จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1044



เดบีเรียนคือเทพแห่งการล่า หนึ่งในเทพท้องถิ่นที่ถือกำเนิดโดยไม่ถูกบันทึกร่วมกับตำนานเทพองค์อื่น บารมีห่างไกลจากรีเบคก้า เฮ็กเซเทีย และเซราทุลมาก


ในซาฮารัน เดบีเรียนถึงกับถูกว่าเรียกเทพนอกรีต ต่ำต้อยถึงเพียงนั้น


แต่สำหรับซีบาล เดบีเรียนคือตัวตนที่มันเคารพเทิดทูนโดยไม่เคลือบแคลง


“ขยายขนาด!”


[เทพเดบีเรียนอวยพรให้พลังโจมตี PVE* ของท่านเพิ่มขึ้น ค่าประสบการณ์ที่ได้จากการสังหารมอนสเตอร์เพิ่มขึ้น]


(PVE – Player vs Environment – หมายถึงภาวะที่ผู้เล่นต่อสู้กับสิ่งแวดล้อมในเกม ที่ไม่ใช่ผู้เล่นด้วยกันเอง)


ทักษะติดตัวสุดหายากแสดงผลทันทีหลังจากเข้าสู่ระบบต่อสู้ นี่คือเหตุผลที่ซีบาลสามารถครองอันดับสองของโลกได้ยาวนานหลายปี


ย้อนกลับไปสมัยยังเป็นอัครทูตแห่งเดบีเรียน ในวินาทีนั้น ซีบาลมั่นใจว่าตนสามารถแซงหน้าครอเกลได้แน่นอน ในเชิงของเลเวล


ทว่า คลาสดังกล่าวกลับไร้ประสิทธิภาพเมื่อต้อง PVP กับแรงเกอร์ระดับท็อป


แต่นั่นยังไม่ทำให้ซีบาลท้อแท้เท่ากับตอนที่พ่ายแพ้กริดในการแข่ง ‘ปราบบอส’ และคว้าได้เพียงเหรียญเงิน ณ วินาทีนั้น มันกัดฟันเลือกเดินบนเส้นทาง ‘นักขับทะยานฟ้า’ ทั้งน้ำตา


แน่นอน แลกมากับการต้องสูญเสียความสามารถทั้งหมดของอัครทูตแห่งเดบีเรี่ยน


อย่างไรก็ตาม เดบีเรี่ยนคือเทพใจกว้าง


จากสาวกแสนน้อยนิดที่เคยผ่านมาศรัทธาและจากไป ซีบาลคือบุคคลที่มอบความศรัทธาอย่างแรงกล้า และสำเร็จภารกิจมากมายของมันชนิดที่ไม่เคยมีใครทำได้มากก่อน


เดบีเรียนไม่ถือโทษที่ซีบาลหมดศรัทธา มันยังคงประทานพรนักล่าให้กับชายผู้นี้


ตราบใดที่เป้าหมายคือมอนสเตอร์ ไม่สนว่าเป็นเผ่าพันธุ์ใด จะอ่อนแอลงถนัดตาเมื่ออยู่ต่อหน้าบุรุษที่ชื่อซีบาล


“ขยายขนาด!!”


ซู่วววว


พลองเงินที่สามารถยืดหดได้ตามใจชอบ


ประเดี๋ยวยืดยาว ประเดี๋ยวหดกลับ


ความสามารถหลักมีเพียงเท่านี้ แต่พลองเงินกลับถูกจัดให้เป็นอาวุธที่ใช้งานยากเกินพรรณนา


ปัญหาหลักก็คือ ในวินาทีที่วัตถุขยายปริมาตรและน้ำหนักฉับพลัน แรงที่เกิดขึ้นจะสร้างภาระมหาศาลต่อร่างกาย


[ท่านใช้ทักษะ ‘ขยายขนาด’ ถึงขีดจำกัด!]


[<+8 พลองเงิน> มีพลังโจมตีเพิ่มขึ้น!]


[โจมตีคริติคอลแบบไม่สนใจเงื่อนไข!]


[ความรุนแรงคริติคอลเพิ่มขึ้นสามเท่า!]


[ท่านสร้างความเสียหายรุนแรงแก่เป้าหมาย!]


[น้ำหนักของอาวุธมากเกินไป ท่านไม่สามารถใช้งานได้ด้วยค่าพละกำลังปัจจุบัน]


[กล้ามเนื้อแขนขวาฉีกขาด]


[กระดูกข้อมือขวาหัก]


[แขนขวาเป็นอัมพาตชั่วคราว]


“ชิ…!”


ดวงตาทั้งสองข้างของซีบาลกำลังแดงก่ำ เส้นเลือดฝอยปูดโปนเต้นตุบๆ จนน่ากลัว


แขนขวาที่คอยคุมทิศทางพลองเพื่อบดขยี้อสูรร้ายตนแล้วตนเล่า มีอันต้องบิดงอผิดรูปร่างพร้อมกับแปรเปลี่ยนเป็นสีดำเข้ม


เรี่ยวแรงส่งไปไม่ถึงปลายนิ้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ซีบาลจะสูญเสียการเป็นเจ้าของไอเท็มถาวร


เนื่องจากไม่ได้เป็นอัครทูตแห่งเดบีเรียนอีกแล้ว มันจึงขาดทักษะสนับสนุนอาวุธและมิอาจใช้พลองได้ชำนาญเหมือนก่อน


ทว่า คนเช่นมันไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองมีจุดอ่อนโดยไม่ได้รับการแก้ไข


“เปกาซัส!”


ยูนิคอร์นสยายปีกสง่างามเหนือกำแพงป้อมปราการ มองดูคล้ายกับภาพมายา


นับเป็นความเฉลียวฉลาดส่วนตัว ที่สามารถชดเชยจุดอ่อนตัวเองด้วยพลังของคลาสนักขับ


ราวกับฝึกฝนมาอย่างหนัก ยูนิคอร์นที่ถูกอัญเชิญจากรอยแยกมิติ บินมาใกล้ซีบาลด้วยความรวดเร็ว และใช้ลิ้นเลียแขนขวาอย่างคล่องแคล่ว


ทันใดนั้น


ซู่ว…


แขนที่หักห้อยคล้ายกับว่าวพังจนถึงเมื่อครู่ ถูกสมานและฟื้นฟูตัวเองด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง


ตั้งแต่ต้นจนจบ เวลาถูกใช้ไปเพียงสองวินาที


ในฐานะผู้เล่นระดับแนวหน้าจากสองพันล้าน มันฝึกฝนทุกวันจนย่นระยะเวลาให้เหลือน้อยที่สุด ปลายนิ้วได้รับความรู้สึกกลับมาอีกครั้ง


หมับ!


“หดกลับ!”


ซู่ววว—


พลองเงินใหญ่ยักษ์ถูกลดขนาดกลับเป็นปรกติ


“อั่ก…!”


ร่างกายซีบาลรับภาระเกินขีดจำกัดเมื่อพลองเงินหดกลับฉับพลัน มันเซถอยหลังสองสามก้าว แผ่นหลังชนเข้ากับไรเดอร์ ที่ยืนแน่นิ่งบนกำแพงมาแล้วพักใหญ่


ซีบาลหันไปตะโกนกับทหาร


“รักษารูปขบวนไว้!!”


ฝูงอสูรที่เริ่มบุกถึงขอบกำแพง มีจำนวนไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อย ประกอบด้วยหลากหลายสายพันธุ์ เป็นเรื่องปรกติสำหรับกองทัพอสูรเฟย์ริส


บางตนคล้ายแมลง บางตนคล้ายสัตว์ป่า


ประเภทแมลงจะตัวเล็กแต่บินได้ พวกมันคล่องแคล่วและขึ้นถึงขอบกำแพงได้ไวกว่า ประเภทสัตว์ป่าจะตัวใหญ่ เชื่องช้า และถึกทน


ไม่ใช่เรื่องง่าย กับการประชิดขอบกำแพงป้อมที่มีซีบาลคอยป้องกันสุดความสามารถ ลงเอยด้วย กองทัพอสูรตัดสินใจพ่นไฟหรือพิษใส่กลุ่มทหารบนกำแพงจากระยะไกล


“อ๊ากกกกก!”


ทหารที่กำลังฮึกเหิมจากการเฝ้ามองซีบาลต่อสู้ พวกมันเริ่มถูกโจมตีจากระยะไกล ลมหายใจหมดลงไปทีละคนสองคน ด้านหน่วยลำเลียงหินก้อนใหญ่ที่เตรียมโยนลงขอบกำแพง พวกมันต่างยืนสั่นเทาด้วยใบหน้าขาวซีด เมื่อได้เห็นหน่วยอารักขาหลายคน กลายเป็นแสงสีเทาไปต่อหน้า


โฮกกกก!


กิกิ! กี๊กี๊!


เมื่อรูปขบวนทหารถูกทำลาย บรรดาอสูรจึงไต่กำแพงด้วยความเร็วที่มากขึ้น


ความฮึกเหิมที่ซีบาลมอบให้ ไม่หลงเหลือในแววตาทหารอีกต่อไป พวกมันเอาแต่ยืนสั่นกลัวโดยไม่เหลือพลังใจต่อสู้


ทันใดนั้น ท้องฟ้าเหนือกำแพงพลันเต็มไปด้วยอสูรคล้ายแมลงวันตัวใหญ่


ถุดถุดถุดถุด!


ฝูงแมลงวันเริ่มถ่มถุยบางสิ่งใส่กลุ่มทหาร


เข็มบางเฉียบหลายร้อย ยากจะมองออกด้วยตาเปล่า สาดใส่กองทัพฮาเค่นประหนึ่งห่าฝน


“ปกป้องทหาร!!”


เหล่าขุนนาง รวมถึงเอิร์ลแพลตินั่ม กระโจนลงมายังขอบกำแพงพร้อมกับร่ายเวทมนตร์ เกิดเป็นม่านบาเรียสีใสกางปกคลุมกลุ่มทหารไม่ให้ถูกเข็มเล่นงาน


ขุนนางทุกคนที่มารวมตัวในวันนี้ ทุกคนล้วนมาด้วยใจหวังปกป้องฮาเค่น พวกมันหลายคนเคยเป็นหัวหน้าและผู้ใต้บัญชาของซีบาลมาก่อน


ในอดีต ซีบาลเคยเสนอตัวทำภารกิจมากมายเพื่ออาณาจักรโดยไม่เกี่ยง ถึงจะหวังผลความเจริญก้าวหน้า แต่ทุกการกระทำล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์ของฮาเค่น เหล่าขุนนางจึงชื่นชอบที่จะมอบภารกิจให้ซีบาล


อีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าไม่มีขุนนางเหล่านี้ ซีบาลก็ไม่มีวันนี้เช่นกัน


“อย่าฝืนตัวเองมากไป”


ซีบาลหันกลับไปมองทุกคนด้วยรอยยิ้ม มันเริ่มสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงของกระแสสังคมในซาทิสฟาย NPC ขุนนางที่ผู้เล่นเคยพึ่งพาเมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันเริ่มหันกลับมาพึ่งพาพลังผู้เล่นบ้างแล้ว


“เปกาซัส ไปจัดการพวกมันด้วยกัน”


พรึบ!


เมื่อซีบาลขึ้นขี่ เปกาซัสทะยานไปบนท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง ภาพมวลหมู่กองทัพอสูรน่าสะอิดสะเอียนปรากฏให้เห็นด้านล่าง


‘ก่อนอื่นก็ต้อง…’


เป้าหมายแรกคืออสูรยักษ์ ที่ยืนเรียงแถวหน้าสุดของกองทัพศัตรู รูปลักษณ์คล้ายหมี ขนดกสีเทาปกคลุมร่างกายใหญ่โต บนศีรษะมีใบหน้าสี่แห่งรอบทิศ


ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าขยะแขยง มันพยายามปกป้องอสูรตนอื่นด้วยท่อนแขนขนาดมหึมา ฝนธนูและหินใหญ่ที่ถูกโปรยลงจากด้านบนกำแพง ทั้งหมดล้วนถูกกำปั้นทรงพลังป่นแหลกละเอียด


คล้ายกับตัวแทงค์ในหมู่อสูร


ซีบาลเล็งเห็นว่า เจ้านี่ต้องถูกจัดการเป็นลำดับแรก มันเริ่มกวัดแกว่งพลองเงินในมือ


“ขยายขนาด!”


ซู่ว!


เมื่ออาวุธในมือถูกเพิ่มปริมาตรและน้ำหนักฉับพลัน แขนข้างขวาเกิดเส้นเลือดปูดโปนขึ้นหลายจุด คลับคล้ายกลับใกล้ระเบิดเต็มที


แน่นอน สิ่งนี้มาพร้อมความเจ็บปวด ซีบาลกัดฟันกรอดด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว


เปรี้ยง!!


กร็อบ!


ในวินาทีที่ปลายพลองกระแทกใส่อสูรยักษ์ แขนขวามันมีอันต้องหมดสภาพ เปกาซัสรีบเลียรักษาอาการบาดเจ็บด้วยท่าทางเป็นกังวล


ขณะเดียวกัน อสูรยักษ์ทุกตนหันมองซีบาลเป็นตาเดียว หมียักษ์บัดซบตัวที่ถูกอัด มันยังไม่ตายแม้จะถูกการโจมตีเต็มประสิทธิภาพเข้าไปอย่างจัง


“ถึกทนจนน่ารังเกียจ…”


อสูรยักษ์ไม่ใช่มอนสเตอร์พิเศษ ชื่อเหนือหัวเป็นสีขาว หมายถึงมอนสเตอร์ธรรมดาแสนดาษดื่น แต่กลับรอดชีวิตจากการโจมตีสุดแสนทรงพลัง ซึ่งต้องแลกด้วยแขนหนึ่งข้าง


สีหน้าซีบาลเริ่มดำมืด


กองทัพอสูรของเฟย์ริสรุกคืบเข้าใกล้ขอบกำแพงหนักข้อขึ้นทุกขณะ สถานการณ์ไม่ใกล้เคียงว่าจะป้องกันปราการสำเร็จเลยสักนิด ความรู้สึกหวาดหมั่นเริ่มปรากฏบนใบหน้า


พรุ่งนี้อาจไม่มีฮาเค่นอีกแล้ว…


‘แต่เราไม่ยอมแพ้แค่นี้แน่!’


มันแสยะยิ้ม


หากกล่าวถึงความอดทน ตัวมันก็ไม่ด้อยไปกว่าใครสักเท่าไร สมัยที่ยังไล่ตามครอเกลในฐานะอันดับสอง ซีบาลกัดฟันทนต่ออุปสรรคนานับชนิดเพื่อหวังเร่งเครื่องแซงเป็นอันดับหนึ่ง


ความท้อแท้สิ้นหวังในปัจจุบัน ไม่ใช่ที่สุดเท่าที่มันเคยเผชิญ มีหลายครั้งที่มิอาจก้ามข้ามกำแพงอุปสรรค มีหลายครั้งที่ต้องล้มเหลวและเผชิญความสูญเสียมหาศาล


ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยสักนิด


‘คิดมากไปก็ปวดหัว…’


โอกาสปกป้องฮาเค่นสำเร็จก็ไม่ใช่ 100% มาตั้งแต่แรก โดยเฉพาะเมื่อศัตรูบุกมาเป็นกองทัพขนาดใหญ่ การมัววิตกกังวล มีแต่จะทำลายขวัญกำลังใจอย่างเปล่าประโยชน์


สู้ให้เต็มที่จนลมหายใจสุดท้ายก็เพียงพอแล้ว


ย้านกลับไปสมัยวันวานในอดีต ที่หลับหูหลับตาฆ่ามอนสเตอร์อย่างบ้าคลั่ง เพื่อหวังจะไล่ตามครอเกลให้ทัน


บางที ความฮึกเหิมของเราอาจช่วยให้ทุกคนด้านล่างมีแรงฮึดสู้


“ย๊ากกกกก!!”


เปรี้ยง!!


เปรี้ยง!


เสียงการโจมตีดังสนั่นหวั่นไหวทั่วป้อมไทเลอร์


ทุกครั้งที่พลองเงินยักษ์ปะทะเป้าหมาย คล้ายกับหน้าผาจะถล่มลงจากแรงสะเทือน


ถึงแขนขวาจะหักครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มันก็ไม่หยุดมือ บาดแผลอาจรักษาได้ แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับขณะกระดูกหักคือของจริง แถมพลังรักษาจากเปกาซัสก็ใกล้หมดลงทุกที


ลงเอยด้วย


โฮกกกก…


อสูรยักษ์ที่รับหน้าที่ตัวแทงค์ เริ่มล้มตายไปทีละตัวสองตัว พลธนูกองทัพฮาเค่นเริ่มแสดงประสิทธิภาพเห็นผล ลูกธนูพุ่งผ่านเข้าไปคร่าชีวิตอสูรร่างกายบอบบางได้ง่ายดาย


“สุดยอด!!”


“ท่านซีบาลสู้เค้า!!”


ขวัญกำลังใจทหารกลับมาอีกครั้ง


ด้านขุนนางที่คอยรับมือฝูงแมลงวันบนท้องฟ้า พวกมันหันไปมองซีบาลด้วยสีหน้าผ่อนคล้าย ภายในใจเกิดความหวังเล็กๆ ว่า อาณาจักรฮาเค่นอาจอยู่รอดปลอดภัยจนถึงพรุ่งนี้


แต่สีหน้าเปกาซัสกลับเศร้าหมอง


หงึกหงึก…


ลิ้นที่ใช้เลียข้อมือเจ้านายเริ่มสั่นเทา ปีกที่กระพือเริ่มลดความถี่ลงจากตอนแรก


“แฮ่ก… แฮ่ก… แฮ่ก…”


ซีบาลเองก็กำลังอ่อนล้า หลอดค่าเรี่ยวแรงแดงกะพริบ แสดงถึงการเข้าใกล้ขีดจำกัด


“ยัง… ยังหรอกน่า”


ขออีกนิด


อย่างน้อยก็ขอจำกัดกองทัพอสูรให้มากกว่านี้


แต่ดวงตาของซีบาลกำลังปิดลงอย่างอ่อนแรง นี่คือระบบของเกมที่มิอาจขัดขืน


…ถึงขีดจำกัดแล้ว


สายตาซีบาลชำเลืองมองหุ่นยักษ์บนกำแพงป้อมไทเลอร์ ในตอนแรก มันมีแผนขับหุ่นตัวนี้เข้าประจัญบานกับเฟย์ริสเท่านั้น เนื่องจากระยะเวลาขับขี่ที่น้อยนิด


แต่ดูเหมือนแผนต้องเปลี่ยนแปลง ไม่อย่างนั้นอาณาจักรฮาเค่นได้ถึงคราวจบเห่แน่


‘ต้องขับไรเดอร์สฝ่าดงอสูรไปฆ่าเฟย์ริส…’


เมื่อซีบาลตัดสินใจได้ มันลูบศีรษะเปกาซัสอย่างทะนุถนอม


หลังจากรับทราบถึงความตั้งใจของเจ้านาย สีหน้าเปกาซัสพลันซึมเศร้า ม้าบินร่อนลงด้านล่าง พาเจ้านายไปส่งยังหุ่นยักษ์สีขาว


แต่ทันใดนั้น


“พวกมดปลวกทั้งหลายเอ๋ย เป็นแค่มนุษย์แสนต่ำต้อย คิดว่าจะยื้อได้อีกสักกี่น้ำ?”


เสียงกังวานดังพร้อมกลิ่นเหม็นเน่าฟุ้งตลบอบอวล เจ้าของเสียงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟย์ริส


“บังอาจทำร้ายทหารของข้า เจ้าต้องชดใช้!”


“…!”


ดวงตาซีบาลพลันเบิกโพลง


ปัจจุบัน เฟย์ริสกำลังยืนท่ามกลางกองทัพอสูร ในจุดห่างออกไปค่อนข้างไกล ยากจะมองเห็นด้วยตาเปล่า


ฟ้าววววว—


ทันใดนั้น เหตุการณ์เหนือจินตนาการพลันปรากฏเต็มสองตา เม็ดทรายบนพื้นค่อยๆ ลอยขึ้นและถูกแปรเปลี่ยนเป็นโลหะแข็ง


“หยุดดิ้นรนและตายไปซะ”


ครืนนนนน!


มวลเม็ดทรายจำนวนมหาศาล หลั่งไหลมารวมกันในจุดเดียว หมุนวนเกิดเป็นพายุโลหะเกรี้ยวกราด วิถีพุ่งตรงเข้าหาซีบาลด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง คร่าอสูรฝ่ายเดียวกันไปตลอดทาง


เมื่อเห็นเจ้านายหลบไม่พ้นแน่แล้ว เปกาซัสกระพือปีกพึบพับด้วยสีหน้าตื่นตระหนก มันหวังใช้ร่างกายรับพายุโลหะไว้ เพื่อปกป้องให้ซีบาลมีชีวิตรอดปลอดภัย


แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย


มานาของเปกาซัสใกล้หมดเต็มที แถมมันยังเป็นสัตว์ขี่ประเภทบอบบาง พลังชีวิตต่ำ


“เปกาซัส ถอยมา”


แค่ตนตายคนเดียวก็พอแล้ว ซีบาลไม่ต้องการให้สัตว์เลี้ยงเผชิญชะตากรรมโหดร้าย


หงึกหงึก


พรึบ!


เปกาซัสส่ายศีรษะหนักแน่น มันไม่ยอมฟังคำสั่งซีบาล ราวกับต้องการกล่าวว่า หากจะตายก็ต้องตายไปพร้อมกัน


ซีบาลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฝืนเก็บสัตว์เลี้ยงเข้าช่องสัมภาระ


‘เราสามารถตายได้หนึ่งครั้ง และจะเหลือโอกาสอีกแค่ครั้งเดียว…’


มันตั้งค่าให้ป้อมไทเลอร์เป็นจุดคืนชีพ หากตายไป ตัวมันจะเกิดใหม่ที่ด้านในและพร้อมสู้ต่อทันที


แถมค่าเรี่ยวแรงยังฟื้นฟูกลับมาเต็มหลอด


‘ค่อยกลับมาสู้ใหม่…’


แต่แน่นอน หากตายครบสองครั้ง การเชื่อมต่อกับซาทิสฟายจะถูกตัดขาด 24 ชั่วโมง นั่นจะหมายถึงการล่มสลายของอาณาจักรฮาเค่นทันที


ฟ้าววววว


พายุโลหะพุ่งเข้าใกล้ซีบาลทุกขณะ


ทันใดนั้น มันเกิดคำถามในใจ


ตายแบบไหนสบายกว่ากัน?


จะยอมถูกพายุโลหะคร่าชีวิต หรือกระโดดลงไปตายเพราะความสูง?


ขณะขบคิดคำถามไร้สาระ


หมับ!


ใครบางคนคว้าแขนซีบาลไว้และออกแรงกระชาก


ตามมาด้วยเสียงพูด


“ถึงเวลาพักของนายแล้ว”


เป็นเสียงที่ซีบาลไม่มีวันลืม ความรู้สึกที่มีต่อบุคคลผู้นี้ ทั้งอิจฉาและชื่นชมในเวลาเดียวกัน


เสียงของท้องฟ้า


“ครอเกล…!”


พรึบ—


ปีกมังกรสีทองอร่ามสยายบดฟังผืนนภา ผ้าพันแผลคุณภาพสูงซึ่งทำจากผ้าไหม รัดพันร่างกายที่ชุ่มไปด้วยเลือดของซีบาลอย่างระมัดระวัง


“ดาบกรีดนภา”


หนึ่งในสุดยอดทักษะสวนกลับที่แม้แต่ราชาโอเวอร์เกียร์ยังเข็ดขยาด


เปรี้ยะ!


เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!


ท้องฟ้าปรากฏภาพมายากรงเล็บสัตว์ร้ายจำนวนนับไม่ถ้วน


ฟ้าว…


พายุโลหะเริ่มหยุดเคลื่อนไหว ทั้งที่มันถูกกำหนดให้ฉีกกระชากร่างซีบาลอย่างโหดเหี้ยมจนถึงเมื่อครู่


ซู่วววว—


กระแสลมเริ่มไหลย้อนกลับ พายุโลหะเปลี่ยนทิศทาง เป้าหมายคือบุคคลที่ทำการร่ายเวทมนตร์ชนิดนี้


กองทัพอสูรที่วิ่งกรูเข้ามาใกล้ พวกมันกลายเป็นแสงสีเทาโดยไม่ทันตั้งตัว


ซ่าาา…


เฟย์ริสจำใจสลายเวทมนตร์ตัวเองทิ้ง กลุ่มก้อนโลหะกลับเป็นเศษเม็ดทรายอีกครั้ง ก่อนจะกระจัดกระจายไปบนดินแดนรกร้าง


“อริยะ…”


“ดาบผ่ามิติ!!”


“…ดาบ!”


ฉึบ—


โลกถูกตัดแบ่งในพริบตา


ผืนปฐพี ท้องฟ้า รวมถึงกองทัพอสูรเฟย์ริส


ทั้งหมดถูกแยกออกเป็นสอง



จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1044

เดบีเรียนคือเทพแห่งการล่า หนึ่งในเทพท้องถิ่นที่ถือกำเนิดโดยไม่ถูกบันทึกร่วมกับตำนานเทพองค์อื่น บารมีห่างไกลจากรีเบคก้า เฮ็กเซเทีย และเซราทุลมาก

ในซาฮารัน เดบีเรียนถึงกับถูกว่าเรียกเทพนอกรีต ต่ำต้อยถึงเพียงนั้น

แต่สำหรับซีบาล เดบีเรียนคือตัวตนที่มันเคารพเทิดทูนโดยไม่เคลือบแคลง

“ขยายขนาด!”

[เทพเดบีเรียนอวยพรให้พลังโจมตี PVE* ของท่านเพิ่มขึ้น ค่าประสบการณ์ที่ได้จากการสังหารมอนสเตอร์เพิ่มขึ้น]

(PVE – Player vs Environment – หมายถึงภาวะที่ผู้เล่นต่อสู้กับสิ่งแวดล้อมในเกม ที่ไม่ใช่ผู้เล่นด้วยกันเอง)

ทักษะติดตัวสุดหายากแสดงผลทันทีหลังจากเข้าสู่ระบบต่อสู้ นี่คือเหตุผลที่ซีบาลสามารถครองอันดับสองของโลกได้ยาวนานหลายปี

ย้อนกลับไปสมัยยังเป็นอัครทูตแห่งเดบีเรียน ในวินาทีนั้น ซีบาลมั่นใจว่าตนสามารถแซงหน้าครอเกลได้แน่นอน ในเชิงของเลเวล

ทว่า คลาสดังกล่าวกลับไร้ประสิทธิภาพเมื่อต้อง PVP กับแรงเกอร์ระดับท็อป

แต่นั่นยังไม่ทำให้ซีบาลท้อแท้เท่ากับตอนที่พ่ายแพ้กริดในการแข่ง ‘ปราบบอส’ และคว้าได้เพียงเหรียญเงิน ณ วินาทีนั้น มันกัดฟันเลือกเดินบนเส้นทาง ‘นักขับทะยานฟ้า’ ทั้งน้ำตา

แน่นอน แลกมากับการต้องสูญเสียความสามารถทั้งหมดของอัครทูตแห่งเดบีเรี่ยน

อย่างไรก็ตาม เดบีเรี่ยนคือเทพใจกว้าง

จากสาวกแสนน้อยนิดที่เคยผ่านมาศรัทธาและจากไป ซีบาลคือบุคคลที่มอบความศรัทธาอย่างแรงกล้า และสำเร็จภารกิจมากมายของมันชนิดที่ไม่เคยมีใครทำได้มากก่อน

เดบีเรียนไม่ถือโทษที่ซีบาลหมดศรัทธา มันยังคงประทานพรนักล่าให้กับชายผู้นี้

ตราบใดที่เป้าหมายคือมอนสเตอร์ ไม่สนว่าเป็นเผ่าพันธุ์ใด จะอ่อนแอลงถนัดตาเมื่ออยู่ต่อหน้าบุรุษที่ชื่อซีบาล

“ขยายขนาด!!”

ซู่วววว

พลองเงินที่สามารถยืดหดได้ตามใจชอบ

ประเดี๋ยวยืดยาว ประเดี๋ยวหดกลับ

ความสามารถหลักมีเพียงเท่านี้ แต่พลองเงินกลับถูกจัดให้เป็นอาวุธที่ใช้งานยากเกินพรรณนา

ปัญหาหลักก็คือ ในวินาทีที่วัตถุขยายปริมาตรและน้ำหนักฉับพลัน แรงที่เกิดขึ้นจะสร้างภาระมหาศาลต่อร่างกาย

[ท่านใช้ทักษะ ‘ขยายขนาด’ ถึงขีดจำกัด!]

[<+8 พลองเงิน> มีพลังโจมตีเพิ่มขึ้น!]

[โจมตีคริติคอลแบบไม่สนใจเงื่อนไข!]

[ความรุนแรงคริติคอลเพิ่มขึ้นสามเท่า!]

[ท่านสร้างความเสียหายรุนแรงแก่เป้าหมาย!]

[น้ำหนักของอาวุธมากเกินไป ท่านไม่สามารถใช้งานได้ด้วยค่าพละกำลังปัจจุบัน]

[กล้ามเนื้อแขนขวาฉีกขาด]

[กระดูกข้อมือขวาหัก]

[แขนขวาเป็นอัมพาตชั่วคราว]

“ชิ…!”

ดวงตาทั้งสองข้างของซีบาลกำลังแดงก่ำ เส้นเลือดฝอยปูดโปนเต้นตุบๆ จนน่ากลัว

แขนขวาที่คอยคุมทิศทางพลองเพื่อบดขยี้อสูรร้ายตนแล้วตนเล่า มีอันต้องบิดงอผิดรูปร่างพร้อมกับแปรเปลี่ยนเป็นสีดำเข้ม

เรี่ยวแรงส่งไปไม่ถึงปลายนิ้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ซีบาลจะสูญเสียการเป็นเจ้าของไอเท็มถาวร

เนื่องจากไม่ได้เป็นอัครทูตแห่งเดบีเรียนอีกแล้ว มันจึงขาดทักษะสนับสนุนอาวุธและมิอาจใช้พลองได้ชำนาญเหมือนก่อน

ทว่า คนเช่นมันไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองมีจุดอ่อนโดยไม่ได้รับการแก้ไข

“เปกาซัส!”

ยูนิคอร์นสยายปีกสง่างามเหนือกำแพงป้อมปราการ มองดูคล้ายกับภาพมายา

นับเป็นความเฉลียวฉลาดส่วนตัว ที่สามารถชดเชยจุดอ่อนตัวเองด้วยพลังของคลาสนักขับ

ราวกับฝึกฝนมาอย่างหนัก ยูนิคอร์นที่ถูกอัญเชิญจากรอยแยกมิติ บินมาใกล้ซีบาลด้วยความรวดเร็ว และใช้ลิ้นเลียแขนขวาอย่างคล่องแคล่ว

ทันใดนั้น

ซู่ว…

แขนที่หักห้อยคล้ายกับว่าวพังจนถึงเมื่อครู่ ถูกสมานและฟื้นฟูตัวเองด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง

ตั้งแต่ต้นจนจบ เวลาถูกใช้ไปเพียงสองวินาที

ในฐานะผู้เล่นระดับแนวหน้าจากสองพันล้าน มันฝึกฝนทุกวันจนย่นระยะเวลาให้เหลือน้อยที่สุด ปลายนิ้วได้รับความรู้สึกกลับมาอีกครั้ง

หมับ!

“หดกลับ!”

ซู่ววว—

พลองเงินใหญ่ยักษ์ถูกลดขนาดกลับเป็นปรกติ

“อั่ก…!”

ร่างกายซีบาลรับภาระเกินขีดจำกัดเมื่อพลองเงินหดกลับฉับพลัน มันเซถอยหลังสองสามก้าว แผ่นหลังชนเข้ากับไรเดอร์ ที่ยืนแน่นิ่งบนกำแพงมาแล้วพักใหญ่

ซีบาลหันไปตะโกนกับทหาร

“รักษารูปขบวนไว้!!”

ฝูงอสูรที่เริ่มบุกถึงขอบกำแพง มีจำนวนไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อย ประกอบด้วยหลากหลายสายพันธุ์ เป็นเรื่องปรกติสำหรับกองทัพอสูรเฟย์ริส

บางตนคล้ายแมลง บางตนคล้ายสัตว์ป่า

ประเภทแมลงจะตัวเล็กแต่บินได้ พวกมันคล่องแคล่วและขึ้นถึงขอบกำแพงได้ไวกว่า ประเภทสัตว์ป่าจะตัวใหญ่ เชื่องช้า และถึกทน

ไม่ใช่เรื่องง่าย กับการประชิดขอบกำแพงป้อมที่มีซีบาลคอยป้องกันสุดความสามารถ ลงเอยด้วย กองทัพอสูรตัดสินใจพ่นไฟหรือพิษใส่กลุ่มทหารบนกำแพงจากระยะไกล

“อ๊ากกกกก!”

ทหารที่กำลังฮึกเหิมจากการเฝ้ามองซีบาลต่อสู้ พวกมันเริ่มถูกโจมตีจากระยะไกล ลมหายใจหมดลงไปทีละคนสองคน ด้านหน่วยลำเลียงหินก้อนใหญ่ที่เตรียมโยนลงขอบกำแพง พวกมันต่างยืนสั่นเทาด้วยใบหน้าขาวซีด เมื่อได้เห็นหน่วยอารักขาหลายคน กลายเป็นแสงสีเทาไปต่อหน้า

โฮกกกก!

กิกิ! กี๊กี๊!

เมื่อรูปขบวนทหารถูกทำลาย บรรดาอสูรจึงไต่กำแพงด้วยความเร็วที่มากขึ้น

ความฮึกเหิมที่ซีบาลมอบให้ ไม่หลงเหลือในแววตาทหารอีกต่อไป พวกมันเอาแต่ยืนสั่นกลัวโดยไม่เหลือพลังใจต่อสู้

ทันใดนั้น ท้องฟ้าเหนือกำแพงพลันเต็มไปด้วยอสูรคล้ายแมลงวันตัวใหญ่

ถุดถุดถุดถุด!

ฝูงแมลงวันเริ่มถ่มถุยบางสิ่งใส่กลุ่มทหาร

เข็มบางเฉียบหลายร้อย ยากจะมองออกด้วยตาเปล่า สาดใส่กองทัพฮาเค่นประหนึ่งห่าฝน

“ปกป้องทหาร!!”

เหล่าขุนนาง รวมถึงเอิร์ลแพลตินั่ม กระโจนลงมายังขอบกำแพงพร้อมกับร่ายเวทมนตร์ เกิดเป็นม่านบาเรียสีใสกางปกคลุมกลุ่มทหารไม่ให้ถูกเข็มเล่นงาน

ขุนนางทุกคนที่มารวมตัวในวันนี้ ทุกคนล้วนมาด้วยใจหวังปกป้องฮาเค่น พวกมันหลายคนเคยเป็นหัวหน้าและผู้ใต้บัญชาของซีบาลมาก่อน

ในอดีต ซีบาลเคยเสนอตัวทำภารกิจมากมายเพื่ออาณาจักรโดยไม่เกี่ยง ถึงจะหวังผลความเจริญก้าวหน้า แต่ทุกการกระทำล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์ของฮาเค่น เหล่าขุนนางจึงชื่นชอบที่จะมอบภารกิจให้ซีบาล

อีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าไม่มีขุนนางเหล่านี้ ซีบาลก็ไม่มีวันนี้เช่นกัน

“อย่าฝืนตัวเองมากไป”

ซีบาลหันกลับไปมองทุกคนด้วยรอยยิ้ม มันเริ่มสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงของกระแสสังคมในซาทิสฟาย NPC ขุนนางที่ผู้เล่นเคยพึ่งพาเมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันเริ่มหันกลับมาพึ่งพาพลังผู้เล่นบ้างแล้ว

“เปกาซัส ไปจัดการพวกมันด้วยกัน”

พรึบ!

เมื่อซีบาลขึ้นขี่ เปกาซัสทะยานไปบนท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง ภาพมวลหมู่กองทัพอสูรน่าสะอิดสะเอียนปรากฏให้เห็นด้านล่าง

‘ก่อนอื่นก็ต้อง…’

เป้าหมายแรกคืออสูรยักษ์ ที่ยืนเรียงแถวหน้าสุดของกองทัพศัตรู รูปลักษณ์คล้ายหมี ขนดกสีเทาปกคลุมร่างกายใหญ่โต บนศีรษะมีใบหน้าสี่แห่งรอบทิศ

ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าขยะแขยง มันพยายามปกป้องอสูรตนอื่นด้วยท่อนแขนขนาดมหึมา ฝนธนูและหินใหญ่ที่ถูกโปรยลงจากด้านบนกำแพง ทั้งหมดล้วนถูกกำปั้นทรงพลังป่นแหลกละเอียด

คล้ายกับตัวแทงค์ในหมู่อสูร

ซีบาลเล็งเห็นว่า เจ้านี่ต้องถูกจัดการเป็นลำดับแรก มันเริ่มกวัดแกว่งพลองเงินในมือ

“ขยายขนาด!”

ซู่ว!

เมื่ออาวุธในมือถูกเพิ่มปริมาตรและน้ำหนักฉับพลัน แขนข้างขวาเกิดเส้นเลือดปูดโปนขึ้นหลายจุด คลับคล้ายกลับใกล้ระเบิดเต็มที

แน่นอน สิ่งนี้มาพร้อมความเจ็บปวด ซีบาลกัดฟันกรอดด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว

เปรี้ยง!!

กร็อบ!

ในวินาทีที่ปลายพลองกระแทกใส่อสูรยักษ์ แขนขวามันมีอันต้องหมดสภาพ เปกาซัสรีบเลียรักษาอาการบาดเจ็บด้วยท่าทางเป็นกังวล

ขณะเดียวกัน อสูรยักษ์ทุกตนหันมองซีบาลเป็นตาเดียว หมียักษ์บัดซบตัวที่ถูกอัด มันยังไม่ตายแม้จะถูกการโจมตีเต็มประสิทธิภาพเข้าไปอย่างจัง

“ถึกทนจนน่ารังเกียจ…”

อสูรยักษ์ไม่ใช่มอนสเตอร์พิเศษ ชื่อเหนือหัวเป็นสีขาว หมายถึงมอนสเตอร์ธรรมดาแสนดาษดื่น แต่กลับรอดชีวิตจากการโจมตีสุดแสนทรงพลัง ซึ่งต้องแลกด้วยแขนหนึ่งข้าง

สีหน้าซีบาลเริ่มดำมืด

กองทัพอสูรของเฟย์ริสรุกคืบเข้าใกล้ขอบกำแพงหนักข้อขึ้นทุกขณะ สถานการณ์ไม่ใกล้เคียงว่าจะป้องกันปราการสำเร็จเลยสักนิด ความรู้สึกหวาดหมั่นเริ่มปรากฏบนใบหน้า

พรุ่งนี้อาจไม่มีฮาเค่นอีกแล้ว…

‘แต่เราไม่ยอมแพ้แค่นี้แน่!’

มันแสยะยิ้ม

หากกล่าวถึงความอดทน ตัวมันก็ไม่ด้อยไปกว่าใครสักเท่าไร สมัยที่ยังไล่ตามครอเกลในฐานะอันดับสอง ซีบาลกัดฟันทนต่ออุปสรรคนานับชนิดเพื่อหวังเร่งเครื่องแซงเป็นอันดับหนึ่ง

ความท้อแท้สิ้นหวังในปัจจุบัน ไม่ใช่ที่สุดเท่าที่มันเคยเผชิญ มีหลายครั้งที่มิอาจก้ามข้ามกำแพงอุปสรรค มีหลายครั้งที่ต้องล้มเหลวและเผชิญความสูญเสียมหาศาล

ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยสักนิด

‘คิดมากไปก็ปวดหัว…’

โอกาสปกป้องฮาเค่นสำเร็จก็ไม่ใช่ 100% มาตั้งแต่แรก โดยเฉพาะเมื่อศัตรูบุกมาเป็นกองทัพขนาดใหญ่ การมัววิตกกังวล มีแต่จะทำลายขวัญกำลังใจอย่างเปล่าประโยชน์

สู้ให้เต็มที่จนลมหายใจสุดท้ายก็เพียงพอแล้ว

ย้านกลับไปสมัยวันวานในอดีต ที่หลับหูหลับตาฆ่ามอนสเตอร์อย่างบ้าคลั่ง เพื่อหวังจะไล่ตามครอเกลให้ทัน

บางที ความฮึกเหิมของเราอาจช่วยให้ทุกคนด้านล่างมีแรงฮึดสู้

“ย๊ากกกกก!!”

เปรี้ยง!!

เปรี้ยง!

เสียงการโจมตีดังสนั่นหวั่นไหวทั่วป้อมไทเลอร์

ทุกครั้งที่พลองเงินยักษ์ปะทะเป้าหมาย คล้ายกับหน้าผาจะถล่มลงจากแรงสะเทือน

ถึงแขนขวาจะหักครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มันก็ไม่หยุดมือ บาดแผลอาจรักษาได้ แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับขณะกระดูกหักคือของจริง แถมพลังรักษาจากเปกาซัสก็ใกล้หมดลงทุกที

ลงเอยด้วย

โฮกกกก…

อสูรยักษ์ที่รับหน้าที่ตัวแทงค์ เริ่มล้มตายไปทีละตัวสองตัว พลธนูกองทัพฮาเค่นเริ่มแสดงประสิทธิภาพเห็นผล ลูกธนูพุ่งผ่านเข้าไปคร่าชีวิตอสูรร่างกายบอบบางได้ง่ายดาย

“สุดยอด!!”

“ท่านซีบาลสู้เค้า!!”

ขวัญกำลังใจทหารกลับมาอีกครั้ง

ด้านขุนนางที่คอยรับมือฝูงแมลงวันบนท้องฟ้า พวกมันหันไปมองซีบาลด้วยสีหน้าผ่อนคล้าย ภายในใจเกิดความหวังเล็กๆ ว่า อาณาจักรฮาเค่นอาจอยู่รอดปลอดภัยจนถึงพรุ่งนี้

แต่สีหน้าเปกาซัสกลับเศร้าหมอง

หงึกหงึก…

ลิ้นที่ใช้เลียข้อมือเจ้านายเริ่มสั่นเทา ปีกที่กระพือเริ่มลดความถี่ลงจากตอนแรก

“แฮ่ก… แฮ่ก… แฮ่ก…”

ซีบาลเองก็กำลังอ่อนล้า หลอดค่าเรี่ยวแรงแดงกะพริบ แสดงถึงการเข้าใกล้ขีดจำกัด

“ยัง… ยังหรอกน่า”

ขออีกนิด

อย่างน้อยก็ขอจำกัดกองทัพอสูรให้มากกว่านี้

แต่ดวงตาของซีบาลกำลังปิดลงอย่างอ่อนแรง นี่คือระบบของเกมที่มิอาจขัดขืน

…ถึงขีดจำกัดแล้ว

สายตาซีบาลชำเลืองมองหุ่นยักษ์บนกำแพงป้อมไทเลอร์ ในตอนแรก มันมีแผนขับหุ่นตัวนี้เข้าประจัญบานกับเฟย์ริสเท่านั้น เนื่องจากระยะเวลาขับขี่ที่น้อยนิด

แต่ดูเหมือนแผนต้องเปลี่ยนแปลง ไม่อย่างนั้นอาณาจักรฮาเค่นได้ถึงคราวจบเห่แน่

‘ต้องขับไรเดอร์สฝ่าดงอสูรไปฆ่าเฟย์ริส…’

เมื่อซีบาลตัดสินใจได้ มันลูบศีรษะเปกาซัสอย่างทะนุถนอม

หลังจากรับทราบถึงความตั้งใจของเจ้านาย สีหน้าเปกาซัสพลันซึมเศร้า ม้าบินร่อนลงด้านล่าง พาเจ้านายไปส่งยังหุ่นยักษ์สีขาว

แต่ทันใดนั้น

“พวกมดปลวกทั้งหลายเอ๋ย เป็นแค่มนุษย์แสนต่ำต้อย คิดว่าจะยื้อได้อีกสักกี่น้ำ?”

เสียงกังวานดังพร้อมกลิ่นเหม็นเน่าฟุ้งตลบอบอวล เจ้าของเสียงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟย์ริส

“บังอาจทำร้ายทหารของข้า เจ้าต้องชดใช้!”

“…!”

ดวงตาซีบาลพลันเบิกโพลง

ปัจจุบัน เฟย์ริสกำลังยืนท่ามกลางกองทัพอสูร ในจุดห่างออกไปค่อนข้างไกล ยากจะมองเห็นด้วยตาเปล่า

ฟ้าววววว—

ทันใดนั้น เหตุการณ์เหนือจินตนาการพลันปรากฏเต็มสองตา เม็ดทรายบนพื้นค่อยๆ ลอยขึ้นและถูกแปรเปลี่ยนเป็นโลหะแข็ง

“หยุดดิ้นรนและตายไปซะ”

ครืนนนนน!

มวลเม็ดทรายจำนวนมหาศาล หลั่งไหลมารวมกันในจุดเดียว หมุนวนเกิดเป็นพายุโลหะเกรี้ยวกราด วิถีพุ่งตรงเข้าหาซีบาลด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง คร่าอสูรฝ่ายเดียวกันไปตลอดทาง

เมื่อเห็นเจ้านายหลบไม่พ้นแน่แล้ว เปกาซัสกระพือปีกพึบพับด้วยสีหน้าตื่นตระหนก มันหวังใช้ร่างกายรับพายุโลหะไว้ เพื่อปกป้องให้ซีบาลมีชีวิตรอดปลอดภัย

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย

มานาของเปกาซัสใกล้หมดเต็มที แถมมันยังเป็นสัตว์ขี่ประเภทบอบบาง พลังชีวิตต่ำ

“เปกาซัส ถอยมา”

แค่ตนตายคนเดียวก็พอแล้ว ซีบาลไม่ต้องการให้สัตว์เลี้ยงเผชิญชะตากรรมโหดร้าย

หงึกหงึก

พรึบ!

เปกาซัสส่ายศีรษะหนักแน่น มันไม่ยอมฟังคำสั่งซีบาล ราวกับต้องการกล่าวว่า หากจะตายก็ต้องตายไปพร้อมกัน

ซีบาลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฝืนเก็บสัตว์เลี้ยงเข้าช่องสัมภาระ

‘เราสามารถตายได้หนึ่งครั้ง และจะเหลือโอกาสอีกแค่ครั้งเดียว…’

มันตั้งค่าให้ป้อมไทเลอร์เป็นจุดคืนชีพ หากตายไป ตัวมันจะเกิดใหม่ที่ด้านในและพร้อมสู้ต่อทันที

แถมค่าเรี่ยวแรงยังฟื้นฟูกลับมาเต็มหลอด

‘ค่อยกลับมาสู้ใหม่…’

แต่แน่นอน หากตายครบสองครั้ง การเชื่อมต่อกับซาทิสฟายจะถูกตัดขาด 24 ชั่วโมง นั่นจะหมายถึงการล่มสลายของอาณาจักรฮาเค่นทันที

ฟ้าววววว

พายุโลหะพุ่งเข้าใกล้ซีบาลทุกขณะ

ทันใดนั้น มันเกิดคำถามในใจ

ตายแบบไหนสบายกว่ากัน?

จะยอมถูกพายุโลหะคร่าชีวิต หรือกระโดดลงไปตายเพราะความสูง?

ขณะขบคิดคำถามไร้สาระ

หมับ!

ใครบางคนคว้าแขนซีบาลไว้และออกแรงกระชาก

ตามมาด้วยเสียงพูด

“ถึงเวลาพักของนายแล้ว”

เป็นเสียงที่ซีบาลไม่มีวันลืม ความรู้สึกที่มีต่อบุคคลผู้นี้ ทั้งอิจฉาและชื่นชมในเวลาเดียวกัน

เสียงของท้องฟ้า

“ครอเกล…!”

พรึบ—

ปีกมังกรสีทองอร่ามสยายบดฟังผืนนภา ผ้าพันแผลคุณภาพสูงซึ่งทำจากผ้าไหม รัดพันร่างกายที่ชุ่มไปด้วยเลือดของซีบาลอย่างระมัดระวัง

“ดาบกรีดนภา”

หนึ่งในสุดยอดทักษะสวนกลับที่แม้แต่ราชาโอเวอร์เกียร์ยังเข็ดขยาด

เปรี้ยะ!

เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!

ท้องฟ้าปรากฏภาพมายากรงเล็บสัตว์ร้ายจำนวนนับไม่ถ้วน

ฟ้าว…

พายุโลหะเริ่มหยุดเคลื่อนไหว ทั้งที่มันถูกกำหนดให้ฉีกกระชากร่างซีบาลอย่างโหดเหี้ยมจนถึงเมื่อครู่

ซู่วววว—

กระแสลมเริ่มไหลย้อนกลับ พายุโลหะเปลี่ยนทิศทาง เป้าหมายคือบุคคลที่ทำการร่ายเวทมนตร์ชนิดนี้

กองทัพอสูรที่วิ่งกรูเข้ามาใกล้ พวกมันกลายเป็นแสงสีเทาโดยไม่ทันตั้งตัว

ซ่าาา…

เฟย์ริสจำใจสลายเวทมนตร์ตัวเองทิ้ง กลุ่มก้อนโลหะกลับเป็นเศษเม็ดทรายอีกครั้ง ก่อนจะกระจัดกระจายไปบนดินแดนรกร้าง

“อริยะ…”

“ดาบผ่ามิติ!!”

“…ดาบ!”

ฉึบ—

โลกถูกตัดแบ่งในพริบตา

ผืนปฐพี ท้องฟ้า รวมถึงกองทัพอสูรเฟย์ริส

ทั้งหมดถูกแยกออกเป็นสอง

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,433
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ตอนนี้มันสั้น เลยต้องเบิ้ล 5555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00