จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,136



“ต่อให้หลุดพ้นจากคำสาป แต่ถ้าขาดความพยายาม นายก็เป็นได้เพียงมดปลวกตลอดกาล”


‘โธ่โว้ย… บ้าจริง!’


โนลล์เถียงไม่ออก


แน่นอน ‘ถอดรหัสเวทมนตร์’ ของบราฮัมเข้าขั้นเอาเปรียบผู้อื่น แต่ก็เป็นเพราะบราฮัมพยายามอย่างหนักจนกระทั่งได้มาครอบครอง


นับตั้งแต่เกิด โนลล์ก็พึ่งพาพลังแห่งสายเลือดแวมไพร์ทายาทมาตลอด จึงเริ่มรู้สึกผิดเมื่อตระหนักว่า ตัวมันเอาแต่อ้าง ‘คำสาป’ และไม่ยอมขวนขวายพัฒนาฝีมือเพิ่มเติม


“บราฮัม พอได้แล้ว”


เมื่อได้ยิน บราฮัมผู้เตรียมกดขี่โนลล์ด้วยคำพูดถากถาง พลันปิดปากมิดชิดและเบือนหน้าหนี


กริดกังวลว่าเหตุการณ์จะบานปลายจนสายเกินแก้ไข จึงรีบหันไปมองโนลล์


ในเวลาเดียวกัน แวมไพร์ตัวน้อยกำลังพองแก้มอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะพรั่งพรูถ้อยคำเปี่ยมความหงุดหงิด


“ฉันจะแสดงให้นายเห็นเอง! คอยก่อนเถอะ! ฉันจะขยันฝึกฝนฝีมือ จนกระทั่งเรียกนายว่ามดปลวกให้ได้!”


“ฮึ…”


เหมือนเดิม


บราฮัมกระแทกลมหายใจอย่างไม่แยแส


ท่าทีราวกับกำลังพูดว่า ‘จะทำอะไรก็เชิญ นายไม่ได้อยู่ในสายตาฉัน’


โนลล์ยิ่งทวีความโมโห


แต่กริดมองเห็น… มันเห็นบราฮัมกำลังแอบยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย


‘พี่น้องก็คือพี่น้อง…’


ถัดมา กริดพยายามครุ่นคิดหาคำตอบว่า ทำไมบราฮัมถึงต้องจับพี่น้องของตนทำเป็นหนูทดลองเวทมนตร์ในอดีต


… บราฮัมคงต้องการขจัดคำสาปให้มารดา แต่เมื่อเห็นพี่น้องเอาแต่นอนหลับและไม่ยอมกระทำสิ่งใดเลย จึงเกิดความคับแค้นสุมอก


… ในเมื่อมองไม่เห็นอนาคตของตระกูล จึงยอมเสี่ยงแหกกฎเหล็กของท่านแม่ โดยมีจุดประสงค์หลักคือการช่วยเหลือท่านแม่ให้เป็นอิสระจากคำสาป


แม้จะรู้ตัวว่าทำไม่ถูก แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นเหลือแล้ว


อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไม่เหมือนกับอดีต


บราฮัมมิได้อยู่ตามลำพัง โนลล์หลุดพ้นจากคำสาปเกียจคร้าน และสามารถช่วยเหลือมันได้ในฐานะพี่น้องร่วมสายเลือด


เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ กริดพบเริ่มความขัดแย้ง


แล้วเพราะเหตุใด บราฮัมถึงรบเร้าให้ตนรีบจัดการเฟนเรียร์?


“… เอ่อ”


กริดหันไปจ้องบราฮัม


มหาจอมเวทในตำนานพลันขมวดคิ้ว


เพราะเมื่อเห็นสีหน้าคล้ายคนอึไม่ออกของราชาโอเวอร์เกียร์ บราฮัมทราบทันที ว่ากริดกำลังใช้สมองไตร่ตรองในบางเรื่อง


คงเพราะอยู่ด้วยกันมานาน จึงคล้ายกับมันสามารถอ่านใจกริดได้


บราฮัมส่งเสียงเข้าสมองกริดโดยตรงด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว


[นายกำลังเข้าใจผิด! ลืมไปแล้วหรือว่าฉันเป็นคนผนึก ‘ลาทีน่า’ กับมือ? ไม่มีสายสัมพันธ์ฉันพี่น้องอะไรทั้งสิ้น!]


“แล้วนายยิ้มทำไม…”


[ฉันแค่ดีใจเพราะมีตัวหมากให้ใช้งานเพิ่มขึ้น! สิ่งนี้จำเป็นสำหรับแผนการในอนาคต ยิ่งมีตัวหมากมากเท่าไรก็ยิ่งดี!]


“…”


[เหนือสิ่งอื่นใดในตอนนี้ พวกเราต้องรีบกำจัดเฟนเรียร์โดยเร็ว… ไม่อย่างนั้น โอกาสฆ่าแมรีโรสจะเป็นศูนย์!]


เมื่อบราฮัมหมดเรื่องอธิบาย มันเบือนหน้าไปทางปิอาโร่


ปิอาโร่จ้องบราฮัมตอบ


สีหน้าแววตาราวกับต้องการต่อสู้เดี๋ยวนี้


บราฮัมเห็นเช่นนั้นจึงกวักมือยั่วยุ


“เข้ามาเลย”


ในสายตาปิอาโร่ บราฮัมคืออดีตตำนานคนสำคัญของโลก ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น แต่สำหรับบราฮัม ปิอาโร่ถือเป็นบุคคลสุดพิเศษ


บราฮัมเฝ้ามองปิอาโร่ในร่างกริดมานานแล้ว


มันยังจดจำได้เลือนรางว่า ปิอาโร่ยอมทำทุกสิ่งเพื่อประโยชน์ต่อตัวกริด และกริดเองก็มอบความไว้ใจให้ปิอาโร่เป็นอย่างสูง ส่งผลให้บราฮัมเกิดความรู้สึกด้านบวกกับปิอาโร่


อัสโมเฟลโพล่งขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย


“ถ้าจะดวลกับปิอาโร่ ต้องผ่านฉันก่อน!”


ถ้อยคำเปี่ยมความยั่วยุเจือเกรี้ยวกราด


ในสายตาบราฮัม อัสโมเฟลคือลูกน้องปิอาโร่ มหาจอมเวทในตำนานผู้นี้จึงไม่พอใจสักเท่าไรเมื่ออีกฝ่ายสามหาว


“ก็ได้ เข้ามาก่อนเลย”


บราฮัมแสยะยิ้มเย้ยหยัน


มันพอจะรู้จักอัสโมเฟลอยู่บ้าง จึงมองว่าพฤติกรรมของอีกฝ่ายน่าเอ็นดู


“ไม่เกรงใจล่ะนะ!”


ในสายตาอัสโมเฟล บราฮัมเป็นสหายของเจ้านายและอดีตตำนานคนสำคัญ ควรค่าแก่การเคารพนับถือ แต่อัสโมเฟลไม่ชอบนิสัยดูถูกผู้อื่น รวมถึงการไม่เห็นหัวปิอาโร่ แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


อัสโมเฟลลุกพรวดพร้อมชักดาบด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง


ประกายไฟพลันลุกโชนท่วมท้นคมดาบ พระรองตลอดกาลตวัดแขนฟาดฟันว่องไว เกิดเป็นคลื่นดาบแหลมคมพุ่งผ่านข้ามฟาก ผ่าโต๊ะประชุมตัวใหญ่สองซีก และพุ่งเข้าหาบราฮัมบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม


แต่ก่อนคลื่นดาบจะปะทะร่างบราฮัม พื้นห้องในจุดยืนของอัสโมเฟลพลันพังถล่ม


“…!”


อัสโมเฟลเสียการทรงตัวกะทันหัน ส่งผลให้วิถีคลื่นดาบถูกบิดเบือนเล็กน้อย


บราฮัมยังคงยืนนิ่งในจุดเดิม สายตาจ้องมองท่าโจมตีของอัสโมเฟลพุ่งเฉียดลำตัวไปเล็กน้อย คลื่นดาบกระแทกบานหน้าต่างจนกระจกแตกแหลกละเอียด


‘เริ่มร่ายมนตร์ตั้งแต่ตอนไหน…?’


เมื่อฝ่าเท้าสัมผัสกับพื้นห้องชั้นล่าง อัสโมเฟลรีบกระโจนกลับมายังห้องประชุมตามเดิม


และไม่ผิดคาด ศรเวทหลายสิบเส้นถูกร่ายค้างกลางอากาศ รอเวลาแสดงพลังทำลาย


อัสโมเฟลถึงกับเย็นสันหลังวาบ


“การขยับตัวแบบมีคุณภาพ คือการขยับตัวโดยไม่ให้ศัตรูเดาทางออก”


บราฮัมเทศนาพลางดีดนิ้ว ส่งศรเวทหลายสิบเส้นพุ่งกระหน่ำเข้าใส่ร่างอัสโมเฟลโดยไม่ปรานี


ในตอนแรก อัสโมเฟลคิดโจมตีแลกชีวิตชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน แต่หลังจากถูกศรเวทปะทะร่างเข้าไปหนึ่งนัด ร่างกายรีบขยับดาบป้องกันนัดถัดไปตามสัญชาตญาณ


แม้แต่การป้องกันก็ทำได้ไม่ง่าย


พื้นห้องเต็มไปด้วยเมือกน้ำมันเหนียวข้น ขยับร่างกายไม่ถนัดนัก แถมบรรยากาศรอบตัวยังมืดสลัว การมองเห็นจึงลดลงมาก


‘ไม่ต้องร่ายมนตร์เลยหรือไง…!’


แม้แต่มหาจอมเวทอย่างเอิร์ลอัชเชอร์ ก็ยังต้องร่ายมนตร์หนึ่งอึดใจก่อนจะปลดปล่อยเวทมนตร์ระดับพื้นฐาน


แต่บราฮัมเหนือกว่านั้นมาก ทุกเวทมนตร์ถูกสำแดงในพริบตาราวกับเวลาร่ายเป็นศูนย์


ไม่เกิดจริงเลยหากจะกล่าวว่า เวทมนตร์พื้นฐานจำนวนห้าถึงหกชนิด ถูกปลดปล่อยออกมาแทบจะในวินาทีเดียวกัน ส่งผลให้การตอบโต้ของอัสโมเฟลล้มเหลวไม่เป็นท่า


เมื่อตระหนักว่าการตั้งรับไม่ก่อชัยชนะ พระรองตลอดกาลยอมเสี่ยงโจมตีสวนกลับ


“จงเบ่ง…”


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!


ขณะยกดาบตั้งท่า กลุ่มศรเวทนับสิบถาโถมใส่ร่างอย่างไร้ความปรานี


“… บาน!”


อัสโมเฟลกัดฟันปลดปล่อยทักษะเต็มกลืน


ซู่วววว—


ทันใดนั้น ปราณดาบโปร่งใสสีแดง รูปทรงคล้ายดอกไม้ตูม ผุดขึ้นจากอากาศอันว่างเปล่าและห่อหุ้มร่างกายบราฮัมจากระยะไกล


หากเป็นการต่อสู้จริง การกระทำเช่นนี้ก็มีจุดประสงค์เทียบเท่า ‘แลกกันตายไปข้าง’


‘ฉลาดไม่เบา…’


บราฮัมหรี่ตาลงพลางใช้ ‘เทเลพอร์ต’


แต่ว่า


‘ไม่ได้ผลหรอกน่า!’


อัสโมเฟลยังไม่เปลี่ยนสีหน้า


มันมั่นใจในทักษะของตัวเองมาก


ทักษะบุปผาเบ่งบานจะล็อกเป้าหมายถาวร ไม่สามารถสลัดออกได้ทุกวิถีทาง


“น่าสนใจดีนี่…”


บราฮัมพึมพำในลำคอ มันเริ่มตระหนักว่าปราณดอกไม้ตูมรอบตัว จะเกิดการสั่นไหวเพียงเล็กน้อยขณะตนใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายตำแหน่ง


บราฮัมลองใช้เวทมนตร์เทเลพอร์ตซ้ำอีกหน


“เปล่าประโยชน์!!”


ฉึบ!


อัสโมเฟลเก็บดาบกลับเข้าฝัก


สิ่งนี้คือสัญญาณ


สัญญาณสั่งให้ปราณดอกตูมรอบตัวบราฮัมเริ่มผลิบานและสร้างความเสียหาย


ทันใดนั้น


ฟุ่บ!


“…!”


บราฮัมหายตัวมาโผล่ตรงหน้าอัสโมเฟล


เป็นตำแหน่งเทเลพอร์ตซึ่งอัสโมเฟลไม่คาดคิดว่าบราฮัมจะกล้า…


ถึงแม้จะผงะเล็กน้อย แต่อัสโมเฟลก็รีบชักดาบฟันตอบโต้อย่างสุดฝีมือ


บึ้มมมมมมม—!!


ไม่ทันการ


ปราณดอกตูมรอบตัวบราฮัม ได้ส่งให้อัสโมเฟลกระเด็นถอยหลังไปไกล โดยมิอาจชักดาบฟาดฟันได้ทันท่วงที


มันม้วนกลิ้งบนพื้นหลายตลบพลางส่งเสียงร้องโอดครวญในลำคอ


บึ้ม!


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


ระเบิดมิได้เกิดขึ้นแค่หนเดียว แต่เป็นระเบิดลูกโซ่ต่อเนื่อง กินรัศมีเกือบทั่วห้องประชุมใหญ่ภายในปราสาทโอเวอร์เกียร์


เมอร์เซเดสรีบยกโล่บังให้กริด ส่วนอัศวินคนอื่นต่างงัดทักษะป้องกันตัวออกมาใช้


แต่มีอยู่หนึ่งคน…


กริดรีบโยนโพชันให้จู๊ด ผู้ไม่คิดจะหลบและรับแรงระเบิดเข้าไปอย่างจัง


“แค่ก… แค่ก!”


เมื่อเสียงระเบิดเริ่มซาลง


อัสโมเฟลอาเจียนเป็นก้อนหลายหน ก่อนจะเงยหน้ามองด้านบนด้วยดวงตาสั่นเทา


ท่ามกลางเพดานห้องประชุมซึ่งแหว่งโหว่เป็นวงกว้างจากแรงระเบิด บราฮัมกำลังลอยตัวโดยไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก


หลังจากระเบิดดอกไม้ทำงานเพียงเสี้ยววินาที บราฮัมใช้เทเลพอร์ตเพื่อบรรเทาพลังทำลายของแรงระเบิดลง


หากย้ายตำแหน่งก่อนระเบิด ปราณดอกไม้ตูมก็จะติดตามตนไปด้วย และอัสโมเฟลก็จะรอดจากแรงระเบิด บราฮัมจึงยอมเสี่ยงรับความเสียหายบางส่วนเข้าไปก่อน จากนั้นค่อยย้ายตำแหน่งเพื่อไม่ให้ถึงแก่ชีวิต


“… ฉันแพ้แล้ว”


อัสโมเฟลประกาศความพ่ายแพ้ของตัวเองอย่างไม่เคอะเขิน


คงไม่มีนักดาบคนใดในโลก สามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดไร้ยางอาย ผู้มาพร้อมเวทมนตร์เทเลพอร์ตไร้ขีดจำกัดเยี่ยงนี้ได้…


อัสโมเฟลมั่นใจ ถึงจะเป็นการต่อสู้โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน มันก็คงไม่ชนะบราฮัมอยู่ดี


“…”


ขณะเดียวกัน บราฮัมลอยตัวเงียบงัน


ว่ากันตามตรง มันกำลังตกตะลึง


อาจเป็นหนแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ กับการถูกทำให้บาดเจ็บโดยฝีมือของมนุษย์สามัญชน มิใช่เหนือมนุษย์หรือตำนาน


แขนหนึ่งข้างชุ่มโชกเลือด


เมื่อจ้องมองบาดแผล บราฮัมพึมพำแผ่วเบาราวกับไม่ต้องการให้ใครได้ยิน


“สมกับเป็นนาย รวบรวมสัตว์ประหลาดไว้รอบตัวมากขนาดนี้…”


แต่ละคนสามารถสั่นคลอนโลกได้ไม่ยากเย็น


แต่กริดมีบริวารระดับนั้นไม่ต่ำกว่าสี่…


บราฮัมร่อนลงพื้นอย่างไม่เร่งรีบ สายตาเหล่มองอัสโมเฟล ปิอาโร่ เมอร์เซเดส และเทรูชาน


ใจจริงมันต้องการพูดว่า ‘ใครเป็นคนต่อไป?’ แต่มานาในปัจจุบันกลับไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากหมดไปกับการเทเลพอร์ตอย่างต่อเนื่อง


เทเลพอร์ตรุ่นพัฒนาของบราฮัม ไม่เหมือนกับเทเลพอร์ตปรกติ เวทมนตร์ชนิดนี้ไม่มีระยะหน่วงหลังใช้ แต่แลกมากับการสิ้นเปลืองมานาเพิ่มขึ้นสิบเท่า


หากเป็นยุครุ่งเรืองสุดขีด บราฮัมสามารถเทเลพอร์ตเล่นได้ทั้งวันโดยไม่ต้องกลัวมานาหมด


แต่ไม่ใช่กับปัจจุบัน


“…”


ขณะบราฮัมกำลังกลืนไม่เข้าคายไม่ออก สวรรค์ได้ส่งใครบางคนมาโปรดในวินาทีสุดท้าย


“เสียงดังวุ่นวายอะไรกัน!!”


นายกเทศมนตรีกรุงไรนฮาร์ท แร็บบิท


หลังจากได้ยินเสียงโครมคราม มันรีบวิ่งมายังจุดเกิดเหตุ และพบว่าเพดานห้องประชุมถูกระเบิดจนวินาศสันตะโร


“ฝีมือใคร! ใครบังอาจทำเรื่องสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินเช่นนี้!?”


“…”


เขาคือจอมอสูรจากขุมนรกหรืออย่างไร…


ใบหน้าบิดเบี้ยวของแร็บบิท ขณะควานหาตัวผู้กระทำผิดด้วยดวงตาถลึงจนแดงก่ำ ไม่ได้ต่างอะไรกับจอมอสูรเลยสักนิด


ทุกคนล้วนทราบว่า ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินทอง แร็บบิทจะน่ากลัวยิ่งกว่าใครเสมอ อัสโมเฟลไม่มีทางเลือกนอกจากเบือนหน้าหนี แม้แต่โนลล์ก็ไม่กล้าสบตาโดยตรง


หลงเหลือบุคคลกล้าเผชิญสายตาแร็บบิทเพียงสาม ประกอบด้วย ชายไร้สมอง·จู๊ด อัศวินหน้าใหม่ เทรูชาน และมหาจอมเวทในตำนานสุดแสนโอหัง·บราฮัม


เนื่องจากไม่กล้าขึ้นเสียงกับบราฮัม แร็บบิทจึงเดินไปตะคอกใส่หน้าจู๊ดและเทรูชานแทน


“อย่าลืมรีบไปจ่ายค่าเสียหายด้วย! พวกนายเข้าใจใช่ไหม!”


“จู๊ด. เข้าใจ.”


“คุรุก! จ่ายอะไร?”


“…”


คณะอัศวินจำต้องย้ายก้นออกจากห้องประชุมโดยไม่มีทางเลือก


ในฐานะบุคลากรประจำไรนฮาร์ท ปิอาโร่และเมอร์เซเดสเดินนำทุกคนไปทางห้องฝึกซ้อม แต่บราฮัมกลับเสนอจุดอื่น


“ตรงนั้นดีกว่า”


ปลายนิ้วบราฮัมชี้ไปยังทุ่งข้าวกว้างใหญ่ด้านนอกปราสาทโอเวอร์เกียร์


จะเรียกว่าถิ่นของปิอาโร่ก็ไม่ผิดนัก ชาวนาในตำนานเห็นดังนั้นจึงไม่คัดค้าน


“ขอบคุณสำหรับการออมมือ”


“ไม่เอาน่า ฉันแค่อยากสูดอากาศบริสุทธิ์”


ทันใดนั้นเอง


“คุรุก! เทรูชาน! ขอสู้ก่อน!”


เทรูชานเดินเข้ามาขัดจังหวะ


ออร์คร่างยักษ์ผู้ถือ ‘ความผิดพลาดสรรเสริญยอดนักรบ’ เล่มใหญ่ พลันคำรามใส่บราฮัม


“ถ้าข้าชนะ! เจ้าต้องไปรับโทษกับนายกเทศมนตรีแทน! คุรุก!”


ว่ากันตามตรง เทรูชานถูกปรักปรำอย่างไม่เป็นธรรม


แต่เหตุผลทำให้เทรูชานไม่บอกความจริงกับแร็บบิท เพราะมันยึดถือเกียรติแห่งนักรบ


นักรบจะต้องไม่ขายเพื่อน


“ช่างไร้เดียงสา…”


ขณะบราฮัมพ่นลมหายใจเย้ยหยันและเตรียมตอบรับคำท้าดวลจากเทรูชาน


“ไม่ต้อง ฉันสู้แทนเอง”


คราวนี้เป็นปิอาโร่


ด้วยความสัตย์จริง ปิอาโร่ต้องการดวลกับอัศวินทุกคนมานานแล้ว โดยเฉพาะกับบราฮัม แต่มันมีนิสัยเก็บของอร่อยไว้กินตอนสุดท้าย


ด้วยเกียรติของนักรบ เทรูชานไม่ปฏิเสธคำท้าจากปิอาโร่ มันลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตนกำลังโกรธเคืองบราฮัม เรื่องถูกแร็บบิทตำหนิอย่างไร้เหตุผล


“เจ๋ง! คุรุก! ข้ายินดี!”


หลังจากบราฮัมมองสลับไปมาระหว่างจู๊ดและเทรูชาน มันส่งข้อความส่วนตัวหากริด


[ท่ามกลางคนพวกนี้ นายดูฉลาดไปเลยนะ]


“…”


กริดแสร้งทำหูทวนลม


ชายหนุ่มกำลังคิดว่า การจัดลำดับฝีมือภายในหมู่อัศวินก็ไม่ใช่เรื่องแย่ สิ่งนี้จะประโยชน์ด้านกลยุทธ์ในอนาคต จึงทำเพียงจับตามองสถานการณ์อย่างเงียบงัน


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,525
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ขอบคุณ​ครับ​😊🙏

    ReplyDelete
  2. บราฮัมมันชมหรือว่าด่ากริดว่าโง่อีกรอบละเนี่ย 5555555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00