จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 971



ผ่านไปหนึ่งวันหลังจากจบงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติ


สำนักข่าวทั่วโลกร่วมถึงเกาหลีใต้ต่างพร้อมใจกันเล่นข่าวการสารภาพรักของยูร่า


มวลชนแห่ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก SNS ตามอินเทอร์เน็ตมีแต่เรื่องราวระหว่างยูร่าและกริดตลอด 24 ชั่วโมง


=== มารอรับกริดกับยูร่าเหมือนกันหรือ?


=== ใช่แล้ว ฉันว่าพวกเขาตกลงคบกันแล้วนะ


=== อิจฉาชะมัด


=== ต้องให้กำลังเธอใจสิ ยูร่าสารภาพรักด้วยความกล้าทั้งหมดที่มี…


=== นั่นสินะ นี่คือหน้าที่แฟนคลับที่ดี


ณ สนามบินแห่งชาติอินชอน


ผู้คนนับพันมายืนรอต้อนรับการกลับมาของกริดและยูร่า แน่นอนว่าย่อมมีสื่อหลังจากหลายช่องข่าว ทุกคนล้วนต้องการเห็นใบหน้าของคู่รักคู่ใหม่อย่างเต็มสองตา


ใช่แล้ว


ตรงกันข้ามกับสิ่งที่กริดกังวล ผู้ชายส่วนใหญ่มิได้สาปแช่งกริด พวกเขาให้กำลังใจยูร่าที่รวบรวมความกล้าเพื่อสารภาพรัก และกริดก็เหมาะสมแล้วสำหรับการถูกเธอสารภาพ


ทว่า บรรยากาศกลับเงียบงันประหนึ่งหนูตายในยามที่กริดลงจากเครื่องและเดินเข้ามาในอาคารผู้โดยสาร


ผู้คนที่เตรียมตะโกนเรียกชื่อกริดกับยูร่าอย่างกึกก้องพลันกระอักกระอ่วน ไม่เว้นแม้กระทั่งนักข่าว


สาเหตุเพราะ กริดมิได้กลับมาพร้อมยูร่าตามลำพัง แต่ยังมีจิสึกะด้วยอีกคน เธอกำลังควงแขนกริดแน่นถนัดไม่แพ้ยูร่าเลยสักนิด


=== ....


=== .…


=== ไอ้กริดหัวค*ย!!!


ในวินาทีที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก แอนตี้แฟนของเขามีจำนวนแตะหลักสิบล้านในพริบตา


กริดในสภาพสาวงามขนาบซ้ายขวาสองข้าง


เขาพลันเย็นสันหลังวาบไปทั้งตัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มแฟนที่ยืนรอรับด้านใน


มวลจิตสังหารปริมาณมากกำลังอัดแน่นคละคลุ้งสนามบินแห่งชาติอึนชอน


'…พวกเราเป็นแค่เพื่อนกัน'


จิสึกะเดินควงแขนเพราะเธอสนิทกับเขามาก นี่คือมิตรภาพของเพื่อนฝูง มิใช่ความรักใคร่


ทำไมมวลชนถึงต้องเข้าใจตัวเขาผิดไปเสียทุกครั้ง?


คนเหล่านี้คิดฆ่าแกงเพื่อนร่วมโลกเพราะความเข้าใจผิดเนี่ยนะ?


'ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด…'


ราวกับเห็นสีหน้าหนักใจของกริด จิสึกะได้เลื่อนหน้าอกเข้าไปแนบชิดชายหนุ่มยิ่งกว่าเดิม


ยูร่าเริ่มเคลือบแคลงว่า ตัวบัดซบที่บังอาจปล่อยข้อมูลเที่ยวบินส่วนตัวของเธอคงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจิสึกะ


***


สถานที่แห่งนี้ถูกเรียกว่า 'ย่านกริด'


ผู้คนพอใจเรียกเช่นนั้นเพราะเป็นย่านที่เติบโตรอบอาคารเจ็ดชั้นของกริด


ตึกระฟ้าจำนวนหกหลังถัดจากอาคารกริดกำลังอยู่ในช่วงก่อสร้าง แต่ก็ใกล้เสร็จเต็มทีแล้ว เจ้าของไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจิสึกะ


"เหลืออีกสิบห้าวันก็จะเสร็จ"


อาคารจิสึกะสร้างติดกับอาคารกริดโดยแทบไม่เว้นที่ว่างให้หายใจ


หากมองจากโครงสร้าง จิสึกะมีแผนจะอาศัยอยู่บนเพนต์เฮาส์ชั้นบนสุดเหมือนกับกริด แต่ข้อมูลยังไม่เป็นที่แน่ชัด


'สร้างติดกับเพนต์เฮาส์ของนาย แถมกำแพงภายนอกยังเป็นกระจกทั้งหมด ถ้านายเปิดไฟก็จะเห็นทุกอย่างในบ้านฉัน'


ทั้งสวนและสระว่ายน้ำก็มองเห็นได้ชัดเจนจากเพนต์เฮาส์กริดเช่นกัน


ชายหนุ่มกลายจะเป็นไอ้ถ้ำมองทันทีหากกวาดสายตาผ่านโดยไม่ได้ตั้งใจ


ทำไมเธออีกฝั่งถึงมีกำแพงแข็งแรงแน่นหนา แต่ฝั่งที่ติดกับบ้านกริดไม่มี?


เขาทำได้เพียงคิด แต่ไม่กล้าถามออกไป


กริดหันไปถามเธอเรื่องอื่น


"จะเสร็จในอีกสองอาทิตย์ใช่ไหม? "


"ใช่ คงต้องหาที่พักสักสองอาทิตย์ แต่เกาหลีใต้เป็นประเทศที่แปลกมาก ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างฉันต้องอาศัยตามลำพังในโรงแรมต่างถิ่น…"


"ทำไมถึงต้องไปนอนโรงแรม? ตึกฉันยังมีห้องพักเหลืออยู่"


เธอเป็นถึงเพื่อนสนิทที่มาจากแดนไกล


มารยาทพื้นฐานของเจ้าบ้านคือการจัดหาที่พักอาศัย


จิสึกะพลันฉีกยิ้มกว้าง


"ขอบคุณมากกริด! "


"อย่าพรวดเข้ามากอดเซ่! "


***


เหนื่อยบัดซบ…


แค่การหาห้องพักให้จิสึกะ พลังงานในหนึ่งวันของกริดแทบหมดเกลี้ยง


'ที่บ้านเรามีสาวอเมริกาใต้ร่วมชายคา…'


กริดนั่งเหม่อในแคปซูลสุดหรูอยู่พักใหญ่


ก่อนจะส่ายศีรษะพร้อมกับล็อกอินเข้าเกม


เขาขาดการออนไลน์ไปเกือบสองวันเต็ม


สิ่งแรกที่ทำคือตรงไปหาไอรีนโดยไม่รีรอ


สาเหตุเพราะใบหน้าของเธอผุดขึ้นมาเป็นคนแรกในวันที่ยูร่าสารภาพรัก


กริดกำลังสับสนหนัก


ซาทิสฟายและความจริงคือโลกสองใบที่ตัดขาดโดยสิ้นเชิง


เขากำลังรู้สึกผิดต่อไอรีนเพราะตกหลุมรักยูร่าในชีวิตจริงงั้นหรือ?


ยิ่งไปกว่านั้น ไอรีนคือตัวตนที่มีเพียงในซาทิสฟาย


ในเมื่อมิอาจอยู่ด้วยกันตลอดเวลา กริดจะรักเธอเต็มหัวใจได้รึเปล่า?


"…"


เมื่อกลับถึงวังหลวง ชายหนุ่มเห็นไอรีนกำลังยืนมองบ่อน้ำจากจุดห่างไกล


หญิงสาวคนดังกล่าวมีอายุมากกว่าเขาแล้ว


หัวใจกริดพลันเจ็บแปลบประหนึ่งมันถูกแยกส่วนทั้งเป็น


"ฝ่าบาท! "


เธอสัมผัสถึงตัวตนกริดได้แม้จะยืนไกลกันมาก


กริดเดินเข้าไปโอบกอดเธออย่างแนบแน่นด้วยรอยยิ้มขื่นขม


"มีเรื่องมากมายอยากเล่าให้ฟัง คืนนี้เข้าไปคุยกันในห้องเถอะ"


"เพคะ ฝ่าบาท"


ไอรีนในอ้อมอกกริดกำลังยิ้มหวานราวกับเป็นบุคคลที่มีความสุขที่สุดในโลก


ชายหนุ่มคลำศีรษะเธออย่างทะนุถนอม กริดมั่นใจในบางสิ่ง


เขารักเธอมาก และคงมิอาจทรยศหัวใจนี้ได้


"ฉันรักเธอ"


"ฝ่าบาท… แถวนี้คนเยอะ"


หากเป็นหลายปีก่อน กริดคงไม่แคร์สายตาคนรอบข้างมากนัก


แต่ปัจจุบัน เขาเป็นถึงผู้ปกครองสูงสุดของอาณาจักร


เมื่อเติบโตขึ้นและเรียนรู้ถึงสิ่งที่ควรและไม่ควร


กริดพยายามรักษาภาพลักษณ์อย่างเต็มที่


ล้อเล่น…


กริดตะโกนออกไปสุดเสียง


"ไอรีน!! ฉันรักเธอ!! "


"โธ่… ฝ่าบาท"


ไอรีนพลันหน้าแดงก่ำพลางก้มหัวอย่างเขินนาย


จากนั้น เธอเงยหน้าขึ้นจ้องมองกริดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง


ภาพของราชาและราชินีมอบความรักซึ่งกันและกันกลายเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชนเหมือนกับทุกครั้ง


ในค่ำคืนดังกล่าว


"ฝ่าบาทยังคงเยาว์วัยเหมือนกับวันแรกที่ได้พบกัน"


กริดและไอรีนกำลังเดิมชมจันทร์ท่ามกลางสวนในวัง


ทันใดนั้น ไอรีนชะงักพลางจ้องมองเข้าไปในรอยยิ้มแสนอบอุ่นของกริด


หัวใจชายหนุ่มกำลังถูกสั่นคลอนจากดวงตาคู่นั้น


"ฉันเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา มิอาจเคียงข้างฝ่าบาทได้ชั่วนิรันดร์"


"ไอรีน… ทำไมจู่ๆ ถึง…"


"ฉันอยากให้ฝ่าบาทลงเอยกับใครสักคนที่มีชีวิตนิรันดร์เหมือนกัน"


"อย่าพูดแบบนั้นอีก"


"ฉันหลงรักฝ่าบาทด้วยใจจริง และนี่คือการแสดงความรักรูปแบบหนึ่ง"


"…"


เวลาไหลผ่านไปอย่างเชื่องช้า


ถึงจะเคยเตรียมใจไว้แล้วหลายหน แต่เมื่อมันออกจากปากไอรีน กริดมีอาจข่มหัวใจที่แตกสลายไว้ได้


ชายหนุ่มมองเห็นความเศร้าที่เจือในดวงตาสีฟ้าครามของไอรีน


เขาสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ตกหลุมรัก NPC คนใดอีกเป็นอันขาด


ราชาโอเวอร์เกียร์พรั่งพรูน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัว


***


งานแข่งนานาชาติจบลงไปแล้วสามวัน


ข้อความโลกแสดงขึ้นเบื้องหน้าลอเอลที่กำลังทำงานตัวเป็นเกลียว


[อาณาจักรเมเดียแห่งท้องทะเลล่มสลาย]


[จักรวรรดิซาฮารันยึดครองดินแดนทั้งหมดของเมเดียอย่างชอบธรรม]


[ผู้เหลือรอดและราชวงศ์เมเดียต่างโกรธแค้นจักรวรรดิซาฮารัน พวกมันจะตามจองล้างจองผลาญไปตลอดชีวิต]


[ขวัญกำลังใจฝ่ายจักรวรรดิซาฮารันกำลังฮึกเหิม! หลังจากนี้สิบวัน ผู้เล่นที่สังกัดจักรวรรดิจะได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น 10% และอัตราดรอปไอเท็ม 5%]


'เมเดีย…'


ไม่มีทางที่ครอเกลจะไม่รู้จักเมเดีย


มันคืออาณาจักรที่ตั้งของหมู่เกาะเบเฮ็น


แม้อาจเป็นอาณาจักรเล็กที่มีวิวทิวทัศน์งดงาม แต่เมเดียถือเป็นอาณาจักรที่มั่งคั่งแห่งหนึ่งจากรายได้ด้านท่องเที่ยว จำนวนหน่วยรบที่แข็งแกร่งย่อมมีไม่น้อย ถึงกระนั้นกลับถูกทำลายในชั่วข้ามคืน


'หรือว่าพวกมันใช้จักรกลเวทมนตร์? '


ลอเอลเรียกประชุมด่วน


ขณะสิบวีรชนฯ และเหล่าขุนพลกำลังมุ่งหน้ากลับมายังวังหลวง เสียงข้อความส่วนตัวได้ดังแว่วข้างหูลอเอล


บุคคลเจ้าของเสียงคือตัวตนไม่ธรรมดา


เทพสงคราม อาเรส


>> พวกนายสบายใจได้ ฉันชิงเนตรมังกรขาวได้ก่อนพวกมัน


'อะไรคือเนตรมังกรขาว? '


เป็นครั้งแรกที่ลอเอลได้ยินชื่อของมัน


แต่คงไม่ฉลาดนักหากจะโพล่งว่าฝ่ายตนมีข้อมูลไม่มากพอ


>> แล้วนายต้องการอะไร?


ลอเอลเดาได้ว่าอาเรสกำลังเรียกร้องบางสิ่ง


>> ตอบแทนกันหน่อย ได้โปรดลดราคาอาวุธลงจากเดิมสี่เท่า


หลังจากกริดสำเร็จภารกิจเทพเฮ็กเซเทีย ช่างตีเหล็กทั่วทั้งทวีปได้หลั่งไหลเข้าสู่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์อย่างไม่ขาดสาย เป็นปริมาณที่มากพอจะผูกขาดตลาดการค้าขายไอเท็มไว้ในมือ


เมื่อมีอำนาจต่อรอง ลอเอลจึงขึ้นราคาไอเท็มที่ผลิตออกจำหน่าย


ด้วยความสัตย์จริง วัลฮัลล่าเดือดร้อนอย่างมากกับเรื่องนี้


ราคาอาวุธพุ่งขึ้นสามเท่าจากปรกติ ส่งผลให้การคลังเริ่มขาดสภาพคล่อง เงินหมุนเวียนไม่พอสำหรับซื้ออาวุธ การมีทหารจำนวนมากแต่ปราศจากยุทโธปกรณ์ไม่ช่วยให้พวกมันแข็งแกร่ง


แน่นอน อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ถูกต่อว่าจากทุกฝ่าย


ทักษะด้านการตลาดของลอเอลไม่เป็นสองรองใคร


แต่หนึ่งฝ่ายที่ไม่เคยต่อว่าโอเวอร์เกียร์คือกองทัพของอาเรส ส่วนหนึ่งเพราะพวกมันได้รับความช่วยเหลือจากกริดหลายเรื่อง


ทว่า สถานการณ์ปัจจุบันกำลังย่ำแย่ มันมิอาจปล่อยให้ดำเนินเช่นนี้ต่อไปได้


'หมอนั่นเรียกร้องรางวัลตอบแทน…'


สมองลอเอลประมวลผลอย่างรวดเร็ว


เมเดียล่มสลายโดยฝีมือจักรวรรดิ และเนตรมังกรขาว…


'จักรวรรดิรุกรานเมเดียเพราะต้องการไอเท็มที่ชื่อเนตรมังกรขาว หากพวกมันได้ไป ทางฝ่ายเราจะเดือดร้อนอย่างมาก…'


เหนือสิ่งอื่นใด ต้องทราบให้ได้ว่าเนตรมังกรขาวคืออะไรกันแน่


>> ขอประชุมกับฝ่าบาทกริดก่อน แล้วจะติดต่อกลับไป


>> หวังว่าจะได้รับคำตอบที่น่าพึงพอใจนะ


แม้ลอเอลจะตอบแบบขอไปที แต่อาเรสก็ไม่คิดเซ้าซี้ พวกมันมั่นใจว่าเป็นฝ่ายถือไพ่เหนือกว่า


ลอเอลที่กำลังฉงนรีบขอเข้าพบสติกส์


มหาจอมปราชญ์สติกส์ยังคงรอบรู้เช่นเคย


มันทราบถึงตัวตนและพลังของเนตรมังกรขาว


"เนตรมังกรขาวสามารถสะท้อนพลังได้ทุกชนิด"


"สะท้อนพลังทุกชนิด? "


ไม่ขี้โกงไปหน่อยหรือ…


ไม่สิ สมเหตุสมผลแล้วที่จักรวรรดิจะถล่มหนึ่งอาณาจักรเพื่อหวังครอบครอง


แต่เหตุใดการที่วัลฮัลล่าขโมยไปถึงมีผลด้านบวกต่ออาณาจักรโอเวอร์เกียร์?


ทำไมอาเรสถึงกล้าเรียกร้องข้อเสนอ?


เมื่อกลับถึงห้องประชุม ลอเอลปรึกษาเรื่องดังกล่าวกับสิบวีรชนฯ แต่ก็ไม่ได้รับข้อมูลเพิ่มจากเดิม


ถัดมาอีกสองชั่วโมง


เฟคเกอร์ส่งรายงาน


"สิบวันก่อน กองทัพเมเดียได้กู้เนตรมังกรขาวขึ้นจากทะเล แม้พวกมันพยายามปิดข่าวอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่รอดพ้นหูตาจักรวรรดิไปได้"


"…หืม"


เหตุใดจักรวรรดิถึงบุกถล่มอาณาจักรที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าร้อยปีเพียงเพราะไอเท็มหนึ่งชิ้น?


ลอเอลครุ่นคิดอยู่นานหลายสิบนาที จนกระทั่งฉุกคิดบางสิ่งได้


ประหนึ่งตัวมันถูกฟ้าผ่าเข้ากลางหลัง


"…ราชาเนตรมาร! "


"…? "


สิบวีรชนพลันตกใจเมื่อลอเอลโพล่งขึ้นเสียงดัง


มันรีบอธิบายกับทุกคน


"เผ่าเอลฟ์ เผ่าคนแคระ เผ่าออร์ค เผ่าแวมไพร์ เผ่ายักษ์ เผ่าเนตรมาร รวมถึงเผ่าวารี นี่คือขวากหนามในสายตาจักรวรรดิเสมอ แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด ราชาเนตรมารคือตัวตนที่สามารถเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวง"


ลอเอลเลื่อนมือหนึ่งข้างขึ้นปิดใบหน้าราวกับมันต้องการกล่าวว่า 'คงยอดเยี่ยมไม่น้อยถ้าดวงตาของฉันส่องแสงได้บ้างสักข้าง'


"ในเมื่อเนตรมังกรขาวสะท้อนได้ทุกสิ่ง จะเกิดอะไรขึ้นหากมันถูกทำไปใช้กับราชาเนตรมาร? "


"…นี่คือวิธีฆ่าราชาเนตรมารอย่างนั้นหรือ? "


"ถูกต้อง เนตรมังกรขาวจะตกอยู่ในมือจักรวรรดิไม่ได้เด็ดขาด"


และสิ่งที่น่าตกใจที่สุด…


"เทพสงครามรู้เรื่องสายสัมพันธ์ระหว่างกริดและเนตรมาร พวกมันทราบดีว่าอาณาจักรเราสนิทสนมกับเผ่าเนตรมารมาก จึงลงมือชิงเนตรมังกรขาวเพื่อเป็นเครื่องต่อรอง… "


"…"


ห้องประชุมพลันเงียบสงัด


ทุกคนล้วนทราบถึงสถานการณ์ทันที


"ใช่แล้ว พวกวัลฮัลล่าฉลาดมาก มันชิงลงมือก่อนพวกเราหนึ่งก้าวเพื่อถือไพ่เหนือกว่าทั้งเราและจักรวรรดิ"


โดนเข้าแล้ว


นี่คือผลจากการลงแข่งซาทิสฟายนานาชาติจนละเลยสถานการณ์สงคราม


'เราจะไม่เข้าร่วมงานแข่งนานาชาติอีกแล้ว! '


ลอเอลสาบานกับตัวเองพลางขบกรามอย่างเจ็บแค้น


"พวกเราตกเป็นเบี้ยล่างวัลฮัลล่าโดยสมบูรณ์ หากไม่ยอมทำตามคำขอร้อง พวกมันจะมอบเนตรมังกรขาวให้จักรวรรดิ…"


"ฉันได้ยินทั้งหมดแล้ว"


หลังจากสิ้นเสียงลอเอล กริดเปิดประตูและเดินเข้ามาในห้องประชุม


เขากำลังสวมแว่นกันแดดอันใหม่ที่กรอบส่องประกายระยิบระยับราวกับอัญมณี ส่วนเลนส์สร้างจากวัสดุประหลาดสีม่วงที่บางและใส


"ไม่ต้องห่วงเรื่องของราชาเนตรมาร"


"...? "


ขณะบรรยากาศตึงเครียด กริดเดินเข้าห้องประชุมด้วยแว่นตาอันใหม่พลางฉีกยิ้มอย่างมีความสุข


ชายหนุ่มกล่าวเพื่อคลายความกังวลใจของทุกคน


"นับแต่นี้ไป ราชาเนตรมารจะควบคุมพลังเนตรได้ดั่งใจนึก เนตรมังกรขาวนั่นทำอะไรไม่ได้แน่"


เรื่องราวบทใหญ่ทวีปตะวันออกในซาทิสฟายเริ่มต้นขึ้นแล้ว


จักรวรรดิกำลังเคลื่อนไหวเพื่อรวมทวีปเป็นหนึ่งเดียว


อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ต้องตกอยู่ใจกลางพายุแห่งความวุ่นวายตั้งแต่เริ่ม


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,364

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ขอบคุณ​มาก​ครับ​☺️🤗

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00