จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1049



ทำการปลดปล่อยรัศมีดาบ 40 เส้นใส่ศัตรูหนึ่งเป้าหมาย แต่ก่อนหน้านั้นจะประทับ ‘มาร์ค’ ใส่ศัตรูทุกเป้าหมายในการมองเห็น


หลังประทับมาร์คสำเร็จ ทุกมาร์คที่ปรากฏจะสร้างกลีบดอกไม้รอบตัวผู้ร่าย 2 กลีบ แต่ละกลีบจะแยกโจมตีใส่เป้าหมายของตัวเอง


จากคำอธิบายดังกล่าวของ ‘มายาร่ายรำสะพรั่ง’ จะเห็นได้ชัดว่า นี่คือท่าโจมตีที่ไม่สนใจขนาดกองทัพของศัตรู


แถมยังเป็นทักษะที่รีดเร้นประสิทธิภาพไอเท็มประเภท ‘ดูดเลือด’ ได้ถึงขีดสุด


การรับต้องมือกับศัตรูจำนวนเทียบเท่ากองทัพ สำหรับกริดไม่ใช่เรื่องยากเย็นขนาดนั้น


ฉึบ…


มาร์ค 1 ขีดปรากฏเหนือศีรษะเฟย์ริสและกองทัพอสูรทุกตนในระยะมองเห็น


ซู่ว!ซู่ว!ซู่ว!ซู่ว…


ปราณดาบรูปกลีบดอกไม้สีฟ้าครามนับพัน เริ่มปรากฏปกคลุมท้องฟ้าเหนือหุบเขาไทเลอร์จนมืดมิด


ฉากสงครามนองเลือดสุดสยดสยองระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์และอสูร ถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นนิทรรศการบุปผชาติสุดวิจิตรอลังการ


แสงสะท้อนจากทะเลโลหิตสีแดงสด ส่องปรากฏบนกลีบดอกไม้หลายพันกลางอากาศ


[กลีบดอกไม้ฟ้าครามชุ่มชโลมโลหิตแดงฉาน]


“สุดยอด…”


เสียงฮือฮาดังจากทั่วสารทิศ ทั้งตกตะลึงในความงามของฉากที่เห็น และทึ่งกับข้อความโลกที่กำลังแสดงเป็นบทกลอน


ขณะสายตาทุกคู่จ้องมองกริด หน้าอกชายหนุ่มพลันร้อนรุ่มดุจดังเพลิงโลกันตร์แผดเผา


มันกำลังรู้สึกโอหัง เพราะว่าตนเหนือกว่าผู้อื่นงั้นหรือ?


ผิดแล้ว


เป็นความรู้สึกอันบริสุทธิ์ ที่หัวใจถูกเติมเต็ม หลังจากคนทั่วโลกให้การยอมรับ


สำหรับกริดที่ชีวิตต้องเผชิญความเลวร้ายมานานนับสิบปี ความสุขช่วงหลายปีหลังไม่ได้ทำให้เขาหลงลืมอดีต ทุกครั้งที่ผู้คนให้การยอมรับ ไม่แปลกหากหัวใจจะพองโตเบ่งบาน


เขาอาจไม่ชินกับความรู้สึกดังกล่าวไปชั่วชีวิต


[เคยถูกกลั่นแกล้งและเย้ยหยัน]


[ถูกมิตรสหายเอาเปรียบและกีดกันให้ต้องโดดเดี่ยวลำพัง]


‘…แล้วทำไมต้องขุดเรื่องสมัยอดีตมาเล่าให้ฟังด้วย’


กริดตัดพ้อด้วยแก้มที่แดงระเรื่อ


เขาได้แต่ภาวนา หากไม่ใช่ข้อความโลกก็คงจะดี


ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ—


มวลหมู่กลีบดอกไม้เบ่งบานเต็มย่านน่านฟ้าเหนือหุบเขา ยิ่งงดงามก็ยิ่งอันตราย


คมกลีบดอกซึ่งถูกสร้างจากปราณดาบเฉียบแหลม โปรยกระหน่ำกรีดเฉือนกายาอัปลักษณ์เหล่าอสูรจากขุมนรกโลกันตร์


“เฮ—!!”


กองทัพอสูรมีอันต้องพานพบหายนะ


พลังของหนึ่งบุคคลสามารถสยบมวลหมู่สัตว์ชั่วร้ายหลายพันตนที่กระจุกตัว


ทหารฮาเค่นโห่ร้องดีใจด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข เสียงตะโกนกังวานสนั่นลั่นผืนฟ้า


ทว่า บทกวีกลับปฏิเสธพลังกริด


[บุรุษผู้นี้ยังอ่อนแอ]


[พลังที่ใช้ปราบกองทัพอสูรในหุบเขา แก่นแท้มิได้เกิดจากฝีมือตนเอง]


[เป็นพลังของผู้อื่น ซึ่งหากสูญเสีย เขาจะล้มจนมิอาจลุกยืนกลับมา]


ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!


ถึงเวลาของรัศมีดาบ 40 เส้นพวยพุ่งออกจากส่วนคมดาบ จุดหมายปลายทางคือจอมอสูรลำดับ 22 เฟย์ริส


[ท่านสร้างความเสียหาย 33,250]


[ท่านสร้างความเสียหาย 32,999]


สองกลีบดอกฟ้าครามพุ่งทิ่มแทงใส่เฟย์ริส


เป็นสองกลีบดอกเหมือนกับที่สร้างความพินาศแก่กองทัพเผ่าอสูร แต่เฟย์ริสใช้กายาปีศาจรับไว้ง่ายดายโดยไม่ปรากฏแม้แต่แผลถลอก


พลังป้องกันของจอมอสูรมีระดับมหาศาลเพียงใด ครอเกลเคยพิสูจน์ให้เห็นแล้ว


จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่กลีบดอกไม้ของกริดในภาวะบัฟเต็มสูบ จะมิอาจสร้างบาดแผลระคายเคืองบนเรือนร่างจอมอสูรสำเร็จ


แต่ว่า


“ได้ยังไงกัน…”


สีหน้าเฟย์ริสเจือปนความตกตะลึงชัดเจน


มันสับสนเรื่องที่ เหตุใดกริดถึงรอดพ้นจากคำลวงนับหมื่นที่บิดเบือนความจริงของตนมาได้


ทำไมอีกฝ่ายถึงสามารถใช้ทักษะโจมตี?


มนุษย์ผู้นี้ต่อต้านพลังจอมอสูรได้เชียวหรือ?


ความกังวลเริ่มก่อตัวภายในใจเฟย์ริส


กริดครอบครองพลังบางส่วนของมุลเลอร์และแพ็กม่า สองอดีตตำนานที่เคยปราบจอมอสูรตนแล้วตนเล่า


เหนือมนุษย์ที่เหล่าจอมอสูรพากันเข็ดขยาดหวาดกลัว


[จอมอสูรในหุบเขากล่าวเย้ยหยัน]


“ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจ… แต่ท้ายที่สุด เจ้าก็มีชะตากรรมต้องถูกข้าคนนี้กำจัดทิ้งอยู่ดี”


เฟย์ริสตัดสินใจเอาจริง


ฟุ่บ—!


หายไปราวกับหมอกควัน


ม้าอัปลักษณ์ของเฟย์ริสทะยานขึ้นฟ้าได้ว่องไวยิ่งกว่ายูนิคอร์นหรือเปกาซัสตัวใดทั้งหมด ด้วยความเร็วระดับนี้ การหลบหลีกรัศมีดาบสี่สิบเส้นไม่ใช่เรื่องยากเย็น


[เวทตรวจจับของบราฮัมแสดงผล]


[รัศมีของดาบมายาร่ายรำเบี่ยงเบนทิศทางเพื่อติดตามเป้าหมาย]


จนกระทั่งเวทมนตร์บราฮัมทำงาน


“อะไรกัน…?”


[แต่ท้ายที่สุด เขาก็พัฒนาตนจนสมบูรณ์แบบ]


[กายาที่ซึมซับการทุบค้อนนับสิบล้านครั้ง จดจำท่วงท่าร่ายรำดาบนับหมื่นหน]


[เวทมนตร์ที่ปะทุหลังจากสิ้นสุดเทคนิคดาบ คือหลักฐานพิสูจน์การมีตัวตนของเส้นทางใหม่]


[เส้นทางที่เขาสร้างขึ้นด้วยสองมือตัวเอง]


[หลังจากถูกเงาของบุคคลอื่นครอบงำมาแสนนาน ในที่สุด ชายหนุ่มเติบใหญ่จนมีพลังมากพอจะทำลายขีดจำกัดเดิม]


ฟุ่บ…


เป็นภาพที่น่าเหลือเชื่อ


รัศมีดาบสี่สิบเส้นซึ่งเคยพุ่งขนานไปกับพื้น เกิดการหักเหวิถีตามติดม้าของเฟย์ริสที่กระโจนขึ้นท้องฟ้า


“สามหาวนัก!”


เป็นแค่มนุษย์ แต่กลับอ่านการเคลื่อนไหวจอมอสูรทะลุปรุโปร่งเพียงนี้เชียว?


เฟย์ริสใบหน้าบิดเบี้ยว ศักดิ์ศรีของมันป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดี โทสะกายในปะทุพร้อมกับเวทแปรธาตุปริมาณมหาศาล


บาเรียโลหะที่ป้องกันการโจมตีกายภาพทุกชนิดถูกสร้างปกคลุมร่างกายไว้ทุกส่วน


นี่คือการประกาศกร้าว ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์แสนต่ำต้อยไม่มีสิทธิ์สร้างบาดแผลบนเรือนร่างผู้ปกครองสูงสุดแห่งขุมนรกอย่างมัน


ทว่า ถึงบาเรียโลหะจะมีพลังป้องกันสักร้อยล้านหน่วยก็ไม่สลักสำคัญ


ทำไมน่ะหรือ


ฉัวะ—


“…!?”


ใบมีดวายุปริศนาก่อตัวจากอากาศว่างเปล่า พุ่งเฉือนร่างเฟย์ริสทุกครั้งที่คลื่นดาบปะทะเข้ากับบาเรียโลหะครบสี่หน


เวทลมเฉือนของบราฮัมมีคุณสมบัติเป็นเวทมนตร์ บาเรียโลหะที่ต้านทานพลังทางกายภาพย่อมมิอาจขัดขวาง เนื้อหนังเน่าเปื่อยของเฟย์ริสถูกกรีดเฉือนจนหยดเลือดพุ่งสาดกระเซ็น


ในเวลาเดียวกัน


เปรี้ยะ!เปรี้ยะ!


หลังจากกลีบดอกไม้ถล่มทิ่มแทงกองทัพอสูรถ้วนหน้า ปราณดาบกลีบดอกเกิดระเบิดพร้อมกับสร้างกระแสไฟฟ้าทรงพลัง บั่นทอนพลังชีวิตเหล่าอสูรไปพร้อมกับก่ออาการผิดปรกติ ‘อัมพาต’


เวทอัสนีของบราฮัมจะแฝงในกลีบดอกเสมอ


โฮกกกกกก!!


กองทัพอสูรเริ่มระส่ำอย่างแท้จริง


มอนสเตอร์ประเภทแมลงที่พลังชีวิตต่ำ พวกมันบาดเจ็บเจียนตายด้วยการทิ่มแทงจากกลีบดอกเพียงสองหน ส่วนมอนสเตอร์ประเภทสัตว์ป่าร่างใหญ่ พวกมันส่งเสียงร้องโอดครวญเจ็บปวดพร้อมกับแสดงท่าทีเกรี้ยวกราด


อสูรบาดเจ็บจำนวนหลายพันต่างหันมองกริดเป็นตาเดียวโดยไม่สนใจสิ่งอื่น


สำหรับมนุษย์ทั่วไป นี่อาจเป็นภาพที่น่าหวาดหวั่นชวนให้หัวใจหยุดเต้น


แต่ไม่ใช่กับกริด ชายหนุ่มไม่เปลี่ยนสีหน้า


เหตุไฉนต้องแยแสสิ่งมีชีวิตต่ำต้อย?


จำนวนมากเพียงใดก็ไม่เห็นจะมีนัยสำคัญ


[มนุษย์คนแรกที่เหยียดหยันความน่าเกรงขามของกองทัพอสูรภายในหุบเขา]


[ศักดิ์ศรีและความทระนง ของผู้ไขว่คว้าเส้นทางแห่งตำนานด้วยตัวเอง ย่อมสูงตระหง่านเสียดแทงฟากฟ้า]




[บุคคลนิรนามเสร็จสิ้นบทกวีหน้าแรก]


ข้อความระบบจบเพียงเท่านี้


เป็นอีกครั้งที่หลายคนนึกขึ้นได้ว่า กริดเคยมีชีวิตย่ำแย่และน่าอดสูมาก่อน


พวกมันหลงลืมเสียสนิท ว่าชายผู้นี้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์เป็นศูนย์


เขายืนบนจุดสูงสุดได้ด้วยความมุมานะ


ท้องฟ้าที่ปราศจากพรสวรรค์ สมควรถูกยกย่องเหนืออัจฉริยะคนใดทั้งหมด


กริดกำเนิดใหม่กลายเป็นตัวตนระดับสวรรค์ที่ผู้คนทั่วโลกยกย่องสรรเสริญ


[ใครบางคนสักการะ ‘รูปปั้นราชาวีรบุรุษ·กริด’]


[ใครบางคนสักการะ ‘รูปปั้นราชาวีรบุรุษ·กริด’]


[ใครบางคนสักการะ ‘รูปปั้นราชาวีรบุรุษ·กริด’]


[ใครบางคน…]




[รูปปั้นของท่านถูกสักการะอย่างต่อเนื่อง!]




[‘รูปปั้นราชาวีรบุรุษ·กริด’ เพิ่มระดับกลายเป็นเลเวล 15 (สูงสุด) !]


[ท่านได้รับบัฟจากรูปปั้นเลเวลสูงสุด นับแต่นี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน ค่าความชำนาญเพิ่มขึ้น 30% โอกาสสร้างไอเท็มเกรดสูงเพิ่มขึ้นจากปรกติหลายเท่า และทักษะดาบจะปลดปล่อยได้เร็วขึ้น 20%]


ข้อความระบบแจ้งข่าวดี ปรากฏที่มุมสายตากริดอย่างต่อเนื่อง


[หน้าแรกของบทกวีเสร็จสมบูรณ์!]


[ทักษะ < (ความห่วงใยจากบราฮัม) เทคนิคมหาจอมดาบแพ็กม่า> กลายเป็น <วิชาดาบกริด>]


[ท่านมีโอกาสประจักษ์สุดยอดเวทมนตร์ของบราฮัมบ่อยครั้ง วิชาดาบเฉพาะตัวของท่านถูกดัดแปลงให้ใช้งานเวทมนตร์ได้เต็มความสามารถมากขึ้น เวทมนตร์เฉพาะตัวของบราฮัมจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม]


[ท่านคือผู้เล่นคนแรกที่ทำลายขีดจำกัดและสร้างทักษะใหม่เป็นของตัวเอง]


[ท่านได้รับทักษะ ‘สร้างทักษะ’ เป็นรางวัลตอบแทนความสำเร็จอันยิ่งใหญ่]


<สร้างทักษะ>


สร้างทักษะประเภทกดใช้งานได้หนึ่งชนิด


[เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ เป็นรางวัลตอบแทนจากการถูกจารึกตำนานไว้ในบทกวี]


[ร่างกายของท่านถูกปลดพันธนาการ ความเร็วทุกชนิดเพิ่มขึ้นเกินขีดจำกัด วิสัยทัศน์เพิ่มขึ้นเกินขีดจำกัด สัมผัสทั้งหกเฉียบคมขึ้นเกินขีดจำกัด]


[ค่า ‘ความเป็นเทพ’ เพิ่มขึ้น 1 แต้ม]


[จากเนื้อหาของบทกวี ท่านได้รับสมญานาม ‘ตำนานแห่งหุบเขา’]


<ตำนานแห่งหุบเขา>


ภายใต้สนามรบประเภทหุบเขา แต้มสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น 10% ความรุนแรงทักษะโจมตีวงกว้างเพิ่มขึ้น 20%


ท่านสลักความหวาดกลัวลงในใจจอมอสูรลำดับ 22 เฟย์ริส ทำการลดพลังป้องกันกายภาพและเวทมนตร์ของเฟย์ริสลง 10%


เอฟเฟคข้างต้นมีผลกับจอมอสูรทุกตนที่ลำดับต่ำกว่าเฟย์ริส


[สัญชาตญาณและสายตาของท่านเฉียบคมยิ่งกว่าผลจากออปชั่นไอเท็ม ‘ผ้าปิดตาเพชฌฆาต’ การสวมมันจะไม่เกิดประโยชน์อันใด แถมยังระคายเคืองการมองเห็นของท่าน]


“…”


ท้องฟ้าถือกำเนิดใหม่ท่ามกลางผืนทรายสีเหลืองทอง


ถึงแม้กระแสลมจะเริ่มสงบ แต่กลิ่นคาวเลือดน่าสะอิดสะเอียนยังคงคละคลุ้งฟุ้งกระจาย


ฉึบ


สายตากริดและเฟย์ริสประสานกันด้วยฐานะที่เท่าเทียม ไม่มีใครสูงกว่าใคร


“ฟู่ว…”


ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอด เขาหลับตาลงครู่หนึ่งก่อนจะลืมขึ้นอีกครั้ง


โลกทั้งใบเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน…


ไม่ได้การ… ต้องรีบปรับตัวชินโดยเร็ว


“เป็นไงเป็นกัน…”


กริดพึมพำพร้อมกับถอดผ้าปิดตาทิ้ง


กล้องทุกตัวรีบจับภาพมาที่ดวงตาข้างซ้าย


ม่านตาแดงก่ำรอบนอกปรากฏจุดดำจำนวนแปดจุดเรียงตัวเป็นวงกลม ขนาดของแต่ละจุดเล็กเพียงครึ่งหนึ่งของรูม่านตาที่อยู่กึ่งกลาง


สัญลักษณ์ของเนตรมาร


[ความรู้สึกเปี่ยมสุขกำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างท่าน เวทมนตร์จาก ‘เนตรทำหมัน’ ถูกระงับผลใช้งานอัตโนมัติ เนื่องจากตัวตนของท่านถูกยกระดับ]


“…ฮ่าห์”


กริดมองเห็นแม้กระทั่งทิศทางสายลมเอื่อยที่พัดผ่านผิวหนัง


เมื่อดวงตาถูกเสริมประสิทธิภาพวิสัยทัศน์ให้เฉียบคม ชายหนุ่มรู้สึกคล้ายกับตนคือผู้ปกครองสูงสุดเหนือท้องฟ้าทั้งมวลก็มิปาน


ภายในเสี้ยววินาที ข้อมูลจำนวนมากถูกส่งผ่านเข้ามาในรูปแบบภาพการมองเห็นและประสาทสัมผัสทั้งหก


เหมือนกับซูเปอร์ฮีโร่ในภาพยนตร์…


เหมือนกับ… ตนไม่ใช่มนุษย์อีกแล้ว


สำหรับกริด มันเคยซึมซับความรู้สึกแบบนี้มาก่อน จากภาพนิมิตที่เครย์เชอร์แสดงให้ดูเมื่อครั้งย้อนเวลากลับไปหาแพ็กม่า


ความรู้สึกนี้มัน… เหนือมนุษย์


ระดับสมรรถภาพร่างกายของกริดตอนนี้ อย่างน้อยก็ไม่ด้อยไปกว่าเจ็ดดยุคแน่นอน


“กล้าทำสีหน้าโอหังต่อหน้าข้าเชียวหรือ”


ก่อนกริดจะมาถึงหุบเขา เฟย์ริสผ่านการต่อสู้กับบุคคลที่แข็งแกร่งมาแล้วหลายยก


โดยเฉพาะศึกระหว่างผู้ใช้หอกเก่งฉกาจสองคนพร้อมกัน เป็นการดวลที่ตึงมือที่สุดนับตั้งแต่มันปรากฏกายบนโลกมนุษย์


หลอดพลังชีวิตถูกลดทอนลงไปหลายส่วน


และเมื่อเวทมนตร์จากบราฮัมกระแทกซ้ำหนักหน่วงโดยไม่ทันตั้งตัว พลังชีวิตจึงลดต่ำลงจนเข้าสู่โหมดคลุ้มคลั่งทันที


“เจ้า… โอหังเกินไปแล้ว… ข้าจะแสดงพลังที่แท้จริงให้ประจักษ์”


พลังสุดโกงซึ่งสามารถบดขยี้กองทัพอาเรสได้ง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ


บัฟที่ถูกกล่าวขานกันว่า เป็นบัฟที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่ซาทิสฟายเคยมีมา


คลื่นกระเพื่อมแผ่ขยายไปทั่วหุบเขา ผืนดินสั่นสะเทือนโครมครามด้วยบรรยากาศน่าเกรงขามหวาดหวั่น กองทัพอสูรถูกปลุกขวัญกำลังใจให้กลับมาฮึกเหิมอีกระลอก อาการบาดเจ็บเริ่มถูกฟื้นฟูจนบาดแผลสมาน


“ไม่มีใครในโลกสร้างบาดแผลให้ข้าได้”


คำลวงที่กลายเป็นความจริงชั่วขณะ


“หนึ่งลมหายใจของข้าจะแผดเผาผืนป่าให้ไหม้เกรียมโล่งเตียน หนึ่งฝ่าเท้าของข้าจะกระทืบภูผาให้พังครืน”


เฟย์ริสฉาบตัวเองด้วยบัฟคำลวงสุดทรงพลังเหนือจินตนาการ นับแต่นี้ไปเป็นเวลาหนึ่งนาที เฟย์ริสจะอยู่ในภาวะอมตะ แถมยังเพิ่มพลังโจมตีทุกชนิดอีกหลายเท่า


ใช่แล้ว กองทัพอาเรสถูกทำลายด้วยสิ่งนี้


ผู้ชมทางบ้านที่เคยชมสงครามอาเรส พวกมันล้วนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘จีจี’


ทันใดนั้น


“ข้าพเจ้าไม่ต้องการเห็นท่านได้ดิบได้ดี”


กริดเปล่งถ้อยคำสุดเหลวไหลต่อหน้าทุกคน


แก้มชายหนุ่มแดงระเรื่ออย่างเขินอาย


『....? 』


= …?


เมื่อครู่กริดพูดว่าอะไร…?


ขณะคนทั่วโลกไต่ถามด้วยสีหน้าฉงน ฝ่ามือฝ่าเท้าของพิธีกรและผู้ชมต่างพากันสั่นระริก


เพล้ง!


บัฟคำลวงที่เฟย์ริสฉาบบนร่าง พลันแหลกละเอียดคล้ายเศษกระจกในพริบตา


『.…!!』


= …!!


“…!!”


ความตกตะลึงแผ่ปกคลุมไปทั่วโลก รวมถึงสนามรบหุบเขาไทเลอร์


และแน่นอน ฝ่ายที่ประหลาดใจที่สุดหนีไม่พ้นตัวเฟย์ริสเอง


ทันใดนั้น บางสิ่งได้พุ่งเข้าประชิดปลายจมูกเฟย์ริสที่ยืนหวาดผวาอย่างฉับพลัน


เป็นกริด


ราชาโอเวอร์เกียร์ผู้เกิดใหม่พร้อมกับสปีดเหนือมนุษย์ ยิ่งรวมเข้ากับบัฟร่างมืด ความเร็วจึงกลายเป็นคนละมิติจากแต่ก่อน ชนิดที่ไม่มีผู้เล่นคนใดเอื้อมถึง แม้กระทั่งคลาสนักลอบสังหารแถวหน้าของโลก


“วิชาดาบกริด”


“…!?”


“สังหาร”


ผู้ปกครองขุมนรก ตัวตนระดับจอมอสูรซึ่งเป็นที่หวาดกลัวของเผ่ามนุษย์ทั้งมวล


ฉึก—


ดาบในมือกริดทะลวงหัวใจเข้าไปง่ายดาย


“นี่เจ้า…”


ฉัวะ—!


ปากที่ใช้เย้ยหยันมนุษย์ กริดใช้ส่วนคมสะบั้นใส่จนชะงักการเปล่งเสียง


ฉัวะ ฉัวะ!!


ปราณดาบและคลื่นเวทมนตร์ถาโถมพัลวันรอบตัวเฟย์ริส เกิดระเบิดลุกท่วมอย่างต่อเนื่อง แสงหลากสีของเวทมนตร์ปรากฏสลับรัศมีดาบ


กริดหายตัวโผล่โจมตีเฟย์ริสจากทุกทิศ


บ้างด้านซ้าย บ้างด้านบน และบ้างด้านหลัง


วิชาดาบกริดชนิดแล้วชนิดเล่าถูกประเคนใส่กายาจอมอสูรอย่างไม่เกรงใจ



▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,438
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ถึงกับขนลุก

    ReplyDelete
  2. สนุกมากกกกก รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้วครับบ

    ReplyDelete
  3. ตัดจบแบบละครไทย พบกันใหม่อาทิตย์หน้า 555

    ReplyDelete
  4. เอามาอีกสัปดาห์ละ4ตอนนนี่เพิ่ง3ตอนเองงง จะลงเเดงเเหล่ววว

    ReplyDelete
  5. โหดดดดด
    สุดยอดดดดด
    ค้างงงสิครับแบบนี้😆
    ขอบพระคุณ​เป็น​อย่างยิ่ง​😁🙏

    ReplyDelete
  6. โคตร​ของ​โคตร​เทพ​ ซุปเปอร์​กริด​

    ReplyDelete
  7. สุดยอดมากเลยตอนนี้

    ReplyDelete
  8. ข้าพเจ้าไม่ต้องการเห็นท่านได้ดิบได้ดี AKA ของแสลงสายบัฟ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00