จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 990
“ยูเฟอมิน่า!”
“ทำไมยูเฟอมิน่าถึงปกป้องแอ็กนัส?”
“แอ็กนัสถูกปรักปรำ? เธอพูดจริงหรือ?”
ผู้ชนนับหมื่นกำลังรวมตัวรอบลานประหาร
กลุ่มคนที่หวังเชยชมจุดจบแอ็กนัสต่างหันมองยูเฟอมิน่าอย่างพร้อมเพรียง
ขุนนางสักขีพยานจากเจ็ดอาณาจักรก็ไม่ต่างกัน พวกมันเอียงคอสงสัย
“วิหารยาธานอยู่เบื้องหลังทั้งหมด?”
“เด็กคนนั้นเป็นใครกัน?”
กลุ่มนักล่าที่อยู่ในเหตุการณ์จับกุมตัวได้อธิบายกับเหล่าขุนนางที่เข้าชมพิธีประหารในฐานะสักขีพยาน
“เธอคือขุนนางชั้นเอิร์ลแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์”
“อาณาจักรโอเวอร์เกียร์…?”
“หืม…”
เก้าอี้นั่งสักขีพยานจะถูกจัดไว้ไม่ห่างกับเครื่องกิโยตินมากนัก ขุนนางที่เข้าชมพิธีประหารรับฟังข้อมูลด้วยสีหน้าเรียบเฉย
สาเหตุเพราะ พวกมันล้วนไม่ชอบหน้าโอเวอร์เกียร์เป็นทุนเดิม
เหนือสิ่งอื่นใด โอเวอร์เกียร์คืออาณาจักรที่ก่อตั้งอย่างป่าเถื่อน
โอเวอร์เกียร์ถือกำเนิดด้วยการฆ่าล้างราชวงศ์เก่า นับเป็นสิ่งที่ขุนนางและเชื้อพระวงศ์ทั่วทวีปต่อต้านและคัดค้านมาตลอด
เฉกเช่นเหล่าราชวงศ์อาณาจักร ขุนนางน้อยใหญ่ล้วนปฏิเสธการมีตัวตนของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
ไม่เพียงเท่านั้น เหล่าทูตที่ถูกส่งไปร่วมพิธีสถาปนาก่อตั้งอาณาจักรยังถูกปฏิบัติอย่างต่ำทรามและป่าเถื่อน
โดยเฉพาะอาณาจักรไวโอเล็ต พวกมันสูญเสียบารอนไปจากฝีมือพลทหาร จึงเกลียดชังโอเวอร์เกียร์เป็นเท่าทวี
ท่าทีตอบสนองของพวกมันมิได้ผิดแผกไปจากความคาดหมาย
“กล้าดียังไงถึงขัดขวางพิธีประหารของอาณาจักรอื่น? ไม่มีมารยาทพื้นฐานทางสังคมบ้างรึไง? สมกับเป็นขุนนางอาณาจักรป่าเถื่อน!!”
“น่าสะอิดสะเอียนนักที่กล้าเข้าข้างฆาตกร… แต่เดิมที อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ก็เป็นพวกฆาตกรอยู่แล้ว ก่อตั้งอาณาจักรโดยกษัตริย์โจรผู้ล้มล้างราชวงศ์ด้วยกำลัง”
เอิร์ลชักส์และเอิร์ลโดลเช่เข้าร่วมพิธีประหารในฐานะสักขีพยาน
พวกมันคือตัวแทนจากเก๊าส์และไวโอเล็ตซึ่งเป็นอริรุนแรงกับโอเวอร์เกียร์ และแน่นอน ทั้งสองไม่แยแสผู้เห็นเหตุการณ์ที่ยูเฟอมิน่านำมาใช้แก้ต่าง
ถึงจะไม่เอ่ยปาก แต่ท่าทีของสักขีพยานอาณาจักรอื่นก็ไม่ต่างกันนัก
พวกมันไม่สนใจเหลียวแลผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งกำลังยืนสั่นระริกข้างยูเฟอมิน่า
ไม่มีใครต้องการทราบความจริง ทุกอาณาจักรเพียงหวังระงับโทสะอันเดือดดาลของประชาชนเท่านั้น
เมื่อมีคนตายก็ต้องมีคนผิด
เมื่อคนผิด มันก็ต้องถูกนำตัวมาลงโทษ
หากฆาตกรตัวจริงคือวิหารยาธาน ความโกรธแค้นของชาวเมืองคงไม่บรรเทาลงเมื่อเทียบกับการประหารแอ็กนัส
หรือในอีกความหมายหนึ่ง เจ็ดอาณาจักรไม่ยอมรับฟังคำคัดค้านจากยูเฟอมิน่า พวกมันไม่สนว่าวิหารยาธานคือฆาตกรที่แท้จริงหรือไม่
ในเมื่อจับกุมตัวแอ็กนัสได้แล้ว การลงโทษแอ็กนัสจะช่วยเยียวยาจิตใจผู้คนได้ดีกว่า
“ฉันจะพูดอีกแค่ครั้งเดียว”
เมื่อยูเฟอมิน่าเอ่ยปาก ความสนใจจากทุกฝ่ายมุ่งมายังเธออีกครั้ง ยูเฟอมิน่ามิได้แยแสถ้อยคำถากถางจากเอิร์ลทั้งสอง
แข็งแกร่งอันดับหนึ่งหากเตรียมพร้อม
นี่คือคำนิยามที่เหมาะสมกับเธอที่สุด
ด้วยทักษะของนักคัดลอกผสานกับเวทมนตร์มูมัด จุดอ่อนเดิมที่เคยมีแทบไม่ปรากฏให้เห็น
“แอ็กนัสถูกปรักปรำอย่างไม่เป็นธรรม! ฆาตกรตัวจริงที่สังหารเจ็ดช่างอัญมณีคือวิหารยาธานต่างหาก!”
ยูเฟอมิน่าหันไปออกคำสั่งสาวกยาธานที่ยืนด้านข้าง
“เล่าความจริงซะ”
“ตกลง”
สาวกยาธานรับคำ
ยูเฟอมิน่าอาจไม่ทราบ แต่สาวกยาธานคนดังกล่าวกำลังมีสีหน้าเหม่อลอยเพราะถูกโรสสิงร่างอยู่
“เธอพูดถูก วิหารยาธานของพวกเราคือฆาตกรที่สังหารช่างอัญมณีทั้งเจ็ดอาณาจักรและป้ายความผิดให้แอ็กนัส”
“ทำไปเพื่ออะไร?”
“เพราะแอ็กนัสทรยศวิหาร พวกเราจะไม่ปล่อยให้คนทรยศลอยนวล”
โรส ‘ยืมร่าง’ สาวกยาธานคนหนึ่งเพื่อบอกเล่าความจริง เธอต้องการจบเรื่องราววุ่นวายตรงหน้าโดยเร็ว
ขณะใช้ทักษะ ‘สิงร่าง’ ร่างหลักของโรสจะเข้าสู่ภาวะหลับใหล ถึงจะหลบซ่อนในที่ปลอดภัย แต่เธอไม่อยากอยู่ในสภาพนี้นานนัก
“คิดว่าพวกเราจะชื่องั้นหรือ?”
หนึ่งในขุนนางสักขีพยานเจ็ดอาณาจักร
เอิร์ล ‘เบโอริส’ จากกลาเชี่ยน มันเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าสุดเหยียดหยัน
น้ำเสียงขึงขัง แววตาคุกคาม
ยูเฟอมิน่าเผยหลักฐานสำคัญแทนที่โรสซึ่งยืนปิดปากเงียบ
หลักฐานดังกล่าวคือตัวสาวกยาธานเอง
พรึ่บ
เมื่อยูเฟอมิน่าดึงผ้าคลุมหัวสาวกยาธานลง ตราประทับเวทมนตร์สีแดงสดราวกับโลหิตพลันส่องสว่างกลางศีรษะของมัน
นี่คือรอยสักเวทมนตร์ซึ่งแสดงถึงตำแหน่ง ‘นักบวชระดับสูง’ ของวิหารยาธาน
ไม่มีทางทำเลียนแบบได้ เพราะต้องผ่านพิธีกรรมสลักด้วยมนตร์ดำของวิหารเท่านั้น
“นี่มัน…!”
เอิร์ลเบโอริสและสักขีพยานจากอาณาจักรอาร์คต่างเลื่อนมือทั้งสองขึ้นกุมขมับ
สถานการณ์กำลังซับซ้อน สาเหตุเพราะ พวกมันมิอาจปฏิเสธหลักฐานดังกล่าวได้เลย
ขณะเดียวกัน ตัวแทนจากอีกห้าอาณาจักร ต่างยกมือข้างหนึ่งขึ้นฟ้าเพื่อคัดค้าน มิใช่การกุมขมับ
“หลักฐานอ่อนเกินไป สาวกยาธานระดับสูงเพียงคนเดียวมิอาจพิสูจน์การกระทำวิหารยาธานทั้งหมดได้ พวกเราจะดำเนินพิธีประหารต่อ”
“…?”
คำกล่าวอ้างของเธอถูกปัดตกไป
ฝูงชนโดยรอบพลันมีสีหน้าเมามายประหนึ่งเพิ่งเสร็จงานเลี้ยงฉลอง
แน่นอน สีหน้าของคนเมามักเป็นสีหน้าที่เปี่ยมด้วยความสุข พวกมันล้วนต้องการเห็นจุดจบอันน่าสมเพชของแอ็กนัส
คนเหล่านี้เคยถูกแอ็กนัสคุกคามมาก่อนอย่างนั้นหรือ?
ไม่เลย
แอ็กนัสแยกร่างไม่ได้ มันไม่มีทางคุกคามทุกคนบนโลกครบภายในระยะเวลาไม่กี่ปี
คนเหล่านี้เพียงต้องการรับชมความฉิบหายของผู้อื่นด้วยตาตัวเอง
ไม่มีใครต้องการเห็นคนแปลกหน้าได้ดิบได้ดีไปกว่าตัวเอง เป็นความสุขประเภทหนึ่งเมื่อได้ประจักษ์ความล่มจมและพังพินาศของแรงเกอร์ซึ่งเคยประสบความสำเร็จล้นหลาม
ต่อให้แอ็กนัสเป็นคนดี ก็ไม่แน่ว่าคนเหล่านี้จะเกิดความเศร้าเสียใจ
“รีบตัดหัวมันได้แล้ว!”
“แอ็กนัสสมควรตาย!”
ใครบางคนตะโกนเพื่อปลุกระดม
ผู้คนจำนวนมากต่างคล้อยตาม พวกมันส่งเสียงเร่งเร้าให้รีบประหารแอ็กนัสโดยเร็ว
“ฆ่าแอ็กนัส!!”
“ฆ่าแอ็กนัส!!”
“ฆ่าแอ็กนัส!!”
“…คิคิก”
เหล่ามนุษย์ช่างโสมม
ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด
ธรรมชาติดั้งเดิมของมนุษย์นั้นเดรัจฉานยิ่งกว่าสัตว์ป่า และแน่นอน สันดานดิบไม่ใช่สิ่งที่ถูกเปลี่ยนแปลงหลังจากเรียนหนังสือหรือผ่านประสบการณ์ชีวิตมากมาย
‘เราเองก็ไม่ต่างกัน’
แอ็กนัสชำเลืองสายตามองรายละเอียดภารกิจที่ยังค้างมุมหน้าจอ
‘คงต้องอาละวาดให้หนำใจ’
นี่คือหนทางเดียวในการใช้ชีวิตบนโลกแสนบ้าคลั่ง หากต้องการอยู่รอด ก็ต้องบ้าคลั่งให้ยิ่งกว่าใครทั้งหมด
[ท่านรับภารกิจ]
[ท่านได้รับพลังจากจอมอสูรบาเอล]
[ท่านได้รับอิสระกลับคืนมา]
[แต้มสถานะทุกชนิดกลับสู่ค่าปรกติ]
[ทักษะทุกชนิดกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง]
“คิคิก…! คิฮ่าฮ่า… ฮ๋า?”
พลังพันธนาการจากกุญแจมือและโซ่ตรวน เสื่อมลงฉับพลัน มันสามารถดึงกระชากให้ขาดออกทุกเมื่อ
ทว่า ขณะแอ็กนัสเตรียมตัวอาละวาดครั้งใหญ่ มันกลับต้องชะงักงัน
ภายในแววตาสีทองของแอ็กนัสกำลังส่องสะท้อนภาพชายคนหนึ่ง
บุลเล็ต
เหยื่อที่ถูกเวอราดินหลอกใช้งานนานแรมปีใต้ร่มเงาอิมมอทัล ชายที่น่าสมเพชคนนั้นเดินแหวกฝูงชนออกมายืนข้างยูเฟอมิน่า
บุลเล็ตหันไปตะโกนใส่กลุ่มคนที่บ้าคลั่ง
“พวกแกหูหนวกรึไง? แอ็กนัสไม่ใช่ฆาตกร!! เขายืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองแล้ว!”
บุลเล็ตมิได้เอ่ยถึงพยานที่ยูเฟอมิน่านำมา
จำเป็นด้วยหรือ?
ในเมื่อแอ็กนัสยอมรับว่าไม่ได้ฆ่า… นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะให้เชื่อ
“ให้ตายสิ… นายมันโง่จนถึงที่สุด”
แอ็กนัสสัมผัสถึงความเชื่อใจได้จากคำพูดเมื่อครู่ของบุลเล็ต
เหตุใดหมอนี่ถึงเชื่อใจตนขนาดนั้น?
มันไม่เข้าใจเลยสักนิด
ตัวมันคือคนโฉดชั่ว
ไม่มีวันได้รับความรักและเชื่อใจจากใคร
สมควรต้องอยู่คนเดียว
โชคชะตากำหนดให้เป็นเช่นนั้น
แต่ทำไม… หมอนั่นถึง
ความรู้สึกแปลกประหลาดกำลังเอ่อล้นท่วมร่างแอ็กนัส
เป็นอารมณ์ที่ยากอธิบาย
แปลกใหม่และไม่เคยสัมผัสมาก่อน
“ไอ้บัดซบ! แกเป็นใครกัน!?”
“หมอผีของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์!”
“โอเวอร์เกียร์อีกแล้ว…! พวกมันคิดขัดขวางเจ็ดอาณาจักรเราไปถึงไหน? พอกันที!!”
ขุนนางสักขีพยานมิอาจข่มโทสะได้อีก พวกมันหันไปออกคำสั่งกับนักล่าค่าหัว
“บังอาจขัดขวางพิธีประหารอันศักดิ์สิทธิ์! รีบเชือดพวกมันทิ้งเร็วเข้า!!”
ไม่ปรากฏความลังเลในแววตากลุ่มนักฆ่า
พวกมันกระโจนออกจากที่นั่งสักขีพยานเพื่อประชิดตัวยูเฟอมิน่าและบุลเล็ตด้วยความเร็วสูง
ทันใดนั้น…
“อั่ก…! อ๊ากกกกก!!”
“…?”
สถานการณ์กำลังวุ่นวายโกลาหล
ฝูงชนรวมถึงนักข่าวที่กำลังบันทึกภาพเหตุการณ์ กล้องรีบทุกตัวจับจ้องไปยังแอ็กนัสโดยมิได้นัดหมาย
ขณะถูกพันธนาการไว้กับกิโยติน แอ็กนัสส่งเสียงคำรามแหกปากด้วยสีหน้าเจ็บปวด
ดวงตาแดงก่ำปราศจากสีขาวเจือปน
ผู้ชมทั่วโลกกำลังเห็นในสิ่งเดียวกัน
“…!”
ทุกคนต่างพากันขนลุก
ความบ้าคลั่งประหนึ่งสัตว์ป่ากำลังฉายในแววตาสีทองอร่ามของแอ็กนัสอย่างชัดเจน
เคร้ง!
แคร้ง!!
“อ… อะไรกัน!!”
ใบหน้าเหล่าขุนนางสักขีพยานพลันขาวซีดเมื่อกุญแจมือและโซ่ตรวนที่ล่ามแอ็กนัสถูกกระชากทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
มวลชนโดยรอบที่กำลังดื่มด่ำความสุขต่างผงะถอยหลังและรีบวิ่งหนีสุดชีวิต
โผละ!
ศีรษะของเพชฌฆาตระเบิดออก
ซากศพทิ้งตัวตามแรงโน้มถ่วง หลังจากนั้นได้คืนชีพในฐานะทหารโครงกระดูก
“อ… อี๋ย!”
บรรยากาศคุกคามจากตัวตนคลาสหมอผีอันดับหนึ่งของโลกกำลังแผ่สะกดทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์จนอยู่หมัด
แต่กระนั้น เหล่านักล่ายังคงไม่หยุดมือ พวกมันเล็งจัดการยูเฟอมิน่าและบุลเล็ตเป็นเป้าหมายแรก จากนั้นค่อยรุมฆ่าแอ็กนัสในภายหลัง
ในมุมมองพวกมัน แอ็กนัสคือเหยื่อแสนอ่อนแอที่กำราบได้ทุกเมื่อ
ยูเฟอมิน่าและบุลเล็ตยืนหลังชนกันด้วยสีหน้าตึงเครียด
“คิฮ่าฮ่าฮ่า!! ไสหัวไปซะ!!”
อัศวินความตายของแอ็กนัสพุ่งเข้าใส่กลุ่มนักล่าพร้อมกวัดแกว่งดาบในมือ
กลุ่มนักล่าต่างรีบกระจายตัวหลบ ขณะพวกมันทึ่งในความว่องไวของอัศวินความตาย จนชะงักเสียจังหวะ ห่าฝนเวทมนตร์จากลิชมูมัดได้ถล่มใส่จากด้านบนประหนึ่งภัยพิบัติธรรมชาติ
“อะไรกัน…! แค่ก!!”
“แข็งแกร่งขนาดนี้เชียว?”
ในอดีต เจ็ดอาณาจักรได้ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อจ้างนักล่าค่าหัวที่แข็งแกร่งสำหรับภารกิจจับกุมตัวแอ็กนัส
นักล่าในวันนี้เป็นชุดเดิม เพียงแต่แอ็กนัสไม่ใช่คนเดิม มันมิได้ ‘อ่อนแอและถูกสาป’ เหมือนเมื่อครั้งถูกจับ พลังแท้จริงของแอ็กนัสไม่ใช่สิ่งที่คนเหล่านี้ล่าคุ้นชิน
“บ้าจริง…!”
กลุ่มนักลอบสังหารฝืนพยุงตัวยืน พวกมันเปลี่ยนเป้าหมายจากยูเฟอมิน่าและบุลเล็ตเป็นแอ็กนัสโดยพลัน
ขณะเดียวกัน แอ็กนัสเมินเฉยต่อเหล่านักล่าที่หมดสภาพ มันเปลี่ยนเป้าการโจมตีไปยังบุลเล็ตและยูเฟอมิน่าด้วยบรรยากาศแสนคุกคาม
“พวกแกต้องถูกเชือดทิ้งก่อนใคร”
“ค… คุณแอ็กนัส?”
“ตายซะ!!”
“…!?”
ยูเฟอมิน่าและบุลเล็ตย่อมไม่ทันระวังตัวจากแอ็กนัส คมดาบที่ยาวแหลมเสียบทะลวงช่องท้องมิดด้าม ทั้งสองต่างเสียหลักเซไปด้านหลัง
บุลเล็ตตะโกนเรียก
“พวกเราพยายามช่วยคุณ…!”
“หุบปาก! หุบปากไปซะ!! คิคิก! คิฮ่าฮ่า!!”
“…!”
การเจรจาไม่เป็นผล
แอ็กนัสกำลังอาละวาดอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจสิ่งใด อัศวินความตายและลิชกระหน่ำโจมตียูเฟอมิน่ากับบุลเล็ตไม่หยุดหย่อน
บึ้ม!
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!
ดาบอัศวินความตายกวัดแกว่งพัวพันประหนึ่งใยแมงมุม ด้านบนยังมีกลุ่มเวทมนตร์มหาศาลจากลิชมูมัด
ผู้เล่นหลายสิบที่ยืนใกล้กับยูเฟอมิน่าและบุลเล็ตต่างทานทนอำนาจเวทมนตร์สุดทรงพลังไม่ไหว พวกมันถูกแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีเทาในพริบตา
แอ็กนัสในสภาพสมบูรณ์ย่อมควบคุมมูมัดได้ดั่งใจประหนึ่งแขนขา
แม้กระทั่งสาวกยาธาน พยานเพียงคนเดียวที่จะขจัดมลทินให้แอ็กนัสได้ มันถูกสังหารในพริบตาและกลายเป็นทหารโครงกระดูกลุกขึ้นเข่นฆ่า
แอ็กนัสไม่รามือ มันหวังดับลมหายใจบุลเล็ตและยูเฟอมิน่าให้ได้
“นี่นาย…”
แอ็กนัสคลุ้มคลั่งจริงหรือ…?
ขณะป้องกันตัวอย่างเต็มกลืนด้วยสีหน้าตึงเครียด ร่างกายยูเฟอมิน่าพลันแข็งทื่อเมื่อเธอสัมผัสถึงบางสิ่ง
สีหน้าแอ็กนัสกำลังขื่นขมและเจ็บปวด
ทุกครั้งที่มันลงมือทำร้ายบุลเล็ตและเธอ กล้ามเนื้อบนใบหน้าจะบิดเบี้ยวประหนึ่งหัวใจถูกกรีดแทง
‘…เล่นละครไม่เก่งเลยนะ’
ยูเฟอมิน่าเริ่มตระหนักได้
แอ็กนัสพยายามตัดความสัมพันธ์ระหว่างตัวมันและโอเวอร์เกียร์ออกจากกัน เจ็ดอาณาจักรจะได้เบนไปที่ตัวมันเพียงคนเดียว
…มันกำลังทำให้ตัวเองโดดเดี่ยวอีกครั้ง
ยูเฟอมิน่ารีบหันไปตะโกนกับบุลเล็ต
“พวกเราถอยก่อน”
“เอ๋? แต่ว่าคุณแอ็กนัส…”
ลอเอลย่อมฉลาดพอที่จะเดาได้ว่า ขุนนางจากเจ็ดอาณาจักรไม่แยแสคำสารภาพของสาวกยาธานระดับสูง
ด้วยเหตุนี้ กิลด์โอเวอร์เกียร์จึงนัดแนะกับสันตะปาปาดาเมี่ยนไว้ก่อนแล้ว
อีกไม่นาน สันตะปาปาแห่งโบสถ์รีเบคก้าจะปรากฏตัวและขจัดมลทินให้แอ็กนัส เมื่อถึงตอนนั้น ใครจะคิดคัดค้านคงต้องไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน
แต่สถานการณ์กลับผิดแผกพิสดาร
ตรงข้ามกับแผนเดิมโดยสิ้นเชิง
แอ็กนัสปลดเครื่องพันธนาการจากกิโยตินด้วยตัวเอง มันคลุ้มคลั่งและฆ่าคนไม่เลือกหน้า เรื่องราวกำลังแย่ลง แทนที่ตัวมันจะได้เป็นอิสระตามแผนเดิมของโอเวอร์เกียร์
เคร้งงง—!
ในวินาทีที่ดาบจากอัศวินความตายแอ็กนัสพุ่งใส่หน้าอกบุลเล็ต อัศวินความตายบุลเล็ตชักดาบปกป้องได้ทันท่วงที
เปรี้ยง—!
อัศวินความตายแอ็กนัสกระแทกอัศวินบุลเล็ตจนกระเด็น แอ็กนัสฉวยโอกาสใช้ดาบในมือแทงใส่ลำคอบุลเล็ต
“คุณแอ็กนัส…”
“ตายซะเถอะ… คิคิก!”
ฉึก—!
ราวกับแอ็กนัสต้องการพูดบางสิ่ง แต่สุดท้ายกลับปิดปากเงียบไว้
คมดาบทะลวงใส่ลำคอบุลเล็ตอย่างอำมหิต ซึ่งแน่นอน บุลเล็ตไม่ตายในทันที
ค่าพละกำลังของคลาสผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลค่อนข้างต่ำ มิได้สูงกว่าหมอผีทั่วไปมากนัก
ทว่า
ตุ้บ!
ร่างบุลเล็ตทรุดลงราวกับตุ๊กตาไร้วิญญาณ
ไม่ได้เกิดจากการเจ็บปวดบริเวณบาดแผล แต่เป็นผลของการกระทบกระเทือนทางจิตใจที่รุนแรง
“…”
สายตาแอ็กนัสประสานกับบุลเล็ต
ฉากหลังเป็นคลื่นมนุษย์นักล่าจากเจ็ดอาณาจักรวิ่งกรูเข้าโจมตี แอ็กนัสส่งยิ้มให้บุลเล็ตครู่หนึ่งก่อนจะหันหลังกลับ
“พวกแก… มีชีวิตเดียวสินะ คิฮ่าฮ่าฮ่า!”
“…!”
นักล่าและทหารหลวงกลาเชี่ยน รวมถึงขุนนางสักขีพยานบนเก้าอี้ ทุกคนพลันเย็นสันหลังวาบไปชั่วขณะ
พวกมันเริ่มเชื่อว่า ชายเสียสติตรงหน้ามีพลังอำนาจมากพอจะฆ่าทุกคนที่นี่ทิ้งได้ตามคำกล่าวอ้าง
บึ้มบึ้มบึ้ม—!
จัตุรัสกลางเมืองหลวงกลายเป็นสนามรบ
กองทัพโครงกระดูกจำนวนมหาศาลไล่เชือดคนบริสุทธิ์เป็นผักปลา ไม่แบ่งแยกว่าผู้เล่นหรือ NPC ซากศพของพวกมันมีสภาพน่าเวทนาเท่าเทียม
แอ็กนัสกลายเป็นฆาตกรตัวจริงโดยมิอาจปฏิเสธได้ทุกข้อกล่าวหา
> พวกเราแสดงความจริงใจต่อคุณแอ็กนัสเสร็จแล้ว ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า เป้าหมายแรกเริ่มบรรลุผลเรียบร้อย ขอให้ทั้งสองคนรีบกลับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์โดยเร็ว การฝืนอยู่ที่นั่นรังแต่จะสร้างผลเสียต่อส่วนรวม
เสียงจากลอเอลถูกส่งถึงยูเฟอมิน่าและบุลเล็ตในเวลาเดียวกัน
…น้ำเสียงลอเอลเปี่ยมด้วยความพึงพอใจอย่างน่าประหลาด
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,383
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ทำไมต้องแบกความเศร้าไว้คนเดียว
ReplyDeleteนายไม่เหลือใครแล้วใช่ใหม่
😢
สนุกครับ
ขอบคุณมากๆ😊
ใช่มันน่าเศร้า ที่ไม่ต้องการพึ่งพิงใครและไม่สามารถเชื่อใจใครได้ นายจะแบกความทุกข์ทรมานไว้ตัวคนเดียวทำไม....... เศร้ามาก😭😭
Deleteเพียงเท่านี้แผนซื้อใจ จอมวายร้ายโรคจิต ให้มาเป็นทาสรับใช้ ฝ่าบาทกริด สมบูรณ์แบบ คุคุคุ /\
ReplyDeleteโคตรเกลียดเลยคนที่เล่นกากแล้วโยนความผิดให้คนอื่น
ReplyDelete