จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 976
วันที่ยี่สิบของยุทธการปกป้องหมู่บ้านเนตรมาร
“เลิกต่อต้านอย่างไร้ประโยชน์ได้แล้ว!”
“พวกแกไม่มีวันชนะ!”
ศัตรูยังคงบุกรุกเหมือนทุกวัน
เฉกเช่นเมื่อวานและเมื่อวานซืน พวกบัดซบปรากฏตัวกลางอากาศอันว่างเปล่าด้วยพลังลึกลับ
รอยแยกมิติบนท้องฟ้าเปิดออก แม้รูปลักษณ์และคลาสจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่ท่าทีของผู้บุกรุกยังคงโอหังเช่นเดิม
พวกมันล้วนคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งเสียเต็มประดา
“วะฮ่าฮ่า! ทางนี้โว้ย! เข้ามาเลย!”
“องครักษ์หลวงโอเวอร์เกียร์ รอยแมน จะลุยละนะ!”
“…พวกนายเลิกแหกปากกันสักที”
ฝ่ายปกป้องเมืองต่างแสดงสีหน้ากระตือรือร้นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคู่หูพีคซอร์ดและแวนเนอร์
หากเทียบกับสิบวันแรกแสนเบื่อหน่าย การได้ฆ่าฟันย่อมสนุกกว่ามาก
ฉัวะ—!
เทคนิคดาบใหม่เอี่ยมของพีคซอร์ด
‘เบญจสะบั้น’ (五 聯 斬)
ยารุกถูกตวัดด้วยความเร็วสูง เกิดเป็นแสงดาบสีแดงกลางอากาศจำนวนห้าเส้น
ผู้บุกรุกห้าคนถูกตัดผ่าร่างเป็นสองส่วนอย่างเท่าเทียม
[ค่าประสบการณ์ไอเท็ม ‘ยารุกต์’ เพิ่มขึ้น 0.01%]
“เยี่ยม!”
พีคซอร์ดพ่นลมหายใจด้วยสีหน้าสุดโอหัง การได้ทำศึกทุกวันไม่เพียงช่วยเพิ่มระดับทักษะ แต่ยังรวมถึงค่าประสบการณ์ไอเท็ม ซึ่งนับเป็นสิ่งที่มันโหยหามาตลอด
ขณะเดียวกัน แวนเนอร์ใช้กระบองเหล็กบดกะโหลกศัตรูจนแหลก มันมิอาจเข้าใจความสุขที่พีคซอร์ดได้รับ
“ทำไมนายถึงตื่นเต้นกับยารุกต์นัก?”
“หือ? หมายความว่ายังไง?”
“นายได้เหรียญทองไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงไม่ขอให้กริดสร้างดาบเล่มใหม่ที่แข็งแกร่งกว่ายารุกต์?”
พีคซอร์ดแสดงความชื่นชอบในดาบยารุกต์มาก มันใช้งานดาบเล่มนี้นานแรมปีจนสั่งสมค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาล
แต่เนื่องจากยารุกต์เป็นดาบเลเวลต่ำ ประสิทธิภาพจึงมีอาจทัดเทียมอาวุธรุ่นใหม่ที่กริดสร้าง
ไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่า ยารุกต์ที่พัฒนาจนถึงร่างสุดยอดจะทรงพลังกว่าดาบรุ่นล่าสุดของกริด
หลายคนจึงไม่เข้าใจสาเหตุที่พีคซอร์ดเอาแต่ยึดติดกับยารุกต์
“เรื่องนั้น…”
พีคซอร์ดสัมผัสได้ว่า คำถามของแวนเนอร์สมเหตุสมผล หลังจากเก็บกวาดศัตรูเบื้องหน้าหมด พีคซอร์ดหันกลับไปตอบ
“หากไม่นับประสิทธิภาพของตัวดาบ อสูรดาบยารุกต์คือมอนสเตอร์ที่มีประโยชน์ต่อก็อดกริดมาก… พวกนายคงจะเห็นว่าก็อดกริดลังเลที่จะส่ง NPC พิเศษเข้าสู่สงคราม สาเหตุเพราะคนเหล่านั้นมีเพียงชีวิตเดียว ซึ่งตรงกันข้ามกับอสูรดาบยารุกต์ หากหมอนั่นพัฒนาถึงร่างสุดยอด ก็อดกริดก็จะยิ่งแข็งแกร่งประหนึ่งติดปีก”
“นายจะคืนยารุกต์ให้กริดหลังจากมันกลายเป็นร่างสุดยอด?”
“แน่นอน หน้าที่ของฉันคือการพัฒนาให้สำเร็จ”
“งั้นหรือ…”
แวนเนอร์หมดคำพูด
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทุกการกระทำของพีคซอร์ดล้วนเพื่อผลประโยชน์ของกริด
อันที่จริง พีคซอร์ดสามารถไขว่คว้าเกียรติยศและความยิ่งใหญ่ของตัวเองได้ แต่ชายคนนี้กลับเลือกทุ่มเททุกสิ่งให้กริดแทน
หลังจากบดกะโหลกผู้บุกรุกด้วยโล่ใหญ่ แวนเนอร์หันมาตั้งคำถามใหม่
“นายจะได้อะไรหลังจากอุทิศทุกสิ่งทุกอย่างให้กริด? ฉันไม่ปฏิเสธว่าตัวเองก็ชื่นชอบกริดไม่น้อย แถมยังยินดีสละเวลาชีวิตบางส่วนให้ แต่ไม่ใช่เวลาทั้งชีวิตตลอดหลายปีเหมือนกับนาย ฉันทำแบบนั้นไม่ได้”
นี่เป็นอีกคำถามที่สมเหตุสมผล
หลายคนก็คิดแบบเดียวกัน พีคซอร์ดอุทิศตัวเองให้กริดอย่างเกินพอดี
ถึงกับยอมสละเวลาทั้งชีวิตเพื่อผู้อื่นเชียวหรือ?
ยากที่คนทั่วไปจะทำความเข้าใจได้
บุคคลตรงหน้ากลายเป็นสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด แวนเนอร์จ้องมองพีคซอร์ดด้วยสีหน้าสุดฉงน
“เริ่มจากตรงไหนดี… ก่อนอื่น พวกนายคงรู้อยู่แล้วว่ากริดเป็นพลเมืองเกาหลีใต้ สำหรับประเทศเกาหลีใต้ อาชีพเกมเมอร์ไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร ภาษีจากรายได้จึงสูงถึง 50% เงินดังกล่าวส่วนมากถูกนำไปพัฒนาระบบสาธารณสุขและการแพทย์ หมายความว่า กริดคือบุคคลที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของเกาหลีใต้พัฒนา กริดทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาหลีใต้ดีขึ้น ยิ่งกริดแข็งแกร่งและประสบความสำเร็จ เกาหลีใต้ก็ยิ่งเข้าใกล้ความเป็นมหาอำนาจ”
“…นายกำลังทำเพื่อประเทศ?”
“ถูกต้อง”
“บ้าน่า… นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ประธานาธิบดีรึไง?”
“ประธานใหญ่สมาคมเกาหลีใต้จงเจริญ”
“ทำไมนายถึงคลั่งชาติขนาดนี้?”
“ไม่ใช่ความคลั่งชาติเพียงอย่างเดียว ฉันยังนับถือในตัวกริดมาก และต้องการสนับสนุนเขาไปตลอดชีวิต”
“ก็ยังไม่ปรกติอยู่ดี”
“ได้ยินบ่อยตั้งแต่เด็กแล้วคำนี้”
“มันไม่ใช่คำชม… แต่หากพูดถึงความชื่นชอบที่มีต่อกริด ตัวฉันคงไม่ต่างจากนายมากนัก”
“ฉันไม่อยากเป็นคู่หูกับคนหัวล้านไปตลอดชีวิตหรอกนะ”
“ไอ้บัดซบ!”
…
วันที่ 22 ของยุทธการปกป้องหมู่บ้านเนตรมาร
“…มันมาอีกแล้ว”
กำลังรบจากโอเวอร์เกียร์เริ่มเผยสีหน้าอ่อนล้า
ศัตรูบุกโจมตีอย่างต่อเนื่องตลอดสิบวันเต็ม และทุกครั้งจะเป็นการบุกแบบฉับพลัน
สภาพจิตใจของทุกคนกำลังตึงเครียด
ปัญหาสำคัญคือ ทหารยังไม่แข็งแกร่งพอจะต่อกรกับผู้บุกรุกตามลำพัง พวกมันขาดการสนับสนุนจากเนตรมารและขุนพลโอเวอร์เกียร์ไม่ได้
แม้จะสวมสุดยอดชุดเกราะและดื่มโพชั่นเรย์ดันอย่างต่อเนื่อง แต่ยิ่งเวลาผ่านไป รอยชำรุดบนชุดเกราะก็ยิ่งทวีจำนวน สีหน้าของทหารแต่ละนายเริ่มอิดโรย
…
วันที่ 25 ของยุทธการปกป้องหมู่บ้านเนตรมาร
“ทหารเริ่มถึงขีดจำกัดแล้ว”
"ทัพเสริมยังมาไม่ถึงอีกหรือ? "
“กองทัพจักรวรรดิปิดล้อมหมู่บ้านเรพิโอไว้ทุกทิศ ทัพเสริมคงเข้ามาไม่ได้แน่”
“บ้าจริง…”
ทหารหัวกะทิกว่าหกร้อยนายที่โอเวอร์เกียร์แสนภาคภูมิใจ พวกมันกำลังอ่อนล้าสุดขีด
โพชั่นพลังชีวิตเรย์ดันที่เป็นเสบียงเริ่มขาดแคลน ชุดเกราะและอาวุธเกิดการชำรุดหนักเมื่อต้องต่อสู้อย่างยาวนาน ภายในหมู่บ้านเนตรมารไม่มีช่างเหล็กสำหรับซ่อมแซมแม้แต่คนเดียว
กระนั้น ทุกคนยังคงรบอย่างถวายหัว เป็นจิตวิญญาณที่ควรค่าแก่การยกย่อม
เลเวลเฉลี่ยของทหารเพิ่มขึ้นกว่า 20 ระดับตลอดสิบวันที่ผ่านมา ทหารหลายคนพัฒนาไปถึงเลเวล 300 จนได้รับการตื่นของค่าสถานะระดับสาม
ทหารกลุ่มนี้กลายเป็นสุดยอดกองกำลังหัวกะทิของอาณาจักรไปโดยปริยาย
หากทุกคนรอดกลับไปได้… อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะมีหน่วยรบคลาสระดับมากเกินกว่าครึ่งพัน
…
วันที่ 28 ของยุทธการปกป้องหมู่บ้านเนตรมาร
“หลีกทางไป!”
“คงไม่ได้… หมู่บ้านแห่งนี้กำลังถูกบุกรุกโดยฝีมือกองกำลังปริศนา พวกเราไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไปด้านใน”
“กล้าเรียกกองทัพมหาจักรวรรดิซาฮารันว่าคนนอกเชียวหรือ?”
กองทัพจักรวรรดิ ถึงคราวที่พวกมันเริ่มเคลื่อนไหว ทหารจำนวนมากมุงอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านเนตรมารใต้ดิน
ปัจจุบัน ปากทางเข้าหมู่บ้านถูกขวางไว้ด้วยกองทัพโอเวอร์เกียร์ ส่งผลให้กองทัพจักรวรรดิมิอาจเคลื่อนพลผ่านได้
ในสมองของทหารจักรวรรดิกำลังเกิดเอฟเฟคประหลาด
สิ่งนี้คือ ‘การกีดขวางจากระบบ’ เกิดจากสนธิสัญญาสงบศึกซึ่งส่งผลให้กองทัพของสองฝ่ายมิอาจทำร้ายซึ่งกันและกัน
ฝ่ายที่เริ่มใช้กลยุทธ์ดังกล่าวก่อนคือกองทัพจักรวรรดิ
ทหารจักรวรรดิได้ปิดล้อมหมู่บ้านเรพิโอจนทัพเสริมของโอเวอร์เกียร์มิอาจลงไปสนับสนุนพวกพ้องได้
...
วันที่ 31 ของยุทธการปกป้องหมู่บ้านเนตรมาร
“อึก…”
ใบหน้าทหารโอเวอร์เกียร์เริ่มขาวซีด
ทหารจักรวรรดิยังคงยืนกระจุกตัวหน้าทางเข้าเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ทหารโอเวอร์เกียร์มิอาจขยับเขยื้อนไปไหนได้
หากเปิดช่องว่างแม้เพียงน้อยนิด พวกมันจะกรูเข้าไปจัดการกับชาวเนตรมารอย่างโหดเหี้ยม
โดยทหารด้านในก็ต้องรับมือผู้บุกรุกอย่างไม่ได้หยุดพักเช่นกัน ชุดเกราะและอาวุธที่ชำรุดหนัก อายุขัยของพวกมันเหลืออีกไม่มากแล้ว…
เมื่อเริ่มสัมผัสถึงความสิ้นหวัง กำลังใจฝ่ายโอเวอร์เกียร์ถดถอยลงทีละนิด
“…”
ชาวเนตรมารต่อสู้เป็นแนวหลังโดยไม่กล่าวสิ่งใดมานานกว่าสองวันแล้ว
เผ่าเนตรมารที่คลั่งไคล้การพล่ามท่วมทุ่งชนิดน้ำไหลไฟดับ พวกมันกำลังอ่อนล้าจนไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะปริปาก
ในทางกลับกัน สีหน้าของทหารจักรวรรดิที่ผลัดเปลี่ยนมายืนกดดันหน้าประตูยังคงผ่อนคลาย
ยิ่งได้เห็นแววตาเย้ยหยันจากฝั่งจักรวรรดิ ทหารโอเวอร์เกียร์ก็ยิ่งท้อแท้
ปัง—
กระสุนสีเขียวหยกที่ถูกสร้างจากฝีมือมนุษย์พุ่งแหวกอากาศตัดผ่านเส้นขอบฟ้า เหยื่อเคราะห์ร้ายคือผู้บุกรุกที่เพิ่งปรากฏกายจากความว่างเปล่าด้านบนหมู่บ้านเนตรมาร พวกมันถูกดับลมหายใจทันทีหลังจากถูกส่งตัวเข้ามาด้านใน
สตรีผมดำยาวสลวย ใบหน้างดงามดุจดังตุ๊กตา เธอหันมากล่าวให้กำลังใจทหาร
“ฉันจะปกป้องทุกคนเอง”
สมบัติทุกชิ้นของกริด เธอยินดีพลีกายปกป้องแม้ตัวต้องตายนับพันครั้ง
เมื่อสิ้นเสียงยูร่า กระสุนเวทมนตร์นัดต่อไปก็ถูกลั่นจากปากกระบอก
…
วันที่ 33 ของยุทธการปกป้องหมู่บ้านเนตรมาร
“แฮ่ก… แฮ่ก”
เหล่าสิบวีรชนและทหารโอเวอร์เกียร์ต่างเริ่มเสียขวัญ
แม้พวกมันจะสับเปลี่ยนเวรยามเพื่อทำศึกและพักผ่อนตลอดเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่มิอาจฟื้นฟูได้คือความคงทนของไอเท็ม
ยิ่งการต่อสู้ดำเนินไป เสียงกรีดร้องจากอาวุธและชุดเกราะยิ่งดังระงม
อุปกรณ์ซ่อมแซมชนิดพกพาถูกใช้งานจนหมดเกลี้ยง หลายคนจำเป็นต้องงัดอาวุธรองเข้าสู้ ส่งผลให้ศัตรูเริ่มได้ใจ แถมจำนวนพวกมันก็ยังเพิ่มขึ้นทีละนิดในทุกวัน
แม้กระทั่งเหล่าสิบวีรชนฯ ก็มองไม่เห็นถึงชัยชนะ ถึงภายนอกจะนำทัพกลุ่มทหารอย่างฮึกเหิม แต่ภายในใจกำลังอ่อนล้าสุดขีด
“…”
คู่หูกระหายสงครามอย่างพีคซอร์ดและแวนเนอร์ก็ไม่มีข้อยกเว้น
สถานการณ์กำลังเลวร้าย
ทางเข้าเดียวของหมู่บ้านเนตรมารใต้ดินยังคงถูกปิดล้อมโดยกองทัพจักรวรรดิอย่างต่อเนื่อง
ในทางทฤษฎีแล้ว กำลังเสริมมิอาจถูกส่งเข้ามาช่วยเหลือได้ ไม่ว่าจะทหารหรือช่างตีเหล็ก
“พวกเราควรทำยังไงกันดี?”
“ออกคำสั่งมาได้เลย”
เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ต่างฝากชีวิตไว้กับลอเอล นี่คือเวทีที่เสนาธิการปีศาจอย่างลอเอลเฉิดฉายได้มากที่สุด
เฉกเช่นกริด ทุกคนยินดีฝากอนาคตของตัวเองไว้กับลอเอลโดยไม่เคลือบแคลง
ไม่ว่าใครจะกล่าวเช่นไร แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ลอเอลคือบุคคลสำคัญในการก่อตั้งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
ลอเอลยักไหล่
“พวกเราพยายามเท่าที่ทำได้แล้ว”
“…”
สถานการณ์ปัจจุบันคือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้วหรือ? ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้รึไง?
ท่ามกลางสีหน้าแสนดำมืดของพวกพ้อง ลอเอลแสยะยิ้ม
“แต่ไหนแต่ไร… แผนการดั้งเดิมของพวกเราคือ ‘ต้านศึกไว้จนกว่าเวลาที่เหมาะสมจะมาถึง’ และพวกเราทำได้ดีที่สุดแล้ว”
***
ณ หมู่บ้านเรพิโอ
“พวกแมลงสาบตายยากซะจริง”
ราวสิบกว่าขวบได้กระมัง?
เด็กสาวตัวน้อยเผยรอยยิ้มสุดเย็นชาซึ่งไม่สมกับวัยเลยสักนิด
“แต่คงใกล้ถึงขีดจำกัดแล้วครับ”
อัศวินเกราะดำที่ยืนข้างหล่อนกล่าวขึ้น
“ศัตรูแสดงท่าทีอ่อนล้าอย่างชัดเจน”
“แต่ผมได้ยินแบบนี้มาหลายวันแล้วนะครับ…”
“โยะโฮะโฮะ! บอกว่าใช่ก็ต้องใช่สิ!”
“หมายความว่า ตอนนี้สภาพจิตใจของพวกมันคงใกล้แตกสลายแล้วใช่ไหมครับ?”
“แน่นอน ไม่มีทางที่มนุษย์จะทนไหว… เจ้าลองจินตนาการสงครามตลอด 20 วันเต็มโดยไม่ได้หยุดพักดูสิ ศัตรูโผล่กลางอากาศโดยที่ตำแหน่งและช่วงเวลาไม่ตายตัว จิตใจใครจะทนไหวบ้าง? พวกมันยื้อได้นานขนาดนี้ก็นับว่าเยี่ยมมากแล้ว”
บั้งแสดงยศเหนือหัวไหล่ถูกสลักด้วยแถบสีทองห้าแถว สิ่งนี้คือสัญลักษณ์ของ ‘แม่ทัพใหญ่’ แห่งกองทัพ
หมายความว่า ตัวตนของชายวัยกลางคนที่สวมเกราะสีดำคืออัศวินอันดับหนึ่งแห่งกองอัศวินทมิฬอันลือเลื่อง
แต่แม่ทัพคนดังกล่าวกลับเอาอกเอาใจเด็กสาวผู้นี้มากเป็นพิเศษ
ใช่แล้ว
ตัวตนของเด็กสาวมิใช่ใครอื่น
มันคือ ‘โกลด์ฮิต’ ราชาจอมเวท
หนึ่งในห้าเสาหลักแห่งจักรวรรดิ มหาจอมเวทอันดับหนึ่งของทวีปตะวันตก และผู้ปกครองหอแห่งนิรันดร์
แม้อัศวินทมิฬจะสังกัดต่อราชวงศ์ซาฮารันโดยตรง แต่พวกมันมิอาจข้ามหน้าข้ามตาราชาจอมเวทไปได้
“หืม… เชื่อฉันสิ นี่คือหน่วยจู่โจมสุดท้ายที่จะได้เข้าไป”
ตลอดหลายสิบวันที่ผ่านมา โกลด์ฮิตส่งหน่วยจู่โจมเข้าไปในเมืองเนตรมารเกินกว่าหมื่นคนแล้ว
มันอาศัยความช่วยเหลือจากอุปกรณ์เคลื่อนย้ายมิติที่ชื่อ ‘แท่นน้ำพุ’ แต่ด้วยความที่ยังไม่ใช่รุ่นสมบูรณ์ โกลด์ฮิตจึงจำเป็นต้องใช้พลังเวทของตนในการส่งมนุษย์เข้าไปด้านใน
มานาของมันเหลืออีกไม่มาก
“เรียกคนมาเตรียมตัวได้แล้ว…”
หลังจากนั้นไม่นาน อัศวินจำนวนห้าสิบนายได้ยืนตั้งแถวใกล้กับโกลด์ฮิต
พวกมันคือ ‘อัศวินแสงคราม’ ที่อาณาจักรเก๊าส์แสนภาคภูมิใจ
วิชาดาบที่อัศวินแสงครามใช้จะห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีฟ้า ฝีมือและความเก่งกาจทัดเทียมอัศวินทมิฬแห่งจักรวรรดิ
แน่นอนว่าเป็นการเทียบตัวต่อตัว หากนำจำนวนมาเกี่ยวก้อง อัศวินทมิฬของจักรวรรดินั้นมีมากมายถึงหลักพัน ไม่ใช่สิ่งที่อาณาจักรเก๊าส์จะเทียบติด
โกลด์ฮิตหันไปออกคำสั่งแม่ทัพอัศวินแสงคราม
“ขึ้นไปยืนบนแท่นน้ำพุ ฉันจะส่งพวกเจ้าเข้าไปในหมู่บ้านเนตรมาร จงเก็บกวาดพวกโอเวอร์เกียร์ให้สิ้นซาก”
“…”
แม่ทัพหน่วยแสงครามขบกรามแน่น
แน่นอน ศัตรูอันดับหนึ่งของเก๊าส์คืออาณาจักรโอเวอร์เกียร์ที่มีชายแดนติดกัน
แถมอาณาจักรเก๊าส์ยังจงเกลียดจงชังกริดตั้งแต่สมัยยังมีอาณาจักรอีเทอนัล
กริดและลอเอลทำแสบในการยึดครองป้อมบอร์เนียวและรักษาไว้ได้จวบจนปัจจุบัน
เก๊าส์จึงมองโอเวอร์เกียร์เป็นศัตรูคู่อาฆาตนับแต่นั้น
แม่ทัพหน่วยแสงครามที่สูญเสียทหารให้โอเวอร์เกียร์ไปมาก มันย่อมต้องการล้างแค้นยิ่งกว่าใคร
แต่ไม่ใช่กับหนนี้…
ตัวมันคืออัศวินแห่งอาณาจักรเก๊าส์ มิใช่จักรวรรดิ เหตุใดต้องรับคำสั่งจากจักรวรรดิด้วย?
“หืม? มีอะไรอยากพูดงั้นหรือ?”
โกลด์ฮิตขมวดคิ้วเมื่อแม่ทัพอัศวินแสงครามไม่ขานตอบ
ในช่วงวินาทีความเป็นความตาย สมาชิกหน่วยแสงครามที่เหลือต่างพากันหายใจติดขัด
“…”
หากว่ากันตามสถานการณ์ปัจจุบัน โกลด์ฮิตและอัศวินทมิฬกำลังรุกรานและย่ำยีดินแดนของพวกมัน เรพิโอคือหมู่บ้านในความดูแลของอาณาจักรเก๊าส์…
แม่ทัพอัศวินแสงครามยืนก้มมองฝ่าเท้าเรียวเล็กของโกลด์ฮิตอยู่นาน ในที่สุด มันตัดสินใจคุกเข่าลง
“…ไม่ขอรับ พวกเราจะเข้าไปเข่นฆ่าศัตรู”
พวกมันแข็งข้อกับจักรวรรดิไม่ได้
มีแต่ต้องสู้เท่านั้น
ในวันที่จักรวรรดิส่งทูตไปยังวังหลวงอาณาจักรเก๊าส์เพื่อแจ้งความจำนงต้องการใช้งานหน่วยอัศวินแสงคราม พวกมันเตรียมทองมหาศาลวางกองไว้สองถุงใหญ่
ไม่มีเหตุให้อัศวินสีครามต้องปฏิเสธ
‘พวกเราสู้เพื่ออาณาจักรเก๊าส์ มิใช่จักรวรรดิ’
เมื่อแม่ทัพอัศวินแสงครามตัดสินใจได้ โกลด์ฮิตฉีกยิ้มกว้างพลางเริ่มพิธีส่งตัวด้วยเวทมนตร์
“ไม่ต้องกังวล อีกไม่นานพวกมันก็ตายหมดแล้ว”
ทั้งทหารและขุนนางระดับสูงของโอเวอร์เกียร์ที่อยู่ในหมู่บ้านเนตรมาร สภาพของพวกมันร่อแร่จวนเจียนล้มลง
ในไม่ช้า ราชาเนตรมารจะถูกสังหาร และภูมิปัญญาเนตรมารทั้งหมดจะตกเป็นของจักรวรรดิ
“คุคุคุ…”
นี่คือโอกาสอันดีที่จะได้ศึกษาพลังจากดวงตาเนตรมาร ‘ทั้งเป็น’
โกลด์ฮิตกำลังมีความสุขสุดขีด การลงทุนถ่อมาถึงหมู่บ้านทุรกันดารมิใช่สิ่งสูญเปล่า
จนกระทั่ง…
“ราชาโอเวอร์เกียร์มาแล้วขอรับ!”
อัศวินทมิฬรีบวิ่งเข้ามารายงานในค่ายด้วยสีหน้าดำมืด สาเหตุเพราะ ราชาโอเวอร์เกียร์มีท่าทีผ่อนคลาย ปราศจากความกังวลโดยสิ้นเชิง
แต่กระนั้น แม่ทัพกองอัศวินทมิฬยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉย
ไม่มีสิ่งใดต้องวิตก จักรวรรดิและโอเวอร์เกียร์ยังอยู่ในสนธิสัญญาพันธมิตร
หรือต่อให้ไม่ใช่ แต่ฝั่งมันก็ยังมีอัศวินทมิฬมากถึงสองกองร้อย รวมถึงราชาจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่
“หืม…”
โกลด์ฮิตรีบลุกขึ้นและเดินไปยังหน้าทางเข้าหมู่บ้านเรพิโอ
ชายหนุ่มผมดำยืนกอดอกด้วยสีหน้าสุดโอหัง เหนือศีรษะสวมมงกุฎสีเงินหรูหรา ราวกับกำลังอวดเบ่งในพลังอำนาจของราชาเสียเต็มประดา
ช่างน่าขันนัก
“ไม่เจอกันเสียนาน”
โกลด์ฮิตเดินแหวกทางทหารองครักษ์พร้อมกับกล่าวทักทายกริดด้วยสีหน้ามุ่งร้าย
“ลักพาตัวเด็กของฉันไป ขอเดาว่าเจ้าคงเลี้ยงพวกมันเยี่ยงปศุสัตว์ไม่ต่างกัน”
“แกรู้รึเปล่า… ว่าเด็กเหล่านั้นเหมือนกับปศุสัตว์ตรงไหน?”
“…?”
“เหมือนกันตรงที่… พวกเขาอ่อนแอ ไร้พลัง และถูกเลี้ยงเพื่อเป็นอาหารของแก”
โกลด์ฮิตชำเลืองมองลงไปด้านล่างเพื่อเหยียดหยันกริด
ประหนึ่งว่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ด้านล่างที่กำลังต่อสู้นั้นมีชะตากรรมไม่ต่างจากปศุสัตว์ที่รอถูกเชือด
“คิดว่าเปลี่ยนแปลงอะไรได้งั้นหรือ? เจ้าเป็นแค่กษัตริย์อาณาจักรเล็กเท่านั้น”
อันที่จริง โกลด์ฮิตเคยชื่นชอบกริดมาก ทั้งความเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตและพลังเวทของบราฮัม
แต่ไม่ใช่อีกแล้ว
มันกำลังเคียดแค้น สิ่งที่กริดช่วงชิงไปมีมูลค่ามหาศาลจนมิอาจอภัยได้
‘…หือ?’
ขณะโกลด์ฮิตหันหลังกลับเมื่อเหยียดหยันกริดเสร็จ มันพลันต้องชะงัก สาเหตุเพราะมวลพลังเวทแปลกประหลาดกำลังกระจุกตัวด้านบนท้องฟ้า
เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง โกลด์ฮิตได้พบกับเมฆอัสนี…
มันพ่นลมหายใจพลางหันไปหากริด
“เฮ่อะ! สนธิสัญญายังเหลืออีกสามเดือนมิใช่หรือ? ราชาโอเวอร์เกียร์เอ๋ย… เจ้าคิดจะทำอะไร? หากโจมตีใส่คนของจักรวรรดิตอนนี้ อย่างเจ้าไม่มีทางรับผลเสียที่ตามมาไหวแน่ ไม่คุ้มค่ากันหรอกนะ”
ผลเสียที่โกลด์ฮิตหมายถึง กริดซึ่งเป็นผู้เล่นย่อมเข้าใจได้ไม่ยาก มันคือบทลงโทษในระบบสนธิสัญญา
แน่นอน
กริดย่อมเข้าใจ ‘ระบบ’ อย่างถ่องแท้
“เป็นแกจะทำยังไงหลังจากถูกสุนัขเห่าใส่?”
ซ่าาาา—
เม็ดฝนสาดเทลงมาจากท้องฟ้า
“เขตแดนพายุสายฟ้าอสูร”
ฟ้าววว—
เปรี้ยง—!
อสนีบาตฟาดผ่าลงด้านล่าง
พลังอันเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่ไม่สนมิตรหรือศัตรูได้กวาดทุกสิ่งมีชีวิตที่ยืนขวางทางเข้าหมู่บ้านเรพิโอจนกระเด็นลอย
“…เจ้าคงเสียสติไปแล้ว!!”
เปรี้ยง—!
โกลด์ฮิตกางบาเรียสิบชั้นในพริบตาเพื่อสกัดกั้นสายฟ้าจากเบื้องบน
ราชาจอมเวทเริ่มระเบิดโทสะอันเกรี้ยวกราดอย่างเต็มพิกัด… เป็นฉากที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก ลางร้ายของหายนะกำลังคืบคลานเข้าหาหมู่บ้านเรพิโอ
กลุ่มก้อนเวทมนตร์จำนวนมหาศาลกำลังลอยท่วมท้องฟ้า
ทั่วทั้งทวีป บุคคลที่ไม่ตกตะลึงในพลังอันยิ่งใหญ่ของโกลด์ฮิตคงมีเพียงหยิบมือเดียว มันมิได้เป็นมหาจอมเวทอันดับหนึ่งของทวีปเพราะโชคช่วย
แต่กริดคือหนึ่งในหยิบมือดังกล่าว
หมอกม่วงรอบกายราชาวีรบุรุษกำลังฟุ้งกระจายอย่างเข้มข้น ชายหนุ่มจดจ้องโกลด์ฮิตด้วยแววตาแสนเย็นชา
“อย่างแกไม่มีสิทธิ์ขวางทางฉัน”
“…!”
พระเจ้า… มีคนที่ไม่หวาดกลัวอิทธิฤทธิ์ของราชาจอมเวทด้วยหรือ?
สีหน้าของเหล่าอัศวินทมิฬพลันดำมืด พวกมันแสร้งใจเย็นแค่เปลือกนอก แต่ภายในใจกำลังหวาดผวาสุดขีด
มันคาดไม่ถึงเลยว่า… ราชาโอเวอร์เกียร์จะเปิดฉากอาละวาดตั้งแต่เริ่ม
และมันก็ไม่เคยจินตนาการว่า…
เขาจะทรงพลังถึงเพียงนี้
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,369
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ฆ่า!!! 😡
ReplyDeleteต้องเอาให้เจ็บ
ReplyDelete