จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 980



“…”


เหล่าเสนาบดีล้วนตายเรียบ


หมู่บ้านที่ร่วมแรงร่วมใจสร้างขึ้นอย่างยากลำบากถูกทำลายพินาศยับเยิน


ชาวเนตรมารต้องทุกข์ทรมานเพราะราชาไม่เอาไหนอย่างตน ทหารกล้าจากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์จำนวนมากต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้าเพื่อปกป้องชาวเนตรมาร


ตัวมันช่าง…


ราชาเนตรมารที่นั่งบนบัลลังก์ใหญ่ทำได้เพียงกำหมัดเล็กๆ จนเส้นเลือดปูด


ความสามารถเดียวของมันคือ ‘ทำลาย’


มันมิอาจปกป้องใครได้ด้วยผลจากคำสาปที่ติดตัวตั้งแต่เด็ก


เนื่องจากอำนาจทำลายล้างมหาศาลที่ไม่แบ่งแยกฝักฝ่าย พลังของมันจึงมิอาจนำมาใช้ช่วยเหลือใครได้


“เจ้าคือราชาเนตรมารสินะ?”


“…”


เป็นเสียงของผู้บุกรุก


ฝีเท้าใกล้เข้ามาทุกขณะ กลิ่นโลหิตจากเสนาบดีเริ่มลอยฟุ้งเตะจมูก


อันที่จริง ราชาเนตรมารต้องการเปิดผ้าปิดตาและทำลายทุกสรรพสิ่งให้รู้แล้วรู้รอด มันปรารถนามอบหายนะชั่วนิรันดร์แก่ผู้บุกรุกโดยไม่หวั่นเกรงความตาย


มันต้องการเพื่อชดเชยบาปที่เป็นได้เพียงราชาไร้ประโยชน์ ต้องการชดเชยบาปที่ตนทำให้ชาวเนตรมารต้องพบชะตากรรมอันน่าเศร้า


แต่มันกัดทนไว้


ราชาเนตรมารขบกรามแน่นจนเลือดไหลซึมจากมุมปาก ใบหน้าของมันกำลังเจ็บแค้น


ราชาเนตรมารยังคงไม่ลืมคำเตือนที่รัฐมนตรีลอเอลแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เคยกล่าว


‘ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ฝ่าบาทห้ามถอดผ้าปิดตาออกเด็ดขาด พวกมันครอบครองเนตรมังกรขาวไว้แล้ว’


สัญญาแห่งลูกชายต้องไม่คืนคำโดยง่าย


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สัญญาที่รับปากไว้กับพวกพ้องคนสำคัญ


หากมันตายตอนนี้ เลือดทุกหยดที่ทหารโอเวอร์เกียร์หลั่งเพื่อมันจะกลายเป็นสิ่งสูญเปล่า มันคงไม่มีหน้าไปพบทหารกล้าที่ยอมสละชีวิตตายแทนราชาไร้ความสามารถในโลกวิญญาณ


ตนต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเท่านั้น


“ไม่ขัดขืนสักนิดเลยหรือ”


ผู้บุกรุกกล่าวอย่างราบเรียบประหนึ่งกำลังเย้ยหยัน


มันเดินเข้ามาใกล้ ใช้มือคว้าคอเราไว้


จากนั้นก็ยกตัวเราขึ้นจากบัลลังก์


แบบนี้ดีแล้ว… ราชาไร้ความสามารถอย่างเราไม่คู่ควรกับบัลลังก์นี้


จนกระทั่ง


“ปล่อยมือของแกซะ!!”


ใครบางคนปรากฏตัวและตะโกนขึ้น


เสียงของเขา… เราจำได้แม่นยำไม่มีวันลืม


สหายคนแรกและคนเดียวที่เราเคยเห็นหน้านับตั้งแต่เกิดมา


บุคคลเดียวที่สบตากับเราโดยที่ยังมีชีวิตอยู่บุคคลเดียวที่ทำให้เรายิ้มได้โดยไม่หวาดกลัว


‘…กริด’


เจ้ามาช่วยเราหรือ?


เจ้าหวังสิ่งใดจากมิตรสหายไร้ประโยชน์เยี่ยงเรา?


ความขื่นขมมีมากกว่าความซาบซึ้ง


‘เจ้าเลือกสหายผิดคนแล้ว’


ขณะจิตใจของราชาเนตรมารกำลังถูกบาปกัดกันอย่างรุนแรง


“ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน!”


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!


รัศมีดาบสุดทรงพลังหลายสิบเส้นพุ่งตรงมายังร่างราชาเนตรมารที่ถูกผู้บุกรุกคว้าคอไว้


แน่นอน ราชาเนตรมารได้รับบาดเจ็บ บาดแผลจากแรงระเบิดเกิดขึ้นตามร่างกายหลายจุด


มันตัดพ้อในใจ


‘นั่นสินะ… เขาคงคิดฆ่าเราไปด้วย’


นึกว่าจะมาช่วยกันเสียอีก…


จิตใจราชาเนตรมารพลันเจ็บแปลบยิ่งกว่าบาดแผลตามลำตัว พวกพ้องที่มันเคยเชื่อใจกลับหันคมดาบใส่โดยไม่ลังเล


ฉึบ—


แกรนมาสเตอร์คลายผ้าปิดตาออก


นัยน์ตาสีฟ้าข้างแดงข้างของราชาเนตรมารถูกเผยสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง


สิ่งแรกที่มันเห็นคือ ‘เนตรมังกรขาว’


ความคิดเดียวในหัวคือ


จบสิ้นแล้ว


เปลวเพลิงสีแดงอันร้อนแรงจะแผดเผาร่างกายเราจนเหลือเพียงเศษขี้เถ้า เปลวเพลิงสีฟ้าครามจะแช่ดวงวิญญาณจนเราแข็งและแตกละเอียด


‘ขอโทษที่ทำให้การเสียสละของพวกเจ้าสูญเปล่า…’


ในห้วงวินาทีความเป็นความตาย ราชาเนตรมารขอโทษทุกคนจากก้นบึ้งหัวใจ


มันรู้สึกผิดบาปต่อทหารโอเวอร์เกียร์ทุกคนยอมที่สละชีวิตให้


ทว่า


“สวมไว้ซะ!”


กริดเคลื่อนย้ายมิติมายืนข้างกายพร้อมกับแว่นตาในมือ


ซู่วว…


ทันใดนั้น เวทมนตร์ที่ถูกปลดปล่อยจาก ‘ดวงตาต้องสาป’ พลันสลายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น


“อะ…!”


นัยน์ที่ซ่อนใต้เลนส์กำลังสั่นระริก


ภาพของโลก… ที่ไม่มีสิ่งใดถูกทำลาย


วิวทิวทัศน์แสนธรรมดาสำหรับคนทั่วไป แต่มันคือสิ่งแปลกใหม่ที่ราชาเนตรมารเพิ่งเคยสัมผัสเป็นครั้งแรก


“เป็นไป… ไม่ได้…”


บุคคลที่ไม่มีสิทธิ์ให้มองเห็นเยี่ยงมัน


สำหรับผู้ที่ถูกโลกภายนอกตัดขาดการมองเห็นมาตลอดชีวิต ความตื่นเต้นยินดีที่ได้สัมผัสโลกด้วยสายตาจึงมหาศาลเหนือคำบรรยาย


ราชาเนตรมารหลงลืมสถานการณ์เฉียดตายเมื่อครู่จนหมดสิ้น สายตาของมันจ้องมองเสาหินอ่อนขัดมันในท้องพระโรงอย่างสั่นระริก


ภาพเด็กเล็กที่สวมมงกุฎหรูหราเหนือศีรษะกำลังส่องสะท้อนจากเสาหินขัดมัน


นี่น่ะหรือ… ใบหน้าของเรา


“อะ… อะ…”


ราชาเนตรมารเลื่อนฝ่ามือขึ้นสัมผัสใบหน้า มันลูบคลำอย่างทะนุถนอมก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบห้อง


ท่าทีราวกับมังกรเพิ่งฟักออกจากไข่และได้เห็นโลกกว้างเป็นครั้งแรก


กริดเอ่ยปาก


“ไปจากที่นี่กันเถอะ ข้างนอกมีโลกใบใหญ่กว่านี้รออยู่”


“กริด…”


ราชาเนตรมารเบือนหน้าไปมองกริด รอยยิ้มของชายหนุ่มยังคงสดใสไม่ต่างจากวันแรกที่พบกัน


ความโดดเดี่ยวในจิตใจได้สลายไปพร้อมกับฝ่ามือที่ใหญ่และอบอุ่นซึ่งกำลังยื่นเข้าหา


“เรา… ไม่มีประโยชน์กับเจ้า”


เรามันไร้ความสามารถ


คนไร้ประโยชน์เยี่ยงเรามีสิทธิ์รับไมตรีจากใครด้วยหรือ?


ราชาเนตรมารออกอาการลังเล


กริดรีบคว้าฝ่ามือเรียวเล็กที่กำลังสั่นระริกไว้แน่นถนัด


“โลกภายนอกยังมีอะไรให้ทำอีกมาก รีบไปกันเถอะ ทุกคนรอนายอยู่ ทั้งทหารของฉัน และประชาชนของนาย พวกเขาต้องการเห็นนายกลับออกไปอย่างปลอดภัย”


“พวกเขายัง… ไม่ตาย… งั้นหรือ…”


ขอบคุณสวรรค์


ขอบคุณจริงๆ


หมับ


ราชาเนตรมารออกแรงบีบมือกริดแน่น


ชายหนุ่มรีบหันไปส่งสัญญาณให้สติกส์ที่ร่ายเวทเคลื่อนย้ายมิติรอไว้แล้ว


ชิ้ง—!


เวทมนตร์ถูกปลดปล่อย


กริด สติกส์ ราชาเนตรมาร และแกรนมาสเตอร์ ทุกคนถูกส่งออกจากปราสาทอย่างพร้อมเพรียง


“…หือ? สี่?”


ทำไมถึงมีสี่คน?


“นายเอามันออกมาด้วยทำไม!”


ใบหน้าสติกส์พลันขาวซีดขณะกริดชี้นิ้วไปยังแกรนมาสเตอร์


“ผมไม่ได้พาออกมา… เขาตามมาที่นี่ด้วยเวทมนตร์ของตัวเอง”


“อะไรนะ? คนปรกติทำแบบนี้ได้ด้วยรึไง?”


“…ไม่ได้”


“แล้วมันทำได้ยังไง?”


“เรื่องนั้น… ผมเองก็อยากทราบ”


สติกส์กำลังฉงนสุดขีด


ส่วนกริดมีสีหน้าดำมืด


ขณะทั้งสองกำลังโต้เตียง ราชาเนตรมารได้กวาดสายตามองพวกพ้องทุกคนที่รวมตัวหน้าทางเข้าปราสาท


มันได้เห็นมนุษย์คนอื่นนอกจากกริดเป็นครั้งแรก คนเหล่านี้สง่างามยิ่งกว่าที่มันจินตนาการไว้นับร้อยนับพันเท่า


“ล้อมมันไว้!!”


ขุนพลโอเวอร์เกียร์ออกคำสั่งกับทหารด้วยน้ำเสียงขึงขัง ทหารโอเวอร์เกียร์จำนวนมากรีบตั้งแถวปิดล้อมทุกทางหนีของแขกไม่ได้รับเชิญ ปลายแหลมของหอกดาบถูกเล็งไปยังใจกลางวงกลมอย่างพร้อมเพรียง


แม้จะมีอยู่ศัตรูอยู่รอบทิศ แต่แกรนมาสเตอร์ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยไม่แปรเปลี่ยน


กริดข่มขู่


“ยอมแพ้ซะเถอะ! แผนของแกพังไม่เป็นท่าแล้ว!”


แกรนมาสเตอร์พยักหน้าขณะยืนใช้มือกอดอก


“อา… ผิดคาดไปหน่อย”


เป้าหมายหลักแกรนมาสเตอร์ย่อมเป็นความตายของราชาเนตรมาร ทุกสิ่งจะไม่ซับซ้อนหากราชาเนตรมารฆ่าตัวตายด้วยการมองเนตรมังกรขาวที่วัลฮัลล่ามอบให้


แต่แผนเดิมมีอันต้องล้มเหลวทันทีที่กริดปรากฏตัว


“เจ้าครอบครองเพชรอีเธอร์ที่จอมอสูรระดับสูงปกป้องด้วยวิธีใดกัน? หรือว่า… สงสัยเจ้า ‘สุมา’ นั่นต้มข้าจนเปื่อย”


สุมาเต็กโชแห่งทวีปตะวันออก


ในฐานะเสนาธิการกองทัพวัลฮัลล่า สุมาเต็กโชเรียกร้องสิ่งแลกเปลี่ยนกับเนตรมังกรขาวในมูลค่าสูงลิบ แต่ทางจักรวรรดิก็จัดหาทั้งหมดให้โดยไม่ลังเล


เนตรมังกรขาวมีมูลค่าถึงเพียงนั้น


แต่ในความเป็นจริง เนตรมังกรขาวจะไร้ราคาทันทีเมื่อตัวตนเพชรอีเธอร์ปรากฏสู่โลกภายนอก อย่างน้อยก็มิอาจถูกใช้เพื่อจัดการกับราชาเนตรมารได้อีก


จักรวรรดิต้องสูญเงินทองมูลค่ามหาศาลไปอย่างเปล่าประโยชน์


“ช่วยไม่ได้ละนะ วันนี้คงต้องขอตัวก่อน”


แกรนมาสเตอร์ยอมรามือง่ายกว่าที่คิด


เมื่อกล่าวจบ มันหันหลังให้กริดโดยไม่แยแส เพียงก้าวเดียว แกรนมาสเตอร์หายตัวไปจากวงล้อมและปรากฏข้างกายโกลด์ฮิตกับอัศวินทมิฬที่ยืนรอไม่ไกลนัก


กริดยืนมองแผ่นหลังแกรนมาสเตอร์อย่างเหม่อลอยราวกับผ่านไปนานนับสิบปี จิสึกะรีบเดินมากระซิบข้างหู


“พวกเราต้องฆ่ามันที่นี่”


เธอมั่นใจว่าแกรนมาสเตอร์คือตัวตนระดับภัยพิบัติ หากไม่รีบฆ่าและปล่อยให้มันพัฒนาตัวเองในอนาคต เกรงว่าจะไม่มีใครในทวีปที่หยุดมันได้


ในขณะที่พรสวรรค์ของแกรนมาสเตอร์ยังไม่แบ่งบาน นี่คือโอกาสทอง


ถึงจะอยู่ในช่วงสนธิสัญญาสงบศึก แต่การโจมตีใส่แกรนมาสเตอร์ด้วยทักษะที่ไม่แบ่งแยกมิตรศัตรูยังสามารถกระทำได้ และฝ่ายโอเวอร์เกียร์มีจำนวนที่เหนือกว่ามาก


นั่นคือสิ่งที่จิสึกะคิดไว้


แต่กริดเห็นต่าง


“ถ้าเธอลงมือ เราทุกคนจะตายกันหมด”


ลำพังโกลด์ฮิตสามารถเก็บกวาดทหารโอเวอร์เกียร์ทุกคนในพริบตาได้ด้วยเวทหมู่ที่ทรงพลัง


ไม่มีสิ่งใดรับประกันว่าพลังถอดรหัสเวทมนตร์ของกริดจะทำงาน และถึงจะโชคดีทำงานในหนแรก แต่ทักษะก็มีระยะหน่วงถึงสามวินาที ด้วยช่องว่างดังกล่าว ราชาจอมเวทโกลด์ฮิตจะปลดปล่อยเวทมนตร์ชุดที่สองได้แน่


ไม่เพียงเท่านั้น ปัญหาใหญ่ที่สุดคือพลังที่แท้จริงของแกรนมาสเตอร์ซึ่งยังเป็นปริศนา


จักรวรรดิมีสัตว์ประหลาดอยู่มาก


คนสนิทคู่กายจักรพรรดิและหัวหน้าองครักษ์หลวง ‘เบอิน’ มันขึ้นชื่อในด้านความแข็งแกร่งหาผู้ใดเปรียบ แถมยังมีทักษะเคลื่อนที่ในพริบตาเหมาะแก่การเป็นองครักษ์


ราชาจอมเวท ‘โกลด์ฮิต’ ผู้ปกครองหอแห่งนิรันดร์ ผู้ครอบครองเวทหมู่สุดทรงพลังที่ทำให้จำนวนศัตรูกลายเป็นสิ่งไร้ค่า


ไคล์ เด็กหนุ่มมากพรสวรรค์ที่ฮวนเดอร์ชื่นชอบเป็นพิเศษ


และคนสุดท้าย ‘เกราะอสูร’ ชานสเลอร์


ไม่เหมือนกับสี่นามข้างต้น ชื่อของแกรนมาสเตอร์ ‘ซิกเฟรคเตอร์’ โด่งดังน้อยที่สุดจากบรรดาห้าเสาหลัก


แต่นั่นเป็นเพราะ… การกระทำของมันไม่เคยถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีผู้รอดชีวิตกลับมาเล่าขาน


มันไม่เคยปรากฏตัวสู่สาธารณะ ส่งผลให้ชื่อเสียงมิอาจทัดเทียมห้าเสาหลักคนอื่น


แต่กริดไม่ใช่คนทั่วไป เขาพอจะมีข้อมูลของแกรนมาสเตอร์ประดับความรู้อยู่บ้าง


‘บุคคลอันดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิ…’


เมอร์เซเดสเคยกล่าวไว้ชัดเจน สี่เสาหลักที่เหลือล้วนหวาดกลัวและเกรงใจแกรนมาสเตอร์อย่างมาก หรือแม้กระทั่งลิมชอลโฮก็ยังออกปากเตือนกริดถึงความน่ากลัวของมัน


ไม่เพียงเท่านั้น ข้อความระบบราชาวีรบุรุษยังร้องเตือนด้วยถ้อยคำไม่ปรกติ


แกรนมาสเตอร์ไม่ใช่ ‘ตัวตนที่แข็งแกร่งแห่งยุคสมัยปัจจุบัน’ เหมือนที่เคยเตือนบ่อยครั้ง แต่มันคือ ‘สิ่งมีชีวิตระดับสูงที่แข็งแกร่งแห่งยุคสมัยปัจจุบัน’


กริดประเมินให้แกรนมาสเตอร์อยู่ระดับเดียวกับการัมหรือสูงกว่า


หมายความว่า ในยุคสมัยปัจจุบัน ยังไม่มีผู้เล่นหรือกองทัพผู้เล่นใดที่เอาชนะมันได้


‘เราต้องรีบแข็งแกร่งโดยเร็ว’


ยังเหลือภูเขาอีกหลายลูกที่คอยเป็นอุปสรรคขัดขวาง และเขาต้องปีนข้ามทุกลูกอย่างเลี่ยงไม่ได้


นี่คือความตั้งมั่นหลังจากได้เห็นพัฒนาการที่ก้าวกระโดดของครอเกลในเวลาเพียงหนึ่งปี


ผู้เล่นมีศักยภาพไร้ขีดจำกัด


กริดเชื่อเช่นนั้น


‘ทุกคน… มาแข็งแกร่งไปด้วยกัน!’


กริดลั่นวาจาหนักแน่นในใจพร้อมกับหันไปมองราชาเนตรมาร


แว่นตาอีเธอร์ช่วยให้มันมองเห็นใบหน้าของประชาชนทุกคนรวมถึงภรรยาและบุตรชายเต็มสองตา ราชาเนตรมารใช้ท่อนแขนโอบกอดคนเหล่านั้นไว้อย่างแนบแน่น


เป็นภาพที่มองแล้วอบอุ่นเหนือคำบรรยาย


แต่ว่า


แกร่ก! เปรี้ยะ! เปรี้ยะ…!


แว่นตาอีเธอร์เริ่มเกิดรอยร้าว


“หือ? เฮ้!! รีบหลับตาเร็วเข้า!!”


กริดวิ่งไปหาราชาเนตรมารด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เขารีบยื่นหมวกเหล็กที่บริเวณดวงตาสร้างจาก ‘แว่นตาอีเธอร์’ ให้มันสวม


***


“สวัสดีครับ ขณะนี้ผมอยู่ที่ไรน์ฮาร์ท เมืองหลวงของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์อันโด่งดัง!”


พัฒนาการของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เริ่มก้าวกระโดดหลังจากช่างตีเหล็กทั่วทวีปหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย


ปัจจุบัน มวลชนกำลังรวมตัวหนาแน่นอย่างผิดปรกติ สถานีข่าวจากหลายชาติต่างส่งทีมงานเข้าร่วมเหตุการณ์พร้อมหน้า


เผ่าเนตรมาร


ข่าวใหญ่เกิดขึ้นเพราะเผ่าเนตรมารที่พบเห็นตัวได้ยาก ย้ายที่พักพิงมาอยู่กับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์อย่างเป็นทางการ


“น่ารักกว่าที่ได้ยินมาอีกนะ”


“ใช่แล้ว ฉันจินตนาการไว้น่าขนลุกกว่านี้”


“นึกว่าตุ๊กตาเดินได้ล่ะ”


“แต่ทำไมต้องสวมแว่นด้วย?”


เผ่าเนตรมารกว่าพันตนกำลังจัดขบวนแห่ไปรอบเมืองพร้อมกับเหล่าสิบวีรชนฯ แห่งอาณาจักร


แน่นอน ความน่ารักน่าเอ็นดูของเผ่าเนตรมารกำลังเป็นที่สนใจของคนทั่วโลก


ท้ายสุดของขบวนแห่เป็นใครไปไม่ได้นอกจากกริดและราชาเนตรมาร


ปัจจุบัน ฉากหลังของมหานครไรน์ฮาร์ทอันกว้างใหญ่กำลังฉาบด้วยแสงทองอร่ามจากดวงอาทิตย์


ความงดงามและอลังการของทิวทัศน์กำลังซึมซับเข้าไปในดวงตาของราชาเนตรมารโดยไม่ขาดตกบกพร่อง


“งดงามเหนือคำบรรยาย… ทั้งท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ เมืองใหญ่ ผู้คน… ทุกสิ่งมหัศจรรย์ยิ่งกว่าที่เราจินตนาการไว้มาก”


กริดฉีกยิ้มกว้าง


“เดี๋ยวก็เบื่อน่า… หลังจากได้เห็นบ่อยเข้า นายจะไม่พูดแบบนี้อีก”


“…เหมือนฝันไปเลย”


ราชาเนตรมารพลันชะงักฝีเท้า


กริดหยุดเดิน


ขบวนแห่ทั้งหมดหยุดลง


ชาวเมืองสองข้างถนนต่างหันมองราชาเนตรมารเป็นตาเดียว กล้องจากสำนักข่าวทั่วโลกก็เช่นกัน พวกมันไม่หันไปโฟกัสยังจุดอื่น


ขณะที่ทุกคนกำลังจดจ้อง


“ขอบคุณมาก… ขอบคุณจริงๆ”


ราชาเนตรมารโค้งศีรษะให้กริดอย่างนอบน้อม เช่นเดียวกันกับชาวเนตรมารทั้งหนึ่งพันคน


ตุ้บ! ผลั่ก!


เมื่อหัวที่มีขนาดไม่สมส่วนกับร่างกายเอนไปด้านหน้า เผ่าเนตรมารบางคนเสียสมดุลและหกล้ม แต่พวกมันก็ตีเนียนรีบลุกยืนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


“พวกเราชาวเนตรมารขอตอบแทนบุญคุณของท่านไปตลอดชีวิต”


ตึก!


ราชาเนตรมารคุกเข่าลง


กริดพลันกระอักกระอ่วน เขาพยายามประคองให้ราชาเนตรมารลุกขึ้น


แต่อีกฝ่ายปฏิเสธ


“ตัวข้าและชาวเนตรมารทุกคน… พวกเราขอเป็นบริวารรับใช้กษัตริย์กริดแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ตราบชั่วนิรันดร์”


“…!”


อันที่จริง สิ่งนี้ไม่น่าแปลกใจเท่าไรนัก


เผ่าเนตรมารเป็นชนเผ่าเล็กที่มีจำนวนเพียงหลักพัน หลังจากตำแหน่งหมู่บ้านถูกเปิดเผย สถานการณ์ของพวกมันจึงเข้าขั้นวิกฤติ ชาวเนตรมารไม่มีที่หลบซ่อนอื่น และพันธมิตรเดียวของพวกมันคืออาณาจักรโอเวอร์เกียร์


และหากต้องการอพยพอาศัยอยู่ในอาณาจักร ทางเลือกเดียวคือสาบานตนรับใช้กษัตริย์อย่างกริด


แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าราชาเนตรมารจะกล่าวต่อหน้าสถานที่ซึ่งผู้คนพลุกพล่านอย่างใจกลางถนนขณะกำลังแห่ขบวน


แต่ไหนแต่ไร เผ่าเนตรมารมองมนุษย์เป็นสายพันธุ์ที่ต่ำชั้นกว่า


พวกมันอวดโอ่และทระนงตนว่าอยู่ระดับเดียวกับแวมไพร์ พฤติกรรมที่มีต่อมนุษย์จึงเป็นการดูแคลนมาตลอด


“ท่านขจัดคำสาปที่ตัวเราได้รับตั้งแต่เกิด ท่านช่วยชีวิตเราในช่วงเวลาความเป็นความตาย การได้พบท่านให้หัวใจเราเย็นลงยิ่งกว่าน้ำแข็ง ท่านได้ชำระล้างคราบโลหิตสีแดงฉานที่สกปรกเปรอะเปื้อนไปทั่วปราสาท ‘ดาร์คเฟลมไวท์ไอซ์’ … ท่านกริด เราขอจงรักภักดีต่อท่าน สิ่งนี้คือชะตาชีวิตใหม่ของเรา และยังเป็นเส้นทางใหม่ที่ชาวเนตรมารทุกคนต้องปฏิบัติสืบทอดต่อไปยังชั่วลูกหลาน นับแต่นี้เป็นต้นไป ตัวเราขอสละบัลลังก์ที่เคยนั่งเท่าเทียมท่าน และรับใช้ท่านแทบเท้าไปชั่วชีวิต”


“…”


เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิด


ประชาชนเรือนหมื่นรอบสองข้างทางถนนต่างถูกบรรยากาศเงียบงันครอบงำ ไม่มีแม้แต่เสียงหายใจเพียงแผ่วเบาให้ได้ยิน


ลอเอลเลื่อนมือหนึ่งข้างขึ้นมาปิดใบหน้า


มันเชิดคางขึ้นพร้อมกับเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย


“คุคุ… กาลเวลาถูกแช่แข็งเรียบร้อยแล้ว”


ขณะเดียวกัน


< (ข่าวด่วน) ราชาเนตรมารกลายเป็นบริวารกริดแล้ว! >


<เป็นอีกครั้งที่กริดได้ครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่! >


<อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะพัฒนาไปได้ไกลขนาดไหนกันแน่? >


< (บทความ) วิเคราะห์ความแข็งแกร่งของเผ่าเนตรมารและราชาเนตรมาร>


<สันตะปาปาดาเมี่ยนเผยว่า เขาและเนตรมารคือพวกพ้องที่พัดพรากจากในกันชาติปางก่อน…>


<วอล์ตดิสนีย์ บริษัทสร้างภาพยนต์อนิเมชันอันดับหนึ่งของโลกประกาศว่าจะสร้างหนังที่มีตัวเอกเป็นชาวเนตรมาร… ราชาโอเวอร์เกียร์จะมีความเห็นอย่างไรบ้าง? >


กริดได้ครอบครองพลังที่ยิ่งใหญ่


สิ่งนี้เกิดขึ้นได้เพราะความเสียสละและความจงรักภักดีที่พวกพ้องมอบให้


แต่ผลตอบแทนที่ได้รับจากเหตุการณ์ดังกล่าว มิใช่การเข้าร่วมเป็นพวกของเผ่าเนตรมารเพียงอย่างเดียว…


การพบกันระหว่าง ‘มังกรน้อย’ และกริดกำลังจะเกิดในอนาคตอันใกล้


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,373

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ลอเอลยังพอว่าสันตะปาปาดาเมี่ยนก็เอาด้วยเรอะ555+

    ReplyDelete
    Replies
    1. ความเป็นคนปกติกำลังจะหมดจากโอเวอร์เกียร์

      Delete
    2. ลอเอล โอตะ ทางฝั่งอเมริกา
      ดาเมี่ยน โอตะ ทางฝั่งญี่ปุ่น
      แลจะเข้าขากันดี

      Delete
  2. มังกือจะออกจากไข่แล้วววว

    ReplyDelete
  3. ถ้าได้ครอบครองมังกรนี่น่าจะไร้เทียมทานมั้งน่ะ

    ReplyDelete
  4. ลอเอลถูกใจสิ่งนี้มากๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ReplyDelete
  5. ขนาดตอนนี้ยังไม่มีใครสู้แกรนมาสเตอร์ได้ กริดนายต้องเอามาเป็นพวกให้ได้

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00