จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 878



    ‘เราจะใช้คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหารได้บ่อยขึ้น!’


    แถมยังมีโอกาสใช้วิชาดาบผสานหกทักษะได้อีก!


    ‘จะออกมาเป็นทักษะใหม่รึเปล่านะ?’


    หากตนใช้วิชาดาบอีกหนึ่งชนิดต่อจาก ‘คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร’ ทันที  การกระทำเช่นนี้จะถูกนับเป็นทักษะผสานชนิดใหม่หรือไม่?  


    ตัวอย่างเช่น ‘คลื่นทำลายล้างมายาร่ายรำสังหาร’


    “หืม…”


    กริดยังคงดีใจไม่สุด    


    หากจำไม่ผิด  ตอนเขาได้รับวิชาดาบผสานสี่ชนิด  เทพตนอื่นจะรู้สึกริษยากริดใช่ไหม?  


    แค่สี่ชนิดก็อิจฉาแล้วหรือ?  หมายความว่า  ดาบผสานสี่ชนิดถือเป็นทักษะที่ทรงพลังถึงเพียงนั้น


    จากคำบอกเล่า  วิชาดาบผสานห้าทักษะมีพลังทำลายชนิดที่ดับลมหายใจยูร่าในพริบตาเดียว      


    หากกริดสร้างวิชาดาบผสานหกทักษะสำเร็จ  พลังทำลายจะต้องเหนือจิตนาการแน่  ยังไม่รวมถึงการแสดงผลจากออปชั่นของดาบอัสนีฯ 


    วิชาดาบผสานหกชนิดน่าเหลือเชื่อจนกริดต้องตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้ง  


    ระบบจะยอมให้มีสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงหรือ?  


    ทาง SA กรุ๊ปจะยอมให้สิ่งที่ทำลายสมดุลเช่นนี้มีตัวตนในเกมหรือไม่?


    ‘แย่ชะมัด’


    กริดเริ่มตะหนักว่า  โอกาสเกิดขึ้นเป็นไปได้น้อยมาก  เขาเริ่มมองในมุมใหม่ตามความเป็นจริง


    ใช่แล้ว  


    พลังส่วนใหญ่ที่กริดครอบครองมักเกิดจากความ ‘บังเอิญ’   มิใช่สิ่งที่กริดตั้งใจให้เกิดขึ้น


    ถึงจะกล่าวว่าความบังเอิญมีต้นตอจากความอุสาหะพยายามก็เถอะ


    ‘…เราไม่ควรคิดมากให้ปวดหัว  ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวิชาดาบผสานหกชนิดมีจริงหรือไม่’


    แต่วิชาดาบดาบผสานห้าทักษะมีอยู่จริงแน่นอน  ร่างโคลนพิสูจน์ให้เห็นแล้ว


    ‘แค่ผสานห้าทักษะก็ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า’


    และยังมีอีกหลายข้อดีหากกริดเลือกเสริมแกร่ง ‘คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร’


    หนึ่งในสิ่งสำคัญคือการที่ระยะหน่วงของมันลดลงเหลือเพียง 30 นาที


    ‘ด้วยความสัตย์จริง  ระยะหน่วงสามชั่วโมงนั้นนานเกินไป’


    ต่อให้เป็นไพ่ตาย  แต่กริดก็มิอาจใช้สุ่มสี่สุ้มห้าได้  โดยเฉพาะในยามเก็บเลเวล


    ทักษะไม้ตายที่มีระยะหน่วงนานถึงสามชั่วโมงไม่ใช่สิ่งดีนัก     มันจะทำให้ผู้ใช้เกิดความลังเลและหวั่นวิตกเกินจำเป็น


    ‘ทักษะโจมตีไม่มีควรมีระยะหน่วงนาน’


    ในมุมมองกริด  เขาจำเป็นต้องเสริมแกร่งคลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร


    ขณะตัดสินใจหนักแน่น  คำถามใหม่พลันผุดขึ้นในหัว


    ‘เดี๋ยวสิ…ไม่จำเป็นว่าต้องใช้กับทักษะโจมตีสักหน่อย’


    ผู้สืบทอดแพ็กม่าคือช่างตีเหล็กและมหาจอมดาบ  การเสริมแกร่งทักษะด้านตีเหล็กอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่เลวร้าย


    ‘ใครจะรู้  โอกาสสร้างไอเท็มเกรดมิธอาจเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก’


    หนึ่งในลักษณะพิเศษของคลาสคือการสวมใส่ไอเท็มได้ทุกชนิด


    กริดเริ่มจิตนาการภาพตัวเองสวมไอเท็มเกรดมิธทั้งตัว


    ‘ถ้าเรามีหมวก  เกราะ  รองเท้า  ถุงมือ  ผ้าคลุม  และมงกุฏระดับเดียวกับดาบอัสนีฯ ล่ะ?’


    ลืมวิชาดาบผสานห้าทักษะได้ไปได้เลย  จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์เกรดมิธกำลังจะถือกำเนิด!


    ‘โอเวอร์เกียร์ของจริง…’


    ใช่แล้ว  ระบบที่สำคัญของซาทิสฟายคือไอเท็ม


    ทักษะ?  สำคัญก็จริง  แต่น้อยกว่าไอเท็ม


    ยิ่งไอเท็มยอดเยี่ยม  ทักษะก็ยิ่งทรงพลัง

    ยิ่งไอเท็มยอดเยี่ยม  ความเสียหายที่ได้รับจากทักษะก็ยิ่งลดลง  


    เมื่อเกิดความคิดเช่นนี้  กริดรีบอ่านรายละเอียดทักษะการผลิตไอเท็มที่จะถูกเสริมแกร่ง


[ (ประจักษ์เทคนิคเทพ) การผลิตของช่างตีเหล็กในตำนาน—ที่แท้จริง Lv.8  ]

* ท่านจะได้รับ ‘ปุ่มสร้างอัตโนมัติ’

* ระยะเวลาในการสร้างไอเท็มสั้นลงมาก

* เกรดต่ำสุดของไอเท็มที่สร้างได้คืออีปิก

* มีโอกาสสูงในการสร้างไอเท็มเกรดยูนีค

* มีโอกาสปานกลางในการสร้างไอเท็มเกรดเลเจนดารี

* หากบรรลุเงื่อนไข  มีโอกาสเล็กน้อยที่จะสร้างไอเท็มเกรดมิธ    

* คุณสมบัติพื้นฐานของไอเท็มเพิ่มขึ้น 30%

* เมื่อสร้างไอเท็มเกรดมิธสำเร็จ  ค่าสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น 20 แต้มเป็นการถาวร  ค่าชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 1,000 หน่วย

* จะเกิดเหตุการณ์พิเศษขึ้นเมื่อสร้างไอเท็มเกรดมิธครบสามชิ้น

( ปัจจุบัน 2/3 )

* ทักษะที่ถูกเสริมแกร่งจะมีเลเวลสูงสุด


    “เห?”


    กริดถึงกับหมดคำพูด


    ปุ่มสร้างอัตโนมัติ!


    เฉกเช่นช่างตีเหล็กทั่วไป  กริดสามารถสร้างไอเท็มอัตโนมัติได้  แถมระยะเวลายังสั้นลงมาก


    เกรดขั้นต่ำของไอเท็มคือ ‘อีปิก’

    

    หมายความว่า  เขาสามารถบอกลาไอเท็มเกรดทั่วไปและแรร์ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่


    ‘แถมโอกาสสร้างไอเท็มเกรดยูนีค  เลเจนดารี  และมิธก็ยังเพิ่มขึ้นมาก’


    ไม่เพียงเท่านั้น  


    เดิมที  คุณสมบัติพื้นฐานไอเท็มจะเพิ่มขึ้น 21%  ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมากแล้ว


    หากดาบยาวทั่วไปมีพลังโจมตี 100 หน่วย  ดาบยาวที่กริดสร้างจะมีพลังโจมตี 121 หน่วย  เป็นไอเท็มคุณภาพสูงกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย


    แต่ปัจจุบัน  หากเสริมแกร่งทักษะการผลิต  ไอเท็มที่กริดผลิตได้จะมีคุณสมบัติพื้นฐานเพิ่มขึ้น 30%


    สมมติให้เป็นอาวุธที่มีพลังโจมตี 2,000 หน่วย  หากกริดลงมือสร้าง  มันจะมีพลังโจมตีมากถึง 2,600 หน่วย

    

    ‘แถมค่าสถานะที่ได้รับจากการผลิตไอเท็มเกรดมิธเพิ่มเป็น 20 แต้ม  จากของเดิมแค่ 10 แต้ม…’


    นัยน์ตากริดเริ่มสั่นระริก  เขากลืนน้ำลายหลายอึกลงคอ


    ตนควรเลือกเสริมแกร่งคลื่นร่ายรำทำลายล้างสังหารดี  หรือทักษะการผลิตดี? 


    ชายหนุ่มคิดไม่ตก


    ‘เราไม่ควรคิดมากเกินไป…’


    จากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา  รวมถึงเหตุการณ์ล่าสุด  กริดตระหนักได้ว่า  พลังของบุคคลเพียงหนึ่งเดียวย่อมมีขีดกำจัด  


    หากเอาแต่แข็งแกร่งขึ้นตามลำพัง  เขาคงได้ใช้ชีวิตคนเดียวในสักวัน

    

    กริดมิใช่ ‘ฮงกิลดง*’  เขาช่วยเหลือทุกคนพร้อมกันไม่ได้  และคนสำคัญจะถูกจ้องเล่นงานจนไม่เหลือใคร


(*โรบินฮู้ดของเกาหลีใต้)  

    

    การเสริมแกร่งทักษะตีเหล็กย่อมหมายถึงความแข็งแกร่งของพวกพ้อง  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออนาคตอย่างมาก


    ‘ไม่ผิดแน่  การเสริมแกร่งทักษะตีเหล็กคือตัวเลือกที่ถูกต้อง’


    และหากระดับทักษะการผลิตเพิ่มขึ้น  ไม่ได้หมายความว่ากริดอ่อนแอลงสักหน่อย  


    ตัวเขาเองก็ได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย


    ‘อาจไม่เห็นผลทันตาเหมือนกับการเสริมแกร่งวิชาดาบ  คงต้องพึ่งดวงและเวลาพอสมควร’


    กริดขมวดคิ้ว  เขาต้องตัดสินใจในสิ่งที่ยากลำบากอีกครั้ง


    ในช่วงหลายปีหลัง  กริดมีบุคลิกดีขึ้นมาก  จากร่างกายที่กำยำและการรู้จักดูแลตัวเอง  แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา  สีหน้าของกริดมักเคร่งเครียดอยู่เสมอ  ส่งผลให้บรรยากาศรอบตัวดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัย


    ยิ่งมีพลังและอำนาจมาก  สิ่งที่ปกป้องและกังวลก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว


    “อ๊ะ!  จริงสิ  นายเรียกฉันมาทำไม?”


    ผ่านไปแล้วกี่นาทีแล้วนะ?


    กริดครุ่นคิดนานจนลืมว่าดาเมี่ยนมีเรื่องปรึกษา


    ดาเมี่ยนเฝ้ามองกริดพลางอมยิ้ม  เขาก้มศีรษะคำนับกริดอย่างนอบน้อม


    “ก่อนอื่น  ฉันขอกล่าวขอบคุณอย่างเป็นทางการ”


    หากไม่มีกริด  ดาเมี่ยนคงมิอาจผ่านภารกิจวาติกันได้ราบรื่นถึงเพียงนี้


    ถึงจะมั่นใจว่าภารกิจตรงหน้าสามารถลุล่วงได้โดยไม่มีกริด  แต่การปรากฏตัวของราชาโอเวอร์เกียร์ทำให้ทุกสิ่งคลี่คลายด้วยผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


    หากไม่มีกริด  ชะตากรรมของไอรีนและลอร์ดคงยังเป็นปริศนา


    ดาเมี่ยนไม่อยากจินตนาการถึงเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น


    ความตายของไอรีนและลอร์ดจะสร้างผลด้านลบแก่กริดมหาศาล


    หากทั้งคู่ตาย  กริดจะเข้าสู่ภาวะคลุ้มคลั่ง  โลกซาทิสฟายจะสั่นคลอนและปั่นป่วน  ดาเมี่ยนเดาไม่ออกเลยว่า  เหตุการณ์จะดำเนินไปยังทิศทางใด  และเลวร้ายขนาดไหน


    ไม่เพียงเท่านั้น  ลอร์ดยังเป็นศิษย์ที่น่ารักเพียงคนเดียวของเขา  หากต้องสูญเสียไป  เพียงแค่คิดก็ทำให้แน่นหน้าอก


    ดาเมี่ยนกล่าวต่อไป


    “ฉันมีปัญหานิดหน่อย”


    “ปัญหา?”


    ในเมื่อสาวกยาธานจำนวนมากถูกสังหารและถูกจับกุมหมดแล้ว  ยังเหลือสิ่งใดเป็นปัญหาแก่ดาเมี่ยนอีกหรือ?  


    ดาเมี่ยนนำดาบส่องแสงออกมาถือ


    ดาบสีทองอร่าม—ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์


    “อา…”


    กริดทึ่งไปกับความงาม


    แม้เขาจะเป็นผู้สืบทอดแพ็กม่า  แต่กริดกลับไม่สามารถระบุวัสดุที่ใช้สร้างดาบเล่มนี้


    ไม่ใช่แร่ทอง  อดามันเที่ยม  หรือแม้กระทั่งพาเฟรเนี่ยม


    หากพิจารณาอย่างละเอียด  วัสดุที่คล้ายคลึงมากที่สุดคือ ‘แก้ว’  เหมือนแก้วแม้กระทั่งเสียงใสกังวาลในยามเคาะสัมผัส


    เป็นโลหะที่มอบความรู้สึกเปราะบาง  แต่กริดเคยเห็นประสิทธิภาพที่แท้จริงของมันมาแล้ว


    โลหะประหลาดสีทองที่เป็นวัสดุหลัก  ความแข็งและคมของมันล้วนเหนือกว่าสิ่งใดที่กริดรู้จัก  แตกต่างจากผิวเผินภายนอกโดยสิ้นเชิง


    “ดาบเล่มนี้มีปัญหาอะไรงั้นหรือ?  อ๊ะ!”


    เขาเริ่มสัมผัสได้เลือนลาง


    บนเนื้อโลหะสีทองอร่ามที่ดูเหมือนจะบริสุทธิ์ผุดผ่อง  กลับมีจุดสีเทาปนเปื้อนประปราย

    

    เมื่อลองใช้มือลูบ  มันค่อนข้างขรุขระ


    ไม่ผิดแน่…สิ่งนี้คือคราบหิน—สัญญาณของการเริ่มแข็งเป็นหิน


    ดาเมี่ยนอธิบาย


    “คำสาปของบาปต้นกำเนิดเริ่มกลับมากัดกร่อนดาบอีกครั้ง  หากปล่อยไว้  ดาบศักดิ์สิทธิ์จะกลับไปถูกผนึกในศิลาแห่งบาปต้นกำเนิดดังเดิม  และพลังเทพจะเสื่อมถอยลงอย่างถาวร”


    “อะไรคือศิลาแห่งบาปต้นกำเนิด?”


    “ตำนานกล่าวไว้ว่า  มันคือคำสาปของเจ็ดนักบุญภัยพิบัติที่ต้องการดึงเทพให้ต่ำลงเพื่อให้ตัวเองกลายเป็นเทพเสียเอง  คำสาปของพวกมันสามารถ ‘สะกดพลังเทพทุกชนิด’  ถือเป็นพลังชั่วร้ายที่ปฏิเสธการมีตัวตนของเทพ”


    “หืม…”


    พลังชั่วร้ายจริงหรือ?


    กริดคลางแคลงในความสัมพันธ์ระหว่างเจ็ดนักบุญภัยพิบัติกับเทพมาพักใหญ่แล้ว  เขาย่อมไม่ปักใจเชื่อ


    กระนั้น  ชายหนุ่มมิได้แสดงความเห็นต่อหน้าดาเมี่ยน


    ดาเมี่ยนเป็นสันตะปาปาแห่งโบสถ์รีเบคก้า  ความเชื่อและความศรัทธาที่ดาเมี่ยนมอบให้เทพธิดา  สิ่งนี้คือต้นกำเนิดของพลังเทพในตัว  เขาไม่ต้องการสั่นคลอนจิตใจดาเมี่ยนในตอนนี้


    ‘เรายังไม่มั่นใจ  ยังไม่ถึงเวลาที่ควรพูดออกไป’


    ตำแหน่งสันตะปาปาของดาเมี่ยนเกิดจากความช่วยเหลือของกริด


    เขาไม่ต้องการสร้างความสับสนอันเลื่อนลอยไร้หลักการรองรับ


    ถ้อยคำที่เอ่อล้นขึ้นมาถึงลำคอ  กริดกลืนมันกลับลงไป

    

    ดาเมี่ยนกล่าวต่อ


    “ฉันได้รับสาส์นจากเทพธิดา”


    “…?”


    ดาบเมี่ยนยื่นดาบศักดิ์สิทธิ์ให้กริดพร้อมกับโอนถ่ายสิทธิ์ครอบครอง


    “ได้โปรดเปลี่ยนปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ให้กลับสู่สภาพสมบูรณ์ด้วย”


    ชิ้ง— 


[ ภารกิจ ‘ชำระล้างปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์’ ถูกสร้างขึ้น ]


[ ชำระล้างปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ ]

ระดับความยาก : ภารกิจประจำคลาส

    ทักษะตีเหล็กของท่านมีระดับทัดเทียทวยเทพ

    จงสำแดงให้เทพได้เห็นซะ!

    ทักษะตีเหล็กของท่านยอดเยี่ยมไม่แพ้แพ็กม่า

    จงชำระล้างปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์และหลุดพ้นจากเงาแพ็กม่า!

เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ชำระล้างปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์

รางวัลสำเร็จภารกิจ : 

- คลี่คลายปมปริศนาของแพ็กม่า

- ได้รับวิชาดาบแพ็กม่าชนิดใหม่

- พรจากเทพธิดาหนึ่งข้อ


    “…?!”


    กริดลืมหายใจชั่วขณะ


    ภารกิจคลาสใหม่งั้นหรือ?


    และยังเป็นโอกาสเรียนรู้เรื่องราวของแพ็กม่า  รวมถึงได้รับวิชาดาบแพ็กม่าใหม่  


    กริดไม่ได้รับวิชาดาบแพ็กม่าใหม่มานานหลายปีแล้ว    


    ตึกตัก…


    ตึกตัก!! 


    ดวงตาของชายหนุ่มส่องประกาย  หัวใจเริ่มเต้นระรัว


    ส่วนเย้ายวนใจที่สุดคงหนีไม่พ้น ‘พรจากเทพธิดา’


    ‘เราจะได้อัพเกรดคลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหารไปพร้อมกับทักษะการผลิตเลยสินะ’



    *** 


( “แสงสว่างเจิดจ้าจนท่านต้องหลับตาเลยหรือ?  ครึ่งเทพไม่ได้ต่างจากคนตาบอดเลยสักนิด”  

รอยยิ้มขื่นขมถูกเผยบนใบหน้าอันเหยียดหยันของราชาตัวตลก

ราชาตัวตลกรู้สึกเห็นใจเหล่าเจ็ดบุคคลที่ประกอบคุณงามความดีแก่โลก )


    “…”


    ชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังยืนอ่านถ้อยคำจารึกบนแผ่นหินด้วยสีหน้าสุขุม


    ทว่า  ชายวัยกลางคนที่มาด้วยกันกลับขมวดคิ้ว


    “ตัวตลก?  เจ็ดคนดี?  เรื่องเหลวไหลอะไรกัน?  โกหกทั้งเพ!  ต้องเป็นกลลวงของเจ็ดนักบุญภัยพิบัติที่หวังทำให้ชนรุ่นหลังไขว้เขวและเคลือบแคลงเทพ!”


    ชายวัยกลางคนมีนามว่าคุซาร์  เขาคือนักแสวงบุญที่เดินทางไปทั่วทวีปเพื่อค้นหาความหมายของเทพ


    ถ้อยคำที่จารึกบนแผ่นหินแตกต่างจากเรื่องราวของราชาตัวตลกและเจ็ดนักบุญภัยพิบัติที่เขาเคยได้ยิน


    คำจารึกแผ่นนี้เล่าความเท็จ


    คงเป็นปัญหาแน่หากผู้คนเริ่มแผ่แพร่ในสิ่งผิด  ราชาตัวตลกไม่มีทางชื่นชมเจ็ดนักบุญภัยพิบัติว่าเป็นคนดีแน่


    “วางแผ่นหินลงได้แล้ว!  พวกจอมอสูรคงแอบหัวเราะเยาะที่ไหนสักแห่งแน่!”


    คุซาร์ปฏิเสธถ้อยคำจารึกด้วยสีหน้าฉุนเฉียว    


    ‘…เป็นแบบนี้นี่เอง’


    ชายหนุ่มผมดำ—ครอเกล  เขาจ้องมองทุกอักษรอย่างตั้งใจโดยไม่คิดว่านี่เป็นคำลวง 


    เขาสัมผัสได้


    ‘กริด  เฮสเตอร์  แอ็กนัส  และเรา  ไม่ช้าก็เร็ว  ทุกคนจะต้องรวมตัวกันในสถานที่แห่งหนึ่งแน่’


    ใครบางคนคงกระทำในสิ่งที่ดี  แต่ย่อมต้องมีบางคนเลือกที่เส้นทางชั่วร้าย


    “…”


    ภาพเงาลางของปีกเทวทูตขนาดใหญ่  สีขาวข้างหนึ่ง  ดำข้างหนึ่ง  กำลังสยายออกจากแผ่นหลังครอเกลอย่างงดงาม


    กริด  แอ็กนัส  และเฮสเตอร์  คนเหล่านี้ได้ครอบครองพลังของเจ็ดนักบุญภัยพิบัติมานานแล้ว    


    คุซาร์รีบโพล่งขึ้นอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น


    “น…นายก็เป็นหนึ่งในพวกชั่วร้าย!?”


    “เปล่าเลย  ความจริงยังไม่กระจ่าง”

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,271

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ได้อ่านแต่เช้าเลย
    ทำงานอย่างมีความสุขแล้ววันนี้
    ขอบคุณ​มาก​ครับ😊🙏

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณคับ สนุกมาก ฟินมาก รออ่านทุกวัน 🙏😅

    ReplyDelete
  3. ชอบตัวกนังสือแบบเก่าอันนี้มันเล็กปวดหัว

    ReplyDelete
  4. ครอเกลได้พลังอะไรมาครอง....? แล้วเฮสเตอร์ครองพลังแบบไหนของเจ็ดนักบุญภัยพิบัติ

    ReplyDelete
  5. ถ้าเปนเรื่องอื่น เหล่าเทพต้องการให้มนุษย์เป็นแค่ของเล่นของตน ..แต่จากเนื้อเรื่องของกริด ที่มีเทพริษยากริด ...อ่ายพวกนักบุญเก่าคงโดนคำศาปริษยา ...เลยทำกันตอบโต้กลับล่ะมั้ง

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00