จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,135

『นับตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัว ไม่มีเหตุการณ์ใดน่าตกตะลึงเท่ากับคราวนี้อีกแล้วครับ!』

CNV คือหนึ่งในสถานีข่าวใหญ่ของโลก ถ่ายทอดสัญญาณสดตรงไปยัง 400 ล้านครัวเรือนจาก 235 ประเทศ

ในฐานะโปรดิวเซอร์รายการ 24 ชั่วโมง ประสบการณ์ของมันย่อมไม่ธรรมดา สายตาในการประเมินกระแสสังคมเฉียบขาดมาก ส่งผลให้รายการซาทิสฟายของสถานี CNV มียอดความสนใจไม่แพ้ช่อง OGC ของเกาหลีใต้มากนัก

『หัวใจมังกร… เป็นไปได้ยังไง…? 』

ซาทิสฟายเวิร์ล

นั่นคือชื่อรายการสำหรับวิเคราะห์เจาะลึกซาทิสฟายเพียงเรื่องเดียว ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในรายการยอดนิยมของสถานี CNV ไปแล้ว

ผู้เชี่ยวชาญด้านซาทิสฟายจากทุกวงการและทุกสาขา จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาชำแหละเหตุการณ์ใหญ่ ประเด็นร้อนแรง และข่าวดังของซาทิสฟายทั่วทุกมุมโลก รายการจึงเต็มไปด้วยข้อมูลสาระ จนได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในระยะหลัง

อย่างไรก็ตาม ความนิยมกลับเริ่มเอื่อยเฉื่อย ไม่เพิ่มขึ้นวูบวาบเหมือนช่วงแรก เนื่องจากความซ้ำซากจำเจของเนื้อหา

เป้าหมายหลักของแอนเดอร์สัน ในการทำให้ ‘ซาทิสฟายเวิร์ล’ กลายเป็นช่องอันดับหนึ่งของสถานี CNV จึงเริ่มห่างออกไปทุกขณะ

แต่วันนี้… พระเจ้าเข้าข้างมัน

『กริดกลืนหัวใจของสัตว์ดุร้ายเช่นนั้นลงท้องจริงหรือ…? 』

ปัจจุบัน รายการซาทิสฟายเวิร์ลกำลังพูดคุยเจาะลึกถึงประเด็น บทกวีมหากาพย์ลำดับสามของกริด

เมื่อผู้เล่นจำนวนมากเห็นคำว่า ‘เขากินหัวใจมังกรเข้าไป’ บนข้อความประกาศโลก ผู้ชมจึงหลั่งไหลเข้ามาในช่องซาทิสฟายเวิร์ลอย่างล้นหลาม เรทติ้งเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ของสถานี CNV เลยทีเดียว

ต้องขอบคุณกริด ผู้ทำให้ข้อความบทกวีมหากาพย์ แสดงขึ้นหลังจากพวกมันเปิดรายการซาทิสฟายเวิร์ลได้เพียงไม่นาน

สถานี CNV จึงเปรียบดังรายการไลฟ์สดข่าวด่วนของบทกวีมหากาพย์เป็นเจ้าแรก

‘โอกาสของเรามาถึงแล้ว!’

โปรดิวเซอร์แอนเดอร์สันรีบส่งสัญญาณบอกใบ้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญและพิธีกร ให้แต่ละคนช่วยปลุกเร้าอารมณ์คนดูขึ้นอีก

แต่น่าเสียดาย ไม่มีผู้เชี่ยวชาญหรือพิธีกรคนใดยอมเล่นด้วย ท่าทีของทุกคนเฉยชาสงบนิ่ง

『ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่ข้อความระบบอาจเป็นแค่การเปรียบเปรย… ผมเชื่อว่าทุกคนคงเคยเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ว่าครอเกลและกริดถูกมังกรจัดการในสภาพน่าสมเพชแค่ไหน ผมจึงไม่อยากเชื่อว่า กองทัพอาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะแข็งแกร่งพอสำหรับล่ามังกรเพื่อเอาหัวใจมากิน เพราะเหตุการณ์กริดและครอเกลถูกมังกรปราบ เพิ่งผ่านมาเพียงสองปีเท่านั้น 』

『เห็นด้วยครับ พวกเรายังปราบจอมอสูรไม่ครบทุกตัว อย่าว่าแต่มังกร แค่จอมอสูรหลักเดียวก็ยังไม่เคยฆ่า… บางที หัวใจมังกรอาจเป็นเพียงชื่อไอเท็ม แต่ไม่ใช่หัวใจมังกรของจริง 』

『นั่นสินะครับ…』

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนไม่กล้าออกความเห็น

เพราะประสบการณ์ได้สั่งสอนพวกมันว่า หากวู่วามวิจารณ์กริดส่งเดช จะมีโอกาสกลายเป็น ‘ไอ้โง่’ ในภายหลังสูงมาก

ท่าทีสงบเสงี่ยมของนักวิเคราะห์ ทำให้โปรดิวเซอร์แอนเดอร์สันเกิดความกระวนกระวาย

‘ส่งเสียงอะไรก็ได้! ทำเสียงหมาเห่าก็ได้! อย่าเงียบแบบนี้สิฟะ! ผู้อำนวยการกำลังดูอยู่!’

สำหรับอุตสาหกรรมข่าวทั่วโลก กริดเปรียบดัง ‘บ็อกซ์ออฟฟิศ’ ก็มิปาน ถ้าเป็นข่าวเกี่ยวกับกริดแล้วล่ะก็ ทุกช่องจะวัดว่าใครประสบความสำเร็จกว่ากันด้วยเรทติ้ง

ขอเพียงมีกริดในเนื้อหา ไม่ต้องโผล่หน้าก็ได้

แค่ชื่อก็มากพอจะเรียกให้อีกามารุมตอมศพ

เคยมีครั้งหนึ่ง สถานีข่าวเล็กๆ ทำการสำรวจพบว่า กริดไม่ชอบผลไม้ชนิดใดบ้าง แม้จะเป็นข่าวซุบซิบนินทาเกรดสาม แต่รายการดังกล่าวกลับได้รับความนิยมสูงสุดในรอบฉายเดียวกัน

‘ผมชอบอาหาร แต่ไม่ชอบผลไม้…’

ผมเกลียดแตงโมอุ่นและลูกท้อเย็นชืด

เมื่อเห็นว่าข่าวลือของกริดขายได้ รายการข่าวทั่วโลกจึงพบแสงสว่าง ผุดข่าวลือปลอมเกี่ยวกับกริดวันละไม่ต่ำกว่า 100 เรื่อง

หลังจากเฝ้ามองกระแสของผู้ชมสักพัก โปรดิวเซอร์อย่างแอนเดอร์สันจึงมั่นใจ

กริดคือข้อสรุปของทุกสิ่ง

ขอเพียงมีชื่อกริด อย่างอื่นก็ไม่ต้องสน

หากกระแสน้ำชื่อกริดบังเอิญไหลผ่านหน้าบ้าน คุณต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับตักตวง

และในวันนี้ กระแสน้ำกริดไหลผ่านหน้าบ้านแอนเดอร์สันเสียที

ในบรรดาข่าวมากมายเกี่ยวกับกริด ไม่มีข่าวใดดังและขายดีไปกว่าบทกวีมหากาพย์แล้ว

แอนเดอร์สันไม่ต้องการพลาดโอกาสระดับครั้งเดียวในรอบหลายเดือน

ทว่า ยิ่งผู้เชี่ยวชาญและพิธีกรต่างพากันเงียบงันอ้ำอึ้ง การตักตวงให้เกิดประสิทธิภาพก็ยิ่งเป็นไปได้ยากลำบาก

= แล้วตกลง มันคือหัวใจมังกรหรืออะไรกันแน่?

ขณะแอนเดอร์สันกำลังกระวนกระวาย ช่องแชตจากทางบ้านก็เริ่มอาละวาดอย่างไม่พอใจ

『บางที… อาจมีวิธีได้รับหัวใจมังกร โดยไม่ต้องฆ่ามังกรเองกับมือครับ…』

ดูโรทัน ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์เกี่ยวกับซาทิสฟายชื่อดัง เริ่มเปิดปากเป็นครั้งแรก

มันเสนอสมมติฐานของตัวเอง หลังจากไตร่ตรองถี่ถ้วนขณะพิธีกรคนอื่นกำลังพูดคุย

『ประการแรก ระดับพลังของมังกรยังไม่ถูกเปิดเผยแน่ชัด ถึงเอกสารโบราณและตำนานจะระบุว่า มังกรเป็นรองเพียงเทพ แต่นั่นคือความจริงแน่หรือ? พวกเราไม่มีทางพิสูจน์เรื่องดังกล่าว ทำได้เพียงเชื่อมต่อๆ กันมา อย่างไรก็ตาม ผมมีข้อพิสูจน์ว่ามังกรมิใช่ตัวตนสมบูรณ์แบบ… สิ่งนั้นคือการมีอยู่ของ ‘มังกรคลั่ง’ 』

แม้สาเหตุยังไม่แน่ชัด แต่เนอวาร์ธานคือมังกรคลั่งจริงแท้แน่นอน และตามชื่อของมัน มังกรเนอวาร์ธานขาดสติสัมปชัญญะจนมิอาจควบคุมตัวเอง

ขณะเดียวกันก็มีหลักฐานมากมายพิสูจน์ว่า มังกรสามารถติดพิษและโรคร้ายได้

『มังกรเป็นรองแค่เทพ แต่ไม่ใช่เทพ และทุกคนต้องไม่ลืมว่า มังกรสามารถต่อสู้กันเองได้เช่นกัน อาจมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต และซากศพของมันกำลังหลับใหลบนทวีปตะวันออก』

『เข้าใจแล้วครับ ถึงจะเป็นหัวใจจากศพมังกร แต่ถ้ากริดกินเข้าไป ก็จะถือเป็นการกินหัวใจมังกรสินะครับ…』

『 และผมยังสังเกตอีกว่า ข้อความระบบแจ้งเพียง ‘กริดกินหัวใจมังกรเข้าไป’ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่ากินเข้าไปทั้งหมด หมายความว่าอาจกินแค่บางส่วน… ผมคิดว่าคงเป็นตัวยาบางชนิดซึ่งสกัดมาจากส่วนหนึ่งของหัวใจมังกร』

『มีเหตุผลรองรับไหมครับ』

『มีครับ ทาง SA กรุปให้ความสำคัญกับสมดุลเกมอย่างมาก ตัวอย่างเห็นภาพชัดเจนก็คือ การทำให้คลาสทั่วไประดับ 4 มีพลังต่อสู้ทัดเทียมกับคลาสลับระดับ 4… จึงเห็นได้ว่า จุดมุ่งหมายของ SA กรุปคือการลดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้เล่นแถวหน้าลง ดังนั้น ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะกล้าปล่อยหัวใจมังกรของจริงเข้ามาในระบบ เพราะจะทำให้ผู้เล่นคนใดคนหนึ่งแข็งแกร่งเกินไป 』

『คุณกำลังจะบอกว่า กริดกินหัวใจมังกรเข้าไปจริง แต่เป็นแค่บางส่วน ส่งผลให้ไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นมากนัก? 』

『ถูกต้องครับ เราสามารถมองว่าสิ่งนี้เป็นโอสถค่าสถานะก็ยังได้ แต่คงมีประสิทธิภาพสูงกว่าโอสถธรรมดาราวสิบเท่า』

『สิบเท่าของโอสถ… ช่วงเลเวล 390 จะอัปได้ยากเย็นแสนเข็ญ ส่งผลให้ค่าสถานะแต่ละแต้มสำคัญมาก การดื่มโอสถ 10 ขวดไม่เท่ากับทำลายสมดุลเกมหรอกหรือ 』

『ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่ในปัจจุบัน แรงเกอร์หัวแถวของโลกมักกว้านซื้อโอสถมาเก็บไว้อยู่แล้ว มีการค้าขายออนไลน์จำนวนมากในแต่ละวัน ผมไม่คิดว่าครอบครองโอสถสักสิบขวดจะทำให้สมดุลของเกมเสีย』

“หน่อมแน้มเกินไปแล้ว…!”

ขณะโปรดิวเซอร์แอนเดอร์สันตั้งใจกำกับรายการ ผู้อำนวยการสถานีด้านข้างเริ่มแสดงสีหน้าไม่พึงพอใจ

ผู้ชมจะหลั่งไหลราวกับสายน้ำ ถ้าบรรดาพิธีกรเหล่านี้เลือกใช้ถ้อยคำยุแยงปลุกปั่น แต่ในความเป็นจริง ทุกคนกลับถนอมน้ำใจอย่างพินอบพิเทา วิเคราะห์เหตุการณ์ไปตามความเหมาะสม ด้วยอากัปกิริยาเจือความหวั่นเกรง

ทว่า ความเป็นจริงกลับตรงข้าม

เรทติ้งรายการ ‘ซาทิสฟายเวิร์ล’ กำลังพุ่งทะยานยิ่งกว่ากระสวยอวกาศ

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเรทติ้งสูงแบบนี้?”

“โลกก็แบบนี้แหละครับ แค่ข่าวกริดไม่ชอบแตงโมอุ่นยังขายได้ นับประสาอะไรกับข่าวบทกวีมหากาพย์ ผมคิดว่าช่องอื่นคงยังเตรียมความพร้อมไม่เสร็จ— หือ? อะไรนะ! เป็นความจริงหรือ!”

ขณะแอนเดอร์สันกำลังอธิบายเหตุผลให้ผู้อำนวยการ สีหน้ามันพลันตกตะลึงสุดขีด

ทีมงานส่งข่าวด่วนแทรกเข้ามา

“มหาจอมเวทในตำนานคืนชีพแล้ว!?”

ในเวลาเดียวกัน พิธีกรและผู้เชี่ยวชาญต่างได้รับข้อความเดียวกันทั้งหมด

『ไม่ใช่การปรากฏตัวของผู้สืบทอดมหาจอมเวทในตำนาน… แต่เป็นการคืนชีพของมหาจอมเวทในตำนานเสียเอง? 』

『บ้าน่า…!』

『นับตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัว ไม่มีเหตุการณ์ใดน่าตกตะลึงเท่ากับคราวนี้อีกแล้วครับ!』

『เห็นด้วยครับ น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเมื่อครั้งกริดปรากฏตัวหนแรกเสียอีก ย้อนกลับไปขณะเขาลงมือโจมตีใส่ข้ารับใช้ยาธาน… มาเข้าเรื่องกันดีกว่า พวกคุณคิดว่าเพราะเหตุใด มหาจอมเวทในตำนานถึงคืนชีพกลับมาครับ? 』

『บราฮัมถูกคาดการณ์ไว้ว่า มีความแข็งแกร่งเป็นลำดับ 5 จากบรรดาอดีตตำนานทั้งหมด』

แต่ไหนแต่ไร เกือบทุกข่าวใหญ่ของซาทิสฟายจะต้องเกี่ยวข้องกับกริดเสมอ

แต่คราวนี้เป็นข้อยกเว้น

สำหรับพิธีกรและนักวิเคราะห์ พวกมันทั้งประหลาดใจและโล่งใจ เมื่อประเด็นสำคัญไม่เกี่ยวข้องกับกริดอีก

ผู้อำนวยการหันมากล่าวกับแอนเดอร์สัน

“พวกเราต้องขยายเวลารายการออกไปอีกสองชั่วโมง…”

“จะไม่กระทบผังรายการหรือครับ?”

“เป็นคำสั่งจากบอสโดยตรง… ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าบทกวีของกริด และการคืนชีพของมหาจอมเวทในตำนานอีกแล้ว… คงต้องลองเสี่ยงกันสักตั้ง”

“ให้ผมจัดการเองครับ!!”

เดิมที ข่าวของบราฮัมควรปรากฏเป็นข่าวด่วนแทรกในรายการอื่น ไม่ใช่รายการพิเศษ

แต่บทกวีของกริดช่วยให้สถานี CNV มีโอกาสเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนใคร

สำหรับสถานีอื่น ข่าวบทกวีของกริดและการคืนชีพของบราฮัมล้วนถูกแทรกในสถานะข่าวด่วนกรอบเล็ก กินเวลาไม่กี่วินาที แต่สำหรับรายการซาทิสฟายเวิร์ล พวกมันจะถกประเด็นดังกล่าวกันอีกพักใหญ่ โดยมีนักวิเคราะห์จำนวนมากล้อมวงพูดคุย

โปรดิวเซอร์แอนเดอร์สันรีบกล่าวในใจ

‘สรรเสริญก็อดกริด!!’

และในวันนี้ สาวกกริดได้ถือกำเนิดเพิ่มอีกหนึ่งคนในมหานครนิวยอร์ก ไม่ใช่เกาหลีใต้

***

“บราฮัม…!”

ชายคนนี้เป็นพวกเสียสติ

ขณะทุกแวมไพร์ทุกตนกำลังหลับใหลด้วยผลจากคำสาปเกียจคร้าน เขากลับใช้หมุดตอกใส่หลังมือเพื่อเอาชนะความง่วงเหงาหาวนอน

ทุกวินาทีคือการใช้ความคิด

เขาอ่านหนังสือมากกว่าใคร

อ่านทุกเล่ม อ่านทุกตัวอักษร

และหากเมื่อใดเกิดง่วงจนหลับไป ความเจ็บปวดและบาดแผลจะคอยกระชากให้ตื่นจากภวังค์นิทรา

“ทำไมนายถึง…!”

ชายคนนี้เป็นพวกเสียสติ

แม้จะเกิดมาพร้อมพลังเวทมนตร์มหาศาลและชีวิตยืนยาวไร้จุดจบ แต่เขากลับไม่พึงพอใจ เอาแต่แสวงหาพลังอันยิ่งใหญ่กว่าเดิม

ต้องเป็นพลังมากพอจะทำลายคำสาป…

เขาพูดว่า… จะปล่อยท่านแม่ให้เป็นอิสระจากโลงศพอันคับแคบ

เขาเสียเวลาหลายร้อยปีเพื่อจมอยู่กับความฝันอันเลือนรางและไม่มีวันเป็นจริง

“ทำไมนายถึงยังมีชีวิตอยู่!”

โนลล์ถูกเคลื่อนย้ายมายังปราสาทโอเวอร์เกียร์หลังจากตอบรับคำอัญเชิญกริด

แต่เมื่อหันไปเห็นบราฮัม มันไม่อยากเชื่อว่าภาพรอบตัวคือความจริง

บราฮัมก่อความผิดร้ายแรง ขัดต่อเจตนารมณ์ของท่านแม่ จนมีมติให้ขับไล่ออกจากตระกูลในความผิดโทษฐานทำร้ายสายเลือดเดียวกัน

ลงเอยด้วย บราฮัมถูกแมรีโรสขับไล่ออกจากเมืองแวมไพร์ และมีข่าวลือว่าเสียชีวิตในเวลาถัดมา

นั่นคือเหตุการณ์เมื่อร้อยกว่าปีก่อน

แต่ทำไม… เขาถึงอยู่ตรงนี้?

“คึ่ก…!”

เมื่อบราฮัมหันมาสบตา โนลล์รีบเบือนหน้าหนีด้วยอากัปกิริยาสั่นเทา

สายตาอันเปี่ยมด้วยความรังเกียจเหยียดหยันของหมอนั่น…

ทว่า

“หลุดพ้นจากคำสาปแล้วสินะ”

“…?”

ปัจจุบัน สายตาของบราฮัมเปลี่ยนไปจากสมัยอดีตโดยสิ้นเชิง

ไม่ปรากฏความขยะแขยงหรือสมเพช เหลือเพียงความเฉยชาปราศจากอารมณ์ใด

ราวกับโนลล์ไม่ได้อยู่ในสายตาอีกแล้ว

“นายต้องขอบคุณกริดนะ เขาคอยดิ้นรนกระเสือกกระสนจนพลังราชาโลหิตพัฒนาขึ้น นายถึงพ้นคำสาปมาได้… โชคดีชะมัด”

“…”

“เอ่อ… พวกนายสองพี่น้องไม่ได้เจอหน้ากันมานานแล้วไม่ใช่หรือ… อย่าเย็นชาใส่กันเลย”

กริดพยายามสร้างบรรยากาศชื่นมื่น

ถ้าเป็นสมัยก่อนคงไม่สำเร็จ แต่ปัจจุบันไม่ใช่

“พี่ชายอะไรกัน…”

“น่าอึดอัดชะมัด”

ทั้งบราฮัมและโนลล์ต่างบ่นพึมพำ แต่ก็ไม่มีใครคัดค้านต่อต้าน เพราะค่าความชื่นชอบในตัวกริด ส่งผลให้พวกมันไม่ต้องการขัดใจกริด

เมื่อสถานการณ์เริ่มเย็นลง กริดมองไปยังอัศวินทุกคนรอบตัวอย่างภาคภูมิใจ

ปิอาโร่

เมอร์เซเดส

อัสโมเฟล

จู๊ด

โนลล์

เทรูชาน

ซินกูเล็ด

อเมลด้า

ดันเต้

และบราฮัม

เดิมที โต๊ะประชุมตัวนี้เป็นของสิบวีรชนผู้ร่วมก่อตั้งอาณาจักร แต่ปัจจุบัน เหล่าอัศวิน NPC กำลังนั่งมองหน้ากันและกัน พลางชื่นชมและสำรวจพลังของพวกพ้องอย่างสนใจ

ยกเว้นจู๊ด

จู๊ดแหงนหน้ามองเพดานอย่างเหม่อลอย ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หัวสมองกำลังขาวโพลน

‘แต่นายคงฝึกหนักทุกวัน’

เมื่อเห็นเลเวลจู๊ด อัศวินคนแรกของตน พัฒนาขึ้นมากกว่าใครทั้งหมด กริดเผยรอยยิ้มอย่างมีความสุข

“พวกเราจะบุกเมืองเฟนเรียร์”

“เฟนเรียร์? บุกเมืองเฟนเรียร์!?”

โนลล์รีบคัดค้าน

“คิดจะฆ่าตัวตายหรือไง ชายคนนั้นสืบทอดลักษณะพิเศษของท่านแม่ถึงสองชนิดเชียวนะ!”

อัสโมเฟลโต้แย้งด้วยสีหน้าฉงน

“… ก็ไม่น่าจะเก่งกว่าจอมอสูรไม่ใช่หรือ”

“…!”

กลุ่มอัศวินผู้เข้าร่วมในช่วงหลัง เช่นซินกูเล็ด ดันเต้ หรืออเมลด้า พลันแสดงสีหน้าตกตะลึง

เหตุใดคำว่า ‘จอมอสูร’ จากปากอัสโมเฟลถึงฟังดูด้อยค่าเสียเหลือเกิน อีกฝ่ายสามารถถล่มโลกมนุษย์ได้ตามลำพังเชียวนะ!

แน่นอน ทุกคนย่อมทราบว่า อาณาจักรโอเวอร์เกียร์เคยปราบจอมอสูรไปแล้วสองตน แต่ก็คงไม่ใช่งานง่ายเช่นกัน

โนลล์กระแทกลมหายใจเหยียดหยัน

“ท่านแม่เป็นถึงจอมอสูรลำดับสาม!”

“…!”

“ต่อให้นำจอมอสูรสองหลักทุกตนมากระจุกตัวกัน แต่ก็ไม่มีใครในหมู่พวกมันกล้าลงมือกับท่านแม่… และเฟนเรียร์ได้รับสืบทอดลักษณะพิเศษจากท่านแม่ถึงสองชนิด!”

โนลล์หันไปจ้องกริด

“นายเองก็ทราบใช่ไหมว่าจอมอสูรจะอ่อนแอลงขณะขึ้นมาบนโลกมนุษย์ แต่เฟนเรียร์ไม่ได้เป็นแบบนั้น มันคือแวมไพร์ เฟนเรียร์มิได้อ่อนแอลงขณะต่อสู้บนโลก และจะยิ่งแข็งแกร่งถ้าได้ต่อสู้ภายในเมืองแวมไพร์ มันคือผู้สืบทอดพลัง ‘ปกครอง’ แสนหายากของท่านแม่… กริด ลองทบทวนดูใหม่ ยังเร็วเกินไปกับการล่าเฟนเรียร์ตอนนี้”

“…”

กริดทราบดีว่าเบริอาเช่คือจอมอสูรแถวหน้า และค่อนข้างมั่นใจว่าอยู่ในท็อปสิบ แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสูงถึงลำดับสาม

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม จอมอสูรบางตนถึงลงนามขับไล่เบริอาเช่ออกจากขุมนรก พร้อมกับให้เทพยาธานสาปความเกียจคร้านใส่

“… แบบนี้ดีแล้วจริงหรือ?”

กริดหันไปถามบราฮัม

“นายเข้าใจใช่ไหม ว่าฉันไม่ต้องการเสียสละอัศวินแม้แต่คนเดียว”

“ฮึ!”

บราฮัมพ่นลม

“ฉันคืออันดับหนึ่งในหมู่ทายาทจนกระทั่งแมรีโรสปรากฏตัว ตอนนั้นยังไม่บรรลุศาสตร์เวทมนตร์ด้วยซ้ำ... พลังซึ่งทายาทสืบทอดจากท่านแม่ แท้จริงแล้วไม่ใช่ ‘พลัง’ แต่เป็น ‘ลักษณะพิเศษ’ ต่างหาก… จริงอยู่ ยิ่งสืบทอดลักษณะพิเศษมากก็ยิ่งทรงพลัง แต่ก็ไม่เสมอไป… ดูจากฉันก็ได้ ตัวฉันสืบทอดพลังจากท่านแม่แค่ชนิดเดียวเท่ากัน แต่ก็ยังแข็งแกร่งกว่าเจ้านั่น”

“…!”

“ความเฉื่อยชาคือบาปร้ายแรง เป็นเหตุผลว่าทำไมยาธานถึงเลือกใช้คำสาปเกียจคร้านกับท่านแม่และตระกูล คนเฉื่อยชาไม่มีวันพัฒนาตัวเองได้ไกล เฟนเรียร์คือตัวอย่างชัดเจน ท่านแม่อาจเคยยิ่งใหญ่ในอดีต แต่ไม่ใช่กับเหล่าทายาท พวกขยะเหล่านั้นล้วนเป็นเพียงมดปลวก แมรีโรสเองก็ไม่ได้แข็งแกร่งเพราะขวนขวาย แต่แข็งแกร่งเพราะท่านแม่มอบพลังให้ตั้งแต่เกิด”

“บราฮัม!! มดปลวกของนายยังอยู่ตรงนี้อีกหนึ่งคน! ในอดีต นายอาจเคยแข็งแกร่งกว่าฉัน แต่ไม่กับตอนนี้! นายกลายเป็นเพียงพวกเลือดผสมผู้สูญเสียพลังเวทมนตร์!! อย่าได้โอหังถ้ายังไม่เก่งไปกว่าฉัน!”

โนลล์เดือดดาลหลังจากถูกเรียกมดปลวก แวมไพร์ตัวน้อยลุกพรวดด้วยโทสะสุมอก

กริดพยายามสงบศึก แต่บราฮัมยกมือห้าม

ท่าทีของบราฮัมเป็นไปอย่างโอหัง กริดสัมผัสได้ว่า สีหน้าแววตาของมหาจอมเวทในตำนานกำลังมั่นใจเสียเต็มประดา

“พวกเราควรจัดอันดับให้แน่ชัดไปเลยว่าใครแข็งแกร่งกว่าใคร นายคิดว่างั้นไหม”

“…?”

กริดพลันกระอักกระอ่วน

เพราะบราฮัมเมินเฉยโนลล์ และเลือกหันไปถามปิอาโร่แทน

ปิอาโร่ตอบกลับโดยไม่ลังเล

“ก็ไม่เลว”

“ไอ้บัดซบเอ้ย!!”

โนลล์มิอาจทนฟังต่อ มันเริ่มบีบอัดเวทมนตร์โลหิตจำนวนมากไว้บนฝ่ามือ

เมื่อก้อนเลือดมหาศาลกระจุกตัวในจุดเดียว โนลล์ทำการยิงใส่บราฮัมโดยไม่ปรานี

แต่ว่า

ซู่วววว…

บราฮัมย้อนสูตรเวทมนตร์ของโนลล์กลับ ส่งผลให้ทุกสิ่งสลายไป เหลือทิ้งไว้เพียงอากาศว่างเปล่า ปราศจากเศษเสี้ยวละอองมานาตกค้าง

“…!”

โนลล์ทำได้เพียงยืนผงะ

บราฮัมจ้องมองด้วยสายตาเย็นชา

“ต่อให้หลุดพ้นจากคำสาป แต่ถ้าขาดความพยายาม นายก็เป็นได้เพียงมดปลวกตลอดกาล”

ความพยายาม…

ถ้อยคำดังกล่าว ฟังดูไม่เกี่ยวข้องกับอัจฉริยะอย่างบราฮัมสักเท่าไร

แต่กริดทราบดีกว่าใคร

บราฮัมเปี่ยมด้วยความอุตสาหะ

ข้อพิสูจน์แรกคือ เขาสามารถเอาชนะคำสาปเกียจคร้านได้ด้วยความพยายามตัวเอง และข้อพิสูจน์ถัดมา ถึงแม้จะถูกขับออกจากตระกูลและสูญเสียชีวิตอันเป็นนิรันดร์ แต่บราฮัมกลับยังไขว่คว้าพลังแห่งตำนานมาครองได้

บางที ชายคนนี้อาจเหมือนกริดยิ่งกว่าใคร

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,524

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous