จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 987
เมื่อบุลเล็ตมาถึง ที่เกิดเหตุได้ถูกเจ้าหน้าที่จากวังหลวงปิดล้อมเรียบร้อยแล้ว
หน่วยเงาโอเวอร์เกียร์และสติกส์ตรวจหาร่องรอยการต่อสู้ ส่วนทหารหลายสิบนายคอยยืนกีดกันประชาชนที่มุงดู
ลอเอลเชิดคางขึ้นพลางใช้ฝ่ามือปิดหน้า สีหน้าของมันกำลังครุ่นคิดในบางสิ่ง
‘นี่มัน…’
บุลเล็ตเป็นสมาชิกโอเวอร์เกียร์ มันจึงเดินเข้าที่เกิดเหตุได้โดยไม่ถูกทหารกีดขวาง
สีหน้าพลันดำมืดเมื่อกวาดสายตามองซากสิ่งก่อสร้างที่ถล่มลง
ไม่ผิดแน่ นี่คือพลังทำลายจากลำแสงอสูรดิวเลบุลที่แอ็กนัสครอบครอง การต่อสู้ที่นี่ต้องเกี่ยวข้องกับแอ็กนัสไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
‘แต่คุณแอ็กนัสไม่ได้ตั้งใจก่อความวุ่นวาย’
บุลเล็ตเชื่อมั่น
มันรีบเดินไปหาลอเอล
“คงมีใครบางคนโจมตีใส่แอ็กนัสก่อน คนอย่างแอ็กนัสไม่โง่พอจะก่อเรื่องในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์แน่”
บุลเล็ตกล่าวเช่นนี้เพราะต้องการให้ลอเอลปล่อยตัวแอ็กนัสที่กำลังถูกขังในคุกหลวง
ลอเอลขมวดคิ้วอย่างสนใจ
“โฮ่? มีหลักฐานพิสูจน์หรือ? แอ็กนัสเป็นที่รู้จักกันดีในฉายาหมาบ้า ไม่มีใครคาดเดาการกระทำมันได้ ยิ่งไปกว่านั้น มันเคยเป็นผู้นำสูงสุดของอิมมอทัลที่บาดหมางกับโอเวอร์เกียร์ การโจมตีใส่อาณาจักรเราไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด นายไม่คิดแบบนั้นรึไง?”
“แอ็กนัสเป็นหมาบ้า แต่ไม่ใช่คนโง่ แถมเขายังไม่เกี่ยวข้องกับอิมมอทัล ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เวอราดินจัดฉากขึ้นมาเอง มันอาศัยชื่อเสียงแอ็กนัสเพื่อล่อลวงหมอผีจำนวนมาก…”
“ยังไม่ทันฟังเรื่องราวก็รีบออกตัวปกป้องแล้วหรือ?”
“…!”
“นายเป็นสมาชิกโอเวอร์เกียร์หรือตัวแทนของคุณแอ็กนัสกันแน่?”
“ข… ขอโทษ!”
เมื่อตระหนักถึงความผิดพลาด บุลเล็ตรีบก้มศีรษะสำนึกผิด
‘เราควรฟังเรื่องราวให้จบก่อน’
อันที่จริง แค่มันเดินไปถามลอเอลว่าเกิดอะไรขึ้นก็สิ้นเรื่อง แต่ด้วยความลนลานและแตกตื่น บุลเล็ตจึงมองข้ามสามัญสำนึกพื้นฐานไป
‘เขาต้องผิดหวังในตัวเราแน่’
บุลเล็ตได้รับความชื่นชอบจากกริดมาก
แม้จะเป็นอดีตสมาชิกอิมมอทัล แต่กริดกลับมอบสูตรสร้างเจียงซือแสนสำคัญให้โดยไม่ลังเล
ทว่า ช่างน่าขันนัก มันกลับแสดงท่าทีห่วงใยแอ็กนัสอย่างออกนอกหน้า ทั้งที่อีกฝ่ายคือศัตรูของกริดและโอเวอร์เกียร์ หนี้ที่ติดค้างกับกริดยังชดใช้ไม่หมดด้วยซ้ำ
ขณะบุลเล็ตไม่กล้าเงยหน้า ลอเอลกล่าวต่อไป
“คราวหน้าระวังด้วยก็แล้วกัน”
“ครับ… จะจำใส่ใจไว้”
ลอเอลมิได้โกรธเคืองหรือผิดหวังในตัวบุลเล็ตแม้แต่น้อย
มันทราบดีว่า บุลเล็ตเป็นคนขี้ใจอ่อน และกริดก็ชื่นชอบในนิสัยส่วนนี้มาก จึงชักชวนเป็นพวกและมอบสิ่งสำคัญให้
สำหรับบุลเล็ต มันมิอาจนิ่งดูดายและปล่อยให้ไอดอลที่เคยชื่นชอบตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก
บุลเล็ตไม่อยากบอกเรื่องนี้กับใคร มันไม่ต้องการให้พวกพ้องผิดหวัง
ลอเอลกล่าวกับบุลเล็ตที่ยังคงก้มหน้ามองพื้นดิน
“เหนือสิ่งอื่นใด แอ็กนัสไม่ได้ถูกเราจับ”
“เขาหนีไปหรือ?”
เป็นไปไม่ได้
ที่นี่คือใจกลางเมืองหลวงโอเวอร์เกียร์
อาณาจักรที่อุดมไปด้วยสัตว์ประหลาดนานับชนิด แอ็กนัสที่อ่อนแรงไม่มีทางหนีหน่วยเงาอันลือชื่อพ้น แม้แต่กริดในสภาพสมบูรณ์ก็มิอาจแหกด่านปราการคุ้มกันของไรน์ฮาร์ทตามลำพังไหว
เมื่อสัมผัสได้ว่าบุลเล็ตเคลือบแคลง ลอเอลอธิบายต่อไป
“หมอนั่นไม่ได้หนีไป แต่ถูกลากตัวไป”
“ถูกลากไป…? หรือว่า!”
บุลเล็ตหวนนึกถึงข่าวที่แอ็กนัสถูกตั้งค่าหัวจากเจ็ดอาณาจักร
“เป็นไปไม่ได้…”
บุลเล็ตเริ่มปะติดปะต่อข้อมูล
หลังจากไม่มีที่ไป แอ็กนัสจึงหลบซ่อนตัวในเมืองหลวงอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ และถูกนักล่าค่าหัวลอบจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว
“คุณแอ็กนัส…”
แม้ปัจจุบันจะเป็นสมาชิกโอเวอร์เกียร์และไม่คิดทรยศคนเหล่านี้ แต่มันอดเป็นห่วงไอดอลสมัยอดีตไม่ได้ บุลเล็ตหลุดปากเรียกคุณนำหน้าโดยไม่ทันระวังตัว
มันรีบชะงักคำพูดไว้กลางคันเมื่อฉุกคิดได้
ลอเอลยิ้มจืดชืดหลังจากเห็นภาพดังกล่าว
‘หมอนี่ยังคงเป็นห่วงแอ็กนัสสินะ’
ย้อนกลับไปสมัยช่วงแรกที่เริ่มก่อตั้งกิลด์โอเวอร์เกียร์
กริดขึ้นชื่อด้านนิสัยต่ำทราม เห็นแก่ตัว โลภมาก ปากเสีย ขี้อิจฉา ขี้น้อยใจ ถึงแม้จะขจัดปมในอดีตได้บางส่วน แต่นิสัยเหล่านั้นยังไม่จางหายโดยสมบูรณ์ คนภายนอกล้วนมองว่ากริดเป็นไอ้ขยะ
ทว่า พวกพ้องในกิลด์ทุกคนกลับมอบความไว้เนื้อเชื่อใจและชื่นชอบอย่างเต็มเปี่ยม
บางทีแอ็กนัสก็อาจไม่ต่าง…
คนเราไม่มีทางสัมผัสแก่นแท้ของผู้อื่นได้ นอกเสียจากจะใช้ชีวิตคลุกคลีร่วมกันเป็นเวลานาน
“ลอเอล… นายรู้ไหมว่าแอ็กนัสถูกลากตัวไปที่ไหน?”
“ถามทำไม?”
“เอ่อ… แค่อยากรู้”
“ถ้าคิดจะไปช่วย ขอให้ล้มเลิกความตั้งใจตั้งแต่ตอนนี้ กองกำลังที่จับกุมแอ็กนัสประกอบด้วยเหล่าอัจฉริยะจากเจ็ดอาณาจักร หนึ่งในนั้นคือสัตว์ประหลาดที่นายไม่มีทางเอาชนะได้”
ถึงบุลเล็ตจะเป็นหมอผีสุดแกร่งผู้ครอบครองเจียงซือหายาก แถมยังถนัดต่อสู้ในรูปแบบกองทัพ แต่ศัตรูเป็นถึงนักรบหัวกะทิแห่งเจ็ดอาณาจักร
การบุกฝ่าเข้าไปคนเดียวไม่ต่างอะไรกับมดตัวน้อยที่อาจหาญกัดขาช้าง
แน่นอน บุลเล็ตตระหนักถึงความจริงดังกล่าวได้ดีกว่าใคร มันไม่เคยคิดว่าตนจะช่วยแอ็กนัสสำเร็จ
ทว่า
“…ถึงอย่างนั้น ฉันก็อยากไปช่วยเขา”
บุลเล็ตอยากแสดงให้เห็น
ให้แอ็กนัสได้ทราบว่า มีใครบางคนต้องการช่วยเหลือมันจากใจจริง
ต่อให้อดีตของมันจะดำมืดและเจ็บปวดเพียงใด แต่บุลเล็ตไม่อยากปล่อยให้แอ็กนัสต้องโดดเดี่ยว
“ฉันอยากให้เขาได้รู้สึกว่า… ตัวเขาไม่ได้ใช้ชีวิตตามลำพังบนโลกใบนี้”
แค่ได้มองตา บุลเล็ตก็สัมผัสถึงความทุกข์ทรมานมากมายในใจแอ็กนัส มันไม่อยากนึกภาพตามว่า ความเจ็บปวดที่แท้จริงซึ่งแอ็กนัสได้รับทุกคืนวันจะรุนแรงเพียงใด
บุลเล็ตต้องการเยียวยาแอ็กนัส แม้อาจต้องเสียสละตัวเองก็ตาม
ทว่า ท่าทีตอบสนองจากลอเอลนั้นเย็นชา
“ไม่ได้ นายลืมแล้วหรือว่าตัวเองเป็นคงของโอเวอร์เกียร์? หากลงมือช่วยแอ็กนัส ความสัมพันธ์ระหว่างโอเวอร์เกียร์และเจ็ดอาณาจักรจะขาดสะบั้น”
“ฉันจะออกจากกิลด์ชั่วคราว จะไม่ใช้เจียงซือหรือพลังใดที่เป็นการเปิดเผยตัวตน ขอสัญญาว่าจะไม่ทำให้พวกนายและกริดเดือดร้อน”
บุลเล็ตชื่นชอบชาวโอเวอร์เกียร์ไม่น้อยไปกว่าแอ็กนัส คนเหล่านั้นมอบความอบอุ่นแก่มันเป็นล้นพ้น
ทุกถ้อยคำและการกระทำของบุลเล็ตมิได้เสแสร้ง มันพูดเช่นไรก็หมายความเช่นนั้น บุลเล็ตคิดช่วยแอ็กนัสตามลำพังโดยไม่ยอมให้ชาวโอเวอร์เกียร์เดือดร้อน
แต่กระนั้น ลอเอลยังคงเย็นชาจนถึงที่สุด
“คิดว่ากิลด์โอเวอร์เกียร์เป็นสนามเด็กเล่นงั้นหรือ? ถึงคิดเข้าออกตามใจชอบ”
“…”
ลอเอลพยายามโน้มน้าว
“ฉันเข้าใจความรู้สึกของนายเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ต้องเข้าใจหัวอกพวกเราเช่นกัน ตอนนี้นายคือหนึ่งในสมาชิกโอเวอร์เกียร์แล้ว ไม่รู้งั้นหรือว่าทำไมกริดถึงมอบเจียงซือให้? เพราะเขาต้องการให้นายเร่งพัฒนาตัวเองและกลายเป็นหมอผีแรงค์หนึ่ง การสละชีวิตอย่างสูญเปล่าและลดเลเวลถือเป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อความต้องการกริด”
“…”
“ในวินาทีที่นายรับสูตรผลิตเจียงซือและกลายเป็นหนึ่งในพวกเรา นายต้องแบกรับชื่อของโอเวอร์เกียร์ไว้ อย่าให้ส่วนร่วมต้องเดือดร้อนเพียงเพราะความรู้สึกส่วนตัว”
ลอเอลเองก็เศร้าใจ
แอ็กนัสที่อาจกลายเป็นพวกพ้อง มันกำลังสูญเวลาพัฒนาตัวเองไปอย่างเปล่าประโยชน์
แต่ถึงจะรู้เช่นนั้น สถานการณ์ปัจจุบันก็ไม่มีช่องว่างให้โอเวอร์เกียร์เข้าแทรกแซง
ในเมื่อช่วยออกมาไม่ได้ ทางเลือกเดียวคือต้องตัดใจ
บุลเล็ตพึมพำ
“ถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าแอ็กนัสบริสุทธิ์ ปัญหาทุกอย่างก็จะคลี่คลาย”
“นายรู้ได้ยังไงว่าหมอนั่นถูกปรักปรำ? มีหลักฐานงั้นหรือว่าแอ็กนัสไม่ใช่คนสังหารช่างอัญมณี?”
“นายคงทราบดีว่าหมอนั่นเสียสติและชอบสู้กับคนเก่งอย่างไร้เหตุผล แต่แอ็กนัสไม่เคยรังแกคนอ่อนแอ นอกเสียจากถูกบังคับให้ทำภารกิจ ในกรณีของอลิซาเบธ แอ็กนัสไม่มีเจตนาฆ่าเธอ และในเมื่อแอ็กนัสต้องการพึ่งพาเทคนิคของช่างอัญมณี เขาจะฆ่าคนเหล่านั้นและกลายเป็นศัตรูกับช่างอัญมณีทั่วทวีปทำไม?”
แน่นอน ลอเอลย่อมตระหนักถึงเหตุผลดังกล่าว แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่บุลเล็ตหลงลืมไป
“แต่นายก็ไม่รู้ใช่ไหมว่าฆาตกรที่แท้จริงคือใคร? ในฐานะที่แอ็กนัสคือผู้ต้องสงสัยเพียงคนเดียว ไม่แปลกที่หมอนั่นต้องรับผิด หากพวกเราอยากช่วยเหลือ ก็ต้องหาทางจับคนร้ายตัวจริงให้ได้”
“บางที… อาจเป็นสาวกยาธาน”
“วิหารยาธาน?”
ลอเอลแสดงสีหน้าครุ่นคิด
มันเริ่มมองเห็นหนทางใหม่ในการสืบคดี
“เมื่อครั้งพวกมันบุกโจมตีวาติกัน แอ็กนัสได้ช่วยชีวิตองค์ชายลอร์ดและราชินีไอรีนไว้ หากจำไม่ผิด แอ็กนัสเริ่มภารกิจโดยอยู่ฝ่ายเดียวกับวิหารยาธาน ดังนั้น การช่วยเหลือสองแม่ลูกจึงทำให้กลายเขาเป็นคนทรยศ พฤติกรรมเช่นนี้คงทำให้วิหารยาธานโกรธแค้นมาก”
“…”
“ฉันไม่รู้ว่านายทราบหรือไม่ แต่วิหารยาธานอ่อนแอลงมากในช่วงสิบปีที่ผ่านมา… ด้วยเหตุนี้ หลังจากการทรยศของยูร่า วิหารยาธานจึงมีมาตรฐานลงโทษคนทรยศขั้นรุนแรงเพื่อมิให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง แอ็กนัสคือไก่รายแรกที่ต้องถูกเชือดให้ลิงเห็น”
“หืม…”
ลอเอลเริ่มมองเห็นแสงสว่าง
แผนการช่วยเหลือแอ็กนัสเพื่อสร้างหนี้บุญคุณ แถมยังขจัดศัตรูตัวฉกาจที่ตามหลอกหลอนโอเวอร์เกียร์มานาน
ลอเอลกล่าวกับเฟคเกอร์
“แอ็กนัสถูกลากตัวไปที่ไหน?”
“พวกเรากำลังดำเนินการแกะรอย คงระบุตำแหน่งได้ในไม่ช้า”
ถัดจากยูร่า ‘โรส’ คือจอมเวทมืดแรงค์หนึ่งของโลกและหนึ่งในข้ารับใช้ยาธาน
หล่อนคือตัวการสำคัญที่อัญเชิญจอมอสูรลำดับ 32 อย่างบีเลียลขึ้นมาบนโลก
แถมยังเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มสาวกยาธานที่บุกถล่มวาติกันเมื่อปีก่อน
ในมุมมองโอเวอร์เกียร์ โรสคือขวากหนามสำคัญที่ต้องกำจัดในสักวันอยู่แล้ว
กริดและขุนพลโอเวอร์เกียร์ไม่มีวันปล่อยให้เธอเล่นเกมอย่างมีความสุขหลังจากหันคมดาบใส่ไอรีนและลอร์ด
แน่นอน โรสถูกหน่วยเงาโอเวอร์เกียร์จับตามองพฤติกรรมมาพักใหญ่
“เดี๋ยวก่อน…”
“…?”
ลอเอลที่ยืนข้างเฟคเกอร์กับบุลเล็ต มันรีบส่งข้อความเสียงหาใครบางคน
…ผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครทราบได้
จนกระทั่ง ลอเอลใช้มือเสยเส้นผมสีเงินพร้อมกับแสยะยิ้มกว้างจนเผยฟันขาว
“บุลเล็ต ฉันมีวิธีที่ดีกว่าแผนของนาย”
“วิธีอะไร?”
บุลเล็ตเอ่ยปากถามอย่างกระวนกระวายใจ
ลอเอลยังคงไม่มอบคำตอบ มันปล่อยให้บุลเล็ตแสดงท่าทีใครรู้ต่อไป
จนกระทั่ง… ข้อความใหม่แสดงขึ้นในช่องสนทนากิลด์
[หัวหน้ากิลด์ ‘กริด’ ออกคำสั่งให้สมาชิกทุกคน ‘ล่าสังหาร’ ผู้เล่น ‘โรส’]
“หือ…?”
หมายความว่ายังไง?
ลอเอลอธิบายกับบุลเล็ตที่ยืนขมวดคิ้ว
“พวกเราจะบดขยี้หล่อนให้จมเท้าจนกว่าจะยอมร่วมมือ”
จะเกิดอะไรขึ้น หากตัวตนอย่างข้ารับใช้ยาธานยอมรับจากปากว่า ฝ่ายวิหารเป็นผู้ก่อเรื่องทั้งหมด?
แอ็กนัสจะรอดพ้นจากทุกข้อกล่าวหาทันที
***
‘หนี้บุญคุณที่หมอนั่นเคยช่วยชีวิตไอรีนกับลอร์ด… ไม่ว่ายังไงก็ต้องชดใช้คืน’
ณ วิหารกัลกุนอส
กริดที่เพิ่งประกาศล่าตัวโรส เขาแสดงท่าทีโล่งใจจนหน้าเด็กลงไปสิบปี
ชายหนุ่มติดหนี้แอ็กนัสมานาน เป็นความอึดอัดใจที่สุมในอกมาพักใหญ่ จนในที่สุด โอกาสทดแทนบุญคุณมาถึง
เป็นการตัดสินใจที่ปราศจากผลเสีย เพราะไม่ว่าอย่างไร โรสก็ต้องถูกลงโทษอย่างสาสมในสักวันอยู่แล้ว
‘…ให้ตัดสินอนาคตเจ้าพวกนี้ยังยากกว่า’
ในอนาคต หมายเลขหนึ่งและสองต้องสวมใส่ไอเท็มที่พวกมันสร้างด้วยตัวเอง เพื่อรีดเร้นประสิทธิภาพของตัวละครให้สูงสุด
‘แน่นอน เราต้องเตรียมสูตรผลิตอาวุธและหมวกดีที่ดีสุดไว้’
แต่ปัญหาคือ…
โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ไม่มีหนทางอื่นในการครอบครองสูตรผลิต นอกจากเฝ้ามองและเรียนรู้จากกริดโดยตรง
หากกริดถ่ายทอดสูตรที่ดีที่สุดให้ แน่นอน ขั้นตอนการผลิตจะซับซ้อนและกระดูกที่เป็นวัสดุก็จะหาได้ยากมาก
‘ถ้าเป็นแบบนั้น โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์จะสร้างไอเท็มได้ไม่บ่อยครั้งเนื่องจากถูกจำกัดวัสดุ’
กลับกัน หากกริดสอนสูตรผลิตที่ใช้วัสดุเป็นกระดูกระดับต่ำ อาวุธและหมวกของพวกมันจะด้อยคุณภาพเกินไป
‘เราต้องหาจุดสมดุล’
ไอเท็มที่ดีและหาวัสดุได้ง่าย…
“…หืม?”
หลังจากดำดิ่งในห้วงความคิดอยู่นาน กริดพลันได้สติหลังจากเหลือบเห็นกระดูกสีทองอร่ามของพวกมัน ชายหนุ่มยืนพิจารณาโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์อยู่พักใหญ่
หมายเลขหนึ่งและสองเอียงคอมองกริดด้วยสีหน้าสงสัย
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,380
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สร้างจากกระดูกของพวกเองทั้งคู่ 5555 #RIP หมายเลข1 หมายเลข2
ReplyDeleteนายได้เอามือปิดครึ่งหน้าก่อนพิมพ์ป่าว😁
Deleteคุคุคุ...อย่างนั้นเองสินะ สมกับเป็นสหายในชาติปางก่อน
Deleteสนุก
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ😊