จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1045

『ส…สุดยอด! 』

หากถามว่า ทักษะใดยิ่งใหญ่อลังการที่สุด หลายคนคงตอบโดยไม่ลังเลว่าวิชาดาบแพ็กม่า

โดยเฉพาะขณะกริดปลดปล่อยโดยถือยารุกต์ ดาบที่มีออปชั่นเพิ่มค่าความเท่ ไว้ในมือ

แต่หากกล่าวถึงความอลังการอย่างแท้จริง คงไม่มีทักษะใดเหนือไปกว่า ‘ดาบผ่ามิติ’ แน่

หนึ่งในทักษะไม้ตายครอเกล ทักษะที่สำแดงจุดสูงสุดของวิถีแห่งดาบ ทักษะที่ทำให้โลกประจักษ์ว่า ไม่มีสิ่งใดที่ดาบตัดไม่ขาด

ผ่าครึ่งได้ทุกสรรพสิ่ง

ฉึบ—

[คริติคอล!!]

[ท่านสร้างความเสียหาย 15,300,599 หน่วย!]

[ทานสร้างความเสียหาย 17,900,143 หน่วย!]

[ทานสร้างความ…]

…

…

[เป้าหมายบาดเจ็บรุนแรง!]

[แต้มสถานะทุกชนิดลดลง 20%]

[ความเร็วทุกชนิดลดลง 50%]

[เป้าหมายเผยจุดอ่อน!]

[หากโจมตีภายใน 30 วินาทีถัดจากนี้ การโจมตีทั้งหมดจะกลายเป็นคริติคอลโดยไม่สนใจเงื่อนไข ความเสียหายเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า]

[…!]

[!!!!!!!!!!!!!!]

[ปราณดาบสุดทรงพลังของท่านทำการแบ่งโลกออกเป็นสองส่วน!!]

ครืนนนนน!!

ผืนดินทรายใต้ผาหินสูงชัน มีอันต้องถูกผ่าแยกเป็นสองส่วน

ฝูงอสูรจำนวนมากที่จับกลุ่มรวมตัวไต่กำแพงจนมีลักษณะคล้ายเกาะสีดำมืด ล้วนถูกตัดขาดเป็นสองซีกง่ายดาย

บึ้มบึ้ม—

บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!

อสูรไม่น้อยมีชะตาต้องเสียชีวิตคาที่ เสาแสงเทาหลายต้นผุดขึ้นซ้อนทับกันจนกลายเป็นสีเข้ม โลหิตสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนทั่วผาหิน

ซีบาลขี่เปกาซัสอาจฆ่าอสูรได้หลายร้อยก็จริง แต่ครอเกลหนึ่งดาบกลับสังหารรวดเดียวพันศพ

อีกหนึ่งออปชั่นพิเศษของดาบผ่ามิติคือ มันจะโจมตีใส่ศัตรูทุกเป้าหมายที่อยู่บนเส้นระนาบการฟัน

[เทพธรณี·คาริออน สำแดงพลัง!]

[ทุกสรรพสิ่งไร้ชีวิตที่เคยถูกตัดแบ่ง สมานตัวกลับอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน]

ครืนนนนน—

กำแพงป้อม ผาหินสูงชัน รวมถึงธรรมชาติทุกชนิดรอบตัว ทั้งหมดกลับคืนสู่ภาวะปรกติอีกครั้ง

ทว่า บรรดาอสูรที่ตกลงไปในรอยแยกผืนดินทรายใต้กำแพงป้อม พวกมันไม่ได้กลับขึ้นมาหลังจากธรณีสมานตัว

แล้วก็…

“…”

ฉูดดด—

แขนซ้ายเฟย์ริสถูกสะบั้นขาดออกจากร่าง ด้วยผลของดาบผ่ามิติ โลหิตขาวโพลนพวยพุ่งจากบาดแผลที่ถูกตัดขาดเรียบเนียน ประหนึ่งน้ำพุ

ทั่วโลกต่างตกตะลึงงันกับฉากตรงหน้า บรรดาเผ่าอสูรหันกลับมองเจ้านายด้วยดวงตาที่ตื่นตระหนก

『กองทัพอสูรถึงกับชะงักไปเลยครับ!! 』

『สุดยอดมากครับ!! ครอเกลสามารถตัดแขนเฟย์ริสได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ปรากฏตัว! จอมอสูรสุดทรงพลัง ที่แรงเกอร์นับพันนับหมื่นทั่วโลกไม่สามารถเอาชนะได้! 』

『สมกับเป็นครอเกลครับ!! 』

บรรดาผู้บรรยายต่างตะโกนสร้างบรรยากาศด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ผู้ชมทั่วโลกก็ไม่ต่างกัน

ทว่า สีหน้าครอเกลยังคงดำมืด ปราศจากความยินดีโดยสิ้นเชิง

สำหรับครอเกลแล้ว ดาบผ่ามิตินั้นคล้ายกับ ‘เกวียนเปล่า’

ภายนอกหรูหรา ภายในไร้ค่า

ตรงข้ามกับเอฟเฟคสุดอลังการที่แบ่งโลกออกเป็นสอง ดาบผ่ามิติไม่ใช่ทักษะที่สามารถจัดการศัตรูในการฟันหนเดียว

ถึงจะเป็นทักษะโจมตีหลายเป้าที่มีพลังโจมตีค่อนข้างสูง แต่ก็ยังถูกระงับขีดจำกัดไว้ด้วยความเป็นทักษะโจมตีหมู่ของมัน เทียบกับทักษะท่าไม้ตายชนิดอื่นแล้ว ดาบผ่ามิติจะมีความรุนแรงต่ำที่สุด

สาเหตุที่สังหารศัตรูได้มาก ต้องขอบคุณชัยภูมิที่ได้เปรียบ รวมถึงร่างกายที่บอบบางของอสูรประเภทโจมตีระยะไกล

ทว่า

‘จอมอสูรเฟย์ริส… พลังป้องกันสูงกว่าบีเลียลสองเท่า และพลังชีวิตสูงกว่าสามเท่า’

ครอเกลเปรียบเทียบข้อมูลความเสียหายกับเมื่อครั้งเคยล่าบีเลียลในอดีต

คำนวณจากความเสียหายที่สร้างได้ รวมถึงหลอดพลังชีวิตของเฟย์ริสที่เหลืออยู่ เป็นอีกครั้งที่มันตระหนักว่า ตัวมันในสภาพปัจจุบันยังไม่พร้อมที่จะล่าเฟย์ริส

‘กริด ดาเมี่ยน และมิสรูบี้ คือบุคคลที่ขาดไม่ได้โดยเด็ดขาด…’

ปิอาโร่ โนลล์ และอัสโมเฟลล้วนมีบทบาทเด่นมานานแล้ว โดยเฉพาะโนลล์ที่ถล่มกองทัพซาฮารันจนปั่นป่วน แถมยังมีอีกหนึ่งอัศวินสาวสวยที่ตัวตนยังคงเป็นปริศนาสำหรับสาธารณชน

นี่คือสี่ขุนพลสวรรค์แสนโด่งดังของกริด

ทว่า ครอเกลมิได้นับรวมทั้งสี่ในศึกกับเฟย์ริสที่จะมีขึ้น สาเหตุเพราะ สมัยอดีต กริดเกือบเสียปิอาโร่ไปในศึกบีเลียล มีความเป็นไปได้สูง ที่ชายคนนั้นจะไม่เสี่ยงส่ง NPC เข้าร่วมสนามรบ

‘ต้องถ่วงไว้ให้นานที่สุด’

โดยทั่วไปแล้ว ครอเกลจะใช้ดาบผ่ามิติคอมโบกับทักษะชนิดอื่น เพื่อให้ผลของบัฟคริติคอล 30 วินาทีเกิดประโยชน์สูงสุด

ในช่วงเวลาดังกล่าว ถ้ากระหน่ำท่าไม้ตายทุกชนิดเข้าเป้า ตัวเลขความเสียหายจะมากมายมหาศาลเหนือจินตนาการ

แต่ครอเกลก็ไม่ฝืน มันทราบว่ากองทัพโอเวอร์เกียร์กำลังเคลื่อนพลมายังป้อมไทเลอร์

ทราบได้อย่างไร?

คำตอบคือ เฮ่าและอเล็กซานเดอร์

ท็อปแรงเกอร์ชาวรัสเซียและจีน ซึ่งกล่าวกันว่าสนิทขนาดเป็นครอบครัวเดียวกับครอเกล ด้วยเหตุนี้ พลังด้านข่าวสารของอดีตผู้เล่นแรงค์หนึ่งของโลก พัฒนาจากอดีตอย่างเทียบไม่ติด

แต่อันที่จริง ในกรณีปัจจุบัน มันไม่ได้พึ่งพาข้อมูลข่าวสารสักนิด

> ฉันกำลังเดินทางไป… เหลือส่วนแบ่งไว้ด้วย!

เป็นเสียงข้อความส่วนตัวจากกริด น้ำเสียงกระวนกระวายคล้ายกับคนที่กลัวไปไม่ทันงานเลี้ยงฉลอง

ครอเกลอมยิ้มพลางหันไปมองซีบาลที่ยังแสดงสีหน้าดำมืด แม้จะถูกช่วยชีวิตไว้ได้ฉิวเฉียด

เมื่อถูกจ้อง ซีบาลรีบเบือนหน้าหนี แถมยังส่งเสียงพำพึม

“บ้าจริง… ฉันเกลียดพวกพระเอก”

“แต่ฉันถูกพระรองไล่กดดันตั้งหลายปี…”

“ฉันเบื่อหน้านาย!”

ครอเกลและซีบาลร่อนลงบนกำแพงป้อมไทเลอร์ ฉากสงครามแสนดุเดือดเบื้องล่างกำลังปรากฏให้เห็นเต็มสองตา

อสูรหลายร้อยหลายพัน บ้างเสี่ยงชีวิต บ้างกรีดร้องเจ็บปวด แต่อีกหลายพันที่ยังสุขภาพดี สีหน้าพวกมันกำลังตึงเครียดเมื่อได้เห็นเจ้านายสูญเสียแขนไปหนึ่งข้าง

การพลังทำลายของบุคคลเดียว สร้างหายนะต่อกองทัพอสูรได้มากเพียงนี้เชียวหรือ?

เหนือคำบรรยาย

ปรากฏการณ์

ปาฏิหาริย์

หรือเรียกว่าอะไรก็ตาม แต่ซีบาลมั่นใจ ครอเกลปัจจุบัน แข็งแกร่งกว่าสมัยยังเป็นฟ้าเหนือฟ้าในอดีตอย่างเทียบไม่ติด โดยเฉพาะ เมื่อเทียบกับงานแข่งนานาชาติเมื่อสองปีก่อน

คล้ายกับพลังอริยดาบที่แท้จริงได้ตื่นขึ้นแล้ว

“…อีกไม่นาน นายต้องทวงคืนตำแหน่งท้องฟ้าได้แน่”

“ไม่เลย… ยังห่างไกลมาก”

ยิ่งครอเกลเติบโต กริดก็ยิ่งไปได้ไกลกว่า

สำหรับราชาโอเวอร์เกียร์ กษัตริย์แห่งอาณาจักร เขาครอบครองสภาพแวดล้อมในการพัฒนาตัวละครชนิดที่ไม่มีผู้เล่นคนใดเทียบได้

การข่าว ความมั่งคั่ง ขุนพลในมือ กริดมีครบทุกสิ่ง และครอบครองในปริมาณมหาศาล

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือจอมปราชญ์สติกส์ กริดสามารถเคลื่อนย้ายตัวละครไปยังจุดใดก็ได้บนทวีป ตามเท่าที่ใจปรารถนา

เพียงเท่านี้ก็ชนะคนอื่นอย่างไม่เห็นฝุ่นแล้ว

เมื่อวานยังอยู่โบราณสถานเทพสงคราม วันนี้กำลังจะถึงป้อมไทเลอร์ พลังเดินทางข้ามมิติคือสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้เลย

‘เขายังยอดเยี่ยมเหมือนเคย’

ในวินาทีที่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ถูกก่อตั้ง จะมีสักกี่คนที่จินตนาการออกว่า กริดสามารถนำพามาถึงจุดปัจจุบันได้ในระยะเวลาแสนสั้น

หลายคนอาจมองเป็นเรื่องของดวง แต่ก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้เลยว่า ในปัจจุบัน อาณาจักรโอเวอร์เกียร์เติบโตได้รวดเร็ว จนมีพลังอำนาจเทียบเคียงจักรวรรดิซาฮารัน ดินแดนซึ่งปกครองทวีปยาวนานกว่าพันปี

กริดสุดยอดถึงเพียงนั้น

“ในเมื่อจอมอสูรบัดซบนั่นบาดเจ็บได้ หมายความว่า เราก็ฆ่ามันได้เช่นกัน…”

ซีบาลพึมพำขณะสายตาจ้องมองเฟย์ริสที่อยู่ห่างออกไปด้านล่าง

แขนขาดตกอยู่บนพื้นคล้ายกับก้อนเนื้อเน่า โลหิตสีขาวยังคงไหลพุ่งออกจากบาดแผลหัวไหล่

‘เลือดออก’ เป็นอาการผิดปรกติทางกายภาพชนิดบังคับ ไม่ใช่สิ่งที่จอมอสูรจะต้านทานได้

เมื่อเห็นหลอดพลังชีวิตจอมอสูรลดลงทุกขณะ แววตาซีบาลเริ่มปรากฏแสงแห่งชัยชนะ

“มาร่วมมือกันเถอะ ถ้าฉันขับไรเดอร์ส จอมอสูรตัวนั้นต้องบาดเจ็บหนักแน่”

“นายรู้ไหม… เป้าหมายสูงสุดของนักแปรธาตุคือสิ่งใด?”

“…?”

“ไม่ใช่การสร้างทอง… แต่เป็นการสร้างชีวิต การมีอยู่ของศิลาแห่งชีวิตคือเครื่องพิสูจน์”

“นายกำลังพูดเรื่องอะไร?”

ช่วยชีวิตตนไว้เพื่อพล่ามเรื่องไร้สาระเนี่ยนะ?

เมื่อเห็นซีบาลทำสีหน้ามึนงง ครอเกลชี้ไปที่จอมอสูร

“ดูร่างกายของมันให้ดี… หมอนั่นกำลังฟื้นฟู”

ดวงตาซีบาลหันไปจ้องที่บาดแผลเรียบเนียนบนหัวไหล่เฟย์ริส ในส่วนที่ถูกดาบตัดขาด

ปึด! ปึด! ปึด!

โลหิตซึ่งเคยพุ่งกระฉูดออกจากปากแผล ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นโลหะ และผ่านไปเพียงพริบตา โลหะกลายสภาพเป็นเนื้อหนัง กระดูก เส้นประสาท ชดเชยส่วนที่ขาดหายไป

ซีบาลและคนทั่วโลก สายตาทุกคู่จ้องมองไปยังบาดแผลเฟย์ริสที่สมานตัวในเวลาแสนสั้น

การตัดอวัยวะไม่ได้ผลงั้นหรือ?

มันไม่เคยทราบมาก่อน ว่าศาสตร์แปรธาตุจะมีจุดสูงสุดที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้

ตลอดระยะเวลาที่อาศัยในจักรวรรดิ ซีบาลเคยได้ยินสรรพคุณของนักแปรธาตุมาบ้าง แต่ก็ทราบเพียงว่า สามารถผลิตโพชั่นคุณภาพสูง หรือไม่ก็โลหะคุณภาพดีเท่านั้น

ร่างกายซีบาลกำลังสั่น

มันไม่ได้ตื่นตระหนกในพลังยอดเยี่ยมของจอมอสูร หากแต่เป็นความรู้ที่กว้างขวางของอริยดาบครอเกล

“อริยดาบคนปัจจุบัน… ช่างอ่อนแอนัก”

แม้อีกฝ่ายจะอยู่ห่างออกไปไกล แต่เสียงที่เปล่งกลับกังวานคล้ายยืนพูดข้างหู

“อดีตอริยดาบมุลเลอร์ หมอนั่นเคยผนึกจอมอสูรไปหลายตน… แต่กับเจ้าคงไม่มีปัญญา”

ครอเกลไม่ปฏิเสธ

“นั่นก็จริง ฉันอาจผนึกจอมอสูรไม่ได้เลยตลอดชีวิต”

กล่าวกันว่า มุลเลอร์คือมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์โลกใบนี้ หากแบ่งศักยภาพของมนุษย์ด้วยตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 10 มุลเลอร์จะอยู่ที่ 100

แทบไม่มีโอกาสที่ครอเกลจะก้าวไปถึงระดับเดียวกับมุลเลอร์ได้

ทว่า มันไม่ได้สู้ตามลำพัง

“ขอโทษที่มาสาย กว่าจะรวบรวมเด็กพวกนี้ได้ครบ กินเวลานานเอาเรื่องอยู่”

กองทัพครอเกลพร้อมหน้าแล้ว

เฮ่า อเล็กซานเดอร์ ท็อปแรงเกอร์ชาวจีน ท็อปแรงเกอร์รัสเซีย หากรวมซีบาลเข้าไปด้วย นี่จะกลายเป็นปาร์ตี้ตรงพลังอันดับหนึ่ง เท่าที่ผู้เล่นเคยเผชิญหน้ากับจอมอสูรเฟย์ริส

หัวใจผู้ชมทางบ้านเริ่มเต้นระรัว

ขณะเดียวกัน สีหน้าเฟย์ริสยังคงเฉยชา รอยยิ้มมุมปากปรากฏความเหยียดหยันเช่นทุกครั้ง

เพียงสะบัดมือขึ้นฟ้า เวทมนตร์สิบชนิดที่ต่างกันเริ่มก่อตัวกลางอากาศอันว่างเปล่า แต่ละชนิดคือตัวแทนธาตุซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในบรรยากาศรอบสนามรบ

ฝุ่น ดิน หิน น้ำ อากาศ…

เวทธาตุสรรพชนิด เริ่มเปลี่ยนรูปร่างเป็นหอกโลหะขนาดมหึมาซึ่งแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า เป้าหมายการทำลายคือปาร์ตี้ของครอเกลเหนือกำแพงป้อมไทเลอร์

“ตายซะ”

เมื่อต้องเผชิญกับเวทมนตร์ระดับมหาจอมเวท ครอเกลฝืนกลืนน้ำลายอันเหือดแห้ง

ด้วยความสัตย์จริง มันไม่มั่นใจแม้แต่น้อย ว่าจะรับมือไหว

ฟ้าวววววว—

หอกสิบเล่มพุ่งผ่านสนามรบด้วยความเร็วสูง แหวกอากาศจนเกิดเสียงเล็กหวีดแหลม ผู้ชมต่างมั่นใจว่า หากหอกทั้งสิบกระแทกใส่กำแพงปราการ ป้อมไทเลอร์ต้องถูกถล่มพินาศแน่นอน

เป็นระดับพลังคนละมิติโดยสิ้นเชิง

ทว่า

ซู่ววว…

ทันใดนั้น หอกโลหะทั้งสิบเล่มเริ่มสูญเสียความเร็ว ก่อนจะสลายตัวและแตกกระจัดกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อย

『นี่มันอะไรกันครับ!? 』

พิธีกรกำลังฉงนกับปรากฏการณ์สุดประหลาด

เช่นเดียวกับเฮ่า อเล็กซานเดอร์ และซีบาล

มีเพียงสองคน… ครอเกลและเฟย์ริส ที่ทราบถึงสาเหตุ ว่าเพราะอะไร หอกพลังแปรธาตุถึงสูญเสียอำนาจและถูกทำลายโดยฉับพลัน

“เขตแดนจิตไร้รูป…?”

พลังจิตประเภทหนึ่ง ไร้รูปร่าง

ทักษะ ‘เขตแดนจิต’ ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แถมยังซ้อนทับสองชั้นหนาแน่น ได้ก่อตัวเป็นสนามพลัง ที่มีอำนาจสลายวัตถุทุกชนิดด้วยจิตของผู้ใช้งาน

ทรงพลังถึงขนาดทำลายวิชาแปรธาตุของเฟย์ริสได้ง่ายดาย

คราวนี้ นัยน์ตาเฟย์ริสเริ่มเผยอาการหวาดหวั่น มันแหงนหน้ามองสองบุคคลที่ยืนเด่นตระหง่านบนกำแพงปราการสูง

“น่าขยะแขยงชะมัด”

“เป็นจอมอสูรที่ดูไม่ได้เลย”

หนึ่งบุรุษ หนึ่งสตรี ในมือถือหอกหรูหรา เพียงจ้องมองก็ทราบทันทีว่าเป็นยอดศาสตรา

ชายวัยกลางคนรูปร่างเล็ก ชื่อเหนือศีรษะเขียนไว้ว่า ‘คิรินัส’

ส่วนสตรีผมทอง ใบหน้างดงาม ไม่สามารถระบุอายุได้ชัดเจน ชื่อเหนือศีรษะคือ ‘เรเชล’

แต่หนึ่งสิ่งที่เหมือนกันคือ ชื่อของทั้งสองถูกเขียนด้วยอักษรสีทองอร่าม

ผู้ชมทางบ้าน รวมถึงพิธีกรผู้บรรยายข่าว ดวงตาทุกคนพลันเบิกกว้างคล้ายกับไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

『 ห…หอกเอกแห่งทวีป… คิรินัส! 』

『อริยหอก… เรเชล! 』

『พ…พวกเขาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? 』

สองบุคคลสุดยิ่งใหญ่แห่งทวีป กล่าวกันว่า ผู้เล่นทั่วไปอาจไม่มีโอกาสได้พบหน้าชั่วชีวิต

แล้วทำไมถึงปรากฏตัวพร้อมกันในที่แห่งนี้?

โดยเฉพาะเรเชล เธอคือหนึ่งในดยุคแห่งจักรวรรดิซาฮารัน

จักรวรรดิไม่เคยเหลียวแลการบุกถล่มของเฟย์ริสแม้แต่น้อย จึงค่อนข้างน่าฉงนว่า เรเชลมาทำอะไรที่ป้อมไทเลอร์กันแน่

ครอเกลกล่าวทักทายคนทั้งสอง

“มากันแล้วหรือ”

“อา”

คิรินัสและเรเชลตอบรับด้วยเสียงเรียบเฉย

『ร…หรือว่า…』

ครอเกลเป็นคนพามา?

ทั่วโลกพลันวุ่นวายโกลาหล

อันที่จริง ในระยะหลัง คนจำนวนมากล้วนคิดคล้ายกันว่า ครอเกลไม่มีทางกลับมาทวงตำแหน่งฟ้าเหนือฟ้าคืนจากกริดได้อีกแล้ว

หมาป่าเดียวดายจะทำอะไรได้นัก?

เทียบกับกริด ชายคนนั้นมีอาณาจักร มีกองทัพ มียอดเสนาธิการ มียอดขุนพล มีแรงเกอร์ในมือเฉียดหนึ่งพันชีวิต มีหน่วยนักลอบสังหารประจำตัว มีสี่ขุนพลสวรรค์ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็น NPC ภายในเกม

แล้วครอเกลมีอะไรบ้าง?

ครอเกลไม่มีทางกลับไปเป็นท้องฟ้าได้อีกครั้ง ความคิดเช่นนี้พลันแปรเปลี่ยน เมื่อทุกคนได้เห็นฉากตรงหน้าเต็มสองตา

หอกเอกของทวีปและหนึ่งในเจ็ดดยุค

หลังจากพวกมันได้เห็น NPC ‘สุดพิเศษ’ สองคนปรากฏตัวในฐานะมิตรสหายฝ่ายครอเกล ความเชื่อมั่นที่มีต่อกริดเริ่มสั่นคลอน

กับคิรินัสอาจไม่โด่งดัง แต่กับเรเชลแล้วไม่ใช่ เธอคือบุคคลระดับดยุค ระดับท้องฟ้าของจักรวรรดิซาฮารัน

ต่อหน้าเจ็ดดยุค สี่ขุนพลสวรรค์ของกริดไม่มีทางเทียบติดแม้แต่ปลายเล็บ

นั่นคือความคิดของผู้คนส่วนใหญ่

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,434

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous