จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 960
=== สามขุนพลอเมริกันกำลังเล่นตลกรึไง?
นี่คือความเห็นจากผู้ชมทั่วโลก
ครอเกลเฝ้ามองเหตุการณ์โดยไม่ลงมือช่วย ซีบาลเผยแพร่ข่าวลวงเกี่ยวกับจักรกลเวทมนตร์ ส่งผลให้สถานการณ์ปัจจุบันกำลังย่ำแย่ เฮสเตอร์พุ่งเข้าไปแจกราชาอสูร ขวัญกำลังใจฝ่ายผู้เล่นกำลังหล่นวูบ
…การกระทำของแต่ละคนล้วนน่าสมเพช แม้แต่แฟนคลับเดนตายของทีมก็มิอาจช่วยกล่าวสิ่งใดเพื่อปกป้อง
“พวกเราจะแพ้จริงหรือ”
“แน่นอน จะมีวิธีใดเอาชนะสัตว์ประหลาดตรงหน้าได้อีก”
ความตายเยี่ยงสุนัขของเฮสเตอร์คือจุดเริ่มต้นสถานการณ์สิ้นหวัง
กองเชียร์ทางบ้านยากจะเชื่อว่าฝ่ายมนุษย์จะเอาชนะราชาอสูร
ผู้ชมหลายล้านต่างเฝ้ามองแรงเกอร์ที่ตนชื่นชอบในทีวีด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ นักกีฬาทุกคนไม่ต่างจากหนูทดลองที่รอวันถูกสัตว์ประหลาดเชือดทิ้ง
หลังจากราชาอสูรจบชีวิตเฮสเตอร์ได้ไม่นาน หุ่นรบคุกเข่าลงโดยมีควันดำหนาทึบพวยพุ่งจากถังเชื้อเพลิง
คงเป็นผลข้างเคียงจากการใช้เวทมนตร์มากเกินไปกระมัง…
ราชาอสูรที่ยืนเด่นตระหง่านเหนือศีรษะหุ่นได้ตะโกนกึกก้อง
“พวกแกทุกคนต้องตาย”
ทักษะที่สร้างความเสียหาย 60% จำนวน 30 ครั้งภายใน 1 วินาทีกับทุกเป้าหมายในระยะ 10 เมตร
ระยะหน่วงของมันคือสิบนาที
ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน
สีเส้นดาบเดิมคือม่วงอมแดง แต่ปัจจุบันพวยพุ่งไปด้านหน้าในรูปปราณดาบสีเงินระยิบระยับ
เป้าหมายคือกลุ่มจอมเวทที่หลงเหลือ
ในปัจจุบัน ผู้เล่นยังมีลมหายใจอยู่ราวสามร้อยคน กองเชียร์ทางบ้านอาจคิดว่าพวกมันถอดใจแล้ว แต่นั่นไม่จริงเลย
จิตวิญญาณนักสู้อันแรงกล้ายังคงครบถ้วนทุกประการ
เป็นถึงแรงเกอร์แนวหน้าของโลก จะให้จิตตกกับเรื่องเล็กน้อยคงไม่ถูกต้องนัก
“ปืนใหญ่มีระยะห่างการยิงอยู่ที่ห้านาที!”
“กระสุนปืนใหญ่จะพุ่งใส่จุดที่ราชาอสูรชำเลืองมอง! หากอ่านสายตามันได้ การรับมือต้องสำเร็จแน่!”
“ในวินาทีที่มันสลับจากธนูเป็นดาบ อัตราฟื้นฟูพลังชีวิตตามธรรมชาติลดลงอย่างเห็นได้ชัด เป็นดังจิสึกะกล่าว มันสูญเสียพลังฟื้นฟูของคันศรฟินิกซ์แดงไป แถมอัตราฟื้นฟูของมันก็ต่ำกว่ามอนสเตอร์บอสทั่วไปมาก”
“ราชาอสูรจะหมุนตัวอย่างผิดธรรมชาติก่อนใช้ทักษะ การหมุนจะสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย ราวกับมันคือท่าร่ายทักษะรูปแบบหนึ่ง หากเราตรึงการหมุนไว้ได้ทัน ทักษะของราชาอสูรต้องแสดงผลล้มเหลวแน่!”
“หมอกพิษจากชุดเกราะรุนแรงก็จริง แต่พิษจะใช้เวลานานก่อนฟุ้งกระจาย อาศัยช่วงเวลาดังกล่าวรีบถอย!”
ตลอดสิบนาทีที่ผ่านมา ราชาอสูรอาจถือไพ่ได้เปรียบอยู่ฝ่ายเดียว
เพราะเหนือสิ่งอื่นใด แรงเกอร์ชั้นนำของโลกได้จบชีวิตไปแล้วกว่าร้อยคน
แต่กระนั้น ฝ่ายผู้เล่นก็มิได้ลนลานหรือสติแตก พวกมันวิเคราะห์ศัตรูอย่างใจเย็นและคิดหากลยุทธ์รับมือ
พื้นฐานการล่าบอสใหญ่ทุกชนิดคือสังเกตและจดจำรูปแบบการเคลื่อนไหว
“เจ้านั่นสอดแทรกการหมุนตัวไว้ในการเดินปรกติ… ดาเมี่ยน เตรียมตัวให้พร้อม! ฉันจะลงมือตอบโต้ในจังหวะที่จักรกลเวทมนตร์หยุดทำงานโดยสมบูรณ์”
จิสึกะมอบคำสั่ง
สายตาเธอจดจ้องไปยังกลุ่มควันดำที่พวยพุ่งจากถังเชื้อเพลิงด้านหลัง
หุ่นรบตรงหน้าใกล้ระเบิดเต็มที
จิสึกะไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมผู้ขับหุ่นถึงต้องเกรี้ยวกราดขนาดนั้น
ดาเมี่ยนขมวดคิ้วฉงน
“พลังชีวิตของราชาอสูรยังแทบเต็มหลอด เธอไม่ทำให้ตัวเองตกเป็นเป้าเร็วไปหน่อยหรือ?”
“ฝ่ายเรายังเหลือตั้งสามร้อย หากสร้างความเสียหายได้คนละหลายพัน พลังชีวิตของราชาอสูรจะลดเกินสองล้านในพริบตา”
“มันบินตลอดเวลา ผู้เล่นบางคลาสร่วมโจมตีไม่ได้”
“เดี๋ยวก็ต้องลงมา แค่รอเวลาเท่านั้น”
จุดอ่อนกริดคือระยะหน่วงที่นานและการสิ้นเปลืองทรัพยากรมหาศาล
ทักษะทรงพลังย่อมแลกมาด้วยแหล่งพลังงานที่เท่าเทียม
หลังจากสาดทักษะใส่ผู้เล่นตลอดสิบนาทีที่ผ่านมา อีกไม่นานกริดต้องอ่อนแอลงแน่ และนั่นจะหมดช่วงเวลาแห่งการบิน
แผนของจิสึกะคือไม่ปล่อยให้กริดได้พักหายใจ
‘ทักษะโจมตีหมู่เหลือเพียงมายาร่ายรำเท่านั้น… ถ้าพวกเราสกัดการรำดาบได้’
จิสึกะเป็นพวกพ้องคนสำคัญและคอยเฝ้ามองกริดนับตั้งแต่ยังนิรนาม
เอฟเฟคและชื่อทักษะอาจเปลี่ยนไป แต่เธอไม่มีวันลืมตัวตนชายหนุ่มเบื้องหน้า
‘ร้อยคนในสิบนาที ความเสียหายสูงกว่าที่คำนวณไว้ แต่ก็ได้ข้อมูลสำคัญไม่น้อย’
แผนรบหลักคือการกระจายกำลังให้กว้างที่สุด
จิสึกะและคริสถ่ายทอดคำสั่งแก่แรงเกอร์ทุกคน เป็นกลยุทธ์สำหรับรับมือกริดที่มีทักษะทำลายหมู่รุนแรง
ทว่า ผู้เล่นบางส่วนกลับไม่ยอมเชื่อฟัง เอาแต่จับกลุ่มช่วยกันต่อสู้ จึงรับกรรมทักษะหมู่ของกริดเข้าไปอย่างจัง
โดยเฉพาะความตายอย่างเปล่าประโยชน์ของกลุ่มจอมเวท สองแม่ทัพใหญ่นึกเสียดายกับเรื่องดังกล่าวมาก
กระนั้น สงครามยังคงดำเนินไปในทิศทางที่น่าพึงพอใจ การต่อสู้ยังได้เปรียบมากถึง 300 ต่อหนึ่ง
ฝ่ายตนถือไพ่เหนือกว่าหลายเท่า
ป็อนส่งเสียงกระซิบขณะจิสึกะง้างมือ
“นั่นใช่กริดจริงหรือ? เขามีจักรกลเวทมนตร์ได้ยังไง”
“ร่างโคลนกริดคัดลอกไอเท็มของเขาได้ใช่ไหม… หลังจากฆ่ามัน กริดอาจได้รับพลังบางชนิดมาครอบครอง”
“ผสาน เปลี่ยนรูป… แล้วยังคัดลอก?”
ไม่โกงกันไปหน่อยหรือ… ป็อนยากจะทำใจเชื่อลง แต่จิสึกะแสนมั่นใจ
“ลืมไปแล้วรึไง? หัวหน้าพวกเราไม่ควรถูกตัดสินด้วยสามัญสำนึก”
ในอดีต จิสึกะเคยเผชิญเรื่องเหนือความคาดหมายจากครอเกลนับครั้งไม่ถ้วน
แต่ปัจจุบัน เธอกำลังสัมผัสสิ่งเหล่านั้นได้จากกริด
ไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู กริดคือบุคคลที่คาดเดาได้ยากเสมอ
แต่พอกลายเป็นศัตรูเข้า เมื่อคาดเดาไม่ได้ ความหวาดกลัวยิ่งฝังรากลึกลงในจิตใจ
พวกมันตระหนักได้ว่า ตนได้ข้ามสะพานที่ไม่ควรข้ามเข้าแล้ว
‘เลือดลมไม่ได้สูบฉีดแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ…’
จิสึกะคือนักล่า
เธอเป็นฝ่ายกิน มิใช่ถูกกิน
ริมฝีปากแดงระเรื่อถูกเล็มเลียเพื่อให้จิตใจสงบลง สายรั้งคันศรถูกปล่อยเป็นอิสระเพื่อเป็นการประกาศศึก
จิสึกะเล็งยิงในจังหวะที่ราชาอสูรกระโจนลงจากหุ่นรบสีดำพอดิบพอดี
ศรที่มาพร้อมผล ‘กระเด็น’ พุ่งทะลวงอกส่งให้ร่างกายกริดเสียหลักเซไปด้านหลัง
ขณะเดียวกัน เสียงระเบิดของจักรกลเวทมนตร์คือสัญญาณเริ่มสงครามยกถัดไป
“ทุกคน! ลุย!!”
ดาเมี่ยนคำรามพลางแจกจ่ายบัฟหมู่
[ท่านอมลูกกวาดในปาก]
[ท่านสวมรองเท้าแอร์เมส]
[ท่านเสริมแกร่งร่างกาย]
[ท่านกลืนกินเปลวเพลิงมังกรเยาว์]
[ท่านสวมใส่ดาบวัลบุน]
…
…
ท็อปแรงเกอร์ของโลกย่อมมีสิทธิ์เปิดใช้ร้านค้าลึกลับ
พวกมันกว้านซื้อไอเท็มตามกำลังทรัพย์เพื่อการแข่งราชาอสูรโดยเฉพาะ
แต่ด้วยความที่ค่าชื่อเสียงระดับทวีปไม่มากมายไม่เท่ากริด จะให้อมลูกกวาดพร่ำเพรื่อแบบกริดคงไม่ได้
ดาบใหญ่ในมือคริสฟันฝังร่างราชาอสูรที่เพิ่งพยุงตัวขึ้นหลังจากถูกศรกระแทก
ความเสียหายรุนแรงเอาเรื่อง ฝ่ายราชาอสูรพยายามตอบโต้สวนกลับ แต่เรกัสไม่ปล่อยให้ทำ กำปั้นอัสนีส่งให้กริดกระเด็นหงายหลังนอนแผ่บนพื้นอย่างหมดสภาพ
“อั่ก…!”
หอกในมือป็อนแทงปักซ้ำใส่หัวใจอย่างแม่นยำ ตามด้วยคอมโบจากดาเมี่ยน
ราชาอสูรได้รับความเสียหายปริมาณมากภายในเสี้ยววินาที
หมอกพิษคละคลุ้งจากชุดเกราะกริด แต่เหล่าท็อปแรงเกอร์ไม่แม้กะพริบตา พวกมันกัดฟันอดทนต่อความเสียหายเพียงเล็กน้อย
“สังหารหมู่!”
ยารุกต์ถูกฝักดาบชาร์จประจุพลังงานจนเข้าสู่โหมด ‘ขาดสติ’ พลังโจมตีพีคซอร์ดกำลังเพิ่มมากถึง 500%
ทักษะไม้ตายยอดนักดาบถูกสำแดงใส่ราชาอสูรในระยะประชิด
มันคือเทคนิคที่เคยโค่นอดีตวีรบุรุษครอเกลเมื่อสองปีก่อนในพริบตา
[ท่านได้รับความเสียหาย 230,900 หน่วย]
[เกราะไหล่บางส่วนถูกทำลาย ร่างกายของท่านเผยจุดอ่อน]
พลังจากอมลูกกวาดและได้รับบัฟจากดาเมี่ยน พีคซอร์ดมีพลังมากพอสำหรับทำลายเกราะไหล่ราชาอสูร
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นการโต้กลับจากมวลมนุษย์
ราชาอสูรยังคงถูกหอกป็อนเสียบคาหัวใจเช่นนั้น แรงเกอร์หลายร้อยคนต่างล้อมกรูเตรียมโจมตี
“นภาสีเลือด”
โลหิตราชาอสูรเริ่มจับตัวเป็นก้อนและลอยขึ้นด้านบน จากนั้นก็สาดเทลงมาประหนึ่งสายฝน
ทักษะการโจมตีเป็นวงกว้างซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญเมื่อครั้งสยบราชันสวรรค์โคโบลด์
ฝนเลือดจะทำให้ราชาอสูรอ่อนแอลง ส่วนแค็ทซ์ทรงพลังขึ้น พลังดังกล่าวแปรเปลี่ยนสนามรบให้พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังเท้า
ราชาอสูรที่กำลังจมตีนย่อมมิอาจลุกยืนโดยง่าย ขวัญกำลังใจฝ่ายผู้เล่นกำลังฮึกเหิมถึงขีดสุด
ขณะทุกคนร่วมมือร่วมใจ สวาปามจกบัลเผ็ดก็สร้างดันเจี้ยนเสร็จสมบูรณ์
มันก่อป้อมปราการขนาดเล็กกลางสมรภูมิเพื่อเพิ่มอัตราฟื้นฟูพลังชีวิตพวกพ้อง แถมยังเป็นกำบังจากกระสุนปืนใหญ่
“ฮุฮุ! กระแสสงครามเปลี่ยนทิศแล้ว”
ณ ห้องประชุมพิเศษแดจินกรุป
ประธานบริษัทในเครือทุกคนล้วนถูกลีจินเมียงเรียกประชุมด่วน สีหน้าพวกมันกำลังชื่นมื่นเมื่อได้เห็นราชาอสูรเพลี่ยงพล้ำ
ในช่วงสิบนาทีแรก ราชาอสูรอาจเป็นฝ่ายได้เปรียบและสังหารผู้เล่นไปกว่าร้อยศพ
แต่ปัจจุบัน มันกำลังนอนหมอบราบกับพื้นพลางถูกรุมกระทืบจมดงเท้า
“นักกีฬาชาวเกาหลีใต้แสดงฝีมือโดดเด่นทั้งสามคน บางทีอาจได้รับเหรียญทองติดมือสักเหรียญสองเหรียญ”
“แค่สองเหรียญทองคงไม่พอให้ขึ้นไปอยู่ท็อปสามได้ ฉันหวังว่าพวกเขาจะแสดงฝีมือให้มากกว่านี้”
ประธานบริษัทในเครือย่อมไม่ทราบถึงตัวตนราชาอสูร พวกมันจึงตื่นเต้นที่ผู้เล่นเริ่มชิงความได้เปรียบ
โดยเฉพาะบริษัทที่เกี่ยวข้องกับซาทิสฟายโดยตรง สีหน้าของมันยินดีปรีดา
แต่ขณะเดียวกัน ประธานใหญ่ลีจินเมียง ประธานแดนจินมอร์เตอร์ รวมถึงหัวหน้าทีมประชาสัมพันธ์อีกสามคน สีหน้าของพวกมันกำลังดำมืดสุดขีด
กลุ่มคนดังกล่าวทราบถึงตัวตนที่แท้จริงราชาอสูร พวกมันสวดภาวนาให้กริดชนะและเปิดเผยตัวจริงอย่างยิ่งใหญ่ไปทั่วโลก
แต่สถานการณ์ปัจจุบันกำลังเลวร้ายบัดซบ
‘ความพ่ายแพ้จะไม่ก่อประโยชน์อันใด’
มีใครสนใจฝ่ายผู้ปราชัยด้วยหรือ?
ไม่มีทางเด็ดขาด
หากพ่ายแพ้ ราชาอสูรคงถูกปรามาสและวิจารณ์รุนแรงแทนการได้รับเสียงชื่นชม
ชาวเกาหลีใต้บางส่วนจะตราหน้ากริดว่าเป็นคนขายชาติ
“ชิ!”
ผู้พ่ายแพ้ย่อมไม่มีพลังและอิทธิพลมากพอสำหรับเพิ่มยอดขายให้แดจินมอร์เตอร์
ราชาอสูร—มอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่กำลังสวมหน้ากากเทาปกปิดใบหน้า
ลีจินเมียงส่ายศีรษะขณะหน้ากากเริ่มแตกร้าวและมีเลือดไหลซึม
มันเสียดายที่ต้องพลาดปลาตัวใหญ่นามว่ากริด
กริดช่างทำตัวน่าผิดหวัง
‘เขารักษาสัญญาไม่ได้’
แน่นอน ลีจินเมียงไม่ชื่นชอบคนปากพล่อยที่ไม่รักษาคำพูด
กริดไม่ดีพอที่จะให้มันยอมปล่อยมือจากหลานสาว ลีจินเมียงนึกเสียดายที่ตนดันหลงผิดไปเชื่อคนง่าย
มันส่ายศีรษะพลางจุดบุหรี่สูบ
สายตายังคงมองไปยังหน้าจอ แต่สติและสมาธิหลุดเหม่อลอยไปไกล
ในหัวมีเพียงหนทางบีบบังคับให้ยูร่ากลับมาสืบทอดกิจการ
จนกระทั่ง…
『…!! 』
『นี่มันอะไรกันครับ…!! 』
“…?”
ลีจินเมียงถูกดึงสติกลับมาอีกครั้งหลังจากพิธีกรส่งเสียงโหวกเหวก
มันย่อมตามเหตุการณ์ไม่ทัน ความคิดเหม่อไปถึงเรื่องอื่นชั่วขณะจนมิอาจปะติดปะต่อข้อมูล
ขณะสีจินเมียงยื่นแขนออกไปเคาะก้นบุหรี่ เสียงเฮดังสั่นจากประธานแดจินมอร์เตอร์ได้ดังแว่วเข้ามาในหู
“เยส!!”
“…?”
เกิดอะไรขึ้น?
เหตุใดประธานแดจินมอร์เตอร์ถึงไม่สงวนกิริยาทั้งที่อยู่ต่อหน้าคณะกรรมการมากมายเช่นนี้?
ประธานลีจินเมียงขมวดคิ้วพลางพยายามจับต้นชนปลายเรื่องราว
ภาพบนหน้าจอ ราชาอสูรกริดที่กำลังถูกรุมกระทืบ ร่างกายของมันกลายเป็นจุดศูนย์กลางแรงระเบิดระดับหายนะ
พลังทำลายไม่ต่างจากอาวุธนิวเคลียร์
ผู้เล่นสองร้อยจากสามร้อยกลายเป็นแสงสีเทาโดยพลัน
เหยื่อเคราะห์ร้ายประกอบด้วยขุนพลโอเวอร์เกียร์มากมายที่ลีจินเมียงรู้จัก หรือแม้กระทั่งแรงค์หนึ่งของโลกอย่างคริส
พิธีกรกำลังโกลาหลและกล่าววาจาไม่ได้ศัพท์
ผู้เล่นที่เหลือรอดทำได้เพียงยืนมองอย่างเหม่อลอยพลางอ้าปากค้างด้วยร่างกายแข็งทื่อ
สมองลีจินเมียงขาวโพลนไปชั่วขณะ แต่เพียงไม่นาน มันลุกพรวดจากเก้าอี้พร้อมตะโกนสุดเสียง
“เยส!!”
“…?!”
คณะกรรมการรวมถึงเหล่าประธานบริษัทในเครือย่อมฉงน
ผู้ปกครองสูงสุดแห่งแดจินกรุป หรือที่รู้จักกันดีในนาม ‘เผด็จการ’ และ ‘บุรุษมาดสุขุม’ กำลังแหกปากดังลั่นโดยไม่แยแสสายตาผู้ใด
พวกตนตาฝาดงั้นหรือ?
ไม่มีใครกล้ากล่าวสิ่งใดออกมา
“กระเบน!”
ประธานใหญ่ถึงกับส่งเสียงดีใจจนหลงลืมภาพลักษณ์
มันกำลังมีความสุขไม่ต่างจากประธานแดจินมอร์เตอร์
ลีจินเมียงดีใจที่มันมิได้มองคนผิดไป
‘หลานชายคนเก่งของฉัน… หลังจากนี้ก็ขอรบกวนด้วยนะ’
ดวงตาของมันอัดแน่นด้วยความละโมบขณะจ้องมองกริดบนหน้าจอ
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,353
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
หยั่งค้างเล้ยยย 🥲
ReplyDeleteชุดเกราะระเบิด+แยกร่างนารุโตะ
ReplyDeleteโอ้โห กับลำเร็วมาก😂😂
ReplyDeleteทักษะอะไร แรงจัง😲
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ😊
กริด ต้องมอบ แล้วละ หุหุ หลานชาย
ReplyDelete