จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 967
ภาพบนหน้าจอทีวีของทุกคนบนโลก
บุรุษผู้เดียวที่เหลือรอดจากสงครามนองเลือดได้กวาดสายตามองไปรอบสนามรบอย่างเชื่องช้า
วังหลวงราชาอสูรอันเปลือยเปล่าปราศจากเพดาน วงหลังที่เคยประดับประดาด้วยหินอ่อนและพรมแดงหรูหราจำนวนมาก
ปัจจุบันกลายเป็นเพียงเศษซากปรักหักพังที่ไม่หลงเหลือเค้าเดิม
เสาหินหลายร้อยต้นถูกป่นเป็นเศษฝุ่น ไปป์ออร์แกนแสนอลังการในตอนเริ่มศึก ยามนี้มีสภาพไม่ต่างจากเศษฟืนสำหรับก่อไฟ
“…”
ราชาโอเวอร์เกียร์ กริด
เขาจ้องมองทุกซอกมุมของวังหลวงประหนึ่งย้อนนึกถึงห้วงอารมณ์และเรื่องราวที่อัดแน่นในทุกอณูวัตถุ
ศึกที่ผ่านมา
การต่อสู้ระหว่างเหล่าแรงเกอร์
ใบหน้ากริดกระตุกเล็กน้อย มิอาจทราบได้เลยว่าชายคนนี้กำลังหัวเราหรือร่ำไห้
เขาคงดีใจที่ได้รับชัยชนะ
แต่ก็คงเศร้าที่ต้องสังหารพวกพ้อง
นัยน์ตากริดกำลังลุ่มลึกไร้ก้นบึ้งประหนึ่งอัดแน่นมวลอารมณ์ไว้มหาศาล
ผู้ชมล้วนเห็นเป็นเช่นนั้น
ดวงตาของคนดูเริ่มพร่ามัวไม่ต่างกัน
กริดเพิ่งจะมีวัยเพียงสามสิบ
ในการปรากฏตัวสู่สาธารณะหนแรก เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มไร้เดียงสาที่ไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่รู้เก็บงำอารมณ์ขุ่นเคืองใจ
แต่ผ่านไปสี่ปี เขาได้รับประสบการณ์มากมาย กลายเป็นคนหนุ่มที่มีบรรยากาศน่าหลงใหลฟุ้งกระจายรอบตัว
ขณะหัวใจคนทั่วโลกกำลังหยุดนิ่ง
“…แดจินมอร์เตอร์”
กริดกล่าว
ห้วงอารมณ์ซาบซึ้งของผู้ชมพลันดับมอดในพริบตา
=== อะไรนะ? โฆษณาสปอนเซอร์?
=== โคเม็ทกรุปที่สองรึไง?
=== ให้ตายสิ…
แม้กริดจะเลิกรับงานนายแบบและพรีเซนเตอร์มานานแล้ว แต่เขาก็รั้งอันดับหนึ่งในตำแหน่ง ‘นายแบบที่ผลิตภัณฑ์ทั่วโลกต้องการตัว’ ตลอดสีปีที่ผ่านมา
***
ห้องประชุมผู้บริหารแดจินกรุปกำลังตกอยู่ในความโกลาหล
รายงานถูกส่งเข้ามาไม่หยุด
บริษัทแดจินมอร์เตอร์กลายเป็นคำค้นอันดับหนึ่งในทวีปเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ แอฟริกา และออสเตรเลีย ทั้งหกทวีปทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกับแดจินมอร์เตอร์และแดนจินกรุปอย่างล้นหลาม
แน่นอนว่าต้องมีเสียงตอบรับด้านลบและถ้อยคำด่าทอ แต่นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ การที่มีคนด่าหมายความว่าชื่อเสียงเริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกแล้ว
“เยสส!!”
ประธานแดจินมอร์เตอร์ลุกขึ้นแสดงความดีใจสุดเหวี่ยง ผู้บริหารบริษัทลูกต่างทำได้เพียงมองด้วยสายตากระอักกระอ่วน
ประธานแดจินมอร์เตอร์ที่กำลังตื่นเต้นได้หันไปตะโกนกับประธานใหญ่ลีจินเมียง
“ก็อดกริดสุดยอดมาก! สมกับเป็นหลานเขยท่านประธานใหญ่! ช่างเลือกเวลาโปรโมตได้เหมาะเจาะไร้ที่ติ! พรสวรรค์! แบบนี้พรสวรรค์ชัดๆ!!”
มันกำลังดีใจจนแทบคลั่ง
งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติมีคนดูทั่วโลกหลักพันล้านในทุกปี
ตลอดการแข่งอันยาวนาน ช่วงที่เรทติ้งสูงจะมีค่าโฆษณาแพงระยับหลักล้านดอลล่าส์ต่อหนึ่งวินาที แต่ก็แลกมาด้วยเสียงตอบรับที่คุ้มค่าไม่แพ้กัน
กระนั้น ลีจินเมียงกลับยังสงวนท่าทีสุขุมจนน่าตกใจ มันย่อมทราบดีว่า ยิ่งตกอยู่ในสถานการณ์สำคัญ การรักษาความเยือกเย็นก็ยิ่งจำเป็น
มันนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ตัวโปรดพลางหันไปกล่าวกับหัวหน้าทีมประชาสัมพันธ์
“อย่าเพิ่งปล่อยข่าวอะไรออกไป”
“เอ๋? รับทราบค่ะ!”
ปัจจุบัน ความสนใจจากทั่วโลกกำลังเพ่งมายังกริด และนี่คือโอกาสอันดีสำหรับแดจินกรุป
กริดที่หลายบริษัทต้องการตัวแต่ถูกปฏิเสธ แค่พวกมันปล่อยข่าวการทำสัญญากับกริดออกไปทั่วโลก เพียงเท่านี้ก็มากพอจะสร้างความโด่งดังเป็นพลุแตกให้แดจินกรุปในพริบตา
ลีจินเมียงเคยเห็นด้วยกับวิธีนี้
จนกระทั่งมันเปลี่ยนใจกะทันหัน
หัวหน้าทีมประชาสัมพันธ์แสดงท่าทีอึดอัดใจ เธอไม่กล้าถาม ทำเพียงวางโทรศัพท์ลงและหยุดการกระทำทั้งหมด
ประธานแดจินกรุปคือผู้ที่ออกปากถามแทนทุกคน
“บุคคลสติปัญญาต่ำต้อยเยี่ยงกระผมมิอาจเข้าถึงเจตนาของท่านประธานใหญ่ได้ รบกวนท่านประธานช่วยอธิบายได้หรือไม่”
“ฉันจะปล่อยให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่กริด คำพูดจากปากกริดมีค่ามากกว่าบทความหรือแหล่งข่าวนับพัน”
กริดมิใช่คนไม่ประสา ลีจินเมียงมองเห็นทะลุปรุโปร่ง
บุคคลที่ผงาดได้ในโลกซาทิสฟายอันโหดร้ายย่อมไม่ใช่พวกสมองทึบ หลายคนอาจมองว่ากริดเพียงโชคดีได้ครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่
นั่นไม่ใช่เลยสักนิด
กริดอาจเคยพูดว่าตัวเองเป็นไอ้งั่งก็จริง แต่นั่นเป็นเพียงการถ่อมตนอย่างนอบน้อม
ประธานลีจินเมียงมั่นใจ
‘กริดคืออัจฉริยะ’
หมอนั่นต้องอาศัยสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างชาญฉลาดแน่
ดีไม่ดี… อาจขอยูร่าแต่งงานโดยให้คนทั่วโลกเป็นสักขีพยาน
‘ดวงตานั่น…’
เป็นสีหน้าที่มิอาจพบได้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ มันคือสีหน้าที่ถูกบรรยายไว้เพียงในนิยาย
ตัวมันเป็นถึงประธานบริษัทใหญ่และมีโอกาสพบปะผู้คนมากหน้าหลายตา ลีจินเมียงในวัยเจ็ดสิบแทบไม่เคยเห็นบุคคลใดแสดงแววตาลุ่มลึกเช่นนี้ให้เห็น
นัยน์ตากริดที่กำลังฉายบนจอทีวีได้แผ่ความสุขุมถึงเพียงนั้น
กริดอายุเพียงสามสิบ
เส้นทางการผงาดของมังกรต้องไม่หยุดลงเท่านี้แน่ ลีจินเมียงมั่นใจ ปลายทางความทะเยอทะยานของกริดคงสูงลิบจนคนทั่วไปยากจินตนาการออก
“เขาอาจเล็งตำแหน่งจักรพรรดิไว้…”
ตึกตัก!
หัวใจที่ไม่แข็งแรงเท่าไรนักของมันกำลังเต้นระรัว
ลีจินเมียงปรารถนาจะเป็นปีกให้กริดโบยบิน ไม่เพียงเพราะกริดจะกลายมาเป็นหลายเขย (?) แต่ตัวมันก็ชื่นชอบกริดไม่น้อย
***
บรรยากาศรับเหรียญรางวัลการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรอึมครึมไม่ต่างจากงานศพ
สาเหตุเดาได้ไม่ยาก
มนุษย์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้
เหรียญรางวัลที่ผู้เล่นได้รับมีทั้งหมดห้าทอง ห้าเงิน และห้าทองแดง
ห้าเหรียญมาจากผลงานในช่วงสี่ราชันสวรรค์และรอบราชาอสูร
นี่คือรางวัลพื้นฐานขั้นต่ำสุดที่ฝ่ายผู้เล่นจะได้รับ
แต่หากมนุษย์เป็นฝ่ายชนะ เหรียญรางวัลจะถูกเพิ่มจากเดิมชนิดละสาม จะมีนักกีฬาอีกหลายคนที่ได้ยืนบนโพเดียม
ผลการแข่งทำให้หลายฝ่ายนึกเสียดาย
แต่ก็ไม่ใช่กับทุกคน
กลุ่มนักกีฬาที่ได้รับเหรียญทองจากรอบสี่ราชันสวรรค์และอีกหนึ่งเหรียญจากรอบราชาอสูรต่างแสดงสีหน้าชื่นมื่นยินดี
บุคคลที่ทำผลงานยอดเยี่ยมที่สุดคงหนีไม่พ้นจิสึกะ เธอคว้าได้สองเหรียญทอง
หนึ่งมาจากรอบสังหารโนลล์ และอีกหนึ่งมาจากรอบราชาอสูร เธอคือผู้เล่นที่สร้างความเสียหายใส่ราชาอสูรได้สูงสุด
ด้วยเหตุนี้ ประชาชนชาวบราซิลจึงอยู่ในบรรยากาศเฉลิมฉลองสุดขีด ลำพังจิสึกะเพียงคนเดียวได้แบกให้ทีมบราซิลขึ้นมาถึงลำดับเก้าของตารางรวม
ด้านคริสก็ไม่น้อยหน้า เขาคว้าหนึ่งทองในรอบปิอาโร่และหนึ่งเงินในรอบราชาอสูร
กัปตันคริสส่งให้ทีมแคนาดารั้งอันดับสองในตารางเจ้าเหรียญทอง
ส่วนทีมสหรัฐที่มีพลังสามประสานจากครอเกล ซีบาล และเฮสเตอร์ก็กอบโกยคว้าเหรียญจากการแข่งรอบสี่ราชันสวรรค์ไปมากมายไม่แพ้กัน
ทีมสหรัฐคว้าอันดับหนึ่งและบัลลังก์แชมเปี้ยนไปครองอีกสมัยได้สำเร็จ
ฝ่ายที่เสียใจย่อมมี
ทีมจีนไม่ประสบความสำเร็จมากนัก พวกมันสูญเสียเหมยเซียวโดยที่เธอแทบไม่มีบทบาท
แถมรอบเผชิญหน้าอัสโมเฟลก็ยังถูกซีบาลช่วงชิงเหรียญทองไป ส่งผลจีนหล่นไปอยู่อันดับสี่ของตารางคะแนนรวม
พวกมันกำลังเดือดดาล โดยเฉพาะประชาชนในชาติ สาเหตุหลักเพราะประเทศที่แซงขึ้นไปคือเกาหลีใต้ที่พวกมันเกลียดชัง
ทีมเกาหลีใต้นำโดยสามหัวหอก พีคซอร์ด โค้ก และจกบัล ช่วยกันคว้าไปได้หนึ่งเหรียญทองในรอบเมอร์เซเดส ส่งให้พวกเขาแซงจากอันดับหกกลายเป็นอันดับสาม
“แค่ที่สามก็คว้าไม่ได้งั้นหรือ พวกเราคงไม่ได้เจ๋งที่สุดในเอเชียอย่างที่คิด”
“บ้าจริง… โดนประเทศเล็กแซงหน้าไปอีกแล้ว"
“ช่วยไม่ได้ ทางเกาหลีใต้มี SA กรุปหนุนหลัง พวกมันไม่ได้ชนะเพราะฝีมือ แม้แต่ราชาอสูรยังเป็นผู้เล่นจากเกาหลีใต้ การแข่งไม่ยุติธรรมตั้งแต่แรกแล้ว อันดับสามที่แท้จริงคือจีนต่างหาก”
ความโกรธแค้นของชาวจีนกำลังสุมอก
เป็นเพราะเทพธิดาเหมยเซียวของพวกมันถูกราชาอสูรปลิดชีพตั้งแต่เริ่มศึกใหญ่
…
งานแถลงถูกจัดขึ้นด้วยบรรยากาศโกลาหลวุ่นวาย ทาง SA กรุปและทีมงานซาทิสฟายต้องเป็นผู้แถลงข่าวด้วยตัวเอง
บุคคลที่รับหน้าที่ดังกล่าวคือยุนซังมิน ผู้อำนวยการและผู้ควบคุมการแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่สี่
แม้ต้องเผชิญกับกองทัพนักข่าวตามลำพัง แต่มันก็หยิบไมโครโฟนขึ้นพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยประหนึ่งไร้แรงกดดัน
นักข่าวจาก CNM สำนักข่าวอันดับหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้สิทธิ์ตั้งคำถามเป็นชาติแรก
“ผู้คนจำนวนมากรู้สึกไม่พอใจที่ผู้เล่นกริด ซึ่งรับบทราชาอสูร มีสิทธิ์พิเศษแตกต่างจากผู้เล่นอื่น บางคนถึงกับปรามาสว่า ทาง SA กรุปเลือกปฏิบัติต่อนักกีฬาเกาหลีใต้เพราะเป็นคนจากชาติเดียวกัน… ฝ่าย SA กรุปจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไรบ้าง?”
“ผมไม่เข้าใจต้นตอของปัญหา กริดได้รับสิทธิ์พิเศษตรงไหน?”
“อะไรนะ?”
“พวกเรามีแผนจัดแข่งตะลุมบอนราชาอสูรในทุกปีถัดจากนี้ บทบาทของราชาอสูรจะถูกคัดเลือกจากผู้เล่นระดับท็อปของโลกที่สามารถรับมือคนหมู่มากได้คล้ายคลึงกริด และกฎระบุได้ไว้ชัดเจนว่า บุคคลที่เคยเป็นราชาอสูรแล้วจะไม่ได้เป็นซ้ำสอง ดังนั้นรางวัลที่กริดได้รับในปีนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อกริดเพียงคนเดียว”
“คุณกำลังจะบอกว่า ผู้รับบทราชาอสูรในปีหน้าจะได้รับรางวัลแบบเดียวกันกริดในปีนี้ใช่ไหม?”
“ถูกต้อง ถ้าได้ผลการแข่งขันแบบเดียวกับกริด ผู้เล่นคนดังกล่าวก็จะคว้ารับรางวัลเทียบเท่ากริดทุกประการ พวกเราหวังว่าการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรจะสร้างความสุขให้กับทุกฝ่าย ทั้งนักกีฬาที่เข้าร่วมล้วนรวมถึงตัวราชาอสูรเอง จุดประสงค์ของซาทิสฟายนานาชาติเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว”
“นักกีฬาที่รับบทราชาอสูรคนถัดไปจะได้รับพลังพิเศษเหมือนกริดรึเปล่า?”
“พลังพิเศษ?”
“พลังพิเศษที่ช่วยให้รับมือกับผู้เล่นสี่ร้อยต่อหนึ่งไหว อันที่จริง ผู้คนเคลือบแคลงในพลังพิเศษที่พวกคุณใส่ให้กริดมากกว่ารางวัลเสียอีก ผมต้องการทราบว่า ราชาอสูรในปีถัดไปจะได้รับพลังพิเศษแบบเดียวกันหรือไม่ ถ้าหากใช่ การแข่งตะลุมบอนราชาอสูรจะไม่กลายเป็นเวทีสำหรับราชาอสูรเพียงคนเดียวเอาหรือ?”
“ฮะฮะ! เข้าใจผิดแล้วครับ สิ่งเดียวที่พวกเรามอบให้ราชาอสูรคือสิ่งที่มอนสเตอร์ระดับบอสพึงมี… ค่าพลังชีวิตสูงสุด”
“…?”
นักข่าวจาก CNM พลันขมวดคิ้วเนื่องจากเป็นคำตอบที่มันไม่คาดคิด
ขณะกำลังมึนงงและพยายามตีความสิ่งที่ยุนซังมินกล่าว นักข่าวจากสำนักอื่นได้ถามแทรก
“หมายความว่า พวกคุณไม่ได้มอบพลังพิเศษใดให้กริดนอกจากพลังชีวิตใช่ไหม?”
“ถูกต้องครับ ราชาอสูรจะได้รับพลังชีวิตห้าแสนหน่วยต่อสิบนาทีที่สี่ราชันสวรรค์ปกป้องประตูไว้ได้ นี่คือปัจจัยพื้นฐานที่พวกเราต้องมอบแก่ราชาอสูรเพื่อให้คู่ควรกับศึก ‘ล้มบอสใหญ่’ ”
“ห้าแสนต่อสิบนาที ในการแข่งที่ผ่านมา ประตูสี่ทิศใช้เวลาในการยึดครองทั้งสิ้น 1 ชั่วโมงกับอีก 38 นาที หมายความว่ากริดจะได้รับพลังชีวิตไปทั้งสิ้น 4.5 ล้านหน่วยใช่ไหมครับ?”
“อ้อ… ลืมบอกไป กริดจะได้รับพลังชีวิตเพียงสองแสนหน่วยต่อสิบนาที”
“แต่เมื่อครู่คุณพูดว่าห้าแสน”
“นั่นเป็นกฎพื้นฐานสำหรับราชาอสูรคนถัดไป หลังจากนี้ทุกคนจะได้รับห้าแสนหน่วยต่อสิบนาทีครับ”
“แล้วทำไมกริดถึงได้รับแค่สองแสน… ไม่เหมือนกับกฎพื้นฐาน”
“สี่ราชันสวรรค์ของกริดแข็งแกร่งเกินไป… พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลิดรอนพลังชีวิตบางส่วนของกริดลง”
“…?”
กริดแข็งแกร่งเกินไปจนต้องปรับให้อ่อนแอลง?
หลังจากปีนี้เป็นต้นไป ศึกตะลุมบอนราชาอสูรได้ถูกบรรจุให้เป็นรายการใหญ่ของงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติทุกปี
แต่มีเพียงกริดคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับสิทธิพิเศษไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนราชาอสูรในอนาคต
ทุกคนเคยคิดว่ากริดได้รับพลังพิเศษ แต่ความจริงแล้วตรงกันข้าม
กริดถูกปรับให้อ่อนลงกว่าปรกติด้วยซ้ำ
ซ้ำร้าย คำชี้แจงถัดไปของยุนซังมินได้ส่งผลให้บรรยากาศห้องแถลงข่าวอึมครึมยิ่งกว่าเก่า
เขาจะได้รับพลังชีวิตสองแสนหน่วยทุกสิบนาที แทนที่จะเป็นห้าแสนตามกฎเดิม
แม้เจ้าตัวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่กริดก็ไม่ได้โวยวายหรือตัดพ้อหลังจากอ่านสัญญาจบ
เพื่อทดแทนในส่วนที่ถูกลิดรอน เขาเพียงก้มหน้าทำงานตีเหล็กของตัวเองและเสริมแกร่งสี่ราชันสวรรค์ให้แข็งแกร่ง
นี่คือทัศนคติของบุคคลผู้เป็นท้องฟ้า
ท้องฟ้าต้องอดทน เสียสละ และได้รับบททดสอบมากกว่าผู้อื่นเสมอ
นี่คือจิตวิญญาณอันแน่วแน่ของชายผู้กลายเป็นท้องฟ้าคนปัจจุบัน
“…”
เมื่อยุนซังมินกล่าวจบ ห้องแถลงข่าวพลันเงียบเชียบประหนึ่งป่าช้า แม้แต่ผู้ชมทางบ้านก็ยังไม่กล่าวสิ่งใดออกมา
พวกเขาทึ่งในความมุมานะของกริด ทึ่งในความไม่ย่อท้อแม้จะถูกลิดรอนพลังที่สมควรได้รับ
แต่เพียงไม่นาน บรรยากาศเงียบงันได้ถูกทำลายโดยนักข่าวจากญี่ปุ่น มันเอ่ยปากหลังจากยุนซังมินอนุญาต
“คุณกล่าวว่า ตัวตนของสี่ราชันสวรรค์คือบริวารของกริด… นั่นหมายถึง NPC ในซาทิสฟายที่กริดครอบครองงั้นหรือ?”
“ถูกต้องครับ”
“ทาง SA กรุปจะไม่จัดหา NPC ให้ราชาอสูรใช่ไหม?”
“ใช่ครับ ใบสมัครราชาอสูรได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้รับบทราชาอสูรต้องจัดหา NPC สัตว์เลี้ยง หรือสัตว์อัญเชิญมาเป็นสี่ราชันสวรรค์ด้วยตัวเอง สี่ราชันสวรรค์คือหนึ่งในปัจจัยหลักของความแข็งแกร่งราชาอสูร”
“สี่ราชันสวรรค์จะได้รับพลังพิเศษด้านใดบ้างครับ?”
“เหมือนกับราชาอสูร พวกเขาจะถูกเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดอย่างเหมาะสม ผมคงระบุชัดเจนกว่านี้ไม่ได้”
“แล้วแต้มสถานะด้านอื่นล่ะครับ?”
“ไม่เพิ่มครับ… ผมลืมบอกไป สี่ราชันสวรรค์ในปีนี้ไม่มีการปรับแต่งด้านพลังชีวิตแต่อย่างใดครับ”
“อ…เอ๋?”
สี่ราชันสวรรค์ของกริด
สัตว์ประหลาดที่คร่าชีวิตแรงเกอร์หนึ่งร้อยคนตามลำพัง นั่นเป็นพลังดั้งเดิมของพวกมันอย่างนั้นหรือ?
หมายความว่า ลำพัง NPC ของกริดเพียงสี่ตนสามารถกำราบแรงเกอร์หัวแถวของโลกสี่ร้อยคนได้ตามลำพัง…
โดยไม่ต้องพึ่งพาพลังกริดด้วยซ้ำ
‘กริดมีอำนาจในมือขนาดไหนกันแน่…’
‘หรือเขาแข็งแกร่งพอจะทำสงครามกับจักรวรรดิได้แล้ว?’
งานแถลงของยุนซังมินที่มีขึ้นเพื่อคลายข้อสงสัยของทุกฝ่าย มันกลับเพิ่มความสับสนและโกลาหลเป็นทวีคูณ ความสนใจทั้งหมดถูกเพ่งไปยังตัวกริดทันที
ฉึบ
งานแถลงของยุนซังมินยังไม่จบลง แต่นักข่าวส่วนใหญ่ต่างเหลือบมองนาฬิกาเป็นระยะ พวกมันกำลังรอให้กริดเดินเข้าห้องแถลงต่อจากยุนซังมิน
แต่กาลเวลาไหลผ่านไปอย่างเชื่องช้า
ขณะพวกมันกำลังกระสับกระส่าย…
“กริด”
ยุนซังมินลุกจากเก้าอี้ บุรุษหนุ่มมาดสง่างามตามแบบคนเอเชียเดินเข้ามาในห้อง
ต้องมีถ้อยคำสำคัญหลุดจากปากกริดแน่ บรรดานักข่าวต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,360
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ค้างอะแอด🤗😊
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ👍
น่าจะขายตรงต่ออีกแน่นอน 😅😅เพียงแค่คิด
ReplyDeleteกริดเดินเข้ามาพูดว่า "แดจินมอเตอร์" แล้วก็หันหลังเดินจากไป
ReplyDeleteอวยกริดเกิ้นนน
ReplyDeleteไม่เกิน กริดยังใช้ท็อปทามแบบครอเกลไม่ได้เลย ยังใช้ร่างแยกแบบแบร็คไม่ได้ ยังใช้ทักษะพื้นฐานดีไม่เท่าคริส และยังใช้เวทย์มนตร์เก่งไม่เท่าท็อปจอมเวท.. ครอเกลคือแทบไม่ใช่คนละ
Delete