จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 970



แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก!


ซี๊ด—!


ฮ๊า~


“สุดยอดเลย… ยองวู”


เหงื่อไคลไหลชุ่มชโลมกาย


ดวงตายูร่ากำลังพร่ามัว


“อร่อยจัง”


ซู้ด—


ยูร่าสูดเส้นบะหมี่ก้นถ้วนเข้าปาก


เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะมีรสชาติยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้


ยูร่าไม่เคยลองชิมเลยสักครั้ง จากภาพลักษณ์และราคาแสนถูก เธอจินตนาการว่ามันคงมีรสชาติจืดชืดและไม่อร่อย


แต่หลังจากได้ลิ้มลอง บะหมี่กึ่งกลับมีรสสัมผัสยอดเยี่ยมไม่แพ้บะหมี่ไก่ฝีมือพ่อครัวโรงแรมห้าดาว


ทุกครั้งที่รสชาติสัมผัสปลายลิ้น ความอร่อยพลันฟุ้งในปากอย่างซาบซ่าน


“เห็นไหม… เธอไม่จำเป็นต้องล้างวัตถุดิบ แค่ปรุงมันแล้วก็ต้ม ง่ายแค่นี้เอง”


สีหน้ายูร่าเปี่ยมด้วยความชื่นชมขณะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับปาก


ถ้วยบะหมี่กึ่งตรงหน้าไม่เหมือนกับอาหารในภัตตาคารจีนสักเท่าไร มันคล้ายคลึงกับอาหารในภัตตาคารฝรั่งเศสมากกว่า


ขณะเดียวกัน กริดที่นั่งฝั่งตรงข้ามเธอได้ยกถ้วยซดน้ำซุปอย่างเอร็ดอร่อย


จมูกของเขาแทบจะแตะก้นถ้วยอยู่แล้ว


“ฮ้า~ อิ่มจัง”


ชายหนุ่มพึงพอใจกับรสชาติของบะหมี่กึ่งที่ตัวเองปรุงมาก มันคือรสชาติสุดสมบูรณ์แบบเท่าที่จะหาได้จากอาหารประเภทนี้


ทั้งปริมาณน้ำที่พอเหมาะ การตอกไข่ใส่หลังจากเปิดเตาได้ 1 นาที 45 วินาที และการโรยหอมแดงซอยก่อนดับไฟแปดวินาที


นี่คือรสชาติบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในอุดมคติของทุกคน


‘เห็นถึงความยอดเยี่ยมของฉันรึยัง!’


เป็นสูตรที่ถูกพัฒนาอย่างยาวนาน


หากเป็นด้านปรุงบะหมี่กึ่ง กริดกล้าท้าดวลแม้กระทั่งพ่อครัวมิชลินสามดาว


เขาคิดเป็นจริงเป็นจังถึงเพียงนั้น


‘กลับถึงเกาหลีใต้เมื่อไร… เราควรหัดทำจัมปงให้ชำนาญ’


บางทีอาจอร่อยยิ่งกว่าภัตตาคารจีนร้านประจำเสียอีก


‘อึก…’


การต้มบะหมี่กึ่งสองซองด้วยจิตวิญญาณอันแรงกล้า กริดสูญเสียพลังงานค่อนข้างมาก หากเป็นในยามปรกติ เขาคงแสดงสีหน้าเหนื่อยล้าสุดขีด


แต่ปัจจุบัน ยูร่าที่นั่งฝั่งตรงข้ามกำลังฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข


เมื่อได้เห็นชายที่ตนรักสนุกไปกับการทำอาหาร (?) เธอเริ่มมองหาช่องทางเปลี่ยนให้มันเป็นกิจกรรมร่วมกันในอนาคต


“นั่งนิ่งๆ”


ยูร่าที่นั่งจ้องกริดมานาน เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าพร้อมกับเอื้อมตัวข้ามโต๊ะเพื่อเช็ดปากชายหนุ่ม


กลิ่นหอมหวนชวนหลงใหลของสตรีได้เตะจมูกเข้าอย่างจัง


“…!”


กริดพยายามข่มจิตใจ เขาไม่ต้องการให้ใบหน้าตัวเองแดงก่ำ แต่น่าเสียดายที่ไม่สำเร็จ ชายหนุ่มลุกพรวดหนีด้วยท่าทีตระหนก


“ยูร่า…!”


“หือ? อ๊ะ!”


หลังจากกริดลุกขึ้นและตะโกนเรียกชื่อ ในที่สุดยูร่าก็ได้สติกลับมา ใบหน้ากริดกำลังแดงก่ำยิ่งกว่าผลแครอท


อึก…


ยูร่าพลันกลืนน้ำลายอึกใหญ่


เธอเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ‘พลังแห่งบะหมี่กึ่ง’ มันส่งผลให้เธอปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์


ไม่ได้ทำไปโดยเจตนา


บุคคลที่ไม่ประสาเรื่องความรักเช่นหล่อน เมื่อได้สติกลับคืนมา ความเขินอายพลันเอ่อล้นไปทั่วร่าง


ยูร่าพยายามข่มจิตใจให้กลับเป็นปรกติ


“ฉ…ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”


“…”


กริดทิ้งยูร่าไว้ตามลำพัง ชายหนุ่มรีบเดินตรงไปยังห้องน้ำ สิ่งแรกที่ทำคือการส่องกระจก เขาเป็นกังวลว่าอาจมีเศษพริกติดตามซอกฟัน


แต่ฟันของกริดทั้งสวยและสุขภาพดี ไม่ถ่างหรือเหยินจนผิดรูป เศษอาหารย่อมเข้าไปติดไม่ง่ายนัก


ฟันขาวใสกำลังส่องสะท้อนกับกระจกเงา


‘เธอบอกว่าเราหล่อ…’


กริดบ้วนปากเล็กน้อยและเงยหน้าขึ้นส่องกระจกอีกครั้ง เขาพิจารณาความหล่อเหลาของตัวเองอยู่นานหลายนาที


ปัจจุบัน ใบหน้าตนเริ่มคลับคล้ายคลับคลากับสุดยอดงานศิลป์ที่ปิกัสโซ่วาด


อันที่จริง กริดเคยคิดมาตลอดว่าภาพดังกล่าวไม่เหมือนกับตัวเองเลยสักนิด


แต่สำหรับลอเอล ขุนพลโอเวอร์เกียร์ หรือแม้กระทั่งไอรีนและลอร์ด ทุกคนล้วนมองว่านั่นคือภาพที่เหมือนจริงโดยไม่มีใครโต้แย้งคัดค้าน


‘เราดูดีขึ้นจากแต่ก่อนมาก’


เป็นผลจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอตลอดสี่ปีเต็ม


หากเทียบกับช่วงที่ไม่เคยออกกำลังกาย ใบหน้าของเขาสดใสกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด


หน้าเดิมทั้งหมองและมีริ้วรอยน่ารังเกียจ ชายหนุ่มแทบไม่ต้องการส่องกระจก


แต่หลังจากออกกำลังกายตลอดสี่ปีเต็ม ร่างกายขับเหงื่อไม่เว้นแต่ละวัน ส่งผลให้ผิวพรรณกระจ่างใสปราศจากริ้วรอยและสิว


แน่นอนว่า การออกกำลังกายไม่ได้ทำให้ทุกคนผิวดีขึ้นเหมือนกันหมด แต่สำหรับกริดแล้วมันช่วยได้มาก


“อา…”


ชายหนุ่มยืนโพสหลายท่าหน้ากระจก


เขาภาคภูมิใจในมัดกล้ามเนื้อและรูปร่างปัจจุบันของตัวเอง


‘…ก็เท่ไม่หยอกนี่นา’


กริดอมยิ้ม


มันคือความมั่นใจที่ถูกสั่งสมหลังจากสลัดอดีตแสนโหดร้ายออกจากชีวิต


“หืม…”


ชายหนุ่มล้างมือและเลื่อนมันขึ้นไปลูบคลำเส้นผมบนศีรษะ


มันค่อนข้างสากและแข็ง เขาสัมผัสมันสามถึงสี่ครั้งเพื่อจัดทรง


แน่นอน เมื่อมีเงิน การดูแลตัวเองก็ทำได้ง่าย ทรงผมของกริดถูกออกแบบโดยสไตลิสต์ชื่อดังจากร้านใหญ่ย่านชองดัม มันเข้ากับใบหน้าและส่งเสริมจุดเด่นได้เป็นอย่างดี


ชายหนุ่มใช้ความชำนาญมือระดับสัตว์ประหลาดจัดทรงผมให้ดูดีจนไร้ที่ติ บางที สาเหตุที่ปรุงบะหมี่กึ่งได้เจ๋งกว่าคนปรกติอาจมีพื้นฐานจากความชำนาญมืออันเป็นเลิศก็ได้



“สุดยอด…”


เมื่อเดินออกจากห้องน้ำกลับเข้าห้องห้องนั่งเล่น กริดส่งเสียงอุทานโดยไม่รู้ตัว


ภาพยูร่าซึ่งกำลังนั่งผ่อนคล้ายบนโซฟาท่ามกลางห้องนั่งเล่นที่มีแสงแดดส่องผ่าน มันงดงามราวกับภาพวาดในตำนานเทพนิยาย


แม้กริดจะเคยเห็นบ่อยครั้งตลอดห้าปีที่ผ่านมา แต่เขาก็ทำตัวให้ชินไม่ได้สักที


‘ยิ่งมองก็ยิ่งสวย’


แต่ว่า…


เธอแอบเปลี่ยนเสื้อผ้าตอนไหน?


เขาจำได้ว่ายูร่าสวมเสื้อไหมพรมกับกางเกงยีน แต่ปัจจุบันกลายเป็นเดรสยาวอย่างน่าฉงน


ประหนึ่งนางเอกจากภาพยนต์ฮอลลีวู้ด ท่อนขาที่เรียวงามของยูร่าดึงดูดสายตากริดได้เป็นอย่างดี


“จะออกไปข้างนอกหรือ?”


กริดถามขณะนั่งลงฝั่งตรงข้าม


ยูร่าส่ายศีรษะเล็กน้อย


“เปล่า”


“อ้อ...”


เธอคงต้องการผ่อนคลายในชุดที่สวมสบายกว่าเดิม กริดเอ่ยปากถามถึงกำหนดการของยูร่า


“เธอจะกลับเกาหลีเมื่อไร?”


“ฉันอยากกลับพร้อมนาย กลับด้วยกันไหม?”


“เยี่ยมเลย ฉันชอบเครื่องบินส่วนตัว”


“ฉันให้ยืมได้นะ เท่าที่นายต้องการ”


“จริงหรือ?”


อันที่จริง กริดมีแผนจะซื้อเครื่องบินส่วนตัวนานแล้ว เพื่อความสะดวกสบายของครอบครัวเวลาเดินทางไปต่างประเทศ การมีไว้สักเครื่องคงไม่ใช่เรื่องเสียงหาย


ทว่า เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวแต่ละลำมีราคาแตกต่างออกไป ตั้งแต่รุ่นเล็กสุดธรรมดาไปจนถึงรุ่นท็อปที่โอ่อ่าหรูหรา


รุ่นที่กริดต้องการและเหมาะสมกับครอบครัวจะมีราคาประมาณแสนล้านวอน อาจเป็นราคาที่กริดจ่ายไหว แต่สำหรับเด็กหนุ่มที่เติบโตมาจากชนชั้นกลาง การใช้จ่ายระดับแสนล้านวอนในคราเดียวเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก


“ขอบคุณล่วงหน้า ฉันคงใช้ไม่บ่อย ตัวฉันไม่ชอบเดินทางไปไหน แต่อยากให้พ่อกับแม่สะดวกสบายเวลาไปต่างประเทศ คงต้องรบกวนเธอแล้ว”


“ไม่มีปัญหา! ให้ฉันดูแลพ่อกับแม่นายเอง!”


เมื่อได้ยินคำว่าพ่อและแม่หลุดจากปาก แววตายูร่าพลันส่องประกาย สีหน้าเปี่ยมด้วยความสุข


ขณะเดียวกัน


กริดรีบตัดบทเข้าประเด็นหลัก


“ได้คุยกับปู่หรือยัง?”


“…อา คุณปู่บอกกับฉันว่าไม่ต้องกลับไปทำงานที่บริษัทแล้ว”


ยูร่าได้ทราบสถานการณ์โดยคร่าวจากปากของปู่ เมื่อพบว่ากริดพยายามอย่างหนักเพื่อช่วยตน เธอรู้สึกตื้นตันจนถึงขั้นหลั่งน้ำตา


การสนทนาอันยาวนานเริ่มต้นขึ้น


ยูร่าเล่าประวัติครอบครัวและตัวเธอให้กริดฟังทั้งหมดโดยไม่ปิดบัง


เกี่ยวกับแดจินกรุป เกี่ยวกับปู่ พ่อและแม่ เรื่องที่พ่อต้องทำงานหนักเพื่อให้เธอเป็นอิสระ รวมถึงจุดเริ่มต้นในการเล่นซาทิสฟาย


“ยองวู… ฉันสัญญา ไม่ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน แต่ฉันจะตอบแทนบุญคุณในคราวนี้ให้ได้”


“ไม่จำเป็น แค่อยู่เคียงข้างฉันไปตลอดก็พอ”


"เคียงข้าง…"


“พวกเราต้องพัฒนาอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ไปด้วยกัน”


“…”


เป็นดังคาด เธอไม่มีทางได้คำตอบที่ดีจากปากไอ้ทึ่มกริด


ทั้งที่กริดรับทราบความรู้สึกของเธอแล้ว แต่เหตุใดถึงไม่มอบคำตอบที่ชัดเจนสักที


แน่นอน ยูร่าผิดหวังเล็กน้อย


แต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์บีบบังคับหัวใจชายหนุ่ม ยูร่าเข้าใจสถานการณ์ฝ่ายกริด เธอยินดีที่จะรอคำตอบไปชั่วชีวิต


ปิ๊งป่อง~


“ใครกัน?”


เธอไม่ได้นัดใครไว้ ยูร่าจึงฉงนไม่น้อยเมื่อมีคนกดกริ่งหน้าห้อง


แต่ขณะลุกขึ้นจากเก้าอี้…


เหตุไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น


วันนี้เป็นวันที่ยูร่าอัดแน่นด้วยห้วงอารมณ์อันหลากหลาย เธอได้รับอิสระจากปู่ จึงรวบรวมความกล้าและสารภาพรักกริดต่อหน้าคนทั้งโลก


อาจเป็นเพราะสูญเสียพลังงานไปมากตลอดทั้งวัน เมื่อยูร่าลุกพรวดจากเก้าอี้


ภาพการมองเห็นพลันดำมืด


เธอหมดสติล้มลงตรงนั้น


“ยูร่า!”


กริดรีบวิ่งเข้ามาพยุง


เมื่อฝ่ามือที่ใหญ่และหนาของชายหนุ่มสัมผัสลำคอและสะโพก สีหน้าแววตาของยูร่าพลันแดงก่ำ


“ยองวู…”


“…อึก”


ตึกตัก!


ตึกตัก…


หัวใจกริดพลันเต้นโครมครามราวกับจวนเจียนระเบิด


เมื่อได้เห็นใบหน้าแสนอ้อนวอนของยูร่าในระยะประชิด ชายหนุ่มยากจะเก็บงำความต้องการจากส่วนลึกของจิตใจ


ปึด!


ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้น


ใบหน้าไอรีนเลือนหายไปจากจิตใจกริดชั่วขณะ สมองไอ้ทึ่มกริดพลันขาวโพลน เขาเอาแต่จ้องมองริมฝีปากอวบอิ่มของเธอโดยไม่กะพริบตา


โครม!


“…!?”


"…? "


ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างเกรี้ยวกราด กริดและยูร่าต่างหันไปมองยังทางเข้าเป็นตาเดียว


แขกไม่ได้รับเชิญผู้นี้


คนทั้งสองรู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี


แต่กริดไม่สนใจใบหน้าของผู้มาเยือนเลยสักนิด สายตาชายหนุ่มกำลังจดจ้องไปยังจุดหนึ่งของร่างกายอยู่ครู่ใหญ่…


หลังจากได้สติกลับคืน เขารีบแหงนคางขึ้นจนเห็นใบหน้าของแขกปริศนาเต็มสองตา


“จิสึกะ?”


“ฮาย? ทำอะไรกันอยู่?”


“เอ่อ… นี่มัน”


กริดที่พยายามแก้ต่างแทนยูร่า


แต่ตัวเขากำลังหายใจตัดขัดไม่เป็นจังหวะ มิอาจตอบกลับอย่างฉะฉานได้ทันท่วงที


“ว่าแต่… เธอเข้ามาได้ยังไง?”


จิสึกะที่แสยะยิ้มชั่วพร้อมกับนำบางสิ่งออกจากกระเป๋าเสื้อ


…มีด


“…”


“…อ๊ะ! หยิบผิด”


เธอเก็บมีดกลับเข้าไปและนำมาสเตอร์คีย์ออกจากกระเป๋าอีกข้างมาควงเล่น


“โรงแรมนี้เป็นธุรกิจในเครือคุณพ่อที่น่ารักของฉัน พนักงานล็อบบี้ชั้นล่างรู้จักฉันทุกคน ในเมื่อฉันติดต่อเพื่อนสนิทไม่ได้ จึงขอยืมมาสเตอร์คีย์เพราะเป็นห่วงความปลอดภัย”


“…”


“สรุปแล้ว พวกนายกำลังทำอะไรอยู่?”


มนุษย์เพศหญิงมีสายตาที่สามารถแผดเผาบุรุษให้ตายทั้งเป็นด้วยหรือ?


หลังจากประสานสายตากับจิสึกะเพียงครู่หนึ่ง กริดเริ่มเชื่อว่าพลังดังกล่าวมีอยู่จริง


ท่ามกลางบรรยากาศเงียบงันและกระอักกระอ่วน จิสึกะแจ้งข่าวใหม่


“ยังไม่ได้บอกสินะ… ฉันจะย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่เกาหลีใต้นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป… พอดีว่ามีหนูสกปรกบางตัวคอยกวนใจนิดหน่อย”


จิสึกะจ้องมองยูร่าปานกินเลือดกินเนื้อ


เป็นสายตาที่เปี่ยมจิตสังหารดุจดั่งเสือดาวรอตะครุบเหยื่อ แต่ยูร่ามิได้สั่นคลอน


“ยินดีต้อนรับสู่เกาหลีใต้ ฉันรอแข่งนานาชาติปีหน้าไม่ไหวแล้ว”


“ไม่ต้องยินดีขนาดนั้น ฉันจะลงแข่งรายการเดียวกับเธอทั้งหมด จำนวนเหรียญทองไม่เปลี่ยนไปจากเดิมหรอกนะ”


“อคติส่วนตัวงั้นหรือ? ไม่มืออาชีพเลยนะ”


“มืออาชีพ? ฉันไม่ได้เล่นเกมเพื่อหาเงินสักหน่อย ไม่ใช่มืออาชีพอยู่แล้ว แค่ทำในสิ่งที่อยากทำ”


“เธอควรคิดถึงจริยธรรมพื้นฐานบ้าง มันเป็นการแข่งระดับนานาชาติ เรื่องส่วนตัวต้องแยกกับส่วนรวมถึงจะถูก”


“ฉันต้องฟังคำแนะนำจากผู้หญิงไร้ยางอายด้วยหรือ?”


เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!


ราวกับมีไฟฟ้าสถิตวูบวาบขณะจิสึกะและยูร่าประสานสายตา กริดที่เป็นคนกลางย่อมเกิดความกระอักกระอ่วน


ชายหนุ่มขมวดคิ้วด้วยสีหน้าสุดฉงน


‘ทำไมพวกเธอถึงเอาแต่ทะเลาะกันอยู่เรื่อย?’


***


“ไม่เจอกันนานเลยนะ”


หลังจากงานแข่งนานาชาติครั้งที่สี่ปิดม่านลง ครอเกลมุ่งหน้าไปพบกับมือหอกอันดับหนึ่งแห่งทวีปตะวันตกทันที


หอกคลั่ง คิรินัส


ครอเกลกำลังอยู่ระหว่างภารกิจ


คิรินัสหันมากล่าวทักทายขณะตัดฟืน


มันยังจดจำครอเกลได้


“ถ้านายเลือกเส้นทางมุลเลอร์ตั้งแต่แรก ป่านนี้พลังอำนาจคงหลั่งไหลเข้าหาอย่างไม่ขาดสาย แต่นายดันเลือกเส้นทางที่ดื้อรั้นและเติบโตได้เชื่องช้า”


ครอเกลคุกเข่าลง


“อริยดาบมุลเลอร์เคยกล่าวว่า ในบางครั้ง นักดาบก็ต้องพึ่งพาพลังของจอมเวท”


“ฉันเคยบอกไปแล้ว หอกคือศาสตราที่ไร้เทียมทาน มิใช่ดาบ”


“ได้โปรดถ่ายทอดเพลงหอกให้ผมด้วย!”


ซอร์ดเบรคเกอร์มังกรคราม


คลาสอริยดาบที่ยิ่งใหญ่มีอันต้องเสื่อมอำนาจเพราะไอเท็มเพียงชิ้นเดียว


ครอเกลได้บรรลุสัจธรรมใหม่


การเชี่ยวชาญอาวุธประเภทเดียวไม่ใช่ทางเดินที่ถูกต้อง


เฉกเช่นกริดที่มีอาวุธและอุปกรณ์นานับชนิด ตัวมันไม่ควรยึดติดกับดาบเพียงสิ่งเดียว


และครอเกลได้รับโอกาสนั้น


“ในที่สุดก็เริ่มเข้าใจแล้วสินะ ทุกศาสตร์การต่อสู้อาจมีเป้าหมายที่เหมือนกัน แต่การฝึกฝนจะแตกต่างโดยสิ้นเชิง โดยผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับความขยันหมั่นเพียร… ฉันยินดีถ่ายทอดเพลงหอกให้ เห็นแก่ความยิ่งใหญ่ของอริยดาบและจิตวิญญาณที่ไม่ย่อท้อในแววตานั่น”


[ท่านสำเร็จภารกิจลับ!]


สามปี


ภารกิจดังกล่าวค้างคาในหน้าต่างตัวละครครอเกลมานานสามปีเต็ม


หากอ่านจากรายละเอียดในตอนแรก มันคือภารกิจที่มองไม่เห็นโอกาสสำเร็จแม้แต่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ แต่ในครั้งนั้น ครอเกลมิได้ลังเลที่จะตอบตกลงรับทำ


“ฝากตัวด้วย”


คู่ปรับตลอดกาลของมัน—กริด


ครอเกลไม่ต้องการพ่ายแพ้ต่อบุรุษผู้นั้น


มันต้องการรักษาความสัมพันธ์เช่นนี้ไว้ตราบชั่วนิรันดร์ ความสัมพันธ์ที่ต่างฝ่ายต่างลับฝีมือปะทะกันไม่รู้จักจบสิ้น


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,363

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. นายคือคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อที่สุด ครอเกล #จงแข็งแกร่งขึ้น! เพื่อเป็นตะวันที่ยิ่งใหญ่เฉกเช่น ท้องฟ้า ..

    ReplyDelete
  2. 😁🤭☺️😊😆🤗
    ขอบพระคุณ​เป็น​อย่างยิ่ง​👍

    ReplyDelete
  3. ชอบคู่กัดคู่นี้,😂😂😂
    ยูร่า จิสึกะ💓💓

    ReplyDelete
  4. เหมือนดูดราก้อนบอลอะที่วิสมาโลกแล้วกินบะหมี่จากเวบจิต้าอะ555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00