จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 963



‘สุดยอดงานศิลป์’ คือผลงานที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ จิตรกรต้องวาดภาพบุคคลผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัยเท่านั้น


การให้กำเนิดงานสุดยอดงานศิลป์ต้องอาศัยปัจจัยหลายข้อ หนึ่งในนั้นคือโชคชะตา


แน่นอนว่า จิตรกรต้องโชคดีอย่างมาก จึงจะมีบุคคลแห่งยุคสมัยเป็นแบบให้วาด


แต่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน สตรีผู้หนึ่งวาดภาพสุดยอดงานศิลป์สำเร็จและได้ครอบครองความสำเร็จครั้งใหญ่


ปิกัสโซ่


เธอคว้าเกียรติยศและทักษะชนิดใหม่มากมาย รวมถึงประสบความก้าวหน้าในอีกหลายด้าน


ขณะเดียวกัน ฝั่งกริด…


[นายแบบสุดยอดงานศิลป์]


* ใช้ได้เพียงครั้งเดียว


เมื่อใช้งาน ข้อมูลตัวละครของท่านจะถูกย้อนกลับไปในวินาทีที่ ‘สุดยอดงานศิลป์’ ถูกสร้างขึ้น


* ข้อมูลที่ถูกย้อนกลับจะมีเพียงแต้มสถานะ ทักษะ และรายละเอียดทักษะในขณะนั้น


* ข้อมูลอื่นจำพวกสมญานาม คลาส ค่าสถานะ เผ่าพันธุ์ หรืออายุจะไม่เปลี่ยนแปลง


เขาได้ครอบทักษะสุดประหลาด…


คล้ายคลึงกับระบบจุดเซฟ


ใช้เป็นเครื่องมือฝ่าวิกฤติได้เป็นอย่างดี นับเป็นทักษะอรรถประโยชน์ชนิดหนึ่ง


แต่การกดใช้งานนับว่าทำใจได้ยากยิ่ง


ทุกสิ่งที่สั่งสมอย่างลำบากจะอันตรธานหายไปจนหมด กริดสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ใช่งานมันอย่างเด็ดขาด…


ไม่มีวัน


แต่เรื่องราวจะต่างออกไปหากเป็นเซิร์ฟเวอร์งานแข่ง


[ท่านย่อนกลับไปยังจุดที่ถูกวาดภาพ]


[ความทรงจำในอดีต เกียรติยศ และรูปลักษณ์ ทุกสิ่งถูกย้อนกลับ]


[ท่านย้อนกลับไปยังตัวตนขณะถูกวาดภาพโดยสมบูรณ์]


[เลเวลลงลด แต้มสถานะลดลง ทักษะบางชนิดมีการเปลี่ยนแปลง]


สายลมเอื่อยพัดผ่าน เส้นผมที่เคยยาวสลวยเริ่มหดสั้นลงเหลือเพียงประบ่า


สิบกรงเล็บยาวแหลมคืนสภาพกลับเป็นเล็บมือมนุษย์


ชุดเกราะสีดำเริ่มถูกสร้างปกคลุมร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่า ปีกหลังหนึ่งคู่แปรสภาพกลับคืนผ้าคลุมแดง


สามเขาอสูรเหนือศีรษะคืนสภาพเป็นมงกุฎเงินแสนสง่างาม


กริดถอดหน้ากากราชาอสูร


เขากลับไปเป็นราชาโอเวอร์เกียร์


ชายหนุ่มอ่อนแอลงชัดเจน


เลเวลหายไปสามระดับ ทักษะตีเหล็กที่ได้รับพรเทพธิดาถูกลดขั้น วิชาดาบแพ็กม่ากลับคืนสู่สภาพก่อนอัปเกรด เนตรแพ็กม่าสาบสูญ แต้มสถานะจากโอสถสุ่ม 234 ขวดอันตรธานหาย


ดาบอัสนีฯ ในมือที่เคยระยิบระยับกลับกลายเป็น +1 แสนจืดชืด


วัลฮัลล่าคืนสภาพเดิม ปืนใหญ่ถล่มสมรภูมิที่สร้างจากพาเฟรเนี่ยมกลับกลายเป็นหัตถ์เทวะสีทองสี่ข้าง


ระบบภาพวาดมีกลไกการทำงานที่น่าทึ่ง ทุกสิ่งรวมถึงไอเท็มที่กำลังสวมถูกย้อนเวลากลับไปเป็นแบบเดียวกับ ‘ในรูปวาด’


‘นี่คือตัวเราเมื่อไม่กี่เดือนก่อน…’


กริดสัมผัสถึงความอ่อนแอราวกับเขาย้อนเวลากลับไปนานหลายปี


เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ตนมีระดับพัฒนาการที่มากมายเพียงใด


กริดยืนฉีกยิ้ม สิ่งแรกที่ชายหนุ่มลงมือกระทำคือใช้แต้มสถานะคงเหลือให้หมด จากนั้นก็ใช้พรเทพธิดาเสริมแกร่งทักษะดาบ


[แต้มสถานะคงเหลือ 295 แต้มถูกนำไปอัปความว่องไว]


[‘วิชาดาบแพ็กม่า Lv.4’ ถูกยกระดับเป็น ‘เทคนิคมหาจอมดาบแพ็กม่า’]


<เทคนิคมหาจอมดาบแพ็กม่า>

* เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ 40% อัตราคริติคอล 50% และความรุนแรงคริติคอล 80%

* แสดงผลเมื่อสวมใส่อาวุธประเภทดาบเท่านั้น

* จังหวะรำดาบลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียว

* ท่านสามารถใช้งานทักษะรำดาบเช่นคลื่น หน่วย ร่ายรำ และสังหาร

* ทักษะเสริมแกร่งจะมีเลเวลสูงสุด


“นายทำอะไรลงไป…!”


เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ ครอเกลเพียงโพล่งขึ้นตามสัญชาตญาณหลังจากได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวกริด


สีหน้าอดีตท้องฟ้าครอเกลกำลังบิดเบี้ยว เป็นอากัปกิริยาที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนักจากมัน


ราชาอสูรกริดที่สูญสิ้นไอเท็มและมีสภาพร่อแร่เจียนตายกลับเกิดการเปลี่ยนแปลงฉับพลัน แม้แต่ครอเกลผู้รอบรู้ก็มิอาจหาคำอธิบายให้ปรากฏการณ์ตรงหน้าได้


“บอกได้เพียงว่า… ฉันไม่ได้รับพลังเศษของราชาอสูรอีกแล้ว”


นับแต่นี้ไป ฉันจะดวลกับนายด้วยพลังของผู้เล่นคนหนึ่ง


กริดมิได้กล่าวออกไป


การย้อนเวลาตัวละครกลับไปไม่กี่เดือนก่อนมิได้ทำให้เขาอ่อนแอมากนัก


ครอเกลไม่เคยหาข้ออ้างแม้จะถูกลดเลเวลเหลือเพียงหนึ่งเมื่อสองปีก่อน มันน่าสมเพชหากกริดคิดน้อยเนื้อต่ำใจ ทั้งที่ตนเพิ่งสูญเสียพลังล่าสุดไปเพียงสองถึงสามเดือน


แถมโอสถส่วนใหญ่ก็ยังถูกนำไปเพิ่มความชำนาญ การขาดหายไปมิได้ส่งผลร้ายแรงนัก


“ลุยละนะ!”


เหมือนได้กลับมาสวมชุดเก่าอีกครั้ง


ถึงแม้จะไม่คุ้นชิน แต่ก็คิดถึงมันอย่างน่าประหลาด


ราชาโอเวอร์เกียร์พุ่งเข้าหาอริยดาบพร้อมรอยยิ้ม


“สยบ”


ท้องฟ้าเริ่มพังครืน…


วิชาดาบที่สั่นคลอนนภาแผ่ปะทะใส่ร่างอริยดาบครอเกลโดยไม่ตั้งตัว


ในร่างราชาอสูร ทักษะดังกล่าวเคยสยบท็อปแรงเกอร์หลายสิบคนในพริบตามาแล้ว


จุดเด่นของมันคือการปลดปล่อยฉับพลันโดยไม่ต้องรำ


แต่ครอเกลยังปัดป้องไว้ได้ทัน


ศัตรูที่ใช้ดาบทั้งปวงจะสูญเสียพลังบางส่วนเมื่ออยู่ต่อหน้าอริยดาบ


ดาบอัสนีฯ สีดำสนิทฟันปะทะกับดาบเสือขาวหนแล้วหนเล่าจนเกิดประกายไฟจากโลหะกระทบเสียดสี


ดาบหนึ่งอุบัติเพลิงทมิฬร้อนแรง


อีกดาบหนึ่งอุบัติเสาหินแหลมคมทิ่มแทงจากพื้น


ท้องฟ้าคนปัจจุบันปะทะอดีตท้องฟ้า


ท่ามกลางดงระเบิดเพลิงและเสาหินกระแทก เสียงหัวใจของบุรุษหนุ่มทั้งสองกำลังเต้นระรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน


กริดกำลังดีใจ


เหตุผลเดียวที่ครอเกลเข้าร่วมงานแข่งนานาชาติครั้งที่สี่ คงเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากต้องการรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับตน


‘มาดวลกันอีกครั้งในเกมตัดสิน’


คนทั้งสองรอคอยวินาทีนี้มาตลอดหนึ่งปีเต็ม


“ฉันจะไม่ทำให้นายผิดหวัง”


“เช่นกัน”


ราวกับนัดแนะไว้ล่วงหน้า


กริดและครอเกลสลัดดาบให้หลุดออกจากกันพลางหมุนรอบตัวเองหนึ่งครั้ง


มองผิวเผินอาจเข้าใจว่าทั้งคู่ลงมือทำในสิ่งเดียวกัน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย


ครอเกลปล่อยตัวตามธรรมชาติ เขาอาศัยแรงปะทะของดาบเพื่อหมุนตัวไปด้านหลังและฟันดาบต่อไปให้รุนแรงขึ้น


กลับกัน กริดทุ่มพลังฟันเต็มแรงพร้อมกับหมุนตัวไปด้านหน้าเพื่อรำดาบใช้งานทักษะถัดไป


“พายุดาบที่แท้จริง”


“ร่ายรำสังหาร”


ตาต่อตาฟันต่อฟัน


คลื่นรัศมีดาบพุ่งใส่พายุปราณดาบอันเกรี้ยวกราด สนามดวลที่มีสภาพย่ำแย่เป็นทุนเดิมยิ่งพังพินาศหนักสถานหนัก


ทว่า แม้ผืนดินจะสั่นสะเทือนมากเพียงใดแต่ สายตาคนทั้งสองยังคงจดจ้องกันและกันโดยไม่เสียหลักล้มลง


ประหนึ่งโลกนี้มีกันแค่สองคน


สี่หัตถ์เทวะบนท้องฟ้ากระหน่ำยิงศรเวท สี่ดาบบินถูกบงการให้ปกป้องผู้เป็นนาย


ดาบเสือขาวที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ฟันปะทะร่างกริดจนเซทรุดคุกเข่าหนึ่งข้าง


กริดใช้เวท ‘บิน’ ในสภาพคุกเข่า ชายหนุ่มเล็งเสยเข่าใส่ปลายคางอริยดาบครอเกลอย่างแม่นยำ


ราชาโอเวอร์เกียร์ที่คิดบินหนีขึ้นฟ้าถูกฝ่ามือคว้าไว้ทัน ครอเกลเหวี่ยงกริดกระแทกพื้นเต็มแรง หมอกพิษจากเกราะวัลฮัลล่าฯ เริ่มฟุ้งกระจาย


ครอเกลกระโจนถอยหลังด้วยก้าวย่างแสงขาวพร้อมซัดรัศมีดาบใส่จากระยะไกล


กริดสะบัดผ้าคลุมลันเทียร์มาด้านหน้าเพื่อปัดป้อง


“พยัคฆ์คร่ำครวญ!”


ครอเกลพุ่งประชิดด้วยความเร็วสูงพลางตบฝ่ามือใส่ผ้าคลุมในระยะประชิด


การโจมตีที่มองข้ามพลังป้องกันทุกรูปแบบได้ทะลวงผ่านผ้าคลุมกระแทกใส่วัลฮัลล่าฯ


ร่างกายกริดถูกคลื่นพลังคีปะทะอย่างรุนแรงจนเสียหลัก ประหนึ่งสิบล้อซิ่งชนโดยไม่เหยียบเบรก


“ดาบจันทร์ผงาด”


ดาบเสือขาวถูกวาดครึ่งวงกลมทรงจันทร์เสี้ยว หน้าอกราชาโอเวอร์เกียร์ถูกกรีดเฉือนจนเลือดพวยพุ่งสาดกระเซ็น


กล้องอาจจับไม่เห็นภาพกริด แต่ชายหนุ่มกำลังยิ้มแย้ม เขาดีใจที่คู่ปรับตลอดกาลของตนกลับมาแล้ว


การต่อสู้ยังคงดำเนินไป เสียงโลหะปะทะดังกังวานเป็นระยะไม่หยุดพัก ครอเกลไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายมีเวลาพักหายใจ


กริดไม่มีโอกาสแม้แต่จะเช็ดเลือดออกจากปาก ชายหนุ่มฝืนปัดป้องดาบจากคลาสสายต่อสู้อันดับหนึ่งอย่างเต็มกลืน


ยังเร็วเกินไปที่เขาจะงัดกลยุทธ์ ‘โอเวอร์เกียร์’ ออกมาใช้ หรือที่รู้จักในนามมวยวัด ตาต่อตาฟันต่อฟัน


ดาบเสือขาวพัฒนากลายเป็นเกรดยูนีค พลังโจมตีของมันมากพอจะเป็นภัยคุกคามแก่กริด


ไม่คุ้มเสี่ยงแลกพลังชีวิตกันซึ่งหน้า


ทันใดนั้น…


‘จังหวะนี้แหละ’


ครอเกลพลันหยุดการกระหน่ำดาบ


สาเหตุเพราะกริดใช้ ‘เที่ยงธรรมไม่เสื่อมคลาย’ สวนกลับโดยไม่ต้องขยับเท้าเพื่อร่ายรำ


ครอเกลจำต้องหยุดมือโดยปราศจากทางเลือก


“ศาสตราผงาด!”


มันมิอาจรับเที่ยงธรรมไม่เสื่อมคลายซึ่งหน้าได้ ทักษะดังกล่าวรุนแรงเกิดกว่าจะสลายได้หมด ครอเกลตัดสินใจก้มตัวลงหลบหลีกพลางหมุนตัวฟันเสยโดยเล็งโจมตีใส่ปลายคาง


พลังศาสตราผงาดพวยพุ่งจากใต้เท้ากริดในระยะประชิด แต่กริดไหวตัวทัน ชายหนุ่มรีบแหงนหน้าขึ้นท้องฟ้าเพื่อหลบรัศมีดาบสุดทรงพลัง


เส้นแสงดาบพวยพุ่งเป็นเสาเส้นตรงกลืนกินทุกสรรพสิ่งไม่เว้นแม้แต่หมู่เมฆ


ครอเกลเล็งการโจมตีสวนกลับไว้แต่แรกแล้วหรือ?


เขายังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า?


กริดขนลุกไปทั่วร่าง หลังจากหลบพ้น ชายหนุ่มพยายามตอบโต้ด้วย ‘ร่ายรำ’


ร่ายรำจากเทคนิคมหาจอมดาบแพ็กม่าย่อมปลดปล่อยได้ไวกว่าวีรบุรุษกริดตัวปลอม


แน่นอนว่าครอเกลยังไม่คุ้นชิน มันยับยั้งไว้ไม่ทัน ครอเกลไม่ตั้งรับหรือโจมตีสวน มันเลือกที่จะหลบหลีกอย่างชาญฉลาดด้วยทักษะอ่านใจ


“...”


“…”


ศึกดวลอันดุเดือดดำเนินไปโดยไม่มีใครได้หยุดพักหายใจ


แม้จะเหนื่อยหอบ แต่ทั้งสองก็พยายามเก็บงำสีหน้าและอารมณ์ไว้


ทันใดนั้น ดาบเสือขาวในมือครอเกลพลันถูกเก็บเข้าฝัก


มันกำด้ามดาบค้างไว้เช่นนั้นเป็นเวลานานด้วยสายตาที่จดจ้องกริดแน่วแน่


นี่คือท่าเตรียมชนิดหนึ่งของเทคนิคชักดาบฟัน กริดที่ใกล้ชิดพีคซอร์ดย่อมมองออกในทันที ร่างกายชายหนุ่มพลันชะงักตาม


“…”


ประหนึ่งกาลเวลาหยุดนิ่ง


ชุดผ้าไหมสีขาวปักด้วยลวดลายมังกรทองอร่าม เครื่องแต่งกายครอเกลกำลังเด่นสง่าและเป็นที่สนใจจากสายตาผู้ชมทั่วโลก


มันปลิวไสวตามแรงลมเอื่อยที่ผัดผ่าน


ดวงตาแสนสุขุมภายใต้เส้นผมดำขลับกำลังจ้องกริดโดยไม่กะพริบ


สองข้างแก้มมีเหงื่อไคลอาบเล็กน้อยจากการเคลื่อนไหวร่างกายอันรวดเร็วเมื่อครู่


พีคซอร์ด—บุรุษที่ช่ำชองเทคนิคชักดาบฟันคนหนึ่งของโลก มันเคยทดสอบหนแล้วหนเล่าเพื่อเฟ้นหาท่วงท่าที่รีดเร้นประสิทธิภาพได้สูงสุด คล้ายคลึงกับการฝึกฝนท่ายิงของคลาสนักธนู


ความพยายามและหมั่นฝึกซ้อมอย่างยาวนานได้ตกผลึกเกิดเป็นสุดยอดเทคนิคชักดาบ


ใช่แล้ว ท่วงท่าปัจจุบันของครอเกลคือสุดยอดเทคนิคชักดาบที่พีคซอร์ดได้ครอบครองอย่างยากลำบาก


เหยื่อตรงหน้าคือกริด


หากกริดขยับตัว ไม่ว่าจะถอยหลังหรือพุ่งเข้าหา ชายหนุ่มจะถูกฟันอย่างอำมหิตและได้รับความเสียหายที่ยากลืมเลือน


“…ทันทีที่กริดเริ่มเคลื่อนไหว กาลเวลาจะเริ่มกลับมาเดินอีกครั้ง”


พีคซอร์ดหันกล่าวกับเหล่าแรงเกอร์ที่ถูกส่งออกจากสนามพร้อมกัน


เหตุการณ์หลังจากนี้ พีคซอร์ดไม่อยากจินตนาการในสิ่งที่จะเกิดขึ้น


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กริดกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบสถานหนัก


“…”


“…”


กริดและครอเกลยังคงหยุดนิ่ง


เหนือศีรษะของสองบุรุษที่ยืนประสานสายตา ฝ่ามือสีทองบนอากาศกำลังปะทะกับดาบบินสี่เล่มเพื่อบ่งบอกกับทุกคนว่า กาลเวลามิได้ถูกแช่แข็งอย่างที่คิด


ไปป์ออร์แกนยักษ์ยังคงบรรเลงดนตรีอย่างต่อเนื่อง


‘…ออกแบบไอเท็ม’


ตั้งแต่เริ่มประสานสายตา กริดไม่เบือนหน้าหนีจากฝ่ามือครอเกลแม้แต่วินาทีเดียว


ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มได้นำไอเท็มหนึ่งชิ้นออกจากช่องสัมภาระ


มันคือ ‘ม้วนคาถาสร้างไอเท็มเสร็จทันที’ ที่ได้รับจากร้านค้าชื่อเสียง


***


『…』


“…”


ผู้บรรยายและผู้ชมในสนามต่างถูกบรรยากาศอันเงียบงันครอบงำเป็นเวลานาน


ก่อนหน้าเหตุการณ์ปัจจุบัน คนทั่วโลกเคยเกิดความฉงนในหลายด้าน


ปริศนาหลายชิ้นกระจัดกระจายและชวนฉงนตลอดการแข่งที่ผ่านมา


ปริศนาแรก ขณะประกาศจัดงานแข่งนานาชาติครั้งที่สี่ เหตุใด SA กรุปถึงเอาแต่ย้ำนักย้ำหนาว่า ‘ชะตากรรมของซาทิสฟายจะถูกสร้างด้วยฝีมือผู้เล่นด้วยกันเอง’


ปริศนาที่สอง บุคคลที่พบค้นจุดอ่อนของสี่ราชันสวรรค์รวมถึงตัวจริงของราชาอสูรได้ก่อนใคร พวกเขาล้วนเป็นกลุ่มขุนพลเทพแห่งกิลด์โอเวอร์เกียร์ทั้งสิ้น


ปริศนาที่สาม การที่ครอเกลยืนมองศึกราชาอสูรโดยไม่ยื่นมือช่วยฝ่ายผู้เล่นจนถูกคนทั่วโลกรุมประณาม


『ชิ้นส่วนทั้งหมดถูกประกอบครบแล้วครับ ที่แท้… บุคคลซึ่งครอเกลต้องการดวลด้วยคือกริดตัวจริง』


ขณะราชาอสูรใช้ทักษะคล้ายคลึงกับวีรบุรุษ หรือขณะซีบาลแหกปากตะโกนชื่อกริดหลายครั้ง


ผู้ชมยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง


หากยอมรับว่ากริดคือราชาอสูร ‘สามัญสำนึก’ ของพวกมันทุกคนต้องพังครืนในพริบตา


แต่ปัจจุบัน พวกเขาจำเป็นต้องยอมรับ


ปฏิเสธไม่ได้อีกแล้วว่ากริดคือราชาอสูรที่เข่นฆ่าท็อปแรงเกอร์ของโลกไป 399 คนตามลำพัง


เมื่อมันเป็นความจริง ทุกฝ่ายก็ต้องหาคำตอบให้ได้ว่า ‘เกิดขึ้นได้อย่างไร’


『จากที่ผมสังเกต กริดในร่างราชาอสูรจะแข็งแกร่งกว่าร่างปัจจุบันค่อนข้างมากครับ อย่างน้อยก็ถึกกว่าราวยี่สิบเท่า ผมขอเดาว่า ร่างราชาอสูรคงได้รับสิทธิพิเศษหลายชนิด』


『น่าจะใช่ครับ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีคำอธิบายอื่นอีกแล้ว ว่ากริดรับมือผู้เล่นกว่าสี่ร้อยคนตามลำพังได้อย่างไร ผมคิดว่า พวกเราไม่ควรมองราชาอสูรให้เป็นคนเดียวกับผู้เล่นกริดนะครับ』


ช่วยไม่ได้ ทุกคนต้องการคำอธิบายที่ใกล้เคียงสามัญสำนึก ไม่มีใครเจตนาดูแคลนฝีมือกริด


“…”


ผู้ชมทางบ้านและในสนามยังคงเงียบงันเช่นเดิม พวกมันไม่แยแสเสียงพิธีกรสนามที่กำลังอธิบาย


ประหนึ่งเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา


พวกมันไม่สนว่าศึกก่อนหน้าจะมีความเป็นมาอย่างไร ไม่สนว่าจะสมเหตุสมผลหรือตรงตามสามัญสำนึกหรือไม่


สิ่งเดียวที่พวกมันต้องการทราบในขณะนี้คือ…


ใครจะเป็นผู้ชนะ


กริดหรือครอเกล


ศึกดวลรอบที่สามระหว่างอดีตท้องฟ้าและท้องฟ้าคนปัจจุบัน ใครจะเหลือรอดเป็นคนสุดท้ายในการดวลแบบหนึ่งต่อหนึ่ง


ทุกคนล้วนมั่นใจว่าศึกตรงหน้าจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของซาทิสฟายตลอดกาล


คนดูทั่วสนามและทั่วโลกต่างร้องตะโกนเชียร์อย่างสุดเสียงโดยไม่กลัวน้ำเลือดเหือดแห้ง


“ใครก็ได้! ฉันเชียร์ทั้งสองคน!”


“วู้ววว!!”


ในวินาทีปัจจุบัน ผู้เล่นเริ่มตระหนักได้


เหตุใดพวกมันถึงอยากเห็นกริดและครอเกลใน PVP นัก


ถูกต้อง การแข่ง PVP ไม่ใช่รายการกีฬาทั่วไป แต่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานตลอดสามปี


การดวลระหว่างกริดและครอเกลยังไม่จบลง นี่คือศึกนัดที่สามซึ่งเป็นการชี้ขาดตัดสินระหว่างคนทั้งสอง


ทั่วโลกต่างเฝ้ารอการต่อสู้ระหว่างพวกเขาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา


“กริด เอาชนะให้ได้!”


“ครอเกลสู้เค้า!”


“ชนะทั้งคู่ไปเลย!”


การแข่งตะลุมบอนราชาอสูร รายการซาทิสฟายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี ปัจจุบันมีผู้เล่นหลงเหลือเพียงแค่สอง


แม้กระทั่ง SA กรุปก็มิอาจคาดเดาผลลัพธ์ตรงหน้าได้


“หวังว่าชื่อของสองคนนั้นจะไม่โด่งดังไปกว่างานแข่งนานาชาติหรอกนะ”


“…”


มุกตลกทีเล่นทีจริงของยุนซังมิน ไม่มีคณะกรรมการคนใดที่หัวเราะออก


บรรยากาศภายในห้องประชุมผู้บริหารของ SA กรุปไม่ค่อยสู้ดีนัก


แต่ในทางกลับกัน ห้องประชุมผู้บริหารทางแดจินกรุปกลับกำลังชื่นมื่นสุดขีด


“กริดจะเป็นหน้าเป็นตาให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรา…! ไม่สิ เขาจะเป็นหน้าเป็นตาให้แดจินกรุปต่างหาก!”


“เยส!!”


“กริดคนนั้น… ไม่สิ ก็อดกริดคนนั้น เขาอาจกลายเป็นหลานเขยฉันก็ได้”


“…โอ้ส!!”


พวกนายไม่เห็นข่าวที่ลือกันในอินเทอร์เน็ตบ้างหรือไง?


ในวินาทีที่ประธานลีจินเมียงกำลังดีใจ และในวินาทีที่เหล่าผู้บริหารทราบความจริงทั้งหมด ประธานแดจินมอร์เตอร์ยกนิ้วโป้งขึ้นด้วยสีหน้าสุดตื่นเต้น


“ก็อดกริดกำลังจะเป็นเขยของท่านประธาน… เจ๋งเป้ง!”


“...”


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,356

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ไปกันใหญ่แล้วท่านประท่าน คิดเองเอ่อเอง

    ReplyDelete
    Replies
    1. จบศึกนี้เดี๋ยวก็รุ้ครับ

      Delete
  2. ขอบคุณ​มาก​ครับ​🙏

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00