จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,144



‘หมาอยู่ไหน?’


หลังจากตระหนักว่าตนขว้างเนื้อย่างช้ากว่าคำสั่งบราฮัม กริดหันมองเข้าไปในห้องบอสด้วยสีหน้าลังเล


‘เพราะห้องมืดเกินไป?’


กริดยังคงมองไม่เห็น ‘หมา’ ตามคำบอกเล่าของมหาจอมเวทในตำนาน


‘ไหนเขาบอกว่าจะมีหมาวิ่งออกมาจู่โจม? แล้วทำไมถึงเงียบขนาดนี้?’


เฟนเรียร์จะนำหมาไว้ในห้องนี้เสมอ


บราฮัมกล่าวไว้เช่นนั้น และกริดก็เชื่อข้อมูลโดยไม่เคลือบแคลง


‘ช่างแม่มสิ!’


กับแค่เนื้อย่างเสียบไม้ชิ้นเดียว การมัวลังเลอาจทำให้การใหญ่เสียหาย


หลังจากครุ่นคิดหนึ่งอึดใจ กริดเตรียมขว้างเนื้อย่างเสียบไม้ออกไปให้ไกลจากปากทางเข้า


“ไม่มีค่ะ ฝ่าบาท”


เป็นเสียงของเมอร์เซเดส ดวงตาอันงดงามของเธอกำลังส่องประกายแวววาว


“ไม่มีสุนัขตามคำบอกของท่านบราฮัม”


“…!?”


เมอร์เซเดสเป็นผู้ครอบครองเนตรมองทะลุ


ไม่ว่าจะมืดมิดเพียงใด แต่ก็ไม่มีใครหลบซ่อนจากสายตาของเธอได้


ในทางกลับกัน ข้อมูลของบราฮัมเป็นสถิติจากหลายร้อยปีก่อน นับว่าค่อนข้างเก่า


หากต้องเลือกเชื่อระหว่างเมอร์เซเดสผู้รอบคอบและมีพลังมองเห็นทุกสิ่ง กับข้อมูลเก่าคร่ำครึของบราฮัม


กริดตัดสินใจได้ทันที


‘หรือหมาตัวนั้นจะซุ่มโจมตีอยู่ข้างนอก?’


เมื่อราชาโอเวอร์เกียร์ตระหนักว่าแผนการผิดพลาดตั้งแต่ยังไม่เริ่ม มันหันไปมองบราฮัมด้วยสายตาขอคำปรึกษา


ขณะเดียวกัน ใบหน้าบราฮัมกำลังบิดเบี้ยวราวกับกระดาษถูกขยำ หลังจากมันได้ยินคำยืนยันจากปากเมอร์เซเดส บราฮัมรีบตรวจจับหาหมาป่าด้วยพลังเวทมนตร์เพื่อความมั่นใจ


“หืม… ไหนบอกว่าหมาป่าตัวนั้นเป็นสหายทางวิญญาณของนาย ตอนนี้ไปไหนเสียแล้ว? ละทิ้งเจ้านายในยามวิกฤติหรือ”


“ฮาจิกะไม่ได้ทิ้งข้าไป”


“…”


“แต่ฮาจิกะ… ตายแล้ว”


“…!”


กริดและสมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างแสดงสีหน้าโล่งใจเป็นล้นพ้น


สุนัขซึ่งบราฮัมกังวลหนักหนา ปัจจุบันไม่มีชีวิตอยู่คอยเป็นเสี้ยนหนามอีกต่อไป


สิ่งนี้หมายถึง โอกาสเอาชนะเฟนเรียร์เพิ่มขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัว


แน่นอน มันควรเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมาก


แต่บราฮัมกลับยังมีสีหน้าอึมครึม แถมขยับถอยหลังเว้นระยะห่างจากเฟนเรียร์มากขึ้น ราวกับกำลังหนักใจในบางสิ่ง


‘เขาเป็นอะไรไป?’


กริดและทุกคนเกิดคำถาม


“อ๊ะ!”


โนลล์โพล่งเสียงหลง คล้ายฉุกคิดบางสิ่งได้


เมื่อกริดหันไปส่งสายตาเชิงถาม โนลล์รีบอธิบายให้ทุกคนฟัง


“สาเหตุทำให้เวทมนตร์ของบราฮัม ไม่มีผลกับฮาจิกะในอดีต อาจเป็นเพราะคุณลักษณะพิเศษ ‘ปกครอง’ ของเฟนเรียร์”


“คุณลักษณะพิเศษปกครอง?”


“เป็นพลังสำคัญซึ่งเฟนเรียร์สืบทอดมาจากท่านแม่เบริอาเช่โดยตรง ภายใต้อำนาจปกครองอันทรงพลัง ศัตรูจะมิอาจใช้เวทมนตร์และทักษะกับเฟนเรียร์ได้ แต่เนื่องจากเขาห่วงความปลอดภัยของฮาจิกะมากกว่า จึงมอบคุณลักษณะปกครองให้หมาป่าแทน…”


“และเมื่อฮาจิกะตาย คุณลักษณะพิเศษ ‘ปกครอง’ ก็กลับมาอยู่กับเฟนเรียร์ตามเดิม?”


“ถูกต้อง ทฤษฎีดังกล่าวสอดคล้องกับอากัปกิริยาแปลกประหลาดของบราฮัม”


“…หมายความว่า พวกเราใช้เวทมนตร์และทักษะกับเฟนเรียร์ไม่ได้แล้ว?”


สีหน้ากริดและปาร์ตี้เริ่มอึมครึมตาม


การตายของหมาป่า ซึ่งน่าจะเป็นผลดี แต่กลับทำให้สถานการณ์เลวร้ายสุดขีด


‘โลกนี้มีพวกงี่เง่าเต็มไปหมด…’


กริดขมวดคิ้วพลางก้มมองอาวุธซึ่งวางเกลื่อนกลาดเต็มพื้นห้องบอส


ไม่ผิดแน่… ไอเท็มดรอปจากการตาย


เมื่อไม่นานมานี้ คริสแจ้งว่ามีใครบางคนฆ่าทหารยามหน้าเมืองเฟนเรียร์ แต่โชคยังดีว่าทั้งหมดเป็นนักโทษ


‘พวกมันฆ่าหมาไปแล้ว?’


ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว


กาลเวลายุติธรรมกับทุกคนเสมอ


กริดแข็งแกร่งได้ โอเวอร์เกียร์แข็งแกร่งได้ แรงเกอร์คนอื่นก็ทำได้เช่นกัน


เซ็ดนอสหันไปถามโนลล์


“แม้แต่เวทมนตร์ทรงพลังของบราฮัม ก็ทะลวงผ่านคุณลักษณะปกครองไม่ได้เลยหรือ”


“ไม่ใช่เพราะพลังทำลายไม่มากพอ แต่ปัญหาอยู่ตรงสูตรเวทมนตร์ หากสูตรเวทมนตร์ไม่ซับซ้อน คุณลักษณะปกครองจะสลายเวทมนตร์ทิ้ง อย่างไรก็ตาม ยิ่งเวทมนตร์ระดับสูง ก็จะยิ่งใช้เวลาร่ายนานเป็นเงาตามตัว”


“แม้จะเป็นท่านบราฮัม แต่การร่ายเวทมนตร์ระดับสูงก็ยังต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสิบวินาที…”


สำหรับผู้เล่นทั่วไป การร่ายเวทมนตร์มนตร์ระดับสูง เคยมีสถิติบันทึกไว้ว่าเร็วสุด 20 วินาที แต่ค่าเฉลี่ยส่วนใหญ่คือหนึ่งนาที


หรือก็คือ การร่ายเวทมนตร์ชนิดดังกล่าวให้เสร็จภายใน 10 วินาทีถือเป็นเรื่องสุดน่าทึ่ง


ทว่า เฟนเรียร์ไม่ใช่บอสกระจอก สิบวินาทียังถือว่านานเกินไป


และเหนือสิ่งอื่นใด ต้องอย่าลืมว่า ค่าพลังทางกายภาพของแวมไพร์มาร์ควิส อยู่คนละมิติกับมนุษย์โดยสิ้นเชิง


เฟนเรียร์ไม่ปล่อยให้บราฮัมร่ายจบแน่


หากเป็นบราฮัมคนก่อน คงสามารถร่ายมนตร์ไปพร้อมกับป้องกันตัวเองได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ไม่ใช่กับบราฮัมสภาพปัจจุบัน


“หมายความว่า พวกเราทุกคนมีศึกหนักรออยู่สินะ… ต้องยืนหยัดปกป้องท่านบราฮัมให้ได้ เพราะการใช้เวทใหญ่ จะทำให้ไม่เหลือมานาพอสำหรับเทเลพอร์ตหลบหนี”


เมอร์เซเดสแสดงความเห็นหลังจากอ่านค่าทรัพยากรและรายละเอียดทักษะของบราฮัม


ทุกคนเห็นพ้อง


ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว


“ปกป้องบราฮัมให้ได้!”


“โอ๊ส!!”


“ทุกคนจงมีสมาธิ! ห้ามตายเด็ดขาด!”


“ขอรับ!”


เหล่าอัศวินต่างขานรับขึงขัง


พวกมันเริ่มเดินนำหน้าบราฮัมและตีวงล้อมเฟนเรียร์ในลักษณะครึ่งวงกลม


ขณะจู๊ดเตรียมโถมเข้าใส่อย่างไร้สมอง กริดรีบคว้าคอไว้และสั่งให้หยุดก่อน


- ทุกคน ฉันขอขอบคุณจากใจจริง


กริดซึ่งยืนด้านหลังสุด หันไปมองเหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์ในสภาพพร้อมรบเต็มพิกัด


อัศวินของกริดหนึ่งคนจะจับทีมกับผู้เล่นราวสี่ถึงห้าคน แต่ละคนเพ่งสมาธิเตรียมงัดทักษะออกมาใช้ให้ทันท่วงที


งานหลักของพวกมันคือการคอยสนับสนุนเหล่าอัศวิน NPC สุดแกร่งของกริด


“ทุกคนพยายามเข้า!”


ทันใดนั้น เวทมนตร์วงกว้างของนักบุญหญิงถูกสำแดงอิทธิฤทธิ์


รูบี้เริ่มใช้เวทมนตร์ขจัดคำสาปและรักษาอาการผิดปรกติ ซึ่งพวกพ้องได้รับขณะเผชิญหน้าแวมไพร์มาร์ควิสเฟนเรียร์ตั้งแต่ต้น


เมื่อแสงสว่างเริ่มอาบร่างกลุ่มผู้บุกรุก เฟนเรียร์แสยะยิ้มดูแคลนเสียเต็มประดา


“พวกมนุษย์โง่เขลา”


สำหรับผู้ปกครองเมืองแวมไพร์ เฟนเรียร์ย่อมเคยพานพบผู้บุกรุกมากมาย


ตลอดหลายร้อยปีผ่านมา มนุษย์ไร้เดียงสาจำนวนไม่น้อย พยายามยกทัพมาจำกัดแวมไพร์มาร์ควิสหนแล้วหนเล่า ไม่เว้นแม้แต่กองทัพแห่งแสงของโบสถ์รีเบคก้า


อย่างไรก็ตาม เวทชำระล้างของเหล่านักบวชรีเบคก้ากลับมิอาจขจัดคำสาป ‘สลับขั้วบัฟดี’ ของเฟนเรียร์ได้เลย และไม่ใช่แค่ลบไม่ออก แต่กลับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงมาก


มนุษย์หน้าโง่ ไม่เคยเรียนรู้ในความผิดพลาด


นั่นคือความคิดเฟนเรียร์


มันมองมนุษย์เป็นเพียงแมลงเม่า และแมลงเม่าไม่เคยจดจำว่า การบินเข้ากองไฟจะทำให้ตัวเองถึงแก่ความตาย


แวมไพร์มาร์ควิสกำลังเหยียดหยันเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำซึ่งไม่เคยพัฒนาตัวเอง


ทว่า ท่าทีแสนโอหังคงอยู่ได้ไม่นานนัก


เพราะเวทชำระล้างกลับได้ผลในคราวนี้


คำสาป ‘สลับขั้วบัฟดี’ อันตรธานหายไปอย่างน่าฉงน


“…!?”


เฟนเรียร์ผู้มีสีหน้าผ่อนคลายมาตลอด เริ่มแผ่บรรยากาศอึมครึมเป็นหนแรก


สายตาอันเย็นชาจ้องมองรูบี้ไม่กะพริบ


“เจ้าคือสันตะปาปาหรือ”


“ป…เปล่า”


รูบี้ตอบตะกุกตะกัก


ถึงจะเคยผ่านสังเวียนบอสระดับจอมอสูรมาแล้ว แต่เด็กสาวยังคงตื่นตระหนกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์บอสแข็งแกร่ง


โดยเฉพาะสายตาเปี่ยมจิตสังหารเข้มข้นซึ่งทำให้รูบี้เย็นเข้าไปถึงกระดูก เธอไม่เคยพบสายตาเช่นนี้จากจอมอสูรตนใดมาก่อน


“…ไม่ใช่พลังศักดิ์สิทธิ์ของรีเบคก้า”


หลังจากคว้าละอองแสงในอากาศมาทดสอบ เฟนเรียร์กล่าวพลางขมวดคิ้ว


นักบุญหญิง…!


เมื่อตระหนักถึงตัวตนแท้จริง แวมไพร์มาร์ควิสเริ่มสูญเสียความเยือกเย็น


เป้าหมายแรกของมันไม่ใช่บราฮัมอีกต่อไป แต่กลายเป็นนักบุญหญิง รูบี้


เคร้ง—!


กำปั้นเฟนเรียร์ซึ่งสามารถป่นกระดูกมนุษย์ให้แหลกเป็นผุยผงได้ง่ายดาย กลับถูกบางสิ่งขวางไว้จนเกิดเสียงโลหะดังกังวาน


โล่ใหญ่สองใบพุ่งเข้ามารับการโจมตีของแวมไพร์มาร์ควิสได้ทันท่วงที


เฟนเรียร์เหลือบมองเจ้าของโล่


คนหนึ่งเป็นเด็กหนุ่ม กำลังโน้มตัวกระอักเลือดคำใหญ่ด้วยสีหน้าเจ็บปวด ส่วนอีกคนเป็นบุรุษผมขาว มันกำลังยืนประคองนักบุญหญิง


ชายผมขาวไม่หลบสายตาเฟนเรียร์


แวมไพร์มาร์ควิสแสดงสีหน้าประหลาดใจ


“บราฮัม เจ้าทำได้ไม่เลว สามารถหามนุษย์พอใช้ได้ มาต่อกรกับข้าถึงสองคนเชียวหรือ”


“สองคน?”


มุมปากบราฮัมยกโค้งอย่างมีเลศนัย


ขณะเดียวกัน เหนือฝ่ามือมหาจอมเวทในตำนานกำลังปรากฏเปลวเพลิงสีดำสนิทลุกโชน


สิ่งนี้คือจุดสูงสุดของเวทมนตร์ธาตุอัคคี


ลาเอลล่าพลันอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นพลังดังกล่าวเต็มสองตา


ในฐานะผู้เล่นคลาสจอมเวทอัคคีอันดับหนึ่งของโลก เธอไม่มีทางไม่รู้จักเวทมนตร์ชนิดนี้


“เพลิงนิรันดร์…!”


เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!


ประกายไฟสีดำเริ่มลุกโชนร้อนแรง


ในวินาทีนี้ เฟนเรียร์ประเมินเป้าหมายอันดับหนึ่งของมันใหม่ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหยุดการร่ายเวทของบราฮัมให้ทัน


แต่เมอร์เซเดสไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น เธอยืนขวางทางทางแวมไพร์มาร์ควิสพร้อมกับโล่ใบใหญ่ ส่วนปิอาโร่และอัสโมเฟลล้อมโจมตีจากด้านหลัง


‘ไม่ใช่แค่สอง…’


เฟนเรียร์เริ่มหรี่ตาลง


แต่ไหนแต่ไร ลำพังพรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ก็มากพอจะทำให้แวมไพร์มาร์ควิสอย่างมัน ไม่เคยต้องเกรงกลัว ‘เทคนิค’ ของมนุษย์ระดับตำนานหรืออะไรเทือกนั้น


ทว่า หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่าไปสองสามชุด บาดแผลตามลำตัวเริ่มเพิ่มพูน ตัวมันตกเป็นฝ่ายตั้งรับโดยสมบูรณ์


‘สมรรถภาพร่างกายของเราเหนือกว่า แต่เป็นรองด้านเทคนิค’


ถึงไม่อยากยอมรับ แต่ก็ไม่มีทางเลือก


ทันใดนั้น


เปรี้ยง!


เมื่อเฟนเรียร์เริ่มเปิดฉากโจมตีด้วยเวทโลหิต อัสโมเฟล ปิอาโร่ และเมอร์เซเดส ต่างตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที


“คึ่ก!”


อัสโมเฟลซึ่งอยู่ใกล้สุด และมีพลังป้องกันตัวต่ำสุด ถูกวังวนพายุเลือดฉีกกระชาก จนได้รับบาดแผลฉกรรจ์บนท่อนแขน


เมอร์เซเดสป้องกันตัวเองด้วยโล่และปราณอัศวิน ส่วนปิอาโร่ใช้เคียวสั้นสลายเวทมนตร์ทิ้งได้ทันการ ทั้งสองจึงยังปลอดภัย แต่ก็ประสบอาการชะงักหลายวินาที เฟนเรียร์จึงฉวยโอกาสนี้ปรี่เข้าหาบราฮัม


“ตรงนี้ห้ามผ่าน!”


อัศวินทำลายล้าง ซินกูเล็ด และออร์คลอร์ด เทรูชาน รวมถึงสมาชิกโอเวอร์เกียร์ในทีมอีกสิบกว่าคน ต่างกรูเข้ามาขวางมิให้แวมไพร์มาร์ควิสเข้าใกล้บราฮัมสำเร็จ


อย่างไรก็ตาม เวทมนตร์และทักษะของพวกมันมิอาจทะลวงผ่านคุณลักษณะพิเศษ ‘ปกครอง’ ของเฟนเรียร์เข้าไปได้


“…!”


ความเงียบงันเข้าครอบงำกะทันหัน


ฉากเวทมนตร์และทักษะชนิดแล้วชนิดเล่า ถูกออร่ารอบตัวเฟนเรียร์ป่นละเอียดจนเหลือเพียงละอองแสงฟุ้งกระจาย ได้ทำให้ทุกคนตกตะลึงจนไม่มีใครกล่าวสิ่งใดออกมา


มันทั้งงดงามและน่าหวาดผวา


จนกระทั่ง


“…คึ่ก!”


เสียงครางของเฟนเรียร์ทำลายความเงียบ


เถาวัลย์น้ำแข็งปริศนาแทงใส่หัวใจแวมไพร์มาร์ควิสอย่างไร้ความปรานี


นี่คือท่าสังหารของซินกูเล็ด


แม้จะเป็นเทคนิคไม่สมบูรณ์ แต่พลัง ‘เคล็ดสังหาร·ปราณเพชฌฆาต’ ของซินกูเล็ดก็มีระดับถึง SS และรุนแรงพอจะทะลวงผ่านคุณลักษณะพิเศษปกครอง


เมื่อทุกคนเริ่มประจักษ์ว่า คุณลักษณะพิเศษ ‘ปกครอง’ ไม่ใช่สิ่งไร้เทียมทานอีกต่อไป


“ใช้ท่าไม้ตาย!!”


เซ็ดนอสตะโกนกึกก้องด้วยเวทมนตร์ โดยไม่รอช้า เหล่าชาวโอเวอร์เกียร์ต่างเข้าสู่ภาวะปลดปล่อยท่าไม้ตายอย่างไม่เกรงใจ


ท่าไม้ตายของหลายคนไม่รุนแรงพอจะทะลวงผ่านด่านป้องกัน แต่ยังมีพลังของอีกหลายคนสามารถเล็ดลอดเข้าไปสร้างความเสียหาย


จนกระทั่ง บราฮัมร่ายมนตร์จบ


ซู่วววว!


แต่ทันใดนั้น เฟนเรียร์ทำการระเบิดพลังแท้จริงของคุณลักษณะพิเศษ ‘ปกครอง’ ซึ่งเดิมทีเคยเป็นของเบริอาเช่ต้นตระกูล


พลังชนิดนี้มหาศาลถึงขั้นว่า หมาป่าฮาจิกะไม่มีสติปัญญามากพอจะเรียนรู้


เป็นพลังสำหรับ ‘ควบคุม’ ทุกสิ่งซึ่งหวังจะทำอันตรายแก่เฟนเรียร์


“…!”


ทันใดนั้น บราฮัม เหล่าอัศวิน และสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคน ต่างสูญเสียการควบคุมอาวุธในมือทันที


ศาสตราของพวกมันอยู่ใต้อำนาจปกครองของแวมไพร์มาร์ควิสชั่วคราว จนไม่สามารถใช้งานเพื่อปลดปล่อยทักษะได้


เวทมนตร์และทักษะหลายชนิดจำเป็นต้องใช้อาวุธให้ตรงประเภท และเมื่อไม่มี สิ่งนี้อันตรายยิ่งกว่าการสูญเสียแขนขาเสียอีก


หายนะยังไม่จบลง


“บ…บัดซบ! ร่างกายไม่ยอมฟังคำสั่ง!!”


กลุ่มสมาชิกค่อนไปทางอ่อนแอ ได้กลายเป็นเหยื่อของอำนาจควบคุมจากเฟนเรียร์


บทบาทใหม่ของพวกมันคือการเป็นหุ่นเชิดให้แวมไพร์มาร์ควิส หรือเรียกให้เห็นภาพก็คือ…


โล่เนื้อ


กึก.


เฟนเรียร์บังคับกองทัพหุ่นเชิดให้ขยับตัวมายืนด้านหน้าตน เพื่อเป็นกำบังคอยรับเวทเพลิงนิรันดรของบราฮัมแทน


อย่างไรก็ตาม ชายผมดำคนหนึ่งกำลังวิ่งฝ่าเข้ามาทางช่องว่างระหว่างกลุ่มกองทัพหุ่นเชิด


ความเร็วสูงจนน่าเหลือเชื่อ


แม้จะเป็นมนุษย์ แต่กลับแผ่กลิ่นอายพลังอสูรอย่างน่าประหลาด แถมการเคลื่อนไหวก็ยังแซงหน้าเพลิงสีดำของบราฮัมเล็กน้อย


เฟนเรียร์ตระหนักทันทีว่าชายคนนี้เป็นภัย จึงบงการพลังปกครองใส่อย่างไม่ลังเล


[แวมไพร์มาร์ควิส เฟนเรียร์ พยายามควบคุมร่างกายท่าน]


[เงื่อนไขการสวมใส่อาวุธทุกชนิดในตัวท่านเปลี่ยนเป็น ‘เฟนเรียร์เท่านั้น’]


[เอฟเฟคของคลาสผู้สืบทอดแพ็กม่า ช่วยให้ท่านสวมใส่ไอเท็มทุกชนิดได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข ฉะนั้น ไอเท็มจะยังอยู่กับท่าน]


“…!?”


ดวงตาเฟนเรียร์พลันเบิกโพลง


แม้จะเล็งพลังปกครองใส่ แต่มนุษย์ตรงหน้ากลับไม่สูญเสียการควบคุมอาวุธ


เมื่อกริดนำตัวเองเข้าสู่ระยะสังหารสำเร็จ มันบิดเอวเอี้ยวตัวไปด้านหลังพลางยกมือง้างดาบ


‘ฉันขอโทษ’


ราชาโอเวอร์เกียร์กล่าวในใจกับกองทัพหุ่นกระบอกซึ่งกำลังถูกเฟนเรียร์ควบคุมร่างกาย


ทุกคนพยักหน้าตอบรับโดยไม่ลังเล


ไม่แม้แต่คนเดียว


กริดกัดฟันกรอด และสาบานว่าจะไม่ทำให้ความเสียสละของพวกเขาสูญเปล่า


“ดาบพินาศทัพ…”


“พี่!”


[สมาชิกปาร์ตี้ ‘รูบี้’ ใช้พลัง <ศาสตราศักดิ์สิทธิ์> กับอาวุธของท่าน]


[สมาชิกปาร์ตี้ ‘รูบี้’ ใช้พลัง <พลังงานศักดิ์สิทธิ์> กับอาวุธของท่าน]


“หนึ่งแสน!!”


ฉึบ—!


คลื่นดาบหนึ่งเส้นตัดทุกสิ่ง


ดาบพินาศทัพหนึ่งแสนยกระดับ พุ่งตัดผ่านร่างกองทัพหุ่นเชิดและทะลวงใส่ทรวงอกเฟนเรียร์อย่างไร้ความปรานี ตามซ้ำด้วยเพลิงนิรันดรของบราฮัมในอีกหนึ่งอึดใจถัดมา


“อ…อ๊ากกกกกก!!”


เฟนเรียร์ทั้งประหลาดใจและโมโห เมื่อการโจมตีของอีกฝ่าย สามารถทะลวงผ่านชั้นป้องกันซึ่งมันเคยคิดมาตลอดว่าเพียงพอแล้ว


อย่างไรก็ตาม แม้ร่างกายจะถูกเพลิงสีดำลุกท่วมจนไหม้เกรียม แต่แวมไพร์มาร์ควิสกลับยังไม่ล้มเลิกเจตจำนงโจมตีใส่กริด


ทว่า ราชาโอเวอร์เกียร์ยังไม่หมดกระบวนท่า


[<บัญชาแห่งเทพ> ทำการล้างระยะหน่วงของ <ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน> หากใช้งานซ้ำภายใน 3 วินาที ท่านจะไม่เสียทรัพยากร]


ฉูดดดดดด!


กริดสะบัดดาบหมุนตัว ปลดปล่อยคลื่นพลังทำลายออกไปเป็นเส้นตรง คราวนี้เฟนเรียร์ต้องแลกมาด้วยแขนหนึ่งข้าง


โลหิตแดงฉานพวยพุ่งราวกับบ่อน้ำพุเลือด


เมื่อต้องเผชิญวิกฤติแรกในรอบหลายร้อยปี


เฟนเรียร์เริ่มตระหนักทันที


‘ราชาโลหิต…’


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,533
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. กษัตริย์มิใช่ราชาโลหิต แต่เป็น ราชาโอเวอร์เกียร์!!!

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณ​ครับ​

    ReplyDelete
  3. ว่าที่สามีแมรี่โรส คิคิ'

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00