จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 962
‘เขาเล็งไว้แต่แรกสินะ’
หลังจากเห็นกริดถูกยิงด้วย ‘ศรกระเด็น’ จนร่างลอยติดหุ่นสีดำ จิสึกะก็รู้สึกกระสับกระส่ายมาตลอด
แรงระเบิดเกิดขึ้นในวินาทีสุดสมบูรณ์ ราชาอสูรเซล้มลงและเผยจุดอ่อนใหญ่หลวง
ซึ่งแน่นอน กลุ่มผู้เล่นย่อมไม่ปล่อยโอกาสหลุดลอย นักกีฬากว่าร้อยชีวิตกรูเข้ามารุมโจมตีราชาอสูรทุกทิศทาง
แต่นั่นเป็นกับดัก…
ในวินาทีศรกระเด็นของจิสึกะสัมผัสร่าง กริดคงจินตนาการภาพระเบิดนิวเคลียร์ไว้ในหัวเรียบร้อยแล้ว
“ชักร้อนรุ่มขึ้นมาแล้วสิ”
จิสึกะเห็นเต็มสองตา เกราะของร่างแยกกริดทั้งห้าส่องสีแดงส้มพร้อมกับระเบิดออก พลังทำลายพวยพุ่งไปรอบทิศ ไอความร้อนที่เกิดขึ้นปะทะใบหน้าจิสึกะจนเริ่มแดงก่ำ
ลมหายใจของเธอแทบขาดห้วง ริมฝีปากอันอวบอิ่มพระงาบด้วยใบหน้าสุดกระเส่า
เธออยากแหวกกะโหลกกริดเพื่อเชยชมให้เต็มสองตา
เธอต้องการเห็นมันสมองสุดอัจฉริยะแสนเซ็กซี่นั่น
ฉึบ
สายตากริดที่มองลอดหน้ากากสีเทาได้ชำเลืองมาทางจิสึกะ
ความเร่าร้อนในตัวจิสึกะพลันเพิ่มพูนจากเดินหลายเท่า ร่างกายเริ่มสั่นเทิ้มด้วยความตื่นเต้นและปลื้มปีติ
“เข้ามาเลยที่รัก”
พรืด—
ฝ่ายผู้เล่นเหลือรอดราวแปดสิบ
แม้ขุนพลโอเวอร์จะถูกสังหารไปมากจากแรงระเบิด ไม่เว้นแม้แต่คริสและพีคซอร์ด
แต่ฝ่ายนักกีฬาก็ยังเหลือผู้เล่นที่แข็งแกร่งอย่างดาเมี่ยนและซีบาลที่อัญเชิญจักรกลเวทมนตร์ออกมาทำศึก
‘แต่กริดกำลังจ้องมองมายังเรา… หมายความว่าเราคือภัยคุกคามใหญ่หลวงในสายตาเขา’
หัวใจจิสึกะกำลังเต้นโครมครามเมื่อเธอเรียกความสนใจจากกริดได้
—!!
กลุ่มศรสีดำจำนวนมากถูกกระหน่ำยิงจากมือเทพีแห่งคันศรอย่างไร้สุ้มเสียง มีเพียงจิสึกะเท่านั้นที่ทราบจำนวนของพวกมัน
แม้แต่กริดที่กำลังเผชิญหน้าโดยตรงก็มิอาจมองตามทันหรือนับได้หมด
ด้วยเหตุนี้…
ฟุ่บ!
กริดตัดสินใจพุ่งเข้าใส่พวกมันโดยไม่ลังเล เขาไม่มัวปวดหัวกับการโจมตีที่มิอาจปัดป้องหรือหลบพ้น
ราวกับกระทิงคลุ้มคลั่งก็มิปาน
โดยมีจิสึกะเป็นมาร์ทาดอร์คอยโบกสะพัดผ้าแดงหลอกล่อ
“ฮิฮิ!”
จิสึกะตื่นเต้นจนควบคุมตัวเองไม่อยู่
ฉึก! ฉึกฉึก!
ศรดอกหนึ่งเสียบปักใส่ร่างกริด
สายตาคนทั้งสองสอดประสานท่ามกลางสนามรบอันดุเดือดที่มีทะเลเลือดเจิ่งนองบนพื้น
นี่คือสาเหตุที่สมาชิกเซดากาห์ล้วนยกย่องให้จิสึกะเป็นสุดยอดนักล่า
หากใครถูกเธอระบุว่าเป็นเป้าหมาย มันผู้นั้นจะไม่ได้รับความปรานีแม้แต่เศษเสี้ยว
หากเปลี่ยนกริดเป็นคนอื่น ป่านนี้คงยืนสั่นระริกฉี่ราดไปแล้ว
‘วิชาดาบแพ็กม่า’
ปัจจุบัน กริดกำลังอยู่ในผลของ ‘ปราการเคลื่อนที่’ ซึ่งรอดพ้นจากอาการผิดปรกติทุกชนิดโดยสมบูรณ์
ต่อให้ศรเสียบทะลวงเบ้าตาจนโลหิตพวยพุ่งประหนึ่งน้ำพุ แต่การมองเห็นทั้งสองข้างจะไม่ถูกรบกวนชั่วขณะ
‘ร่ายรำ’
ฟุ่บ! ฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!
หลังจากฝ่าฝนธนูจนเข้าประชิดตัวจิสึกะสำเร็จ ชายหนุ่มรีบรัวตวัดดาบใส่นับสิบครั้ง
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
จิสึกะไม่ยอมถูกประชิดโดยง่าย เธอโยกตัวหลบไปด้านหลังพลางดึงศรจำนวนมากประทับคันธนูและกระหน่ำยิงตอบโต้
[ท่านได้รับความเสียหาย 8,930 หน่วย]
[ท่านได้รับความเสียหาย 7,590 หน่วย]
[ท่านได้รับความเสียหาย 13,580 หน่วย]
แม้ตกอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน จิสึกะยังคงเล็งยิงได้แม่นยำ ศรทุกดอกหลบเลี่ยงชุดเกราะและถุงมือเหล็กได้หมดจด
เมื่อปักเข้าที่จุดอ่อนตรงรอยต่อ ความเสียหายเกือบทั้งหมดจึงเป็นคริติคอลที่มองข้ามพลังป้องกัน
แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะหลบพ้นตลอดไป
แม้ค่าความว่องไวจิสึกะจะสูงมาก แต่ก็ไม่รวดเร็วไปกว่าการกวัดแกว่งดาบวินาทีละหกครั้ง ศรที่กระหน่ำยิงย่อมมิอาจสะกดการเคลื่อนไหวของนักดาบได้ทัน
[ท่านสร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 29,300 หน่วย]
[ท่านสร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 25,760 หน่วย]
พลังชีวิตจิสึกะลดต่ำกว่าครึ่งจากการถูกฟันถากเพียงสองดาบ
เธอฝืนกัดฟันใช้ซองธนูและคันศรปัดป้องการโจมตีที่กระหน่ำใส่ อาศัยแรงปะทะกระโดดหนีไปด้านหลังและสร้างระยะห่างอย่างชาญฉลาด
ขณะจิสึกะรักษาระยะห่างกับกริดสำเร็จ กับดักบริเวณฝ่าเท้าราชาอสูรก็ทำงานในเวลาเดียวกัน
พรืดดด!
กับดักแสดงผลอย่างที่ควรเป็น ข้อเท้ากริดถูกเถาวัลย์เหนียวพันธนาการชั่วคราว มันคือกับดักตรึงศัตรูที่จะถูกทำลายหลังจากเหยื่อดิ้นรนครบห้าวินาที
แต่กริดกลับไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย… เขาคือปราการเคลื่อนที่
กับดักข้อเท้าย่อมมิอาจตรึงปราการได้
“เท่จังเลยที่รัก~”
ความปลื้มปริ่มของจิสึกะเพิ่มจนพุ่งทะลุปรอท เธอหลงใหลในสติปัญญาและความหาญกล้าดุจดั่งกระทิงดุของชายหนุ่ม
ในใจจิสึกะกำลังรู้สึกเศร้า
หากเธอไม่เป็นหนี้กริดอยู่
หากความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่อยู่ในรูปแบบเจ้าหนี้และลูกหนี้ จิสึกะคงสารภาพความรู้สึกตัวเองออกไปได้เต็มที่
‘ถ้าลูกหนี้อย่างเราแสดงความรักต่อกริดซึ่งหน้า เขาคงมองว่าเราพยายามประจบประแจง’
ฉึบ
จิสึกะฝืนยิ้มขื่นขมขณะง้างสายคันศรไปด้านหลัง
นักธนูอย่างเธอจะยื้อกริดในสภาพต้านการอาการผิดปรกติได้สักกี่วินาทีเชียว?
ตนไม่มีโอกาสชนะตั้งแต่แรกแล้ว
แต่ก่อนตาย…
ขอฝากของขวัญให้หายคิดถึงสักหน่อยก็แล้วกัน นี่คือศักดิ์ศรีของแรงเกอร์ซาทิสฟายที่แบ่งแยกชัดเจนระหว่างเกียรติยศกับความรัก
ความองอาจสุดท้ายของนักล่า
ฟุ่บ—!
ขณะราชาอสูรไล่ตามติดไม่ห่าง จิสึกะปล่อยสายรั้งด้วยทักษะสุดทรงพลังก่อนลมหายใจจะหมดลง
นี่คือการทุ่มเททุกสิ่งที่เหลืออยู่
น่าแปลก… เป้าหมายในการเล็งยิงผิดแผกไปจากทุกที
ทิศทางการพุ่งของศรมิได้ตรงไปยังข้อต่อชุดเกราะเหมือนเคย หากแต่เป็นกึ่งกลางหน้าอกของชายหนุ่ม
มันคือลูกธนูที่หัวทำจากศิลาบางชนิด
ศรเพียงดอกเดียวกลับสร้างความหวาดผวาแก่กริดได้มหาศาล
แม้ผลของบัฟจะนานหนึ่งนาที แต่ความคงทนของชุดเกราะจะเหลือเพียง 30 หน่วยขณะใช้งาน
นี่คือผลข้างเคียงของปราการเคลื่อนที่
วัลฮัลล่าฯ จะทนรับการโจมตีตรงหน้าไหวหรือไม่?
คงไม่แน่นอน
ชายหนุ่มตัดสินใจใช้ ‘เคลื่อนที่อิสระ’ เพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์วิกฤติ
แต่น่าเสียดายที่ปฏิกิริยาตอบโต้ของเขาไม่ได้รวดเร็วขนาดนั้น
เปรี้ยง—!
ไม่ใช่ความผิดพลาดของกริดไปทั้งหมด
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้กริดตอบสนองไม่ทันคือ ศรจากจิสึกะถูกปล่อยในระยะประชิดเกินไป
วัลฮัลล่าฯ ถูกศรทะลวงกึ่งกลางจนแตกละเอียดเป็นเศษโลหะชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจัดกระจาย
อันที่จริง กริดสามารถหลบพ้นหากเขาอ่านสีหน้าท่าทาง รวมถึงการกระทำของจิสึกะในวินาทีที่เธอเริ่มง้างธนู
แต่น่าเสียดายที่กริดมิใช่อัจฉริยะ เขาอ่านไม่ขาดถึงขนาดนั้น และมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ไม่รวดเร็วมากพอ
กริดไม่ได้มีสมองระดับคอมพิวเตอร์ดังเช่นครอเกล
ฉึก!
อาวุธรูปทรงก้ำกึ่งระหว่างดาบและหอกพุ่งเสียดแทงใส่ร่างจิสึกะอย่างโหดเหี้ยม
เป็นเวลาเดียวกับที่ชุดเกราะตัวสุดท้ายของราชาอสูรถูกทำลายจนแหลกละเอียด
[ท่านถูกโจมตีรุนแรง]
“ขอโทษด้วย… ฉันจำเป็นต้องรักษาศักดิ์ศรีของตัวเอง”
ประหนึ่งตุ๊กตาที่ถูกตัดเอ็น จิสึกะโอบกอดซบกริดอย่างอบอุ่นพลางกล่าวคำขอโทษ
เธอไม่ได้ขอโทษเรื่องที่ทำร้ายกริด
ถึงจะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่จิสึกะขอโทษที่เธอทำให้ผลงานสุดท้ายของข่านแหลกสลาย
นั่นคือสาเหตุที่กริดไม่ยอมสวมมันแต่แรก และเป็นสาเหตุที่เขาลังเลที่จะใช้ปราการเคลื่อนที่มาตลอด
ราวกับอ่านเจตนาของเธอได้
กริดลูบไล้เส้นผมสีแดงเพลิงอย่างทะนุถนอม
“ฉันก็ต้องขอโทษที่ปิดบังเธอ”
“ฮิฮิ… เท่จัง~”
ซู่วววว—
เสาแสงสีเทาส่องสว่างท่ามกลางอ้อมแขนกริด เป็นสัญญาณการจากไปของจิสึกะ
“กริดด!!!!”
ขณะกริดกำลังไล่ฆ่าจิสึกะ หุ่นรบสีขาวได้ถูกสกัดขัดขวางได้โดยฝีมือแวมไพร์ร่างยักษ์ตนหนึ่ง
และเมื่อจิสึกะจบชีวิตลง ทีราเม็ทก็มิอาจยื้อไหวอีกต่อไป
อีกหนึ่งภัยคุกคามใหญ่หลวงสำหรับกริด ซีบาลและจักรกลเวทมนตร์ ปัจจุบันกำลังปรี่เข้าหากริดด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด
‘ทีราเม็ททนได้เท่านี้สินะ’
จักรกลเวทมนตร์ถือเป็นอีกหนึ่งศัตรูที่น่าหวั่นเกรง วัสดุในการผลิตจักรกลเวทมนตร์ล้วนถูกจัดอยู่ในเกรดของวิเศษโบราณ
‘หืม… หรือเราควรเรียกร้องรางวัลเป็นวัสดุสร้างหุ่น…’
ขณะครุ่นคิด ชายหนุ่มได้นำ ‘ฉมวกมังกร’ และค้อนยักษ์ออกมาถือ
ปัจจุบัน เขาสูญเสียวัลฮัลล่าไปเรียบร้อย ไม่มีเหตุผลให้ต้องสู้กับจักรกลเวทมนตร์ซึ่งหน้า
“แทงฉมวก!”
ฟ้าวว—
ในการแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่สอง ฉมวกเบื้องหน้าคือสุดยอดอาวุธที่ช่วยกริดกำราบเดรกจนอยู่หมัดและคว้าเหรียญทองไปทอง มันพุ่งแหวกอากาศเข้าหาจักรกลเวทมนตร์ด้วยความเร็วสูง
ฉึก—
ไรเดอร์สที่ถูกฉมวกปักกึ่งกลางหน้าอกพลันชะงัก
“อยู่นิ่งๆ ไปก่อนนะ… อยากฆ่าฉันขนาดนั้นเชียว?”
กริดใช้ค้อนตอกหมุดที่เชื่อมกับด้ามฉมวกให้จมดิน จากนั้นก็อันตรธานหายไปจากสายตาซีบาล
…
สมรภูมิรบโล่งกว้าง
ผู้เล่นบางส่วนรอดชีวิตจากระเบิดนิวเคลียร์อย่างฉิวเฉียด ใบหน้าพวกมันกำลังขาวซีดประหนึ่งไก่ต้ม
เป้าหมายต่อไปของกริดคือสันตะปาปาดาเมี่ยน
‘คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร’
ซู่ว—
กริดหมุนรอบตัวเองประหนึ่งลูกข่างพลางย่างกรายเข้าหาดาเมี่ยน
ดาบในมือที่อัดแน่นด้วยจิตสังหารกำลังร้องคำรามกึกก้อง
ดาเมี่ยนที่เพิ่งฟื้นฟูตัวเองจากแรงระเบิดได้ไม่นาน มันฝืนยกโล่เป็นกำบังเพื่อให้รอดพ้นจากภยันตราย
แต่โล่ในมือดาเมี่ยนมีสภาพร่อแร่ไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้ว มันมีชะตากรรมแบบเดียวกับเกราะวัลฮัลล่าของกริดทุกประการ
“จงกรีดร้อง”
ชื่อใหม่ของคลื่นร่ายรำทำลายล้างสังหารถูกเอ่ยปากจากราชาอสูรด้วยน้ำเสียงกังวาน
เปรี้ยง—!!
โล่ในมือดาเมี่ยนแหลกละเอียดในพริบตา มิอาจทนรับความเสียหายได้แม้แต่ดาบเดียว
“อั่ก…!”
ดาเมี่ยนซึ่งกำลังอัญเชิญสองวงแหวนทองที่ด้านหลัง ตัวมันทนพิษบาดแผลไม่ไหวและสิ้นลมไปก่อนได้กระทำสิ่งใด
[เป้าหมายเสียชีวิต]
สันตะปาปาแห่งโบสถ์รีเบคก้าต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ
“กริดดด!!!”
ไรเดอร์สหลุดจากพันธนาการฉมวก มันพุ่งเข้าหากริดอีกครั้งด้วยบรรยากาศสุดคุกคาม
ในครานี้ กริดไม่เลี่ยงการปะทะซึ่งหน้ากับไรเดอร์สอีกแล้ว
สายลมเริ่มพาดผ่าน เส้นผมสีดำยาวสลวยถึงเอวของราชาอสูรสะบัดพลิ้ว
ชายหนุ่มยืนมองจ้องไรเดอร์สด้วยสายตาสงบนิ่ง
นัยน์ตาที่มองลอดหน้ากากจดจ้องจักรกลเวทมนตร์อย่างเลือดเย็น
และเบื้องหลังของการจ้องมองคือ… พลังที่สามารถถล่มได้แม้กระทั่งปราการเหล็ก
เขาคำนวณสิ่งนี้ไว้แล้ว
ปืนใหญ่สีทองที่ตั้งเหนือไปป์ออร์แกนยักษ์เริ่มหันปลายกระบอก
กระสุนซึ่งสร้างจากพลังมังกรครามเสร็จสิ้นพอดิบพอดี
เปรี้ยง—
“จับได้แล้—!”
ขณะคมหอกไรเดอร์สสัมผัสกับร่างกายท่อนบนของกริดที่เปลือยเปล่าปราศจากเกราะ…
บึ้มมมมม!!
หุ่นยักษ์สีขาวมีอันต้องเสียหลักล้มเซ
ตามติดด้วยสนามแม่เหล็กทรงพลัง
คลื่นแม่เหล็กได้รบกวนวงจรเวทมนตร์จนไรเดอร์สหยุดทำงานชั่วขณะ ซ้ำร้าย ถังเชื้อเพลิงยังถูกกระสุนยิงใส่จนเสียหายหลายส่วน
“กริด…!”
ซีบาลที่นั่งในห้องโดยสารโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นระริก
มันหงุดหงิดตัวเองที่ตัดสินใจผิดพลาดจนติดกับซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ซีบาลมีข้อมูลเกี่ยวกับกริดน้อยเกินไป แต่อีกฝ่ายมีข้อมูลของมันเกือบครบถ้วน
เป็นข้อมูลจากปากของมันเอง
ซีบาลพลาดโอกาสพลิกกระแสสงครามครั้งสำคัญ มันพลาดโอกาสได้เป็นกระเอก
กริดหันมากล่าว
“ขอชื่นชม…เป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่และสมศักดิ์ศรี”
“…”
เขากล่าวจากใจจริง
ในสายตากริด ซีบาลเมื่อสองปีก่อนแสนกระจอกไม่ต่างจากมดปลวก แต่ปัจจุบัน ชายหนุ่มยอมรับเต็มอกว่าบุคคลตรงหน้าคือภัยคุกคามและศัตรู
ใบหน้าซีบาลเริ่มบิดเบี้ยว
มุมปากกระตุกเล็กน้อย
มันไม่รู้ว่าตนควรดีใจหรือเสียใจกับคำชมของกริดดี ซีบาลเก็บไรเดอร์สพลางอัญเชิญเปกาซัส
มันปรี่เข้าหากริดโดยมีแรงเกอร์จำนวนมากวิ่งตามสมทบไม่ห่าง
ฝ่ายผู้เล่นยังเหลือราวแปดสิบคน พวกมันรุมล้อมกริดไว้ทุกทิศทาง
ราชาอสูรผู้ปราศจากชุดเกราะ…
เหล่าแรงเกอร์ต่างฝึกฝนฝีมือตลอดหนึ่งปีเต็มเพื่อการแข่งตรงหน้าโดยเฉพาะ
ได้เวลาจบสงครามบัดซบนี่สักที
อีกแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น
ฝ่ายกริดก็คิดแบบเดียวกัน
ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดพลางหลับตาลง
『เขายอมแพ้แล้วหรือ? 』
『น่าจะไม่เหลือหนทางเอาชนะแล้วครับ ทรัพยากรของราชาอสูรคงหมดเกลี้ยง ไม่แปลกที่จะถอดใจยอมแพ้ และเหนือสิ่งอื่นใด ราชาอสูรไม่มีเกราะให้สวมอีกแล้ว』
พิธีกรเริ่มบรรยายถึงจุดจบราชาอสูร
กองเชียร์พากันส่งเสียงดีใจกึกก้อง
ทว่า…
ฝนดาวตก?
ไม่ใช่
แสงสีขาวบนท้องฟ้าคลับคล้ายหมู่ดาวจำนวนมหาศาล มันกำลังพุ่งตกลงมายังสมรภูมิเลือดในจุดที่ฝ่ายผู้เล่นยืนรวมตัว
ศรเวทที่กริดตั้งเวลาไว้เริ่มสาดถล่มจนสนามรบไม่เหลือเค้าเดิมอีกต่อไป
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
วินาศสันตะโร
ศรเวทเกินกว่าสองร้อยนัดทะลวงผ่านศีรษะกลุ่มแรงเกอร์ที่เหลือรอดกว่าแปดสิบศพแล้วศพเล่า
ผืนดินไม่ปรากฏภาพอื่นนอกจากหลุมลึกของแรงระเบิด ฝ่ายผู้เล่นส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างตกตะลึงและหวาดกลัว
ไม่เพียงเท่านั้น…
‘โนเอะ แรนดี้ ท่านจะเป็นราชาความตายได้หรือไม่?’
อสูร เสือดำ ลิช และอัศวินความตาย…
สมุนราชาอสูรเริ่มลงมือกวาดล้างเหล่าแรงเกอร์ที่ยังเหลือรอดในสภาพร่อแร่
『อะ…อะ』
ผ่านไปเพียงไม่กี่นาที สนามรบหลงเหลือเพียงสองบุรุษยืนเผชิญหน้า
ราชาอสูรที่ลมหายใจไม่ปะติดปะต่อและปราศจากชุดเกราะ
ส่วนอีกฝ่ายคือนักดาบที่ร่างกายไร้รอยขีดข่วนทุกประการ
ครอเกลเปิดปากพูด
“นายใช้พลังอมตะไปแล้ว”
“นั่นสินะ… ทุกคนเก่งกว่าที่คิดไว้”
“…”
นี่ไม่ใช่การดวลที่เท่าเทียมเลยสักนิด
ครอเกลถอดเกราะออกพร้อมกับใช้ดาบแทงใส่หัวใจตัวเอง
มันปรารถนาการต่อสู้อันบริสุทธิ์ยุติธรรมยิ่งกว่าใคร…
"คงถึงเวลาแล้ว…"
กริดสลายภาพลวงตาราชาอสูรออก เขาเปิดเผยตัวตนต่อหน้าผู้คนทั่วโลก
ไม่มีใครไม่รู้จักใบหน้าดังกล่าว…
ราชาโอเวอร์เกียร์
ราชาวีรบุรุษ
『ก…กริด? 』
ผู้ชมที่เคยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่ากริดคือราชาอสูร… ไม่มีใครเคลือบแคลงอีกแล้ว
สายตาทุกคู่กำลังจ้องมองบุคคลที่เคยมีรูปลักษณ์ของราชาอสูร
โลกเข้าสู่ความเงียบงันชั่วขณะ
คีย์เวิร์ดคำค้นหาอันดับหนึ่งแปรเปลี่ยนเป็น ‘กริด’ ในพริบตา
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,355
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
แล้วใช้สกิล ภาพวาดของปีกาโซ่
ReplyDeleteสินะ จะทำให้กลับไปอยู่สภาพเหมทอนในภาพวาด
กริด
ReplyDeleteการดวนเดือดกำลังจะเริ่มแล้วถึงเวลาที่ผู้ชมรอมานาน555+
ReplyDelete