จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 986



<รายละเอียดคลาสที่หมายเลขหนึ่งพัฒนาได้>

1. โครงกระดูกคนงานเหมืองจอมทำลาย

รายละเอียด : (ขุดแร่เก่ง)

2. โครงกระดูกตัวตลกจอมทำลาย

รายละเอียด : (เล่นตลกเก่ง)

3. โครงกระดูกนักเต้นจอมทำลาย

รายละเอียด : (เต้นรำเก่ง)

4. โครงกระดูกนักดาบจอมทำลาย

รายละเอียด : (ใช้ดาบเก่ง)

5. โครงกระดูกช่างเหล็กนักเต้นจอมทำลาย

รายละเอียด (ตีเหล็กและเต้นรำเก่ง)

<รายละเอียดคลาสที่หมายเลขสองพัฒนาได้>

1. โครงกระดูกคนงานเหมืองนักฟื้นฟู

2. โครงกระดูกตัวตลกนักฟื้นฟู

3. โครงกระดูกนักเต้นนักฟื้นฟู

4. โครงกระดูกจอมเวทนักฟื้นฟู

รายละเอียด : (ใช้เวทมนตร์เก่ง)

5. โครงกระดูกช่างเหล็กนักเต้นนักฟื้นฟู

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?


“…”


กริดนิ่งเงียบเป็นเวลานาน


เขามิอาจทำใจยอมรับรายละเอียดคลาสใหม่ที่ปรากฏเบื้องหน้า


ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า สิ่งที่เพิ่งอ่านจบเป็นเรื่องจริงหรือความฝัน


ความบัดซบกับความน่าเหลือเชื่อถูกกั้นแบ่งด้วยเชือกเส้นบาง


หลังจากเหม่อลอยอยู่นาน เมื่อกริดได้สติกลับมา เขาครุ่นคิดหาสาเหตุอย่างใจเย็น


‘เราเคยใช้พวกมันขุดแร่บ้างก็จริง’


กริดหวนนึกถึงความทรงจำอันเลือนรางที่ตนจำเป็นต้องใช้โครงกระดูกขุดแร่เพราะคนงานมีไม่เพียงพอ แต่ก็น้อยครั้งมากจนแทบจำไม่ได้


แล้วทำไมถึงมีคลาสคนงานเหมืองปรากฏในรายการได้?


…นั่นเป็นการคิดเอาเองของกริด


ในอดีต กริดใช้แรงงานพวกมันบ่อยครั้งในการขุดแร่ เรียกว่าเยี่ยงทาสก็ไม่ผิดนัก โดยเฉพาะช่วงที่เลเวลยังน้อยมากและมิอาจช่วยฆ่ามอนสเตอร์


‘เฮ่อ… คลาสคนงานเหมืองปรากฏให้เลือกเพราะพวกมันมีทักษะขุดแร่ ส่วนคลาสตัวตลกและนักเต้นคงมาจากสาเหตุที่พวกมันชอบเต้นและหัวเราะเวลามีความสุข’


เงื่อนไขของสามคลาสข้างต้นพอจะเข้าใจได้อยู่


และกริดก็พึงพอใจไม่น้อยเมื่อได้เห็นคลาสที่มีประโยชน์อย่างนักดาบและจอมเวท


หมายเลขหนึ่งครอบครองเทคนิคดาบจากการเฝ้ามองกริดต่อสู้ด้วยดาบ หมายเลขสองครอบครองพลังเวทมนตร์จากการเห็นกริดใช้เวทมนตร์


“ก็ไม่เลว…”


…แต่ว่า อะไรคือช่างเหล็กนักเต้น?


ต่อให้คิดทบทวนเป็นร้อยรอบ กริดก็มิอาจทำความเข้าใจ


เป็นสิ่งที่แหกกฎสามัญสำนึกโดยสิ้นเชิง


“ทำไมถึงมี ‘นักเต้น’ ตามหลังช่างเหล็ก?”


ด้านทักษะตีเหล็กพอจะเข้าใจได้ ในเมื่อผู้เป็นนายคือช่างเหล็ก ไม่แปลกที่สัตว์เลี้ยงจะมีคลาสตีเหล็กให้เลือกพัฒนา


แต่ปัญหาคือ พวกมันไม่ใช่ช่างเหล็กธรรมดา ทว่าเป็นช่างเหล็ก ‘นักเต้น’ ?


“ฉันคงรู้สึกดีกว่านี้ถ้าพวกแกเป็นนักดาบนักเต้นหรือจอมเวทนักเต้น”


ใช่แล้ว


การเพิ่ม ‘คำขยาย’ ไม่ใช่ปัญหา มันมีผลดีมากกว่าผลเสียเสมอ


แต่ดันไปอยู่กับช่างตีเหล็กซะได้


‘เรานึกว่าคลาสระดับสองจะเน้นไปทางด้านฝีมือต่อสู้เสียอีก…’


อันที่จริง กริดคิดจะเลือกให้พวกมันเปลี่ยนคลาสนักดาบและจอมเวทตามลำดับ


แต่เขาทราบถึงความสำคัญของ ‘คำขยาย’ ในซาทิสฟายเป็นอย่างดี


ยกตัวอย่างจากไอเท็ม ยิ่งไอเท็มมีคำขยายยาวเท่าไร ประสิทธิภาพก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น


ในสายตากริด ช่างเหล็กนักเต้นนั้นแฝงศักยภาพไว้สูงกว่าคลาสอื่น


แต่แน่นอน มันคงไม่ใช่คลาสที่เน้นด้านการต่อสู้


‘หากเราตัดสินใจเลือกนักดาบและจอมเวท หมายความว่าเราจะเสียโอกาสเลือกคลาสที่มีศักยภาพสูงไป…’


หลังจากยืนไตร่ตรองอยู่นาน กริดตัดสินใจพึ่งพาบราฮัม


‘บราฮัม นายคิดว่ายังไงบ้าง?’


> …


…เป็นดังคาด ไม่มีสัญญาณตอบกลับ


ดวงวิญญาณบราฮัมผสานกับเข้ากับร่างกริดในสภาพอ่อนแอสุดขีด วันทั้งวันจะหมดไปกับการนอน


กริดเดาว่าบราฮัมอาจอยู่ในช่วงพักผ่อนเหมือนทุกที แต่ไม่ใช่ บราฮัมลืมตาตื่นในจังหวะเหมาะเจาะ


> เลือกคลาสช่างเหล็กนักเต้น


บราฮัมให้เหตุผลที่ฟังขึ้น


> พวกมันมีคลาสแรกเป็น ‘จอมทำลาย’ และ ‘นักฟื้นฟู’ หมายความว่า ‘คำขยาย’ ของคลาสแรกจะถูกนำมาเพิ่มในชื่อคลาสที่สองด้วย คลาสที่สามในอนาคตคงไม่ต่างกัน ดังนั้น คลาส ‘ช่างเหล็กนักเต้น’ ที่มีคำขยายถึงสองส่วนย่อมมีศักยภาพแฝงสูงกว่า อาจไม่เห็นผลในทันที แต่ฉันมั่นใจว่าจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต


นี่อาจเป็นหนึ่งในเศษเสี้ยวพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของเบริอาเช่


ไม่เปลี่ยนไปจากตอนแรก บราฮัมยังคงให้ความสนใจกับโครงกระดูกทั้งสองมาก มันยินดีมอบคำแนะนำที่ดีที่สุดให้กริด


“ตกลง… เข้าใจแล้ว”


เพื่ออนาคต


เพื่อให้คลาสระดับสามมีคำขยายเป็น ‘จอมทำลาย’ ‘นักฟื้นฟู’ ‘นักเต้น’ และ ‘ช่างเหล็ก’


กริดพยักหน้าพร้อมกับตัดสินใจหนักแน่น


“ถึงจะเสียดายไปบ้าง แต่คงช่วยไม่ได้ พวกนายสองคนต้องเป็นช่างเหล็กนักเต้น”


แกร่ก! แกร่กแกร่กแกร่ก!!


ราวกับพวกมันชอบใจ


โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ต่างหัวเราะอย่างมีความสุขพลางเต้นรำ


[ท่านเลือกคลาส ‘ช่างเหล็กนักเต้น’ ให้เป็นคลาสที่สองของหมายเลขหนึ่ง กรุณายืนยัน]


“ยืนยัน”


[ท่านเลือกคลาส ‘ช่างเหล็กนักเต้น’ ให้เป็นคลาสที่สองของหมายเลขสอง กรุณายืนยัน]


“ยืนยัน”


ชิ้ง—!


หากกริดไม่ได้ตาฝาดไป โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ทั้งสองซึ่งกำลังถูกอาบร่างด้วยละอองแสงสีทอง พวกมันเต้นรำในจังหวะเร็วกว่าปรกติเล็กน้อย


เขาเริ่มเกิดความเสียดาย


โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์จะกลายเป็นช่างเหล็กนักเต้นซึ่งแทบไม่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้


‘เฮ่อ… รีบอัปเลเวลพวกมันให้ถึงสามร้อยดีกว่า’


ในตอนแรก สาเหตุที่โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์อัปเลเวลได้ช้า เพราะเลเวลของกริดกับพวกมันห่างกันมาก ระบบเกมจึงลงโทษมิให้ได้รับค่าประสบการณ์เต็มเม็ดเต็มหน่วย


แต่ยิ่งเลเวลใกล้เคียง บทลงโทษดังกล่าวก็ยิ่งน้อยลง และการพัฒนาของสองโครงกระดูกจะยิ่งเป็นไปอย่างก้าวกระโดด


[หมายเลขหนึ่งและสองเลื่อนคลาสสำเร็จ!]


[ระบบทำการปรับเปลี่ยนค่าสถานะของ ‘หมายเลขหนึ่ง’ ให้เหมาะสม เพิ่มค่าพละกำลังและความอดทน 50 แต้มเป็นการถาวร เพิ่มพลังชีวิต 20,000 หน่วย]


[ระบบทำการปรับเปลี่ยนค่าสถานะของ ‘หมายเลขสอง’ ให้เหมาะสม เพิ่มค่าสติปัญญาและความอดทน 50 แต้มเป็นการถาวร เพิ่มพลังชีวิต 15,000 หน่วยและมานา 5,000 หน่วย]


[หมายเลขหนึ่งและสองมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านรูปลักษณ์!]


[รายละเอียดตัวละครของหมายเลขหนึ่งและสองมีการเปลี่ยนแปลง]


“โอ้…!”


เมื่อขั้นตอนเปลี่ยนคลาสเสร็จสิ้น ละอองแสงสีทองได้ถูกหมายเลขหนึ่งและสองดูดกลืนเข้าไปจนหมด


ปัจจุบัน พวกมันกลายเป็นโครงกระดูกหัวโตที่ส่องประกายสีทองระยิบระยับ มิใช่โครงกระดูกผอมแห้งสีขาวซีดอีกแล้ว


ก่อนหน้านี้ กระดูกของพวกมันคล้ายคลึงกับกระดูกสำหรับให้สุนัขคาบเล่น แต่ปัจจุบัน กระดูกตามร่างกายอาบด้วยแสงสีทองประหนึ่งสร้างจากทองคำคุณภาพสูง


แต่ดวงตายังคงยียวนกวนประสาทเป็นรูปทรง ‘⌓ ⌓’ เช่นเคย


‘ว่าแต่… ด้วยตาแบบนี้ พวกมันมองเห็นสิ่งรอบข้างรึไง?’


เขามิอาจหาคำตอบให้ตัวเองได้


‘ช่างเถอะ… น่ารักก็พอแล้ว’


กริดสงบจิตใจลงพลางอ่านรายละเอียดใหม่ที่ถูกปรับเปลี่ยน


ชื่อ : โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขหนึ่ง

คลาส : โครงกระดูกช่างเหล็กนักเต้นจอมทำลาย

เลเวล : 200

พลังชีวิต : 25,824 มานา : 160

พละกำลัง : 1,015 ความอดทน : 450

ความว่องไว : 420 สติปัญญา : 80

- รายการทักษะประจำคลาส -

<หักกระดูก> Lv.4

มีโอกาสต่ำในการทำลายทุกวัตถุที่เป็นกระดูก (อันเดด ไอเท็ม สิ่งก่อสร้าง และอื่นๆ)

ทรัพยากรที่ใช้ : ไม่มี

ระยะหน่วงหลังใช้ : 20 วินาที


< เทคนิคตีเหล็กเต้นรำทำลาย > Lv.1

* เรียนรู้วิธีผลิตอาวุธด้วยวัสดุที่เป็นกระดูก 100%

* ขณะสร้างอาวุธจะแสดงผลทักษะ ‘เต้นรำ’ และ ‘ความอดทนของโครงกระดูก’

* อาวุธที่ถูกสร้างจากทักษะนี้จะมีออปชั่น ‘ทำลาย’ ติดตัว หากหมายเลขหนึ่งใช้ทักษะ ‘หักกระดูก’ ด้วยอาวุธชนิดดังกล่าว โอกาสหักกระดูกสำเร็จจะเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า

* ใช้เวลา 20 นาทีในการสร้างอาวุธแต่ละครั้ง

ทรัพยากรที่ใช้ : วัสดุสำหรับสร้าง

ระยะหน่วงหลังใช้ : 30 นาที

★ ด้วยธรรมชาติของจอมทำลาย มีโอกาสที่อาวุธดังกล่าวจะถูกทำลายขณะลงมือสร้าง อาวุธที่ถูกทำลายจะระเบิดด้วยความเสียหายเป็นหกเท่าของพลังโจมตีอาวุธที่ระบุไว้ในสูตรผลิต

รัศมีการระเบิดคือสิบเมตรรอบตัว โดยหมายเลขหนึ่งจะได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดด้วย


<เต้นรำ> Lv.1

* เต้นเพื่อยั่วยุศัตรูในรัศมี 30 เมตร

* มีโอกาส 70% ที่จะยั่วยุสำเร็จ

ทรัพยากรที่ใช้ : ไม่มี

ระยะหน่วงหลังใช้ : ไม่มี

ระยะเวลาเตรียมตัวก่อนทักษะแสดงผล : 5 วินาที

(เป็นระยะเวลาในการเต้นรำเข้าจังหวะ)

- รายการทักษะที่เรียนรู้ -


<ความอดทนของโครงกระดูก>

* ทักษะติดตัวแบบมีเงื่อนไข

* เป็นทักษะที่ซึมซับจากการเฝ้ามองความอดทนของช่างตีเหล็กในตำนาน

* เมื่อแสดงผล พลังป้องกันและค่าเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

ทรัพยากรที่ใช้ : ไม่มี

ระยะหน่วงหลังใช้ : ไม่มี


<ความชำนาญดาบขั้นกลาง> Lv.7

* ทักษะติดตัว

* ซึมซับจากเทคนิคดาบของผู้เป็นนาย


<ด้ายเงิน…>

ชื่อ : โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสอง

คลาส : โครงกระดูกช่างเหล็กนักเต้นนักฟื้นฟู

เลเวล : 200

พลังชีวิต : 19,000 มานา : 7,090

พละกำลัง : 50 ความอดทน : 650

ความว่องไว : 220 สติปัญญา : 1,045

- รายการทักษะประจำคลาส -

<ต่อกระดูก> Lv.4

* ฟื้นฟูพลังชีวิต 38% ให้สิ่งมีชีวิตประเภทอันเดดโครงกระดูก หากกระดูกหักจะทำการเชื่อมต่ออัตโนมัติ

ทรัพยากรที่ใช้ : มานา 100 หน่วย

ระยะหน่วงหลังใช้ : 26 วินาที


<เทคนิคตีเหล็กเต้นรำฟื้นฟู>

* เรียนรู้วิธีผลิตหมวกด้วยวัสดุที่เป็นกระดูก 100%

* ขณะสร้างหมวกจะแสดงผลทักษะ ‘เต้นรำ’ และ ‘ความอดทนของโครงกระดูก’

* หมวกใบดังกล่าวจะมีออปชั่น ‘ฟื้นฟู’ หากหมายเลขสองสวมใส่มัน โอกาสรอดชีวิตในการต่อสู้จะเพิ่มขึ้น

* ระยะเวลาที่ใช้สร้างไอเท็มคือ 20 นาที

ทรัพยากรที่ใช้ : วัสดุสำหรับสร้าง

ระยะหน่วงหลังใช้ : 30 นาที

★ ด้วยธรรมชาติของนักฟื้นฟู การสร้างไอเท็มจึงเป็นไปอย่างทุลักทุเล พลังฟื้นฟูกระดูกจะแสดงผลบ่อครั้งขณะที่มันลงมือถลุงหรือขึ้นรูปไอเท็ม ส่งผลให้กระดูกที่เป็นวัสดุกลับไปอยู่ในสภาพแรกเริ่ม

หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว หมายเลขสองต้องเริ่มสร้างไอเท็มใหม่ตั้งแต่ต้น


<เต้นรำ> Lv.1


<ความอดทนของโครงกระดูก>


<ความชำนาญเวทมนตร์ขั้นกลาง> Lv.7


โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ทั้งสองจะได้รับแต้มสถานะหกหน่วยต่อการเลเวลอัปหนึ่งครั้ง


เมื่อพิจารณาจากเรื่องดังกล่าว รวมถึงโบนัสค่าสถานะในคลาสแรก ค่าสถานะรวมจึงควรอยู่ที่ 1,224 แต้ม


แต่ปัจจุบัน แต้มสถานะพวกมันเพิ่มขึ้นมากจากโบนัสคลาสที่สอง แถมยังมีแต้มสถานะจากไอเท็มสวมใส่ที่กริดสร้าง


ค่าสถานะรวมของโครงกระดูกจึงอยู่ที่เกือบสองพันแต้ม ซึ่งไม่ด้อยไปกว่าผู้เล่นในช่วงเลเวลสองร้อยเลยสักนิด นับเป็นพัฒนาการราวกับปาฏิหาริย์


ความโกงทางค่าสถานะเช่นนี้ชวนให้นึกถึงผู้เป็นนายเสียเหลือเกิน


แต่ถึงกระนั้น กริดก็อดเป็นกังวลไม่ได้


“ให้ตายสิ…”


อันที่จริง นับตั้งแต่พวกมันพัฒนาเป็นคลาสแรก กริดตั้งความหวังกับโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ไว้สูง


เขาจินตนาการภาพของเทพสงครามหมายเลขหนึ่งไล่บดขยี้ศัตรูทั้งกองทัพตามลำพัง ส่วนหมายเลขสองก็ใช้เวทฮิลหมู่ทรงพลังให้แก่ทหารหลวงนับแสน


แต่ผลลัพธ์กับแตกต่างอย่างสุดขั้ว แน่นอน เขาย่อมรู้สึกผิดหวัง


หมายเลขหนึ่งจะระเบิดตัวเองขณะสร้างไอเท็ม และหมายเลขสองดันฟื้นฟูกระดูกที่ตัวเองพยายามขึ้นรูป…


‘ถ้ารู้ว่าขยะแบบนี้…’


แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรอให้ถึงคลาสระดับสามโดยเร็ว


คลาสถัดไปของพวกมันจะมีคำขยายพื้นฐานเป็น ‘โครงกระดูกช่างเหล็กนักเต้น (จอมทำลาย/นักฟื้นฟู) ’ แล้วตามหลังด้วยชื่อคลาสใหม่


หากกริดใช้งานพวกมันต่อสู้ให้มากขึ้นในช่วงเลเวล 200 ถึง 300 เขายังพอมีโอกาสแก้ไขอนาคต


ทันใดนั้น น้ำเสียงเย้ยหยันจากบราฮัมดังแว่วข้างหู


> นายมันเป็นไอ้งั่งที่มีจินตนาการคับแคบ หากฉันต้องอาศัยร่างเดียวกับคนสมองทึบแบบนี้ต่อไป ดวงวิญญาณคงได้ระเบิดตัวเองก่อนฟื้นฟูพลังสำเร็จแน่


“…?”


นี่คือคำพูดจากปากดวงวิญญาณที่กำลังดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดงั้นหรือ?


ขณะกริดขมวดคิ้ว บราฮัมพ่นลมหายใจ


> นายมันบ้า ทำไมถึงไม่สนใจพลัง ‘ยั่วยุ’ เอาแต่สนใจเทคนิคสร้างไอเท็มอยู่ได้ พวกมันยั่วยุได้ไกลและปราศจากระยะหน่วง ทำไมนายถึงไม่มองมุมนี้บ้าง?


“…จริงด้วย!”


ทักษะเต้นรำของโครงกระดูกสามารถยั่วยุเป้าหมายได้ทุกประเภท แถมยังมีรัศมีที่กว้างมาก


ในทางกลับกัน ทักษะ ‘กลิ่นคาวเลือด’ จากผ้าคลุมมาลาคัสนั้นจะไม่ส่งผลกับสิ่งมีชีวิตประเภทอันเดด แถมยังเป็นการล่อศัตรูเข้าหากริดโดยตรง สิ่งนี้ถือเป็นข้อเสียที่อันตราย แต่โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์สามารถเกิดใหม่ได้ตลอดเวลาโดยไม่สูญเสียค่าประสบการณ์


‘โคตรโกงเลยนี่หว่า…’


วิธีใช้งานที่หลากหลายกำลังพรั่งพรูในหัวกริด หากเป็นเช่นนี้ การไปถึงคลาสที่สามและสี่อาจเร็วกว่าที่คิด


***


“…”


หลังจากยุทธการปกป้องหมู่บ้านเนตรมารจบลง เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนอย่างรวดเร็ว


แต่สภาพพีคซอร์ดยังไม่สู้ดีนัก มันไม่มีกะจิตกะใจจะทำสิ่งใด เนื่องจากความอึดอัดใจที่สุมอก


แม้แต่แวนเนอร์ที่มักโต้เถียงกันประจำยังอดเป็นห่วงไม่ได้ ตัวมันแทบไม่มีสมาธิเก็บเลเวลเช่นกัน


“ยังคิดถึงเจ้าอัศวินนั่นอยู่อีกหรือ?”


‘อัศวินนั่น’ หมายถึงกัปตันอัศวินแสงครามแห่งอาณาจักรเก๊าส์


อัศวินหนุ่มนามว่าอพอลโล่


พีคซอร์ดกำลังฝันร้าย เพราะตนคือผู้ที่ลงมือดับลมหายใจมัน


อพอลโล่ทำให้พีคซอร์ดย้อนนึกถึงตัวเอง ภาพของชายคนหนึ่งซึ่งปกป้องประเทศชาติด้วยจิตวิญญาณนักสู้ที่ไม่สั่นคลอน


การดิ้นรนของนักรบหาญกล้าจากประเทศที่เล็กและอ่อนแอ


ด้วยความสัตย์จริง พีคซอร์ดไม่ต้องการฆ่าอพอลโล่เลยสักนิด


แต่ในสถานการณ์ตอนนั้น ตนต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ต้องสู้โดยมีชีวิตราชาเนตรมารเป็นเดิมพัน การเข่นฆ่าฝ่ายตรงข้ามคือสิ่งที่มิอาจเลี่ยง


ปัจจุบัน มันกำลังเสียใจที่ลงมือสังหารบุรุษซึ่งยืนหยัดปกป้องประเทศชาติจนตัวตาย


พีคซอร์ดทราบดีว่าเหตุการณ์ได้เป็นอดีตไปแล้ว


แต่ใบหน้าก่อนตายของอพอลโล่ยังคงตามหลอกหลอนทุกคืน


“…หมอนั่นมีแค่ชีวิตเดียว”


สำหรับผู้เล่น ซาทิสฟายเป็นเพียงเกมที่จะคืนชีพสักกี่ครั้งก็ได้ แต่สำหรับ NPC ที่นี่คือโลกแห่งความจริงซึ่งไม่มีโอกาสแก้ตัว


“แน่นอน ถึงจะย้อนเวลากลับไปได้ ฉันก็จะลงมือฆ่าหมอนั่นอยู่ดี แต่เรื่องที่น่าเจ็บปวดใจก็คือ อพอลโล่ไม่ได้ร้องขอชีวิตในตอนที่รู้ว่าตัวเองต้องตาย แววตาของหมอนั่น… คือแววตาของคนที่ยอมสละทุกสิ่งเพื่อชาติ… เราเป็นคนประเภทเดียวกัน แต่ฉันกลับฆ่ามันโดยที่ไม่ได้กล่าวคำยกย่อง”


“ถ้าอย่างนั้นหลังจากนี้… นายกล่าวคำยกย่องกับทุกคนก่อนฆ่าสิ”


“…เอ๋?”


“กล่าวคำยกย่องไง… นายเสียใจที่ไม่ได้ยกย่องไม่ใช่หรือ?”


“…”


“นับตั้งแต่กริดได้ปกครองอาณาจักร พวกเราก็มีชะตาต้องสู้กับ NPC มากมาย โดยในบรรดา NPC เหล่านั้น ต้องมีนักรบหาญกล้าปรากฏตัวอีกแน่ ถ้าฆ่ามันแล้วต้องจิตตกทุกครั้ง นายจะไม่เป็นบ้าเข้าสักวันหรือ? จะต้องทำอย่างไร? เลิกเล่นเกมดีไหม?”


“ไม่จำเป็น… ฉันได้วิธีแก้แล้ว นับแต่นี้ไป ฉันจะกล่าวคำยกย่องศัตรูทุกคนก่อนฆ่า”


“ตกลง… พวกเราจะยกย่องก่อนฆ่า”


“อา… ได้เลย”


“…”


บุรุษทั้งสองกำลังจับมือด้วยมิตรภาพของลูกผู้ชายที่อัดแน่น


เป็นบทสนทนาซึ่งค่อนข้างพิสดาร สมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่ได้ยินต่างพากันขมวดคิ้ว


ทันใดนั้น


& เซ็ดนอส : เกิดระเบิดทางทิศใต้ของตลาดหลวง


ข้อความจากเซ็ดนอสได้ปรากฏบนช่องสนทนากิลด์เพื่อรายงานสถานการณ์ภายในไรน์ฮาร์ท


& ไอเบลลิน : เกิดอะไรขึ้น?


& เซ็ดนอส : แอ็กนัสอยู่ในเมืองหลวง ฉันคิดว่าอาจเป็นฝีมือของมัน


& ทูน : แอ็กนัส? มันอยู่ที่นี่งั้นหรือ? เสียสติไปแล้วรึไง?


& จิสึกะ : แน่นอน~ หมอนั่นเป็นหมาบ้าล่ะ~


& ไอเบลลิน : ผมอยู่ไม่ไกล จะรีบไปดูเดี๋ยวนี้


‘คุณแอ็กนัส?’


ณ วิหารกัลกุนอส


สีหน้าบุลเล็ตพลันดำมืดขณะเพ่งสมาธิบงการเจียงซือ


แอ็กนัสอาจเป็นคนบ้า แต่ไม่ใช่คนโง่ เมื่อเกิดความวุ่นวายขึ้น มันจะไม่ตื่นตระหนก ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ แอ็กนัสกลับยิ่งชื่นชอบเสียงกรีดร้องโหยหวนของผู้คน ทุกการกระทำของมันถูกคำนวณล่วงหน้าและไม่เคยเสี่ยงเกินจำเป็น


แล้วเหตุใดถึงกล้าปรากฏตัวในเมืองหลวงโอเวอร์เกียร์ซึ่งเป็นศัตรูกันอย่างชัดเจน?


เจตนาเดิมของแอ็กนัสต้องไม่ใช่การสร้างความวุ่นวายแน่


‘ในระยะหลัง คุณเผชิญหน้าสถานการณ์ยากลำบากไม่น้อย… หรือคุณมาที่ไรน์ฮาร์ทเพื่อขอความช่วยเหลือจากผม?’


บ้าจริง ชื่อของแอ็กนัสถูกลบจากรายชื่อเพื่อนไปแล้ว มันจึงมิอาจส่งข้อความเสียงส่วนตัวไปหา


บุลเล็ตไม่มีกะจิตกะใจเก็บเลเวลอีก


หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน บุลเล็ตได้เก็บอันเดดทั้งหมดและเรียกเจียงซือกลับมาข้างกาย


“หือ? เกิดอะไรขึ้น?”


บุลเล็ตเกาหัวแกรกพลางอธิบายกับพวกพ้องชาวโอเวอร์เกียร์ที่จับปาร์ตี้กันเพื่อเก็บเลเวล


“ขอโทษที แต่ฉันอยากพักผ่อน เก็บเลเวลติดต่อกันนานเกินไปแล้ว”


“ไม่ไต่แรงก์กลับคืนหรือ?”


“…เดิมที ฉันอยู่แค่แรงก์สองของหมอผี ไม่ได้สลักสำคัญอะไร”


แม้จะใช้เวลาหลายเดือนไปกับการวิจัยเจียงซือจนตกมายังแรงก์สี่ แต่สปีดการเก็บเลเวลของบุลเล็ตก็ยังสูงกว่ามาตรฐานค่าเฉลี่ยกิลด์โอเวอร์เกียร์พอสมควร


สาเหตุเพราะ คลาสหมอผีเชี่ยวชาญด้านการเก็บเลเวลเป็นพิเศษ


“แต่อันดับแรงก์คือสิ่งที่ควรช่วงชิงคืนมา!”


“ก็จริง… แต่วันนี้ไม่ไหวแล้ว ขอเป็นวันหลังนะ แล้วเจอกัน”


บุลเล็ตกดใช้ม้วนคาถากลับเมืองโดยไม่กล่าวสิ่งใดเพิ่มเติม


มันรู้สึกผิดต่อกลุ่มเพื่อนใหม่ที่คอยมอบความอบอุ่นและปฏิบัติเหมือนเพื่อนเก่าที่รู้จักกันมานาน บุลเล็ตทราบดีว่า มันคือคนบัดซบที่ทิ้งการเก็บเลเวลร่วมกับเพื่อนใหม่เพื่อกลับไปหาไอดอลในอดีต


หากนับถือไปแล้ว มันจะไม่ทรยศหรือทอดทิ้งคนผู้นั้นโดยง่าย


นี่คือนิยามของชายที่ชื่อบุลเล็ต


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,379

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ค้าง☺️
    ขอบคุณ​ครับ​🤗

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00