จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 959
<จักรกลเวทมนตร์ : ไรเดอร์ส>
เกรด : วิเศษ
ความคงทน : 12,540/15,888
พลังโจมตี : 13,888
พลังป้องกัน : 9,888
* ทักษะและค่าสถานะของคลาสที่ไม่ใช่นักขับจะไม่ส่งผลต่อไรเดอร์ส
★ ภูมิปัญญาเหนือกาลเวลาได้ปรับแต่งวงจรเวทมนตร์ใหม่ ค่าสติปัญญาของผู้ขับถูกเชื่อมกับไรเดอร์ส
* ไรเดอร์สจะดูดกลืนมานาของผู้ขับ 988 หน่วยต่อวินาที แต่หากคลาสนักขับเป็นผู้ควบคุม อัตราการสูญเสียมานาจะเหลือเพียง 588 หน่วยต่อวินาที ไรเดอร์สจะหยุดการทำงานทันทีเมื่อมานาผู้ขับไม่เพียงพอ
★ ภูมิปัญญาเหนือกาลเวลาได้ปรับแต่งวงจรเวทมนตร์ใหม่ อัตราสูญเสียมานาเพิ่มเป็น 2,964 หน่วยต่อวินาที แต่ชุดคำสั่งจะถูกถ่ายทอดเร็วขึ้นสามเท่า
* สติสัมปชัญญะและมานาของผู้ขับกำลังจดจ่ออยู่กับไรเดอร์ส ส่งผลให้ผู้ขับมิอาจใช้ทักษะหรือเวทมนตร์ของตัวเองได้
★ ภูมิปัญญาที่อยู่เหนือกาลเวลาได้ปรับแต่งวงจรเวทมนตร์ใหม่ ขีดจำกัดเดิมของไรเดอร์สถูกปลด ผู้ขับสามารถใช้เวทมนตร์และทักษะพื้นฐานได้ แต่มีความเสี่ยงสูงหากฝืนใช้ทักษะที่สิ้นเปลืองทรัพยากรมหาศาลในพริบตา
* ผู้ขับจะไม่ได้รับอันตรายจนกว่าความคงทนของไรเดอร์สจะหมดลง หากมานาผู้ขับไม่เพียงพอ ไรเดอร์สจะหยุดทำงานทันที
*อาวุธหมายเลขหนึ่ง ‘หอกภัยพิบัติ’ มีน้ำหนักมหาศาล มีโอกาส 95% ที่จะสร้างอาการกระดูกแตกหรือชะงักแก่เป้าหมายขณะโจมตี และมีโอกาส 100% ในการลดค่าความคงทนอุปกรณ์เป้าหมาย
* อาวุธหมายเลขสองจะเปิดให้ใช้งานหลังจากผู้ขับครอบครองทักษะขับขี่ระดับสูง
* อาวุธหมายเลขสามจะเปิดให้ใช้งานหลังจากผู้ขับซิงโครไนซ์กับไรเดอร์สโดยสมบูรณ์
*ไรเดอร์สต้านทานอาการผิดปรกติทุกชนิด
(ยกเว้นทางกายภาพภายนอก)
* ลดความเสียหายจากเวทมนตร์และอาวุธชิงปราสาท 40%
* สร้างความเสียหายเพิ่มเติม150% ต่อกำแพงและสิ่งก่อสร้าง
* สร้างความเสียหายเพิ่มเติม 80% แก่ทุกเผ่าพันธุ์ยกเว้นเทพและมังกร
จักรวรรดิซาฮารันขุดค้นจักรกลเวทมนตร์ได้ทั้งหมดสี่เครื่อง
มนุษย์มีข้อมูลจักรกลเวทมนตร์น้อยนิด สิ่งเหล่านี้คือของวิเศษบรรพกาลที่ยากแก่การสืบประวัติ
เงื่อนไขการขับขี่ : เลเวล 300 หรือสูงกว่า
น้ำหนัก : วัดค่าไม่ได้
ไม่ใช่ไอเท็มสำหรับสวมใส่
หากแต่เป็นขับขี่
ทุกคนอาจบังคับมันได้ แต่คลาสนักขับจะรีดเร้นประสิทธิภาพได้สูงสุด
ทักษะและค่าสถานะของผู้ขับทั่วไปจะไม่ส่งผลต่อไรเดอร์ส แต่คลาสนักขับมีผล
ในเมื่อแต้มสถานะของผู้ขับทั่วไปไม่ทำให้ไรเดอร์สแข็งแกร่งขึ้น เช่นนั้นแล้ว ไรเดอร์สเป็นไอเท็มขยะสำหรับคนทั่วไปหรือไม่?
คำตอบคือไม่ ไรเดอร์สยังเป็นสุดยอดไอเท็ม ค่าพลังโจมตีและป้องกันพื้นฐานได้ก้าวข้ามไอเท็มในซาทิสฟายทุกชิ้น
หลังจากเลเวลสามร้อย หนึ่งแต้มพละกำลังจะเพิ่มพลังโจมตี 0.7
+4 ดาบอัสนีฯ มีพลังโจมตี 4,611
หลังจากเลเวลสามร้อย หนึ่งแต้มความอดทนจะเพิ่มพลังป้องกัน 0.9
+3 วัลฮัลล่าฯ มีพลังป้องกัน 1,622 หน่วย
ต่อให้นับรวมไอเท็มทุกชิ้นที่กริดสวม ไม่ว่าจะหมวกเหล็ก มงกุฎ ถุงมือ ผ้าคลุม รองเท้า รวมถึงกางเกงใน แต่ค่าพลังป้องกันและโจมตีของไรเดอร์สก็ยังสูงกว่าราชาโอเวอร์เกียร์ถึงสองเท่า
แถมหอกของมันยังสร้างอาการผิดปกติและลดค่าความคงทนทุกครั้งที่โจมตี ไม่แปลกที่คริสมิอาจเอาชนะได้
‘จักรวรรดิมีของแบบนี้ถึงสี่เครื่อง…’
กริดมีโอกาสทราบความลับขุมพลังจักรวรรดิได้จากรายละเอียดไอเท็ม
ชายหนุ่มเลียริมฝีปากอย่างตื่นเต้น เขายังไม่ลืมคำกล่าวของลิมชอลโฮที่ระบุว่า NPC ทรงพลังอันดับหนึ่งของทวีปอย่าง ‘แกรนมาสเตอร์ ซิกเฟรคเตอร์’ ก็ขึ้นตรงต่อจักรวรรดิเช่นกัน
เมื่อจินตนาการว่าฝ่ายตนต้องเผชิญหน้าขุมกำลังอันแข็งแกร่ง กริดเริ่มเผยสีหน้าดำมืด
ด้วยความสัตย์จริง เขากำลังหวาดกลัว
'แต่ว่า…’
กริดโก่งง้างคันศรฟินิกซ์แดงเกรดมิธที่เพิ่งคัดลอกไปด้านหลัง เขาพยายามข่มจิตใจให้สงบ
‘เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว…’
ตนมีชะตาต้องห้ำหั่นกับจักรวรรดิอย่างมิอาจเลี่ยง
ฝ่ายพวกมันมีแผนรวมทวีปเป็นหนึ่ง การบุกโจมตีอาณาจักรโอเวอร์เกียร์จึงขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
หรือต่อให้ไม่เกิดขึ้น แต่กริดก็มีหน้าที่ต้องสะสางความแค้นให้ปิอาโร่และอัสโมเฟล
เป็นชะตากรรมที่เขามิอาจเลี่ยงได้
“โบยบิน”
กริดเล็งจอมเวทเป็นลำดับแรก
ทั้งผลึกน้ำแข็งที่ลดความเร็วไรเดอร์ส ฝ่ามือทรายที่คอยพันธนาการแขนขา รวมถึงเวทระเบิดที่โหมกระหน่ำใส่ถังเชื้อเพลิง ตัวตนจอมเวทนับเป็นภัยคุกคามร้ายแรงสำหรับจักรกลเวทมนตร์
“ผมจัดการเอง!”
โค้กจากเกาหลีใต้
มันใช้ทักษะพุ่งตัวเพื่อเคลื่อนที่ไปยืนหน้ากลุ่มจอมเวทซึ่งตกเป็นเหยื่อฟินิกซ์แดง
ได้โปรดอย่าตายในการโจมตีเดียว…
นี่คือสิ่งที่โค้กภาวนา
“ผมจะเป็นกำแพงให้ทุกคน!”
โค้กปลดปล่อยทักษะที่อัศวินผู้พิทักษ์แรงค์หนึ่งอวดโอ่ว่าเป็น ‘ม่านบาเรียที่ดีที่สุดในโลก’
กำแพงปกป้อง—ม่านบาเรียที่แวนเนอร์ครอบครองอย่างยากลำบาก มันถูกสำแดงอิทธิฤทธิ์ให้คนทั้งโลกได้ประจักษ์
โล่ใหญ่ในมือโค้กส่องสว่าง
โค้กจะรับมือฟินิกซ์แดงที่ทรงพลังยิ่งกว่าของจิสึกะไหวหรือ?
ผู้ชมในสนามและทั่วโลกต่างตั้งคำถาม
“ชิ!”
ราชาอสูรขมวดคิ้วพลางส่งเสียงหงุดหงิด
กริดย่อมรู้จัก ‘กำแพงปกป้อง’ ดี ฟินิกซ์แดงของตนมีชะตาต้องกลายเป็นหมัน
กำแพงปกป้องคือยอดเทคนิคที่สลายการโจมตีระยะไกลได้ทุกชนิด
แถมกริดยังรู้จักโค้กดีกว่าใคร เด็กหนุ่มตรงหน้าคือบุคคลที่ตนเชื่อมั่นและปลุกปั้นให้เป็นอาวุธลับโอเวอร์เกียร์
ฟินิกซ์แดงพุ่งปะทะม่านบาเรียจนเกิดเสียงดังกึกก้อง
ม่านบาเรียแหลกละเอียด แต่ด้านฟินิกซ์แดงก็เช่นกัน เศษเสี้ยวเปลวเพลิงพุ่งกระจัดกระจายทั่วสนามรบประหนึ่งห่าฝน
ฝ่ายผู้เล่นพากันตะโกนดีใจสุดเสียง
“หมอนี่ของจริง!”
“คิดว่าผู้เล่นหน้าใหม่ที่เก่งที่สุดจะเป็นเฮสเตอร์เสียอีก”
โค้กแสดงฝีมือได้น่าทึ่งทุกครั้งที่ปรากฏตัว และหนนี้สร้างความประทับใจแก่ท็อปแรงเกอร์จำนวนมากถ้วนหน้า
กระนั้น เส้นทางของเขายังอีกยาวไกลกว่าจะเทียบชั้นกริดได้
ราชาอสูรยืนเด่นตระหง่านเหนือศีรษะจักรกลเวทมนตร์โดยมิได้แยแสการถล่มระเบิดจากจอมเวท
ขณะเดียวกัน กริดได้อัญเชิญฟินิกซ์แดงตัวที่สองท่ามกลางท้องฟ้าเหนือสมรภูมิ
เป็นการอำนวยพรจากบัญชาแห่งเทพซึ่งลบล้างระยะหน่วงทักษะล่าสุด
“ให้ตายสิ…”
ใบหน้าโค้กพลันขาวโพลนขณะพยายามยกโล่ป้องกัน สถานการณ์ปัจจุบันไม่เหมือนกับรอบแรก
ร่างกายของมันกำลังอ่อนล้า กระดูกแขนแตกหัก ค่าความคงทนโล่แทบไม่หลงเหลือ
แรงเกอร์หลายคนรีบกรูเข้าช่วยปกป้องโค้ก… แต่การกระทำพวกมันต้องเป็นหมัน
เป้าหมายการโจมตีของฟินิกซ์แดงในหนนี้ไม่ใช่โค้ก นกเพลิงยักษ์บินผ่านศีรษะไปอย่างไม่แยแส
ราวกับมันมีชีวิตและเลือกโจมตีได้ตามใจนึกคิด นี่คือเครื่องพิสูจน์ว่า ฟินิกซ์แดงของราชาอสูรมีระดับเหนือกว่าของจิสึกะ
มันโบยบินผ่านกลุ่มแทงค์และเจาะจงคร่าชีวิตจอมเวทกว่าสิบ
โอเวอร์เกียร์ คำนี้ใช้ทุกสถานการณ์
กริดอาศัยปลอกนิ้วยิงธนูของเอลฟ์เพื่อเปลี่ยนการโจมตีชนิดไม่ล็อกเป้าให้กลายเป็นล็อกเป้า
“ทำไมหมอนั่นถึงเล็งเป้าให้ฟินิกซ์แดงได้?”
ยังผ่านไม่ถึงสิบนาที แต่ราชาอสูรกลับแสดงพลังที่น่าทึ่งหนแล้วหนเล่า
ประหนึ่งหัวหอมที่ลอกชั้นหนึ่งก็จะพบอีกชั้นด้านในเสมอ
‘ถ้ากริดอยู่ที่นี่ด้วยล่ะก็…’
ผู้เล่นต่างมั่นใจว่าตนจะแสดงฝีมือได้โดดเด่นเมื่อไม่มีกริด ทุกคนล้วนยินดีที่ไม่ต้องถูกกริดฆ่าตายในดาบเดียวเหมือนปีก่อน
ผืนป่าที่ไร้ราชสีห์ย่อมถูกปกครองโดยฝูงจิ้งจอก
แต่ปัจจุบัน โทสะของทุกคนกำลังระอุ พวกมันเจ็บแค้นที่ฝ่ายมนุษย์ต้องถูกสัตว์ประหลาดย่ำยีเมื่อปราศจากกริด
ขณะหลายคนคิดเช่นนี้ หุ่นยักษ์สีดำได้กระโจนหลบฝูงเวทมนตร์ที่กระหน่ำใส่พลางเพ่งความสนใจไปยังจิสึกะ
กริดรีบกล่าวห้าม
“ฆ่าจอมเวทให้หมดก่อน”
จิสึกะคือหนึ่งในภัยอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย เธอเป็นตัวทำดาเมจเพียงน้อยคนที่สามารถคุกคามชีวิตกริด
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ความเสียหายจากจิสึกะได้ลดพลังชีวิตกริดหลายส่วน
แต่กระนั้น เขามิได้แยแสระดับพลังที่ชีวิตที่ลดลง
กริดมีทักษะจำพวกดูดเลือดมากมาย แถมยังมีพลังจากสมญานามและอักขระความมืด
พลังชีวิตคือสิ่งไม่สำคัญที่จะเติมเต็มถังเมื่อไรก็ได้
ในวินาทีที่ได้รับพลังชีวิต 1.9 ล้านหน่วย กริดก็ไม่เกรงกลัวว่าจะถูกโจมตีทีเดียวตายอีกต่อไป
“รีบจัดการจอมเวทเป็นลำดับแรก”
แม้เมื่อครู่เพิ่งฆ่าไปกว่าสิบ แต่จอมเวทในสนามรบยังเหลือมากกว่าเจ็ดสิบ
เวทมนตร์ของพวกมันคอยพันธนาการไรเดอร์สจากทุกทิศ
หุ่นยักษ์เบนสายตาจากจิสึกะไปหากลุ่มจอมเวททันที
ด้วยความที่จักรกลเวทมนตร์มีสปีดสูงกว่ารุ่นปรกติถึงสามเท่า ระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยเมตรย่อมถูกย่นลงในอึดใจ
ไรเดอร์สกวัดแกว่งหอกยักษ์ท่ามกลางสนามรบด้วยมาดสุดองอาจ
กลุ่มจอมเวทต่างหนีแตกฮือทั่วทิศอย่างลนลาน
…แต่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่เสียชีวิต
『จักรกลเวทมนตร์ของราชาอสูรพลังโจมตีไม่ค่อยสูงหรือครับ? 』
『เห็นด้วยครับ นับตั้งแต่ถูกอัญเชิญออกมา มันยังไม่ได้สังหารใครเลย』
『แม้จะเร็วกว่าจักรกลเวทมนตร์ของซีบาลมาก แต่พลังทำลายกลับไม่น่ากลัวอย่างที่คิดสินะครับ』
พิธีกรและผู้ชมต่างแสดงสีหน้าโล่งใจ
ตรงกันข้ามกับจักรกลเวทมนตร์ซีบาล หุ่นรบของราชาอสูรไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เป็นเพียงพาหนะที่ว่องไวเท่านั้น
“รุ่นบกพร่องสินะ”
ฝ่ายผู้เล่นเริ่มอ่านบรรยากาศออก
จักรกลเวทมนตร์ราชาอสูรไม่ต่างอะไรกับเศษเหล็กความเร็วสูง
หลังจากตาสว่าง กลุ่มผู้เล่นเริ่มตอบโต้อย่างฮึกเหิม
พวกมันเริ่มใช้จักรกลเวทมนตร์เป็นฐานปีนป่ายขึ้นไปหาราชาอสูร
กริดถูกบีบบังคับให้สลับจากคันศรฟินิกซ์แดงกลับเป็นดาบอัสนีฯ
หลังจากกวัดแกว่งโจมตี เพลิงทมิฬอุบัติเป็นระยะในรูปลักษณ์พลังงานมนตร์ดำ
นั่นสินะ…
ไอเท็มคือสิ่งเดียวที่ตนสามารถเชื่อใจและพึ่งพาได้ พวกมันไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง
ขณะกริดคิดเช่นนี้ เสียงสั่นระริกจากบราฮัมพลันดังแว่วในหู
>> เป็นแค่มดปลวก… กล้าดียังไง!!
บราฮัมอับอายและเดือดดาลหลังจากฝ่ายผู้เล่นเริ่มเมินเฉย
โทสะปริมาณมหาศาลถูกระบายในรูปทรงเวทมนตร์
>> ไฟบอล!
“อะไรกัน…!”
กลุ่มก้อนเวทเพลิงขนาดใหญ่จำนวนมากอุบัติขึ้นจากความว่างเปล่าเหนือศีรษะหุ่นรบ
ผู้เล่นทุกคนพลันเหลียวมองซีบาลด้วยสายตาสุดเคลือบแคลง
‘ไหนนายบอกว่าจักรกลเวทมนตร์ใช้เวทไม่ได้?’
‘ไหนบอกว่าอาวุธชนิดเดียวคือหอก?’
คำถามมากมายถูกส่งผ่านสายตาตำหนิ
แน่นอน ซีบาลมอบคำตอบให้ไม่ได้ มันคือบุคคลที่กำลังตกตะลึงยิ่งกว่าใคร
ไม่เพียงเท่านั้น กลุ่มก้อนเวทมนตร์เปลวเพลิงตรงหน้า… มันเหมือนกับเวทอุกกาบาตในตำนานเลยไม่ใช่หรือ?
เหล่าจอมเวทรีบกางม่านบาเรียกันไฟเต็มกำลัง
แต่ก็เปล่าประโยชน์ ห่าฝนเปลวเพลิงแผดเผาหลอมละลายม่านบาเรียสุดกระจอกในพริบตา
มวลหมู่จอมเวทถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นซากขี้เถ้าของจริง
『อึก…! 』
มนตร์เพลิงที่ถล่มท่วมท้องฟ้าถูกเล็งอย่างแม่นยำจนน่าทึ่ง แตกต่างจากเมื่อครั้งกวัดแกว่งหอกราวฟ้ากับเหว
การโจมตีชุดเมื่อครู่ไร้เทียมทานจนพลังฟินิกซ์แดงเทียบไม่ติด
หลังจากเวทมนตร์ระดับตำนานจบลง ฝ่ายพิธีกรเริ่มผุดทฤษฎีใหม่
『หรือจักรกลเวทมนตร์คือร่างจริงของราชาอสูรกันครับ? 』
เวทที่ถูกสำแดงเมื่อครู่อลังการเกินกว่าจะทำความเข้าใจได้
>> ใบมีดวายุ!
หนนี้เป็นพายุสุดเกรี้ยวกราด
ผิดแผกจากเวทพายุทั่วไป มันคือพายุที่ก่อตัวจากใบมีดวายุนับพันหมุนควงเป็นวงกลม
สนามรบเริ่มถูกปัดกวาดจนเกลี้ยงเกลา
ผู้บรรยายย่อมไม่มีข้อมูลเวทมนตร์มากนัก ถึงเวลาที่ ‘ดอกเตอร์เมจิก’ ได้เวลาเฉิดฉาย
『นั่นคือเวทมนตร์เกรดเลเจนดารีครับ… เคอัสทอร์นาโด』
『เคอัสทอร์นาโด...? เป็นเวทประเภทไหนครับ』
『เป็นสุดยอดเวทมนตร์สายวายุ มีพื้นฐานจากเวทใบมีดวายุจำนวนมากหมุนวนอย่างเกรี้ยวกราด เวทดังกล่าวโด่งดังในด้านแปรเปลี่ยนภูมิประเทศให้เกลี้ยงเกลาและว่างเปล่าในพริบตา… ราวหนึ่งร้อยปีก่อน มหาจอมเวทในตำนานบราฮัมได้ใช้มันฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เอเทลจนสิ้นซาก…』
ดอกเตอร์เมจิกกล่าวอย่างตื่นเต้น แต่บรรยากาศฝ่ายกองเชียร์และพิธีกรพลันหดหู่
เคอัสทอร์นาโด…
เวทมนตร์ในตำนานกำลังแปรเปลี่ยนสนามรบให้เป็นขุมนรก
จอมเวทเสียชีวิตไปเกินครึ่ง โล่ในมือแทงค์ถูกฉีกกระชากจะมีสภาพไม่ต่างจากเศษเหล็ก
กระนั้น โทสะบราฮัมยังไม่ทุเลา
>> เชนไลท์นิ่ง! (สายฟ้าต่อเนื่อง)
บราฮัมกระหน่ำสาดเทเวทมนตร์ระดับต่ำต่อเนื่อง ในใจเขาหวังให้สนามพังพินาศเป็นหน้ากลองไม่หลงเหลือสิ่งมีชีวิตใดอีก
เวทมนตร์พื้นฐานที่ฝ่ายมนุษย์กำลังเผชิญ ระดับของพวกมันเหนือคำว่าพื้นฐานไปไกลลิบ
บราฮัมไม่แยแสว่าหุ่นรบจะถึงขีดจำกัดหรือไม่
สมรภูมิการต่อสู้ก่อเกิดสนามไฟฟ้าขนาดมหึมา ระยะความเสียหายกว้างไกลยิ่งกว่าเขตแดนละเลงเลือดก่อนหน้าเสียอีก
สนามรบเปี่ยมด้วยแสงอัสนีสีขาวอมฟ้าเจิดจ้าจนแสบตา
“ห…หลบเร็ว!”
นับเป็นหายนะอย่างแท้จริง
กลุ่มผู้เล่นรีบถอยหนีคนละทิศทาง
ยกเว้นเพียงหนึ่งคน
…จักรพรรดิแห่งวงการเกมยิง
หนึ่งในห้าบุคคลปาฏิหาริย์ที่ลิมชอลโฮยกย่อง ลูกศิษย์จอมปราชญ์สีชาดวินฟรีด
รวมถึงผู้ครอบครองยอดทักษะติดตัวลับ ‘ตำนานวีรบุรุษ’
เฮสเตอร์กระโจนเข้าหาจักรกลเวทมนตร์แทนการถอยหนี
มวลหมู่สายฟ้ากระหน่ำผ่าใส่ร่างมันประหนึ่งสึนามิอัสนี
บาเรียแสงส้มอุบัติห่อหุ้มกายาพร้อมกับขจัดเวทมนตร์คุกคามรอบกาย
นี่คือความสุดยอดของ ‘ตำนานวีรบุรุษ’ ทักษะติดตัวซึ่งช่วยลบล้างทักษะและเวทมนตร์ทุกชนิดภายในระยะเวลาหนึ่ง
เป็นพลังที่สืบทอดจากเจ็ดนักบุญภัยพิบัติเหมือนกับ ‘บัญชาแห่งเทพ’ ของกริด
แม้กระทั่งมหาจอมเวทในตำนาน (?) ก็มิอาจโจมตีทะลวงผ่านบาเรียสีส้มรอบกายเฮสเตอร์ได้
จอมปราชญ์สีชาดพุ่งผ่านกลุ่มก้อนเวทมนตร์โดยไม่กลัวเกรง เป้าหมายคือจักรกลเวทมนตร์ที่มีควันดำลอยฟุ้งจากถังเชื้อเพลิง
ไม่มีเวทีใดเหมาะแก่การเปิดตัวไปกว่างานแข่งนานาชาติอีกแล้ว
ตำนานของมันจะถูกสานต่อ ความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิเกมยิงจะถูกส่งต่อมายังจอมปราชญ์สีชาด
ราชาอสูรคือศัตรูชั้นเลิศที่เหมาะแก่การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่
หากตัวมันโดดเด่นบนหน้าจอทีวีขณะที่ทั่วโลกจับจ้อง ศักดิ์ศรีและชื่อเสียงในอดีตจะกลับคืนทันที
เฮสเตอร์ปลดปล่อยทักษะที่ร่ำเรียนจากวินฟรีดโดยไม่หวงแหน
มันเชื่อใจพลัง ‘ตำนานวีรบุรุษ’ เหนือสิ่งอื่นใด
แผนของเฮสเตอร์คือ บุกจู่โจมราชาอสูรตามลำพังต่อหน้าคนทั้งโลก
ภายในสิบวินาทีที่บัฟแสดงผล มันจะสำแดงความองอาจและฝีมืออันยอดเยี่ยมให้ทุกคนได้ประจักษ์
เมื่อหมดผลของบัฟ เฮสเตอร์จะหาโอกาสถอยกลับอย่างไร้รอยขีดข่วน
ทว่า ตำนานวีรบุรุษคือพลังที่ช่วยปกป้องอันตรายจาก ‘เวทมนตร์และทักษะ’ เท่านั้น
มันมิอาจปกป้องความฉิบหายจากการ ‘ฟันธรรมดา’ ได้
เมื่อกระโจนถึงส่วนหัวของหุ่นรบ เฮสเตอร์เปิดฉากดวลกับราชาอสูรอย่างสมเกียรติ
…แต่กลับต้องตายเยี่ยงสุนัขจากการฟันธรรมดาภายในไม่กี่วินาทีถัดมา
[ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง]
[ท่านเสียชีวิต]
การเปิดตัวของจักรพรรดิเฮสเตอร์ที่ทุกคนรอคอย… จบลงภายในห้าวินาที
…
ขณะเดียวกัน ที่ใดสักแห่งในสหรัฐอเมริกา
“แกลงเรือลำเดียวกับฉันแล้ว… ผู้เล่นธรรมดาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายคนนั้นหรอกนะ”
ฮูเร็นระเบิดเสียงหัวเราะขณะเปิดช่องการแข่งนานาชาติรับชม
เป็นแค่หนอนต้นสนก็ควรกินแต่ใบสน
ไม่ควรฝืนสังขารเกินตัว
นี่คือความคิดที่ฝังใจฮูเร็นเสมอมา
เฉกเช่นห้าปาฏิหาริย์คนอื่น ฮูเร็นไม่ทราบว่าตัวมันคือหนึ่งในห้าปาฏิหาริย์
ความมั่นใจในตัวเอง รวมถึงความทระนงตน ฮูเร็นขาดแคลนทั้งสองสิ่งอย่างหนัก
เป็นผลมาจากแผลใจที่กริดเคยสร้างไว้
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,352
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
กริดเล่นซะคนอื่นขาดความมั่นใจไปเลย
ReplyDelete5ปฎิหารย์นี้ขาดความมันใจเพราะกริดคนเดียวเกินไปม่างงงง
ReplyDeleteเกินไปป่ะ นั้น400(399)คนเชียวนะเฮ้ย
ReplyDeleteถ้าเป็นเกมมือถือต้องมีหัวเสีย ลบเกมทิ้งมั้งแหละ😆
สนุกมากครับ
จะบอกว่าคุณคือความหวัง(ที่จะได้อ่าน)ของผมจริงๆ
มีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่าน
ขอบคุณมากครับ😊
แพลหนักมาขนาดผ่านมาเป็นปียังไม่ลืม แผลบุรุตร3วินาที่555+
ReplyDeleteไม่อาจป้องกันความชิปหายจากการโจมตี"ธรรมดา" 🤣🤣🤣🤣 กลั้นขำไม่ไหว
ReplyDelete