จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 969



‘เธอเป็นฝ่ายมาหา…’


อันที่จริง กริดอยากรีบติดต่อหายูร่าใจแทบขาด


แต่หลังจากจบการแข่งตะลุมบอนราชาอสูร เมื่อเดินออกมายังห้องพักนักกีฬาที่มีเหล่าแรงเกอร์กว่าสี่ร้อยคนรออยู่ กริดจำเป็นต้องหยุดเพื่อทักทายและพูดคุยกับขุนพลโอเวอร์เกียร์ คนเหล่านี้คือพวกพ้องสำคัญที่ต้องสานสัมพันธ์ในชีวิตจริงไว้ให้มาก


หลังจากนั้น กริดต้องเข้าร่วมงานแถลงข่าวที่ยุนซังมินนัดแนะไว้


ลงเอยด้วย


ชายหนุ่มเลื่อนการโทรหายูร่าออกไป


และเมื่อแถลงข่าวจบ กริดต้องการพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว มีหลายสิ่งต้องบอกกล่าวให้อีกฝ่ายรับทราบ รวมถึงความเจ็บปวดหัวใจของตนหากต้องสูญเสียเธอไป เขาอยากพรั่งพรูสิ่งเหล่านั้นต่อหน้ายูร่า


ได้โปรดอย่าเลิกเล่นเกม…


แต่ยูร่ากลับเป็นฝ่ายมาหาตน


ท่ามกลางฝูงนักข่าวหิวกระหายที่จ้องเขียนบทความบิดเบือน เหยื่อแสนโอชะเช่นเธอย่อมถูกหมายตาโดยพลัน


“ไปกินอะไรที่ห้องฉันไหม?”


แชะ! แชะ!


นั่นปะไร


เมื่อสิ้นเสียงยูร่า แสงจากแฟลชจากกล้องนับร้อยรัวกระหน่ำไม่หยุดพัก


ชายหนุ่มพลันขมวดคิ้ว


เขาไม่ชอบใจที่เธอถูกนักข่าวบัดซบเหล่านี้รบกวน ทั้งที่ยูร่ากำลังเสียใจจากผลการแข่งที่ไม่เป็นไปตามเป้า


ยิ่งไปกว่านั้น ดวงตาของเธอกำลังแดงก่ำประหนึ่งเพิ่งร่ำไห้เสร็จ หากภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป เขาไม่อยากจินตนาการว่านักข่าวระยำจะนำไปเขียนบทความบิดเบือนในทิศทางใด


“พวกเราไม่ได้ทำงานอยู่! นักข่าวไม่มีสิทธิ์ถ่ายภาพ!”


กริดพยายามใช้ร่างกายกำยำของตนบดบังยูร่าจากแสงกล้องถ่ายภาพ


ดวงตาของชายหนุ่มกำลังมุ่งร้ายสุดขีด


ความเป็นราชาหล่อหลอมให้มนุษย์เติบโตได้ถึงเพียงนี้เชียว? กริดเปรียบประหนึ่งพญาราชสีห์ที่กำลังแผ่จิตคุกคามเพื่อปกป้องฝูง


กลุ่มนักข่าวต่างผงะเล็กน้อย พวกมันหยุดมือพลางก้าวถอยหลัง…


แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น


แชะ! แชะ!


พวกมันกำลังคลุ้มคลั่ง


ยูร่าแสดงสีหน้าแปลกประหลาดชัดเจน ต้องมีข่าวใหญ่บางอย่างรออยู่แน่


ประหนึ่งสตรีซึ่งยืนโดดเดี่ยวท่ามกลางแสงจันทร์ยามราตรี ทุกครั้งที่นัยน์ตาแสนสั่นเทาของเธอกวาดมอง ราวกับโลกทั้งใบกำลังพังครืน


ความงามของยูร่ายากจะอธิบายเป็นคำพูด รอยยิ้มของเธอยังคงสดใสเช่นเคย แต่สิ่งที่แปลกไปคือแววตา มันราวกับเก็บซ่อนปริศนาบางประการไว้


บรรดานักข่าว ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ทุกคนล้วนถูกเสน่ห์ของยูร่าสะกดจนอยู่หมัด หากเธอบอกให้พวกมันทรยศประเทศของตัวเองเดี๋ยวนี้ คงไม่มีใครที่ตอบปฏิเสธ


“พวกคุณพอได้แล้ว—…เอ๋?”


สติของกองทัพนักข่าวเริ่มหลุดลอยไปไกล แต่ละคนหายใจแรงและถี่ พวกมันรัวกระหน่ำแสงแฟลชด้วยดวงตาแดงก่ำราวกับยาเสพติดออกฤทธิ์ กริดพลันขมวดคิ้วเมื่อนึกสงสัยว่าตนหลุดเข้าในหนังซอมบี้หรืออย่างไร


“ผู้เล่นยูร่าครับ! คุณแสดงฝีมือได้ยอดเยี่ยมในการแข่งปีนี้ แต่ทำไมถึงปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ทุกช่องทางครับ?”


“คิดว่าจะแก้มือซีบาลในปีหน้าสำเร็จหรือไม่ครับ?”


“ทำไมคุณถึงมาที่นี่ครับ? มารอกริดใช่ไหม?”


“ผ่านมาแล้วสี่ปีนับตั้งแต่มีข่าวอื้อฉาวกับกริด พวกคุณยังคบกันอยู่งั้นหรือครับ?”


“ยังไม่เลิกรากันใช่ไหมครับ?”


“ทะเลาะกันบ้างรึเปล่าครับ?”


ใจจริง พวกมันต้องการถามเกี่ยวกับงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติ แต่เกิดเปลี่ยนใจและถามเจาะจงถึงเรื่องส่วนตัวกลางคัน


‘ไอ้พวกระยำนี่… ต้องให้บอกกี่ครั้งว่าเราไม่ได้คบกัน?’


ฉันไม่ได้คบกับพวกหล่อน!


ไม่ใช่ทั้งจิสึกะและยูร่า!


กริดเคยกล่าวถ้อยคำข้างต้นอย่างชัดเจนหลายร้อยครั้งตลอดสี่ปีที่ผ่านมา


แต่กลับไม่มีใครยอมเชื่อ


ไม่ว่าพยายามปฏิเสธเพียงใด แต่หากนัดพบกับยูร่าในชีวิตจริง ผู้คนก็จะแอบถ่ายภาพและเขียนเรื่องเท็จเป็นตุเป็นตะ


หากคุยกับจิสึกะตามลำพังในเกมแล้วมีคนเห็น ข่าวลือบัดซบก็จะเริ่มแพร่กระจายไม่ต่างกัน


และสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างแย่ลงก็คือ…


ทั้งยูร่าและจิสึกะไม่เคยปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวอย่างชัดเจนเลยสักครั้ง


กริดมองว่า ถึงเวลาที่ตนต้องทำให้ชัดเจนเด็ดขาดอีกรอบ เขาไม่อยากให้แอนตี้แฟนเพิ่มจำนวนไปมากกว่านี้


แม้กระทั่งแขนยังไม่เคยจับ… ไม่สิ เคยโอบเอวหนหนึ่งในตอนที่พวกเธอเมาไม่ได้สติ


แต่ไม่ว่าอย่างไร ข่าวลือที่ไม่เป็นจริงย่อมไม่ดีกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะครอบครัวของฝ่ายหญิง


กริดตัดสินใจแน่วแน่และโพล่งขึ้น


“พวกเราไม่ได้คบกัน!”


แชะ! แชะ!


“ไม่ใช่เลยสักนิด!”


แชะ! แชะ!


“ผมไม่ได้คบกับยูร่า!”


“…”


หลังจากตะโกนชัดเจนออกไปหลายหน


ในที่สุดแสงแฟลชจากกล้องก็หยุดลง


บุรุษทั่วโลกล้วนต้องการตกเป็นข่าวลือกับยูร่า แต่กริดตอบปฏิเสธเสียงแข็งอย่างไร้เยื่อใย แถมพูดซ้ำถึงสามครั้งซ้อน


หากลองมองย้อนกลับไปในอดีต


กริดมักทำเช่นนี้เป็นประจำเสมอ


แต่ในช่วงก่อนหน้า พวกมันคิดว่ากริดทำไปเพราะเขินอาย ทว่า ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน แววตาของยูร่ากำลังดำมืดปราศจากประกายระยิบระยับเฉกเช่นทุกครั้ง


หรือว่า…


‘กริดและยูร่าไม่เคยคบกันจริง?’


มีชายใดในโลกกล้าเมินยูร่าด้วยหรือ?


บ้าบอสิ้นดี… เป็นไปไม่ได้เลยทั้งในทางทฤษฎีและปฏิบัติ เหล่านักข่าวหิวกระหายจ้องมองเข้าไปในดวงตาอันซับซ้อนของยูร่า


ผิวพรรณของเธอขาวนวลเป็นทุนเดิม


แต่ปัจจุบันกำลังขาวซีดจนน่าเป็นกังวล…


หมายความว่า…


พวกมันมาถูกทางแล้ว


“...”


เมื่อเริ่มได้สติกลับมา บรรดานักข่าวต่างลดกล้องในมือลง ทีมงาน SA กรุปรีบเข้ามาห้ามปราบและกีดกันนักข่าวออกไป


ไม่ใช่เรื่องดีนักที่จะละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวบุคคลอื่น


หากกริดและยูร่าเป็นคนรักกันจริง การปฏิเสธเสียงแข็งของกริดอาจเป็นความเคอะเขินที่น่ารัก


แต่ถ้าไม่ใช่


สิ่งที่พวกมันกำลังทำนั้นผิดมหันต์


ท่ามกลางความเงียบงัน


“ใช่ค่ะ พวกเราเป็นแค่เพื่อนกัน มิใช่คนรักอย่างที่เข้าใจ”


ยูร่าเริ่มเปิดปากพูด น้ำเสียงของเธอใสกังวานประหนึ่งนางฟ้าจากสวรรค์


“แล้วก็… นายไม่ได้คบกับจิสึกะด้วยใช่ไหม?”


นับตั้งแต่ถูกนักข่าวรุมล้อมจนถึงเมื่อครู่ ยูร่าทำเพียงเงียบงันมาตลอด แต่ยามนี้ เธอหันไปถามกริดพลางจ้องมองด้วยแววตาสุขุม


เมื่อโอกาสสะสางความเข้าใจผิดมาถึง กริดฉีกยิ้มกว้างพลางหันไปตอบกับฝูงนักข่าว


“ใช่แล้ว! ผมไม่ได้คบกับจิสึกะ!”


“แต่ว่า…”


“หือ?”


“…ฉันอยากคบกับนาย”


“อะไรนะ?”


“อยากต้องการเป็นคนรักของนาย!”


“เอ่อ… เอ๋?”


“…!!”


ในมุมมองกริด สถานการณ์ตรงหน้าได้ดำเนินไปอย่างผิดแผกสุดขีด ความสมองทึบเข้าครอบงำไอ้งั่งกริดอีกครั้ง


ราวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกดึงปลั๊กออก ในหัวกริดพลันขาวโพลนโดยใบหน้ายังคงเปื้อนรอยยิ้ม


ระบบประมวลผลหยุดทำงานฉับพลัน


ขณะเดียวกัน กลุ่มนักข่าวบางส่วนเริ่มเข้าใจสถานการณ์ พวกมันรีบคว้ากล้องมารัวถ่ายภาพอีกระลอก


ยูร่าไม่ได้ห้าม


เพราะเธอกำลังหวาดกลัว…


กลัวว่าตนจะมิอาจรวบรวมความกล้าได้มากมายเท่าวินาทีนี้อีกแล้ว


นักข่าวหลักร้อยพันกำลังรอคอยให้เธอพูดประโยคต่อไป บรรยากาศทางเดินถูกความเงียบงันเข้าครอบงำ


ประหนึ่งมนุษย์หยุดหายใจพร้อมกัน


มีเพียงเสียงสูดลมหายใจจากยูร่า


เธอกล่าวออกไปอีกครั้งด้วยถ้อยคำที่หนักแน่นและใสกังวาน


“คบกับฉันได้ไหม?”


“…”


ยูร่าหน้าแดงก่ำถึงใบหู


กองทัพนักข่าวสังเกตเห็นถึงดวงตาที่กำลังส่องประกายผสมผสานกับน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย


พวกมันล้วนทราบดีว่า ยูร่าต้องใช้ความกล้ามากเพียงใดเพื่อจะกล่าวคำสารภาพรักออกไป


มีเพียงไอ้ทึ่มคนเดียวที่มองไม่ออก


“นี่เธอพูดจริงหรือ?”


ใช่แล้ว ไอ้ทึ่มกริด


เขากำลังประหลาดใจสุดขีด


…ไม่ใช่เพราะกริดไม่ชอบยูร่า


ตรงกันข้าม เขาคือหนึ่งในชายที่หลงใหลเสน่ห์ของเธอตั้งแต่แรกพบ ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองยิ่งมีแต่ลึกซึ้งมากขึ้น


ระบุให้ชัดคือ กริดชื่นชอบยูร่าไม่น้อยไปกว่ามนุษย์เพศชายคนอื่น ทุกการกระทำและรูปลักษณ์ของเธอ ทั้งหมดล้วนตรงสเป็กของเขา


เพียงแต่ว่า


มีหลายปัจจัยที่ยังคลุมเครือ,ครุมเครือ


หญิงงามเช่นเธอ


กุลสตรีเพียบพร้อมทั้งฐานะ การศึกษา พรสวรรค์ ไม่บกพร่องในด้านในเลย


เหตุใดตัวตนสมบูรณ์แบบเช่นนี้ถึงสารภาพรักกับตน?


โดยเฉพาะสถานที่ซึ่งมีนักข่าวบัดซบมากมายหลักพันคนแบบนี้


กริดไม่อยากเชื่อว่าวินาทีนี้คือความจริง


มันเหมือนฝันมากเกินไป


แชะ! แชะ!


ฝูงนักข่าวรัวกล้องถ่ายภาพอีกครั้ง


บางคนถึงกับอัดวิดีโอเพื่อจารึกเหตุการณ์ครั้งสำคัญเป็นภาพเคลื่อนไหว


ชายหนุ่มที่หัวสมองขาวโพลนนานหลายวินาที เขาเริ่มได้สติคืนมาบางส่วนเพราะเสียงเอะอะจากกองทัพนักข่าว


ใบหน้าของยูร่ากำลังแดงก่ำยิ่งกว่าผลแครอท ลมหายใจของเธอติดขัดไม่ปะติดปะต่อ เหงื่อเม็ดเป้งผุดขึ้นบนใบหน้าหลายจุด


แต่ถึงอย่างนั้น ยูร่ายังคงจ้องมองกริดโดยไม่กะพริบตาแม้แต่วินาทีเดียว


ดวงตาของเธอแน่วแน่ชนิดที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน สตรีตรงหน้าตนกำลังถ่ายทอดความรู้สึกที่แท้จริงจากก้นบึ้งหัวใจ


กริดมิอาจปฏิเสธความจริงได้อีก


ถึงจะไม่เข้าใจสถานการณ์ดีนัก แต่เมื่ออีกฝ่ายจริงใจถึงเพียงนี้ ฝ่ายเขาก็คงทำเล่นไม่ได้เช่นกัน


“รีบกลับโรงแรมก่อน!”


กริดคว้าท่อนแขนแสนเรียวงามของยูร่าพร้อมกับออกวิ่งเต็มฝีเท้า


“ชิ…!”


แชะ! แชะ


เสียงแฟลชดังถี่ขึ้นทุกขณะ


กริดเป็นใครกัน?


กริดคือหนุ่มซิง (?) ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักในชีวิตจริงมาก่อน


ขณะเขาคว้าแขนยูร่าและวิ่งออกไป บรรดานักข่าวต่างรีบจับภาพใบหน้าสุดเขินอายที่ยูร่ากำลังแสดง


“ไล่ตามไป”


“เร็วเข้า!”


“ค…ครับ!”


พีคซอร์ด ทูน โค้ก


สามบุรุษหนุ่มที่เฝ้ามองคนทั้งสองอย่างเงียบงันมานาน พวกมันรีบวิ่งตามกลุ่มนักข่าวไปไม่ห่าง จุดประสงค์คือช่วยสนับสนุนให้กริดและยูร่าไปถึงโรงแรมอย่างปลอดภัย


ภายนอกเหมือนจะเป็นอย่างนั้นล่ะนะ…


พีคซอร์ดและทูนกำลังฉีกยิ้มกว้างอย่างมีเลศนัย… สำหรับพีคซอร์ด กริดและยูร่าเปรียบเสมือนน้องที่น่ารักของมันมาตลอด


ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ช่างน่าเอ็นดูเหนือคำบรรยาย


***


ณ ห้องพักของยูร่า


“ดีขึ้นรึยัง?”


ใช้เวลานั่งพักราวยี่สิบนาทีกว่าลมหายใจของยูร่าจะกลับเป็นปรกติ


กริดนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามยูร่า


เขารินชาใส่ถ้วยพลางเอ่ยปากถาม


ยูร่าผงกศีรษะขึ้นลงด้วยแก้มที่ยังแดงระเรื่อ


“อื้อ…”


“ขอถามได้ไหม เธอหลงรักอะไรในตัวฉัน?”


ยูร่ากล้าสารภาพรักต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก สิ่งนี้หมายความว่า เธอชื่นชอบและหลงใหลบางสิ่งในตัวเขา


ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด แต่ไม่ใช่ในฐานะเพื่อนอย่างแน่นอน


“อัปลักษณ์... หัวทึบ… และนิสัยเสียอย่างฉัน… เธอชอบลงได้ยังไง?”


แม้แต่ผู้หญิงสมบูรณ์แบบก็ยังมองคนไม่เก่งสินะ? กริดไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเคลือบแคลงสายตามองคนของยูร่า


เขาพยายามมองโลกให้ใกล้เคียงสามัญสำนึกมากที่สุด หากสมองยังปรกติ คงไม่มีผู้หญิงคนใดหลงผิดชื่นชอบตนแน่นอน


ถึงจะมีหญิงสาวแฟนคลับบางส่วนที่ชื่นชอบในตัวกริด แต่นั่นเป็นเพราะพวกหล่อนหลงใหลราชาโอเวอร์เกียร์และตัวละครกริด


มิใช่ชินยองวู


ในความคิดชายหนุ่ม ตัวตนของชินยองวูเป็นราวกับอึหมา ไร้เสน่ห์และความน่าค้นหาโดยสิ้นเชิง เทียบตัวละครกริดที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้เลยสักนิด


…ชินยองวูคือชายที่ไม่มีสิทธิ์ได้รับความรักจากใคร


ผู้หญิงจำนวนมากเคยขบขันในความอัปลักษณ์ บางคนถึงกับเบือนหน้าหนี บางคนก็ใช้วาจาถากถางให้เจ็บใจเล่น


แน่นอนว่า ไม่ใช่เพราะรูปลักษณ์เพียงอย่างเดียว นิสัยที่ดำมืดและเห็นแก่ตัว รวมถึงการปิดกั้นตัวเองจากบุคคลรอบข้างโดยสมบูรณ์


กริดเข้าใจมาตลอดว่าความคิดด้านลบคือสิ่งที่พระเจ้าประทานให้มนุษย์ทุกคนอย่างไม่เท่าเทียม


ยกตัวอย่างดาเมี่ยน ชายคนนั้นหลงใหลในอนิเม ฟิกเกอร์ เป็นโอตาคุตั้งแต่เด็ก ถูกคนรอบข้างดูแคลนมาตลอด มีชะตากรรมถูกรุมกลั่นแกล้งไม่ต่างจากกริด


แต่ดาเมี่ยนกลับมีบุคลิกและนิสัยด้านบวกอย่างเต็มเปี่ยม กลายเป็นที่รักของผู้คนได้ไม่ยาก หมอนั่นไม่เคยคิดลบแม้แต่วินาทีเดียว


กลับกัน ตัวเขาที่เติบโตในสภาพแวดล้อมคล้ายคลึงดาเมี่ยน กลับต้องจมท่วมด้วยพลังงานด้านลบทุกวัน


มองโลกแง่ร้าย เอาแต่ริษยา


“…”


เมื่อหวนนึกถึงอดีต ใบหน้ากริดพลันบิดเบี้ยวอย่างเจ็บปวด มันคือแผลใจที่มนุษย์คนหนึ่งยากจะลบเลือน


อดีตของเขาเจ็บปวดและขื่นขมจนแม้หัวใจจะถูกเยียวยาโดยสมบูรณ์ แต่มันก็ยังทิ้งรอยแผลเป็นไว้ถาวร


เสียงยูร่าที่นั่งฝั่งตรงข้ามดังแว่วขึ้น


“ในครั้งแรกที่พบกัน มันไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความนึกสงสัย… ช่วงนั้นฉันยังเป็นแรงเกอร์ที่ทระนงตนและโอหังว่าแข็งแกร่งที่สุด... แต่เมื่อได้เผชิญหน้ากับนาย ฉันจึงเกิดความสนใจในตัวบุคคลที่อ่อนแอ ไร้พรสวรรค์ แต่กลับไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคจนถึงที่สุด”


“…”


ภารกิจช่วยไอรีนที่โดรันมอบหมาย


ย้อนกลับไปสมัยยูร่าทำภารกิจเลื่อนระดับเป็นข้ารับใช้ยาธาน ในช่วงเวลาดังกล่าว พลังอมตะคือสิ่งที่ผู้เล่นไม่เคยสัมผัสมาก่อน


“หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ฉันเริ่มสนใจในตัวนาย สืบประวัติอดีตทั้งหมด นายคือคนที่เกิดมาอับโชคอย่างแท้จริง ฉันรู้สึกเห็นใจและสงสาร ฉันไม่เคยเห็นใครมีชะตากรรมที่โหดร้ายเท่าตัวเองมาก่อน จนกระทั่งได้พบนายเข้า…”


“…”


“นายทำให้ฉันนึกถึงตัวเอง จึงคอยเฝ้ามองนับแต่นั้นเป็นต้นมา… แต่ฉันได้พบความจริงในภายหลังว่า นายไม่เหมือนกับฉันเลยสักนิด”


ในวัยเด็กของยูร่า เธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาตลอด และยิ่งถูกทำร้ายด้วยความอำมหิตของปู่บังเกิดเกล้า


มันไม่เคยเสียใจในการตายของพ่อกับแม่เธอ แถมยังเอาแต่บีบบังคับทุกวิถีทางเพื่อให้ยูร่าสืบทอดกิจการ


บาดแผลในใจได้ฝังรากลึกนับแต่นั้น


“ฉันเอาแต่เลียแผลตัวเอง รักแต่ตัวเอง และบดขยี้คนอื่นเพื่อหลีกหนีจากความจริง”


เธอสังหารผู้บริสุทธิ์ไปมากมายเพื่อให้ได้เป็นข้ารับใช้ยาธาน


ระหว่างเส้นทางดังกล่าว เธอได้ลงมือทำร้ายกริด ไอรีน รวมถึง…


โดรัน


ชื่อที่ยูร่าไม่กล้าเอ่ยต่อหน้ากริด


“แต่นายไม่เหมือนกัน… แม้ต้องเผชิญความเจ็บปวดและโดดเดี่ยวที่มากกว่าฉันหลายเท่า ถึงอย่างนั้น นายกลับยังสู้เพื่อปกป้องตัวเองอย่างสุดความสามารถ”


“เข้าใจผิดแล้ว สิ่งที่เธอเล่ามา… ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เธอตกหลุมรักฉันเพราะเข้าใจผิดสินะ”


“ไม่ใช่”


ยูร่าวางถ้วยชาลง


ดวงตาของเธอยังคงสุขุม ยูร่าสัมผัสถึงบรรยากาศผิดหวังจากกริด


เธอกล่าวออกไปอย่างหนักแน่น


“นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันสนใจในตัวนาย… แต่บุคคลที่ฉันตกหลุมรักอย่างแท้จริงคือชินยองวู เสียงของนาย กลิ่นอาย อุปนิสัย บุคลิก รวมถึงใบหน้านี้ด้วย…”


ทุกสิ่งที่นายเกลียด…


“ฉันชอบมันทั้งหมด”


สำหรับมนุษย์ ความสัมพันธ์ห้าปีไม่ใช่เวลาที่สั้น ยูร่ามีโอกาสได้เห็นตัวตนกริดทุกซอกมุม


และนั่นคือสาเหตุที่เธอมั่นใจ


“…”


หัวใจกริดเริ่มเต้นระรัว


ยูร่ากำลังจ้องมองตนด้วยสายตาไม่สั่นคลอน เธอเผยรอยยิ้มแสนอ่อนโยนที่มีไว้เพื่อเขาเพียงคนเดียว


เป็นรอยยิ้มของนางฟ้าอย่างนั้นหรือ?


ขณะนั่งเชยชมใบหน้าสตรีที่งดงามที่สุด


กริดส่งเสียงพึมพำ


“อันที่จริง… เคยมีคนพูดแบบนี้กับฉันมาก่อน… เหมือนกันจนน่าขนลุก”


ทำไมถึงได้ชอบโกหกกันนักนะ?


กริดส่ายศีรษะพลางยิ้มจืดชืด


“ความรักทำให้ผู้หญิงตาบอดรึไง…”


…แล้วเราควรตอบเธอยังไงดี?


ใบหน้าไอรีนพลันผุดขึ้นในความทรงจำ


ความรู้สึกผิดกำลังอัดแน่นในอก


เมื่อเห็นกริดแสดงสีหน้าเจ็บปวด


ยูร่าลุกขึ้นจากเก้าอี้


“ฉันไม่คิดจะทำให้นายลำบากใจ แค่ต้องการบอกความรู้สึกของตัวเอง”


เขาไม่จำเป็นต้องมอบคำตอบทันที


“ว่าแต่… เธอถือกาน้ำร้อนทำไม?”


“จะต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป”


“บะหมี่กึ่ง? เธอทำเป็นหรือ?”


“น่าจะนะ... ในถุงมีวิธีทำเขียนไว้ แค่นำก้อนบะหมี่ไปล้างน้ำสะอาดก่อน จากนั้นค่อยทำตามขั้นตอนที่ระบุข้างซอง”


“เอาอะไรไปล้างนะ? ไม่ต้อง! ฉันทำเอง— เฮ้! ส่งมาให้ฉัน! วางถุงลงเดี๋ยวนี้!”


“เป็นแขกควรนั่งเฉยๆ นะ”


ราวกับความขุ่นมัวในใจยูร่าได้สลายเป็นปลิดทิ้ง ใบหน้าของเธอกำลังเจือรอยยิ้มแสนสดใสอย่างที่ไม่เคยเป็น


แต่ก่อนอื่น… ให้ฉันได้ทำบะหมี่เองเถอะ

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,362

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ☺️☺️☺️
    💗💗💗
    ชอบ​มาก​ ได้ยิ้มทั้งตอน
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​💗

    ReplyDelete
  2. อ๊ากกกกก....!!! จิสึกะไปไหน😥

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00