จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 968
“สวัสดีครับ ผมคือกริด”
ชายหนุ่มแนะนำตัวสั้นห้วนพลางกวาดสายตามองรอบห้องแถลงข่าวที่โอ่โถง
นักข่าวหลายพันอัดแน่นจนเต็มทุกอณูประหนึ่งปลากระป๋องเบียดเสียด
แต่กริดมิได้ประหม่า ในฐานะกษัตริย์แห่งอาณาจักร เขาย่อมคุ้นชินกับภาพตรงหน้าอยู่แล้ว
หลังจากกวาดสายตาเล็กน้อย กริดชี้นิ้วไปยังนักข่าวสาวผมทองคนหนึ่ง
“คุณ เชิญถาม”
ผู้โชคดีที่ได้รับหน้าที่ตั้งคำถามแรกคือนักข่าวจากช่องทีวีแห่งชาติของแคนาดา
กริดชื่นชอบสีหน้าที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นและปราศจากบรรยากาศด้านลบของเธอ
นั่นคือสาเหตุที่เขาเลือก
เพียงสำรวจรอบห้องแถลงข่าวแค่ชั่วครู่ กริดสามารถอ่านสีหน้าของนักข่าวส่วนใหญ่ในการกวาดมองปราดเดียว
ชายหนุ่มเริ่มต้นงานแถลงข่าวของตัวเองได้ด้วยความราบรื่นสูงสุด
“ดิฉันแคโรไลน์จากช่อง CBC ของแคนาดาค่ะ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับชัยชนะของคุณในบทบาทราชาอสูร เป็นผลการแข่งที่น่าทึ่งมากหลังจากเอาชนะท็อปแรงเกอร์ทั้งสี่ร้อยคนจากทั่วโลกได้ ช่วยกล่าวความรู้สึกกับผู้ชมทางบ้านหน่อยค่ะ”
“ผมมีความสุขมากครับ”
“คุณคาดหวังถึงชัยชนะแต่แรกแล้วหรือไม่?”
“ไม่ครับ ผมแค่โชคดี”
“ปัจจัยใดที่คุณเรียกมันว่าโชคดี?”
ประการแรก การแสดงผลของพลัง ‘ถอดรหัสเวทมนตร์’ ในรอบเรียกน้ำย่อย เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เหล่าจอมเวทหวาดระแวงและเข้าใจผิดไปถนัด กริดจึงปลอดภัยจากเวทมนตร์ส่วนใหญ่ในศึกราชาอสูรของจริง
ส่วนประการที่สอง เรื่องที่ครอเกลตัดสินใจเพิกเฉย
แต่กริดไม่คิดกล่าวถึงมัน
การเปิดเผยพลังถอดรหัสเวทมนตร์ถือเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยง และการพูดถึงครอเกลจะยิ่งทำให้เขาถูกวิจารณ์รุนแรง
“ขอไม่ตอบก็แล้วกันครับ”
ถึงคิวของนักข่าวคนถัดไป
“ผู้อำนวยการยุนซังมินกล่าวว่า ผู้เล่นกริดไม่ได้รับพลังพิเศษใดๆ ในศึกราชาอสูร หมายความว่า พลังสะท้อนเวทมนตร์และอัญเชิญจักรกลเวทมนตร์เป็นของตัวคุณเองใช่หรือไม่?”
“ใช่ครับ”
กริดเปิดเผยพลังของตัวเองไม่น้อยแล้วในศึกราชาอสูรที่ผ่านมา เขาจึงไม่ต้องการเผยจุดอ่อนเพิ่มโดยไม่จำเป็น ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยให้คนทั่วโลกเข้าใจผิด
กริดไม่อธิบายเอฟเฟคของพลังถอดรหัสเวทมนตร์ ไม่อธิบายว่าจักรกลเวทมนตร์เกิดจากพลังคัดลอก มิใช่อัญเชิญมันออกมา และการคัดลอกต้องมีเครื่องสังเวย
‘และอันที่จริง ไม่เคยมีใครทราบถึงพลังคัดลอกไอเท็มมาก่อน’
นอกจากตัวกริดเอง แม้แต่ขุนพลโอเวอร์เกียร์คนสนิทก็ไม่ล่วงรู้ถึงพลังดังกล่าว
คำถามยังคงพรั่งพรูอย่างต่อเนื่อง
“จักรกลเวทมนตร์ของคุณเหมือนกับของซีบาลทุกประการ เหมือนกระทั่งตราราชวงศ์ซาฮารันที่สลักกึ่งกลางหน้าอก หมายความว่าจักรกลเวทมนตร์ของคุณคือสมบัติของจักรวรรดิอย่างนั้นหรือ? แล้วคุณมีมันในครอบครองได้อย่างไร?”
เป็นคำถามที่ทุกคนนึกสงสัยมานาน
ไม่ใช่ว่ากริดคาดไม่ถึง แต่เพราะมันเป็นคำถามที่ตอบได้ยากแม้จะเตรียมตัวล่วงหน้า
ท่ามกลางความเงียบงันของทุกคนที่รอฟังคำตอบ นักข่าวคนผู้ถามได้ลองคาดเดาเป็นการหยั่งเชิง
“หรือคุณได้รับมันเป็นของขวัญเมื่อครั้งเดินทางเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ?”
“…?”
ถ้าหากใช่ จักรพรรดิคงเสียสติไปแล้ว
นั่นเป็นถึงของวิเศษโบราณเชียวนะ!
เป็นการคาดเดาที่บ้าบิ่น
แต่ก็ไม่ได้ไร้เหตุผลเสียทีเดียว
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์คือประเทศแรกที่จักรวรรดิซาฮารันขอทำสัญญาสงบศึกด้วย และกริดคือบุคคลที่องค์จักรพรรดิเชิญเข้าพบด้วยตัวเอง
บางที ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรโอเวอร์เกียร์และจักรวรรดิอาจลึกซึ้งกว่าที่ทุกคนรับทราบก็เป็นได้
ถึงกับยอมมอบจักรกลเวทมนตร์ที่สังหารแรงเกอร์จำนวนมากในพริบตาให้กริด ความสัมพันธ์ระหว่างกริดและจักรพรรดิคงไม่ธรรมดาอีกแล้ว
ขณะกริดเงียบงัน เป็นนัยว่าไม่ปฏิเสธ บรรดานักข่าวจึงรีบก้มหน้าจดข้อมูลโดยเร็ว
‘กริดสนิทสนมกับจักรพรรดิ? หรือว่าอาณาจักรโอเวอร์เกียร์และจักรวรรดิจะเป็นพันธมิตรที่ยืนยาว?’
‘…ที่พวกมันพูดก็ไม่ผิดนักหรอกนะ’
มหาจักรพรรดิฮวนเดอร์มีนิสัยแตกต่างจากที่ทุกคนรู้จักโดยสิ้นเชิง มันทั้งโอหังและใจกว้างสมกับฐานะผู้ปกครองทวีปมายาวนาน
ฮวนเดอร์เป็นลูกผู้ชาย มันกล้ามอบของขวัญแสนสำคัญให้กับกริด บุคคลที่อาจเป็นขวากหนามสำคัญของมันในอนาคต
สิ่งนั้นมิใช่จักรกลเวทมนตร์…
แต่เป็นเมอร์เซเดส
อัศวินในตำนาน ตัวตนที่มีค่ายิ่งกว่าจักรกลเวทมนตร์นับร้อยเท่า
‘ถึงจะไม่ได้มอบให้เราก็เถอะ’
ใช่แล้ว ฮวนเดอร์ส่งเมอร์เซเดสมายังอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เพื่อไถ่บาปที่เคยกระทำกับปิอาโร่
มันตกหลุมพรางจอมอสูรอัสทารอธจนตราหน้าเพื่อนสนิทอย่างปิอาโร่ให้เป็นกบฏ
หลังจากทราบความจริงทั้งหมด มันจึงส่งเมอร์เซเดสมาอยู่ข้างกายเพื่อให้ปิอาโร่มีความสุขในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต
แต่ฮวนเดอร์ไม่มีทางจินตนาการออกเลยว่า… ปิอาโร่ได้กลายเป็นชาวนาและมีความสุขสุดยอดในทุกวัน
เขาได้ใช้ชีวิตที่ต้องการ
อิ่มท้องในทุกมื้ออาหาร
ไม่เพียงเท่านั้น คมศาสตรายังคงถูกฝนลับอย่างสม่ำเสมอเพื่อรอวันแก้แค้นแมรี่
‘ปิอาโร่ก็คงทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน’
คำถามที่สามมาจากนักข่าวชาวจีน
ตั้งแต่เริ่มงานแถลงจนถึงปัจจุบัน มันไม่เคยมองกริดด้วยสายตาชื่นชมแม้แต่วินาทีเดียว
“ในช่วงต้นของสงคราม คุณใช้ทักษะบางอย่างสั่งให้ผู้เล่นทุกคนคุกเข่า ภายในเวลาแสนสั้นตอนนั้น คุณกลับเลือกเจาะจงฆ่าเหมยเซียวแทนที่จะสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง เหตุใดถึงตัดสินใจเช่นนั้น”
แน่นอน ประชาชนชาวจีนส่วนใหญ่ไม่ชอบหน้ากริด
กริดทำให้วีรบุรุษของประเทศมันอย่างเฮ่าคุกต้องเข่ายอมแพ้ต่อหน้าคนทั้งโลก
หลังจากนั้น เฮ่าก็เอาแต่ติดตามครอเกลไม่ห่างประหนึ่งทาสรับใช้
ไม่แปลกที่นักข่าวชาวจีนจะไม่เป็นมิตรกับกริด ทุกการกระทำของกริดจะถูกมองในแง่ลบเสมอ คราวนี้ก็เช่นกัน
มีบางบทความเขียนจากจีนได้เขียนโจมตีกริดว่า เขาเลือกฆ่าเหมยเซียวเพราะไม่ชอบประเทศจีนเป็นการส่วนตัว
แน่นอน กริดย่อมทราบดี
เขาตอบอย่างระมัดระวัง
“เหมยเซียวเป็นรุคกี้ที่แข็งแกร่งมากของปีนี้ ในช่วงต้นสงคราม ผมสัมผัสถึงภัยคุกคามได้จากเธอ และมั่นใจอย่างมากว่า หากไม่รีบฆ่าเหมยเซียว ผมจะไม่มีวันชนะการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรได้เลย”
“…คุณกำลังจะบอกว่า การมีอยู่ของเหมยเซียวทำให้คุณไม่สบายใจ?”
“จากฝีมือที่เธอแสดงให้เห็นตลอดรายการที่ผ่านมารวมถึงการแข่งโค่นวีรบุรุษ พวกคุณไม่คิดเช่นนั้นหรือ?”
“…อา”
นักข่าวชาวจีนพลันกระอักกระอ่วน
มันรีบลดไมโครโฟนและนั่งลง
มันอับอายที่ตัวเองถามในสิ่งไร้สาระต่อหน้าคนทั่วโลก หลังจากได้รับคำตอบน่าพึงพอใจ นักข่าวคนดังกล่าวรีบก้มหน้าเขียนบทความด้วยสีหน้าสุดตื่นเต้น
บรรยากาศตึงเครียดที่เคยเกิดกับชาวจีนทั่วโลกพลันผ่อนคลายลงหลายส่วน
กริดกล่าวชื่นชมเหมยเซียวด้วยสีหน้าสุขุม บ่งบอกชัดเจนว่ามิได้ประชดประชันหรือเล่นมุกตลก
ประหนึ่งกริดพูดต่อหน้าคนทั้งโลกด้วยสีหน้าสุดมั่นใจว่า ‘1+1=2’
จากเหตุการณ์คราวนี้ ชาวจีนได้รับรู้ความจริงสองข้อ
ข้อแรกคือ กริดยอมรับในฝีมือของเหมยเซียว ถึงขนาดกล่าวว่าเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวง หมายความว่าเทพธิดาเหมยเซียวของพวกมันควรค่าแก่การยกย่อง
ส่วนข้อที่สอง กริดมิได้รังเกียจชาวจีนตามข่าวลือ
=== ถ้ากริดเกลียดจีน เขาไม่มีทางชื่นชมเหมยเซียวต่อหน้าคนทั้งโลก
=== กริดชอบกินจัมปงมาก มันคือเส้นบะหมี่ที่มีต้นกำเนิดจากจีน!
=== กริดมีนิสัยไม่เลวเหมือนกันแฮะ…
=== เจ้าพวกโง่! อย่าถูกถ้อยคำสร้างภาพหลอกเอาได้!
=== สร้างภาพว่าเหมยเซียวแข็งแกร่งจนเป็นภัยคุกคามน่ะหรือ? กริดจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร? นายเป็นพวกชอบสร้างความแตกแยกรึไง จะให้จีนทะเลาะกับเกาหลีให้ได้เลยหรือ?
ยิ่งมีมิตรมาก นั่นก็ยิ่งดีกับตัวเอง
นี่คือสัจธรรมที่กริดเรียนรู้หลังจากสูญเสียข่าน การสร้างศัตรูอาจทำให้สะใจชั่วขณะ แต่ผลที่ตามมาในอนาคตจะร้ายแรงจนมิอาจคาดเดาได้
ถึงคิวนักข่าวอาร์เจนติน่าตั้งคำถามบ้าง
“ทำไมคุณถึงเจาะจงฆ่าซิวรอนเป็นลำดับแรก?”
‘เพราะไอ้ระยำนั่นบอกว่าฉันเป็นริดสีดวง’
กริดฉีกยิ้มกว้างพลางกลืนถ้อยคำที่ไม่กล่าวลงคอ…
“แน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งเป็นสงครามที่มีคนตายมาก ซิวรอนก็ยิ่งแข็งแกร่ง…”
…
งานแถลงดำเนินต่อไปอีกสามสิบนาที
คำถามและคำตอบมากมายผุดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
“คุณใช้อมตะได้สองครั้ง รวมถึงทักษะโจมตีบางชนิด เป็นพลังจากอะไรครับ?”
“บอกได้เพียงว่า เป็นพลังของหนึ่งในเจ็ดภัยพิบัติ”
“ได้นัดแนะที่จะดวลกับครอเกลไว้ล่วงหน้ารึเปล่าครับ?”
“ไม่ครับ”
“แม้จะเป็นเพียงส่วนน้อย แต่ก็เกิดเสียงไม่พอใจจากผู้ชมชาวเกาหลีใต้พอสมควร การรับบทบาทราชาอสูรของคุณทำให้เกาหลีใต้มีอันดับย่ำแย่ ต้องการพูดอะไรกับคนกลุ่มนั้นรึเปล่าครับ?”
“ผมเข้าใจความรู้สึกพวกเขา”
“ช่วยแสดงความเห็นเกี่ยวกับซีบาลที่กลับมาหลังจากหายตัวไปสองปีด้วยครับ”
“ผมทึ่งในพัฒนาการของเขามาก สำหรับผม ซีบาลคือหนึ่งในปัญหาสำคัญสำหรับการแข่งตะลุมบอนราชาอสูร”
“เนื่องจากบริวารอันแข็งแกร่ง ผู้คนจึงคาดหวังให้อาเรสรับบทเป็นราชาอสูรในปีถัดไป คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ?”
“ตัวผมเองก็คิดว่าอาเรสเหมาะสมกับบทบาทนี้ ส่วนอีกคนคือสันตะปาปาดาเมี่ยน ผมไม่อยากจินตนาการถึงภาพบุตรีแห่งรีเบคก้ากลายเป็นสี่ราชันสวรรค์”
“คุณวางแผนพัฒนาอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ไว้อย่างไรบ้างครับ? ในเมื่อเหล่าขุนพลอาณาจักรล้วนทำผลงานได้ดีในการแข่งนานาชาติ”
“ขอตอบเฉพาะคำถามที่เกี่ยวกับงานแข่งนานาชาติครับ”
และอีกมากมาย
งานแถลงเป็นไปอย่างราบรื่น
แม้คำถามจะพรั่งพรูไม่หยุด แต่กริดก็ตอบอย่างชาญฉลาดและเป็นธรรมชาติ
ช่องทีวีทั่วโลกกำลังถ่ายทอดสดงานแถลงข่าวของกริดอย่างพร้อมเพรียง
มันกำลังจะจบลงโดยปราศจากปัญหาติดขัด เป็นสถานการณ์ที่นักข่าวส่วนใหญ่ไม่ชื่นชอบนัก พวกมันต้องการเสพความวุ่นวาย
แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามในสิ่งที่ละลาบละล้วงกริด ทุกคนล้วนทราบดีว่า การเป็นศัตรูกับกริดจะมีชะตากรรมเช่นไร
ทันใดนั้น นักข่าวหาญกล้าผู้หนึ่งได้เอาตัวเองเข้าเสี่ยง
“ผู้เล่นกริดครับ ว่ากันว่า คุณปฏิเสธรับงานพรีเซนเตอร์ของรถยนต์แบรนด์ดังทั่วโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเบนท์ลี่ย์ โรลส์รอยซ์ หรือไมบาค แต่หลังจากจบการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรเมื่อครู่ ท่าทีของคุณประหนึ่งว่าได้ทำสัญญากับแดจินมอร์เตอร์เรียบร้อยแล้ว เป็นเพราะสายสัมพันธ์กับยูร่าอย่างนั้นหรือครับ? ทำไมคุณถึงเลือกแดจินมอร์เตอร์แทนที่จะเป็นแบรนด์ดังระดับโลก?”
เป็นเพราะคำพูดเดียวจากกริด แดนจินมอร์เตอร์จึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ไม่มีใครในโลกไม่รู้จักแดจินกรุป และหลายฝ่ายต่างทราบดีว่า ยูร่าคือหลานสาวของประธานใหญ่แห่งแดจินกรุป
เป็นเรื่องง่ายสำหรับแดจินที่จะใช้กริดเป็นพรีเซนเตอร์
นั่นจึงถือเป็นการเสียมารยาทที่จะถามละลาบละล้วงในเหตุการณ์ดังกล่าว
มันเกี่ยวกับพันกับสิทธิส่วนบุคคลที่ไม่ควรเข้าไปล่วงเกิน แน่นอน การกระทำของนักข่าวชาวอเมริกันรายนี้ค่อนข้างหยาบคาย
แต่กริดยังคงสุขุม
อันที่จริง ชายหนุ่มรอคอยวินาทีนี้มาตลอด กริดซักซ้อมตอบคำถามเมื่อครู่หลายร้อยรอบเพื่อให้เป็นธรรมชาติหน้ากล้อง
“สาเหตุที่ผมเลือกแบรนด์แดจินเพราะหลงใหลในรูปโฉมของรุ่นท็อปอย่าง ‘คิงเจเนรัลซิส*’ ที่เพิ่งออกวางขายมาก เรื่องราวเกิดจากผมอยากได้รถคันใหม่มาแทนรุ่นเก่าที่ทุกคนคงรู้จักกันดีแล้ว มันค่อนข้างตกรุ่น และเมื่อได้เห็นรูปโฉมของ ‘คิงเจเนรัลซิส’ เข้า ผมจึงรีบมุ่งหน้าไปยังโชว์รูมแดจินมอร์เตอร์สาขาใกล้บ้านทันที สิ่งแรกที่ประทับใจคือบริการที่ยิ้มแย้มของพนักงานต้อนรับ พวกเขาอัธยาศัยดีมาก…”
“…”
“แต่มีบางเรื่องที่ผมผิดหวังเล็กน้อย แม้จะเป็นแบรนด์หรูสุดของแดจิน ทว่าราคาของมันกลับต่ำมากเมื่อเทียบกับแบรนด์รถยนต์ท็อปสามของโลก เมื่อไม่ประทับใจใน ‘คิงเจเนรัลซิส’ เต็มร้อย ผมจึงเกิดความอยากได้รุ่นรถพิเศษเป็นของตัวเองทันที ผมไม่รีรอที่จะต่อสายไปหาผู้บริหารของแดจินมอร์เตอร์เพื่อยื่นข้อเสนอ”
(*แดจินที่เป็นชื่อล้อเลียน ฮุนได แบรนด์รถยนต์ของเกาหลีใต้ ชื่อท้องถิ่งคือ ฮยอนแดจา—현대차 ส่วน ‘เจเนรัลซิส’ ก็เป็นคำล้อเลียนรถหรูของค่ายฮุนไดรุ่น ‘เจเนซิส’ (Genesis) เช่นกัน)
“…แล้วข้อเสนอของคุณคือ?”
กริดกำลังฉวยโอกาสปัจจุบันเพื่อโฆษณาไปทั่วโลก
นักข่าวในห้องแถลงย่อมทราบ แต่พวกมันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเล่มไปตามเกมของกริด ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ข่าวกลับไปเขียน
กริดตอบกลับด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ผมมีความยินดีที่จะประกาศให้ทุกคนทราบว่า ผมได้ร่วมกับแดจินมอร์เตอร์เพื่อออกแบบรถรุ่นใหม่สำหรับผมโดยเฉพาะ ชื่อของมันคือ ‘ก็อดเจเนรัลซิส’ ผมประทับใจในการบริการและความเป็นมืออาชีพของพวกเขามาก จึงเป็นที่มาของการตกลงเซ็นสัญญากับแดจินมอร์เตอร์ในที่สุด”
“…”
บรรยากาศงานแถลงข่าวพลันกระอักกระอ่วนไปชั่วขณะ
ขณะเดียวกัน…
“ก็อดเจเนรัลซิส? ท่านประธานให้สัญญากับกริดไว้แบบนั้นหรือ?”
ห้องประชุมฝั่งแดจินกรุปพลันตกอยู่ในความโกลาหลอีกครั้ง
กริดปั้นน้ำเป็นตัวไปไกลมาก จนถึงจุดที่ฝ่ายผู้บริหารแดจินมอร์เตอร์ไม่ทราบแล้วว่าสิ่งใดเป็นความจริงและความเท็จ
ประธานแดจินมอร์เตอร์เริ่มเหงื่อแตก
“ไม่”
“…!”
“…แต่ฉันจะสร้างมัน”
“…?!”
“รถรุ่นดังกล่าวกำลังตกเป็นที่สนใจของคนทั่วโลก พวกเราต้องทำมันให้สำเร็จ โดยรูปทรงและสมรรถนะต้องไม่เป็นรองโรลส์รอยส์”
“ค…ครับ”
กริดยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสามตัว
เขาได้เงินค่าพรีเซนเตอร์
ได้รถใหม่
และได้ผู้หนุนหลังเป็นบริษัทที่มั่นคง
ทางด้านแดจินกรุปก็ได้โฆษณาชื่อเสียงของทั่วเองให้โลกได้รู้จัก สิ่งที่ต้องจ่ายนับว่าสมเหตุสมผลแล้ว
ไม่มีฝ่ายใดเสียเปรียบ
…
‘เขาเติบโตขึ้นมาก…’
หลังจบงานแถลงข่าว
ยูร่ากำลังยืนรอกริดอยู่นอกห้อง เธอกล่าวทักทายกริดที่เดินออกจากห้องประชุมในสภาพอิดโรย
สีหน้ากริดอ่อนล้าและห่อเหี่ยวอย่างเห็นได้ชัด ท่าทีที่เขาแสดงออกทำให้ยูร่าเป็นกังวล
“นายไหวรึเปล่า?”
ขณะกริดกำลังจะตอบ
“ไปหาอะไรกินกันไหม?”
ยูร่าชักชวน
แชะ! แชะ!
นักข่าวที่เดินออกจากห้องแถลงพร้อมกับกริดพลันหยิบกล้องขึ้นมารัวถ่ายภาพ
“เอ๋?”
กริดกับกำลังสับสนสุดขีด
ตรงกันข้าม ยูร่ามิได้ตื่นตระหนัก เธอรีบเดินเข้ามาใกล้กริด
กลุ่มนักข่าวหิวกระหายล้วนมั่นใจว่าพวกมันต้องได้รับข่าวเด็ดกลับไปแน่
พีคซอร์ดยืนมองจากจุดห่างออกไป
มันหันไปถามโค้ก
“นายคิดว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ? ศึกระหว่างยูร่าและจิสึกะ”
“ผมไม่กล้าจินตนาการ…”
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,361
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สนุก~
ReplyDeleteมีให้ได้จิ้นตอนท้ายด้วย🤭
ขอบคุณมากๆครับ😊🙏
ชื่อของตอนต่อไปสารภาพรัก
ReplyDeleteสปอยป่ะเนี่ยะ😁🤭
Deleteหนีเข้าโรงแรมด้วยกันและ จิสึกะก็เข้ามาพร้อมมีด
ReplyDeleteโฆษณาช่างหน้าเชื่อถือ5555+
ReplyDeleteลืมเรื่อง"มือปีศาจ"ของกริดไปละ
ReplyDeleteจิสึกะเธอจะยอมยูร่าไม่ได้ เธอคือนางเอก😤😤
ReplyDelete