จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1048



『ม…ไม่ใช่ตัวปลอมครับ! นั่นคือสามในเจ็ดดยุคแห่งซาฮารันไม่ผิดแน่!』


โยฮันเนส นักเปียโนอัจฉริยะชาวเยอรมัน พรสวรรค์ของมันถูกยกย่องระดับหนึ่งร้อยปีจะมีสักหน


แต่กลับโชคร้ายเกิดอุบัติเหตุขึ้น อุบัติเหตุรุนแรงถึงขนาดพรากแขนของโยฮันเนสหนึ่งข้างและขาทั้งสองข้าง


ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน มันได้รับแขนขาเทียมที่มีประสิทธิภาพน่าทึ่ง โยฮันเนสได้รับสัมผัสซึ่งแทบไม่ต่างจากเดิมกลับคืนมา


ปัญหาอยู่ตรง ‘แทบไม่ต่าง’ จากเดิม


หมายความว่ายังมีส่วนต่างอยู่


ร่างกายและฝีมือเปียโนของโยฮันเนสฟื้นฟูกลับมาได้ 99% แต่ไม่ถึง 100% ซึ่งสำหรับนักเปียโนที่ต้องใช้ประสาทสัมผัสละเอียดอ่อน


99% นั้นไม่ต่างอะไรกับ 0%


โยฮันเนสไม่พึงพอใจร่างกายใหม่ สำหรับอัจฉริยะวัยเยาว์ นั่นคือความรู้สึกแสนเจ็บปวด


หลังจากลังเลอยู่นาน โยฮันเนสตัดสินใจประกาศวางมือจากการแสดงในที่สุด


แต่ว่า


『ผมเคยพบพวกเขามาก่อน… ที่โถงใหญ่ของวังหลวงซาฮารัน ในงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง』


โยฮันเนสได้รับชีวิตและอนาคตใหม่


ร่างกายของมันฟื้นฟู 100% ภายในโลกซาทิสฟาย ด้วยพรสวรรค์ที่ยังไม่จางหาย โยฮันเนสทุ่มเทกายและใจเพื่อสร้างอนาคตใหม่ที่นี่


ด้วยความฝันที่จะเป็นนักดนตรีอันดับหนึ่งของโลก ฝีมือของมันเข้าตาราชวงศ์ซาฮารัน จนถูกแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในสมาชิกวงออเครสต้าประจำวังหลวงจักรวรรดิ


สังคมขุนนางระดับสูง โยฮันเนสได้เห็นมันในระยะใกล้ชิดกว่าใคร


ผู้คนทั่วโลกกำลังถูกถ่ายทอดข้อมูลที่พวกมันไม่สามารถเข้าถึง โยฮันเนสเริ่มสาธยายความรู้และประสบการณ์ของตนอย่างละเอียด ด้วยฐานะผู้เชี่ยวชาญซาทิสฟายที่ทางช่องสถานีเยอรมันรับเชิญเป็นกรณีพิเศษ


『ดยุคเกล็นฮาลและบาซาร่าถือเป็นสองดยุคที่อยู่ในลำดับต้นๆ ของซาฮารัน กล่าวกันว่า ดยุคเกล็นฮาลมีดินแดนในการปกครองมากที่สุด และดยุคบาซาร่าสืบเชื้อสายใกล้ชิดกับมหาจักรพรรดิฮวนเดอร์มากที่สุด เธอคือเชื้อพระวงศ์ตัวจริง… และหากรวมดยุคมอริสเข้าไปด้วย ทั้งสามดยุคนั้นได้ชื่อว่าไม่เคยพ่ายแพ้ในสงครามใด พวกเขาหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีมาก』


โยฮันเนสหยุดพักหายใจ


ขณะกล้องกำลังจับภาพไปที่เกล็นฮาล โยฮันเนสเริ่มสาธยายต่อ


『ดยุคเกล็นฮาลจะก้มศีรษะให้เพียงองค์จักรพรรดิเท่านั้น หมายความว่า นอกจากจักรพรรดิซาฮารันแล้ว เขาไม่ยอมรับนับถือให้ผู้ใดเหนือกว่า』


『กับเหล่าเชื้อพระวงศ์ก็ด้วยหรือครับ? ดังเช่นเหล่าองค์ชาย แบบนี้จะไม่ถือเป็นการหมิ่นเกียรติราชวงศ์ซาฮารันเอาหรือ? 』


『ไม่เลยครับ ดยุคเกล็นฮาลสืบเชื้อสายโดยตรงจากวีรชนผู้ร่วมก่อตั้งจักรวรรดิ พลังอำนาจและดินแดนที่ถือครองในปัจจุบันสูงกว่าเหล่าองค์ชายหลายขุม ถึงขนาดที่ว่า ฝ่ายบรรดาองค์ชายพยายามซื้อใจดยุคเกล็นฮาลให้เข้าพวกตน』


กล้องสลับจับไปยังภาพมอริส


『ส่วนดยุคมอริสนั้นเหมือนกับ… อันธพาล… บรรยากาศรอบตัวเปี่ยมด้วยความป่าเถื่อน ทุกครั้งที่เข้าวังหลวง เขาไม่เคยเกรงกลัวผู้ใด เหล่าเชื้อพระวงศ์ต่างพากันแสดงสีหน้าอึดอัดเมื่อได้เห็นดยุคมอริส เขาใช้ชีวิตอย่างอิสระ ราวกับวันพรุ่งนี้จะมาไม่ถึง』


สุดท้าย กล้องจับไปที่บาซาร่า


『ดยุคบาซาร่า เธอคือสตรีแสนสง่างาม ด้วยเลือดเนื้อเชื้อไขซาฮารันที่ไหลเวียนอย่างเข้มข้น ฐานะของเธอจึงสูงส่งไม่แพ้บรรดาองค์ชาย เป็นสุภาพสตรีที่มีกิริยามารยาทเรียบร้อย ทุกคนในวังหลวงต่างเคารพนับถือดยุคบาซาร่า แถมยังกล่าวกันว่า ความรอบรู้ของเธอกว้างขวางดุจดังมหาสมุทร แต่ก็มีข่าวลือเรื่องอาการตาบอด เพราะเธอจะสวมผ้าปิดตาไว้ตลอดเวลา』


『ล…แล้วทำไมทั้งสามดยุค ถึงกำลังจ้องมองกริดด้วยดวงตาเป็นประกายเช่นนี้ครับ? 』


『น…นั่นสิครับ น่าแปลกมาก จากอุปนิสัยของพวกเขา ทั้งสามดยุคไม่เคยแสดงกิริยาท่าทียกย่องนับถือผู้ใดมาก่อน』


『…』


ผู้บรรยายเริ่มเข้าใจสถานการณ์ ผู้ชมทางบ้านก็ไม่ต่าง พวกมันสัมผัสถึงความไม่ชอบมาพากล


เหตุใดกริดที่เป็นศัตรูของซาฮารัน ถึงได้ปรากฏตัวพร้อมกันกับสามในเจ็ดดยุค?


หลายคนต่างคาดเดาว่า กริดคงชักชวน NPC ระดับดยุคมาเป็นพวกได้ด้วยการทำภารกิจพิเศษที่ซับซ้อน แต่ด้านโยฮันเนสที่ตระหนักถึงอุปนิสัยของสามดยุคได้มองลึกลงไปกว่านั้น


『แต่ไหนแต่ไร พวกเราชื่นชมกริด เพราะว่ากริดสร้างปาฏิหาริย์เหนือจินตนาการหนแล้วหนเล่าใช่ไหมครับ? ผมจึงมองว่า ดยุคทั้งสามอาจหลงใหลในตัวกริด เพราะกริดแสดงพลังที่เหนือจินตนาการพวกเขาเหมือนกัน』


『อ…อย่างนั้นหรือครับ』


มีพลังที่เหนือจินตนาการของสามดยุคด้วยหรือ? ต้องยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน?


ดาบสลายทัพสองแสน


ด้วยชื่อสุดโอหัง ประสิทธิภาพของมันก็ยอดเยี่ยมสมราคา


ใบดาบโลหะนับหมื่นเล่มที่กำลังจะทำลายกองทัพครอเกลจนแหลกละเอียด ถูกเพียงหนึ่งทักษะของกริดสลายทิ้งในพริบตาตามชื่อของมัน


แต่ถึงกระนั้น ทักษะจำพวก ‘ลบล้างทักษะ’ ก็มีอยู่ดาษดื่นเต็มโลกซาทิสฟายไม่ใช่หรือ?


แล้วดาบสลายทัพสองแสนของกริดมีสิ่งใดพิเศษกว่าคนอื่น?


อาจธรรมดาในสายตาบุคคลทั่วไป แต่ไม่ใช่กับเจ็ดดยุคแห่งซาฮารัน


พิเศษขนาดไหน? พิเศษขนาดบาซาร่าต้องถอดผ้าคาดเพื่อหวังยลโฉมเต็มสองตา


ถึงกระนั้น สำหรับผู้ชมและพิธีกรทั่วโลก พวกมันยังมิอาจทำความเข้าใจได้


『ทักษะลบล้างทักษะไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่แต่อย่างใดครับ ถึงผมจะไม่เคยเห็นเวทมนตร์ที่สุดยอดเท่ากับเวทแปรธาตุของเฟย์ริสมาก่อน แต่นั่นก็นับเป็นเพียงหนึ่งทักษะ การถูกทักษะเดียวลบล้างย่อมเกิดขึ้นได้… ผมมั่นใจว่า หากคิรินัสและเรเชลอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พวกเขาก็สามารถสลายเวทแปรธาตุของเฟย์ริสได้เช่นกัน』


『แต่ผมกลับมองว่า คงไม่ใช่เหตุผลธรรมดาแบบนั้นแน่ ถ้าไม่เชื่อก็ลองสังเกตสีหน้าของเรเชลให้ดีสิครับ…』


『เหตุใดเรเชลต้องตกตะลึงขนาดนั้นด้วย? เหมือนกับกำลังเห็นผีเลยทีเดียว』


『พวกเรารอชมท่าทีไปก่อนดีกว่าครับ』


มาถึงจุดนี้ ผู้เชี่ยวชาญไม่กล้าเดาสุ่มอย่างไร้ทิศทางอีกแล้ว โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับกริด


สมัยอดีต แต่ละคนเคยคาดเดาเกี่ยวกับกริดด้วยหลักเหตุและผลอย่างตรงไปตรงมา ทว่า ผลลัพธ์คือความหน้าแตกทุกครั้ง


เจ็บแล้วจำคือคน…


ช่องสนทนาบนโลกอินเทอร์เน็ตต่างเต็มไปด้วยถ้อยคำสาปแช่งด่าทอกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่เอาแต่เงียบงันไม่แสดงความเห็น


ช่วยไม่ได้… ยอมถูกด่าชั่วครู่ ดีกว่าต้องอับอายและโดนล้อไปตลอดชีวิต


***


[ท่านได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากผลข้างเคียงของทักษะ ‘ดาบสลายทัพสองแสน’]


[ท่านสูญเสียพลังชีวิต 50%]


“ชิ…!”


<ดาบสลายทัพสองแสน (ลดระดับ) > Lv.1

ปลดปล่อยรัศมีดาบขนาดยักษ์ทรงจันทร์เสี้ยวออกไปด้านหน้า รุนแรง 200% ของพลังโจมตี และจะลบล้างการโจมตีทุกชนิดของศัตรูให้หายไป มีผลเฉพาะเป้าหมายในการมองเห็น

ทว่า ยิ่งพลังโจมตีของทักษะศัตรูรุนแรง อาการบาดเจ็บก็ยิ่งย้อนกลับหาตัวท่านมากขึ้น

ทรัพยากรที่ใช้ :

- มานา 8,000

- ปราณดาบหรือปราณต่อสู้ 50

ผลข้างเคียง : สูญเสียพลังชีวิตตั้งแต่ 10% ถึง 50% ขึ้นอยู่กับความรุนแรงทักษะที่ลบล้าง

ระยะหน่วงหลังใช้ : 30 นาที


ระหว่างวิชาดาบทัพหนึ่งแสนและสองแสน


ถึงจะต่างเพียงขั้นเดียว แต่ประสิทธิภาพกลับห่างชั้นราวท้องฟ้าหุบเหว


เป็นท่าโจมตีที่โดนศัตรูทุกเป้าหมายในการมองเห็นคล้ายกับ ‘ดาบสกัดทัพหนึ่งแสน’ แต่ความรุนแรงมากกว่าถึงสิบเท่า


ถึงจะไม่มีผล ‘ผนึก’ ซึ่งเป็นอาการปรกติที่ยอดเยี่ยม แต่คุณสมบัติ ‘ลบล้างทักษะ’ ก็มีข้อดีในบางสถานการณ์


ดังเช่นเมื่อครู่


แถมโอกาสลบล้างไม่ใช่แบบสุ่ม แต่บังคับลบล้างสำเร็จอย่างไรเงื่อนไข


‘สุดยอด…’


นับตั้งแต่เริ่มเล่นซาทิสฟายจนถึงปัจจุบัน กริดไม่เคยพบเห็นทักษะขี้โกงเช่นนี้มาก่อน


ยอดเยี่ยมชนิดที่ของเก่าเทียบไม่ติด


ขณะครุ่นคิด ชายหนุ่มรีบดื่มโพชั่นและใช้มือปาดเลือดที่ไหลซึมมุมปาก


สูญเสียพลังชีวิตไปมากพอสมควร นับว่าผลข้างเคียงรุนแรงเอาเรื่องไม่น้อย


‘น่าเสียดายที่ระยะหน่วงนานไปหน่อย’


30 นาที… ถือเป็นช่วงเวลาที่นาน


การต่อสู้ที่ยืดเยื้อเกินกว่า 30 นาทีนั้นปรากฏให้เห็นไม่บ่อยนัก หมายความว่า มันคือทักษะที่ใช้ได้ไม่เกินสองครั้งในศึกทั่วไป


แต่โชคดีที่ดาบสกัดทัพหนึ่งแสนก็มีระยะหน่วง 30 นาทีเท่ากัน จึงสามารถสลับใช้ได้เหมาะสมตามสถานการณ์ อย่างน้อยก็มีทักษะสำรองขณะรอให้ดาบสลายทัพสองแสนวนกลับมาถึงอีกครั้ง


‘ไม่ใช่ปัญหา เราเคยชินกับทักษะที่มีระยะหน่วงนานอยู่แล้ว’


นับตั้งแต่กลายเป็นผู้สืบทอดแพ็กม่า กริดก็ฝึกฝนกะจังหวะใช้ ‘มายา’ ซึ่งมีระยะหน่วง 40 วินาทีจนเชี่ยวชาญ


‘แถมเรายังมีบัญชาแห่งเทพ’


ทักษะติดตัวซึ่งมีโอกาสลบล้างระยะหน่วงของทักษะทุกชนิด ถึงโอกาสแสดงผลจะต่ำกว่า 50% สำหรับกริด แต่ก็เป็นปัจจัยที่ช่วยพลิกผันกระแสสงครามในบางครั้ง


‘ว่าแต่…’


ฉึบ


เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาจับจ้องจากด้านหลัง ชายหนุ่มรีบหันกลับไปมอง


เป็นอีกครั้งที่สามดยุคแสดงสีหน้าตกตะลึงสุดขีด ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น การได้เห็นเทคนิคดาบของราชาไร้พ่ายซึ่งหน้า เป็นใครในซาฮารันก็คงยากจะนิ่งเฉย


ทว่า เรื่องนี้อาจพวกมันอาจเข้าใจผิด ว่าตนคือผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายที่เคยก่อเรื่องกับจักรวรรดิเมื่อหลายปีก่อน


กริดพยายามแก้ต่าง


“ฉันเป็นคนละคนกับผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายที่ปรากฏตัวในลูบาน่า”


แต่เป็นผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายที่ก่อความวุ่นวายในวัลฮัลล่า ฆ่าโรเล็กซ์ และตัดแขนไคลน์…


กริดกลืนประโยคหลังลงคอ การกล่าวออกไปเช่นนั้นไม่ใช่เรื่องฉลาด มีแต่จะสร้างความแตกแยกโดยไม่จำเป็น


“…ท่านไม่ได้โกหก”


บาซาร่าจ้องมองเข้าไปในดวงตากริด เธอพบว่าชายหนุ่มมิได้แสดงปฏิกิริยาของผู้โป้ปด แถมคำบอกเล่าของกริดก็สอดคล้องกับข้อมูลที่ตนมี


ราชาโอเวอร์เกียร์กระทำสิ่งใดในตอนที่ผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายก่อความวุ่นวายในลูบาน่า?


ในตอนนั้น กริดกำลังอยู่ที่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ สายข่าวที่ยอดเยี่ยมของเธอยืนยันเรื่องนั้นแน่ชัด


การอาละวาดของโอเอซิส บังเอิญเกิดขึ้นหลังจากกริดชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นและครอบครองสมญานามราชาวีรบุรุษได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่สายลับของจักรวรรดิจึงเฝ้าจับตามองเป็นพิเศษ


แต่ส่วนหนึ่งที่สามดยุคยอมเชื่อคำพูดกริดอย่างง่ายดาย เพราะพวกมันมีค่าความสัมพันธ์กับกริดสูง


ใช่แล้ว หากไม่สนิทสนมกัน ชายหนุ่มคงไม่กล้าใช้เทคนิคดาบราชาไร้พ่ายต่อหน้าดยุคแห่งจักรวรรดิแน่


นับตั้งแต่แข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่สี่จบลง ผ่านมาไม่กี่เดือน กริดประสบความสำเร็จมากมายหลายด้าน ทั้งดาบทัพสองแสน สร้างปืนใหญ่โอเวอร์เกียร์ ได้รับคัมภีร์เทพสงคราม และเสริมประสิทธิภาพเทคนิคดาบด้วยความช่วยเหลือจากเคลย์เชอร์ สันตะปาปาลำดับสอง


เป็นพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาแสนสั้น ชนิดที่สมัยอดีตเทียบไม่ติด


แต่สำหรับกริด สิ่งที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุดกลับเป็น การสานสัมพันธ์ต่อสามดยุคแห่งจักรวรรดิจนได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ


ด้วยมิตรภาพใหม่ กริดมีความสุขยิ่งกว่าการได้รับทหารม้านับพันหมื่น เขาหวังต่อยอดความสัมพันธ์กับสามดยุคให้ยืนยาว เพื่อใช้เป็นรากฐานสร้างพันธมิตรกับจักรวรรดิ


‘ถ้าต้องแสดงวิชาดาบไร้พ่ายในสักวัน ไม่มีโอกาสใดเหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว’


มาดรา ราชาไร้พ่าย คือบุคคลที่ขุนนางจักรวรรดิหวาดกลัวจนอุจจาระขึ้นสมอง


เดิมที หากเมื่อใดที่ซาฮารันทราบว่ากริดคือผู้สืบทอดราชาไร้พ่าย ชะตากรรมของกริดคงไม่แคล้วถูกจักรวรรดิถล่มด้วยกำลังรบทั้งหมดที่มีเพื่อตัดรากถอนโคนให้สิ้นซาก


แต่ปัจจุบัน สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไป


สามดยุคซึ่งต้องการให้ซาฮารันเป็นมิตรกับโอเวอร์เกียร์ มีโอกาสสูงที่พวกมันจะยอมรับในพลังราชาไร้พ่ายที่กริดครอบครอง


และเขาคิดถูก


“ผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายสินะ… ฉันเคยได้ยินว่า บุคคลที่มีคุณสมบัติครอบครองพลังราชาไร้พ่าย ไม่จำเป็นต้องมีแค่คนเดียว”


“โชคดีที่กริดคือหนึ่งในนั้น”


“…ฮะฮะ”


ขอบคุณสวรรค์ที่ออกมาราบรื่น


ขณะชายหนุ่มหัวเราะแห้ง สุ้มเสียงกังวานพลันดังก้องทั่วสนามรบ


“เจ้าก็แค่พันทาง…”


“พันทาง?”


กริดรีบหันกลับไปมองเฟย์ริส


ผิวหนังพุพองเน่าเปื่อย ดวงตาขาวโพลนไร้นัยน์ตาดำ ช่องท้องปรากฏปอดเน่าโดยไม่มีผิวหนังปกคลุม สีของปอดม่วงคล้ำสลับแดงสดเป็นระยะตามจังหวะหายใจ


กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งทั่วหุบเขาไทเลอร์


เป็นตัวตนที่น่าขยะแขยงเหนือคำบรรยาย


ใช่แล้ว แค่น่าขยะแขยง


ความรู้สึกของกริดมีเพียงเท่านั้น ไม่เหมือนกับคนทั่วไปที่หวาดกลัวจนตัวสั่น เขาปราศจากอารมณ์ด้านลบโดยสิ้นเชิง


หลังจากได้พบเป็นเทพสงครามตัวจริง ตัวตนของจอมอสูรก็ไม่มากพอจะสั่นคลอนหัวใจกริด


เมื่ออ่านสีหน้าความรู้สึกของราชาโอเวอร์เกียร์ออก มุมปากเฟย์ริสกระตุกเล็กน้อย


“แพ็กม่า บราฮัม มาดรา มุลเลอร์… พลังของอดีตกาลกำลังอัดแน่นในตัวเจ้า… ช่างเป็นชายหนุ่มที่โอหังซะจริง”


ฉึบ


สายตาทุกคู่หันมาจับจ้องกริดเป็นตาเดียว รวมถึงผู้บรรยายและผู้ชมทั่วโลก ไม่มีใครอยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่


พลังอดีตสี่ตำนาน กำลังอัดแน่นในร่างกายมนุษย์เพียงหนึ่งคนงั้นหรือ?


“แต่พลังของตัวเจ้าเองคือสิ่งใด? ไม่มีเลย! เจ้าก็แค่หยิบยืมพลังพวกมันมาใช้เท่านั้น หากสูญเสียไป ชีวิตเจ้าจะไม่มีค่าอันใด!”


[หมื่นคำลวงที่สามารถบิดเบือนความจริง]


[ท่านสูญเสียคลาสหลัก ‘ผู้สืบทอดแพ็กม่า’ เป็นการชั่วคราว]


[ทักษะและเอฟเฟคทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับผู้สืบทอดแพ็กม่าจะถูกผนึก]


[ท่านสูญเสียคลาสรอง ‘ดยุคแห่งปัญญา’ เป็นการชั่วคราว]


[ท่านสูญเสียสมญานาม ‘ราชาวีรบุรุษ’ เป็นการชั่วคราว]


[ทักษะและเอฟเฟคทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับราชาวีรบุรุษจะถูกผนึก]


[ทักษะดาบทัพหนึ่งแสนและดาบทัพสองแสนถูกผนึกชั่วคราว]


“…!?”


กริดทำหน้าบิดเบี้ยวคล้ายกับถูกฟ้าผ่า ร่างกายแข็งทึ่งประหนึ่งรูปปั้นหิน


แน่นอน ค่าต้านทานทุกชนิด 100% ที่พึ่งพามาตลอดย่อมถูกผนึกไปด้วย


เฟย์ริสแสยะยิ้มชั่วร้าย


“จงหายไปซะ”


ไม่มีทางที่จอมอสูรจะไม่รู้จักแพ็กม่า มนุษย์ที่ยืนหยัดปกป้องหมู่เกาะเบเฮ็นจากการรุกรานของกองทัพจอมอสูรตามลำพัง


ชื่อเสียงของกริด ไม่มีทางที่เฟย์ริสจะไม่หวาดระแวง


ไม่เพียงเท่านั้น กริดยังครอบครองพลังบีเลียลและอัสทารอธ หมายความว่าชายคนนี้ปราบจอมอสูรไปแล้วสองตน


สำหรับเฟย์ริส กริดคือเป้าหมายอันดับหนึ่งที่ ต้องรีบกำจัดยิ่งกว่าใครทั้งหมด


และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด


คำลวงที่เป็นจริงซึ่งสามารถใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อหนึ่งเป้าหมาย คือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยคร่าชีวิตเสี้ยนหนามแสนอ่อนแอตรงหน้า


แต่มันกลับมองข้ามไปหนึ่งเรื่อง


มีบางรายละเอียดในตัวกริด ที่เฟย์ริสไม่สามารถมองเห็นทะลุปรุโปร่ง


[คลาสรองที่สอง ‘มหาจอมดาบเวท’ กลายเป็นคลาสหลักชั่วคราว]


[< (ความห่วงใยจากบราฮัม) เทคนิคมหาจอมดาบแพ็กม่า> สามารถใช้การได้ตามปรกติ]


ตัวเอกของเรื่องราวเล่าขานที่จะกลายเป็นเทวะตำนานเพื่อต่อกรกับสิ่งมีชีวิตระดับเทพ


ตำนานเส้นทางใหม่ซึ่งเกิดจากความอดทนและจิตใจที่ซื่อตรงของกริด


พลังที่กริดไขว่คว้าด้วยมือของตัวเอง


ศิษย์เอกแห่งแพ็กม่าและบราฮัม คลาสที่ทรงพลังยิ่งกว่าผู้สืบทอดแพ็กม่า


ทันใดนั้น


[ใครบางคนเริ่มประพันธ์บทกวี]


[มหากาพย์เรื่องราวเริ่มต้นที่หุบเขาไทเลอร์]


“วิชาดาบแพ็กม่า”


กริดมิได้สูญเสียพลังของตน


ตรงกันข้าม เขาสมบูรณ์พร้อม


“มายาร่ายรำสะพรั่ง”


“…ได้ยังไง?”


[กลีบดอกไม้ฟ้าครามชุ่มชโลมโลหิตแดงฉาน]


ข้อความโลกกำลังพรรณนาตัวตนและการต่อสู้ของกริดออกมาเป็นบทกลอน


โยฮันเนสพลันตระหนัก


นี่คือมหาบทกวีที่จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ตลอดกาล


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,437
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สุดยอด​ มันมา​กๆ และค้างงงงง อ๊ากกก อยากอ่านอีก​ 😂😂 🙏🙏ขอบคุณ​ครับแอด

    ReplyDelete
  2. ที่สุดของความค้างงงงงง สนุกมากๆเลยครับ

    ReplyDelete
  3. สุดยอด​ด​ด​ด​👍
    มันส์​~~~
    ขอบคุณ​มาก​ๆ​ครับ​💕

    ReplyDelete
  4. ในที่สุด ตำนานที่กริดสร้างขึ้นเองไม่ได้ตามเงาใครจะเริ่มเเล้วสินะ ตำนานที่เเท้จิงของกริด

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00