จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 961
“…!?”
หลังจากกระโจนลงจากจักรกลเวทมนตร์ กริดได้ถูกศรปริศนาปักหน้าอกจนเสียหลักกระเด็น
ศรจากจิสึกะที่ไร้สุ้มเสียงได้กระหน่ำยิงใส่ชายหนุ่มตั้งแต่ศึกเริ่มขึ้น ไม่มีทางที่เขาจะคำนวณหรือหลบพ้นทั้งหมด ห่าฝนลูกธนูบัดซบตรงหน้ามิอาจเดาทางได้เลยสักนิด
ราวสองเดือนก่อน
ใบหน้าจิสึกะดีใจจนเนื้อเต้นหลังจากเคลียร์ภารกิจลับและได้ครอบครองทักษะธนูใหม่สุดแกร่ง
เธอนำพลังดังกล่าวมาใช้ต่อกรกับราชาอสูรผู้เป็นศัตรูกับมวลมนุษย์
‘สัตว์ป่ากลายเป็นสัตว์ประหลาดจนได้’
กริดทั้งหวาดหวั่นและโล่งใจ
จิสึกะเติบโตกลายเป็นตัวตนยิ่งใหญ่ที่ทั่วโลกต้องหวั่นเกรง
สตรีผู้นี้รักษาตำแหน่งมือธนูอันดับหนึ่งของโลกนานหลายปี และเข้าใกล้ความเป็นโอเวอร์เกียร์มากกว่าสมาชิกกิลด์คนใด
เธอเป็นคนที่มีนิสัยยอดเยี่ยมและคอยเอาใจใส่กริดเสมอ การมีจิสึกะเป็นพวกพ้องทำให้อนาคตของกริดสดใสราบรื่น
แต่ในทางกลับกัน
‘ยูร่า’
แม้จะกลายเป็นตำนาน แต่เธอก็มิอาจหลุดพ้นบททดสอบที่ยากลำบาก ยูร่าแทบไม่เคยสมหวังในพลังของคลาส
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้กริดเจ็บแปลบหัวใจ
ความพยายามและพรสวรรค์ของยูร่าไม่อาจเฉิดฉายได้เท่าที่ควร…
เธออับโชคเกินไป
ในฐานะรุ่นพี่ของความอับโชค กริดย่อมทราบถึงความทรมานที่ยูร่ากำลังเผชิญ
แต่เขาก็ไม่ต้องการให้เธอด่วนถอดใจยอมแพ้
เปรี้ยง—
ขณะเหม่อลอยครุ่นคิดในสภาพเสียหลัก ศรดอกใหม่พุ่งปักร่างกริดโดยเขามิอาจขัดขืน
ร่างกายชายหนุ่มกระเด็นกระแทกจักรกลเวทมนตร์ที่กำลังคุกเข่าด้านหลัง
บึ้มมมมม!!
เสียงระเบิดดังสนั่น ภาพการมองเห็นของกริดกำลังหมุนเคว้ง ความคงทนอุปกรณ์ลดฮวบฮาบ
แม้จะผิดจากที่คาดเล็กน้อย แต่กริดยังใจเย็นได้อยู่
หลังจากสงบสติ การมองเห็นเริ่มกลับคืนมาดังเดิม ชายหนุ่มพยุงร่างกายลุกขึ้นพลางกำดาบในมือแน่น
ทันใดนั้น ผ้าปิดตาเพชฌฆาตและค่าวิสัยทัศน์พลันร่ำร้องว่ามีการโจมตีจากศัตรูพุ่งเข้าหาทั้งสี่ทิศ
ฉัวะ—
คริสเปิดฉากโหมกระหน่ำ
คงเป็นการยากที่จะทานรับดาบจากสิบวีรชนฯ และผู้เล่นแรงค์หนึ่งของโลกคนปัจจุบันไหว
โดยเฉพาะราชาอสูรที่มีสภาพร่อแร่
ผัวะ—!
กำปั้นสายฟ้าจากเรกัสกระแทกใบหน้าจนล้มหงาย ป็อนตามเสียบหอกซ้ำขณะราชาอสูรนอนราบบนพื้น ถัดมาเป็นคอมโบจากดาเมี่ยนและพีคซอร์ด…
ทักษะทุกชนิดจากผู้เล่นกว่าสามร้อยถาโถมเข้าใส่อย่างไม่หยุดพัก หลอดพลังชีวิตกริดลดฮวบจนน่าใจหาย
ทันทีที่หลังติดพื้น ชายหนุ่มก็ทราบถึงความน่ากลัวของการถูกรุมกระทืบเป็นอย่างดี
สำนวนโบราณประโยคหนึ่งผุดขึ้นในหัว
‘ไม่มีที่ยืนสำหรับคนล้ม’
ใช่แล้ว เขามิอาจขยับได้แม้แต่ปลายนิ้ว
การโจมตีซัดโถมจากทุกทิศโดยไม่หยุดพัก การเคลื่อนไหวถูกตรึงพันธนาการด้วยเอฟเฟคจากทักษะ
แม้กระทั่งแรงเกอร์ที่ไม่เคยอยู่ในสายตาก็ยังกลายเป็นภัยคุกคาม
ความเสียหายรวมหลายแสนหน่วยถูกสะสมในระยะเวลาอันสั้น
‘เรามั่นใจเกินไป’
อันที่จริง กริดประเมินโอกาสชนะของตนไว้สูงมาก
ในบรรดาผู้เล่น มีเพียงเขาที่ทราบกฎการแข่งโดยละเอียด กริดสร้างไอเท็มทุกชนิดเพื่อเตรียมรับมือโดยไม่ขาดตกบกพร่อง แถมยังเป็นเซิร์ฟเวอร์งานแข่งที่แยกกับเซิร์ฟเวอร์หลัก ชายหนุ่มย่อมใช้ทักษะตีเหล็กได้อย่างอิสระ
สำหรับผู้เล่นทั่วไป ตนคงจัดการได้ในดาบเดียวแน่…
หากไม่นับเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์และแรงเกอร์ชั้นนำ แรงเกอร์ที่เหลือจะถูกเก็บกวาดอย่างรวดเร็วยิ่งเมื่อการต่อสู้ดำเนินไป
ท้ายที่สุด กริดประเมินว่าการต่อสู้จะเป็นไปในรูปแบบ 1 ปะทะ 30 มากกว่า 1 ปะทะ 400
แต่กริดคำนวณพลาดไปมหันต์
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะง้างฟันดาบได้แต่ละครั้ง จำนวนที่มากกว่าของอีกฝ่ายได้ทำให้เขาเผชิญช่วงเวลายากลำบาก
ราชาอสูรถูกตรึงพันธนาการจนแทบไม่ได้ขยับตัว
แถมพลังป้องกันผู้เล่นแต่ละคนก็ไม่เลวเมื่ออยู่ในสภาพบัฟจากหลายคลาสซ้อนทับ
อย่างน้อยก็ไม่มีใครตายในดาบเดียวหลังจากถูกกริดฟันธรรมดา
แถม ‘ข้อมูล’ ของราชาอสูรยังถูกเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์รวบรวมและกระจายออกไปในรูปแบบคำสั่ง
เมื่อมั่นใจว่ากริดคือราชาอสูร จิสึกะและคริสได้ขึ้นบัญชาการสนามรบจนสถานการณ์เป็นไปในเชิงบวก ฝ่ายผู้เล่นหลบการโจมตีที่เป็นภัยคุกคามจากราชาอสูรได้มากขึ้นราวกับล่วงรู้จุดอ่อนทุกซอกมุม
ทักษะโจมตีจากกริดหลายชนิดมีอันต้องเป็นหมัน
ตัวอย่างเช่น เมื่อครั้งเขาคัดลอกคันศรฟินิกซ์แดงและใช้ ‘โบยบิน’ กริดไม่ได้เอะใจเลยว่า จำนวนของผู้เล่นที่เข้าสู่การมองเห็นน้อยลงกว่าปรกติ
ช่างน่าละอายยิ่งนัก
[ท่านได้รับความเสียหาย 3,900 หน่วย]
[ท่านได้รับความเสียหาย 10,040 หน่วย]
[ความคงทนของวัลฮัลล่าฯ ลดลง 19 หน่วย]
[ได้รับอาการผิดปรกติ ‘เลือดออก’]
[ท่านต้านทาน]
[สมญานาม ‘กษัตริย์คนแรก’ แสดงผล ทำการสะท้อนอาการผิดปรกติ]
[ท่านสะท้อนกลับอาการผิดปรกติ]
[ท่านได้รับความเสียหาย 2,730 หน่วย]
[ท่านได้รับความเสียหาย 5,800 หน่วย]
[ความคงทนของวัลฮัลล่า…]
...
...
กาลเวลาเลือนผ่านไปอย่างเชื่องช้าราวกับชั่วนิรันดร์
กริดหวนนึกถึงสมัยมัธยมที่ตนเคยถูกนักเลงรุมกระทืบและมิอาจตอบโต้
ทว่า ความรู้สึกต่างจากเมื่อครั้งอดีตมาก แม้จะกริดหวาดกลัว แต่เขามิได้สติแตกจนลนลานหรือเสียขวัญ
ชายหนุ่มยังคงสุขุม
มันคือฝันร้ายที่ต้องก้าวข้ามและเอาชนะให้ได้ในสักวัน
ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะเอาชนะความหวาดกลัวหรือแผลใจสมัยอดีต
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญในปัจจุบัน
[สมญานาม ‘กษัตริย์คนแรก’ แสดงผล]
[ทำการสร้างบาเรียคุ้มกายดูดซับความเสียหายเทียบเท่ากับพลังชีวิตที่เสียไปในหนึ่งนาทีหลังสุด]
[ท่านสามารถเคลื่อนไหวได้ทุกสภาพพื้นผิว ความเร็วเคลื่อนที่และพลังป้องกันเพิ่มขึ้น 10%]
ภายในไม่กี่วินาที ตนสูญเสียพลังชีวิตไปกว่า 70% เลยหรือ?
กริดที่ได้รับบาเรียคุ้มกายเริ่มมีอิสระมากขึ้น ชายหนุ่มลืมตาตื่นจากห้วงระลึกอดีต
ในภาพการมองเห็น
แรงเกอร์แนวหน้าของโลกหลายคนกำลังยืนรุมล้อม
บางคนถูกพิษจากวัลฮัลล่าฯ จนหายใจเหนื่อยหอบ บางคนสับสนที่ตัวเองถูกสะท้อนอาการผิดปรกติ และบางคนแสดงสีหน้าหวาดกลัวชัดเจน
แต่ไม่มีใครเลยที่หยุดโจมตี
แรงปรารถนาซึ่งต้องการล้มราชาอสูรและคว้าเหรียญรางวัลให้ประเทศชาติอยู่เหนือทุกสิ่ง
“…”
ขณะบาเรียคลุมกายยังคงแสดงผล กริดใช้โอกาสวิเคราะห์สถานการณ์อย่างใจเย็น
ต่อให้บาเรียหมดลง เขายังเหลืออีกหนึ่งไพ่ตายสำหรับยื้อเวลา
พลังทีราเม็ท
ในสถานการณ์ปัจจุบัน ถ้าเปิดช่องว่างได้ล่ะก็… มานายังเพียงพอสำหรับบินกลับขึ้นไปลอยบนอากาศ
ด้วยทักษะผสานสามชนิด กริดสามารถจัดการแรงเกอร์ที่ไม่แข็งแกร่งได้หลายสิบคนในพริบตา
แต่นั่นก็ไม่ช่วยให้รอดพ้นจากสถานการณ์เลวร้าย
ยังอีกหนึ่งปัจจัยที่กำลังวิกฤติ
มานาของเขาใกล้หมดลงเต็มที
หากปลดปล่อยทักษะผสานสามชนิดใส่กลุ่มแรงเกอร์เบื้องหน้า กริดจะไม่เหลือมานาให้บินบนท้องฟ้าได้นานนัก และนั่นหมายถึงอันตรายในยามร่วงหล่นลงพื้น
ฉากถูกรุมกระทืบจะตามหลอนซ้ำ
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน การฆ่าคนจำนวนมากไม่ทำให้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ
‘เพลิงโลกันตร์ของบีเลียลอาจช่วยสร้างรอยเท้าไฟ แต่ผลก็ไม่เปลี่ยน’
มานายังคงเป็นปัญหา
และเขาจะบินไม่ได้
‘อีกนานกว่าศรเวทตั้งเวลาจะทำงาน’
เดิมที กริดย่อมไม่ทราบเวลาที่แน่ชัดว่าสี่ราชันสวรรค์จะถูกผู้เล่นโค่นลงเมื่อไร ส่งผลให้เขาพยายามตั้งเวลาศรเวทให้นานที่สุด
ยังอีกนานกว่าถึงเวลาทำงาน
กริดนึกถึงปัจจัยด้านสัตว์เลี้ยง โนเอะ แรนดี้ โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ ภูตธาตุแสง รวมถึงแวมไพร์ทีราเม็ท
แต่พวกมันเป็นเพียงสัตว์เลี้ยง จะทนรับการจากแรงเกอร์มากมายตรงหน้าไหวได้สักกี่ยกเชียว?
‘ยังเร็วเกินไป’
โนเอะมีทักษะป้องกันตัวหลายชนิดก็จริง รวมถึงทักษะขโมยแต้มสถานะสูงสุดเป้าหมายซึ่งเป็นประโยชน์มาก แต่การอัญเชิญยังมีความเสี่ยง
ท่ามกลางดงเท้าของท็อปแรงเกอร์กว่าสามร้อยคน สัตว์เลี้ยงของกริดคงตายจากในพริบตาและทิ้งให้เขาต้องโดดเดี่ยว
ไม่เพียงเท่านั้น ชายหนุ่มยังมีแผนใช้ประโยชน์จากภูตแสงในด้านอื่น
[ท่านได้รับความเสียหาย 23,000 หน่วย]
[ความคงทนวัลฮัลล่าฯ ลดลง 37 หน่วย]
เปรี๊ยะ! เปรี้ยะ!
หน้ากากที่เคยมีสีเทา ยามนี้ถูกย้อมกลายเป็นแดงฉานโดยสมบูรณ์
เดิมทีมันมีชื่อว่า ‘หน้ากากเพชฌฆาต’
รอยแตกร้าวเริ่มขยายวงใหญ่ขึ้น
สายลมพัดผ่านหยดเลือดซึ่งไหลซึมตามร่องรอยแตก ใบหน้ากริดกำลังรู้สึกเย็นสบาย
‘นี่มัน…’
หัวใจชายหนุ่มเริ่มเต้นโครมคราม
เขาย่อมทราบดี
ตนตกอยู่ในสถานการณ์แสนวิกฤติ
…พ่ายแพ้
ล้มเหลว…
กริดไม่คุ้นชินถ้อยคำเหล่านี้สักเท่าไร
ในช่วงหลังของชีวิต เขาประสบความสำเร็จจนหลงเลือนความพ่ายแพ้เสียสนิท
แต่แปลกมาก
เมื่อความพ่ายแพ้คืบคลานเข้าหา แทนที่จะสิ้นหวังหรือกังวลใจ กริดกลับตื่นเต้นยินดี
ชายหนุ่มสัมผัสได้
ต้องมีทางออกที่เขานึกไม่ถึงซ่อนอยู่แน่
สิ่งนี้เกิดจาก ‘สัญชาตญาณ’ ซึ่งถูกสั่งสมจากประสบการณ์อันยาวนานหลายปี
จนกระทั่ง…
‘พลังแห่งการตบตาและบิดเบือน…!’
พลังที่กริดละเลยมาตลอด
ฉากการดวลระหว่างครอเกลและวีรบุรุษพลันฉายซ้ำในหัว
ดาบพินาศทับหนึ่งแสนถูกร่างแยกใช้งานพลางสลับร่างจริงเพื่อให้เกิดความเสียหายสูงสุด
ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้มอบไอเดียที่ยอดเยี่ยมให้กริด
วีรบุรุษอาศัยจำนวนร่างแยกทั้งสี่เพื่อรีดเร้นพลังทำลายของทักษะจนถึงขีดสุด
‘เราทำแบบหมอนั่นไม่ได้แน่…’
เมื่อเทียบกับวีรบุรุษ ฝีมือควบคุมรวมถึงสมองสั่งการของกริดเชื่องช้ากว่ามาก
“แต่เรามีวิธีที่เจ๋งกว่านั้น”
โอเวอร์เกียร์… วิธีดังกล่าวคือการนำความโอเวอร์เกียร์เข้าสู้
ชุดเกราะซึ่งเป็นผลงานสุดท้ายของข่าน
ไอเท็มที่วีรบุรุษไม่มี
ชุดเกราะวัลฮัลล่าฯ มาพร้อมกับทักษะที่ชื่อ ‘ปราการเคลื่อนที่’
จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อพลังชีวิตของผู้สวมลดต่ำกว่า 10% หลังจากกดใช้งานจะแปรเปลี่ยนค่าความคงทนให้เป็นพลังป้องกัน (พลังป้องกัน 1 หน่วยต่อความคงทน 2 หน่วย)
ต้านทานอาการผิดปรกติทุกชนิดโดยไม่เว้นแม้กระทั่งทักษะพันธนาการภายนอก
ระยะเวลาของบัฟอยู่ได้นานหนึ่งนาที ขณะใช้งานจะลดความทนทานของชุดเกราะเหลือเพียง 30 หน่วย
(แต่เมื่อบัฟหมดลง ความคงทนจะกลับคืนเป็นหนึ่งในสามของค่าสูงสุด)
หากค่าความคงทนลดต่ำกว่าศูนย์ ชุดเกราะจะถูกทำลายถาวร
ขณะอยู่ในบัฟ ‘ปราการเคลื่อนที่’ ผู้สวมจะได้รับทักษะ ‘คงกระพัน’
มันคือทักษะโจมตีหมู่ที่จะระเบิดความเสียหายครึ่งหนึ่งซึ่งได้รับในห้านาทีหลังสุด รัศมีทำลายล้างกว้างไกลถึงห้าสิบเมตร
แต่ต้องแลกมาด้วยค่าความคงทนของชุดเกราะที่ลดลง 200 หน่วยถาวร
ระยะหน่วงทักษะคือสิบนาที
‘เราทำได้แน่’
เศษชิ้นส่วนเริ่มปะติดปะต่อในความทรงจำกริด นี่คือวินาทีที่สติปัญญาของไอ้ทึ่มกริดเบ่งบานถึงขีดสุด
อาจดาษดื่นและธรรมดาสำหรับอัจฉริยะทั่วไป แต่นี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับมนุษย์หัวขี้เลื่อยเช่นกริด
‘ร่างมืด·พลังบีเลียล’
[พลังจอมอสูรบีเลียลภายในอักขระความมืดถูกปลดปล่อย]
[มนุษย์มิอาจใช้งานพลังทั้งสามชนิดของบีเลียลได้]
[ท่านอยู่ในร่างครึ่งอสูร ร่างกายสามารถทนรับพลังอสูรได้บางส่วน แต่ขีดจำกัดของมนุษย์มิอาจใช้งานพลังสามชนิดของบีเลียลได้พร้อมกัน]
[ท่านต้องเลือกหนึ่งในสามพลังของบีเลียล : ความมืด เปลวเพลิง หรือลวงตา]
[ท่านเลือกพลังลวงตา]
กริดที่กำลังสูญเสียพลังชีวิตอย่างต่อเนื่อง ร่างกายชายหนุ่มพลันสั่นวูบวาบขณะการโจมตีถัดไปพุ่งเข้าใส่
กายาราชาอสูรแยกออกเป็นสองในสภาพหลังชนกัน
หน้าจอการมองเห็นถูกแบ่งครึ่ง
ทุกสิ่งรอบตัวถูกถ่ายทอดมายังหน้าจอหลัก ไม่ว่าจะเป็นศัตรูด้านหน้าหรือด้านหลัง
ฝ่ายผู้เล่นต่างจดจ้องราชาอสูรด้วยสีหน้าตื่นตระหนัก
“นี่มัน…!”
ใบหน้าพวกมันเริ่มขาวซีด… ราชาอสูรใช้พลังของวีรบุรุษกริดได้อย่างไร?
“กระจายตัวเร็วเข้า!!”
คริสรีบตะโกนออกคำสั่งอย่างลนลาน
『สร้างร่างแยกได้เหมือนกับวีรบุรุษกริดเลยครับ…! 』
『ทำไมราชาอสูรถึงมีพลังแบบเดียวกับกริดได้ครับ? 』
ผู้บรรยายทั่วโลกต่างพากันฉงน
=== นี่มันอะไรกัน?
=== หรือว่า…
ผู้ชมทางบ้านและในสนามล้วนมึนงงประหนึ่งถูกทุบด้วยค้อนยักษ์
‘ปราการ… เคลื่อนที่!’
ราชาอสูรผู้สุขุมและเลือดเย็น
มันต้านทานอาการผิดปรกติทุกชนิดไม่เว้นแม้แต่ทักษะพันธนาการ
บอสใหญ่เบื้องหน้าทุกคนกำลังลุกขึ้นยืนโดยไม่ได้รับอาการผิดปรกติจากศรที่จิสึกะเล็งกระหน่ำยิง
“อึก…!”
ภาพชวนวิงเวียนของหน้าจอร่างแยกส่งผลให้กริดถึงกับเลือดกำเดาไหล
ร่างแยกจำนวนมากเริ่มแทรกซึมระหว่างกลุ่มผู้เล่นที่รุมล้อมโจมตี
ทันใดนั้น
หมับ!
“นายจะไปไหน…”
กริดใช้ฝ่ามือคว้าตัวคริสไว้แน่นถนัด
หมอนี่คือหนึ่งในตัวแสบ…
ชายหนุ่มกระซิบข้างหูคริสด้วยเสียงแหบพร่า
“คงกระพัน”
บึ้ม—!!
บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!!
ทักษะโจมตีหมู่ที่ระเบิดกระจายความเสียหายครึ่งซึ่งได้รับในห้านาทีหลังสุด
รัศมีทำลายล้างคือห้าสิบเมตร
ยิ่งศัตรูแข็งแกร่ง แรงระเบิดก็ยิงมหาศาลประหนึ่งอาวุธนิวเคลียร์
ทุกสิ่งเกิดขึ้นในพริบตา เกราะที่กริดสวมส่องแสงสีแดงส้มพร้อมกับระเบิดออก
ฝ่ายผู้เล่นต่างเผชิญความฉิบหายกันถ้วนหน้า เสาแสงเทาส่องสว่างขึ้นฟ้าต้นแล้วต้นเล่า
วาบ—
ท่ามกลางฝุ่นควันคละคลุ้ง แสงสีเขียวสองจุดส่องลอดผ่านม่านหมอกหนาทึบที่ยังคงสลายไม่หมด
ชิ้ง—
หุ่นรบสีขาวซึ่งมีถังเชื้อเพลิงพ่นประจุมานานด้านหลัง ดวงตาของมันสีเขียวมรกต
จักรกลเวทมนตร์คู่กายซีบาล
ไรเดอร์ส
“กริดด!!!!”
ไม่เหมือนผู้เล่นอื่นที่ยังเคลือบแคลงในตัวตนกริด ซีบาลไม่นึกสงสัยอีกแล้ว
มันยอมรับในฝีมือกริดถึงเพียงนั้น
หากเป็นคนอื่นคงยากจะเชื่อ ว่าผู้เล่นหนึ่งคนจะต่อกรกับท็อปแรงเกอร์สี่ร้อยไหวได้อย่างไร?
แต่ซีบาลมั่นใจ ถ้าเป็นกริดต้องทำได้แน่
ตัวตนราชาอสูรไม่มีทางเป็นอื่นไปได้
ซู่ววว—
ยักษ์สีขาวเร่งเครื่องไอพ่นพลางพุ่งเข้าหากริดที่มีสภาพร่อแร่
“…แสงจ้า!”
กริดซึ่งมีลมหายใจขาดห้วงรีบอัญเชิญภูตแสงพร้อมกับใช้ทักษะที่ส่งผลตาบอด
ซีบาลที่ควบหุ่นปรี่เข้าหา มันพลันพานพบแสงสว่างสีขาวโพลน
หอกในมือไรเดอร์สจ้วงแทงโดนเพียงความว่างเปล่า
“อยู่นี่ไปก่อนนะ แล้วฉันจะมาสู้ด้วยทีหลัง คุฮ่าฮ่า!”
กริดหัวเราะชั่วร้ายราวเป็นจอมมารโดยกำเนิด
ภายใต้หน้ากากที่ใกล้แตกหัก สายตาของเขาจดจ้องไปยังจิสึกะโดยไม่กะพริบ
จิสึกะกำลังสั่นระริก
เธอมิได้หวาดกลัว
ตรงกันข้าม เธอกำลังจ้องมองราชาอสูรด้วยสีหน้าสุดกระสัน
นี่คือสีหน้าของสตรีที่หลงใหลในบุรุษคนหนึ่งอย่างเหนือคำบรรยาย
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,354
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สนุกมาก
ReplyDeleteผมนี้กระสันเลย
หนูอย่าไปหลงมันตอนนี้~~~!!
ReplyDeleteจิสึกะเธอคือนางเอกของเรื่อง ได้โปรดเธอต้องตกไอ้ทึ่มกริดให้ได้ อย่ายอมแพ้ยูร่า😍😍
ReplyDelete