จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 882



    ‘ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?’


    โตะกลมตัวใหญ่  สีดำสนิท  มีเก้าอี้สิบตัววางรอบ


    เมื่อเดินทางกลับถึงไรนฮาร์ท  โค้กถูกลอเอลเรียกตัวเข้าพบทันที  เขามิอาจเก็บซ่อนความตื่นเต้นไว้ได้


    มันสมองปีศาจ  ลอเอล

    เทพธิดาฟินิกซ์แดง  จิสึกะ

    ดาบแสงอัสนี  พีคซอร์ด

    เจ้าชายเลือดเย็น  ป็อน

    กำปั้นเหล็กคุณธรรม  เรกัส

    และหัวล้าน  แวนเนอร์


    ทุกคนที่นั่งบนเก้าอี้ล้วนเป็นสิบวีรชนผู้ก่อตั้งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


    หากมีใครขาดหายไป  ต้นกำเนิดอาณาจักรคงไม่ง่ายดายขนาดนี้


    ถัดจากกริด  นี่กลุ่มผู้เล่นที่โค้กเทินทูนบูชาและใฝ่ฝันอยากเป็น


    เช่นนั้น  เก้าอี้ที่ว่างอีกสี่ตัวมีใครบ้าง?


    ‘หรือจะเป็นเฟคเกอร์  ฮิวรอย  แค็ทซ์  และคริส?  ไม่สิ  เฟคเกอร์อาจปฏิเสธตำแหน่งเพราะเขาไม่ชอบบรรดาศักดิ์  เป็นยูเฟอมิน่างั้นหรือ?’


    อึก!


    โค้กกลืนน้ำลาย  ดวงตาของเขากำลังเปล่งประกายอย่างตื่นเต้น


    ราวกับฝันที่เป็นจริง  กับการได้พานพบสุดยอดแรงเกอร์แถวหน้าของโลกที่คอยรับใช้ข้างกายกริด


    ความประหม่าคือสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้


    เพล้ง!


    "ข…ขอโทษครับ!"


    โค้กตื่นเต้นจนทำแก้วน้ำในมือหล่นแตก  เขาลนลาน  ทำตัวไม่ถูก


    ขณะโค้กกำลังก้มเก็บเศษแก้ว  กำปั้นเหล็กคุณธรรมเรกัสจ้องมองพลางอมยิ้ม


    “ไม่เป็นไร  ช่างเศษแก้วเถอะ  นั่งลงก่อนสิ”


    หัวล้านแวนเนอร์ส่ายศีรษะ


    “เฮ่อะ!  ไอ้เด็กอ่อนหัดนี่ปกป้องราชินีไอรีนกับองค์ชายลอร์ดจริงหรือ?  ข้อมูลผิดรึเปล่า?”


    “…”


    เจ้าชายเลือดเย็นป็อนยังคงนิ่งเงียบ


    “วีรกรรมห้าวหาญสมกับเป็นชาวเกาหลีใต้!!”


    ดาบแสงอัสนีพีคซอร์ดมองโค้กด้วยแววตาเอ็นดูและเป็นมิตร


    ราวกับเขาได้พบน้องชายที่พลัดพรากอีกครั้ง


    “วะฮ่าฮ่า!  โค้ก!  ฉันเฝ้ามองนายมาตั้งแต่ต้นแล้ว!  DNA ของพวกเราชาวเกาหลีใต้ยอดเยี่ยมที่สุด!  วะฮ่าฮ่า!  เยี่ยม!  ฉันชอบมาก!  เอาล่ะ  มาเข้าร่วมองค์กรเกาหลีใต้จงเจริญเถอะ!  เซ็นตรงนี้!  ค่าสมัครสมาชิกเพียงแค่แปดแสนวอนต่อปีเท่านั้น!  ฉันลดให้เป็นพิเศษเลยนะ!”


    ไม่ใช่เลยสักนิด  เหมือนกับหมอนี่กำลังมองหาเหยื่อมากกว่า


    “…”


    โค้กทั้งกระอักกระอ่วนและผิดหวังในท่าทีที่พีคซอร์ดแสดงออก


    “ทุกคน…”


    ‘อา…!’


    เสียงของจิสึกะดังขึ้น  หญิงงามอันดับหนึ่งของทวีปอเมริกาใต้เริ่มเคลื่อนไหว


    จิสึกะมีเสียงที่ใสกังวาล  สั่นคลอนไปถึงจิตใจของทุกผู้คนที่ได้ยิน


    เธอกำลังจะกล่าวสิ่งใดกันนะ?


    ตึกตัก!


    โค้กตั้งตารออย่างคาดหวัง   


    "เงียบสักทีเจ้าพวกงี่เง่า!"


    สิ่งที่ถูกพ่นจากปากจิสึกะไม่เหมือนกับที่โค้กจิตนาการไว้เลยสักนิด


    “หรือต้องให้ฉันลงไม้ลงมือ?”


    “อ…เอ่อ”


    แวนเนอร์และพีคซอร์ดพลันสงบปากสงบคำราวกับลูกแมวเชื่อง


    หัวล้านแวนเนอร์ถูกเรียกขานว่า ‘โล่ใหญ่ผู้ปกป้องอาณาจักร’  ส่วนดาบแสงอัสนีพีคซอร์ดคือบุคคลที่คว้าเหรียญทองในงานแข่งโค่นวีรบุรุษปีล่าสุด


    ใช่แล้ว  แม้จะเป็นแรงเกอร์แถวหน้าที่โด่งดังของโลก  แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าจิสึกะ  พวกเขาต้องสงบเสงี่ยม


    ‘สมกับเทพธิดาฟินิกซ์แดง!’


    โค้กที่เคยตะลึงในความงามจิสึกะ  ยามนี้เริ่มฉุกคิดได้


    จิสึกะคือสัตวประหลาดที่เคยปกป้องป้อมแพเทรี่ยนตามลำพัง  ไม่สนว่าอีกฝ่ายจะยกทัพรุกรานเข้ามากี่หมื่นนาย


    ใช่แล้ว  หญิงสาวตรงหน้าสามารถยืนบนจุดสูงสุดได้ด้วยฝีมือและความแข็งแกร่ง  หน้าตาไม่เกี่ยวข้องเลยสักนิด


    ท่ามกลางอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ที่มีอัจฉริยะมากมาย  จิสึกะโดดเด่นกว่าใคร


    โค้กเริ่มยืนตัวเกร็งตามสัญชาตญาณ


    เมื่อบรรยากาศวุ่นวายสงบลง  จิสึกะหันไปกล่าวกับลอเอล


    “เข้าเรื่องสักที”


    ลอเอล—มันสมองปีศาจผู้วางกลยุทธแสนแยบยลเพื่อสยบศัตรูโดยไม่เกี่ยงวิธี  ไม่มีใครในโลกปฏิเสธได้ว่า  ชายคนนี้อยู่เบื้องหลังการครองบัลลังก์กษัตริย์คนแรกของกริด  


    จากนั้น  ลอเอลบริหารอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในเงามืดมาตลอด


    ขณะรู้สึกกดดัน  โค้กกลืนน้ำลายลงคออีกหลายหนโดยไม่รู้ตัว


    ลอเอลเลื่อนมือขึ้นไปปิดใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง  การกระทำนี้มอบบรรยากาศกระอักกระอ่วนให้โค้ก


    ชายคนนี้คือจูนิเบียวตัวจริงเสียงจริง


    ใครก็ตามที่ได้สนทนากับลอเอลเป็นต้องมือไม้หงิกงอ


    ‘อึก…’


    ราวกับห้วงเวลาถูกแช่แข็งชั่วนิรันดร์  เพียงโค้กประสานสายตากับลอเอลไม่กี่วินาที  เขารู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง


    นัยน์ตาสีฟ้าของลอเอลจ้องมองโค้กทุกซอกมุม  ประหนึ่งถูกเปลื้องผ้าจนเปลือยเปล่า


    ทุกสิ่งทุกอย่างในตัวโค้กถูกลอเอลพิจารณาจนปรุโปร่ง


    อึก!


    โค้กกลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า  ความตึงเครียดกำลังทวีคูณ


    เขาได้แต่หวังว่าลอเอลจะรีบอธิบาย  ถึงสาเหตุที่ตนถูกเรียกเข้าพบในวันนี้


    ลอเอลอ่านความคิดออกงั้นหรือ?


    “นายน่ะ…”

    

    ในที่สุด  มันสมองปีศาจก็เปิดปากพูด


    “ครับ…!”


    เสียงโค้กแหบพร่า  เนื่องจากลำคอแห้งผาก  แทบไม่เหลือน้ำลายอีกแล้ว


    ลอเอลขยับขาไขว่ห้างพลางเชิดคางขึ้น    


    บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม  เป็นรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยเลศนัย


    ‘จะพูดเรื่องอะไรกันนะ?’


    โค้กหลงลืมความตื่นเต้นในตอนต้นไปจนหมด  สติของเขาไม่ได้อยู่กับสิบวีรชนผู้ก่อตั้งที่นั่งล้อมวงอีกต่อไป  หากแต่ขบคิดถึงเรื่องที่ลอเอลจะกล่าว

    

    ลอเอลเปิดปาก


    “นายชื่อโค้กสินะ?”


    “ครับผม!”


    “เป็นยังไงบ้าง?”


    “หือ?”


    โค้กไม่มีทางเข้าใจคำถามที่กำกวมเช่นนี้ได้


    ลอเอลลืมตาขึ้นพลางส่งเสียงหัวเราะ


    “สิบวีรชนผู้ก่อตั้งยังไงล่ะ!  ยอดเยี่ยมรึเปล่า?  คุคุคุ!”


    “สิบ…วีรชนผู้ก่อตั้ง?”


    “คุคุ…คุคุคุคุ!  ถูกต้อง!  ในอดีตเคยมีเรื่องราวของเจ็ดนักบุญภัยพิบัติที่รับใช้เทพ  แต่ฝ่ายเรามีสิบวีรชนผู้ก่อตั้งที่รับใช้ราชาโอเวอร์เกียร์”


    "…" 


    กริดเล่าเรื่องราวให้ลอเอลฟังผ่านข้อความเสียง  ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวาติกันทั้งหมดถูกถ่ายทอดโดยไม่ปิดบัง  และลอเอลก็ชื่นชอบชื่อ ‘เจ็ดนักบุญภัยพิบัติ’ มาก


    ทั้งฟังดูเท่และน่าเกรงขาม


    นั่นคือสาเหตุที่ลอเอลตัดสินใจสร้างหน่วย ‘สิบวีรชนผู้ก่อตั้ง’ ขึ้น  ขุนพลทั้งสิบที่ร่วมก่อตั้งอาณาจักรและรับใช้ราชาโอเวอร์เกียร์ด้วยความจงรักภักดี


    “เท่ไปเลยใช่ไหม?  คนทั่งโลกจะกล่าวถึงและยกย่องสิบวีรชนผู้ก่อตั้ง  ชื่อเสียงของพวกเราจะเพิ่มขึ้น  รวมถึงชื่อเสียงของราชาโอเวอร์เกียร์ด้วย  คุคุคุ!”


    “อา…สิบวีรชนผู้ก่อตั้งสินะ”


    ลอเอลกำลังพล่ามอะไรอยู่?


    เขาเรียกตนเข้าพบทำไม?


    โค้กที่กำลังยืนมึนงง  เขาทำเพียงพยักหน้าหงึกหงักเล็กน้อย


    ขณะเดียวกัน  พีคซอร์ดส่งเสียงกระซิบ


    “ระวังการออกเสียงไว้ด้วย  อ่านว่าวีรชน  ไม่ใช่วีรชุน”


    “…”


    โค้กมองว่า  สิบวีรชนผู้ก่อตั้งมิได้น่าเกรงขามดังชื่อเลยสักนิด  โดยเฉพาะพีคซอร์ด


    เขาจ้องมองพีคซอร์ดด้วยสายตาสมเพช  ขณะเดียวกัน  ลอเอลกล่าวเข้าประเด็น


    “เซอร์โค้ก  ฉันได้ยินวีรกรรมกล้าหาญของนายแล้ว  นายลั่นวาจาว่าจะบดขยี้อัศวินสีชาดทุกคนสินะ?”


    “หือ?  ม…ไม่ใช่  นั่นเป็นคำพูดของกษัตริย์กริด…”


    “พวกเราประชุมกันแล้วว่า  ทุกคนจะช่วยฝึกฝนนายนับแต่นี้เป็นต้นไป”


    “…?”


    “หลังจากวันนี้  นายต้องรับการฝึกหนักจากสิบวีรชนผู้ก่อตั้งของราชาโอเวอร์เกียร์  ฉันจะสอนด้านกลยุทธ์  จิสึกะสอนยิงธนู  พีคซอร์ดสอนวิชาดาบ  ป็อนสอนวิชาหอก  เรกัสสอนศิลปการต่อสู้  ส่วนแวนเนอร์จะสอนวิธีใช้โล่”


    ข้อดีของคลาสอัศวินคือ  สามารถชำนาญอาวุธได้หลากหลาย  มีทักษะติดตัวทั้งความชำนาญดาบ  หอก  และธนู


    เป็นคลาสอเนกประสงค์อย่างแท้จริง  แต่ติดปัญหาหนึ่งข้อใหญ่คือ… 


    อัศวินเป็นคลาสที่เพิ่มค่าประสบการณ์ทักษะได้ยากมาก


    ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น


    นักดาบสามารถเพิ่มเลเวลทักษะความชำนาญดาบได้ง่าย  เพราะทั้งชีวิตใช้เพียงดาบโดยไม่ต้องปันใจให้อาวุธประเภทอื่น


    แต่สำหรับอัศวิน  พวกเขาต้องฝึกฝนทุกทักษะอย่างเท่าเที่ยม  ชำนาญดาบ  ชำนาญหอก  ชำนาญธนู  


    เมื่อเทียบกับคลาสที่ใช้งานอาวุธได้ประเภทเดียว  ไม่มีทางที่อัศวินจะไล่ตามความชำนาญทัน


    ผู้เล่นคลาสอัศวินส่วนใหญ่จึงเน้นหนักไปที่อาวุธเพียงหนึ่งชนิด


    หากไม่ใช่ดาบก็ต้องเป็นหอก  หรือไม่ก็ต้องอาวุธประเภททุบ


    การเพิ่มทักษะความชำนาญที่ง่ายที่สุดคือการใช้อาวุธประเภทเดิมอย่างต่อเนื่องโดยไม่เปลี่ยน


    เป็นคลาสที่ต้องตัดสินใจให้แน่วแน่  และเพ่งสมาธิไปกับด้านใดด้านหนึ่งโดยไม่ไขว้เขว


    นี่คือนิยามของอัศวินสำหรับผู้เล่นทั่วไป


    แต่กับ NPC อัศวินแล้วไม่ใช่  ยิ่งเวลาผ่านไป  NPC พิเศษที่เป็นอัศวินจะถูกยกระดับและฝึกฝนทักษะได้เร็วกว่าผู้เล่นมาก  แถมยังเป็นทักษะในทุกด้าน


    “ขอบคุณสำหรับความห่วงใย  แต่ผมขอปฏิเสธ”


    โค้กเป็นเพียงผู้เล่น


    ในช่วงเวลาแสนสั้น  เขาสามารถพัฒนาเขี้ยวเล็บได้เพียงชนิดเดียว


    เสียงของโค้กหยุดสั่นเครือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดินเข้ามาในห้อง


    ดวงตาแน่วแน่มั่นคงจ้องมองไปยังลอเอลและสิบวีรชนผู้ก่อตั้ง


    “มีอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมไปก็ไม่เกิดประโยชน์  ระบบของซาทิสฟายมีข้อจำกัดด้านเวลา  หากผมรับการฝึกสอนจากทุกคน  เลเวลของทักษะจะเพิ่มได้เชื่องช้า  และผมจะกลายเป็นคนจับฉ่ายที่ถนัดทุกด้านแต่ไม่เก่งสักทาง  หากต้องเป็นแบบนั้น  ผมขอมุ่งมั่นกับวิชาดาบต่อไปเช่นเดิม  เพียงแต่…”


    “เพียงแต่?”


    “ผมอยากเรียนกลยุทธ์กับลอเอล  อัศวินควรมีทักษะด้านกลยุทธ์ติดตัวไว้ในยามคับขัน…”


    “ฮุฮุฮุ!  ห้าวหาญมาก!”


    กล้าปฏิเสธข้อเสนอจากสิบวีรชนผู้ก่อตั้งอาณาจักรที่ตัวเองอาศัยเชียวหรือ?  


    คำอธิบายของโค้กเต็มไปด้วยเหตุและผลที่ฟังขึ้น


    หากเป็นอาณาจักรอื่น  วีรชนผู้ก่อตั้งคงเริ่มเดือดดาลเมื่อถูกปฏิเสธ


    แต่ไม่ใช่กับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์  พวกเขามิใช่คนจิตใจคับแคบ


    ตรงกันข้าม  สติปัญญาและความรู้จักประมาณตนของโค้กได้ทำให้ทุกคนต้องมองชายคนนี้ใหม่


    “นิสัยเหมือนพวกเราเลยนะ”


    “สายตากริดยังเฉียบแหลมเหมือนเคย”


    “…?”


    โค้กเคยกังวลว่า  คำตอบของตนอาจทำให้ทุกคนไม่พอใจ  แต่สถานการณ์กลับตรงข้าม


    ลอเอลอธิบาย


    “ออปชั่นของไอเท็มมีได้หลายชนิด  ทั้งไอเท็มที่ช่วยให้ผู้สวมใส่แข็งแกร่งขึ้น  รวมถึงไอเท็มที่ช่วยให้ผู้สวมใส่พัฒนาตัวเองได้รวดเร็ว”


    หนึ่งในไอเท็มสำหรับพัฒนาผู้สวมใส่คือ  ไอเท็มที่มีออปชั่นช่วยเพิ่มความเร็วฝึกฝนทักษะ


    พบเห็นได้ทั่วไปในไอเท็มที่ดรอปจากบอสดันเจี้ยนระดับต่ำ  ไอเท็มชนิดนี้มักมีคุณสมบัติพื้นฐานแย่กว่าปรกติเล็กน้อย


    “พวกเราเตรียมปัจจัยที่ช่วยให้นายเติบโตไว้พร้อมแล้ว”


    “น่าเบื่อชะมัดที่ต้องกลับไปล่าบอสดันเจี้ยนกระจอก”


    “คุณสมบัติอาจไม่ยอดเยี่ยม  แต่มันจะช่วยนายได้มากแน่”


    “ไม่มีเวลาแล้ว  รีบไปฝึกกันเถอะ”


    “อะ…”


    คนเหล่านี้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแล้ว


    ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น  


    พวกเขาเป็นถึงแรงเกอร์แถวหน้าของโลก  แถมยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์  ย่อมทราบเทคนิคในเกมมากกว่าโค้ก


    เขากำลังตื่นเต้นที่ตนจะถูกปลุกปั้นโดยบุคคลที่ตนเคารพเทินทูนมาตลอด


    แต่มีบางสิ่งที่ยังค้างคาใจ  โค้กต้องการทำให้กระจ่าง


    “ขอถามได้ไหม?  ทำไมทุกคนต้องทำเพื่อผมขนาดนี้?”


    โค้กย่อมทราบ  สิบวีรชนผู้ก่อตั้งล้วนเป็นผู้เล่นที่มีเวลาว่างน้อยนิด


    พวกเขาต้องบริหารบ้านเมือง  หมั่นเก็บเลเวลพัฒนาตัวเองเพื่อรักษาอันดับ  ไม่น่าจะมีเวลาเหลือพอสำหรับฝึกฝนตนได้


    แล้วเพราะเหตุใด?  

    ทำไมตนถึงได้รับสิทธิ์นี้?  


    โค้กไม่เข้าใจเลยสักนิด


    ลอเอลตอบในส่วนของทุกคน


    “พวกเรามีหน้าที่คอยเปลี่ยนคำพูดของกริดให้เป็นจริง  หากเป็นนายจะไม่หงุดหงิดเอาหรือ?  ถ้าคนที่ฝ่าบาทคาดหวังกลับกลายเป็นเพียงไอ้งั่งไร้ประโยชน์”


    เป็นคำตอบที่เรียง่ายและตรงไปตรงมา


    เมื่อกระจ่างแจ้ง  โค้กรีบตะโกนอย่างกระตือรือร้น


    “ผมจะทำให้ดีที่สุด!  ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ!  สิบวีรชนผู้ก่อตั้งทุกคน!”


    “…เปลี่ยนชื่อเถอะ”


    พีคซอร์ดพยายามเรียกร้อง  แต่ถ้อยคำดังกล่าวผ่านหูซ้ายทะลุหูขวาลอเอล


    ณ วันนี้  โครงการสร้างอาวุธลับสุดยอดโดยความร่วมมือของสิบวีรชนผู้ก่อตั้งได้เริ่มขึ้น


    *** 


    เคร้ง!  เคร้ง!


[ ค่าความเข้าใจของ ‘ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังกลายเป็นหิน’ กลายเป็น 60% ] 


    ผ่านมาแล้วสามวันนับตั้งแต่กริดเริ่มงาน  เขาแยกส่วนและประกอบดาบกลับไปใหม่รวมกันหลายร้อยครั้งแล้ว


[ บาปของผู้สร้างดาบศักดิ์สิทธิ์ได้กระตุ้น ‘ศิลาแห่งบาปต้นกำเนิด’! ]


    “บาปของผู้สร้างดาบศักดิ์สิทธิ์?”


    ในเมื่อผู้สร้างดาบคือเทพ—เทพตีเหล็ก  เฮ็กเซเทีย 


    ‘บาปของเทพงั้นหรือ?’


    กริดประหลาดใจกับเรื่องราวที่ไม่คาดฝัน


    ทันใดนั้น  ความเร็วกลายเป็นหินของดาบได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าในพริบตา


    หินเริ่มก่อตัวเร็วขึ้น  และกินวงกว้างกว่าเดิมมาก  พลังศักดิ์สิทธิ์เจือจางลงจนแทบไม่หลงเหลือ


    “อะไรกัน…?!”


    ขณะกำลังลนลาน  กริดรีบใช้ค้อนในมือทุบใส่ส่วนที่เป็นหินของดาบ


    เขาหวังยับยั้งการกลายเป็นหินให้ช้าลง


    แต่น่าเสียดาย  วิธีที่เคยใช้ได้ผลมาตลอดสามวันที่ผ่านมา  ยามนี้ไม่เกิดประโยชน์อันใดอีกแล้ว


    การการเป็นหินไม่ถูกแรงกระแทกจากภายนอกยับยั้ง


    ไม่ว่ากริดจะทุบรุนแรงสักเท่าใด  แต่การกลายเป็นหินก็ไม่ช้าลงสักนิด


    “ชิ…!”


    ความพยายามตลอดสามวันกำลังจะล้มเหลวงั้นหรือ?    


    กริดเย็นสันหลังวาบ  เขาตัดสินใจใช้วิธีสุดท้าย


    ชายหนุ่มโยนดาบศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในเตาหลอม  หมายจะลบหินที่กัดกินดาบด้วยกระบวนการหลอม  แยกส่วน  และประกอบกลับไปใหม่


    ทว่า  ดาบที่ถูกโยนเข้าเตาหลอมกลับไม่เปลี่ยนรูปทรง


    ตรงกันข้าม  เกิดระเบิดรุนแรงปะทุขึ้นโดยมีดาบศักดิ์สิทธิ์เป็นศูนย์กลาง  เตาหลอมถูกทำลายในพริบตา


    “อะไรกัน?”


    กริดที่กระเด็นถอยหลังจากแรงระเบิด  เขากำลังยืนมึนงงสับสน


    ดาบที่กลายเป็นหินไปแล้วครึ่งหนึ่ง  ยามนี้กำลังลอยเคว้งกลางอากาศ


    >> เจ้าคิดลบล้างบาปของเทพงั้นหรือ? 


    เสียงที่ไม่คุ้นเคยดังแว่วขึ้น


    กริดสัมผัสได้  ภารกิจของตนได้ดำเนินมาถึงส่วนสำคัญแล้ว


    >>  เจ้าที่สืบทอดพลังของมารลำดับสี่  จงเบิกตาดูบาปของเทพให้ดี!


    เสียงปริศนาอัดแน่นด้วยโทสะ  


    ภาพการมองเห็นของกริดกลายเป็นสีขาวโพลน  สติสัมปชัญญะถูกโอนถ่ายจากโรงเหล็กวาติกันไปยังสถานที่แห่งใหม่


    แอสการ์ด  ดินแดนแห่งเทพ


    …


    ขณะเดียวกัน  


    ณ  สำนักงานใหญ่ SA กรุ๊ป…  


    “อีกแล้วหรือ…”


    กริดจะเลือกเดินบนเส้นทางใด?


    เขาจะยึดถือคติของความดีงามหรือชั่วร้าย?


    สีหน้าของลิมชอลโฮกำลังตึงเครียด


    ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,273

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. เอาอีกแล้วกริด เริ่มประถมบทใหม่อีกขั้นแล้ว

    ReplyDelete
  2. ผู้อยู่เหนือ​ความคาดหมาย
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​😁🙏

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00