จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 982



“อย่างละห้าต่อวันได้ไหม?”


“สาม”


“สี่?”


“สาม”


“สามน้อยเกินไป”


“สาม!”


“…ขอคิดดูก่อนนะ พรุ่งนี้เจ้าค่อยมาใหม่”


“สาม!”


“ก็บอกให้มาใหม่พรุ่งนี้ไง!”


“อา…”


ผิดคาด เนเฟลิน่ายอมง่ายกว่าที่คิด


ระหว่างการต่อรอง เนเฟลิน่ามิได้ใช้การข่มขู่ เธอพยายามหาจุดสมดุลในการเจรจาที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจ แม้กระทั่งขอเวลาทบทวนคิดหนึ่งวัน



“เท่าที่ทราบ สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่นจะเปรียบดั่งมดปลวกในสายตามังกร บันทึกเอกสารของมนุษย์ที่เขียนไว้เกี่ยวกับมังกรได้ระบุชัดเจนว่า มังกรจะมีนิสัยป่าเถื่อน เห็นแก่ตัว และเกรี้ยวกราดง่าย ซึ่งเธอแตกต่างจากที่ได้ยินโดยสิ้นเชิง หรือเป็นเพราะกำลังอยู่ในสถานะเสียเปรียบ? เธออาจเติบโตได้ไม่เต็มที่หากไม่มีพวกเราคอยดูแล…”


เป็นการคาดเดาจากลอเอล


สติกส์รีบส่ายศีรษะปฏิเสธทันควัน


“พลังเวทมังกรอยู่ในระดับมหาศาลตั้งแต่แรกเกิด หลักฐานพิสูจน์ชัดเจนคือการสร้างห้วงมิติภายในห้องนอนฝ่าบาท หรือแม้กระทั่งเวทจำแลงกายที่เกินของเขตพลังของมนุษย์ แฮชลิ่งมังกรอย่างเธอแข็งแกร่งพอจะดำรงชีวิตได้ด้วยตัวเอง วัวและหมูร้อยตัวงั้นหรือ? หล่อนใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ฆ่าเรียบ รวมถึงมนุษย์ที่ปกป้องวัวและหมู่เหล่านั้นด้วย”


“แล้วทำไมเนเฟลิน่าถึงพยายามต่อรองแทนการบังคับข่มขู่?”


“หล่อนอาจเป็นพวกไม่ปรกติ”


“…?”


“เธอไม่เหมือนกับมังกรตนอื่น นั่นจึงทำให้เธอเป็นมังกรที่ผิดปรกติ”


มังกรไม่ใช่สัตว์สังคม


พวกมันทระนงว่าตนยอดเยี่ยมที่สุดในโลก


เฉกเช่นที่มนุษย์ทำลายรังมดโดยไม่แยแสฉันใด มังกรก็ทำลายเมืองมนุษย์โดยไม่แยแสฉันนั้น การกระทำของมังกรเกิดจาก ‘อยาก’ หรือ ‘ไม่อยาก’ เพียงอย่างเดียว


ในสายตามนุษย์ เนเฟลิน่าจึงเป็นมังกรที่ผิดแผกอย่างมาก


“ไม่สิ ความผิดปรกติของเธอ… มันคือความปรกติของมนุษย์ไม่ใช่หรือ?”


“แต่นั่นผิดปรกติในทางสามัญสำนึกของมังกร สิ่งมีชีวิตอันดับหนึ่งจะใช้สามัญสำนึกคนละชุดกับมนุษย์ ดังนั้น ในมุมมองพวกเรา มังกรควรเห็นแก่ตัวและเกรี้ยวกราด”


“เป็นเพราะยังเด็กรึเปล่า?”


“สัญชาตญาณของมังกรจะติดตัวมาตั้งแต่เกิด ไม่เกี่ยวกับอายุ”


“หืม… แล้วพวกเราควรทำยังไงต่อไป?”


“ทำยังไงต่องั้นหรือ… มังกรผิดปรกติหาพบได้ยากมาก พวกเราควรจับตาศึกษาเธออย่างใกล้ชิด”


สติกส์คือบุคคลที่หวาดกลัวในตัวมังกรยิ่งกว่าใครทั้งหมด


คำสาปที่มังกรจอมเขมือบเสกใส่สติกส์อาจเป็นเพียงการเล่นสนุกของมัน


แต่เป็นเพราะคำสาป สติกส์จึงเกิดความหวาดกลัวและต้องทุกข์ทรมานตลอดอายุขัยที่เหลืออยู่


ทว่า ตัวตนที่ผิดปรกติของเนเฟลิน่าได้กระตุ้นต่อมความอยากรู้อยากเห็นของสติกส์จนมันเอาชนะความกลัวได้


“แต่ถึงอย่างนั้น… การหาวัวและหมูวันละสามตัวก็ไม่ใช่เรื่องง่าย”


จากความทรงจำล่าสุดของกริด หมูหนึ่งตัวมีมูลค่าสองเหรียญทอง และวัวหนึ่งตัวมีมูลค่าสี่เหรียญทอง


สิบแปด… มูลค่ารวมของอาหารเนเฟลิน่าคือสิบแปดเหรียญทองต่อวัน


สิบวัน 180 เหรียญทอง และร้อยวัน 1,800 เหรียญทอง


เงิน 1,800 เหรียญทองมีมูลค่าเท่าไร?


2.6 ล้านวอน


ลอเอลพลันขมวดคิ้วเมื่อเห็นกริดออกอาการลังเล


“นี่คือโอกาสทองที่จะได้รับความชื่นชอบจากแฮชลิ่งมังกร ฝ่าบาทอย่าได้ตระหนี่เกินจำเป็นนัก ลองนึกดูให้ดี ไอเท็มแต่ละชิ้นของฝ่าบาททำเงินได้เท่าไร? แค่วันละ 18 เหรียญทองจะหาไม่ได้เชียวหรือ?”


“แต่มันตั้งเงินเจ็ดแสนวอนต่อเดือน…”


“เป็นค่าเลี้ยงดูที่ถูกกว่าค่าแรงขั้นต่ำมนุษย์เสียอีก เนเฟลิน่าคือของขวัญที่สวรรค์ประทานให้ฝ่าบาท แถมยังจะได้รับพรมังกรด้วยไม่ใช่หรือ? ไม่ขาดทุนเลยสักนิด แต่ถ้าฝ่าบาทมีเงินไม่พอจริง กระหม่อมก็ยังมีทางออกอื่นอยู่”


“ทางออก?”


“ถูกต้อง เราสามารถใช้เงินอาณาจักรจ่ายค่าเลี้ยงดูแฮชลิ่งมังกรได้”


“นายจะใช้เงินอาณาจักรแก้ปัญหาส่วนตัวของฉัน?”


“ทำไมจะไม่ได้? นี่คืออาณาจักรของฝ่าบาท คงยังไม่ลืมใช่ไหมว่าฝ่าบาททุ่มเงินส่วนตัวให้อาณาจักรไปมากเพียงใด? นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ฝ่าบาทยังยากจนอย่างทุกวันนี้หรอกหรือ? ทุกครั้งที่อาณาจักรขาดแคลนเงิน ก็เป็นฝ่าบาทที่ออกเงินตัวเองสมทบเสมอ”


“…อา”


อันที่จริง ออกจะเกินไปหน่อยกับการที่บอกว่ากริด ‘จน’ ทรัพย์สินของเขาถูกตีมูลค่าไว้หลายหมื่นล้านวอน


(* ในตอนก่อนที่เคยบอกว่าราคาเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวจะอยู่ราวแสนล้านวอน ผมนับหน่วยผิด ที่จริงแล้วหลักหมื่นล้านวอน หรือประมาณ 300 ล้านบาท)


แต่ความมั่งคั่งของกริดก็ยังห่างไกลจากอภิมหากลุ่มเงินทุนอย่าง ‘แชโบล’ มาก


หากเขารวยจริง คงไม่นึกลังเลขณะตัดสินใจซื้อเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว


“ก็ได้ ตามนั้น”


เป็นดังสติกส์ว่า เนเฟลิน่าคือสิ่งมีชีวิตที่ครอบครองพลังมหาศาลไว้กับตัวตั้งแต่เกิด


ในเมื่อมิอาจขับไล่ได้ กริดจำเป็นต้องต่อรองเงื่อนไขของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ การเจรจาต้องรีบจบลงโดยเร็ว


‘คงต้องใช้เงินอาณาจักรไปก่อน’


กริดลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยสีหน้ามุ่งมั่น


‘เธอจะเติบโตเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันนะ’


ชายหนุ่มกำลังตื่นเต้น


ช่วงเวลาที่เหลือของวัน เขามีแผนไปหาไอรีนกับลอร์ดโดยหวังว่าวันพรุ่งจะมาถึงโดยเร็ว


ทว่า ลอเอลรีบห้ามไว้ก่อน มันเปลี่ยนหัวข้อสนทนาซึ่งไม่เกี่ยวกับเนื้อหาก่อนหน้าแม้แต่น้อย


“ฝ่าบาทยังจำพ่อครัวจากทวีปตะวันออกได้ไหม… เจ้าแห่งพิษคนนั้น”


“ไอดาน?”


“ถูกต้อง ทักษะปรุงอาหารของเขาไม่พัฒนามาพักใหญ่แล้ว”


“ทำไมกัน?”


“ในระยะหลัง ไม่มีใครกินอาหารที่ไอดานปรุงอีก กระหม่อมจึงเกิดสมมติฐานขึ้น บางทีทักษะทำอาหารไม่สามารถเพิ่มระดับได้ด้วยการปรุงเพียงอย่างเดียว ต้องมีผู้ทานด้วย”


“แล้วทำไมถึงไม่มีใครกิน?”


“ในอดีต เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์เคยฝืนกลืนอาหารนรกเหล่านั้นลงคอเพราะต้องการค่าต้านทานพิษ…”


“หมายความว่า หลังจากค่าต้านทานพิษสูงจนเป็นที่น่าพอใจ พวกเขาทยอยเลิกกินอาหารของไอดาน?”


“ถูกต้อง ดูเหมือนอาหารของไอดานจะเพิ่มค่าต้านทานพิษได้ถึงระดับหนึ่งเท่านั้น”


“แล้วถ้านำไปให้ทหารกินล่ะ?”


“ทหารกล้าของฝ่าบาทจะตายกันหมด”


“…เจ้าบ้านั่นยังปรุงอาหารมนุษย์ไม่ได้อีกรึไง?”


“ยิ่งทักษะปรุงอาหารของไอดานมีเลเวลสูง ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยิ่งใกล้เคียงอาหารมนุษย์มากขึ้น และสิ่งที่กระหม่อมต้องการจะสื่อก็คือ…”


ลอเอลอธิบายวิธีการนำอาหารของไอดานไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หลังจากกริดตั้งใจฟังอยู่นาน ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างพึงพอใจ


“นายยังอัจฉริยะเหมือนเคย”


“คุคุคุ… นั่นคือสาเหตุที่ไม่มีผู้ใดเข้าถึงสติปัญญาอันเฉียบแหลมของกระหม่อมได้ แต่ช่างเถอะ กระหม่อมชาชินกับการอยู่คนเดียวแล้ว…”


“งั้นหรือ… ดีใจด้วยนะ ฉันไปล่ะ”


***


“เกิดอะไรขึ้น?”


“เท่ชะมัด…”


ณ จุดเก็บเลเวลระดับกลางไม่ห่างจากกรุงไรน์ฮาร์ทมากนัก


เหล่าผู้เล่นที่กำลังเก็บเลเวลและล่าไอเท็มจากมอนสเตอร์ต่างพากันชะงักและหันไปมองยังจุดหนึ่งอย่างพร้อมเพรียง


ทหารหลวงโอเวอร์เกียร์ราวห้าร้อยนาย


ทุกคนสวมเซตกริดรุ่นผลิตจำนวนมากเกรดยูนีค ไม่ผิดแน่ ทั้งห้าร้อยนายคือทหารหลวงที่มีฝีมือสูงสุดของอาณาจักร


แถมบุคคลนำทัพยังเป็นสตรีเลอโฉมที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบอัศวิน ชื่อตัวละครเหนือศีรษะเขียนด้วยอักษรทองอร่ามว่า


‘เมอร์เซเดส’


“แถวนี้มีสงครามรึไง?”


เหตุใดกองทัพหัวกะทิถึงปรากฏตัวในจุดเก็บเลเวลระดับกลางเช่นนี้?


ขณะผู้เล่นกำลังฉงน


“ตรงนี้แหละ”


ขบวนทหารพลันชะงักฝีเท้า ชายหญิงคู่หนึ่งปรากฏตัวพร้อมเด็กชายตัวน้อย


ราชาโอเวอร์เกียร์ กริด


ราชินีโอเวอร์เกียร์ ไอรีน


องค์ชายรัชทายาทโอเวอร์เกียร์ ลอร์ด


พรึ่บ


อัศวินในตำนาน เมอร์เซเดส ทำการหยิบเสื่อออกมากางปูกลางจุดเก็บเลเวล


“เอาล่ะไอรีน นั่งลงได้แล้ว”


“เพคะ”


กริดและไอรีนนั่งลงเคียงข้างกัน จากนั้นก็นำกาน้ำชาออกมาพร้อมกับกล่องคุกกี้


ในทางกลับกัน ลอร์ดทำการชักดาบออกและจัดการกับมอนสเตอร์โดยมีโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขหนึ่งและสองคอยสนับสนุน


เคร้ง! เคร้งเคร้ง!


“ย๊ากก!”


“กี๊!”


“ฮะฮะ! วิชาดาบเฉียบคมขึ้นอีกแล้วสินะ”


“ขอบคุณท่านพ่อที่ชื่นชม”


“…”


นี่มัน… ปิกนิกครอบครัว…


สองสามีภรรยากำลังนั่งมองลอร์ดต่อสู้กับมอนสเตอร์ด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข


ขณะเฝ้ามองภาพสุดเหลวไหลใจกลางจุดเก็บเลเวล เหล่าผู้เล่นเริ่มตระหนักว่าบรรยากาศโดยรอบเงียบงันลงอย่างผิดธรรมชาติ


หากลองพิจารณาให้ดี รอบบริเวณปัจจุบันแทบไม่ปรากฏมอนสเตอร์แม้แต่ตัวเดียว


ทันใดนั้น ทหารโอเวอร์เกียร์ได้กระจายตัวออกไปพร้อมกับใช้ ‘ศิลาล่อมอนสเตอร์’ เพื่อดึงดูดมอนสเตอร์เข้าหาลอร์ดให้มากที่สุด


ทหารทั้งห้าร้อยนายลงมืออย่างขยันขันแข็งและคล่องแคล่วชำนาญ หากกลุ่มผู้เล่นตาไม่ฝาดไป ทหารทุกคนต้องมีเลเวลสูงกว่าสามร้อยแน่นอน


“นี่สินะ… คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด”


“อิจฉาชะมัด…”


อยากเป็นลูกชายกริดจังโว้ย!


เหล่าผู้เล่นทำได้เพียงตัดพ้อ ไม่มีใครคิดต่อว่ากริดแต่อย่างใด ตรงกันข้าม บางส่วนรู้สึกขอบคุณกริดด้วยซ้ำ


สาเหตุเพราะ กริดชดเชยค่าเสียโอกาสให้ทุกคนอย่างเหมาะสม


“ตามฉันมา”


อัศวินหญิงเลอโฉมที่ชื่อเหนือศีรษะเปล่งแสงสีทองอร่าม


อาจไม่มีใครทราบ แต่อัศวินในตำนานอย่างเธอกำลังทำหน้าที่ ‘รถบัส’ ช่วยผู้เล่นเก็บเลเวล


ทุกครั้งที่มอนสเตอร์บอสปรากฏตัว เธอจะเข้าไปซัดจนเจียนตายและปล่อยให้ผู้เล่นปิดฉาก ค่าประสบการณ์ทั้งหมดจึงตกเป็นของผู้เล่นโดยไม่แบ่งหาร แถมยังเมอร์เซเดสยังมอบไอเท็มดรอปให้ด้วย


ต้องขอบคุณการปิกนิกของกริด พวกมันจึงมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์เก็บเลเวลแบบติดจรวดเป็นหนแรก


“อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จงเจริญ!!”


“ราชาโอเวอร์เกียร์อายุยืนหมื่นหมื่นปี!!”


เสียงตะโกนเชียร์จากกลุ่มผู้เล่นดังกึกก้องไปทั่วจุดเก็บเลเวล


ยิ่งคนเหล่านี้ชื่นชอบกริด รากฐานอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ก็ยิ่งมั่นคง


‘ออกมาปิกนิกให้บ่อยขึ้นดีกว่า…’


ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ไอรีนมีความสุข ลอร์ดและโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ได้พัฒนาตัวเอง แถมยังได้รับความชื่นชอบจากพลเมืองเป็นโบนัส


ทั้งหมดนี้คือแผนการที่ลอเอลคิดขึ้น


“ฝ่าบาท ดิฉันจัดการบอสในบริเวณทั้งหมดแล้ว”


“ทำได้ดีมาก”


เมื่อสิ้นเสียงเมอร์เซเดส กริดรีบลุกขึ้นจากพื้นเสื่อ


“ไอรีน พวกเราไปจุดเก็บเลเวลถัดไป… เอ่อ จุดปิกนิกถัดไปกันเถอะ”


***


วันถัดมา


กริดกลับไปหาเนเฟลิน่าพร้อมกับราชาเนตรมาร


เนเฟลิน่าอยู่ในรูปลักษณ์มังกรน้อย ลำตัวยาวสองเมตร เกล็ดสีฟ้าคราม หางอ้วนกลมแต่ไร้เรี่ยวแรง ดวงตากลมโตน่าเอ็นดู


“อย่างละสี่ตัวต่อวันได้ไหม…”


“สา-… หืม…”


ขณะกริดคิดตะโกน ‘สาม’ อย่างหนักแน่น ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อยพลางทำสีหน้าครุ่นคิด จากนั้นจึงเอ่ยปากถาม


“นั่นคือจำนวนน้อยที่สุดแล้วหรือ?”


“ใช่แล้ว เราต้องกินชนิดละสี่ตัวต่อวันเป็นอย่างน้อย ท้องจะได้ไม่ร้องเสียงดัง”


“ก็ได้”


ในวันนี้ กริดมาต่อรองโดยมีเจตนาผ่อนปรนตั้งแต่ต้น


เขาสัมผัสได้


จากประสบการณ์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความละโมบที่เกินพอดีจะนำพาไปสู่ความฉิบหาย


ชายหนุ่มยอมถอยหนึ่งก้าวเพื่อสร้างความพึงพอใจแก่เนเฟลิน่า ไม่ว่าอย่างไร ข้อตกลงนี้ก็ต้องหาจุดสมดุล และมันคงดีกว่าหากทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจ


“ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติให้ดูแลมหาจักรพรรดิทำลายล้างในอนาคต นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะนำวัวและหมู่สี่ตัวมาถวายให้ทุกวัน”


“ขอบคุณที่เข้าใจ ถ้าเจ้าต่อรองมากกว่านี้อีกนิด เราอาจรู้สึกหงุดหงิดเอาได้”


“ขอรับ…”


จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหล่อนหงุดหงิดขึ้นมา?


กริดผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวโชกโชนพลันกำหมัดแน่นเมื่อรู้ว่าตัวเองตัดสินใจถูกที่ปล่อยวางความโลภ


ทันใดนั้น บุรุษใบหน้าขาวซีดได้เปิดประตูพร้อมกับเดินเข้ามาในห้อง


เนเฟลิน่าเอียงคอเล็กน้อย


“มนุษย์ผู้นี้ใครกัน?”


“นับแต่วันนี้เป็นต้นไป กระหม่อมคือพ่อครัวส่วนตัวของท่าน”


“พ่อครัวส่วนตัว? เจ้ากำลังจะบอกว่า อาหารของเราต้องผ่านการปรุงจากมนุษย์ก่อนงั้นหรือ?”


“ขอรับ นี่คือความจริงใจเดียวที่กระหม่อมสามารถมอบให้มหาจักรพรรดิทำลายล้างในอนาคตได้”


“หืม… ตามใจเจ้าเลย”


ตึง! ตึง!


เนเฟลิน่ากระดิกหางซ้ายขวาจนกระทบพื้นเสียงดัง


ท่าทางเธอคงพึงพอใจไม่น้อย


แต่สำหรับไอดาน มันเป็นราวกับคำขู่…



“มะ… มังกร…”


ให้ปรุงอาหารเสิร์ฟมังกร?


ฝ่าบาทกำลังพูดเรื่องเสียสติอะไรออกมา?


กริดส่งเสียงกระซิบข้างหูไอดานที่กำลังหวาดผวาสุดขีด


“ฉันไม่รู้ว่ามังกรครามของตะวันออกมีนิสัยเป็นเช่นไร แต่มังกรฝั่งตะวันตกนั้นดุร้ายมาก ถ้าหากนายไม่อยากถูกกิน จงปรุงอาหารรสเลิศไปเสิร์ฟหล่อน”


“อ…อึ๋ย!”


แฮชลิ่งมังกรมีค่าต้านทานพิษเต็มเปี่ยม


ไม่ว่าไอดานจะทำอาหารได้บัดซบเพียงใด แต่เธอไม่มีทางตายจากอาหารเป็นพิษแน่


กริดมั่นใจว่าเผ่าเนตรมารไม่มีพ่อครัวสำหรับปรุงอาหาร


เนเฟลิน่าอาศัยในเมืองเนตรมารตั้งแต่ลืมตาดูโลก อาหารที่เธอเคยกินมาตลอดคงไร้รสชาติและไม่ดีไปกว่าอาหารมรณะของไอดานสักเท่าไร


ทั้งหมดคือแผนการของลอเอล


มันส่งไอดานไปเป็นพ่อครัวส่วนตัวของเนเฟลิน่าเพื่อให้เธอเกิดความชื่นชอบ รวมถึงต้องการให้ทักษะปรุงอาหารของไอดานอัปเลเวลโดยเร็ว


และผลลัพธ์ยอดเยี่ยมกว่าที่คิดไว้


“กริด… เราพึงพอใจกับทัศนคติของเจ้า เราจะมอบพรมังกรที่ยอดเยี่ยมให้”


[ภารกิจ ‘คำขอร้องจากแฮชลิ่ง’ อยู่ระหว่างดำเนินการ]


[ท่านต้องจัดหาวัวและหมูให้เนเฟลิน่าอย่างละสี่ตัวต่อหนึ่งวัน]


[ท่านได้รับพรมังกรเป็นรางวัลตอบแทนหลังจากรับภารกิจ]


ซู่วว—


ละอองพลังเวทสีทองเริ่มรวมตัวรอบกริด


ผู้เล่นคนแรก…


ไม่สิ บางทีอาจเป็นมนุษย์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับพรจากมังกร หัวใจของชายหนุ่มกำลังเต้นระรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,375

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ว้าว​ เจ๋งโคตร หวังว่าเลเวลพรมังกรจะได้ใช้ในอนาคต

    ReplyDelete
  2. แล้วถ้ามังกร​ยังกินไม่ลง
    🤣
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​😁🙏

    ReplyDelete
  3. ผมว่าด้วยความอับโชคสุดจะบัดซบของกริดพรน่าจะไม่ได้ดีมาก
    หรอกมั้งนะ(เดา)แต่ของลอร์ดน่าจะโอเวอร์ยิ่งกว่าก็เป็นเด็กเทพหนินะ(เดาอีกเช่นกัน)

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00