จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 958

ผู้ชมทั่วโลกต่างส่งเสียงเฮดังสนั่นเมื่อ ‘ไรเดอร์ส’ ปรากฏตัว

ยูร่าและคริส

แม้แต่สองท็อปแรงเกอร์ก็มิอาจรับมือหุ่นยักษ์สีขาว กองเชียร์จึงมั่นใจว่าไรเดอร์สจะนำพาชัยชนะมาสู่ฝ่ายผู้เล่น

บรรดานักกีฬาก็คิดไม่ต่างกัน

เหล่าผู้เล่นที่เคยตั้งข้อสงสัย ว่าจะเอาชนะราชาอสูรบัดซบตรงหน้าได้อย่างไร พวกมันเริ่มมีความหวังเมื่อหุ่นสีขาวปรากฏกาย

ตัวตนของจักรกลเวทมนตร์นามไรเดอร์สยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น มันปัดเป่าความสิ้นหวังจากหัวใจพวกพ้องทุกคนโดยพลัน

“ลุยเลยซีบาล!”

“ซีบาล! เอาชนะใช้ได้”

“สู้เค้า! ซีบาล!!”

มนุษยชาติรวมใจเป็นหนึ่งอีกครั้ง พวกมันตะเบ็งกู่ร้องนามของบุรุษคนใหม่อย่างพร้อมเพรียง

นี่คือวินาทีที่ซีบาลเฝ้ารอมาตลอด วินาทีที่มันได้กลายเป็นวีรบุรุษของโลก

ไรเดอร์สคุกเข่าลงประหนึ่งอัศวินกำลังลั่นสัตย์สาบาน

ซีบาลปีนป่ายส่วนขาขึ้นไปยืนบนเข่า จากนั้นก็เข้าไปนั่งในห้องบังคับไรเดอร์ส

“เชื่อมือฉันได้เลย!!”

21 วินาที

ระยะเวลาที่ซีบาลควบไรเดอร์สได้

อาจฟังดูไม่มาก แต่จักรกลเวทมนตร์คือสัตว์ประหลาดที่มีค่าพลังโจมตีหลักหมื่น แม้ค่าความว่องไวจะต่ำ แต่ด้วยร่างกายและอาวุธขนาดมหึมา ย่อมหมายถึงค่าความแม่นยำที่สูงลิบ

เหนือสิ่งอื่นใด คลาสของซีบาลคือ ‘นักขับบรรพกาล’

เป็นคลาสที่รีดเร้นประสิทธิภาพยานพาหนะได้ถึงขีดสุด

ซีบาลมั่นใจว่าตนสร้างความเสียหายใส่ราชาอสูรในปริมาณมากได้แน่

นี่มิใช่ความโอหัง แต่เป็นความมั่นใจเกิดหลังจากปราบยูร่าและคริส

คงเป็นการเสียมารยาทต่อทั้งสอง หากมันถ่อมตัวว่าไรเดอร์สมีพลังโจมตีกระจ้อยร่อยน้อยนิด

ชัยชนะต่อแรงเกอร์ระดับหัวกะทิไม่ได้เกิดเพราะโชคช่วย ซีบาลหวังกอบกู้ชื่อเสียงให้คริสและยูร่า

ความพ่ายแพ้ต่อไรเดอร์สไม่ใช่สิ่งน่าอับอาย มันจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น

‘เราต้องคว้าเหรียญทองให้ได้!’

ขณะมันกำลังซิงโครไนซ์กับไรเดอร์ส

“เนตรบาเอล”

ราชาอสูรกำลังเบื่อหน่ายหรืออย่างไร?

ทักษะเนตรแพ็กม่าถูกราชาอสูรคำรามในชื่อเนตรบาเอลด้วยสุ้มเสียงราบเรียบไร้อารมณ์

ปริศนาสุดฉงนกำลังปรากฏเบื้องหน้าทุกคน

เกราะสีดำในมือราชาอสูรเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง

ชิ้นส่วนวัสดุสีดำสนิทพุ่งกระจายออกไปรอบทิศ จากนั้นก็ถูกดูดกลับมารวมตัวอีกหนพร้อมกับเริ่มขยายขนาด

“เอ๋?”

เหตุการณ์เกิดขึ้นในเสี้ยววิ

ชุดเกราะดำสนิทแปรเปลี่ยนเป็นยักษ์ทมิฬโดยสมบูรณ์

รอบกายภายนอกห่อหุ้มด้วยวัสดุประหลาดคล้ายคลึงเกล็ดมังกรดำ

ไม่ผิดแน่ นี่คือจักรกลเวทมนตร์เครื่องใหม่ที่มาพร้อมเกราะสีดำเงางาม

“หมายความว่ายังไง…?”

ราชาอสูรก็มีจักรกลเวทมนตร์?

ผู้เล่นเริ่มหวาดผวา พวกมันก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

พิธีกรต่างเงียบงันไร้คำอธิบาย คนดูทางบ้านพากันอ้าปากค้างพลางทำของกินในมือหล่นพื้น

‘สวัสดีครับ สั่งไก่ไว้ใช่ไหม? ฮัลโหล’

ผู้ชมชาวเกาหลีใต้ที่สั่งไก่ทอดพลันไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ซึ่งกำลังดัง เจ้าของร้านไก่ทอดต่างมึนตึบเมื่อไม่มีลูกค้ารายใดรับสาย

ปรากฏการณ์เบื้องหน้าเหนือธรรมชาติจนทำให้พวกมันทุกคนลืมอาหารเสียสนิท

ราชาอสูรนำพาความปั่นป่วนมาสู่โลกอย่างแท้จริง

***

“เหมือนกับจักรกลเวทมนตร์ซีบาลเลยไม่ใช่รึไง?”

“แต่ในเมื่อถูกอัญเชิญโดยราชาอสูร มันต้องไม่ธรรมดาแน่”

แรงเกอร์ระดับสูงรีบวิเคราะห์หุ่นยักษ์สีดำที่เพิ่งปรากฏกาย

ขณะเดียวกัน เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ต่างพากันฉงนหนัก ไม่เหลือมาดของผู้นำกองทัพถล่มประตูสี่ทิศในศึกก่อนหน้า

‘ราชาอสูรไม่ใช่กริดรึไง…?’

ถูกต้อง

กลุ่มคนที่สับสนมากที่สุดไม่ใช่ใครอื่นนอกจากขุนพลโอเวอร์เกียร์

พวกเขาเชื่อว่าราชาอสูรคือกริด แต่การอัญเชิญจักรกลเวทมนตร์ออกจะเกินขอบเขตจินตนาการไปสักหน่อย

‘กริดไม่มีจักรกลเวทมนตร์…’

แต่ราชาอสูรกลับมีหนึ่งเครื่อง

หมายความว่า ศัตรูตรงหน้าไม่ใช่กริดอย่างนั้นหรือ

“…น่าอายฉิบ”

ป็อนใช้ฝ่ามือปกปิดใบหน้าที่กำลังเดือดดาล

มันอับอายในถ้อยคำที่ตนเคยกล่าวกับราชาอสูร มันเคยเข้าใจว่าสัตว์ประหลาดตนนั้นเป็นกริด

‘นั่นสินะ… แม้แต่กริดก็ไม่มีทางรับมือสงครามระดับ 1 ต่อ 400 ไหว สี่ราชันสวรรค์ต้มพวกเราซะเปื่อย’

ป็อนคือพวกพ้องและเพื่อนสนิทของกริดก็จริง แต่มันไม่ใช่ตัวกริด

ป็อนมิได้ทราบทุกพลังที่กริดครอบครอง และย่อมไม่รู้ถึงตัวตนของ ‘เนตรแพ็กม่า·ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล’

ป็อนจินตนาการไม่ออกว่าจักรกลเวทมนตร์แสนทรงพลังจะถูกเลียนแบบโดยผู้เล่น

ทันใดนั้น เสียงซีบาลคำรามลั่นขณะมันขับขี่ไรเดอร์ส

“ไอ้บัดซบ! แกมีไรเดอร์สได้ยังไง!”

ไอ้บัดซบย่อมหมายถึงราชาอสูร

เขาสีทองสองข้างเหนือศีรษะ ดวงตาสีเขียวมรกตสดใส

สูงห้าเมตร รูปลักษณ์คล้ายคลึงมนุษย์

ตรงข้ามกับไรเดอร์สซีบาลขาวบริสุทธิ์ ไรเดอร์สราชาอสูรมีสีดำเงางามและน่าสะพรึง

แต่กระนั้น มันคือจักรกลเวทมนตร์ตัวเดียวกันไม่ผิดแน่ ทุกส่วนตั้งแต่หัวจรดเท้า รวมถึงถังเชื้อเพลิงด้านหลัง

โครงสร้างทางกายภาพทั้งหมดเหมือนไรเดอร์สทุกรายละเอียดปลีกย่อย

แรงเกอร์ที่เหลืออาจไม่สังเกต แต่ซีบาลแยกแยะได้ในพริบตา

มันไม่มีทางลืมลง

ซีบาลใช้ชีวิตร่วมกับไรเดอร์สนานหลายปี แต่ละวันของมันจะเริ่มด้วยการตื่นทำความสะอาดไรเดอร์ส

และนั่นคือสาเหตุที่มันไม่เข้าใจ

“แกมีไรเดอร์สได้ยังไง!!”

ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา จักรวรรดิขุดค้นจักรกลเวทมนตร์ได้เพียงสี่เครื่อง

แต่ละเครื่องมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างชัดเจน เฉกเช่นมนุษย์ทั่วไป

คอเรย์—นักวิชาการและนักโบราณคดีประจำตัว ‘อีธาน’ องค์ชายลำดับสี่แห่งจักรวรรดิ

มันกล่าวว่า ไม่มีของวิเศษบรรพกาลใดที่เหมือนกัน ของวิเศษทุกชนิดล้วนเป็นปักเจกหนึ่งเดียวในโลก

แต่จักรกลเวทมนตร์ที่เหมือนไรเดอร์สทุกกระเบียดนิ้วกลับปรากฏตัวเบื้องหน้า

ซีบาลไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว

มันไม่อยากเข้าใจ

มันรู้สึกเจ็บแค้น

สำหรับซีบาล ไรเดอร์สคือสายสัมพันธ์ทางวิญญาณ แต่ไอ้หุ่นสีดำบัดซบตรงหน้าบังอาจมีรูปลักษณ์เหมือนไรเดอร์ส

เพียงเห็นราชาอสูรยืนข้างหุ่นทมิฬ โทสะของซีบาลก็พวยพุ่งทะยานฟ้า

เหตุใดทีมงานซาทิสฟายถึงมอบไรเดอร์สให้ราชาอสูรใช้งาน?

ซีบาลมองว่า SA กรุปไม่เคารพตนเลยสักนิด

แต่ถึงอย่างนั้น

“ฮะฮะ…! ฮะ!”

มันพยายามข่มโทสะ

ซีบาลย่อมทราบดี การสูญเสียความเยือกเย็นจะนำพาสู่หายนะ

‘ถ้าเราสติแตกและเปิดฉากโจมตี ฝ่ายที่พลังงานหมดก่อนคือเราแน่’

ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า จักรกลเวทมนตร์สีดำตรงหน้ามีความสามารถแบบเดียวกับไรเดอร์สหรือไม่

แถมราชาอสูรคงมีมานามากกว่า ระยะเวลาในการควบคุมไรเดอร์สย่อมต้องนานกว่า

‘เราไม่ควรนำออกมาแต่แรก’

ซีบาลประเมินสถานการณ์อย่างสุขุม

แทนที่จะโกรธแค้น SA กรุปที่บังอาจเสียมารยาทกับมัน ซีบาลพยายามขบคิดเพื่อหาทางเอาชนะราชาอสูรให้จงได้

“ทุกคนคงทราบดีแล้ว แต่ฉันขอย้ำอีกครั้งให้ชัดเจน จักรเวทมนตร์คือไอเท็มประเภทพาหนะชนิดหนึ่ง”

“…”

ฝ่ายผู้เล่นที่กำลังทึ่งกับหุ่นสีดำ ทุกคนต่างหันมองซีบาล

พวกมันสัมผัสได้ ซีบาลกำลังจะแบ่งปันจุดอ่อนและวิธีเอาชนะจักรกลเวทมนตร์ให้ฟัง

ชายคนนี้คิดเปิดเผยข้อมูลความลับตัวเองจริงหรือ?

นี่คือสิ่งแรงเกอร์ส่วนใหญ่ไม่กระทำ

ด้วยเหตุนี้ การตัดสินใจของซีบาลจึงนับเป็นความเสียสละที่ควรค่าแก่การยกย่อง

เจตจำนงที่ต้องการเอาชนะราชาอสูรกำลังถูกส่งต่อให้พวกพ้องในสนามรบ

ฝ่ายผู้เล่นเริ่มฮึกเหิมและได้รับขวัญกำลังใจกลับคืน

แม้แต่ขุนพลโอเวอร์เกียร์ยังประทับใจในการเสียสละของซีบาล

อันที่จริง ซีบาลไม่ใช่คนโง่ สาเหตุที่กล้าเปิดเผยจุดอ่อน เพราะมันมั่นใจในตัวเองเสียเต็มประดา ต่อให้โลกล่วงรู้ความลับ แต่ตัวมันกับไรเดอร์สจะไม่พ่ายแพ้ใครแน่

‘ซีบาลมิได้โอหัง แต่จักรกลเวทมนตร์คงมีศักยภาพแฝงอีกมาก’

‘หรือไม่ก็… มันคงมั่นใจว่าตัวเองจะแข็งแกร่งขึ้น’

‘หลังจากหายไปสองปี ซีบาลเปลี่ยนแปลงนิสัยตัวเองไปมาก’

ไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด

ซีบาลมั่นใจในฝีมือของมันและพลังของไรเดอร์สมาก

ต่อให้เผยจุดอ่อนหรือข้อมูลให้โลกรับทราบ แต่มันก็ไม่มีทางพ่ายแพ้ผู้ใดอยู่ดี

ความโอหังที่เกิดขึ้นมีพื้นฐานจากศักยภาพซ่อนเร้นของคลาส ‘นักขับบรรพกาล’ ที่ไร้ขีดจำกัด

“จักรกลเวทมนตร์จะขยับไม่ได้หากไร้คนขับ และการบังคับต้องใช้มานาปริมาณมหาศาล แม้แต่สิบมหาจอมเวทแห่งทวีปก็มิอาจบังคับได้นานกว่าสามนาที อาจเพิ่มระยะเวลาควบคุมได้ด้วยทักษะดูดกลืนมานา แต่นั่นต้องกระทำขณะอยู่นอกเครื่องเท่านั้น ถ้ากำลังขับขี่ ผู้ขับมิอาจใช้เวทมนตร์หรือทักษะชนิดใดได้เลย”

ซีบาลกำลังถ่ายทอดข้อมูลจำนวนมาก

จุดอ่อนดังกล่าวต้องมีประโยชน์ในสักวันแน่ ไม่เฉพาะศึกราชาอสูรเท่านั้น

ทุกคนเงี่ยหูฟังคำอธิบายจากซีบาลอย่างตั้งใจ

แม้จะไม่ทราบว่าราชาอสูรจะลงมือตอนไหน แต่ท่าทีของราชาอสูรราวกับมันกำลังตั้งใจฟังถ้อยคำซีบาลอยู่เช่นกัน

“สรุปโดยสั้น กลยุทธ์สำหรับรับมือกับจักรกลเวทมนตร์คือเวลา พวกเราต้องยื้อเวลาให้นานที่สุด ทุกคนทำได้แน่ จักรกลเวทมนตร์ปราศจากการโจมตีระยะไกล พวกนายยังจำตอนที่ฉันสู้กับคริสและยูร่าได้ใช่ไหม? อาวุธชนิดเดียวของไรเดอร์สคือหอกยักษ์ที่มีความยาวสี่เมตร”

นี่คือจุดสำคัญ

ซีบาลตัดสินใจเผยจุดอ่อนเพียงข้อเดียวของจักรกลเวทมนตร์ให้โลกรับทราบ

“หมั่นรักษาระยะห่างอยู่เสมอ คอยหาโอกาสโจมตีใส่ถังเก็บเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง ถังเก็บเชื้อเพลิงอาจทนทานจนยากจะเกิดรอยขีดข่วน แต่การโจมตีใส่ถังเชื้อเพลิงโดยตรงจะส่งผลให้วงจรมานาขัดข้องชั่วขณะ ห้ามหยุดโจมตีถังเชื้อเพลิงเด็ดขาด”

หรือก็คือ การจี้จุดถังพลังงานเป็นกุญแจสำคัญในการปราบไรเดอร์ส

หลังจากซีบาลอธิบายจบ แรงเกอร์ที่เหลือรอดกว่า 350 คนต่างพยักหน้าพร้อมเพรียง

‘ขอชื่นชมที่ยอมเผยจุดอ่อน’

‘ฉันจะไม่ยอมให้การเสียสละของนายต้องสูญเปล่า พวกเราต้องเอาชนะราชาอสูรให้จงได้!’

ผู้เล่นส่วนใหญ่เกิดความนับถือหัวใจซีบาล แต่เชื่อเถอะ ความรู้สึกเช่นนี้คงอยู่ไม่นานแน่

ในการแข่งปีหน้า อาจมีใครสักคนได้ดวลกับซีบาล และหากมันถูกโค่นโดยจุดอ่อนที่ตัวเองเป็นคนเปิดเผย ถึงเวลานั้นคงถูกหลายฝ่ายหัวเราะเยาะจนฟันร่วงหมดปาก

ซีบาลย่อมอ่านสีหน้าทุกคนออก

แต่มันทำเพียงยักไหล่เล็กน้อย

‘ในปีหน้า ฉันจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าปัจจุบันหลายเท่า!’

จักรกลเวทมนตร์ถือเป็นไอเท็มชนิดหนึ่ง หมายความว่ามันถูก ‘เสริมแกร่ง’ ได้

ในฐานะไอเท็มเกรดวิเศษ ความยากในการเสริมแกร่งจึงหฤโหดไม่ต่างจากเกรดมิธ แต่หากเสริมแกร่งสำเร็จ ประสิทธิภาพจะเพิ่มเป็นทวีคูณไม่แพ้กัน

จุดอ่อนด้านถังเชื้อเพลิงในปัจจุบันจะหายไปหลังจากเสริมแกร่งในอนาคต

‘ปัญหาคือ การเสริมแกร่งแต่ละครั้งต้องใช้หินมากถึงยี่สิบก้อน…’

แถมโอกาสสำเร็จยังมีไม่ถึง 1%

แต่ซีบาลก็มั่นใจ มันรวบรวมหินเสริมแกร่งได้ในปริมาณมากจากเหรียญรางวัลของการแข่งที่ผ่านมา

ความฝันในการเสริมแกร่งไรเดอร์สอยู่ไม่เกินเอื้อม

“เก็บไรเดอร์ส”

หลังจากนัดแนะสัญญาณกับพวกพ้องเป็นอย่างดี ซีบาลกระโดดออกจากไรเดอร์สพร้อมกับเก็บเข้าช่องสัมภาระ

‘ในวินาทีที่เราขับไรเดอร์สรอบหน้า นั่นจะเป็นจุดจบของราชาอสูร’

ซีบาลอัญเชิญฮิปโปสองหัวออกมาขี่เพื่อเพิ่มค่าพลังป้องกันพวกพ้องและตนเอง จากนั้นก็หันชำเลืองมองราชาอสูร

ด้วยเหตุผลบางประการ ราชาอสูรเลิกใช้เวทบินและเลือกยืนบนศีรษะจักรกลเวทมนตร์แทน

ขณะเดียวกัน เสียงกู่ร้องฝ่ายผู้เล่นพลันคำรามกึกก้องทั่วสนามรบ

“รีบโจมตีก่อนที่ราชาอสูรจะขึ้นขับหุ่น! สะสมความเสียหายให้ได้มากที่สุด!”

“ถึงเวลาเฉิดฉายของเหล่าจอมเวทแล้ว! ทันทีที่หุ่นขยับ รีบกระหน่ำโจมตีใส่ถังเชื้อเพลิงด้วยเวทใหญ่!”

“คลาสสายประชิดทุกคนคงรับมือจักรกลเวทมนตร์ไม่ไหว พวกเราจะหาทางโจมตีปืนใหญ่ในช่องว่างที่เกิดขึ้น”

“แม้แต่มหาจอมเวทก็ขับหุ่นได้ไม่เกินสามนาทีสินะ ดีล่ะ! พวกเรายื้อได้แน่!”

ราชาอสูรจะมีท่าทีเช่นไร

ฝ่ายผู้เล่นต่างเฝ้าสังเกตและคาดเดาการกระทำ

พวกมันเฝ้ารอด้วยใจจดจ่อ ห่าฝนธนูจะโหมกระหน่ำทันทีที่ราชาอสูรเตรียมซิงโครไนซ์กับหุ่น

ราชาอสูรต้องนึกเสียใจที่บังอาจละทิ้งวิชาดาบและเวทมนตร์เพื่อแลกกับการขับจักรกลเวทมนตร์

และในวินาทีที่ราชาอสูรออกจากหุ่นอีกครั้ง หอกของไรเดอร์สตัวจริงจะเสียบทะลวงหน้าอกจนเลือดสาดกระเซ็น

ชัยชนะจะตกเป็นฝ่ายผู้เล่น

แต่ทันใดนั้น…

“เอ๋?”

“…หมายความว่ายังไง?”

เหตุใดถึงไม่เหมือนกับที่จินตนาการไว้?

ราชาอสูรมิได้เปิดประตูห้องเครื่องและเข้าไปนั่งขับ

มันเพียงยืนเหนือศีรษะหุ่นพลางกอดอกด้วยสีหน้าแสนมั่นใจ

เช่นนั้นแล้ว… ทำไมกัน

ทำไมจักรกลเวทมนตร์ถึงขยับเองได้?

ปัจจัยนอกเหนือการคำนวณเกิดขึ้นตั้งแต่ยังไม่เริ่มสู้ สีหน้าสุดฉงนของฝ่ายผู้เล่นต่างหันมองซีบาลเป็นตาเดียว

“…เชี่ยอะไรอีกเนี่ย?”

แม้แต่ซีบาลก็อธิบายไม่ได้ มันนั่งบนหลังฮิปโปพลางอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง

“เป็นยังไงบ้าง เริ่มชินรึยัง”

ราชาอสูรกระซิบกระซาบกับหุ่นยักษ์

คำตอบดังแว่วในหัว

>> ที่ใช้เวลานานเพราะฉันต้องคอยแก้ไขวงจรสุดห่วยแตก

“แล้วใช้เวทมนตร์ได้ไหม”

>> ทำได้ในทางทฤษฎี หากดัดแปลงวงจรอย่างถูกต้อง ฉันจะใช้ได้แม้กระทั่งอุกกาบาต แต่ด้วยสภาพดวงวิญญาณปัจจุบันที่อ่อนแอเกินไป จึงใช้ได้เพียงเวทมนตร์พื้นฐานไม่กี่ชนิด… ดูดกลืนมานา!

บราฮัม มหาจอมเวทในตำนาน

บุคคลอัจฉริยะที่เคยบงการกองทัพโกเลมบุกถล่มอาณาจักรอีเทอนัลจนเกือบสิ้นท่า

ปัจจุบัน จักรกลเวทมนตร์สีดำกำลังดูดซับมานาจากบรรยากาศรอบตัว

เป็นพลังที่เหนือกว่าไรเดอร์สชัดเจน

ประสิทธิภาพสั่งการที่สูงกว่าไรเดอร์สสามเท่า หมายถึงการเคลื่อนไหวและพละกำลังที่มากกว่า

สาเหตุเกิดจากการปรับแต่งวงจรเวทมนตร์ของบราฮัม

หอกยักษ์กวัดแกว่งทั่วสนามรบประหนึ่งเสาแห่งพาร์เทน่อน

หุ่นทมิฬมีบรรยากาศคุกคามราวราชันสงครามควบม้าออกศึก

แต่นั่นเป็นเพียงบรรยากาศที่ทุกคนสัมผัส

“ทำไมนายถึงโจมตีใครไม่โดนเลย”

>> ฉันไม่เคยฝึกฝนศิลปะต่อสู้…

“…เยี่ยมไปเลย”

ช่างเถอะ ไม่มีสิ่งใดให้ต้องกังวล ในเมื่อบราฮัมระบุว่าพอจะใช้ ‘เวทมนตร์พื้นฐาน’ ได้บ้าง

กริดแสยะยิ้มพลางลงมือสร้างความสิ้นหวังให้ฝ่ายมนุษย์

“เสมือนเทพ·เนตรแพ็กม่า”

[ตรวจสอบรายละเอียดและสูตรผลิตไอเท็มเป้าหมาย]

[ท่านได้รับทักษะจำลองไอเท็ม]

[ไอเท็มเกรดเกรดเลเจนดารี ‘เกราะแสงศักดิ์สิทธิ์’ ถูกใช้เป็นเครื่องสังเวยสำหรับจำลองไอเท็มเกรดมิธ ‘คันศรฟินิกซ์แดง’]

[ไอเท็มที่ถูกจำลองจะมีอายุขัยหนึ่งวัน ทันทีที่หมดเวลา ไอเท็มสังเวยจะถูกทำลายถาวร]

เขาต้องสังหารศัตรูให้มากที่สุดขณะจักรกลเวทมนตร์กำลังอาละวาด นี่คือปัจจัยสำคัญสำหรับเอาชนะศึกตรงหน้า

จักรกลเวทมนตร์พลันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ชายหนุ่มโก่งคันศรฟินิกซ์แดงไปด้านหลังโดยไม่สูญเสียการทรงตัว

“ไอ้บัดซบนั่นไม่ละอายใจเลยรึไง!”

“เชี่ยไรอีกเนี่ย!”

คำสบถดังระงมทั่วสนามรบ

แม้แต่คนเคยบัดซบอย่างซีบาลก็ยังพอมีศีลธรรมพื้นฐานอยู่บ้าง แต่ขณะเดียวกันก็หมายความว่า ซีบาลยังไม่คู่ควรจะเป็นพระเอกของโลกใบนี้

พระเอกต้องโดดเดี่ยวลำพัง

พระเอกต้องปราศจากศีลธรรมในจิตใจ

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,351

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous