จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 982
“อย่างละห้าต่อวันได้ไหม?”
“สาม”
“สี่?”
“สาม”
“สามน้อยเกินไป”
“สาม!”
“…ขอคิดดูก่อนนะ พรุ่งนี้เจ้าค่อยมาใหม่”
“สาม!”
“ก็บอกให้มาใหม่พรุ่งนี้ไง!”
“อา…”
ผิดคาด เนเฟลิน่ายอมง่ายกว่าที่คิด
ระหว่างการต่อรอง เนเฟลิน่ามิได้ใช้การข่มขู่ เธอพยายามหาจุดสมดุลในการเจรจาที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจ แม้กระทั่งขอเวลาทบทวนคิดหนึ่งวัน
…
“เท่าที่ทราบ สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่นจะเปรียบดั่งมดปลวกในสายตามังกร บันทึกเอกสารของมนุษย์ที่เขียนไว้เกี่ยวกับมังกรได้ระบุชัดเจนว่า มังกรจะมีนิสัยป่าเถื่อน เห็นแก่ตัว และเกรี้ยวกราดง่าย ซึ่งเธอแตกต่างจากที่ได้ยินโดยสิ้นเชิง หรือเป็นเพราะกำลังอยู่ในสถานะเสียเปรียบ? เธออาจเติบโตได้ไม่เต็มที่หากไม่มีพวกเราคอยดูแล…”
เป็นการคาดเดาจากลอเอล
สติกส์รีบส่ายศีรษะปฏิเสธทันควัน
“พลังเวทมังกรอยู่ในระดับมหาศาลตั้งแต่แรกเกิด หลักฐานพิสูจน์ชัดเจนคือการสร้างห้วงมิติภายในห้องนอนฝ่าบาท หรือแม้กระทั่งเวทจำแลงกายที่เกินของเขตพลังของมนุษย์ แฮชลิ่งมังกรอย่างเธอแข็งแกร่งพอจะดำรงชีวิตได้ด้วยตัวเอง วัวและหมูร้อยตัวงั้นหรือ? หล่อนใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ฆ่าเรียบ รวมถึงมนุษย์ที่ปกป้องวัวและหมู่เหล่านั้นด้วย”
“แล้วทำไมเนเฟลิน่าถึงพยายามต่อรองแทนการบังคับข่มขู่?”
“หล่อนอาจเป็นพวกไม่ปรกติ”
“…?”
“เธอไม่เหมือนกับมังกรตนอื่น นั่นจึงทำให้เธอเป็นมังกรที่ผิดปรกติ”
มังกรไม่ใช่สัตว์สังคม
พวกมันทระนงว่าตนยอดเยี่ยมที่สุดในโลก
เฉกเช่นที่มนุษย์ทำลายรังมดโดยไม่แยแสฉันใด มังกรก็ทำลายเมืองมนุษย์โดยไม่แยแสฉันนั้น การกระทำของมังกรเกิดจาก ‘อยาก’ หรือ ‘ไม่อยาก’ เพียงอย่างเดียว
ในสายตามนุษย์ เนเฟลิน่าจึงเป็นมังกรที่ผิดแผกอย่างมาก
“ไม่สิ ความผิดปรกติของเธอ… มันคือความปรกติของมนุษย์ไม่ใช่หรือ?”
“แต่นั่นผิดปรกติในทางสามัญสำนึกของมังกร สิ่งมีชีวิตอันดับหนึ่งจะใช้สามัญสำนึกคนละชุดกับมนุษย์ ดังนั้น ในมุมมองพวกเรา มังกรควรเห็นแก่ตัวและเกรี้ยวกราด”
“เป็นเพราะยังเด็กรึเปล่า?”
“สัญชาตญาณของมังกรจะติดตัวมาตั้งแต่เกิด ไม่เกี่ยวกับอายุ”
“หืม… แล้วพวกเราควรทำยังไงต่อไป?”
“ทำยังไงต่องั้นหรือ… มังกรผิดปรกติหาพบได้ยากมาก พวกเราควรจับตาศึกษาเธออย่างใกล้ชิด”
สติกส์คือบุคคลที่หวาดกลัวในตัวมังกรยิ่งกว่าใครทั้งหมด
คำสาปที่มังกรจอมเขมือบเสกใส่สติกส์อาจเป็นเพียงการเล่นสนุกของมัน
แต่เป็นเพราะคำสาป สติกส์จึงเกิดความหวาดกลัวและต้องทุกข์ทรมานตลอดอายุขัยที่เหลืออยู่
ทว่า ตัวตนที่ผิดปรกติของเนเฟลิน่าได้กระตุ้นต่อมความอยากรู้อยากเห็นของสติกส์จนมันเอาชนะความกลัวได้
“แต่ถึงอย่างนั้น… การหาวัวและหมูวันละสามตัวก็ไม่ใช่เรื่องง่าย”
จากความทรงจำล่าสุดของกริด หมูหนึ่งตัวมีมูลค่าสองเหรียญทอง และวัวหนึ่งตัวมีมูลค่าสี่เหรียญทอง
สิบแปด… มูลค่ารวมของอาหารเนเฟลิน่าคือสิบแปดเหรียญทองต่อวัน
สิบวัน 180 เหรียญทอง และร้อยวัน 1,800 เหรียญทอง
เงิน 1,800 เหรียญทองมีมูลค่าเท่าไร?
2.6 ล้านวอน
ลอเอลพลันขมวดคิ้วเมื่อเห็นกริดออกอาการลังเล
“นี่คือโอกาสทองที่จะได้รับความชื่นชอบจากแฮชลิ่งมังกร ฝ่าบาทอย่าได้ตระหนี่เกินจำเป็นนัก ลองนึกดูให้ดี ไอเท็มแต่ละชิ้นของฝ่าบาททำเงินได้เท่าไร? แค่วันละ 18 เหรียญทองจะหาไม่ได้เชียวหรือ?”
“แต่มันตั้งเงินเจ็ดแสนวอนต่อเดือน…”
“เป็นค่าเลี้ยงดูที่ถูกกว่าค่าแรงขั้นต่ำมนุษย์เสียอีก เนเฟลิน่าคือของขวัญที่สวรรค์ประทานให้ฝ่าบาท แถมยังจะได้รับพรมังกรด้วยไม่ใช่หรือ? ไม่ขาดทุนเลยสักนิด แต่ถ้าฝ่าบาทมีเงินไม่พอจริง กระหม่อมก็ยังมีทางออกอื่นอยู่”
“ทางออก?”
“ถูกต้อง เราสามารถใช้เงินอาณาจักรจ่ายค่าเลี้ยงดูแฮชลิ่งมังกรได้”
“นายจะใช้เงินอาณาจักรแก้ปัญหาส่วนตัวของฉัน?”
“ทำไมจะไม่ได้? นี่คืออาณาจักรของฝ่าบาท คงยังไม่ลืมใช่ไหมว่าฝ่าบาททุ่มเงินส่วนตัวให้อาณาจักรไปมากเพียงใด? นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ฝ่าบาทยังยากจนอย่างทุกวันนี้หรอกหรือ? ทุกครั้งที่อาณาจักรขาดแคลนเงิน ก็เป็นฝ่าบาทที่ออกเงินตัวเองสมทบเสมอ”
“…อา”
อันที่จริง ออกจะเกินไปหน่อยกับการที่บอกว่ากริด ‘จน’ ทรัพย์สินของเขาถูกตีมูลค่าไว้หลายหมื่นล้านวอน
(* ในตอนก่อนที่เคยบอกว่าราคาเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวจะอยู่ราวแสนล้านวอน ผมนับหน่วยผิด ที่จริงแล้วหลักหมื่นล้านวอน หรือประมาณ 300 ล้านบาท)
แต่ความมั่งคั่งของกริดก็ยังห่างไกลจากอภิมหากลุ่มเงินทุนอย่าง ‘แชโบล’ มาก
หากเขารวยจริง คงไม่นึกลังเลขณะตัดสินใจซื้อเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว
“ก็ได้ ตามนั้น”
เป็นดังสติกส์ว่า เนเฟลิน่าคือสิ่งมีชีวิตที่ครอบครองพลังมหาศาลไว้กับตัวตั้งแต่เกิด
ในเมื่อมิอาจขับไล่ได้ กริดจำเป็นต้องต่อรองเงื่อนไขของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ การเจรจาต้องรีบจบลงโดยเร็ว
‘คงต้องใช้เงินอาณาจักรไปก่อน’
กริดลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
‘เธอจะเติบโตเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันนะ’
ชายหนุ่มกำลังตื่นเต้น
ช่วงเวลาที่เหลือของวัน เขามีแผนไปหาไอรีนกับลอร์ดโดยหวังว่าวันพรุ่งจะมาถึงโดยเร็ว
ทว่า ลอเอลรีบห้ามไว้ก่อน มันเปลี่ยนหัวข้อสนทนาซึ่งไม่เกี่ยวกับเนื้อหาก่อนหน้าแม้แต่น้อย
“ฝ่าบาทยังจำพ่อครัวจากทวีปตะวันออกได้ไหม… เจ้าแห่งพิษคนนั้น”
“ไอดาน?”
“ถูกต้อง ทักษะปรุงอาหารของเขาไม่พัฒนามาพักใหญ่แล้ว”
“ทำไมกัน?”
“ในระยะหลัง ไม่มีใครกินอาหารที่ไอดานปรุงอีก กระหม่อมจึงเกิดสมมติฐานขึ้น บางทีทักษะทำอาหารไม่สามารถเพิ่มระดับได้ด้วยการปรุงเพียงอย่างเดียว ต้องมีผู้ทานด้วย”
“แล้วทำไมถึงไม่มีใครกิน?”
“ในอดีต เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์เคยฝืนกลืนอาหารนรกเหล่านั้นลงคอเพราะต้องการค่าต้านทานพิษ…”
“หมายความว่า หลังจากค่าต้านทานพิษสูงจนเป็นที่น่าพอใจ พวกเขาทยอยเลิกกินอาหารของไอดาน?”
“ถูกต้อง ดูเหมือนอาหารของไอดานจะเพิ่มค่าต้านทานพิษได้ถึงระดับหนึ่งเท่านั้น”
“แล้วถ้านำไปให้ทหารกินล่ะ?”
“ทหารกล้าของฝ่าบาทจะตายกันหมด”
“…เจ้าบ้านั่นยังปรุงอาหารมนุษย์ไม่ได้อีกรึไง?”
“ยิ่งทักษะปรุงอาหารของไอดานมีเลเวลสูง ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยิ่งใกล้เคียงอาหารมนุษย์มากขึ้น และสิ่งที่กระหม่อมต้องการจะสื่อก็คือ…”
ลอเอลอธิบายวิธีการนำอาหารของไอดานไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หลังจากกริดตั้งใจฟังอยู่นาน ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“นายยังอัจฉริยะเหมือนเคย”
“คุคุคุ… นั่นคือสาเหตุที่ไม่มีผู้ใดเข้าถึงสติปัญญาอันเฉียบแหลมของกระหม่อมได้ แต่ช่างเถอะ กระหม่อมชาชินกับการอยู่คนเดียวแล้ว…”
“งั้นหรือ… ดีใจด้วยนะ ฉันไปล่ะ”
***
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เท่ชะมัด…”
ณ จุดเก็บเลเวลระดับกลางไม่ห่างจากกรุงไรน์ฮาร์ทมากนัก
เหล่าผู้เล่นที่กำลังเก็บเลเวลและล่าไอเท็มจากมอนสเตอร์ต่างพากันชะงักและหันไปมองยังจุดหนึ่งอย่างพร้อมเพรียง
ทหารหลวงโอเวอร์เกียร์ราวห้าร้อยนาย
ทุกคนสวมเซตกริดรุ่นผลิตจำนวนมากเกรดยูนีค ไม่ผิดแน่ ทั้งห้าร้อยนายคือทหารหลวงที่มีฝีมือสูงสุดของอาณาจักร
แถมบุคคลนำทัพยังเป็นสตรีเลอโฉมที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบอัศวิน ชื่อตัวละครเหนือศีรษะเขียนด้วยอักษรทองอร่ามว่า
‘เมอร์เซเดส’
“แถวนี้มีสงครามรึไง?”
เหตุใดกองทัพหัวกะทิถึงปรากฏตัวในจุดเก็บเลเวลระดับกลางเช่นนี้?
ขณะผู้เล่นกำลังฉงน
“ตรงนี้แหละ”
ขบวนทหารพลันชะงักฝีเท้า ชายหญิงคู่หนึ่งปรากฏตัวพร้อมเด็กชายตัวน้อย
ราชาโอเวอร์เกียร์ กริด
ราชินีโอเวอร์เกียร์ ไอรีน
องค์ชายรัชทายาทโอเวอร์เกียร์ ลอร์ด
พรึ่บ
อัศวินในตำนาน เมอร์เซเดส ทำการหยิบเสื่อออกมากางปูกลางจุดเก็บเลเวล
“เอาล่ะไอรีน นั่งลงได้แล้ว”
“เพคะ”
กริดและไอรีนนั่งลงเคียงข้างกัน จากนั้นก็นำกาน้ำชาออกมาพร้อมกับกล่องคุกกี้
ในทางกลับกัน ลอร์ดทำการชักดาบออกและจัดการกับมอนสเตอร์โดยมีโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขหนึ่งและสองคอยสนับสนุน
เคร้ง! เคร้งเคร้ง!
“ย๊ากก!”
“กี๊!”
“ฮะฮะ! วิชาดาบเฉียบคมขึ้นอีกแล้วสินะ”
“ขอบคุณท่านพ่อที่ชื่นชม”
“…”
นี่มัน… ปิกนิกครอบครัว…
สองสามีภรรยากำลังนั่งมองลอร์ดต่อสู้กับมอนสเตอร์ด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข
ขณะเฝ้ามองภาพสุดเหลวไหลใจกลางจุดเก็บเลเวล เหล่าผู้เล่นเริ่มตระหนักว่าบรรยากาศโดยรอบเงียบงันลงอย่างผิดธรรมชาติ
หากลองพิจารณาให้ดี รอบบริเวณปัจจุบันแทบไม่ปรากฏมอนสเตอร์แม้แต่ตัวเดียว
ทันใดนั้น ทหารโอเวอร์เกียร์ได้กระจายตัวออกไปพร้อมกับใช้ ‘ศิลาล่อมอนสเตอร์’ เพื่อดึงดูดมอนสเตอร์เข้าหาลอร์ดให้มากที่สุด
ทหารทั้งห้าร้อยนายลงมืออย่างขยันขันแข็งและคล่องแคล่วชำนาญ หากกลุ่มผู้เล่นตาไม่ฝาดไป ทหารทุกคนต้องมีเลเวลสูงกว่าสามร้อยแน่นอน
“นี่สินะ… คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด”
“อิจฉาชะมัด…”
อยากเป็นลูกชายกริดจังโว้ย!
เหล่าผู้เล่นทำได้เพียงตัดพ้อ ไม่มีใครคิดต่อว่ากริดแต่อย่างใด ตรงกันข้าม บางส่วนรู้สึกขอบคุณกริดด้วยซ้ำ
สาเหตุเพราะ กริดชดเชยค่าเสียโอกาสให้ทุกคนอย่างเหมาะสม
“ตามฉันมา”
อัศวินหญิงเลอโฉมที่ชื่อเหนือศีรษะเปล่งแสงสีทองอร่าม
อาจไม่มีใครทราบ แต่อัศวินในตำนานอย่างเธอกำลังทำหน้าที่ ‘รถบัส’ ช่วยผู้เล่นเก็บเลเวล
ทุกครั้งที่มอนสเตอร์บอสปรากฏตัว เธอจะเข้าไปซัดจนเจียนตายและปล่อยให้ผู้เล่นปิดฉาก ค่าประสบการณ์ทั้งหมดจึงตกเป็นของผู้เล่นโดยไม่แบ่งหาร แถมยังเมอร์เซเดสยังมอบไอเท็มดรอปให้ด้วย
ต้องขอบคุณการปิกนิกของกริด พวกมันจึงมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์เก็บเลเวลแบบติดจรวดเป็นหนแรก
“อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จงเจริญ!!”
“ราชาโอเวอร์เกียร์อายุยืนหมื่นหมื่นปี!!”
เสียงตะโกนเชียร์จากกลุ่มผู้เล่นดังกึกก้องไปทั่วจุดเก็บเลเวล
ยิ่งคนเหล่านี้ชื่นชอบกริด รากฐานอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ก็ยิ่งมั่นคง
‘ออกมาปิกนิกให้บ่อยขึ้นดีกว่า…’
ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ไอรีนมีความสุข ลอร์ดและโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ได้พัฒนาตัวเอง แถมยังได้รับความชื่นชอบจากพลเมืองเป็นโบนัส
ทั้งหมดนี้คือแผนการที่ลอเอลคิดขึ้น
“ฝ่าบาท ดิฉันจัดการบอสในบริเวณทั้งหมดแล้ว”
“ทำได้ดีมาก”
เมื่อสิ้นเสียงเมอร์เซเดส กริดรีบลุกขึ้นจากพื้นเสื่อ
“ไอรีน พวกเราไปจุดเก็บเลเวลถัดไป… เอ่อ จุดปิกนิกถัดไปกันเถอะ”
***
วันถัดมา
กริดกลับไปหาเนเฟลิน่าพร้อมกับราชาเนตรมาร
เนเฟลิน่าอยู่ในรูปลักษณ์มังกรน้อย ลำตัวยาวสองเมตร เกล็ดสีฟ้าคราม หางอ้วนกลมแต่ไร้เรี่ยวแรง ดวงตากลมโตน่าเอ็นดู
“อย่างละสี่ตัวต่อวันได้ไหม…”
“สา-… หืม…”
ขณะกริดคิดตะโกน ‘สาม’ อย่างหนักแน่น ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อยพลางทำสีหน้าครุ่นคิด จากนั้นจึงเอ่ยปากถาม
“นั่นคือจำนวนน้อยที่สุดแล้วหรือ?”
“ใช่แล้ว เราต้องกินชนิดละสี่ตัวต่อวันเป็นอย่างน้อย ท้องจะได้ไม่ร้องเสียงดัง”
“ก็ได้”
ในวันนี้ กริดมาต่อรองโดยมีเจตนาผ่อนปรนตั้งแต่ต้น
เขาสัมผัสได้
จากประสบการณ์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความละโมบที่เกินพอดีจะนำพาไปสู่ความฉิบหาย
ชายหนุ่มยอมถอยหนึ่งก้าวเพื่อสร้างความพึงพอใจแก่เนเฟลิน่า ไม่ว่าอย่างไร ข้อตกลงนี้ก็ต้องหาจุดสมดุล และมันคงดีกว่าหากทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจ
“ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติให้ดูแลมหาจักรพรรดิทำลายล้างในอนาคต นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะนำวัวและหมู่สี่ตัวมาถวายให้ทุกวัน”
“ขอบคุณที่เข้าใจ ถ้าเจ้าต่อรองมากกว่านี้อีกนิด เราอาจรู้สึกหงุดหงิดเอาได้”
“ขอรับ…”
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหล่อนหงุดหงิดขึ้นมา?
กริดผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวโชกโชนพลันกำหมัดแน่นเมื่อรู้ว่าตัวเองตัดสินใจถูกที่ปล่อยวางความโลภ
ทันใดนั้น บุรุษใบหน้าขาวซีดได้เปิดประตูพร้อมกับเดินเข้ามาในห้อง
เนเฟลิน่าเอียงคอเล็กน้อย
“มนุษย์ผู้นี้ใครกัน?”
“นับแต่วันนี้เป็นต้นไป กระหม่อมคือพ่อครัวส่วนตัวของท่าน”
“พ่อครัวส่วนตัว? เจ้ากำลังจะบอกว่า อาหารของเราต้องผ่านการปรุงจากมนุษย์ก่อนงั้นหรือ?”
“ขอรับ นี่คือความจริงใจเดียวที่กระหม่อมสามารถมอบให้มหาจักรพรรดิทำลายล้างในอนาคตได้”
“หืม… ตามใจเจ้าเลย”
ตึง! ตึง!
เนเฟลิน่ากระดิกหางซ้ายขวาจนกระทบพื้นเสียงดัง
ท่าทางเธอคงพึงพอใจไม่น้อย
แต่สำหรับไอดาน มันเป็นราวกับคำขู่…
…
“มะ… มังกร…”
ให้ปรุงอาหารเสิร์ฟมังกร?
ฝ่าบาทกำลังพูดเรื่องเสียสติอะไรออกมา?
กริดส่งเสียงกระซิบข้างหูไอดานที่กำลังหวาดผวาสุดขีด
“ฉันไม่รู้ว่ามังกรครามของตะวันออกมีนิสัยเป็นเช่นไร แต่มังกรฝั่งตะวันตกนั้นดุร้ายมาก ถ้าหากนายไม่อยากถูกกิน จงปรุงอาหารรสเลิศไปเสิร์ฟหล่อน”
“อ…อึ๋ย!”
แฮชลิ่งมังกรมีค่าต้านทานพิษเต็มเปี่ยม
ไม่ว่าไอดานจะทำอาหารได้บัดซบเพียงใด แต่เธอไม่มีทางตายจากอาหารเป็นพิษแน่
กริดมั่นใจว่าเผ่าเนตรมารไม่มีพ่อครัวสำหรับปรุงอาหาร
เนเฟลิน่าอาศัยในเมืองเนตรมารตั้งแต่ลืมตาดูโลก อาหารที่เธอเคยกินมาตลอดคงไร้รสชาติและไม่ดีไปกว่าอาหารมรณะของไอดานสักเท่าไร
ทั้งหมดคือแผนการของลอเอล
มันส่งไอดานไปเป็นพ่อครัวส่วนตัวของเนเฟลิน่าเพื่อให้เธอเกิดความชื่นชอบ รวมถึงต้องการให้ทักษะปรุงอาหารของไอดานอัปเลเวลโดยเร็ว
และผลลัพธ์ยอดเยี่ยมกว่าที่คิดไว้
“กริด… เราพึงพอใจกับทัศนคติของเจ้า เราจะมอบพรมังกรที่ยอดเยี่ยมให้”
[ภารกิจ ‘คำขอร้องจากแฮชลิ่ง’ อยู่ระหว่างดำเนินการ]
[ท่านต้องจัดหาวัวและหมูให้เนเฟลิน่าอย่างละสี่ตัวต่อหนึ่งวัน]
[ท่านได้รับพรมังกรเป็นรางวัลตอบแทนหลังจากรับภารกิจ]
ซู่วว—
ละอองพลังเวทสีทองเริ่มรวมตัวรอบกริด
ผู้เล่นคนแรก…
ไม่สิ บางทีอาจเป็นมนุษย์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับพรจากมังกร หัวใจของชายหนุ่มกำลังเต้นระรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,375
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ว้าว เจ๋งโคตร หวังว่าเลเวลพรมังกรจะได้ใช้ในอนาคต
ReplyDeleteแล้วถ้ามังกรยังกินไม่ลง
ReplyDelete🤣
ขอบคุณมากครับ😁🙏
ผมว่าด้วยความอับโชคสุดจะบัดซบของกริดพรน่าจะไม่ได้ดีมาก
ReplyDeleteหรอกมั้งนะ(เดา)แต่ของลอร์ดน่าจะโอเวอร์ยิ่งกว่าก็เป็นเด็กเทพหนินะ(เดาอีกเช่นกัน)