดาเมี่ยนกำลังยืนบนแท่นด้วยสีหน้าไม่ค่อยสดใสแม้จะมีเหรียญทองคล้องคอ เสียงเชียร์ยังคงดังกังวานมาจากทุกสารทิศ
แม้จะค่อนข้างลำบาก แต่ดาเมี่ยนก็ฝ่าฟันจนกลายเป็นที่หนึ่งจนได้
มันลงแข่งรายการฝ่าวงกตและสังหารผู้เล่นคนอื่นด้วยวิชาดาบที่ทรงพลัง
แต่ปัญหาคือ สถานการณ์ตึงมือกว่าที่คิดไว้มาก
『เอ่อ… ดาเมี่ยนได้เหรียญทองตามที่ทุกคนคิดไว้ครับ』
『จะพูดว่ายังไงดี… เขาประสบความยากลำบากในทุกศึก เป็นการต่อสู้ที่ผมไม่เห็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของดาเมี่ยนเลย』
『เห็นด้วยครับ… หากเป็นเมื่อก่อน ดาเมี่ยนจะอาศัยการควบคุมโล่อย่างชำนาญเพื่อปิดกั้นการโจมตีของคู่ต่อสู้ ตรึงอีกฝ่ายด้วยเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็ปิดฉากด้วยพลังทำลายล้างที่หมดจด แต่ว่าวันนี้… เอ่อ…』
『ยังจะพูดอะไรได้อีกล่ะครับ? คงต้องบอกว่าน่าผิดหวัง น่าผิดหวังมาก! นี่คือฝีมือของตัวเต็งในรายการ PVP จริงหรือ? ทุกวันนี้ หลายประเทศมีการวิเคราะห์สถิติและข้อมูลการต่อสู้ในเชิงลึก การ PVP ระหว่างผู้เล่นมีแต่จะยากขึ้น กระทั่งนักรบเลเวล 200 ก็ยังมีแนวทางการต่อสู้เปลี่ยนไป… ผมคิดว่าดาเมี่ยนฝีมือตกลงไปมาก เว้นเสียแต่ว่าเขาจงใจเก็บซ่อนเอาไว้… แต่ผมคิดว่าไม่ใช่แบบนั้น และดาเมี่ยนกำลังเสียใจที่ละทิ้งตำแหน่งสันตะปาปา อนาคตวันข้างหน้าของเขามีแต่จะดิ่งลงเหว』
การยืนจะอยู่บนจุดสูงสุดและรักษาอันดับตัวเองไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ลำพังความมุ่งมั่นและทะเยอทะยานยังไม่พอ
ใครหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าดาเมี่ยนอิ่มตัวและขาดความมุ่งมั่น ส่งผลให้แสดงฝีมือได้ไม่ดีนัก
***
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์กำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมพิธีฉลองบรรลุนิติภาวะขององค์ชายรัชทายาท ลอร์ด
“เกิดขึ้นจนได้สินะ”
นากยกรัฐมนตรีลอเอลได้รับข่าวที่ไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไร
มีการก่อกบฏตามจุดต่างๆ ภายในอาณาจักรออร์ค เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เหนือความคาดหมายมากนัก
เดิมที ออร์คเป็นสิ่งมีชีวิตโบราณที่อาศัยแยกตัวเป็นเผ่า แต่เทรูชาน ออร์คลอร์ดตนใหม่ต้องการสร้างอาณาจักรออร์คให้เป็นปึกแผ่น และด้วยความช่วยเหลือจากกริด แผนการดังกล่าวจึงลุล่วงไปด้วยดี
ทว่า ขุนนางออร์คส่วนมากกลับมองกำแพงอาณาจักรเป็นคุกมากกว่ารั้ว
ในสังคมแบบชนเผ่า พวกมันสามารถปกครองออร์คบริวารได้เยี่ยงราชา แต่ในสภาพแวดล้อมอาณาจักร พวกมันถูกผูกมัดไว้ด้วยกฎหมายและข้อบังคับ เป็นเรื่องปรกติที่จะเกิดความอึดอัด
เมื่อความไม่พอใจของเหล่าขุนนางออร์คก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ ผู้เล่นเผ่าออร์คจึงฉวยโอกาสหาผลประโยชน์
เนื่องจากผู้เล่นมีจำนวนมากเกินไป จึงยากแก่การติดตามและเฝ้าระวังรายบุคคล
‘พวกมันคงเล็งเวลานี้ไว้’
ปัจจุบัน เหล่าขุนพลของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ต้องไปแข่งนานาชาติ จึงไม่สามารถปรากฏตัวได้สักพัก ขณะเดียวกันก็ยังเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายเนื่องจากต้องจัดเตรียมพิธีฉลองการบรรลุนิติภาวะขององค์ชายลอร์ด ส่งผลให้เป็นเรื่องยากที่จะส่งกำลังคนออกไปปราบกบฏ
‘เราคงต้องเลือกปราบปรามเผ่าออร์คที่ก่อกบฏสำเร็จก่อน’
หากออร์คแยกกลับไปอาศัยแบบเผ่า ผู้เล่นออร์คจะมีอำนาจในมือมากเกินไป
ต้องไม่ลืมว่า ประชากรส่วนมากของคนกลุ่มนี้คือชาวจีน หากพวกมันขึ้นมามีอำนาจสูงในเผ่าพันธุ์ออร์ค ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคงไม่ใช่เรื่องดีต่ออาณาจักรโอเวอร์เกียร์
ขณะลอเอลกำลังขมวดคิ้วพลางคัดเลือกสมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่จะส่งไปปราบกบฏออร์ค
“ทำไมต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้น? ฉันได้ยินว่าพวกออร์คกำลังก่อกบฏ นี่ไม่ใช่ปัญหาที่เทรูชานต้องแก้เองหรอกหรือ?”
กริดเพิ่งออกจากโรงตีเหล็กหลังจากหมกตัวอยู่ในนั้นนานสามวันเต็ม สถานที่แรกที่แวะไปเยี่ยมคือห้องทำงานของลอเอล
คราบเขม่าบนใบหน้ากริดทำให้ลอเอลผู้รังเกียจสิ่งสกปรก พยายามถอยห่าง
“ตอนนี้นายไม่ใช่แค่กษัตริย์ของอาณาจักรอีกแล้ว แต่เป็นถึงเทพ ทำไมไม่รักษาภาพลักษณ์ให้ดีกว่านี้?”
“การดูเป็นมนุษย์ จะทำให้ผู้คนชื่นชอบได้มากกว่า”
ถูกเรียกว่าเทพก็จริง แต่ก็เหมือนตำแหน่งที่ได้รับพอเป็นพิธี แทบไม่มีอำนาจหรืออิทธิฤทธิ์ ไม่เหมือนกับเทพองค์อื่น…
กริดกลืนความคิดลงคอ กวาดสายตาอ่านรายชื่อในมือลอเอล
“หากเป็นไปตามที่เขียน… ฉันคิดว่าลาเอลล่ากับเซ็ดนอสทำงานหนักเกินไป”
“ช่วยไม่ได้ พวกเราต้องป้องกันเมืองหลวงอย่างรัดกุมจนกว่าพิธีบรรลุนิติภาวะขององค์ชายจะลุล่วง น่าเสียดายที่อาณาจักรของเราจนปัญญาจะเพิ่มจำนวนทหาร… ว่าแต่ นายสร้างสิ่งนั้นเสร็จแล้วใช่ไหม?”
“อา… ฉันคิดว่าดาเมี่ยนน่าจะชอบ… จริงสิ… ฉันว่าฉันไปเองดีกว่า”
“ไปไหน?”
“ไปไหน? ปราบกบฏไง”
“ไม่จำเป็น อย่าลืมว่าพิธีบรรลุนิติภาวะจะเริ่มขึ้นในอีกสามวัน”
“สามวันเหลือเฟือ”
เกิดเปิดแผนที่อาณาจักรออร์คและชี้ไปทางทิศเหนือกับใต้
“ส่งพวกเด็กๆ ไปจัดการแถบนี้… ที่เหลือของฉัน”
“…นายแยกได้สิบร่างรึไง?”
ในเขตที่กริดบอกว่าจะรับผิดชอบ บริเวณดังกล่าวมีจุดการก่อกบฏทั้งหมดสี่สิบสามแห่ง
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะปราบให้ครบภายในสามวัน เว้นเสียแต่กริดจะแยกได้สิบร่าง
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มยังคงทำตัวผ่อนคลาย
“ช่วงนี้สายตาดีเป็นพิเศษ”
“…?”
“เอาน่า ไม่ต้องห่วง ฉันกลับมาทันแน่นอน แล้วอย่าลืมส่งไอเท็มให้ดาเมี่ยนด้วย”
“เดี๋ยว… ฝ่าบาท! เฮ้! ไม่ใช่เวลาที่นายจะทำตัวแบบนี้!”
ลอเอลที่พยายามห้ามกริด ตื่นตระหนกจนพูดราชาศัพท์สลับกับคำปรกติ
แต่ก็เปล่าประโยชน์ กริดหัวเราะชอบใจกับท่าทีแตกตื่นของอีกฝ่าย ก่อนจะย่างกรายเข้าไปในวาร์ปเกต
______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,874
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ
191
ReplyDelete